พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><THEAD><TR><TD class=tcat align=left>กฎกติกา</TD></TR><TR><TD class=thead align=left>General Rules </TD></TR></THEAD><TBODY id=collapseobj_cybfrules_rsetg><TR><TD class=alt1 align=left>
กฎกติกาของเว็บบอร์ดพลังจิต

ขอความกรุณาช่วยกันรักษากฎกติกามารยาทที่ให้ไว้ข้างล่างเพื่อความสงบสุขของตัวเองและสังคม

ขอให้สมาชิก ตกลงที่จะทำตามกฎกติกามารยาท

1) ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดปด ไม่หลอกลวง ไม่พูดวาจาทำให้แตกร้าวกัน ไม่พูดวาจาไร้ประโยชน์
2) ไม่โพส ใส่ร้ายป้ายสี เสียดสี ในสิ่งไม่เป็นความจริง บิดเบือน ตำหนิติเตียน จาบจ้วงพระรัตนตรัย หรือ บุคคลใดๆ ในทางเสียหาย
3) ไม่โพสหรือสื่ออะไรต่างๆที่ ละเมิดต่อ กฎหมายบ้านเมือง ศีลธรรม ประเพณี
4) ไม่โพส รูป วิดีโอคลิป โป๊ ล่อแหลม ขัดต่อศีลธรรม ลงในกระทู้และในรูปแทนตัว
5) ไม่ก่อกวนสมาชิกและ ไม่ก่อกวนระบบของเว็บพลังจิต
6) ไม่เผยแผ่สิ่งที่เป็นมิจฉาทิฐิ
7) ถ้ามีการกระทู้ของต่างศาสนาเข้ามาเผยแผ่ในเว็บพลังจิต ทางเว็บพลังจิตจะพิจารณาเป็นกรณีๆไป
ถ้ามีกระทู้ใดๆหรือแนวสอนใดๆ ที่เข้ามาเผยแผ่ในเว็บพลังจิต อันมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้คนออกจากพุทธศาสนา ทางเราจะพิจารณาและย้ายกระทู้ดังกล่าวไปในห้องที่เหมาะสมหรือลบออก


ทีมงานผู้ดูแล palungjit.org ขอสงวนสิทธิ์
ที่จะ ลบ แก้ไข เคลื่อนย้าย หรือปิดกระทู้ที่ไม่เหมาะสม โดยเหตุผลใดๆก็ตาม โดยมิต้องบอกกล่าวแก่สมาชิกก่อน

ถึงแม้ว่าผู้ดูแลระบบและผู้คุมห้องของ palungjit.org จะพยายามไม่ให้มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมอยู่ในบอร์ดนี้
เป็นไปไม่ได้ที่เราจะดูแลได้อย่างทั่วถึงทั้งหมด


ข้อความในเว็บบอร์ดเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลของผู้เขียนและไม่ใช่ของผู้ดูแล palungjit.org ทั้งหมดและบางส่วนเป็นของทีมงาน
และผู้จัดทำเว็บบอร์ดแห่งนี้จะไม่มีการรับผิดชอบต่อเนื้อหาใดๆ

สมาชิกสามารถร่วมดูแลเว็บบอร์ดได้ ถ้าเห็นอะไรไม่สมควร กรุณาการกดปุ่มแจ้ง เพื่อทางทีมงานจะได้นำไปพิจารณาต่อไป


จุดมุ่งหมายของเว็บพลังจิต คือการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เพื่อนำไปสู่ความหลุดพ้น
อันมีมีพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง เป็นยึดเหนี่ยวจิตใจ
คำสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่เหมือนกัน ซึ่งเป็น หัวใจคำสอนในพุทธศาสนา

1.ละชั่วทั้งปวง ทาง กาย วาจา ใจ
2.ทำดี ทางกาย วาจา ใจ การทำดีย่อแล้วมี 3 อย่างคือ ทาน ศีล และภาวนา(สมถะและวิปัสนา)
3.ทำจิตใจให้ผ่องใสจากกิเลศ เพื่อความพ้นทุกข์หรือหลุดพ้นสู่นิพพาน



_______________________

โพสโดย WebSnow
วีระชัย แก่นภักดี
เว็ปมาสเตอร์และผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต </TD></TR></TBODY><TBODY><TR><TD class=tfoot align=left>ผู้ที่ไม่ทำตามกฏของเว็บ ทางทีมงานจะแจ้งเตือนก่อนจนไปถึงระงับการเป็นสมาชิกของท่าน</TD></TR></TBODY></TABLE>PaLungJit.com - กฎกติกา

 

