พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับคุณเพชร ... โมทนาสาธุครับ!

 

เหมือนยังกับตาเห็นเลยครับ กำลังศึกษาอยู่พยายามหาจุดตายแต่ไม่พบครับ

 

สำหรับท่านที่สนใจจะสมัครสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า

ผมมีกติกาอยู่สองเรื่อง คือ

1.ต้องร่วมทำบุญ ร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ทำมาก ทำน้อยไม่เป็นไร ทำบ่อยๆดีครับ

2.เข้ามาพูดคุยกันในกระทู้พระวังหน้าฯนี้ บ่อยๆ

เมื่อถึงเวลา ผมจะขอเบอร์โทร.ของท่านเอง

ไม่ต้อง pm เข้ามาหาผม ทั้งเรื่องของการดูพระพิมพ์ ,วัตถุมงคลต่างๆ และขอสมัครสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า นะครับ หากท่าน pm เข้ามาหาผม ผมจะคัดลอกข้อความของท่าน มาลงในกระทู้พระวังหน้าฯ โดยจะไม่ปิดชื่อสมาชิกเว็บพลังจิต เหมือนกับในอดีตที่ผ่านมาแล้ว และจะตอบในกระทู้พระวังหน้าฯครับ

ขอบคุณครับ

 

หุหุ...ได้ข้อมูลมานิดหน่อยเองครับท่านรองฯ คงต้องรอคำชี้แนะจาก 2 รองฯ 1 เลขาฯ วันยังค่ำแหละคร้าบ...<!-- google_ad_section_end -->

 

โมทนาด้วยอย่างสูงครับคุณเพชร

จากก้นบึ้งของหัวใจ

 

อนุโมทนา สาธุ สาธุครับ นับถือๆมากๆ พี่ทั้ง2+1 จะนำของรักของหวงทำบุญเพื่องานบุญนี้ 2คน2สไตล์ พี่เพชรช่างเป็นคนที่ใจบุญและอบอุ่น ส่วนพี่หนุ่มมีน้ำใจต่อเพื่อนพ้องชาวรักษ์พระวังหน้าจริงๆครับ ผมจะไม่พลาดงานบุญนี้แน่นอน

 

ในเมื่อนำหน้านี้ของกระทู้นี้ มาคุยกันเรื่องพระสมเด็จกลักไม้ขีด ก็อยากขยายความเพิ่มเติมในหน้านี้ไปเลยว่า มี"เสี้ยน"บางท่านพยายามไปพบอาจารย์ปู่ที่บ้านชลบุรี ขอถ่ายภาพคู่กับอาจารย์ปู่ เพื่อนำภาพมาลงในหน้าขายพระเครื่องตรงชื่อร้าน เพื่อให้ดูปะหนึ่งว่าอาจารย์ปู่เป็นผู้การันตี เป็นผู้สนับสนุนว่าเป็นพระแท้ หรือผ่านการตรวจจากท่านแล้ว แท้ที่จริงไม่ใช่เลย อย่าเข้าใจผิด เอาเป็นว่า เขาคนนั้นเพียงเคยไปกราบปู่ ก็เท่านั้น... เรื่องทำนองนี้ก็คล้ายกับ พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จไปเสวยพระกระยาหารที่ร้านใด ร้านนั้นจะต้องถ่ายภาพเอาไว้เป็นหลักฐาน และนำมาติดเพื่อให้ดูปะหนึ่งว่า พระองค์สนับสนุนร้านนี้ ลองดูว่า ใช่ลักษณะเช่นตามนี้ไม๊ หรือจะให้ผมเข้าใจเป็นอื่น หรือจะให้เข้าใจว่าอย่างไร จริงๆมันคนละเรื่อง แต่พยายามนำมาผูกให้เป็นเรื่องเดียวกัน....พุทโธ่..ไม่น่าทำกันเลย ที่แท้ก็โลกธรรม ๘ นี่เอง....

เรื่องที่ ๒ เรื่องของสมเด็จกลักไม้ขีด บ้างเชื่อ บ้างไม่เชื่อ ช่วงที่พอหาได้ ก็ไม่เชื่อ แต่พอเริ่มเชื่อ กลับหาไม่ได้ แบบนี้ไม่ทราบว่าจะพูดยังไง...ผมเห็นว่า..น่าจะไม่เชื่อต่อไปจะได้ไม่เจ็บกระดองใจเปล่าๆ...

