พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    เมื่อสองปีที่แล้วผมห้อย 7 องค์ครับ

    ปีที่แล้วเหลือห้อย 5 องค์

    ปัจจุบัน ห้อยเดี่ยว top4 ครับ

    ไม่รู้จะอธิบายให้พี่น้องเราฟังยังงัยดีครับ แต่จะบอกว่าซู๊ดยอดแล้วครับ

    โมทนาสาธุ ครับพี่ๆ น้องๆ ชมรมรักษ์พระวังหน้า
     
  2. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    โอ้ ขอบคุณมากครับท่านเลขาฯ สำหรับอาหารมื้อค่ำและความรู้ที่ไม่เคยรู้เลยสำหรับพระวังหน้า เมื่อสักครู่นี้นะครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ยินดีครับ

    ที่เล่าให้ฟัง เป็นเพียงส่วนเล็กๆน้อยๆนะครับ อีกหน่อยก็เก่งครับ

    ชาวชมรมรักษ์พระวังหน้า ต้องเดินไปพร้อมๆกัน
     
  4. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 13 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 8 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER>[ แนะนำเรื่องเด่น ] </CENTER></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>มูริญโญ่, nawits, racha008, sithiphong, Shinray01

    ยังไม่นอนกันหรือครับ ผมไปนอนก่อนนะครับ บ้ายบาย
    อิอิอิอิ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    โดยส่วนตัว ความเห็นส่วนตัวผม

    ผมเปรียบเทียบลักษณะนี้ครับ

    พ่อ ต้อง กราบ
    ปู่ , ตา , ทวด ต้องไหว้

    ผมเปรียบเทียบว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม เปรียบเหมือนกับ พ่อ

    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์อื่นๆ เปรียบเหมือนกับ ปู่ , ตา , ทวด

    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ละพระองค์ บารมีของแต่ละพระองค์ก็ไม่เท่ากัน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม ซึ่งผมเปรียบเหมือน พ่อ ทรงบำเพ็ญบารมีมาเพียง 4 กัปป์อสงไขยเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์อื่นๆอีกหลายๆพระองค์

    เพียงแต่เราเกิดมาในยุคของพระองค์ท่าน พระอรหันต์,พระโพธิสัตว์ ในยุคขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม ยังต้องปฎิบัติตามในสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม ทรงสั่งสอนไว้

    ผมจึงมีความเห็นว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่สำคัญที่สุดในยุคปัจจุบันก็คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม เนื่องจากเราเกิดมาอยู่ในยุคของพระองค์ท่านที่ได้มีพระเมตตา สั่งสอนการหลุดพ้นตามแนวทางของพระองค์ท่าน

    จากความเห็นผมข้างต้น ผมจึงให้ความสำคัญกับพระสมเด็จ top of the top 4 เป็นอย่างมาก

    สำหรับสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า ที่ได้มาสมัครกัน ผมว่าได้เพียงพระสมเด็จ top of the top 4 ก็ไม่ต้องขนขวายหาพระพิมพ์อื่นๆ มาห้อยคอ

    แต่เนื่องจากในการสมัครเป็นสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า วัตถุประสงค์ที่สำคัญในข้อที่ 4 คือการดูแล , รักษา ,ปกป้อง ,เผยแพร่ ฯลฯ พระวังหน้า เราจำเป็นต้องมาศึกษากันว่า พระวังหน้าในรุ่นหรือพิมพ์อื่นๆ เป็นอย่างไร เพื่อที่จะไปอธิบายกับผู้ที่ไม่รู้ ไม่ทราบ ให้เข้าใจว่า พระวังหน้า มีจริง และที่ว่าจริงนั้น จริงอย่างไร วิธีดูพระวังหน้า ดูอย่างไร

    โมทนาสาธุครับ
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อนันตริยกรรม

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี



    อนันตริยกรรม หมายถึง กรรมหนักที่สุด (ครุกกรรม) ฝ่ายบาปอกุศล ซึ่งให้ผลทันที มี 5 อย่าง คือ
    1. มาตุฆาต - ฆ่ามารดา
    2. ปิตุฆาต - ฆ่าบิดา
    3. อรหันตฆาต - ฆ่าพระอรหันต์
    4. โลหิตุปบาท - ทำร้ายพระพุทธเจ้าจนถึงพระโลหิตห้อ ขึ้นไป เช่น พระเทวทัตได้ทำร้ายพระพุทธองค์ ในสมัยพุทธกาล
    5. สังฆเภท - ยังสงฆ์ให้แตกกัน ทำลายสงฆ์
    อนันตริยกรรม 4 ประการแรก คือ มาตุฆาต ปิตุฆาต อรหันตฆาต และโลหิตตุปบาท จัดเป็นสาธารณอนันตริยกรรม คือ เป็นอนันตริยกรรมที่ทั่วไปแก่บรรพชิตและคฤหัสถ์ทั้งหลาย หมายความว่า บรรพชิตก็ทำได้ คฤหัสถ์ก็ทำได้
    ส่วนสังฆเภท เป็นอสาธารณอนันตริยกรรม คือ เป็นอนันตริยกรรมที่ไม่ทั่วไป หมายความว่า ภิกษุคือบรรพชิตเท่านั้น จึงจักกระทำสังฆเภทอนันตริยกรรม นี้ได้

    ในส่วนของโทษหนักเบา และลำดับการให้ผลก่อนหลัง ของอนันตริยกรรม เรียงลำดับจากแรงที่สุดลงไป ได้ดังนี้
    • สังฆเภทอนันตริยกรรม
    • โลหิตุปบาทอนันตริยกรรม
    • อรหันตฆาตอนันตริยกรรม
    • มาตุฆาตปิตุฆาตอนันตริยกรรม
    [แก้] อ้างอิง

    อนันตริยกรรม เป็นบทความเกี่ยวกับ พระพุทธศาสนา ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหาหรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น

    <SMALL>ข้อมูลเกี่ยวกับ อนันตริยกรรม ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ หรือ ดูเพิ่มที่ สถานีย่อย:พระพุทธศาสนา</SMALL>