หนุ่มโวยถูกดูดเงินจากบัญชี 3 ล้าน ธนาคารปฏิเสธไม่ยอมชดใช้

˹�����¶١�ٴ��Թ�ҡ�ѭ�� 3 ��ҹ ��Ҥ�û���ʸ�����������

ที่มา กระปุก





หนุ่มโวยถูกดูดเงินจากบัญชี 3 ล. (ข่าวสด)

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 21 มิ.ย. นายมนต์ชัย อัศวพรชัย อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 807/77 หมู่บ้านภุมริน ม.8 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นักธุรกิจนำเข้าผลไม้ ตลาดสี่มุมเมือง เข้าร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.อนุสรณ์ กลิ่นขจร ผกก.สภ.คูคต และ ร.ต.ท.ศุภโชค ศรีเทียน พนักงานสอบสวน อ้างว่าธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดสี่มุมเมือง และสำนักงานใหญ่ ปฏิเสธการคืนเงินที่ถูกคนร้ายเบิกเงิน และกดจากบัตรเอทีเอ็มไป จำนวนเกือบ 3 ล้านบาท

นายมนต์ชัย เผยว่า เมื่อต้นเดือนเมษายน ขณะที่นำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงิน ปรากฏว่า ไม่สามารถกดได้ และบัตรถูกอายัด ตนจึงโทรศัพท์ไปยังคอลเซ็นเตอร์ ธนาคารกรุงไทย มีเจ้าหน้าที่แจ้งว่า บัตรดังกล่าวเจ้าของบัญชีอายัดบัตรไว้แล้ว ตนบอกว่า ตนเป็นเจ้าของบัตร และยังไม่เคยโทร.ไปอายัดบัตร วันรุ่งขึ้นตนไปสอบถามข้อมูลที่ 1551 คอล เซ็นเตอร์ ธนาคารกรุงไทย อีกครั้ง ได้รับข้อมูลเทปบันทึกเสียงบุคคลที่สั่งอายัดบัตรเอทีเอ็ม ตนจึงไปยังธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดสี่มุมเมือง เพื่อขอดูบัญชี ซึ่งเป็นบัญชีรอง ปรากฏว่า มีการเคลื่อนไหวทางบัญชีผิดปกติ มีการโอนเงินจากบัญชีรองของตนไปยังอีกบัญชี ที่เปิดใหม่ไว้ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาศูนย์การค้าอยุธยาปาร์ค จ.พระนครศรีอยุธยา

ตนจึงไปตรวจสอบ และขอข้อมูล ทางธนาคารกรุงไทย สาขาศูนย์การค้าอยุธยาปาร์ค ทางพนักงานได้นำหลักฐานมาให้ดูพบว่า มีคนร้ายนำบัตรประชาชน ซึ่งเป็นรูปหน้าของคนร้าย แต่ใช้ชื่อนามสกุล และหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลักของตนมาเปิดบัญชี ตนจึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจขออนุมัติศาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกหมายจับ นายนเรศฤทธิ์ สู่แสงธรรม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/12 ม.4 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. ต่อมา เปลี่ยนชื่อเป็นนายกษิดิ์เดช สู่แสงธรรม

นายมนต์ชัยยังกล่าวอีกว่า หลังจากต้องคอยหาข้อมูลให้ทางธนาคารแล้ว ยังได้ติดต่อสอบถามผลตรวจสอบจากทางธนาคารกรุงไทย สนง.ใหญ่ เป็นเวลาเกือบ 3 เดือน กลับได้รับการปฏิเสธที่จะคืนเงินที่สูญหายไปเกือบ 3 ล้านบาท จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกันนี้จะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการฟ้องร้องทางธนาคารต่อไป

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานที่ผู้เสียหายนำมาแจ้งความ และจะตรวจสอบหลักฐาน และดำเนินการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ของธนาคารมาสอบสวนต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ข่าวสด

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>กระเป๋านร.หนัก ลูกเสี่ยง! หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
Life & Family - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>22 มิถุนายน 2552 07:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เปิดเทอมทีไร แต่ทำไมยังเห็นเด็กนักเรียนทั้งแบก ทั้งหิ้วกระเป๋านักเรียนใบใหญ่ ที่ข้างในเต็มไปด้วยสมุด หนังสือ อุปกรณ์การเรียน ของเล่น หรืออาจเต็มไปด้วยขนม และเสื้อผ้าที่บรรจุแน่นเอี๊ยด เพื่อเตรียมพร้อมกับภารกิจการเรียนรู้ ซึ่งหนูๆ เหล่านี้ต่างเดินหลังแอ่น หน้าเชิด ตัวเอียงเข้าโรงเรียนกันเป็นแถว ถ้ารถติด มาสายก็ต้องรีบวิ่งเพื่อให้ทันเวลาโรงเรียนเข้า ทำให้น้ำหนักของกระเป๋ากระเด้งกระดอนอยู่บนหลัง เห็นแล้วพาลเสียวสันหลังแทนเด็กๆ ไปด้วย

