ปิดรับบริจาค รวมบันทึกการเดินทางตามรอยพระอาจารย์ ณ บึงลับแล ๒๕๕๒/ร่วมบุญใหญ่หน้า ๑๐๘

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย ญ.ผู้หญิง, 18 ธันวาคม 2008.

  1. pat3112

    pat3112 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +2,904
    โมทนาทุกท่านด้วยครับ ต้องมานั่งไล่อ่านกันทีเดียว น่าชื่นใจมากๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2009
  2. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    แจ้งข่าวเรื่องทริปธรรมฯ (๕) เพิ่มเติมว่า มีสมาชิกแจ้งความประสงค์ร่วมเดินทางทั้งหมดจำนวน ๑๖ ท่าน ขอยกเลิกเนื่องจากงานเข้าทางโลกจำนวน ๓ ท่าน เพราะฉะนั้นจะเปิดรองรับที่นั่งทดแทนท่านที่ถอนตัวไปอีก ๒ ท่าน เนื่องจากจะเอารถตู้ไปเพียง ๑ คัน(๑๕ ที่นั่ง) เพื่อความคล่องตัวในการเดินทาง กัลยาณมิตรท่านใดสนใจร่วมเดินทางขอให้ลงชื่อแจ้งความประสงค์ได้ทั้งทางการโพสต์และโทรแจ้งค่ะ

    อนึ่ง! การเดินทางในทริปนี้ อย่างที่เรียนให้ทราบแล้วว่าเส้นทางที่จะไปมีหลากหลายสถานที่ ในวันแรกต้องมีการเดินขึ้นเขาเพื่อไปกราบสักการะรอยพระพุทธฉาย รอยพระพุทธบาทที่สระบุรี นอกเหนือจากการไปเดินชมผสมการปืนป่ายถ้ำที่อุทยานถ้ำเพชร-ถ้ำทอง และในวันที่สองสำหรับการเดินขึ้นเขากบ เขาดาวดึงส์และเขาที่วัดป่าฯ เพราะฉะนั้นขอให้ฝึกซ้อมกำลังขากันไว้ให้ดี ๆ ค่ะ มิฉะนั้น สมาชิกบางท่านอาจจะเกิดอาการดังภาพด้านล่างนี้ เราเตือนท่านแล้ว....ฮิ ฮิ ฮิ

    (tm-love)
     
  3. Teetab

    Teetab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +4,659
    จาก หนังสือ หลวงพ่อธุดงค์

    ปักกลดที่เขาชอนเดื่อ (วนอุทยานถ้ำเพชร ถ้ำทอง)

    ......ตอนเช้าหลวงพ่อปานก็ชวนกันถอนกลด เดินทางต่อไปมันเป็นในป่า ท่านก็ไม่ได้บอกว่าในป่ามันป่าอะไร ไม่ได้ถามท่านไม่มีความจำเป็น มันจะเป็นป่าอะไรก็ช่างเราก็เดินกันเรื่อย ๆ มา เวลาเดินมา เทวดาชั้นจาตุมหาราชท่านก็เดินมาด้วย พวกดาวดึงส์ก็มากันมาก ท่านก็ชี้ชมสถานที่ต่างๆ ในอดีต ชมบ้านชมเมืองในอดีต ชมสนามรบในอดีต ชมภาพของคนตายในอดีต (ชมคนอื่นไม่สำคัญเท่าชมตัวเอง เวลานั้นท่านเป็นไอ้นั่น เวลานี้ท่านเป็นไอ้นี่ ท่านมารบกับเขาตรงนี้ มาฆ่าตรงนี้ มาถูกห่าตายตรงนี้บ้าง มาฆ่าเขาตายตรงนี้บ้าง) ว่ากันเรื่อยไป ว่าอดีตเป็นชั้น ๆ เป็นสมัย ๆ หลายสมัย
    พอไปถึงใกล้เขาใหญ่ มาทราบตอนหลังนี้เขาเรียกว่า เขาชอนเดื่อ ถ้าเดินธรรมดา ๆ จากพระพุทธบาท มาชอนเดื่อ ถ้าจะใช้เวลา 1 วัน น่ากลัวจะแย่เหมือนกัน ท่านเดินแบบสบาย ๆ รู้สึกว่าไม่เหนื่อย เป็นกำลังของหลวงพ่อปานบ้าง เทวดาท่านช่วยบ้าง
    พอถึงเขาชอนเดื่อ ท่าก็ปักกลดหน้าเขาชอนเดื่อ เวลานั้นก็ปรากฏว่า มีพระองค์หนึ่งอยู่ที่เขาชอนเดื่อ พระองค์นั้นท่านก็ออกมารับรอง ท่านรู้จักกับหลวงพ่อปานดีมาก เมื่อปักกลดเสร็จ พวกเราจะพัก เห็นท่านเข้า ก็เข้าไปกราบท่าน ท่านเป็นพระมีอาวุโสแล้ว อายุประมาณ 30 เศษ เกือบจะ 40 พวกเราเพิ่ง 20 กว่า ๆ นิดเดียว ท่านเห็นเข้า ท่านก็ชมว่าพระ 3 องค์นี้ดี เก่งมากแต่ว่าก็ยังเก่งแค่หากินกับเทวดา (นี่ท่านรู้ด้วย) หลวงพ่อปานก็ถามว่าท่านหากินกับเทวดา หรือท่านหุงข้าวกิน ท่านบอก ผมไม่หุงข้าวกินด้วย ไม่หากินกับเทวดาด้วย ผมอยู่ด้วยกำลังของปีติ (คำว่า ปีติ คือ ความอิ่มใจ) หลวงพ่อปานถามว่า น้ำต้องฉันไหมท่านบอก น้ำต้องฉัน แต่ข้าวไม่ต้องฉัน ร่างกายท่านสมบูรณ์ ผิวเหลืองสวย หน้าตาดี
    หลวงพ่อปานถามว่า ท่านนิยมอะไร ศัพท์อย่างนี้พวกเราไม่เข้าใจกัน ท่านบอกว่าเวลานี้ท่านกำลังอยู่ในขั้นฌานโลกีย์ แต่ว่าทรงอภิญญา 5 สามารถจะทำอะไรก็ได้ตามชอบใจ แต่ว่าสิ่งที่ไม่ทำอย่างเดียว ก็คืออาหาร ไม่ทำอาหารมาเพื่อกิน อยู่ด้วยธรรมปีติพวกเราฟังแล้ว ก็ชื่นอกชื่นใจมาก ก็คิดในใจว่า คนที่อยู่ในธรรมปีตินี่ อย่างน้อยต้องเป็นพระอรหันต์ แต่ความจริงไม่ใช่ แค่ฌานโลกีย์ แค่อภิญญาโลกีย์ก็สามารถทำได้
    แล้วต่อมาท่านก็คุยกับหลวงพ่อปาน ตามเรื่องตามราวของคนแก่อายุไล่เลี่ยกันหลวงพ่อปาน 60 ปีเศษ ท่านก็ 50 เกือบจะ 60 อยู่แล้ว อายุใกล้กันมาก พวกเราก็มีหน้าที่นั่งฟัง แต่ที่ท่านคุยกันพวกเราไม่ค่อยจะรู้เรื่อง ท่านคุยเรื่อง ไอ้นั่นมีที่นั่น ไอ้นี่มีที่นี่ โอ้โฮ..ท่านชี้ไปในหุบในเขา มีเหว มีทองคำ มีอะไรต่ออะไร มีผีมีสาง ท่านชี้ไปที่ไหน เราก็พลอยเห็นด้วย ท่านเก่งจริง ๆ
     