เรื่องที่ ๓ หากไม่เชื่อก็วางเฉยไปอย่าไปดู อย่าเกิดความสนใจ กรณีที่ท่านเชื่อว่ามีอยู่จริง ก็ติดตามเสาะหาข้อมูลจากหนังสือบุญพระเครื่องทุกฉบับมาดู หรือขอชมจากผู้ที่มีอยู่ เห็นมากก็รู้มาก ขอบเขต(scope)ของการเรียนรู้เรื่องต่างๆมันต้องมี ไม่งั้นมันจะสะเปะสะปะ อย่างเช่น มีสมุนไพรที่เรียนราว ๒,๐๐๐ ชนิด แต่ละชนิดมีลำต้น ใบ ราก ดอก ผล เมล็ด เปลือก ฝัก เกสร ที่นำมาทำยา ดังนั้น scope สิ่งที่ต้องจดจำก็ต้องเอา ๒,๐๐๐x๙=๑๘,๐๐๐ อย่างที่ต้องจดจำ แต่ใช้งานจริงอาจจะเพียง ๕,๐๐๐ อย่างที่ต้องรู้จริงๆ ไม่รู้ต้องถามครับ ผมเชื่อว่าคุณหนุ่มก็คงยินดีบอกเล่าให้ฟังด้วยประสบการณืตามหพระมา ๑๐ กว่าปี และทุกเสาร์อาทิตย์แบบนี้ ใครจะไปรู้ดีกว่าเขาในเรื่องเนื้อหาของพิมพ์พระ นี่คือตรวจทางรูป ส่วนตรวจทางนาม ก็ทำสมาธิแบบสมถะถึงฌาน ๔ ก็จะรู้เอง บางทีสิ่งที่อยากรู้แต่ต้น อาจจะพาลไม่อยากรู้อีกเลยเมื่อไปทางวิปัสสนา เพราะรู้แล้วก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรต่อโลกธรรม ๘ ที่ละได้แล้วนั่นเอง...

เรื่องที่ ๔ เรื่องที่ไม่เคยเห็น หรือยังไม่รู้ยังมีอีกมาก แต่เข้าใจว่ารู้แล้ว เห็นหมดแล้ว..หุ..หุ..น่าขำมาก ผมสมมติเรื่องหนึ่งให้ดู เรื่องของปอมเปอี ที่ครั้งหนึ่งเคยไปเยือน ก็เกิดมาเมื่อคศ. ๗๙ แต่กว่าจะค้นพบก็ในราว ค.ศ ๑๕๓๔ แต่ไม่มีผู้ใดสนใจมาก จนเมื่อค.ศ ๑๘๖๑ จึงค้นพบว่าเป็นจริง เพื่อนๆลองคิดดู ว่าจะไม่ช้าได้ยังไง ในเมื่อ ห้ามบ้านเรือนตั้งในเขตพื้นที่อนุรักษ์นี้(เมืองมรดกโลกอยุธยาเราจัดการไม่เป็น อีกหน่อยจะเสียหายกว่านี้ คอยดูกันต่อไป...) ตอนผมไปสถานที่นี้ราวปี ๒๐๐๕ นักศึกษาโบราณคดียังใช้แปรงเล็กๆปัดๆ หาร่องรอยหลักฐานที่ยังอยู่ใต้ดินอีกมากมาย พื้นที่เป็นหมื่นไร่ ใช้อุปกรณ์แค่นี้ ...กว่าจะพบหมด ผมว่าอีกหมื่นปีก็ยังไม่จบ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับการค้นพบกรุพระวังหน้า วังหลวงแล้วเพียงไม่ถึง ๑๕๐ ปี ทำไมเชื่อกันยากจัง!!! ดังนั้นที่เชื่อก็มี ที่ไม่เชื่อก็มี แต่ผมเชื่อว่า วันหนึ่งคนจะเชื่อมากขึ้นๆ เพราะการตามหาพระวังหน้า วังหลวงแท้ๆในปัจจุบัน ยากลำบากขึ้น อีกทั้งราคาก็สูงขึ้น ที่เจอแล้ว แต่กลับไม่เชื่อ หรือกลัวคนไม่เชื่อ ทางวัดก็เอาตรายางวัดไปประทับตรารูปวัดด้านหลังองค์พระเสียนี่ จะให้จริง กลับดูปลอมไปเลย เพราะอะไร ท่านลองพิจารณาความนี้ หากตรวจอายุพระ จะทราบว่าเป็นช่วงกรุงศรีฯ แต่ตราวัดเพิ่งสร้างวัดกันในสมัยรัตนโกสินทร์ แล้วท่านว่า มันปลอมหรือเปล่าละท่าน....ขำๆนะครับ เรื่องแบบนี้ก็ทำกันไปได้ มันไม่สมเหตุผล...