    <!-- NewPP limit reportPreprocessor node count: 38/1000000Post-expand include size: 8374/2048000 bytesTemplate argument size: 367/2048000 bytesExpensive parser function count: 0/500--><!-- Saved in parser cache with key thwiki:pcache:idhash:111901-0!1!0!!th!2 and timestamp 20090725004229 -->
    ดึงข้อมูลจาก "อนันตริยกรรม - วิกิพีเดีย".
    หมวดหมู่: อภิธานศัพท์พุทธศาสนา | ธรรมหมวด 5 | บทความเกี่ยวกับ พุทธศาสนา ที่ยังไม่สมบูรณ์
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มาแจ้งข่าวงานบุญขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิบมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ

    <TABLE class=tborder id=post2282885 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">22-7-2552, 10:43 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#32262 </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ผมได้ขอพระสมเด็จ(กลักไม้ขีด) จากคุณnongnooo ไว้จำนวน 5 องค์ จากคุณเพชร จำนวน 5 องค์ และผมจะมอบให้จำนวน 10 องค์ เพื่องานผ้าป่าสามัคคีโดยเฉพาะครับ

    รายละเอียดมีดังนี้ครับ

    ข้อที่ 1.ขอมอบพระสมเด็จ(กลักไม้ขีด) จำนวน 10 องค์ สำหรับสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า(ที่สมัครก่อนวันที่ 20 กรกฎาคม 2552) ให้ร่วมทำบุญ 3,000 บาท(สามพันบาทถ้วน) มอบพระสมเด็จ(กลักไม้ขีด) จำนวน 1 องค์ ส่วนสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้าที่สมัครหลังจากวันที่ 20 กรกฎาคม 2552 ให้ร่วมทำบุญ 6,000 บาท(หกพันบาทถ้วน) มอบพระสมเด็จ(กลักไม้ขีด) จำนวน 1 องค์ ขอสงวนสิทธิ์ให้สมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้าร่วมทำบุญได้ท่านละ 1 องค์เท่านั้น

    หมายเหตุ 1.1 การทำบุญในข้อที่ 1 และ ข้อที่ 2 สามารถจองไว้ก่อนได้ และต้องโอนเงินร่วมทำบุญ(โดยโอนเงินร่วมทำบุญและเข้าบัญชีบมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ) ก่อนหรือภายในวันที่ 29 สิงหาคม 2552 เท่านั้น

    รายนามผู้จอง ข้อที่ 1.
    1.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->psombat โอนเงินร่วมทำบุญจำนวน .......... บาท วันที่ ..................
    2.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->chantasakuldecha โอนเงินร่วมทำบุญจำนวน .......... บาท วันที่ ..................
    3.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->แหน่ง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2285493", true); </SCRIPT> โอนเงินร่วมทำบุญจำนวน .......... บาท วันที่ ..................
    4.คุณพี่เบิ้ม โอนเงินร่วมทำบุญจำนวน .......... บาท วันที่ ..................
    5.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->มูริญโญ่<!-- google_ad_section_end --> โอนเงินร่วมทำบุญจำนวน .......... บาท วันที่ ..................
    6.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->MEA โอนเงินร่วมทำบุญจำนวน .......... บาท วันที่ ..................
    7.คุณ
    8.คุณ
    9.คุณ
    10.คุณ

    ข้อที่ 2.ขอมอบพระสมเด็จ(กลักไม้ขีด) จำนวน 5 องค์ ให้กับท่านที่เคยร่วมทำบุญ ร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งมาก่อนแล้ว โดยร่วมทำบุญ 20,000 บาท(สองหมื่นบาทถ้วน) มอบพระสมเด็จ(กลักไม้ขีด) จำนวน 1 องค์ ขอสงวนสิทธิ์ให้ท่านที่เคยร่วมทำบุญ ร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งมาก่อนแล้ว ร่วมทำบุญได้ท่านละ 1 องค์เท่านั้น

    หมายเหตุ 2.1 การทำบุญในข้อที่ 1 และ ข้อที่ 2 สามารถจองไว้ก่อนได้ และต้องโอนเงินร่วมทำบุญ(โดยโอนเงินร่วมทำบุญและเข้าบัญชีบมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ) ก่อนหรือภายในวันที่ 29 สิงหาคม 2552 เท่านั้น

    รายนามผู้จอง ข้อที่ 2.
    1.คุณ
    2.คุณ
    3.คุณ
    4.คุณ
    5.คุณ

    ข้อที่ 3.ขอมอบพระสมเด็จ(กลักไม้ขีด) จำนวน 5 องค์ ให้กับท่านที่ไม่เคยร่วมทำบุญ ร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งมาเลย โดยร่วมทำบุญ 2,000,000 บาท(สองล้านบาทถ้วน) มอบพระสมเด็จ(กลักไม้ขีด) จำนวน 1 องค์ ขอสงวนสิทธิ์ให้ท่านไม่ที่เคยร่วมทำบุญ ร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งมาเลย ร่วมทำบุญได้ท่านละ 1 องค์เท่านั้น และทำบุญ(โดยโอนเงินร่วมทำบุญและเข้าบัญชีบมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ) ก่อนวันที่ 31 กรกฎาคม 2552 เท่านั้น

    หมายเหตุ 3.1 หากการทำบุญในข้อที่ 3 ไม่มีท่านไหนมาร่วมทำบุญภายในกำหนดระยะเวลาที่กำหนด ผมจะยกพระสมเด็จ(กลักไม้ขีด) ดังกล่าวไปมอบให้ท่านที่ร่วมทำบุญในข้อที่ 1. และ ข้อที่ 2 แทน

    หมายเหตุ 3.2 หากการทำบุญในข้อที่ 3 มีท่านที่ทำบุญ 5 ท่าน ซึ่งจำนวนเงินที่ร่วมทำบุญมา เกินกว่ายอดเงินที่ร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ผมจะขออนุญาตพระอาจารย์นิล ,พี่แอ๊ว และท่านที่เกี่ยวข้อง นำเงินดังกล่าวทั้งหมดไปทำบุญในสถานที่อื่นๆ ตามที่พระอาจารย์นิล ,พี่แอ๊ว และผมเห็นสมควร

    รายนามผู้จอง ข้อที่ 3.
    1.คุณ
    2.คุณ
    3.คุณ
    4.คุณ
    5.คุณ

    การจองและการร่วมทำบุญ สามารถจองไว้ก่อนได้ ท่านใดจองก่อน มีสิทธิ์ก่อน และการรับจองต้องโอนเงินร่วมทำบุญตามกำหนดระยะเวลาที่ได้แจ้งไว้แล้ว

