แนวทางปฏิบัติธรรม ของ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ( เรียบเรียงโดย : อุบาสกนิรนาม )

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย jinny95, 28 ตุลาคม 2009.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [​IMG]

    ถูกต้องนะค้าบ...:cool:
    ต้องสมมุติฐานไว้ก่อนว่า ทุกท่านมีเจตนาดี หวังดี อยากให้ได้ดี กันทั้งนั้น
    ที่ยังสนทนากันอยู่ได้ ก็เพราะยังมี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา กันอยู่
    คนปฏิบัติธรรม ย่อมเป็นคนดีชั้น1 กันอยู่แล้ว จะมีเจตนาร้าย ประสงค์ร้าย
    กระไรได้ มีแต่อยากให้ตาสว่างกันทั้งนั้น รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี เนอะ
    เห็นเพื่อนเมา ก็ต้องทุบต้องถองให้รู้สึกตัว เหอๆ (อย่างแร๊ง...)
     
  2. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ก็มันน่าขำจริงๆนี่นา ถามว่าทำไมนึกอย่างนั้นตอบให้ก็ได้ก๊กทั้งสามหวังสิ่งใดกับประเทศหรือหวังสิ่งใดกับก๊กตนหรือ หรือไม่ได้หวังในสิ่งเดียวกัน เพราะความหวังดีนี่แหละที่คิดว่า ที่ทำลงไปทั้งหมดเพราะความหวังดี แม้บางทีก็มีสิ่งแอบแฝงมาโดยตลอดจงใจจะบอกว่าเพราะหวังดีมาโดยตลอดได้อีกหรือ เพราะถ้าหวังดีจริงก็ต้องรู้ว่า แบบนี้สอนได้ แบบนี้สอนไม่ได้ เช่น ปัญญาเรามีน้อยกว่าเขานักไม่ควรสอนเขา หรือ ปัญญาเขานั้นช่างน้อยนักต้องรอให้เขาสะสมบารมีอินทรีย์เสียก่อน ถึงจะเข้าใจ หรือว่าจะเอาแต่ฟังธรรมของพระอริยะสงฆ์ท่าเดียวเลยไม่ฟังธรรมที่เกิดขึ้นจริงๆ ตอนนี้เลยละครับ เอาทั้งสามก๊กเลยแหละดี ก๊กที่มีแต่เหตุ กับก๊กที่มีแต่ผล และก็ก๊กที่ไม่มีทั้งเหตุและผล มาแบบลอยๆ ใครทักก็ไม่ฟัง จะเอาก๊กไหนดีละจะเห็นว่าเขาหวังดีกันก็ได้ สองก๊กนี่ยังพอมีลุ้น แต่ก๊กที่ว่าไม่มีเหตุมีผลสักแต่คิดว่าอ่านมากรู้มากฟังมากรู้มากนี่ต้อง 1667 อย่างเดียวเลย ใช้ไม่ได้กับธรรมตอนนี้ ณ เวลานี้
     
  3. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    เหนื่อยหน่ายระอา จริงๆกับใครบางคน ไหนบอกว่าถ้าไม่มีเราแล้วมันจะมีคนมากขึ้น เราก็รอดูว่ามันเป็นยังไง อยากรู้ว่าที่เป็นๆกันอยู่นี่ มันเกี่ยวอะไรกับเราไหม ไม่ว่ามีหรือไม่มีเรามาแสดงความเห็นก็ไม่เห็นจะทำให้คนที่เขาเข้าใจความจริงแล้วเข้าใจมากขึ้นเลย และก็ไม่เห็นว่าคนที่ไม่เข้าใจนั้นเข้าใจขึ้นเลย นั้นคือที่มันไม่น่าสนใจนั้นไม่ได้เป็นเพราะเราเลย แต่เป็นเพราะทำเรื่องต่างๆให้มันไม่น่าสนใจกันเอง อย่างเช่น เห็นว่าฟังเอาก็ได้ไม่ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติอย่างนี้แหละดีที่สุดสำหรับเรา อย่างนี้เป็นต้น แค่นี้ก็รู้แล้วว่าที่พูดแบบนี้ออกมาได้ คนนั้นยังมองไม่เห็นความจริงอะไรเลยสักอย่างเดียว ทำอะไรในชีวิตก็แค่ทำให้มันผ่านพ้นไปวันๆ เบื่อหน่ายกับคนแบบนี้เหลือเกิน แถมยังเผื่อแผ่ความคิดแบบนั้นของตนให้คนอื่นอีก ทำไมไม่รู้จักทำให้มันดียิ่งๆขึ้นไปจะมาหยุดที่อะไรๆ มันก็ไม่ได้อะไรหรอก หากอยากทำแบบนั้นจริงๆ หากแสวงหาสิ่งอื่นก็สุดแล้วแต่นะ ตามแล้วแต่ใจอยากเป็นแล้วกัน ใครบางคนที่ว่าเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้นเองไม่มีความแตกต่างกันเลยระหว่างตอนนั้นกับตอนนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2009
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คุณเก่ง การโต้แย้งธรรม ไม่ได้หว้งอะไร นอกจาก
    1 ทำให้ธรรมที่มีแจ้งขึ้น
    2 ทำให้ผู้ที่ไม่แจ้งในธรรมได้เห็นธรรม

