แนวทางปฏิบัติธรรม ของ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ( เรียบเรียงโดย : อุบาสกนิรนาม )

หมดเวลาละไปล่ะครับไว้มาอ่านไหม่นะ ก้ต้องวางกันทั้งผมและคุนล่ะนะ

 

ผมก็ขอตัวด้วยครับ เอาไว้จะมาให้พิสูจน์ใหม่
สำหรับนายนิวรณ์ ผมจะสอนธรรมให้คุณนั่นแหละ คุณจะรับหรือไม่ มันเรื่องของคุณ

 

จะตบัสสัตย์ ก็เรื่องของคุณสิครับ ผมไปห้ามคุณได้เหรอ

คนที่ติดวิธีการ ว่าปฐมฌาณ เข้าได้ด้วยวิธีนั้นวิธีนี้ พูดอีกวิธีให้ฟังก็เท่านั้น

ถ้าสงสัย มีด้วยเหรอ ปฐมฌาณเข้าด้วยวิธีอื่นๆ ก็ฟังธรรมะของหลวงพ่อพุธบ่อยๆ

ต้องฟังบ่อยๆ เพราะต้องใช้ศรัทธาฟังท่านเอา เพราะเรื่องจะให้คุณมาทำ
ปฐมฌาณในแบบที่หลวงพ่อพุธท่านชี้ว่าได้นั้น คงเลยโอกาสจะทำความเข้าใจ
ไปแล้ว เผลอยึดไปแล้วว่า ทางเข้าปฐมฌาณมีแต่ทางที่คุณทำ

 

อย่าลืมไปเป่ายันต์เกราะเพชรก่อนหละ แล้วค่อยหันมาเพ่งโทษผม

แล้วไปศีกษาคำว่า ธรรมวินัย ให้มากๆ แล้วจะรู้ว่า อะไรคือ สิ่งที่ควรทำกันแน่

อะไรที่ควรเคารพกันแน่

เคารพสงฆ์แบบไหน ทำให้ศาสนาเจริญ

 

คุณ นิวรณ์ คุณจะทำปฐมฌาณ ด้วยการมองอย่างเดียวหรือ
ก็ถ้าทำได้ ฉไน กลุ่มแก๊งค์ของพวกคุณ ไม่ปรากฎแสดงให้เห็น อำนาจฌาณ ที่ระงับนิวรณ์ให้เห็นเลย
คุณ รู้ไหมว่า คนที่ได้ปฐมฌาณ ขึ้นไป นี่จิตมันไม่ค่อยจะส่ายออกหรอก มันมองอะไร มันก็ผ่านๆ ไป เพราะว่า อำนาจ อุเบกขา มันครองอยู่
จะออกตัวพิจารณา ธรรม มันก็ต้องใช้แรงอยุ่

เว้นแต่ว่า จะมีวสี ในการเข้าการออก ฌาณ และชำนาญในการพิจารณาธรรม

 

นิมนต์ มาฟังหลวงปู่พุธ ท่านเทศน์ครับ จะได้ ตาสว่าง กับคำว่า รู้อยู่เฉยๆ ที่ห้องแชทครับ

 