ปอมเปอี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
<!-- start content -->

แผนที่ของวิสุเวียส ปอมเปอี และเมืองใกล้เคียง ขณะวิสุเวียสระเบิด วันนั้น ทิศทางลมพัดเถ้าถ่านมาที่ปอมเปอี



ภาพกราฟิกจำลองวาระสุดท้ายของเมือง ในสารคดีของ BBC เรื่อง Pompeii: The Last Day



ผู้เสียชีวิตในปอมเปอี ถูกความร้อนเผาจนร่างกายกลายเป็นโพรง จึงต้องหาโพรง และเทปูนปลาสเตอร์ จะเห็นเป็นร่างผู้เสียชีวิต



ภาพวาดหายนะในปอมเปอีของ Karl Brullov วาดขึ้นในช่วง ค.ศ. 1830-1833


เมืองปอมเปอี (Pompeii) ก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณ 550 ปีก่อนคริสต์ศักราช แต่ยังเป็นเพียงเมืองของชนเผ่าเร่ร่อน จนกระทั่ง 80 ปีก่อนคริสต์ศักราช ปอมเปอีจึงได้เป็นเมืองของอาณาจักรโรมัน และชาวปอมเปอีจึงได้รับการยอมรับเป็นพลเมืองโรมัน หลังจากนั้นไม่นาน ชาวโรมันที่มั่งคั่งพากันสร้างบ้านพักตากอากาศตามชายฝั่งทะเลของปอมเปอี และบริเวณลาดเขาของภูเขาไฟวิสุเวียส และผู้คนเหล่านี้ได้ลงทุนทำอุตสาหกรรมผลิดสิ่งหรูหราฟุ่มเฟือยขึ้นในเมืองนี้ และไม่นานปอมเปอีก็กลายเป็นศูนย์กลางการค้าอันมั่งคั่ง เต็มไปด้วยผูคนที่มีความสามารถสูง ภายในเมืองมีทั้งสถาปัตยกรรมต่างๆที่ไม่เหมือนใครอยู่มากมาย แต่ที่เด่นๆก็คือ หลังคาเหนือห้องโถงจะมีช่องโหว่ใหญ่ด้านกว้าง และหลังคาเอียงลาดลงไปทางรูโหว่นั้น เมื่อฝนตก น้ำฝนจะไหลลงไปตามหลังคา ลงไปตามรูโหว่ และไหลลงสู่อ่างกระเบื้องที่อยู่ใต้รูโหว่ และไหลสู่ถังเก็บน้ำ และนอกจากนี้ ยังสะพานส่งน้ำและน้ำพุสาธารณะ ซึ่งน้ำสะอาดมาก แต่ชาวปอมเปอีจะสะดวกสะบายมากต่อเมื่อมีฐานะดี แต่ครอบครัวที่ยากจนลงมาจะต้องเริ่มทำงานหาเลี้ยงตนตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ผู้ที่ร่ำรวยส่วนมากก็เป็นทาสที่เป็นอิสระแล้ว ซึ่งคนรวยประเภทนี้ไม่มีอำนาจทางการเมือง คนที่จะมีอำนาจทางการเมืองได้นั้นจะต้องไม่เคยเป็นทาส
อุตสาหกรรมหลักของเมืองปอมเปอี คือ ผลิตเหล้าองุ่นและผ้าขนสัตว์