    PaLungJit.com

    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง-ณ-สำนักสงฆ์ผาผึ้ง-อ-บ้านเขว้า-จ-ชัยภูมิ.68899/page-89

    http://palungjit.org/threads/เธžเธฃเธฐเธงเธฑเธ‡เธซเธ™เน‰เธฒ-เธ—เธตเนˆเธซเธฅเธงเธ‡เธ›เธนเนˆเธšเธฃเธกเธ„เธฃเธนเน€เธ—เธžเน‚เธฅเธเธญเธธเธ”เธฃเน€เธชเธ-เธ–เน‰เธฒเธ•เน‰เธญเธ‡เธเธฒเธฃเธ—เธตเนˆเธˆเธฐเน„เธ”เน‰.22445/page-1613#post2282807

    บอร์ดอกาลิโก

    ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
    ?͠?ԭèǁʃ钧?Ð਴Ղ숃ժт?Ҽ֩? ? ʓ?ѡʧ?켒?֩? ͮ?钹ࢇ钠?.?т?? - ˹钠18 - ?̓촍?҅Ԣ?

    "พระวังหน้า ที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้....."
    "?ÐǑ?˹钠?ը˅ǧ?٨෾Ⅱ͘?àʡ ?钵鍧?҃?ը?Ф?鮮..." - ˹钠129 - ?̓촍?҅Ԣ?


    [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    โมทนาสาธุครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    <TABLE class=tborder id=post2285491 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">23-7-2552 , 09:34 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#32283 </TD></TR></TBODY></TABLE>
    สำหรับพระพิมพ์ หรือ วัตถุมงคลต่างๆ ที่มอบให้กับท่านที่ร่วมทำบุญขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ

    ในกระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้... และกระทู้ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ

    ตามรายละเอียดดังนี้ครับ

    หมายเหตุ 1 ผมไม่ถ่ายรูปพระพิมพ์ลงในเว็บครับ

    หมายเหตุ 2 หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชา เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไปครับ


    ----------------------------------------------


    หมายเหตุ หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชานั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องร่วมทำบุญและรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไป และเป็นพระพิมพ์ที่ไม่สามารถที่จะนำไปซื้อ-ขายในวงการพระเครื่องของเมืองไทยได้

    หมายเหตุ 1 พระวังหน้า ที่ผมนำมามอบให้กับผู้ที่ทำบุญในกระทู้ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่ 1890-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ และผมได้บอกบุญในกระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้ เป็นพระพิมพ์ที่ไม่สามารถที่จะนำไปซื้อ-ขายในวงการพระเครื่องของเมืองไทยได้

    แต่หากจะนำไปเพื่อเป็นพุทธานุสติ และหรือการห้อยคอเพื่อคุ้มครองตนเอง และหรือการบูชาต่างๆ เพื่อเป็นการบูชาพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกุกสันโธ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม สมณโคดม ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ( การบูชาพระคุณพระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุธเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า เนื่องจากการนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเพิ่มเติม) ,การบูชาพระคุณองค์พระมหากษัตริย์ไทยทุกๆพระองค์ ,พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ,องค์อุปราชวังหน้า รัตนโกสินทร์ทุกๆพระองค์ และทั้งช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า ,วังหลวง ,วังหลัง ,ช่างราษฎร์ทุกๆท่านและเทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้าและที่อยู่ในองค์พระพิมพ์(พระเครื่อง)ครับ

    ซึ่งเรื่องที่ผมได้บอกนั้น เป็นความเชื่อ ,ความเห็นของผม รวมทั้งคณะของผม ซึ่งก็แล้วแต่ท่านผู้ร่วมทำบุญและท่านผู้อ่านทุกๆท่าน จะมีความคิดเห็นอย่างไร ก็สุดแล้วแต่ครับ

    โมทนาบุญทุกประการกับทุกๆท่านครับ

    อีกประการหนึ่ง ชมรมรักษ์พระวังหน้า ไม่มีการจัดการประกวดพระพิมพ์และหรือวัตถุมงคลของวังหน้าและวังหลวงทุกประการ เนื่องจากการประกวดพระพิมพ์และหรือวัตถุมงคล เป็นการทำลายพระพิมพ์และวัตถุมงคล เพราะเทวดาที่ท่านอยู่ในพระพิมพ์หรือวัตถุมงคล ท่านได้ออกไปจากพระพิมพ์และวัตถุมงคลไปจนหมดสิ้น และพลังพุทธคุณและพลังอิทธิคุณขององค์ผู้อธิษฐานจิตก็ไม่มีเช่นกันครับ

    มีได้ก็เสื่อมได้เป็นธรรมดา

    โมทนาสาธุครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เวร กรรม ยถากรรม อนันตริยกรรม

    <TABLE width="100%" align=right border=0><TBODY><TR vAlign=center><TD width="20%">[​IMG]

    </TD><TD width="50%" bgColor=#666666>ฉบับที่ 2443 ปีที่ 47 ประจำวันอังคารที่ 14 สิงหาคม 2544 </TD><TD width="30%" bgColor=#990000></TD></TR><TR><TD>บทความ-สารคดี
    โดย กาญจนา นาคสกุล