    เท่านี้ก็เพียงพอ ดังนั้นไม่เกี่ยวกับหน้าตาและการอวด
     
  5. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ครับผมเข้าใจเรื่องนี้ดีครับ ก็เลยตอบแบบเจียรนัยเผื่อจะเห็นความเป็นจริงบ้างครับ คนที่เขาแปลความหมายได้ก็แปลเป็นธรรม เป็นกุศลได้ คนที่เขาแปลความหมายไม่ได้ก็แปลเป็นธรรมไม่ได้เป็นกุศลไม่ได้ มันก็ยังเป็นเรื่องของบุคคลแต่ละคนเช่นเดียวกันครับ
     
  6. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    พี่เก่ง รู้จัก ดูใจตัวเองไหม รู้จักการตามรู้ไหม ว่าอ่านบอร์ด มันก็ฝึกได้เนืองๆ การฝึกได้เนืองๆหน้าบอร์ด นี่ เรียกว่า การฝึกธรรมไหมล่ะ แล้วมันเป็นการฝึกธรรมจริงๆไหมล่ะ
     
  7. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ดูเป็นประจำไม่ได้เนืองๆด้วย ตลอดเวลาเลย เอาทุกรูขุมขนเลยไหมละ ว่ารู้สึกอย่างไร ก็แล้วถ้าบอกว่า ที่เห็นคือไม่เห็น ที่ไม่เห็นคือเห็น จะเข้าใจไหมละ ผมไม่ได้อยากจะบอกอะไรหรอกนะ เพียงแต่อยากบอกว่า ไอ้การยึดติดแม้คำสอนของครูบาอาจารย์ก็ทำให้เราคลาดเคลื่อนไปจากสิ่งที่ท่านสื่อความหมายได้ บวกกับความอ่อนสติของตนเองแล้วไม่รู้แม้กระทั่งใจตนเอง มันก็จะเห็นแต่ความเบลอๆๆๆๆๆ อยู่ตลอดเวลา เพราะเห็นแบบนี้ดี เห็นแล้วชอบ ฟังแล้วชอบ จึงเฮๆๆๆกันไปอย่างนี้ยังไม่ใช่สิ่งที่หลวงปู่สอน เช่นกันที่ตรงกันข้ามก็เหมือนกันเมื่อไม่ชอบ ก็รังเกียจตั้งแง่ เช่น ถามว่าเคยดูจิตตนไหมเป็นต้น หรือ จะถามว่ารู้จักคำว่าเกรียนไหม เป็นต้น ถ้าทั้งหมดมันมาจากการที่เราดูจิตดูใจและรู้และเข้าใจมันขอบอกแบบไม่ต้องอ้างถึงหลวงปู่เลยครับ ว่ายังไม่ใช่ครับ มันไหลไปตั้งนานแล้วยังไม่รู้ตัวอีกหรือครับ แล้วเรื่องฝึกธรรม ก็น่าจะทราบดีนะว่าอะไรเรียกว่าเรียน อะไรเรียกปฏิบัติ หากมันไม่แยกกันเลยเรียนแล้วปฏิบัติพร้อมกันขณะเดียวกันนั้นคิดว่า ผลที่ได้ระหว่างแบบไหนจะดีกว่ากัน หรือจะบอกว่า ทำไปพร้อมๆกันเลยดีที่สุด แล้วก็ว่ากันไปมันก็คงเถียงไม่ได้ครับ ได้แต่ดูผลของจิตใจความประณีตของจิตใจ และลักษณะการพิจารณาวินิจฉัยสิ่งต่างๆที่เข้ามาในชีวิตเอาว่าผลนั้นมันเป็นยังไง เป็นอย่างที่คิดไหม หากไม่เป็นก็แปลว่า ทำไม่ถูกหลัก ก็เท่านั้นเองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2009
  8. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    งั้นถามหน่อย ถ้าดูตลอดเวลา พี่เก่ง มีสติตลอดเวลาเลยไหม
     