[แก้] หายนะของเมืองปอมเปอี

วันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 79 เวลา 13นาฬิกา 30 นาที ภูเขาไฟวิสุเวียสได้ระเบิดขึ้น ฝุ่นควัน หินพัมมิซ และก๊าซพิษจำนวนมากถูกพ่นออกมา กระแสลมในวันนั้นได้พัดพามันไปที่เมืองปอมเปอี และสตาเบีย ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของวิสุเวียส แต่เมืองปอมเปอีใกล้กว่า จึงได้รับผลกระทบมากกว่า ในช่วงเวลาไม่กี่นาที ท้องฟ้าเหนือเมืองปอมเปอีก็ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันจากภูเขาไฟจนแสงอาทิตย์ไม่อาจส่องลอดมาได้ จึงตกอยู่ในความมืดคล้ายยามราตรี หลังจากนั้นไม่นาน หินพัมมิซในฝุ่นควันก็เริ่มจับตัวกันเป็นก้อนใหญ่ที่หนักขึ้น เย็นลง และเริ่มร่วงลงมาสู่เมืองปอมเปอี ชาวเมืองเริ่มวิตก บางคนรีบหนีไป บางคนไปหลบในบ้านหรือในสถานที่ส่วนรวม
ต่อมาไม่นานนัก ชาวปอมเปอีก็เริ่มหายใจไม่ออก เพราะก๊าซพิษที่ภูเขาไฟพ่นออกมาทำให้อากาศไม่สะอาด ผู้ที่พยายามจะหนีส่วนใหญ่ตาย สาเหตุการตายส่วนใหญ่เพราะหินพัมมิซขนาดใหญ่หล่นใส่หัว แล้วก็ล้มลงหมดสติ แล้วก็ขาดอากาศหายใจจนตายในที่สุด ตกเย็นวันเดียวกันนั้นเอง ชาวปอมเปอีที่หลบภัยในบ้านเริ่มตาย เพราะหินพัมมิซทับถมกันหนาจนบ้านถูกฝังและขาดอากาศหายใจจนตาย ต่อมาไม่นาน หลังคาบ้านก็เริ่มถล่ม เพราะรับน้ำหนักหินไม่ไหว ทำให้ผู้คนถูกฝัง
วันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 79 ช่วงเช้า วิสุเวียสระเบิดแรงขึ้น ทำให้ท้องทะเลปั่นป่วนเพราะแรงสั่นสะเทือน คลื่นชายหาดแรงมากจนบ้านพักตากอากาศริมทะเลถูกคลื่นซัดพังไปหลายหลัง ช่วงบ่าย กระแสลมเปลี่ยนทิศไปทางทิศตะวันตก(เยื้องใต้เล็กน้อย) นำพาฝุ่นควันสู่เมืองมิเซนัมและเฮอร์คิวเลเนียม แต่เฮอร์คิวเลเนียมอยู่ใกล้กว่ามาก จึงได้รับหายนะมากกว่า
วันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 79 ภูเขาไฟระเบิดเบาลง แต่ก็เกิดฝนตกลงมาบริเวณลาดเขาของภูเขาไฟวิสุเวียส ซึ่งเต็มไปด้วยเถ้าถ่านที่ร้อนจัด
วันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 79 น้ำฝนละลายผสมกับเถ้าถ่านกลายเป็นโคลนเดือดไหลทะลักลงมากลบเมืองเฮอร์คิวเลเนียม ชาวเมืองหลายร้อยคนเสียชีวิต แต่เป็นเพียงส่วนน้อย เพราะส่วนใหญ่ได้ล่องรืออพยพออกไปแล้ว ไม่นาน วิสุเวียสก็หยุดอาละวาด
ผู้รอดตายได้กลับไปยังเมืองของตน แล้วได้นำซากอาคารที่โผล่พ้นเถ้าถ่านฝุ่นควันไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น
นักประวัติศาสตร์ชาวโรมชื่อ แทซิทัส ได้ทำการบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวไว้เป็นภาษาละติน

[แก้] การขุดค้นพบเมืองปอมเปอี

ใน ค.ศ. 1534 ได้มีการขุดค้นพบซากเมืองปอมเปอีเป็นครั้งแรก แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ ต่อมาใน ค.ศ. 1689 คนงานขุดคลองส่งน้ำคณะหนึ่ง ได้ขุดไปเจอซากสิ่งก่อสร้างแบบโรมัน และพบเหรียญเงินและรูปปั้น ซึ่งพวกเขาได้เคลื่อนย้ายออกไป และขุดคลองต่อ
ค.ศ. 1748 ตระกูลบูร์บง ซึ่งเป็นเชื้อสายกับราชวงศ์บูร์บง ซึ่งเป็นผู้ปกครองรัฐเนเปิลส์ในอิตาลีระหว่าง ค.ศ. 1734-ค.ศ. 1861 ได้สนใจที่จะค้นหาเมืองปอมเปอี พวกเขาจึงใช้เงินจ้างคนงานไปขุดเมืองโดยกยการขุดเป็นอุโมงค์เข้าไปจนพบเมือง พวกเขาจึงสั่งให้นำสิ่งของมีค่าออกมาและเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวของตระกูลบูร์บง
ค.ศ. 1861 รัฐต่างๆในอิตาลีได้รวมกันเข้าเป็นประเทศเดียวกัน ส่งผลให้ตะกูลบูร์บงล่มสลาย ชาวอิตาลีจึงให้ความสนใจกับการขุดปอมเปอีมากขึ้น จิอูเซปเป ฟีออเรลลี ได้เป็นหัวหน้าคณะนักโบราณคดี เขาได้คิดวิธีอันน่าทึ่งในการขุดปอมเปอี เช่น ร่างกายชาวปอมเปอีนั้น ได้ถูกความร้อนและกาลเวลาเปลี่ยนสภาพเป็นโพรงขี้เถ้าขนาดเล็ก เขาได้เจาะรูลงไปเป็นรูเล็กๆ และเทปูนปลาสเตอร์ลงไป รอให้แห้งแล้วจึงขุดขึ้นมา ทำให้เห็นถึงท่าทางสุดท้ายของชาวเมืองหลายคนก่อนที่จะตาย
ค.ศ. 1924-ค.ศ. 1961หัวหน้าคณะนักโบราณคดีได้เปลี่ยนคนเป็น อเมดีโอ มายอูรี เขาบูรณะซ่อมแซมฝาผนังและเพดาน ข้าวของเครี่องใช้ที่นำมาศึกษาจะถูกวางไว้ที่เดิมหลังศึกษาเสร็จ และเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งผู้มาท่องเที่ยวจะสัมผัสได้ถึงชีวิตที่หรูหราในปอมเปอีและพลังอำนาจของธรรมชาติ