  4. Teetab

    Teetab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +4,659
    นมัสการพระพุทธฉาย


    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>

    เมื่อคณะธุดงค์ทั้งห้า มีหลวงพ่อปานเป็นประมุข นมัสการพระพุทธฉาย และอยู่ในบริเวณนั้นรวม 3 วัน เมื่อมีความอิ่มในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพอสมควรแก่ความประสงค์แล้ว ปูชนียสถานที่คณะธุดงค์ทั้งห้าต้องการนมัสการอีกก็คือ พระพุทธฉาย เขตสระบุรีเหมือนกัน แต่ต้องเดินทางไปทางตะวันออก และล่องใต้นิดหน่อย เรื่องทางที่จะไปเป็นภาระของหลวงพ่อปาน เมื่อก่อนออกเดินทางต่างก็เจริญพุทธานุสสติเพื่อเป็นการถวายความเคารพในพระพุทธเจ้า จนเข้าอยู่ในระดับฌานสูงสุดเท่าที่แต่ละท่านจะทำได้ แล้วถอนสมาธิออกจากฌานมาตั้งอยู่ในอารมณ์สมาธิขั้นอุปจารสมาธิ พิจารณาวิปัสสนาญาณเต็มระดับ คือปล่อยหมด เห็นว่าโลกนี้ เทวโลก พรหมโลก ไม่มีอะไรน่ารัก น่าพอใจ มีอารมณ์ยึดพระนิพพานเป็นจุดหมายปลายทาง เมื่ออารมณ์ละเอียดปลดได้ตามความพอใจแล้วก็เข้าฌาน 4 ในสมถะใหม่ ทำให้ฌานกลายเป็นผลสมาบัติไป เมื่อความอิ่มในพระพุทธบารมีเต็มตามความพอใจแล้ว ทุกท่านก็ถวายนมัสการอีกวาระหนึ่ง ทำวัตรขอขมาโทษหากจะพึงมีการพลั้งพลาดเพราะประมาทหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ถ้าหากจะพึงมี เป็นการป้องกันความผิดไว้ก่อน แล้วแต่ละท่านก็ออกเดินทางไปพระพุทธฉาย การเดินทางรอนแรมจากพระพุทธบาทไปพระพุทธฉายระยะทางไม่ไกลนัก แต่คณะธุดงค์ชุดนี้ก็เดินทางอย่างพระธุดงค์ ไม่ใช่เดินดงคือค่อยไป เดินประมาณวันละ 5 กิโลเมตร ไปตามสบาย พักตามสบาย เพราะสมัยนั้นไม่มีอะไรไม่สบาย ไม่ผ่านตัวเมืองสระบุรีเพราะไม่ต้องการพบบ้าน ไม่อยาก รบกวนอาหารจากชาวบ้าน ได้อาศัยอาหารจากต้นไม้เป็นอาหารหลัก แต่ก็ไม่ใช่สมาทานเป็นลิงขึ้นยอดไม้เพื่อเก็บผลไม้รับประทาน ด้วยคณะธุดงค์เชื่อว่าเทวดาประจำต้นไม่มี ไม่เป็นเรื่องของพราหมณ์พูดเล่นพล่อย ๆ เมื่อเชื่อว่าต้นไม้มีเทวดาก็เลยถือโอกาสขอข้าวจากเทวดากิน เพราะเทวดาไม่ต้องหุงข้าว แกคง ไม่ลำบากนักเมื่อขอจริง เทวดาก็มีอาหารให้จริง เมื่อได้เท่าไรก็ตาม กินแล้วอิ่มตลอดทั้งวัน และอิ่มจนกว่าจะถึงรอบใหม่ ไม่หิว ไม่เพลีย แม้น้ำก็ไม่กระหาย ใครว่าเทวดาตามต้นไม้เป็นเทวดาพราหมณ์ก็ช่างปะไร จะเป็นเทวดาพรามหณ์หรือเทวดาพุทธ เราก็เอาข้าวกินได้ จะเสียหายอะไร เมื่อเดินทางโดยลัดตัดป่าเป็นสรณะ แปลว่าที่พึ่ง คือพึ่งป่า เพราะร่มรื่นไม่ร้อนจากแสงอาทิตย์มากนัก เป็นสถานสงัด ภาษาพระท่านเรียกว่ากายวิเวกคือสงัดกาย หมายถึงไม่หนวกหู ชาวบ้านคุยกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง ยั่วเย้าเคล้ากามารมณ์กันบ้าง อาการอย่างนี้พระธุดงค์รำคาญ ด้วยมีความประสงค์สงัดกายเป็นอันดับแรก และต้องการความสงัดที่ 2 ก็คือจิตวิเวก แปลว่าสงัดจิต ที่เอาศัพท์วัด ภาษาวัดมาเขียนและพูดไว้ก็เพื่อให้ลูกหลานที่ไม่ใคร่ได้เข้าวัดจะได้รู้ภาษาวัดไว้บ้าง ด้วยพวกนักคุยอวดวัดชอบใช้ภาษา แต่เขาไม่ใคร่ชอบใช้ปฏิปทา คือ พูดได้ แต่การปฏิบัติไม่ค่อยเอาไหน แม้พระนักเทศน์ที่เทศน์สอนชาวบ้านก็เถอะ ลองไปถามแกเข้าเถอะ ดีไม่ดีแกบอกว่าแกไม่ว่างทำเอง เพราะงานสอนชาวบ้านมากเกินไป แกเลยไม่มีเวลาทำเอง พระอย่างนี้น่าเห็นใจท่านที่ชาวบ้านรบกวนเวลาท่านมาก ควรจะเลิกรบกวนท่าน เพื่อท่านจะได้สงเคราะห์ตัวเองสะดวก วิธีสงเคราะห์ก็คือไม่นิมนต์ท่านเทศน์หรือนิมนต์เทศน์ไม่ถวายเงิน เท่านี้ก็หมดเรื่อง ท่านจะได้ว่างทำเองเสียบ้าง หนวดเคราของท่านจะได้เกลี้ยงเกลาคล้ายหัวฉัน เธอดูหัวฉัน ๆ จะโกนหรือไม่โกนมันก็ล้านมากเข้าทุกวัน ฉันดีใจที่หัวฉันล้าน เพราะเป็นที่ยอมรับถือ กรรมฐานอันดับแรกที่ฉันบวช ท่านอุปัชฌาย์ท่านสอนว่าเกศา ผม มันไม่เที่ยง มันเกิดแล้วก็เสื่อม ตอนต้น ๆ ไม่เชื่อเห็นมันดกดำดี หนาทึบ มาตอนนี้ชักเห็นจริงที่มันพยายามล้านมากขึ้นทุกปี ฉันดีใจที่กรรมฐานหัวฉันเป็นจริงตามที่ท่านอุปัชฌาย์ท่านว่า แอบมาคุยอวดหัวล้านเพลินไปเสียแล้ว ว่ากันด้านสงัดที่ 2 คือจิตวิเวก สงัดจิต ได้แก่อารมณ์ฌาน เมื่อจิตจะเป็นฌานได้ต้องปราบนิวรณ์ 5 สงบ เมื่อนิวรณ์ 5 สงบ จิตก็สงัดจากนิวรณ์ ท่านเรียกว่าฌาน