  9. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    อ้าวก็บอกไปแล้วนี่ ยังจะถามทำไม ก้ตัวเองไม่เห็นเองจะมาโทษคนอื่นได้ยังไง คำตอบที่ตอบไปแล้ว ปกติเขาไม่ถามซ้ำ แค่นี้พอจะเห็นตนไหมครับ
     
  10. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ประโยคไหน ที่ผมไปโทษ คนอื่น บอกหน่อยซิ
     
  11. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    คุณวิษณุผมจะบอกอะไรให้นะครับ คนที่ดูจิตใจตนเองแบบไม่มีสตินั้นเขาไม่ทำกันหรอกครับ เพราะว่ามันไม่ได้เรียกว่าเป็นผู้รู้หรือผู้ดู แต่เป็นเพียงถูกรู้ถูกดูอยู่เท่านั้น แต่ส่วนใหญ่ไหลไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยลงเอยหรอกครับ จนกว่าจะมีกำลังสติกลับขึ้นมาใหม่ ถึงจะทวนกระแสขึ้นมาได้ ผมก็ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาคุณดูอะไรกันนะครับ เป็นผู้ดูหรือถูกดูกันแน่
     
  12. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    ก็กำลังถามพี่เก่งนี่ไง ว่าทำยังไง
     
  13. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    เวลาขำผมก็มีสติว่าขำนะครับ และรู้ด้วยว่าทำไมถึงขำ จริงไหม สอบอารมณ์กันตรงนี้เลยเหรอ มันจะไฮเทคไปหน่อยไหมครับ เมื่อกี้รู้สึกว่า เนตมันจะฝืดๆ เลยไปหาอะไรทำก่อนกลับมาตอบใหม่ ผมก้อบอกแล้วไงว่า ฝึกอะไรก็ตามถ้าฝึกในสายพระป่าหรือพระกรรมฐานไหนที่เป็น ที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ยิ่งฝึกก็ยิ่งละลงๆๆๆไปเรื่อยๆๆ แต่ถ้ายิ่งฝึกแล้วยิ่งไปกันใหญ่ ไปเรื่อยๆแล้วแต่กิเลสจะสรรค์สร้างให้เป็นก็ หยุดก่อนตั้งสติก่อน คนในนี้จริงๆเขาก็ดีกันทุกคนแหละครับ รวมทั้งตัวคุณด้วยเพราะว่าคนถ้าไม่ดีในตนก่อนแล้วจะมานั่งสาธยายธรรม หรือ หาธรรมดีๆมาให้คนอื่นอ่านหรือฟังก็คงแปลกน่าดูจริงไหม แต่หากว่ารู้ว่าดีแล้วจริงยังจะถามหาอะไรหรืออยากลองดีกันก้อไม่แปลก ว่าไหมมันน่าสนุกดีออก เหมือนกับมีอยู่เรื่องหนึ่งที่น่าจะเกิดกับหลวงปู่ เกือบทุกๆท่าน ที่เรารู้จักกัน เราก็นั่งนึกเอานะคนประเภทไหนน้าที่ไปลองดีกับหลวงปู่ท่านได้ คนพวกนี้ต้องเป็นยังไงน้า คงเป็นพวกพิลึกน่าดูเลย นั่นกรณีของหลวงปู่ แต่พอกรณีของคนธรรมดามันจะต่างกันไหมละครับ ลองคิดดูมันมีอะไรต่างกันไหม นี่พอเห็นแบบนี้ก็เลยลองนึกไปถึงสมัยโน้นเลย 2500 กว่าปีที่แล้ว มีคนมากมายมาลองดีกับพระพุทธเจ้าไม่รู้กี่คนต่อกี่คน ที่จารึกไว้ก็มากที่ไม่ได้จารึกไว้ก็มาก ทีนี้เห็นหรือยังว่าทำไมมันถึงไม่ต่างกัน สาธยายแบบนี้คงน่ารำคาญน่าดูแต่ช่างเหอะ เอาเป็นว่าอย่าได้ถามเลยเพราะถ้าตอบแล้วก็ไม่เข้าใจก็ฝึกๆไปเหอะ นะครับ เห็นด้วยทุกประการครับถ้าฝึกตามหลวงปู่พุธ จริงๆ ทุกประการนะครับ
     
  14. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    หากคิดว่า การถามตอบ สนทนาในกระทู้บอร์ด เป็นการลองของอะไรงี้ ก็อย่ามาอ่านเลยดีกว่าไหม อ่านแล้วขุ่นมัวเปล่าๆ คนที่ไปถามพระ เพื่อขอความรู้แลกเปลี่ยน ก็เป็นการ ลองของไปแล้วซิ แล้วจะมีกระทู้สนทนา ถามตอบทำไม