 

ต้องดูของจริงๆครับ

เพราะพระสมเด็จ กลักไม้ขีด พึ่งได้พบเมื่อประมาณสัก 2 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น ข้อมูลจึงไม่มี ที่ว่าข้อมูลไม่มีก็เนื่องจากไม่เคยพบมาก่อน

ท่านที่รู้เป็นท่านแรกที่บอกผมเรื่องพระสมเด็จ กลักไม้ขีดก็คือพี่ใหญ่ ซึ่งผมและพี่ใหญ่ก็ได้ผ่านมรสุมมามากพอสมควร มีบางคนด่าผมว่า นี่มันของเก๊ เขาไม่เก็บไว้ให้รกบ้าน แต่สุดท้ายโทร.ไปหาพี่ใหญ่ว่า ยังมีอีกไหม ซึ่งคนที่ด่าผม เคยนำพระพิมพ์ที่ได้จากท่านอาจารย์ประถม ไปขายกับบุคคลท่านนึงในจำนวนประมาณ 4 ล้าน บุคคลท่านนี้ได้นำพระพิมพ์ดังกล่าวมาให้ท่านอาจารย์ประถมดู ท่านอาจารย์ประถมท่านบอกว่า นี่เป็นพระพิมพ์ของท่าน

สุดท้ายความแตก บุคคลท่านนี้ได้ไปบอกกับคนนี้ว่า จะคืนพระพิมพ์และขอเงินคืน แต่คนนี้ก็บอกว่า เขาขอค่าเสียเวลา 2 ล้าน บุคคลท่านนี้ก็เลยยอม เพราะดีกว่าไม่ได้เงินคืนมาเลย

ยังมีอีกหลายๆเรื่อง ที่เกี่ยวกับพระสมเด็จ กลักไม้ขีด ที่ผมขอไม่เล่าต่อ

คุณเพชรครับ เล่นชมกันแบบนี้ ตอนนี้ผมต้องเกาะโต๊ะ และเกาะเก้าอี้ไว้แน่น ไม่งั้นเดี๋ยวลอย เกาะเก้าอี้ไว้ตัวเดียวก็ไม่ได้ เพราะจะลอยไปพร้อมเก้าอี้ครับ อิอิ

.

 

ท่านพี่ทั้งสองไม่ได้นำออกประมูลนะคะ เดี๋ยวท่านอื่นๆจะเข้าใจผิดคะ

 

ขอบใจน้องอุ้มครับ

เรื่องการประมูล ผมไม่สามารถนำพระวังหน้า มาประมูลได้ เดี๋ยวโดนดุ ผมโดนดุมาแล้วครับ

ผมโดนดุอย่างไร ไว้วันประชุมชมรมรักษ์พระวังหน้า อย่าลืมถามผมนะครับ ผมจะเล่าให้ฟัง

.

 

หุ..หุ..เสี่ยท่านนี้เวลาดูพระสมเด็จของใครๆจะติว่าเก๊บ้าง ไม่สวยบ้าง แต่ขอโทษที พระของเสี่ยแกแท้ทุกองค์ แพงทุกองค์ และปกติเสี่ยท่านนี้จะพบคณะพระวังหน้าแทบทุกครั้งที่ไปกราบอาจารย์ปู่ ปัจจุบันเสี่ยท่านนี้ไม่กล้ามาสู้หน้าปู่แล้ว เขารู้ไต๋กันไปทั่ว วันที่ได้พบพี่ที่ถูกเสี่ยเขาหลอก วันนั้นผมได้นำพระสมเด็จหลังประทุนให้อาจารย์ปู่แจกทุกท่านที่ไปในวันนั้น อาจารย์ปู่มอบให้แต่ละท่าน พรางพูดว่า นี่แหละของแท้ ของดี ดีกว่าพระ....อีก คือพี่เขาเข้าใจว่าพระสมเด็จต้องราคาแพง แต่กาลกลับกลายเป็นว่าได้ฟรีทุกรายการ..ผมว่าพี่เขาคงงงนะที่ทำไมพระที่ดีกว่าพระ...ถึงให้กันฟรีๆ........