เมื่อกายวิเวกเพราะไม่มีเสียงชาวบ้านรบกวน อารมณ์ก็เป็นสมาธิง่าย เรียกว่าเข้าฌานสบาย เมื่อวิเวกทั้งสองได้แล้วก็ต้องการวิเวกที่ 3 ต่อไป คือ อุปธิวิเวก แปลว่าสงัดกิเลส อันนี้ไม่ยาก เมื่อสมาธิดีแล้ว ทรงฌานเต็มกำลังได้แล้ว ก็เอาฌานเป็นบาท คือที่ตั้งอารมณ์ แสวงหาความจริงมาใคร่ครวญ ทรงอารมณ์ให้เห็นจริงตามความเป็นจริง มันเป็นเรื่องกล้วย ๆ ของท่านที่ทรงฌาน และไม่คิดว่าฌานเป็นของเลิศ พยายามแสวงหาความบริสุทธิ์ของจิตต่อไป พระที่เดินทางร่วมกับหลวงพ่อปานคราวนั้น เป็นพระทรงสมาบัติ 8 ทั้งหมด เมื่อทรงสมาบัติ 8 แล้วยังรักษากำลังวิปัสสนาไม่สมบูรณ์ หลวงพ่อท่านจึงนำออกป่าเพื่อซ้อมรบใหญ่ นอกจากทรงสมาบัติ 8 แล้ว เป็นพระทรงฌาน 2 ในวิชชา 3 ทั้งหมด ส่วนอภิญญานั้นใครจะทรงได้บ้างคณะของท่านไม่ได้บอก เมื่อเจ้าของไม่บอก ฉันจะแอบไปรู้เกินท่านบอกมันอาจจะเกินพอดีไป เขาจะว่าหัวล้านนอกครูหรือหัวล้านทะเล้น ไม่รู้ดีกว่า จะได้ทรงความหัวล้านไว้เป็นปกติ คือมันล้านแล้วมันจะได้ไม่มีผมยาวขึ้นมาอีก ฉันมันเลอะเทอะใหญ่แล้ว ลูกหลานรำคาญที่จะฟังหรือยัง วันนี้ฉันเผลอไป ลืมบอกไปว่าวันนี้เป็นวันที่ 30 .. 2514 ยังเช้ามาก พวกศาลในเมืองเขายังไม่มา ก็เลยหาโอกาสคุยกับลูกหลานแก้รำคาญไปพลาง ๆ แต่ทว่าทำให้ลูกหลานรำคาญหรือเปล่าไม่รู้ ใครรำคาญก็เฉยไว้ ไม่รำคาญก็ตั้งใจฟังต่อไป เรื่องพระพุทธฉายนี้ต่อไปข้างหน้ารบกันใหญ่ จะพบพระทะเลาะกับยักษ์ คำว่ายักษ์นี้ไม่ใช่ยักษ์ทศกัณฐ์ หรือ ยักยอก เป็นยักษ์ผี ฟังกันต่อไป
    เมื่อรอนแรมมาในระยะทางใกล้ๆ แต่เดินไม่ใคร่ถึง เพราะเดินกันแบบธุดงค์ ไม่ใช่เดินดงจะให้รีบไปพ้นป่า คณะนี้เป็นคณะอาศัยป่า สมาทานเป็นอรัญวาสีแท้ คือ ไม่อยากเห็นบ้าน ไม่อยากกินข้าวชาวบ้าน เพราะรำคาญเสียง ลำบากในการกินที่รสอาหารชาวบ้านมีกลิ่นคาว อาหรจากต้นไม้ไม่มีกลิ่นคาว กินแล้วอิ่มสบาย ไม่กระหายน้ำ ดีกว่าอาหารชาวบ้านเยอะ อ้ายสองลิงมันถึงไม่ยอมเข้าบ้านเข้าเมือง ชวนเท่าไรมันไม่เอา มันบอกว่ามันไม่ได้เป็นขี้ข้าชาวบ้าน มันอยู่ป่าของมันสบายกว่า ด้วยอาหารป่า การอยู่ป่าสบายบอกไม่ถูก เมื่อถึงพระพุทธฉาย เรื่องก็เป็นไปตามเดิม ท่านให้ทุกองค์เข้าอาโลกกสิณเต็มระดับ ฟังแล้วอย่าคิดว่ายากนะ เขาใช้เวลากันไม่ถึงครึ่งวินาทีก็เต็มแล้ว ด้วยปกติมันคอยจะเต็มอยู่แล้ว ยิ่งเดินผ่านอารมณ์ยิ่งเต็ม ก่อนออกเดินต้องเข้าฌาน 4 เต็มอัตราก่อน แล้วถอยมาตั้งอยู่ระดับปฐมฌานหรืออุปจารฌาน พร้อมที่จะเข้าฌาน 4 ได้อย่างฉับพลัน เมื่อได้รับบัญชาทุกองค์จึงเข้าอาโลกกสิณเต็มระดับ ต่างก็ทราบว่าหลวงพ่อจะได้พิสูจน์ความจริงเรื่องพระพุทธฉายอีกแล้ว ต่างก็เข้าฌาน 4 ในอาโลกกสิณทันที ปัปเดียวถึงเลย หายใจเข้ายังไม่ทันหายใจออก ลมหายใจมันก็หายไปเลย เป็นอันว่าฌาน 4 มาถึงแล้ว ไม่เห็นยากเลย เมื่อท่านตรวจเห็นว่าทรงฌานดี อารมณ์สะอาด ท่านบอกให้ทดสอบเรื่องพระพุทธฉายว่าพระพุทธเจ้ามาฉายไว้จริงหรือเปล่า มีใครเป็นต้นเหตุให้พระพุทธเจ้ามาฉาย
    <O:p></O:p>
    คณะสี่ลิงหน้าพลับพลาต่างก็ตรวจตามความสามารถ ผลงานที่เขียนไว้ตรงกัน คือเห็นแถวบริเวณพระพุทธฉายเป็นเขตใกล้ทะเล มีคน 2 คน คนหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่ สูง ผิวขาว หน้ามน ๆ อีกคนหนึ่งผิวดำ สันทัดคน ร่างเล็กกว่าคนก่อน เป็นหัวหน้าสร้างที่พักด้วยไม้เหลือง เสร็จแล้วมีพระนิมนต์พระพุทธเจ้ามาพร้อมด้วยพระสาวกไม่กี่รูป เมื่อพระองค์ทรงเทศน์จบแล้วจะกลับ เขา 2 คน ขอให้พระองค์ทรงทำของที่ระลึก ท่านเลยเนรมิตรูปท่านกับพระอัครสาวกทั้งสองไว้เพื่อให้เขาบูชา พอผลงานปรากฏต่างก็ถวายอักษรสาร แต่ไม่ใช่ตราตั้ง เป็นสารผลงาน หลวงพ่อตรวจแล้วท่านชมว่าดี แต่ยังมีผลน้อยไป ควรรู้มากกว่านี้ แล้วท่านก็ว่าดีแล้ว พวกแกเอาตัวรอดได้ เดินห่างปากขุมนรกนิ้วเดียว ระวังให้ดีนะ ถ้าเผลออาจลงนรกได้ไม่ยาก ทำเกือบตายท่านว่าห่างปากขุมนรกนิ้วเดียว แล้วก็พวกที่เขาว่าเป็นฝ่ายคามวาสี อรัญวาสี แกบวชของแกยังไง อุปัชฌาย์ไหนบวชให้ ไม่สั่งสอนกันเสียบ้างเลย ได้เงินค่าจ้าง บวชแล้วก็หายไปหมด แบบเต่าใหญ่ไข่กลบ ไม่โผล่หน้าโผล่ตามาสั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาเสียบ้างเลย ปล่อยให้พระในพุทธศาสนาขายหน้าไปตาม