ผมว่าเขาไม่รับจริงๆแหละครับ ก็ลองดูต่อไป แต่คำถามของผมไม่ได้ปริยัตินะครับ ผมไม่ได้ศึกษาตามลำดับหรือเป็นลูกศิษย์ใครโดยตรง ณ เวลานี้ครับ และถ้าว่าด้วยเรื่องปฏิบัติแล้วผมก็ยังไม่เห็นว่าอะไรมันจะต่างกันมากมาย หากต่างก็ตรงที่ความรุ้สึกของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน เช่น คนที่โดนมีดบาด หรือถูกเข็มแทง บางคนจะเป็นจะตาย ถึงกับเป็นลมสลบ บางคนก็เห็นอยู่เดี้ยวนั้นเฉยๆ ไม่ได้สนใจอะไร บางคนใจเต้นตึกๆๆๆๆ ระทึกขวัญ มันก็แค่อาการของการยึดเท่านั้นเอง แต่จะว่าไปแล้วบางทีผมก็กล่าวอะไรไปตามที่เห็นและแยกแยะได้เท่าที่ผมจะสามารถทำได้ หากผมจะบอกว่ามรรคนั้นคือ สติ แล้วสตินั้นเพื่ออะไรถ้าไม่ใช่เพื่อขจัดกิเลสให้สิ้นถึงมูลเหตุ จริงๆมันก็มีเหตุผลนะว่าทำไมต้องแบ่งแยก ส่วนผลนั้นคือ ปัญญาที่ประหัสประหารกิเลสได้แล้วหรือคำที่พระใช้กันว่าอะไรไม่รู้เหมือนกันเพราะไม่ได้ศึกษาธรรมะแบบนั้น ก็ยังแบ่งไว้เช่นกัน ถ้าอธิบายต่อมันจะเป็นยังไงมันก็เป็นเรื่องของการเห็นเหตุด้วยอะไรก็ช่าง เห็นเหตุแล้วจัดว่ายังไม่ครบ ต้องประหารเหตุนั้นก่อนจึงเกิดเป็นปัญญาได้ ส่วนเรื่องอื่นๆผมก็คงละไว้ในฐานที่เข้าใจคนเดียวดีกว่า เพราะ ฝ่ายเหตุก็เห็นว่าของตนถูกต้อง และฝ่ายผลก็เห็นว่าของตนถูกต้องที่สุด ทั้งที่ มันมาพร้อมกันเป็นบาทฐานเหตุกับผล จะว่าปริยัติก็ได้เพราะผมก็เรียนมาน้อยเหลือเกินครับเรื่องธรรมที่เป็นตัวหนังสือนี่นะ เท่าทีผมจำได้ก็มีแต่ พุทโธ ความไม่เที่ยง ความทุกข์ ความไม่มีตัวตนของธรรมทั้งหลาย ที่กล่าวมาแล้วก็ล้วนเป็นเรื่อง ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา และทุกอย่างก็ล้วนมีเหตุให้เป็นไปทั้งสิ้น สรุปถ้าผมปฏิบัติจนเป็นแบบที่คิดว่าใช่ก็จะไม่มีวันที่จะมาแสดงความเห็นให้วุ่นวายนี้ได้เลย หรือจะบอกผมว่าที่เป็นกันอยู่นี้เป็นเพราะ รู้เหตุและผลทั้งหลายดีแล้วจึงได้ทำกันอยู่อย่างนี้ ผมไม่ได้ไม่เชื่อหรือเชื่อใครและขอให้ทุกคนลองพิจารณาใหม่อีกที กับเรื่องมานะ ทิฐิ ทั้งหลาย

 

ขอโทษนะครับ เรื่องอ้างหลวงพ่อพุธ ฐานิโย นี่ คุณเลิกซะเถอะ
เพราะว่า ผมฟังเทศหลวงพ่อพุธ ตั้งแต่ ท่านสอนให้ทรงฌาณ ภาวนาพุทโธ

คุณ ไปอ่านหนังสือ ท่านหลายๆเล่มหน่อย แล้วก็ ฟังเทปธรรมะท่านหลายๆ ชุดหน่อย
จะได้เข้าใจว่าท่านสื่ออะไร แล้วจะได้ปฏิบัติตามได้ถูกต้อง

 

ผมมีเทศน์ท่าน 20 แผ่น แผ่นละชั่วโมงกว่า ท่านแยกแยะได้ละเอียด เบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุด

และ วิธีทางเข้า ที่เรียกว่า รู้เฉยๆ ท่านก็เทศน์ไว้ ชัดเจน

วันไหนว่างๆ ก็มาฟังได้ครับ

 

ก็บอกแล้วว่า ต้องไปฟังธรรมะของหลวงพ่อพุธเอา จะมาถามเอาจากผม ต่อ
ให้ตอบออกไป คุณก็ไม่เชื่อ นี่ไปฟังหลวงพ่อพุธท่านสอน "พวกที่ภาวนาไม่รู้รอบ
แล้วริตั้งตัวเป็นอาจารย์" ก็ไม่รู้ว่าคุณจะไปว่าพระท่านอีกหรือเปล่า

แล้วบอกอีกทีนะว่า ธรรมะที่คุณแสดงนั้นมันก็เหมือนกับพระอื่นๆเขาแสดง หาก
คุณยังเพียรขยันแสดงธรรม เพียงเพื่อให้ผมเคารพลงในบุคคล ก็ไปอ่าน ธรรม
วินัยหลายๆรอบ