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​








    Untitled Document

    ที่มา สกุลไทย

    เวร

    คำว่า “เวร” มาจากคำภาษาบาลี เวร แปลว่า “ความเป็นศัตรู ความพยาบาท ความปองร้าย” การที่คนดีๆ ถูกผู้ที่ไม่ได้เป็นศัตรูกันทำร้าย เชื่อว่าเป็นเวรที่ผูกกันมาแต่ชาติก่อน ทำให้ต้องมารับผลกรรมในชาตินี้ การผูกพยาบาทจองเวรต่อกันเป็นความชั่วทางใจ เมื่อคนมีความพยาบาทต่อกัน ย่อมเป็นเหตุให้คนทั้งสองฝ่ายมีจิตคิดร้ายตั้งตัวเป็นศัตรูกัน ทำให้มีแต่ความทุกข์เดือดร้อนไม่มีความสงบสุข และจะต้องหาวิธีทำร้ายกันไม่รู้จบสิ้น เช่น ตระกูล ๒ ตระกูลที่ผูกพยาบาทจองเวรกัน ต่างก็หาทางที่จะให้อีกฝ่ายหนึ่งเป็นอันตรายหรือพินาศ ทั้งทางร่างกายและทรัพย์สิน ทำให้ไม่มีความสงบสุข การมีใจคิดแก้แค้น จองเวรศัตรูนั้นในทางพระพุทธศาสนากล่าวว่ามิใช่จะจบสิ้นเพียงชาตินี้ แต่จะผูกพันต่อไปในชาติหน้าด้วย เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าจึงทรงห้ามไม่ให้ผูกเวรกัน ดังที่ตรัสสอนว่า “เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร” ถ้าคิดทำร้ายศัตรู ศัตรูก็คิดจะทำร้ายตอบ ต่อเนื่องกันไปไม่สิ้นสุด แต่ถ้าคิดให้อภัย เมตตาแก่ศัตรู เวรก็จะสิ้นสุดลง<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p> </O:p>
    <O:p></O:p>
    กรรม<O:p> </O:p>

    คำว่า กรรม เป็นคำที่มาจากภาษาสันสกฤตว่า กรฺม แปลว่า การกระทำ ในทางพระพุทธศาสนาถือว่า กรรม คือการกระทำที่ประกอบด้วยเจตนาและแสดงออกได้ ๓ ทาง คือ ทางกายด้วยกิริยาอาการต่างๆ ทางวาจาด้วยคำพูด และทางใจด้วยความคิดความรู้สึก มนุษย์ประกอบกรรม ๒ ประเภท คือ กรรมดีและกรรมชั่ว ในทางพระพุทธศาสนาถือว่า มนุษย์ สัตว์ มีกรรมเป็นเครื่องกำหนดความเป็นไปของชีวิต การทำกรรมดีก็ย่อมได้รับผลดี ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ถ้าเรามีเมตตาต่อสัตว์เลี้ยงอย่าง สุนัข แมว ให้อาหารเลี้ยงดูมัน สัตว์นั้นก็จะไม่ทำอันตรายเรา รักเรา และช่วยเหลือเรา ถ้าทำกรรมชั่ว ก็จะได้รับผลที่ไม่ดี เช่น ถ้าขโมยของของผู้อื่น ก็จะถูกลงโทษ ถูกตำรวจจับ ถูกจำคุก เป็นต้น คนจะได้ดีหรือชั่วย่อมขึ้นอยู่กับกรรม คือการกระทำของตนเอง เพราะฉะนั้นเราจึงควรเชื่อกฎแห่งกรรมว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว<O:p> </O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ยถากรรม<O:p> </O:p>

    คำว่า ยถากรรม แปลว่า ตามกรรม หมายความว่ามนุษย์ที่เกิดมาจะมีชีวิตอย่างไรย่อมเป็นไปตามกรรม คือ การกระทำดีหรือชั่วของตนนั่นเอง ผู้ใดทำกรรมดี ย่อมได้รับผลของกรรมดีตอบสนอง เช่น นักเรียนผู้มีความตั้งใจพากเพียรเรียนหนังสือดีจัดว่าเป็นผู้ประกอบกรรมดี ย่อมได้รับผลของกรรมดีตอบสนอง คือทำให้มีความรู้ดี สอบได้ และเลื่อนขั้นสูงขึ้น ตรงข้ามกับนักเรียนที่เกียจคร้านไม่พากเพียรเรียนหนังสือ ประพฤติเกเร จัดว่าเป็นผู้ประกอบกรรมชั่วย่อมได้รับผลของกรรมชั่ว คือ ไม่มีความรู้ สอบตกไม่เจริญก้าวหน้า<O:p> </O:p>
    คนที่ตายไปแล้ว กรรมดีก็ส่งให้ไปเกิดในที่ดี เช่น ในโลกมนุษย์เป็นคนที่มีความสุขและเกิดในสวรรค์ คนที่ทำกรรมชั่ว กรรมก็จะส่งให้ไปเกิดในที่ไม่ดี เช่น เกิดเป็นคนทุกข์ยาก เป็นสัตว์นรก เปรต อสุรกาย และสัตว์เดรัจฉาน<O:p> </O:p>
    พุทธศาสนิกชนจึงพูดคำว่า ยถากรรม ไปตามยถากรรม ติดปาก แสดงว่า เราต้องรับผลของการกระทำของเราเสมอ ตามกรรมดีและกรรมชั่วที่เราทำไว้<O:p> </O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อนันตริยกรรม<O:p> </O:p>