ๆ กัน พูดกับเขาได้ว่าตนเป็นฝ่ายคามวาสี พวกอยู่ในบ้านในเมืองเจริญสมถภาวนาไม่ได้ ไม่ใช่หน้าที่ พวกที่เจริญสมถภาวนาต้องเป็นอรัญวาสี พวกอยู่ป่า ถามจริง ๆ เถอะ สมัยพระพุทธเจ้า พระคามวาสีมีจำนวนเท่าไรที่บรรลุอรหัตผล ฝ่ายอรัญวาสีมีจำนวนเท่าไร ท่านโมคคัลลาน์และพระสารีบุตร ท่านก็ฝ่ายคามวาสีทำไมท่านเป็นพระอรหันต์ได้ พระแบบนี้บวชอุปัชฌาย์ไหนนะ อยากรู้จริง ๆ ให้ท่านดูพระไตรปิกฎเสียบ้าง พระอย่างนี้มีมากเท่าใดก็ทำให้พระศาสนาเศร้าหมองมากเท่านั้น เลี้ยงขโมยเราก็เป็นขโมยด้วย เลี้ยงผู้มีอารมณ์สงเคราะห์ เราก็เป็นนักสงเคราะห์ด้วย เลี้ยงพวกทำลายศาสนาเราจะเป็นอะไร พวกนี้เขาจะเดินห่างนรกสักกี่วา พวกทรงสมาบัติ 8 ได้วิชชา 2 ใน 3 อภิญญาไม่ทราบท่านได้หรือไม่ ด้วยท่านไม่ได้บอก หลวงพ่อท่านว่าเดินห่างปากนรกนิ้วเดียว ตามขวางของนิ้วท่าน ท่านทำท่าให้ดู ไม่ใช่นิ้วฟุต แล้วพวกคามวาสีไม่เอาไหนเลย อธิศีลสิกขา อธิจิตสิกขา อธิปัญญาสิกขา กฎที่พระจำต้องทำไม่ใช่ว่าควรทำ คำว่าจำต้องทำมันเป็นกฎตายตัวหรือข้อบังคับ ตัวไม่ทำ ชาวบ้านทำได้ พระทำไม่ได้ มันไม่เลวเกินไปหรือหลวงพ่อ พวกนี้เขาจะเดินห่างนรกสักกี่วา ลืมถามหลวงพ่อท่านไป ดีไม่ดีพญายมเบื่อความเลวที่ไม่เอาไหนอาจจะปล่อยเป็นสัมภเวสีไปตามอารมณ์ก็ได้ เมื่อท่านสั่งให้พิสูจน์เพื่อฝึกซ้อมศิษย์ในด้านการใช้ญาณเพื่อผลในการช่วยตัวเองแล้ว ท่านก็บอกว่าพระพุทธเจ้าท่านจะมาฉายไว้ จริงหรือไม่ค่ำวันนี้ก็รู้กัน ฉันจะพิสูจน์อย่างที่พระพุทธบาท เมื่อยามค่ำปรากฏการพิสูจน์ก็มีขึ้น พิธีอย่างเดียวกัน แต่ผลที่ปรากฏ ไม่ใช่ดวงดาว ปรากฏเป็นรูปพระพุทธเจ้าอย่างพระสงฆ์ ไม่ใช่แบบเชียงแสนหรือสุโขทัย อู่ทอง เป็น พระสงฆ์เราเอง สวยบอกไม่ถูก พระทุกองค์จำได้ เพราะเห็นเป็นปกติ มีรัศมีช่วงโชติพุ่งออกจากพระ วรกาย สวยงามมากดูเหมือนคล้ายเอานีออนไปประดับ แต่สวยกว่าแสงไฟฟ้ามาก มีพระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตรนั่งองค์ละข้าง ลืมตาดูสบาย ดูแล้วก็เกิดธรรมปีติ ไม่ต้องบรรยายดีกว่า พูดไปก็ซ้ำกัน รำคาญเปล่า ๆ เมื่อถึงเวลาดึกประมาณ 24 . เรื่องเวลานี้ต้องถือว่าไม่ตรงเสมอไป ด้วยใช้คำว่าประมาณเพราะกะเอา ไม่มีนาฬิกา ใช้แต่นาฬิกากะ คือกะเอาอย่างนั้นเอง เพราะฉันข้าวเวลาเดียว เรื่องอะไรจะต้องดูนาฬิกา เรื่องถึงไหน เมื่อไรไม่ใช่ธุระ ไปกันตามสบาย ไปตามอารมณ์ อยากไปก็ไป ไม่อยากก็พัก ไม่มีกำหนดแน่ว่าจะเดินเมื่อไร พักเท่าไร เมื่อเวลา 24 . ผ่านไป ต่างก็เข้ามุ้งนอนตามปกติ แต่ไม่มีใครหลับ เพราะธรรมปีติเบิกลูกตา พอเวลาผ่านไปประมาณ 2 . ดวงจันทร์ปรากฏบนท้องฟ้าเริ่มจะหาย เพราะท่าน ไม่อยากอยู่ตลอดคืน มีแสงดาวค่อยสว่างเต็มที่ ต่างก็ได้ยินเสียงหลวงพ่อปานพูดในกลดของท่านว่า นั่นใครมายืนอยู่ข้างกลดพระเขียน ทุกองค์มองไปก็ไม่เห็นมีใคร เห็นแต่ต้นไม้สูงมาก สูงขนาดยอดยางเห็นจะได้ ต้นยางขนาดสูงนะ ไม่ใช่ต้นยางขนาดฟุตเดียว ต่างก็แปลกใจที่ตรงนั้นขณะปักกลดไม่มีต้นไม้แล้ว ต้นไม้นี้มามีขึ้นได้อย่งไร มองไปด้านบนเห็นกิ่งไม้สองกิ่งแกว่งไปแกว่งมา ดูท่อนล่างเห็นเป็นต้นไม้แฝด มีลำต้นสองต้นเบื้องล่าง แต่พอสูงขึ้นไปต้นไม้กลับรวมเป็นต้นเดียว มีกิ่งสองกิ่งแต่ก็ห้อยลงมา ขาดพับตามต้นแกว่งไปแกว่งมา ปลายกิ่งมีก้านสั้น ๆ กิ่งละ 5 ก้าน มองสูงขึ้นไปบนยอดเห็นมีไฟแดง 2 ดวง ทุกองค์มองดูอยู่ในกลด เมื่อเห็นทั่วตัวต่างก็ทราบว่าไม่ใช่ต้นไม้ เป็นยักษ์ ไม่มีใครสะดุ้ง เสียงหลวงพ่อปานถามต่อไปว่ามายืนอยู่ทำไม เจ้าหมอนั่นนิ่งสักครู่หนึ่งแล้วมันพูดว่าผมขอพระองค์นี้ได้ไหมครับ พระองค์นั้นคือพระเขียนที่ร่วมทางไปด้วย เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเหมือนกัน เสียงหลวงพ่อตอบว่าไม่ได้ ญาติโยมเขาฝากมา จะเอาไปไม่ได้ เจ้าตาแดงสูงเหมือนต้นตาลมันยืนนิ่งสักครู่หนึ่ง มันก้มลงมองที่กลด พระเขียน เสียงมันพูดว่าไม่ให้ก็ไม่เอา ลาล่ะ มันพูดแล้วมันก็เดินหายไปทางทิศตะวันตก