    หากจะลองของกันจริงๆ เค้าไม่พูดหรอกคับเค้าทำเลย
     
  15. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ดีนะ ถ้านักธุรกิจคิดๆก็เป็นฌาณสมาธิวิปัสสนาได้
    แบบนี้พระพุทธองค์ไม่ต้องทรงออกผนวชหรอกนะ

    พระองค์ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงภูมิปัญญายิ่งพระองค์หนึ่ง
    ทรงประทับที่วังนั่งนึกๆคิดๆก็เป็นฌาณสมาธิวิปัสสนา และบรรลุได้แล้วสิ

    พวกนักธุรกิจทั้งหลายส่วนใหญ่แล้ว ล้วนเป็นพวกซาตาน
    คิดที่จะเอากำไรหาผลประโยชน์มากๆ เพื่อความร่ำรวยของธรุกิจตนเอง

    อย่าว่าแต่ฌานสมาธิวิปัสสนาเลย แค่ทำให้จิตสงบตั้งมั่นเป็นสมาธิไม่หวั่นไหว
    สักครั้งยังทำไม่เป็นเลย....ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมศาสนาพุทธจึงเสื่อม....

    ;aa24
     
  16. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    คุณนี่ก็ชอบทำให้ผมขำอยู่เรื่อยเลย แล้วมันจะต่างกันตรงไหนละ เมื่อเหตุมันอยู่ที่เจตนา อ้ออย่างงั้นหรอกรึครับ กิเลสนี่มันช่างมีรสน่าลิ้มลองจริงๆเลยว่าไหม ก้ออ่านแล้วขุ่นมัวก้อแปลว่ายังมีสติอ่อนอยู่นะสิครับ ถ้าอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้มีใครห้ามนี่ว่าการถามคือการแลกเปลี่ยน แต่โดยมากก็ขึ้นอยู่กับเจตนาตอนต้นนั่นแหละครับ หากคิดว่าปฏิบัติมาดีจริงก็ต้องรู้เจตนาที่แท้จริงของตนอยู่แล้วจริงไหมครับ อย่างเมื่อกี้พูดถึงเรื่องทำกุศล ผมก็เอาด้วยนะและดูท่าว่าคนอื่นก็เอาด้วยนะครับ เรื่องทำกุศลโดยการสร้างอักษรเบล ให้คนตาบอดหูหนวก นี่เป็นเรื่องดีจริงๆ หวังว่าคงไม่ได้จบลงแค่ความเพ้อเจ้อของคนนะครับ เพราะผมอนุโมทนาไปกับกุศลจิตดวงนั้นแล้ว หากไม่ใช่ละก้อ...สุดแล้วแต่เขาจะรับเช่นกัน แต่พูดถึงมันก็น่าทำจริงๆนะครับ เรื่องนี้ ผมว่ามีคนช่วยเยอะแยะแน่ๆเลยครับ เอาแค่ที่เดียวก่อนก็ได้ครับ ถ้าทำกันจริงๆนะครับ ผมเอาด้วย แต่หากไม่เอากันจริงๆ สักแต่พูดกันไป มันก็เท่ากับสร้างอกุศลจิตให้เกิดแก่ตนเองนั้นแหละครับ ทั้งหลายก็ขึ้นอยู่กับเจตนาทั้งสิ้นครับ แล้วคุณมีอะไรมาลองของคนอื่นละครับ ถ้ามีแต่สิ่งที่เห็นอยู่ในโพสต์ที่ผ่านมา ก็ไม่ต้องโพสต์เดี้ยวมันซ้ำกันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2009
  17. wintakarukae

    wintakarukae Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +31
    มันเป็นเพียงข้ออ้างของกิเลส เป็นเหตุผลของกิเลสที่ใช้อ้างบังหน้าว่าเป็นการเล่นเน็ตดูจิต ฝึกธรรม
    แท้ที่จริงมันติดเน็ตอย่างกับเด็กวัยรุ่น ลูกเมียมีก็ไม่สนใจ นั่งเล่นเน็ตทั้งวัน เหตุผลกลั่นออกมาจากกิเลสให้บอกกับตัวเองว่า "ฝึกดูจิต"

    ดูไม่ออกรึ? :)
     
  18. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    คงจะใช่นะ ท่าจะจริง
     
  19. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ไม่รู้ chat กับสาวๆ กี่คน วิษณุเอ้ย หัดไปดูลูกดูเมียบ้าง อย่า chat กับสาวๆ จนเพลิน จนลืมหน้าที่ตนเอง
     
  20. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ผมอยากให้ คุณขันธ์มาดูที่บ้านผมจัง ว่าเป็นยังไง หากไม่รู้อย่าพูดดีกว่าครับ มันบาปเปล่าๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...