    คำว่า อนันตริยกรรม เป็นคำยืมจากภาษาสันสกฤต มาจากคำว่า อนนฺตริย ซึ่งแปลว่า ไม่มีช่องว่าง กับคำว่า กรฺม ซึ่งหมายถึง การกระทำที่ทำด้วยความจงใจ คำว่า อนันตริยกรรม มีความหมายตามรูปศัพท์ว่า การกระทำที่ไม่มีช่องว่าง หมายถึง การกระทำที่ไม่มีช่องว่างระหว่างกรรมที่กระทำลงไปแล้วกับวิบากหรือผลที่จะตามมา นั่นคือ กรรมที่จะต้องได้รับผลแห่งการกระทำนั้นทันทีโดยไม่ต้องรอเวลาที่ผลกรรมจะตามมาสนอง สาเหตุที่ต้องรับผลกรรมทันทีก็เพราะว่าเป็นกรรมชั่วหรือเป็นความผิดร้ายแรงที่สมควรได้รับโทษรุนแรงอย่างที่สุด อนันตริยกรรมจึงมิได้หมายถึงกรรมโดยทั่วๆ ไป แต่หมายเอาเฉพาะกรรมชั่วที่ร้ายแรงที่สุดเท่านั้น<O:p> </O:p>
    อนันตริยกรรมมี ๕ ประการ ได้แก่<O:p> </O:p>
    ๑. การทำมาตุฆาต หรือการฆ่ามารดาของตน
    ๒. การทำบิตุฆาต หรือการฆ่าบิดาของตน
    ๓. การทำอรหันตฆาต หรือการฆ่าพระอรหันต์
    . การทำโลหิตตุปบาท หรือการทำร้ายพระพุทธเจ้าจนถึงกับห้อเลือด
    ๕. การทำสังฆเภท หรือการทำให้หมู่สงฆ์แตกแยกกัน<O:p> </O:p>
    พุทธศาสนาเชื่อว่าผู้ที่ทำกรรมชั่วขั้นที่เรียกว่า อนันตริยกรรมนั้นจะต้องไปชดใช้กรรมที่ตนก่อในนรกขั้นที่ต่ำที่สุดที่เรียกว่า อเวจีมหานรก จะไม่มีโอกาสได้ขึ้นสวรรค์และไม่มีโอกาสได้เข้าสู่พระนิพพาน<O:p> </O:p>
    พุทธศาสนาสอนให้คนรักชีวิตของตนเองและชีวิตของผู้อื่น ดังนั้น จึงถือว่าการฆ่าหรือทำลายชีวิตไม่ว่าจะเป็นชีวิตของตนเองหรือชีวิตของผู้อื่นนั้นเป็นบาป ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตที่เราฆ่าจะเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็กๆ หรือสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ก็ตาม ยิ่งถ้าฆ่ามนุษย์ก็ยิ่งถือเป็นบาปหนัก เพราะผู้ที่เกิดเป็นมนุษย์คือผู้ที่กำลังสะสมบุญและมีโอกาสหลุดพ้นจากสังสารวัฏได้<O:p> </O:p>
    ถ้าหากฆ่ามนุษย์ผู้เป็นบิดามารดาของตน หรือพระอรหันต์ด้วยแล้ว ก็ยิ่งเป็นบาปหนักหลายเท่าทวีคูณ เพราะบิดามารดาเป็นผู้ให้กำเนิดแก่ตน เป็นผู้เลี้ยงดูให้การศึกษาอบรมแก่บุตรเพื่อหวังให้บุตรมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขและประสบแต่ความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต ผู้เป็นบุตรทุกคนมีหน้าที่ต้องกตัญญูต่อบิดามารดาของตนโดยการเลี้ยงดู ยกย่อง เทิดทูนและทำให้ท่านมีความสุขทั้งกายและใจ หากบุตรคนใดอกตัญญูทำร้ายบิดามารดาจนถึงแก่ชีวิตก็สมควรได้รับโทษที่สาหัสที่สุด<O:p> </O:p>
    ส่วนพระอรหันต์เป็นผู้มีปัญญาและความเพียรมากจนสามารถปฏิบัติธรรมบรรลุความหลุดพ้นตามแนวทางที่พระพุทธเจ้าได้ทรงสอนไว้ การฆ่าพระอรหันต์ผู้หมดกิเลสจึงเป็นบาปกรรมหนัก เช่นเดียวกับการฆ่าบิดามารดา พระพุทธศาสนาจึงถือว่า การฆ่าบิดามารดา ฆ่าพระอรหันต์เป็นกรรมหนักขั้นอนันตริยกรรม<O:p> </O:p>
    พระพุทธเจ้าเป็นผู้ที่มีพระคุณต่อสรรพสัตว์ในโลกนี้เป็นอย่างมาก เพราะพระองค์ทรงเปี่ยมด้วยปัญญา สามารถตรัสรู้ธรรมอันลึกซึ้งและเปี่ยมด้วยพระกรุณา นำธรรมที่พระองค์ได้ตรัสรู้แล้วนั้นมาสั่งสอนสัตว์โลกให้เห็นทางสว่างและปฏิบัติตนเพื่อความสุขเนื่องจากปราศจากกิเลสที่จะทำให้เป็นทุกข์ทั้งทางกายและใจ และหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ผู้ที่ทำร้ายพระพุทธเจ้าแม้แต่เพียงทำให้พระองค์ห้อเลือดหรือที่เรียกว่า โลหิตุปบาท นั้น นอกจากจะถือว่าเป็นผู้อกตัญญูอย่างยิ่งต่อผู้ทรงคุณอันประเสริฐต่อโลกและสรรพชีวิตแล้ว ยังถือว่าเป็นผู้ที่มีใจบาปหยาบช้า กรรมที่ทำให้พระพุทธเจ้าถึงกับห้อเลือดถือเป็นบาปกรรมขั้นอนันตริยกรรม<O:p> </O:p>
    ส่วนการทำสังฆเภทหรือการทำให้พระภิกษุสงฆ์แตกความสามัคคีกันนั้น ถือเป็นอนันตริยกรรมด้วย ก็เพราะการทำสังฆเภทก็เท่ากับการทำลายความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา เพราะภิกษุสงฆ์เป็นทายาททางธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นผู้สืบอายุพระพุทธศาสนา การทำให้พระภิกษุสงฆ์แตกแยกกันอย่างกรณีที่พระเทวทัตยุยงให้ภิกษุแตกความสามัคคีกัน จึงจัดว่าเป็นการทำบาปที่หนักมาก<O:p> </O:p>
    การที่ภิกษุบางรูปแยกการปฏิบัติไปตามที่พระพุทธเจ้าทรงมีพุทธานุญาตให้แก้ไขพระวินัยบางข้อที่ไม่เหมาะสมได้ ทำให้เกิดเป็นพุทธศาสนานิกายมหายานขึ้นนั้น ไม่จัดว่าเป็นการทำสังฆเภท เพราะไม่ได้ทำให้ภิกษุแตกความสามัคคีหรือทะเลาะกัน แต่เป็นการแยกตนออกไปปฏิบัติตามแนวทางที่เห็นว่าจะทำให้พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองอีกแนวทางหนึ่งเท่านั้น<O:p> </O:p>
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับสมาชิกรักษ์พระวังหน้า

    ผมกำลังทยอยหาพระพิมพ์ และวัตถุมงคล แจกกันไปเรื่อยๆ เท่าที่นึกออกในตอนนี้ กำลังดูว่า พิมพ์พุทธประวัติ ซึ่งผมเองมีอยู่นิดหน่อย ก็จะนำออกมามอบให้สมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า

    ส่วนพิมพ์(เกือบ)ต้นแบบ หลวงพ่อปาน ที่หลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่( หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ,หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ,หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ ,หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร ฯลฯ ) อธิษฐานจิต จะหาเวลาจัดพิมพ์ว่า มีกี่พิมพ์ และจะมอบให้กับท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า เป็นชุด ในงานใหญ่ปลายปีนี้ ส่วนท่านที่ไปร่วมงาน ผมจะมอบให้ท่านละ 1 องค์ ครับ