    เมื่อเจ้าต้นไม้ประหลาดหายไปแล้ว ได้ยินเสียงหลวงพ่อปานร้องถามว่า ใครไม่หลับบ้าง นิมนต์มาหาฉัน ทุกองค์ปรากฏว่าไม่มีใครหลับเลยและต่างก็ได้ยินหลวงพ่อปานพูดกับเจ้ายักษ์ดำ เห็น เหตุการณ์ตลอดเหมือนกันทุกองค์ เมื่อพระมาประชุมพร้อมกัน ท่านก็บอกให้พระทุกองค์ทราบว่า พระเขียนเข้าสู่เขตกาลมรณะ จะต้องตายตามวาระของอายุขัย แต่ทว่าอาศัยความดีที่ทรงศีลบริสุทธิ์ ทรงสมาธิและวิปัสสนาญาณ ประกอบกับมาธุดงค์ เป็นการที่ท่านพอจะขอร้องเขาไว้ได้ชั่วขณะเดียว เมื่อกลับถึงวัดแล้วท่านบอกว่า อาจจะประวิงเวลาไม่ได้อีกนานนัก ขอให้พระเขียนและทุกองค์เตรียมตัวพร้อมที่จะตายได้ อะไรที่ไม่เกินวิสัยที่จะทำ นั้นคือวิปัสสนาญาณ ให้ขยันหมั่นเพียรให้มาก ชำระจิตใจให้สะอาดเป็นปกติ มีพระนิพพานเป็นอารมณ์ จงวางภาระว่าเราของเราเสียให้สิ้น ด้วยไม่มีอะไรเลยเป็นของเรา แม้แต่ร่างกายก็มีเจ้าของคือมรณภัยมันมาทวงคืน ทุกองค์รับคำสอนด้วยดี มีท่านหนึ่งในจำนวน 4 ท่านถามท่านว่า หลวงพ่อทราบหรือไม่วาพระเขียนจะต้องเข้าระยะมรณะในวันนี้ ท่านบอกว่าท่านทราบมาก่อน ท่านทราบมาจากนายบัญชี ท่านรู้จักกับเขาดี ที่ชวนมาธุดงค์ด้วยและคุณเขียนก็เต็มใจมา ไม่ใช่ชวนมาประวิงเพื่อให้ตายช้า ชวนมาเพื่อให้ทำความดีให้สมควรแก่วาสนาบารมี ถ้าอยู่ที่วัดจะทำความดีไม่เท่ามาธุดงค์ แล้วท่านก็สอนอารมณ์วิปัสสนาย่อ ๆ เพียงให้คิดว่า เราไม่มีอะไรเป็นของเรา เราไม่ต้องการมนุษยโลก เทวโลก พรหมโลก เรามีพระนิพพานเป็นที่ไป ท่านให้พระเขียนเจริญอุปสมานุสสติ คือการคิดถึงพระนิพพานเป็นปกติที่เขาให้ภาวนาว่านิพพานังนั่นแหละ
    <O:p></O:p>
    เมื่อสนทนากันไม่นาน มันอาจจะนาน แต่คณะธุดงค์อาจจะชุ่มชื่นในพระพุทธานุภาพและประสบกับสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะได้พบมาก่อน มองไปดูท้องฟ้า เห็นใกล้สว่าง มีท่านหนึ่งถามหลวงพ่อว่าที่มาทวงชีวิตพระเขียนเป็นใคร ท่านบอกว่ายักษ์ ถามเขามาทวงเพราะเป็นเจ้ากรรมนายเวรหรือ ท่านบอกว่าไม่ใช่ เขามาตามหน้าที่ เมื่อเขามีหน้าที่มารับเขาก็ต้องมา ถามท่านว่าถ้าพระเขียนตายเวลานี้จะไปทางไหน นรกหรือสวรรค์ หรือพรหมโลกหรือนิพพาน ท่านบอกว่าสุดแล้วแต่พระเขียนจะชอบใจ ชอบใจอย่างไหนก็ไปได้ตามชอบใจ เมื่อตายแล้วจะไปทางไหนก็ไปได้ตามใจชอบ ท่านโคธิกะท่านเชือดคอตายเพราะเบื่อสังขาร มันป่วยเสมอท่านไปนิพพาน พระเขียนจะชอบใจอะไรก็เป็นเรื่องของเธอ ท่านเล่นใบ้หวยแบบนี้ ไม่มีใครแทงถูก เมื่อถามพระเขียนเอง ท่านบอกว่าท่านเบื่อขันธ์ 5 เบื่อชีวิต เบื่อหมดทุกอย่าง เมื่อท่านเบื่ออย่างนี้แล้วท่านจะลงนรกก็ตามใจท่าน
    พอรุ่งสางท้องฟ้ามีสีทองปรากฏ คณะธุดงค์ก็ออกบิณฑบาตตามปกติ ไม่ได้ไปไกลเพราะเห็นมีต้นไม้ใหญ่มีสาขางามสะพรั่งไว้ตั้งแต่ตอนมาถึง ต่างก็มั่นหมายไว้แล้วว่าต้นนี้แหละเป็นโรงผลิตอาหารในวันพรุ่งนี้ อยู่ห่างจากที่ปักกลดไม่ถึง 20 วา ต่างก็เอาบาตรไปแขวนตามเคย เมื่อได้อาหารมาแล้วก็ฉันกันหมดบาตร ความจริงได้มาประมาณ 3 ทัพพีเท่านั้นเอง เมื่อฉันเสร็จทุกองค์ก็เข้าที่พักเพราะตลอดคืนไม่ได้หลับเลย เมื่อทุกองค์พักพอเหยียดกายเรียบร้อยก็เห็นพระเขียนเดินเข้าป่า เมื่อกลับมาไม่ถึง 5 นาทีก็เดินไปอีก ต่างสงสัยถามว่าไปไหนมา ท่านบอกว่าไปถ่ายอุจจาระ ตอนนี้หลวงพ่อลุกขึ้นจากที่พัก เรียกพระเขียนเข้าไปใกล้ พระเขียนดูท่าทางเพลียมาก ท่านถามว่าท้องถ่ายกี่ครั้งแล้ว พระเขียนบอกว่า 2 ครั้งแล้วครับ ท่านบอกว่าอีกครั้งเดียวก็หยุด ยังไม่ตาย มาเอายาหมู่ไปฉันเสีย เห็นท่านฝนกิ่งไม้กับฝาละมีหม้อดินที่ท่านเตรียมติดตัวไปด้วย เมื่อพระเขียนฉันแล้วก็ไปถ่ายอุจจาระอีกครั้งหนึ่งแล้วก็หยุดถ่าย ท่านบอกว่ายังไม่ตายเตรียมตัวไว้ กลับไปวัดแกก็สบายก่อนฉัน ฉันต้องใช้หนี้กรรมอีกหลายปี แกดีกว่าฉัน สบายกว่าฉัน แล้วท่านก็สั่งให้พักผ่อนต่อไป เรื่องพระฉายก็เห็นจะจบกันเท่านี้ วันต่อไปฟังเรื่องพระได้อภิญญาถูกวัวเขาอ่อนขวิด เล่นเอาสบงจีวรหลุด เรื่องจะเป็นอย่างไรฟังวันหน้า วันนี้ฉันชักเหนื่อย ขอยุติเพียงเท่านี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2009
  5. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    ... เห็นน้องธีร์เอาเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงพ่อธุดงค์มาวางให้ได้อ่าน ๆ แล้วได้ข้อคิด ได้ทั้งความรู้และอรรถรสในการอ่าน เลยขออนุญาตยกเอาเรื่องราวตอน "พระเจ้าของถ้ำหุงข้าว" จากหนังสือหลวงพ่อธุดงค์มาให้ได้อ่านเพิ่มเติมกันค่ะ