ถ้าเป็นเด็กที่ตัวใหญ่ โครงสร้างแข็งแรงก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่สำหรับเด็กน้อยวัยอนุบาลถึงประถมศึกษาตอนต้นที่ต้องใช้หลัง บริเวณบ่า และไหล่รองรับน้ำหนักของกระเป๋านักเรียนเกือบ 10 กิโลกรัมไปโรงเรียนทุกวัน อาจกลายเป็นอันตรายต่อระบบโครงสร้างของร่างกาย โดยเฉพาะกระดูกสันหลัง อาจส่งผลเสียในระยะยาวโดยที่พ่อแม่คาดไม่ถึงก็ได้

เกี่ยวกับเรื่องนี้ "บัณลักข ถิรมงคล" ผู้อำนวยการคลินิกกายภาพบำบัด ดีสปายน์ ไคโรแพรคติก ให้ข้อมูลว่า สภาพร่างกายและโครงสร้างทางร่างกายของเด็กไทยในยุคปัจจุบันผิดปกติไปจากเดิมมาก ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการดำรงชีวิตที่ไม่สมดุล ทั้งการเดิน นั่ง นอน หรือแม้แต่การแบกกระเป๋าหนักๆ ก็อาจส่งผลทำให้โครงสร้างร่างกายของเด็กผิดปกติได้ เพราะจากข้อมูลของมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภคระบุว่า เด็กในระดับชั้น ป.1 ป.2 และ ป.3 ไม่ควรแบกกระเป๋าหนักเกินร้อยละ 10 ของน้ำหนักตัว แต่ในปัจจุบันกลับพบว่ากระเป๋านักเรียนของเด็กๆ มีน้ำหนักเกินกว่าร้อยละ 20 ของน้ำหนักตัว

"สมมติว่าน้ำหนักตัว 30 กิโลกรัม กระเป๋านักเรียนจะต้องไม่หนักกว่า 3 กิโลกรัม แต่ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาใช้กระเป๋าหนักเกินร้อยละ 20 ของน้ำหนักกตัว ถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤต และไม่เหมาะสมกับวัย จะส่งผลเสียต่อกระดูกสันหลัง ทำให้ความโค้งของกระดูกสันหลังผิดรูปร่างได้" ผู้อำนวยการคลินิกกายภาพบำบัดฯ กล่าว

ผู้อำนวยการคลินิกกายภาพบำบัดฯ กล่าวต่อว่า นักเรียนส่วนใหญ่จะใช้กระเป๋าประเภทสะพายไว้ข้างหลัง ทำให้น้ำหนักของกระเป๋ากดทับโดยตรงกล้ามเนื้อต้นคอ ไหล่ หลัง และกระดูกสันหลัง ทำให้เด็กประมาณ 29 เปอร์เซ็นต์ มีอาการปวดคอ ไหล่ หลัง หรือแม้กระทั่งอาการปวดศีรษะ หากไม่ได้รับการดูแล การกดทับของน้ำหนักกระเป๋าจะลงไปสู่กระดูกสันหลังของเด็กและหมอนรองกระดูกอาจจะเกิดปัญหาได้ หากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทจะเกิดผลเสียต่อพัฒนาการทางด้านร่างกาย และสุขภาพของนักเรียนต่อไปในอนาคต

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=220 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=220> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> สำหรับการป้องกันนั้น ผู้อำนวยการคลินิกกายภาพบำบัดฯ แนะนำว่า ควรใช้กระเป๋านักเรียนที่ใส่สัมภาระน้ำหนักไม่เกินร้อยละ 10 ของน้ำหนักตัว และที่สำคัญขนาดของกระเป๋าก็จะต้องมีขนาด และรูปร่างที่พอดีกับตัวของเด็ก โดยจัดวางสิ่งของในกระเป๋าอย่างเหมาะสม โดยให้กระจายน้ำหนักเท่ากันทั้ง 2 ด้าน หลีกเลี่ยงการวางสิ่งของหนักเพียงด้านเดียว ถ้าหากเป็นกระเป๋าสำหรับสะพายไหล่ ควรจะมีความกว้างมากกว่า 6 ซม. เพราะสายเล็กจะทำให้เกิดการกดทับบริเวณไหล่ และอาจกดลึกจนมีผลต่อกล้ามเนื้อและเส้นประสาทได้