 

ขออภัยด้วยน้องใหม่หัดขับ แก้ไขแล้วครับ

 

จะหารุ่นแรกกัน ต้องหารุ่นแรกๆให้ได้หมด เช่น อกครุฑน้ำว่านรุ่นแรก ปัญจสิริรุ่นแรก ฯลฯ หากันให้ครบ ความอยากจะลดลงเมื่อถึงที่สุดของความอยาก...

 

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร:::
ผมทายว่า ๔ ท่านนี้ในคณะพระวังหน้า ต้องเคยไป search หาข้อมูลสมเด็จกลักไม้ขีดใน เวปไซด์อย่างแน่นอน..อิ...อิ...เป็นยังไงมั่งครับ ....
มูริญโญ่, แหน่ง, chantasakuldecha, psombat

พอดีงานยุ่งๆอยู่ 2-3 วันอย่างเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาทางบริษัทได้มีงานเปิดตัวภาพลักษณ์ใหม่ต้องไปร่วมงานตั้งแต่รอบบ่ายรอบสื่อมวลชนจนรอบค่ำระดับหัวหน้างานเมื่อวานกับวันนี้ก็คุมการย้ายตำแหน่งสินค้าจนดึกไม่ได้กลับบ้านนอน
ช่วงนี้เลยยุ่งนิดนึงครับก็เลยเข้ามาดู web แบบสินมั่นคงประกันภัยคือมาไวไปไวครับแบบว่า แว๊ป ๆ
ผมว่าพระสมเด็จกลักไม้ขีดที่คุณ เลขา ได้มาจากท่านรองทั้ง 2 สวยครับวันที่ไปในงานประชุมที่บ้านท่านอาจารย์ผมได้เห็นแล้วครับว่าสวยงามมากจริงๆที่เห็นเพราะว่าคุณพี่ไฟดูดขอให้คุณน้องพรสว่าง น่าจะไม่ผิดนะครับ
พอดีผมไม่รู้จาห้อยยังไงครับ ( องค์ใหญ่ครับ ) พอดีผมชอบองค์แบบว่าเล็กๆครับ นี่กะลังชั่งใจอยู่ครับ ฮิฮิฮิฮิฮิ ให้คุณแหน่งกับคุณสมบัติแซงหน้าผมไปก่อนครับ ฮิฮิฮิฮิฮิฮิ
พระทุกๆองค์ที่ได้จากคุณสิทธิพงศ์ผมเชื่อในคุณภาพคับแก้วอยู่แล้วครับ;aa4:z8

 

อาทิตย์ก่อนได้ MP3 ของหลวงปู่โชดก วัดมหาธาตุ พี่ท่านหนึ่งรับปากว่าจะให้หนังสือธรรมะของหลวงปู่โชดก ซึ่งได้รับมาจากหลวงพ่อวัดอรุณฯ เอาไว้ให้ได้รับ CD แผ่นที่ ๔ ครบก่อน จะ write ให้ท่านที่สนใจก็มีคุณหนุ่ม ก็สนใจธรรมะที่เป็นทางนามกันบ้างครับ ดูทางรูปก็ดูไป สนใจทั้ง ๒ อย่าง ก็ได้เปรียบกว่าคนอื่นๆเขานาครับ..

 

เรื่องของการประมูล ผมไปค้นมาให้อ่านกันอีกรอบ
http://palungjit.org/threads/เธžเธฃ...ตเนˆเธˆเธฐเน„เธ”เน‰.22445/page-393#post675747

หน้าที่ 393

<TABLE class=tborder id=post675747 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">28-08-2007, 11:35 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #7859 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sithiphong<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_675747", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Dec 2005
ข้อความ: 31,721
Groans: 109
Groaned at 106 Times in 58 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 20,478
ได้รับอนุโมทนา 208,001 ครั้ง ใน 26,167 โพส
พลังการให้คะแนน: 14774


</TD><TD class=alt1 id=td_post_675747 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start --><TABLE class=tborder id=post675093 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">27-08-2007, 11:35 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#8201 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_675093", true); </SCRIPT>
สมาชิก ยอดนิยม
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 11:34 AM
วันที่สมัคร: Dec 2005
ข้อความ: 14,218
ได้ให้อนุโมทนา 16,702 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 77,187 ครั้ง ใน 10,586 โพส
พลังการให้คะแนน: 9169