    ผมขอปรึกษาอีกเรื่อง คือ งานใหญ่ปลายปีนี้ ในความเห็นผม ผมจะให้ชมรมรักษ์พระวังหน้า เป็นผู้ที่จัดงาน โดยจะมีการมอบหมายงานให้แต่ละท่านช่วยกันดำเนินงาน ค่าใช้จ่าย ก็จะเป็นค่าใช้จ่ายของชมรมทั้งหมด

    มีความเห็นอย่างไรกันบ้างครับท่านประธาน , ท่านรองประธานเพชร ,ท่านรองประธานnongnooo และท่านสมาชิกทุกๆท่านครับ

    http://palungjit.org/forums/เธ&#...ml#post2290624

    http://www.agalico.com/board/showthr...544#post170544
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อานาปานสติ

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


    อานาปานสติ (–ปานะสะติ) มีอยู่ 16 คู่ คือ

    1.หายใจเข้า-ออกยาวรู้
    2.หายใจเข้า-ออกสั้นรู้ (ลมหายใจเริ่มละเอียดขึ้นเมื่อใจเป็นสมาธิ)
    3.หายใจเข้า-ออกกำหนดกองลมทั้งปวง (จิตจะกำหนดแต่กองลมในกาย ถ้าบริกรรมคำใดอยู่ เช่น พุทโธ คำบริกรรมจะหายไปเอง)
    4.หายใจเข้า-ออกเห็นกองลมทั้งปวงสงบก็รู้ (จับลมหายใจไม่ได้เหมือนลมหายใจหายไป)
    5.หายใจเข้า-ออกปีติ เกิดก็รู้
    6.หายใจเข้า-ออก สุขเกิดก็รู้
    7.หายใจเข้า-ออก กำหนดจิตสังขาร (อารมณ์ต่างๆที่จรเข้ามาปรุงแต่งจิต เช่น รัก ราคะ โกรธ หลง) ทั้งปวง /ที่เหลือเพียงอารมณ์อุเบกขา
    8.หายใจเข้า-ออก เห็นจิตสังขารสงบก็รู้
    9.หายใจเข้า-ออก พิจารณาจิต (พิจารณาสภาวะรู้)/ว่าจิตพิจารณารู้ในอานาปานสติอยู่
    10.หายใจเข้า-ออกจิตบันเทิง (มโน-สภาวะที่น้อมพิจารณาเพ่งอยู่/ยินดีในองค์ภาวนาอานาปานสติ) ก็รู้
    11.หายใจเข้า-ออก จิตตั้งมั่น (ในอารมณ์นิมิตรอานาปานสติ) ก็รู้
    12.หายใจเข้า-ออกจิตเปลื้อง (ในสัญญาในอารมณ์นิมิตรอานาปานสติ) ก็รู้
    13.หายใจเข้า-ออก พิจารณาเห็นความไม่เที่ยง (อนิจจัง ) ในขันธ์ทั้ง 5 (มีลมหายใจเป็นตัวแทนรูปขันธ์)
    14.หายใจเข้า-ออก พิจารณาโดยไม่ปรุงแต่ง (เช่น ต้นไม้ย่อมมีลักษณะเป็นไปตามธรรมชาติ เราตัดสินว่าต้นไม้นี่ลักษณะสวย ต้นไม้นี่ลักษณะไม่สวย)
    15หายใจเข้า-ออก พิจารณาโดยไม่ยึดติด ( เช่นมีคนนำขวดน้ำมาวางไว้ข้างหน้าเรา ให้เรา ต่อมามีคนคว้ามันไปกิน เราโกรธว่ากินน้ำเรา คือ ความยึดมั่นนั้นเพิ่งเกิด เมื่อเราไปยึดไว้)
    16.หายใจเข้า-ออกปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ (ปฏินิสสัคคายะ)


    จัดให้ข้อ1-4เป็นกายานุปัสสนา
    ข้อ5-8เป็นเวทนานุปัสสนา
    ข้อ9-12จัดเป็นจิตตานุปัสนา
    ข้อ13-16จัดเป็นธรรมนุปัสสนา

    อานาปานสติเป็นกรรมฐานที่เหมาะสมกับคนทุกคน และเลือกได้หลากหลาย มีความลึกซึ้งมากดังจะอธิบายต่อไป เนื่องจากอานาปานสติสามารถที่ภาวนาลัดให้มาสู่สัมมสนญาน 1ในญาณ16ได้ โดยไม่ต้องเจริญสติและพิจารณาสัญญา10ไปด้วยเหมือนอย่างอื่นๆ เมื่อเจริญอานาปานสติตามข้อ1 สภาวะย่อมเป็นไปโดยลำดับจากข้อ 1 จนถึงข้อ12 จิตจะเป็นปฐมฌาณอันเกิดจากการเจริญสติ (เกิดสัมมสนญาณ) จะพบเห็นขันธ์ทั้งห้าที่หลงเหลืออยู่ในขณะขั้นเกิดดับได้ เมื่อขณะจิตเป็นฌาณ ซึ่งเหลือเพียง10สภาวะ โดยที่ข้อ3-4เป็นรูปขันธ์ ข้อ5-6เป็นเวทนาขันธ์ (มีเพียงปีติและสุข) ข้อ7-8เป็นสังขารขันธ์ ข้อ9-10เป็นวิญญาณขันธ์ ข้อ11-12เป็นสัญญาขันธ์ เมื่อเห็นขันธ์ทั้งห้า ตามตั้งแต่ข้อ3-12ย่อมเห็นขันธ์ห้า (อันมีลมหายใจเป็นตัวแทนแห่งรูปขันธ์) เกิดดับตลอดจนเห็นเป็นอนิจจัง ( ข้อ13หายใจเข้า-ออก พิจารณาเห็นความไม่เที่ยง ) โดยสมบูรณ์พิจารณาข้อ13ไปจนบรรลุข้อ14หายใจเข้า-ออก พิจารณาโดยไม่ปรุงแต่ง ,15พิจารณาโดยไม่ยึดติด ,16 หายใจเข้า-ออกปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่ในอานาปานสติ16 ข้อผู้เริ่มปฏิบัติสามารถที่จะเลือกเริ่มปฏิบัติในข้อ1 ข้อ5 ข้อ9 และข้อ13