"แต่ถ้าหากเป็นกระเป๋าสำหรับสะพายหลังควรปรับสายสะพายเพื่อให้กระเป๋าแนบบริเวณหลัง ไม่ห้อยต่ำ ก้นกระเป๋าต้องไม่อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าบั้นเอว ควรแนะนำเด็กให้เดินตัวตรง ไม่เอนตัวไปข้างหน้า หรือทำหลังค่อมเพื่อรับน้ำหนัก การแบกกระเป๋าจะต้องใช้สายสะพายไหล่ทั้งสองข้างเพื่อให้เกิดความสมดุล หากสะพายข้างใดข้างหนึ่งอาจทำให้ไหล่รับน้ำหนักไม่เท่ากัน และส่งผลทำให้ไหล่ไม่เสมอเท่ากัน และอาจทำให้มีความเสี่ยงต่อการปวดต้นคอ ไหล่ และหลังตามมาได้" ผู้อำนวยการคลินิกกายภาพบำบัดฯ แนะ

อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการคลินิกกายภาพบำบัดฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้าเด็กเกิดอาการปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่ หรือปวดศีรษะ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบโครงสร้างร่างกาย เพราะหากเกิดการกดทับของแนวเส้นประสาทแล้วจะทำให้ระบบต่างๆที่สัมพันธ์กันถูกรบกวน ทำให้เกิดความเจ็บปวด แต่ในปัจจุบันได้มีการนำเอาศาสตร์การแพทย์ไคโรแพรคติกมาใช้ในการป้องกันรักษาเกี่ยวกับระบบโครงสร้างของร่างกาย โดยเฉพาะกระดูกสันหลังของเด็ก ซึ่งจะเป็นการรักษาแบบไม่ใช้ยา หรือผ่าตัด ขั้นตอนการตรวจ รักษา จะใช้มือ เป็นหลัก ขึ้นอยู่กับเทคนิคการรักษาของผู้เชี่ยวชาญแต่ละคน ซึ่งจะเป็นโอกาสดีที่เด็กจะได้รับการตรวจสุขภาพกระดูกสันหลังแต่เนิ่นๆ

และหลังจากที่มีการปรับโครงสร้างร่างกายที่มีปัญหากลับเข้าที่แล้ว ก็จะทำให้ระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างสมดุล กลไกอัจฉริยะที่มาพร้อมกับร่างกายอยู่แล้ว ก็จะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ อาการปวด หรือเจ็บป่วยก็จะลดลง ทั้งยังส่งเสริมบุคลิกภาพที่ดีให้เกิดความมั่นใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>5 เทคนิคบริหารความโกรธสำหรับพ่อแม่
Life & Family - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>22 มิถุนายน 2552 12:05 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=320 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=320> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> "การบริหารความโกรธ" แม้ว่าหลายคนจะมองว่าไม่จำเป็น และมองว่าการแสดงอารมณ์กราดเกรี้ยวของตนเองต่อสิ่งต่าง ๆ เป็นการแสดงออกถึงความเป็นตัวตนของตัวเองที่ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เมื่อได้ระบายออกไปแล้วก็จะรู้สึกดีขึ้นได้เอง แต่สำหรับการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว มีคนมากกว่า 1 คนที่เข้ามาอยู่ร่วมกัน..อาจไม่ใช่

เมื่อต้องอยู่ร่วมกัน เทคนิคในการบริหารจัดการความโกรธกลายเป็นสิ่งที่มีค่าไม่แพ้การบริหารจัดการเงินทอง หรือการบริหารชีวิต เพราะนอกจากตัวคุณเองแล้ว ยังมีคู่ชีวิต และลูก ๆ ที่เป็นสิ่งมีค่า เขาเหล่านั้นอาจมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่แตกต่าง หรือมีบางพฤติกรรมที่ต้องได้รับการแก้ไข แต่สำหรับผู้ที่ใช้อารมณ์เป็นตัวนำ และหวังว่าจะใช้อารมณ์ทำให้การแก้ไขนั้นลุล่วง คงเป็นไปได้ยาก หากกลับทำให้ปัญหานั้น ๆ ร้ายแรง หรือฝังลึกลงไปอีกอย่างช่วยไม่ได้

อย่างไรก็ดี เรามีวิธีบริหารจัดการความโกรธอย่างง่าย ๆ มาฝากกันค่ะ โดยเป็นข้อมูลจากเว็บไซต์ Parenting - AllAboutParenting.org ที่ให้แง่คิดได้เป็นอย่างดี เริ่มจาก

- พาครอบครัว หรืออย่างน้อย ก็พาตัวคุณเองไปศึกษาธรรมะบ้าง การศึกษาธรรมะอาจไม่จำเป็นต้องเข้าวัดเสมอไป เพราะในทุกวันนี้ สื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับธรรมะสามารถหาอ่านได้รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นที่ร้านหนังสือ หนังสือพิมพ์ เว็บไซต์ หรือแม้กระทั่ง SMS