    เหตุผลเพราะถ้ำนี้ตั้งอยู่ภายในบริเวณเขาชอนเดื่อหรืออุทยานถ้ำเพชร-ถ้ำทองในปัจจุบัน และเหตุผลที่สองตรงที่หลวงปู่ฤาษีตาไฟท่านบอกว่า พวกเราจะมีเหตุให้ไม่ไ้ด้พักกันที่วัดหนองทาระภู ท่านพูดแล้วก็ยิ้มแบบเมตตาถึง ๓ ครั้ง (๓ ครั้งนี้หญิงหมายถึงจากการกราบเรียนถามต่างวาระกันทั้ง ๓ ครั้ง) แล้วท่านก็พูดเป็นนัยถึงสถานที่อีกที่หนึ่ง ทั้ง ๆ ที่คณะยังไม่ได้กราบเรียนท่านเลยว่าครั้งแรกเคยมีความคิดอยากจะไปพักที่ไหน เพราะฉะนั้นทริปนี้กรุณาเตรียมกายและใจไว้สำหรับกางเต๊นท์นอนกลางดินกินกลางทรายแถวบริเวณอุทยานฯ กันได้เลยค่ะพี่น้อง <label for="rb_iconid_21">[​IMG]</label>


    Link ตอน พระเจ้าของถ้ำหุงข้าว

    ˹ѧ��� ��ǧ��͸ش��� �� ��ǧ��;���Ҫ�����ҹ �Ѵ��ҫا
     
  6. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    ... สรุปชาวคณะจะพักค้า่งคืนที่อุทยานถ้ำเพชร-ถ้ำทองกันนะคะ โดยมีสถานที่พักให้เลือก ๒ สถานที่ คือ

    ๑. บ้านพักของอุทยาน จำนวน ๒ หลัง
    ๒. พักค้างคืนปฎิบัติธรรมในถ้ำ (ตรงนี้ตามอัธยาศัย)