    [แก้] สื่อ

    • อานาปานสติ
      <BUTTON title=เล่นเสียง style="WIDTH: 180px; TEXT-ALIGN: center" onclick="if (typeof(wgOggPlayer) != 'undefined') wgOggPlayer.init(false, {&quot;id&quot;: &quot;ogg_player_1&quot;, &quot;videoUrl&quot;: &quot;<a href=" 7 target="_blank" Anapanasati.ogg&quot;? 73 commons wikipedia upload.wikimedia.org http:>http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/7/73/Anapanasati.ogg", "width": 180, "height": 35, "length": 800, "offset": 0, "linkUrl": "/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C:Anapanasati.ogg", "isVideo": false});"></BUTTON>
      • เสียงพระสวดมนต์แปลบาลี-ไทย (อานาปานสติ)
      • หากไม่ได้ยินเสียง โปรดดูเพิ่มที่ media help.
    อานาปานสติ - วิกิพีเดีย

    บทความนี้ต้องการเก็บกวาด โดยการตรวจสอบหรือปรับปรุงความถูกต้อง แก้ไขรูปแบบหรือภาษาที่ใช้
    ตลอดจนแก้ไขหรือเพิ่มเติมเนื้อหา หมวดหมู่ลิงก์ภายใน หรือแหล่งอ้างอิง ในบางส่วนหรือหลายส่วน
    ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานวิกิพีเดียไทย และคุณสามารถช่วยแก้ไขปรับปรุงบทความนี้ได้
    <SMALL>กรุณาเปลี่ยนไปใช้ป้ายข้อความอื่น เพื่อระบุสิ่งที่ต้องการตรวจสอบ หรือแก้ไข และให้นำป้ายนี้ออก</SMALL>

    รายละเอียดเพิ่มเติม วิธีแก้ไขหน้าพื้นฐาน - คู่มือการเขียน - การเขียนบทความให้ดียิ่งขึ้น - ป้ายนี้มีไว้เพื่ออะไร
     
  11. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    ผมเห็นด้วยครับสำหรับที่จะให้ชมรมรักษ์พระวังหน้า เป็นผู้ที่จัดงาน

    เพราะถือว่าเป็นงานประชุมใหญ่ปลายปีเราด้วยอยู่แล้ว

    ถ้ามีอะไรให้รับใช้ บัญชาได้เลยนะครับท่านประธาน ท่านเลขาฯ และท่านรอง ทั้งสองครับ

    ยินดีมากๆๆๆๆ ครับ

    โมทนาสาธุ ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2009
  12. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    เห็นด้วยอย่างยิ่งยวดครับท่านเลขาฯ ครับ


    มีแค่องค์เดียว ชั่วชีวิตนี้ก็เพียงพอแล้วครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  13. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    วันนี้วันหยุด อีกสักครู่ว่าจะพาครอบครัวไปทำบุญที่วัดไกล้ๆ บ้านหน่อยครับ

    ยังงัยชาวรักษ์พระวังหน้าทุกท่านดูแลสุขภาพด้วยนะครับ

    โมทนาสาธุ ครับ
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันนี้ ก็เป็นวันหยุด(ในที่ทำงาน) ผม

    แต่ต้องมาทำงาน ที่ทำงานผมให้บริษัทในเครือ มาทำความสะอาด ไม่มีใครยอมมา หัวหน้าผมขอให้ผมมาอยู่ดูการทำความสะอาด

    แถมไม่มีโอทีซะด้วยสิ หุหุหุ

    แต่ก็เลยแอบแวบไปที่วัดไ........... มา ไปกราบเรียนเชิญเจ้าของวัดไ........ และพี่สมพร ให้มาในงานผ้าป่าสามัคคี ในวันที่ 29 สิงหาคม 2552 นี้

    ผมก็เลยนำ พระพิฆเนศ ที่แกะจากหยก โดยช่างสิบหมู่(ชาวจีน)แห่งวังหน้า และหลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร หรือ หลวงปู่โพรงโพธิ์ หรือหลวงปู่เดินหน ฯลฯ) อธิษฐานจิตในงานพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส ไปมอบให้เจ้าของวัดไ........ และพี่สมพร และผมก็เลยมอบให้อีก 1 องค์ให้พี่สมพร ไปมอบให้กับคุณ.... (ประธานกรรมการบริษัท....(หากบอกไป ผมว่าทุกๆท่านต้องทราบดีว่า เป็นท่านใด)) ด้วย

    โมทนาสาธุครับ

    เกือบลืม ไม่ต้องไปหาใน google นะครับ เพราะว่า หาวัดนี้ หายังไงก็หาไม่เจอ แต่สำหรับนักธุรกิจใหญ่ๆ , สส.(หลายพรรค) , นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่บางท่าน , นายทหารชั้นผู้ใหญ่บางท่าน ทราบและรู้จักกับเจ้าของวัดไ........ ดี

    .
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรียนคุณมูริญโญ่

    ผมแอบมาบอก พี่สมพร แอบชมคุณมูริญโญ่ กับผม ให้ผมเมื่อสักพักนี้ ว่า คุณเป็นผู้ที่โพสได้ดี อยากรู้จัก ไว้วันงานผ้าป่าสามัคคี พี่สมพรอยากพบนะครับ

    อย่าลืมเตือนผมเรื่องนี้นะครับคุณมูริญโญ่ ขอบคุณครับ
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วิธีลดความดันโลหิตสูง
    Daily News Online > คอลัมน์ออนไลน์ > หน้าเกร็ดความรู้ > วิธีลดความดันโลหิตสูง

    [​IMG]

    ใครที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีวิธีลดความดันโลหิตมาบอก...