- จัดตารางเวลาที่ชัดเจนแน่นอนให้กับเด็ก เพราะการทำสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นเป็นกิจวัตรนั้นเป็นสิ่งที่เด็ก ๆ ต้องการ และคุณเองก็จะได้ทราบถึงช่วงเวลา "ว่าง" ที่คุณจะจัดให้กับตัวเองได้ด้วย

- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกาย อย่าพึ่งเบื่อกันหากต้องเห็นหัวข้อนี้ปรากฏอยู่บ่อย ๆ เพราะสองสิ่งนี้จะช่วยให้คุณเป็นพ่อแม่ที่มีสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง ความโกรธขึ้งตึงเครียดก็จะมารบกวนได้น้อยลง

- เมื่อลูกบังเอิญทำพลาด หรือทำให้พ่อแม่เกิดความรู้สึกโกรธโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็ควรมองโลกในแง่ดี อาจใช้การหัวเราะขำไปกับความผิดพลาดนั้น ๆ หรือยิ้มให้กับลูกแทน ซึ่งจะดีกว่าการเกรี้ยวกราดใส่ลูก เพราะจะทำให้เด็กไม่กล้าเข้าใกล้ หรือกลายเป็นคนที่ระมัดระวังกับทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อไม่ให้พ่อแม่ของเขาต้องโกรธอีก

- หาเวลาให้ตัวเองบ้าง แม้โลกในยุคปัจจุบัน จะค่อนข้างเป็นอันตรายสำหรับเด็ก หลายคำแนะนำระบุว่าไม่ควรปล่อยให้เด็กห่างจากสายตา แต่ในบางกรณี หากเรามั่นใจได้ว่าลูกอยู่ในที่ปลอดภัย มีการดูแลอย่างใกล้ชิด ก็ควรจะจัดให้มีการ "ห่าง" ที่ว่านี้ขึ้นได้บ้าง เพราะการห่างกับลูกในบางครั้งก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความเครียด หรือความหงุดหงิดลงได้ ลองจัดเวลาให้กับตัวเอง คู่ชีวิต และเพื่อนฝูงได้มีเวลาสังสรรค์เฮฮา พูดคุย จะทำให้คุณได้มีช่วงเวลาดี ๆ ได้แลกเปลี่ยนความคิดใหม่ ๆ กับคนอื่น และจะรู้สึกมีพลังในการกลับมาดูแลครอบครัวมากขึ้น

เรียบเรียงจาก Parenting - AllAboutParenting.org
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE width=741 border=0><TBODY><TR><TH scope=col width=735>

ประวัติวัดราชสิงขร

www.watrachsingkorn.com

​

</TH></TR><TR>

<TH scope=col>

*************************************​

</TH>​

</TR></TBODY></TABLE>

<TABLE height=792 width=623 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=617 height=788><TABLE width=744 border=0><TBODY><TR><TD class=style120>

สถานที่ตั้งวัด​

​

</TD></TR><TR><TD class=style120>วัดราชสิงขร ตั้งอยู่เลขที่ ๒๑๑๔ ถนนเจริญกรุง ๗๔ แขวง วัดพระยาไกร เขต บางคอแหลม กรุงเทพมหานคร

​

</TD></TR><TR><TD class=style120>มีเนื้อที่ ๑๑ ไร่ ๑ งาน ๙๘ ตารางวา

​

</TD></TR><TR><TD class=style120>ทิศตะวันออก จดถนนเจริญกรุง

​

</TD></TR><TR><TD class=style120>ทิศตะวันตก จดแม่น้ำเจ้าพระยา

​

</TD></TR><TR><TD class=style120>ทิศเหนือ จดโรงงานยาสูบ ๑

​

</TD></TR><TR><TD class=style120>ทิศใต้ จดคลองซุง

</TD></TR><TR><TD class=style120>

​

</TD></TR><TR><TD class=style120>สมัยที่สร้างวัด

</TD></TR></TBODY></TABLE>

วัดราชสิงขรเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปลายรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (พ.ศ.๒๒๗๕–๒๓๐๑) อันเป็นช่วงปลายแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา ที่นับว่าบ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองอย่างสูงสุด ไม่ปรากฏหลักฐานใดๆเกี่ยวกับผู้สร้างในเบื้องต้น จึงน่าเชื่อว่าเป็นการร่วมกลุ่มกันของชาวบ้านที่มีศรัทธาปรารถนาใคร่สร้างวัด เพื่อเป็นสถานที่บำเพ็ญบุญและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชน เพราะว่านับแต่เสียกรุงให้แก่พม่าข้าศึก ในปี พ.ศ.๒๓๑๐ แล้ว ต่อจากนั้นจนกระทั่งปี พ.ศ.๒๓๒๕ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์หรือกรุงเทพฯ เป็นราชธานีใหม่ เป็นระยะเวลาที่บ้านเมืองยังไม่สงบเรียบร้อยอย่างแท้จริง จึงไม่น่ามีความพร้อมพอที่ผู้คนจะพากันคิดเรื่องการสร้างวัด