    ต้องขอขอบคุณน้องอ้วน(ผู้ประสานงานทางอุทยาน) และน้องธีร์(ผู้ประสานงานทางตาคลี) มา ณ.ที่นี้ด้วย เรื่องรูปภาำพภายในถ้ำต่าง ๆ ที่อยู่ภายในอุทยานถ้ำเพชร-ถ้ำทอง น้องอ้วนจะถ่ายจากสถานที่จริงล่าสุดและส่งมาให้ ไว้หญิงจะนำมาลงให้กัลยาณมิตรทุกท่านได้ดูร่วมกันอีกครั้งหนึ่งค่ะ

    ส่วนเรื่องทางวัดเขาวง(ถ้ำนารายณ์) น้องชไมเป็นผู้ประสานงานให้เรื่องเวลาที่คณะเข้ากราบหลวงตา ก็ต้องขอขอบคุณน้องชไมและขอโมทนาบุญกับกัลยาณมิตรทุกท่านที่ได้ให้ความช่วยเหลือในทริปนี้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ที่เหลือก็แล้วแต่วาระธรรมะจัดสรรของสมาชิกแต่่ละคนและวาระธรรมะจัดสรรของแต่ละสถานที่ค่ะ<label for="rb_iconid_31">[​IMG]</label>
     
  7. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,949
    ค่าพลัง:
    +43,556
    มาติดตามความคืบหน้าของโครงการ อนุโมทนาด้วยจ่ะ คุณหญิง...
     
  8. Teetab

    Teetab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +4,659
    เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และครอบครัว ที่ทำงาน
    ร่วมกันทำบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐม หน้าตัก 10 วา วัดหนองหญ้าปล้อง จ.กาญจนบุรี

    จำนวน 3,100 บาท


    และผมจะไปร่วมงานหล่อสร้างสมเด็จองค์ปฐม วันที่ 24 กรกฏาคม 2552 กลับมาแล้วจะถ่ายภาพมาฝากนะครับ

    ขอทุกท่านอนุโมทนาร่วมกันครับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2009
  9. Teetab

    Teetab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +4,659
    รายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องที่พัก
    โดยได้รับการช่วยเหลือจาก คุณอ้วน ซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อท่านหนึ่ง ที่อยู่ในพื้นที่ตาคลี ช่วยประสานเรื่องที่พักให้ ต้องขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้

    โดยบ้านจะมี 2 หลัง เป็นบ้านผู้หญิง 1 หลัง บ้านผู้ชาย 1 หลัง สำหรับท่านใดจะเจริญกรรมฐาน ณ บริเวณ ถ้ำ (ได้เฉพาะบางถ้ำเท่านั้น เพราะยังเป็นป่า มีแมงป่อง งู ผีชุกชม แต่ควรจะนำมีดหมอ หรือพระขรรค์โสฬส ไปด้วยนะครับทุกคน และต้องนำตะเกียง ไฟฉาย ไม้กวาด ผ้าปู เต็นท์ อุปกรณ์อยู่ป่าให้พร้อม) ก็สามารถกระทำได้ แต่ต้องแจ้งทางเจ้าหน้าที่วนอุทยาน ก่อนครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2009
  10. Teetab

    Teetab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +4,659
    สถานที่ที่ท่องเที่ยวของวนอุทยานถ้ำเพชร-ถ้ำทอง

    ส่วนใหญ่เป็นจำพวกถ้ำ จากการสำรวจพบว่ามีถ้ำทั้งหมดประมาณ 70 ถ้ำ ขณะนี้ได้มีการพัฒนาให้เข้าเที่ยวชมแล้วจำนวน 9 ถ้ำ แต่ละถ้ำมีความหลากหลายแตกต่างกันและยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 1.2 กิโลเมตร ตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติมีทรัพยากรธรรมชาติเหมาะแก่การเรียนรู้อีกมากมาย ซึ่งได้จัดทำไว้เป็นจุด ๆ ตามเส้นทางเดิน ซากสัตว์ดึกดำบรรพ์ ในยุคต่าง ๆ มีอยู่จำนวนมากตามก้อนหินบนเขาและตามผนังถ้ำ โครงกระดูก มนุษย์โบราณ เครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องปั้นดินเผา อายุนับพันปี ในอดีตเมื่อวันที่ 17 มกราคม ร.ศ. 129 หลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล ได้ค้นพบศรสัมฤทธิ์ พร้อมด้วยลูกศร ได้ถวายศรแด่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัวฯ (รัชกาลที่ 6) ทรงพระราชทานนามศรว่า “พระแสงศรกำลังราม”

    จุดเด่นที่น่าสนใจของวนอุทยานมีดังนี้
    1. ถ้ำบุษราคัม ภายในถ้ำมีห้องโถงขนาดใหญ่ 2 ห้อง มีหินงอก หินย้อยหลายสีสลับเป็นชั้น ๆ บางจุดเป็นเหมือนปุยนุ่นสีขาวบริสุทธิ์ ยามกระทบกับแสงไฟจะเป็นประกายแวววาวประดุจเพชรอันล้ำค่า
    2. ถ้ำเพชรนางอาย เป็นอีกถ้ำที่มีความหลากหลาย มีความลี้ลับในตัว ตามทางเดินและผนังถ้ำมีหินงอกหินย้อยแสนวิจิตรพิสดารยิ่งนัก
    3. จุดชมวิว ได้แก่ จุดชมวิวผาชมภู อยู่เลยถ้ำวิมานลอยไปทางทิศตะวันออก ความสูงอยู่ที่ระดับ 345 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีทัศนียภาพที่สวยงามสามารถมองเห็นตลาดตาคลีและเขาขวางที่ทอดเป็นแนวยาวด้านอำเภอตากฟ้า
    4. สมุนไพรยักษ ต้นกำลังหนุมาน ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรที่ใหญ่ วัดโดยรอบลำต้น 139 เซนติเมตร
    5. เครื่องปั้นดินเผา หม้อไหโบราณลายต่าง ๆ และของใช้ยุคมนุษย์ถ้ำ
     
  11. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    วันนี้ได้โอนเงินมาร่วมทำบุญ 300 บาท จากkbank สาขา เดอะมอลล์ ท่าพระค่ะ

    ขอบคุณและอนุโมทนากับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
     
  12. Teetab

    Teetab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +4,659
    อนุโมทนาด้วยครับ
     
  13. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    <label for="rb_iconid_31">[​IMG] </label>โมทนากับน้องธีร์และทุก ๆ ท่านในบุญครั้งนี้ด้วยค่ะ