    - ใช้น้ำมันหอมระเหยช่วยบำบัดอาการ ทำให้ผ่อนคลาย เช่น น้ำมันหอมระเหย กลิ่นคาโมไมล์ ลาเวนเดอร์

    - ลดปริมาณเกลือโซเดียม และหันมาทานอาหารที่มีธาตุโพแทสเซียม และแมกนีเซียม ซึ่งมีมากในผักและผลไม้สด อย่าง กล้วย มันฝรั่ง และผักใบเขียวต่าง ๆ

    - การดื่มน้ำสมุนไพร เช่น ขึ้นฉ่าย กระเจี๊ยบแดง และบัวบก

    - การทำสมาธิ มีประโยชน์ในการช่วยรักษาระดับความดันโลหิต ควรทำสมาธิ 20 นาที วันละ 2 ครั้ง

    - การฟังเพลงจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ขณะฟังควรหายใจเข้าออกลึก ๆ แล้วปล่อยให้ตัวเองซึมซับเอาพลังงานเสียงเข้าไว้

    รู้อย่างนี้แล้ว ลองนำวิธีที่แนะนำไปช่วยลดความดันโลหิตกันดูได้ เพื่อสุขภาพที่ดี.
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    กำลังแห่งธรรม

    คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด

    พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ. ๙) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร วรวิหาร watdevaraj@hotmail.com

    ˹ѧʗ;ԁ?좨҇ʴ͍?䅹젺 ?ú?ءÊ ʴ?ء?荧==

    การดำเนินชีวิตในสภาพปัจจุบันนี้ ในการประกอบอาชีพการงานนั้น จำเป็นต้องอาศัยปัจจัยหลายๆ อย่างประกอบกัน ต้องมีทั้งกำลังทาง กาย เช่น มีร่างกายแข็งแรง ไม่ป่วยไข้ รวมทั้งมีกำลังสนับสนุนจากผู้ใหญ่ให้ความเมตตา และที่สำคัญ ที่สุดจะต้องมีกำลังทางใจ คือ มีความคิดริเริ่มที่ดีประกอบด้วย จึงจะทำให้หน้าที่การงานนั้นๆ มีความเจริญก้าวหน้า

    ธรรมะหมวดหนึ่งที่เป็นพลังที่จะทำให้ดำเนิน ชีวิตด้วยความมั่นใจ ไม่หวั่นไหวย่อท้อต่ออุปสรรคทุกอย่าง นั่นก็คือ พละ หมายถึง ธรรมอันเป็นกำลัง สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ 4 ประการ คือ

    1.กำลังปัญญา

    2.กำลังความเพียร

    3.กำลังการงานอันไม่มีโทษ

    4.กำลังการสงเคราะห์

    1. กำลัง คือ ปัญญา ได้แก่ ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องต่างๆ อันเกิดจากการศึกษาการฟัง การอ่าน การคิดค้นคว้า จนสามารถที่จะแยกแยะความดีความชั่วออกจากกันได้ โดยเฉพาะด้านอาชีพการงาน จะต้องแยกแยะได้ว่า การงานใดบ้างที่ดี มีประโยชน์ ควรทำ การงานใดบ้างที่มีโทษ ไร้ประโยชน์ ไม่ควรทำ แล้วรู้จักที่จะใช้ปัญญา จัดการทำงานนั้นๆ ให้สำเร็จตามเหตุตามผล

    2. กำลัง คือ ความเพียรได้แก่ ความบากบั่น มีความเพียร มีความขยัน เอาใจใส่ในหน้าที่การงาน หมั่นประกอบการงานที่ได้รับมอบหมายด้วยความพยายาม เข้มแข็ง อดทน ไม่ท้อถอย

    3. กำลัง คือ การงานอันไม่มีโทษ เป็นกำลังสุจริต หรือกำลังความบริสุทธิ์ ได้แก่ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรมบริสุทธิ์ เช่น มีความประพฤติ และหน้าที่การงานสุจริต ไม่มีข้อบกพร่องเสียหาย พูดจริง มีเหตุผล มุ่งดี ไม่รุกรานให้ร้ายใคร ทำการด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ประกอบอาชีพ หน้าที่การงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ด้วยทำ พูด และคิดอันไม่มีโทษ สามารถที่จะดำเนินงานให้โดยไม่มีข้อบกพร่องเสียหาย มีเหตุมีผล ทำการงานด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ ไม่เบียดเบียนรุกรานคนอื่น

    4. กำลัง คือ การสงเคราะห์ ได้แก่ การเกื้อกูลกันด้วยสังคหวัตถุ 4 ประการ คือ ทาน การให้ การช่วยเหลือกันในด้านปัจจัยเป็นเครื่องเลี้ยงชีวิต และแนะนำความรู้ให้จนสามารถที่จะพึ่งพาตนเองได้ ปิยวาจา การพูดด้วยความหวังดี พูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ทำให้คนอื่นเกิดความเชื่อถือและนับถือ อัตถจริยา การบำเพ็ญประโยชน์ มุ่งช่วยเหลือรับใช้สังคม ทำงานด้วยความสร้างสรรค์ สมานัตตตา การวางตนให้มีความเสมอภาคกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน ไม่เอารัดเอาเปรียบคนอื่น

    พลธรรม คือ ธรรมอันเป็นกำลัง 4 ประการนี้ นับว่า เป็นหลักในการดำเนินชีวิตอีกประการหนึ่ง ผู้ที่ประพฤติตามธรรมะทั้ง 4 ประการนี้ สามารถที่จะดำเนินชีวิตด้วยความมั่นใจ เพราะเป็นผู้ที่เรียกได้ว่า มีพลัง หรือ กำลังในตนเอง และสามารถที่จะนำชีวิตให้ผ่านพ้นภัย

    5 อย่าง คือ ภัยเกี่ยวกับการครองชีพ ภัยคือความเสียชื่อเสียง ภัยคือความเก้อเขินในที่ชุมชน ภัยคือความตาย และ ภัยคือทุคติได้

    ดังนั้น ผู้ที่มีกำลังในตนเอง ย่อมสามารถที่จะดำเนินชีวิตให้มีแต่ความเจริญก้าวหน้า มีความรุ่งเรืองต่อไปได้โดยสวัสดี
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  19. พรสว่าง_2008

    พรสว่าง_2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +402
    ขอจองร่วมบุญครับพี่หนุ่ม


    พึ่งกลับจากจันทบุรีครับ.....ขอจองร่วมบุญด้วยคนครับพี่หนุ่ม ถ้าโอนเงินแล้วจะแจ้งให้ทราบครับ...ขอบคุณครับ(มาช้าดีกว่าไม่มา...อิอิ)
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

แชร์หน้านี้

Loading...