อุโบสถหลังเก่าของวัดซึ่งต่อมาถูกยกเป็นวิหาร มีขนาดเล็กพอจุภิกษุได้ประมาณ ๒๐ รูป ตามพระวินัย มีหลังคาชั้นเดียว ด้านหน้าเป็นเพิงยื่นออก มีเสาค้ำ และหน้าต่างทำเป็นช่องลูกกรงแทนบานหน้าต่าง อั้นเป็นอิทธิพลของลักษณะหน้าต่างที่นิยมกันในสมัยอยุธยาตอนกลาง แต่ศิลปะการก่อสร้างเป็นแบบเรียบง่าย ตามที่เรียกกันแบบชาวบ้าน ตั้งอยู่หน้าศาลาการเปรียญหลังปัจจุบัน ในปี พ.ศ.๒๕๐๘ ขณะกำลังปรับพื้นที่ได้พบลูกนิมิตซึ่งทำจากหินธรรมชาติ ขนาดเท่าศรีษะมนุษย์ จำนวน ๘ ลูก ใน ๘ ทิศ จึงเป็นหลักฐานทำให้ทราบว่าเป็นอุโบสถ ปัจจุบันคงเหลือแต่เพียงพระประธานเป็นพระพุทธรูปศิลปะอยุธยา พระพักตร์แบบอู่ทอง ปางมารวิชัย เดิมเรียกกันมาว่า หลวงพ่อขาวบ้าง พระอู่ทองบ้างเก็บรักษาอยู่ในบริเวณวิหารคดที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อล้อมกั้นเขตบริเวณอุโบสถ วิหาร และสถูปเจดีย์ที่บูรณะปฏิสังขรณ์ใหม่ออกเป็นเขตพุทธาวาส ดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน

ในสมัยที่สร้างวัด บริเวณแถบนี้ล้วนเป็นเรือกสวนนาไร่เป็นชาวเมืองของเมืองธนบุรีซึ่งผู้คนสามารถเดินทางเข้าเมืองได้โดยสะดวกทางแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะการสัญจรติดต่อธุระค้าขายในสมัยนั้นล้วนแต่อาศัยเส้นทางน้ำเป็นหลัก

ซึ่งเมืองธนบุรีปรากฏแล้วตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และจัดเป็นเมืองหน้าต่างทางทะเล ที่มีความสำคัญมาช้านาน เมืองธนบุรีจึงมีความเจริญพอสมควร อันเป็นมูลเหตุให้พระยาตากสิน ซี่งเดิมรับราชการอยู่ในแผ่นดินพระเจ้าเอกทัศน์ แห่งกรุงศรีอยุธยา บรรดาศักดิ์ครั้งสุดท้าย คือ พระยาวชิรปราการ เมื่อท่านทำการปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าตากสิน จึงทรงสถาปนาเมืองธนบุรีขึ้นเป็นราชธานีใหม่ ชื่อกรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร์

แต่เนื่องจากระยะเวลาหนึ่งพระองค์ทรงครองราชย์นั้นสั้นเพียง ๑๕ ปี อีกทั้งยังต้องมีการรบทำสงครามกันเนื่องๆ ทั้งภายในและภายนอก ในช่วงระยะนี้บ้านเมืองจึงเริ่มรวมตัวกันเข้าได้เป็นปึกแผ่นเท่านั้น และยังอยู่ในช่วงที่กำลังฟื้นตัว

ต่อเมื่อภายหลังพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ซึ่งเดิมเป็นสหายรับราชการร่วมกับพระเจ้าตากสิน ในแผ่นดินพระเจ้าเอกทัศน์ และเป็นนายทหารคู่พระทัย ในรัชสมัยพระเจ้าตากสินปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์ และทรงย้ายที่ตั้งเมืองหลวงใหม่มายังฝั่งตะวันออก ของแม่น้ำเจ้าพระยา ณ บริเวณทีเรียกว่าบางกอก ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นเป็นราชธานี โดยทรงตั้งพระทัยที่สร้างบ้านเมืองขั้นใหม่ให้เจริญเหมือนครั้งกรุงศรีอยุธยารุ่งเรืองอันหมายถึงครั้งรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศนั่นเอง ซึ่งเรียกกันมาจนกระทั่งถึงรัชกาลที่ ๓ ว่า ครั้งบ้านเมืองดี
ในระยะนี้ทรงเน้นการสร้างบ้านแปลงเมืองเป็นสำคัญ ทรงปฏิสังขรณ์และทรงสร้างวัดวาอารามอีกมากมายกว่า ๓๐ วัด เช่น วัดพระเชตุพนฯ วัดราชบูรณะ วัดสระเกศ วัดคอกควาย เป็นต้น ทรงให้เสด็จพระอนุชาธิราช คือกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท เสด็จขึ้นไปรวบรวมนำพระพุทธรูปทั้งหลาย ที่ยังคงหลงเหลือจากศึกสงคราม ทางหัวเมืองเหนือและอยุธยาลงมารวมกันไว้ที่วัดพระเชตุพนฯ และจ่ายแจกไปตามวัดต่างๆ อีกจำนวนมาก ระยะนี้เป็นช่วงเวลาที่ยังไม่นิยมการสร้างพระพุทธรูปขึ้นใหม่ มีเพียงการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดเก่าที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งล้วนแล้วแต่เกิดได้ด้วยพระราชอำนาจ ตลอดจนพระราชทรัพย์ของกษัตริย์และพระราชวงศ์เท่านั้น​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