</TD><TD class=alt1 id=td_post_675093 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">ตามที่ผมได้เปิดให้ประมูลพระพิมพ์เพื่อนำเงินไปสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งตามนี้ครับ

****************************************************
(วันที่ 22 สิงหาคม 2550)
ผมเปิดให้ประมูล พระฐานผ้าทิพย์(พระบัณฑูร) พระวังหน้า มีการสร้างที่วังหน้า พิธีพุทธาภิเษกที่พระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส



จำนวน 1 ชุด (4 พิมพ์) (และท่านที่ประมูลได้ ผมมอบพระพิมพ์พิเศษ 2 หน้า ที่มีทั้งหมด 44 พิมพ์ ปี พ.ศ.2408 อีก 1 องค์ ,พระซุ้มไทรย้อย พระกรุวังหน้า สมัยอยุธยา รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม พ.ศ.2145 เพิ่มเติมให้ รายละเอียดจะมีอยู่ในหนังสือปู่เล่าให้ฟังเล่มแรกครับ )

การประมูลเริ่มต้นจำนวนเงิน 3,000 บาท ประมูลเพิ่มครั้งละไม่ต่ำกว่า 100 บาท

เงินที่ประมูลให้ร่วมทำบุญในกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิบมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ

การร่วมทำบุญ สามารถร่วมทยอยทำบุญไปได้เรื่อยๆจนกว่าจะครบได้ครับ

สิ้นสุดการประมูล วันที่ 31 สิงหาคม 2550 เวลา 9.09 น. A.M. (เวลาในเว็บพลังจิต)

ผู้มีสิทธิ์เข้าประมูล ต้องเป็นผู้ที่เคยร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ตั้งแต่ลำดับที่ 1 ถึงลำดับที่ 224 เท่านั้น (รายนามผู้ร่วมทำบุญลำดับ 1 ถึงลำดับที่ 148 อยู่หน้าแรกในกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ )
และผมจะนำเงินจำนวนนี้ เข้ากองมหากฐิน สนส.ผาผึ้ง



สำหรับท่านที่ไม่เคยร่วมทำบุญมาเลย สามารถร่วมประมูลได้โดยมีหลักเกณฑ์เพิ่มเติมดังนี้ คือเข้าร่วมประมูลตามปรกติ แต่เมื่อประมูลได้ ต้องร่วมทำบุญเพิ่มเติมอีกจำนวน 50,000 บาท



เหรียญบาท ที่อยู่ในรูปนั้น ผมแสดงให้เห็นขนาดของพระพิมพ์ครับ

พระพิมพ์ที่ผมมอบเพิ่มเติมให้คือ พระซุ้มไทรย้อย จำนวน 1 องค์ พระกรุวังหน้า สมัยอยุธยา รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม พ.ศ.2145 เป็นพระที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 3 พระองค์คือ1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)เป็นองค์อธิษฐานจิตครับ

(องค์ซ้าย พระซุ้มไทรย้อย)

และพระพิมพ์ (พิเศษ 44 พิมพ์) จำนวน 1 องค์ เป็นพิมพ์สองหน้า เนื้อขาวลงรักปิดทอง มีกริ่งในตัว ด้านหนึ่งมีเขียนว่า ลาภ อีกด้านมีเขียนว่า โชค ลาภ เงิน ทอง


เพิ่มเติม
การมอบพระพิมพ์เพิ่มเติมสำหรับท่านที่ประมูลได้ตามจำนวนเงินที่ผมแจ้งมานี้นะครับ

1.สิ้นสุดการประมูล มีผู้ที่ประมูลได้เกิน 15,000 บาท
ผมจะมอบพระสมเด็จวังหน้า (เนื้อเป็นสีเดียว 6 องค์ 6 สี) ,พระสมเด็จ เนื้อปูนเพชร ผสมพระธาตุ 1 องค์


2.สิ้นสุดการประมูล มีผู้ที่ประมูลได้เกิน 20,000 บาท
นอกจากในข้อที่ 1.ที่ผมจะให้แล้ว
ผมจะมอบพระกรุวังหน้าอยุธยา พิมพ์ซุ้มไข่ปลา 1 องค์ (องค์ด้านขวา)

พระสมเด็จ เนื้อพระธาตุ (ของวังหลวง) 1 องค์

และ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน 1 ชุด 5 องค์ (เนื้อสีขาว ,เนื้อสีดำ ,เนื้อปัญจสิริ ,เนื้อกรมท่า)ครับ