    <label for="rb_iconid_31">[​IMG]</label>โมทนาค่ะ

    หญิงจะแบ่งทำบุญให้ครบทุกวัดทุกสถานที่ ๆ ชาวคณะได้ไปในทริปนี้ค่ะ

     
  14. cinderella2517

    cinderella2517 Mindset Coach และ นักพยากรณ์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +1,404
    งานนี้จะมีผจญภัย หรือผจญผีบ้างไหมเนี่ย อิอิ นางซินฯจะมีโอกาสเห็นในสิ่งที่เคยอยากเห็นไหมหนอ เหอๆๆๆ
     
  15. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    ผจญภัยน่ะมี แต่ผจญผีไม่ทราบค่ะคุณกุ้ง งานนี้แล้วแต่วาระใครวาระมันแล้วกันค่ะ ฮิ ฮิ ฮิ
    rabbit_scaryrabbit_scaryrabbit_scary




    ;aa59
    - อ่านรายละเอียดกำหนดการทริปฯ ได้ที่หน้า ๗๗ คคห.ที่ ๑๕๒๖
    (มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องที่พักและปรับเส้นทางนิดหน่อย แต่ทุกสถานที่ยังคงเดิม ไว้หญิงจะเข้าไปแก้ไขข้อมูลล่าสุดให้ค่ะ)

    - ตรวจสอบรายชื่อสมาชิกผู้ร่วมเดินทางและกัลยาณมิตรผู้บริจาคเงินร่วมทำบุญในทริปนี้ได้ที่หน้า ๗๘ คคห.ที่ ๑๕๔๑


    - อ่านประวัติแต่ละสถานที่ตามเส้นทางทริปได้ที่หน้า ๗๘ คคห.ที่๑๕๔๓ เป็นต้นไป
     
  16. คนบรรพต

    คนบรรพต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2007
    โพสต์:
    647
    ค่าพลัง:
    +4,456
    ขออนุโมทนากับคุณ ญ.ผู้หญิง, น้องธี และทุก ๆ ท่าน ด้วยนะครับ น้องธีก็บอกซะน้องที่ไปด้วยกลัวเลย ไม่ถึงขนาดนั้นครับ ไม่มีแมลงป่อง งู และสัตว์ดุร้ายขนาดนั้นครับ แต่ถ้าผีน่าจะมีเพราะคงจะมารอรับส่วนกุศลที่ทางคณะจะมาพักน่ะครับและอุทิศให้น่ะครับ แล้วผมจะพาน้อง ๆ ไปร่วมทำความสะอาดรอไว้ครับผม และจะประสานเรื่องที่พักให้ด้วยครับ ไว้อาทิตย์หน้าจะไปเก็บภาพภายในถ้ำมาฝากครับ
     
  17. mang12

    mang12 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +67
    ไปด้วย หนึ่งคนได้มั้ยอ่ะ

    พอดีงานยุ่งไม่ได้เข้ามาดู พอมาดู อ้าวเต็ม ซะแล้ว อุตส่าห์ จด ๆ จ้อง กับทริปนี้ว่าจะไป เคียร์งานไว้แล้วด้วย นี่ถ้าไม่ได้ไปเสียดายแย่
     
  18. อวยชัย จิรชัยธร

    อวยชัย จิรชัยธร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +662
    มีคนเรียกร้องแฮะ สงสัยต้องเปิดอีกหนึ่งคัน หรือปล่าว ครับท่านผู้หญิง......
     
  19. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    โมทนาค่ะ

    ขอบคุณค่ะคุณอ้วน ส่วนคุณกุ้งทราบแล้วเปลี่ยน เตรียมตัวเตรียมใจไว้เลยนะคะ ฮิ ฮิ ฮิ



    ขอพี่ดูจำนวนสมาชิกที่แจ้งความประสงค์ร่วมเดินทางอีกสักนิดนะคะว่าจะมีเพิ่มเตืมเข้ามาได้อีกสัก ๑ คันหรือไม่ ถ้ามีเพิ่มเข้ามาเพียงพอพี่จะจัดรถเพิ่มให้ค่ะ

    เพราะฉะนั้น ขออนุญาตแจ้งข่าวตรงนี้เลยว่า กัลยาณมิตรท่านใดที่มีความประสงค์จะร่วมทริปธรรมทัศนาจร (๕) นี้ ขอให้ลงชื่อแจ้งความประสงค์เพิ่มเติมได้ค่ะ ถ้าไม่สดวกแจ้งชื่อทางกระทู้ขอให้โทรแจ้งหรือส่งชื่อทาง PM ได้ เปิดรับทั้งกัลยาณมิตรที่เป็นสมาชิกของเว็บพลังจิตและกัลยาณมิตรที่เป็นบุคคลภายนอก

    สำหรับการเดินทางขึ้นเขาขึ้นบันไดในบางสถานที่่ มีกัลยาณมิตรบางท่านที่สนใจร่วมเดินทางแต่มีปัญหาเรื่องสุขภาพสอบถามหลังไมค์มาว่ากลัวจะเป็นภาระหรือตัวถ่วงให้กับทุก ๆ ท่าน หญิงขอแจ้งตรงนี้เลยนะคะว่าชาวคณะฯ ไม่เคยทอดทิ้งกันพวกเราช่วยเหลือกันมากในทุก ๆ ด้าน ลุยกันมาเยอะแล้วในหลายทริป มีแต่จะยิ่งผูกพันช่วยเหลือกันมากขึ้นและก็พร้อมที่จะแบ่งปันน้ำใจนั้นไปสู่สมาชิกใหม่อีกหลาย ๆ ท่าน เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวปัญหาตรงนี้ เพราะอย่างดีมาถ้าขึ้นไม่รอด หญิงจะปล่อยทิ้งไว้ให้นั่งรอตรงเชิงบันไดค่ะ ฮิ ฮิ ฮิ (ล้อเล่น)


    ;aa8
     
  20. Teetab

    Teetab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +4,659
    มีบางท่านบอกว่า ไปถ้ำเพชรถ้ำทอง คราวนี้เจอดีแน่
    ไม่รู้เหมือนกันว่าเจออะไรนะ แต่เจอดี ก็ดีกว่าเจอไม่ดี ใช่มั้ยครับ พี่กุ้ง 555


    เอาบุญมาฝากเพิ่มเติม
    ยอดทำบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐม หน้าตัก 10 วา ณ วัดหนองหญ้าปล้อง
    มีผู้ใจบุญโทรฝากทำบุญ รวมเป็นยอด 3,307 บาท

    แต่กลับจากวัดก็มีเพื่อนหลายคนฝากทำบุญต่ออีก
    ก็ตั้งใจว่าจะทำบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐม เนื้อทองคำ 10 นิ้ว ต่ออีกครับ

    แต่ 2 สัปดาห์นี้ ผมตั้งใจจะรวมบุญทำบุญกับทริปถ้ำเพชรถ้ำทอง ก่อนครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...