ลำดับเจ้าอาวาส วัดราชสิงขร
www.watrachsingkorn.com

<TABLE width=777 border=0><TBODY><TR><TD class=style17 colSpan=5>ตั้งแต่เริ่มสร้างวัดมาจนถึงปัจจุบัน วัดราชสิงขรมีเจ้าอาวาสและผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ๑๐ รูป ได้แก่

</TD></TR><TR><TD class=style17 colSpan=5>

​

</TD></TR><TR><TD class=style141 width=58>ลำดับที่

​

</TD><TD class=style141 width=280>ชื่อ

​

</TD><TD class=style141 width=148>ฉายา

​

</TD><TD class=style141 width=128>ตำแหน่ง

​

</TD><TD class=style141 width=141>ตั้งแต่

​

</TD></TR><TR><TD class=style141>๑

​

</TD><TD class=style17>พระอธิการเดช

​

</TD><TD class=style17>ไม่ทราบฉายา

​

</TD><TD class=style17>เจ้าอาวาส

​

</TD><TD class=style17>ไม่ทราบ พ.ศ.

​

</TD></TR><TR><TD class=style141>๒

​

</TD><TD class=style17>พระอธิการขำ

​

</TD><TD class=style17>ไม่ทราบฉายา

​

</TD><TD class=style17>เจ้าอาวาส

​

</TD><TD class=style17>ไม่ทราบ พ.ศ

​

</TD></TR><TR><TD class=style141>๓

​

</TD><TD class=style17>พระอธิการดี

​

</TD><TD class=style17>ไม่ทราบฉายา

​

</TD><TD class=style17>เจ้าอาวาส

​

</TD><TD class=style17>ไม่ทราบ พ.ศ.

​

</TD></TR><TR><TD class=style141>๔

​

</TD><TD class=style17>พระอธิการแดง

​

</TD><TD class=style17>ไม่ทราบฉายา

​

</TD><TD class=style17>เจ้าอาวาส

​

</TD><TD class=style17>ไม่ทราบ พ.ศ.

​

</TD></TR><TR><TD class=style141>๕

​

</TD><TD class=style17>พระอาจารย์ยี่

​

</TD><TD class=style17>ไม่ทราบฉายา

​

</TD><TD class=style17>รก.เจ้าอาวาส

​

</TD><TD class=style17>ไม่ทราบ พ.ศ.

​

</TD></TR><TR><TD class=style141>๖

​

</TD><TD class=style17>พระอธิการอั้น

​

</TD><TD class=style17>ไม่ทราบฉายา

​

</TD><TD class=style17>รก.เจ้าอาวาส

​

</TD><TD class=style17>ไม่ทราบ พ.ศ.

​

</TD></TR><TR><TD class=style141>๗

​

</TD><TD class=style17>พระอธิการอ่อนศรี

​

</TD><TD class=style17>พุทธวํโส

​

</TD><TD class=style17>รก.เจ้าอาวาส

​

</TD><TD class=style17>ไม่ทราบ พ.ศ.

​

</TD></TR><TR><TD class=style141>๘

​

</TD><TD class=style17>พระครูปลัดสมนึก ( วัดพระเชตุพนฯ)

​

</TD><TD class=style17>ไม่ทราบฉายา

​

</TD><TD class=style17>รก.เจ้าอาวาส

​

</TD><TD class=style17>พ.ศ.๒๕๐๖-๒๕๑๔

​

</TD></TR><TR><TD class=style141>๙

​

</TD><TD class=style17>พระพิสณฑ์ปริยัติวิธาน ( วรพงษ์ คุณปวโร)