3.สิ้นสุดการประมูล มีผู้ที่ประมูลได้เกิน 30,000 บาท
นอกจากข้อ 1 และข้อ 2 ที่ผมจะมอบให้แล้ว
ผมขอมอบหยก จำนวน 8 ชิ้น และปี่เซี้ยเล็ก 1 คู่


4.สิ้นสุดการประมูล มีผู้ที่ประมูลได้เกิน 40,000 บาท
นอกจากข้อ1 , 2 , 3 ที่ผมจะมอบให้แล้ว
ผมขอมอบพระกรุวังหน้าอยุธยา (พระพิมพ์นางพญาวัดโพธิ์ 1 องค์ ,พระซุ้มไทรย้อย 2 องค์ และพระซุ้มไข่ปลา 2 องค์)


และชุดพระไกเซอร์ 1 ชุด (4 องค์) เนื้อขาว , เนื้อปัญจสิริ ,เนื้อกรมท่า และเนื้อขาวลงรักปิดทอง



5.สิ้นสุดการประมูล มีผู้ที่ประมูลได้เกิน 50,000 บาท
นอกจาก ข้อ 1 , 2 , 3 และ 4 ที่ผมจะมอบให้นั้น
ผมขอมอบไม้ครู(วังหน้า) 1 ด้าม (หรือพระสมเด็จกลักไม้ขีด 1 องค์ อย่างใดอย่างหนึ่ง)
พระสมเด็จ 1 ชุด (3 องค์)


และพระสมเด็จเนื้อผงยาวาสนา 1 ชุด (8 องค์)


พระพิมพ์เกือบทั้งหมดในโพสนี้ ผมได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษก (ในชุดพิเศษ 3) เพิ่มเติมอีก ยกเว้น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เนื้อปัญจสิริ ที่ผมนำเข้าพิธีพุทธาภิเษก (ในชุดพิเศษ 2) เพียงพิมพ์เดียวเท่านั้นครับ

ขอให้ทุกๆท่านโชคดีครับ
*********************************************


ผมและทุกๆท่านขอขมาต่อองค์หลวงปู่ ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ ,หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ,หลวงปู่ท่านเจ้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ) ,หลวงปู่ทุกๆพระองค์ในคณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร และองค์เบื้องบนทุกๆพระองค์ ในสิ่งที่ผมได้นำพระพิมพ์ที่เป็นสิ่งที่สูงค่า และล้ำค่านำมาประมูล ผมขอขมาในสิ่งที่ผมรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ,ตั้งใจก็ดี ,ไม่ตั้งใจก็ดี ,เจตนาก็ดี และไม่เจตนาก็ดี โปรดขอให้อภัยแก่ผมและทุกๆท่านด้วย ผมขอสัญญาว่า ผมจะไม่นำพระพิมพ์ไปประมูลในทุกๆที่ ทุกๆกรณีครับ

[b-wai] [b-wai] [b-wai] [b-wai] [b-wai]

ผมขอโทษทุกๆท่านที่ร่วมประมูลและจะร่วมประมูลพระพิมพ์ชุดนี้ ผมขอยุติการประมูลพระพิมพ์ชุดนี้ไว้แต่เพียงเท่านี้ครับ

ขอบพระคุณมากครับ</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขอผมจองด้วยคนครับ (good)

 

ผมจะบอกว่า หากงานประมูลงานนี้ ไปถึงวันสุดท้าย มีพี่ท่านนึง แอบกระซิบผมว่า ให้น้องๆ ประมูลกันไปก่อน พี่เขาจะมาโค้งสุดท้าย อย่างน้อยๆก็ 130,000 - 150,000 บาท จะดูท่านที่ประมูลท่านสุดท้ายก่อนหมดเวลาประมาณสิบนาที พี่ท่านนี้จะมาแบบว่า ท่านอื่นๆไม่มีโอกาสได้ประมูลสู้ครับ

.

 

ทุกวันนี้ แค่ได้แขวนเดี่ยว Top 4 นี่ความอยากก็หมดสิ้นแล้วนะครับ

แต่สิ่งที่อยากทำต่อไป คือ มีโอกาสอยากทำบุญ กุศล เพื่อสร้างบุญบารมี เหมือนกับหลายๆท่าน ที่ได้โอกาสสะสมก่อนที่ผมจะเข้าชมรมรักษ์พระวังหน้ามากกว่าครับ

โมทนาสาธุ ครับ

 

ระหว่างนี้ก็ลงชื่อรอกันไปก่อน ขอผมไปตามหาMP3 ชุดที่ 4 ให้ได้ก่อน จะได้ write ลงDVD ให้ครบถ้วนครับ

1) คุณsithiphong
2) คุณchantasakuldecha