แต่เรื่องธรรมวินัยนี่นะ ผมว่า คุณคงไม่สามารถเข้าใจมันได้หรอก อะไรที่เป็น
ประโยชน์ของพหุชน ของสงฆ์ ความสุขของสงฆ์ ความศรัทธาของพหุชน
คุณไม่เข้าใจหรอก สนแต่จะอวดว่าข้ารู้ธรรม

เพราะถ้าไม่สนใจอวดข้ารู้ธรรม ก็คงไม่ขวนขวายตบัสสัตย์ ทั้งๆที่เหตุผล
ประกอบในครั้งนั้น ก็รับรู้แล้วว่า ผมสามารถรับธรรมได้จากสงฆ์ไหนๆ ก็ได้
เพราะเสมอกัน

 

สำหรับ คุณวิษณุ ก่อนหน้านี้ คุณสนับสนุน พระปราโมทย์ มาระยะหลังคุณอ้างหลวงพ่อพุธ

คุณวิษณุ อย่าให้ผมพูดอะไรเลยว่า หลวงพ่อพุธ สอนอะไรบ้าง

เพราะผม ฟังเทศท่าน และ ตั้งแต่สมัยไหนมาแล้ว ก่อนที่คุณจะมาหยิบจับบางส่วน แล้วเอามาโฆษณาในนี้ แล้วก็ เอาไปอิงกับ การสอนไม่ถูกต้อง ของพระปราโมทย์

ผมอ่านหนังสือหลวงพ่อพุธ มาตั้งแต่พระปราโมทย์ ยังเล่นเน็ตอยู่เลยครับ ดังนั้นไม่ต้องเอามาอ้างหรอก

เอาธรรมตรงนี้ มีธรรมอะไรว่ามา อย่าเอาธรรมคนอื่นมาอ้าง สนับสนุนตนเอง
เขาเรียกว่า ไม่มีธรรม แต่หยิบยืมบารมีผู้อื่น มาอวดอ้าง ดุจดัง ลูกนักการเมืองอ้างพ่อตน

 

ขอตัวนะครับ ผมไม่มีเวลาเล่น หม้อข้าวหม้อแกง ขายขนมครก

เอาไว้ ถ้าจะพิสูจน์ ธรรม ก็ยกธรรมมาพูด ไม่ใช่ อ้างพ่อนักการเมือง

ขอตัว

 

ไม่เป็นไรครับ ท่านขันธ์ ก็แค่ชวนมาฟังพระเทศน์ หากว่ามาแอบอ้าง ก็ไม่รู้จะทำเช่นไร

 

ละเมอ ตามทิฏฐิที่ปั้นขึ้นมาเอง

คุณครับ คนที่เขาเข้าห้อง chat แล้วเขามาเห็นข้อความของคุณนะ

เขาทราบทันทีเลยว่า คุณไม่รู้เรื่อง กล่าวอย่างขาดสติ

 

อ้าว นุ่งผ้าถุงอีกแล้วหรือ วิษณุ ซ่อนเจตนาไว้ข้างหลัง แล้วกลับคำ อย่าทำ

 

สมาธิดีมาก ไม่รู้ไปเอาคำว่า พ่อนักการเมือง มาจากไหน
(อกาลิโก ตรงไหนกันนี่ มีแต่ละเมอ เพ้อเจ้อ สรรหาคำมาแบบลอยๆ )

 

กำลังถึงพริกถึงขิง เสียดาย หมดเวลาอ่าน
ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาต่อ...

 

ดีนะครับ ผ้าถุงน่ะ โล่ง โปร่ง เบา สะบายดี ลองมั๊ยครับ .. (ping)

 

ตอนนี้รู้สึกว่าจะมีสามก๊ก นะเนี่ย ใครอยู่ก๊กไหนก็ว่ากันไปนะครับ เลือกเอาก๊กใหม่เพิ่งเกิดก็มี ก๊กไหนก็ได้ที่ไม่ใช่โครโมโซม วาย 555 อีกสองก๊กมีมานานแล้ว

 

ทำไมไปคิดยังงั้นล่ะครับ เค้าสนทนาก็ตามประสา ทำไมมองไม่เห็นความหวังดีของแต่ละคน ต่างคนก็ต่างหวังดีด้วยกันทั้งนั้น ตามสถานภาพ