</TD><TD class=style141>

​

</TD><TD class=style17>เจ้าอาวาส

​

</TD><TD class=style17>พ.ศ.๒๕๑๕-๒๕๕๐

​

</TD></TR><TR><TD class=style141>๑๐

​

</TD><TD class=style17>พระมหาชวลิต

​

</TD><TD class=style141>สีลเตโช

​

</TD><TD class=style17>เจ้าอาวาส

​

</TD><TD class=style17>พ.ศ.๒๕๕๐-ปัจจุบัน

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

พี่หนุ่มวันนี้ได้ส่งใบสมัครไปให้แล้วครับ หายเร็วๆนะครับ

 

กรุงไทยแจงกรณีลูกค้าเงินหายจากบัญชี ยันไม่มีการแฮกข้อมูลทาง KTB Online

˹ѧ

 

ผมได้รับแล้วครับ ส่วนคุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->แหน่ง<!-- google_ad_section_end --> ไม่ได้เซ็นใบหน้า(ของใบสมัคร)มา ผมรบกวนเซ็นเฉพาะใบหน้าและส่งมาให้ผมด้วย

ใบสมัครของคุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Phocharoen<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2193691", true); </SCRIPT> ผมได้รับแล้วครับ

ส่วนใบสมัครของคุณnarin96 ผมได้รับพร้อมกับใบจองล็อกเก็ตแล้วเช่นกันครับ

ขอบคุณในคำอวยพรครับ
.

 

เป็นไงครับ ยาน้องหมอ 3วันแล้วดีขึ้นมั้ยครับ หุ หุ

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร:::
พระผงยาวาสนานั้น ทางคุณ Guawn ได้ฝากพระผงยาวาสนาของวังหน้าไว้ที่ผมเพื่อมอบให้ผู้ทำบุญช่วยเหลือพระอาพาธด้วยมะเร็งกระดูกไว้จำนวนหนึ่ง ก็มีหลายพิมพ์ด้วยกัน คือพิมพ์พระสมเด็จ(สีน้ำตาล) - พิมพ์คะแนนร้อยแบบไม่ชิดซุ้ม(สีน้ำตาล) - พิมพ์คะแนนร้อยขอบชิดซุ้ม(สีน้ำตาล) - พิมพ์คะแนนร้อยขอบชิดซุ้มเนื้อผงใบลาน(สีดำ)ซึ่งหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ๓ องค์ท่านเสกไว้คือ

1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้าจะมีรังสีสีเหลืองทอง
พลังอิทธิคุณของหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้าท่านเสกพระพิมพ์หรือเสกวัตถุมงคลนั้นพลังท่านจะละเอียดมากผู้ที่จับพลังได้บางคนอาจเข้าใจผิดว่าพลังอ่อน แต่ที่จริงแล้วพลังอิทธิคุณนั้นแรงมาก

2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้าจะมีรังสีสีน้ำเงิน
พลังอิทธิคุณที่หลวงปู่พระโสณเถระเจ้าที่เสกในพระพิมพ์หรือวัตถุมงคลพลังจะเหมือนกับหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้าแต่หลวงปู่พระโสณเถระเจ้าท่านเสกพระพิมพ์หรือวัตถุมงคลน้อยมากที่สุด

3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า (หลวงปู่อิเกสาโร)จะมีรังสีสีแดง
พลังอิทธิคุณของหลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)ที่เสกพระพิมพ์หรือวัตถุมงคลนั้นจะเป็นพลังที่ว่องไวรวดเร็วเนื่องจากหลวงปู่ท่านเปรียบเสมือนเป็นเลขาธิการของคณะโลกอุดรจริตท่านจีงออกในลักษณะว่องไว และพระพิมพ์ส่วนใหญ่จะเป็นหลวงปู่ท่านเสก แต่พระพิมพ์บางรุ่นที่หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้าท่านเสกด้วยพลังอิทธิคุณของหลวงปู่อิเกสาโรจะรวดเร็วมากเกินไป จะมีพลังอิทธิคุณของหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้าจะมาคลุมไว้ไม่ให้รวดเร็วเกินไปครับ

ส่วนรังสีของสมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสีจะมีรังสีสีขาวนวล

พระสมเด็จเนื้อผงยาวาสนานั้นนอกจากหลวงปู่ทั้งสามองค์เสกแล้ว เนื้อพระก็ยังเป็นผงว่านต่างๆ (หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้าท่านเก่งในเรื่องของสมุนไพรด้วย ท่านรู้ว่าสมุนไพรแต่ละอย่างนั้นมีสรรพคุณดีอย่างไร และการฝึกลูกศิษย์ของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง5 องค์นั้นจะต้องมีการกินลูกกลอนที่เป็นเนื้อว่านด้วย) สามารถใช้ทำน้ำมนต์เพื่อรักษาโรคได้ด้วยส่วนในเรื่องอื่นๆก็สามารถอธิษฐานได้เพราะหลวงปู่ท่านเสกคลุมไว้ให้ครับ (การเสกคลุมนั้นเวลาที่เหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นพลังอิทธิคุณในองค์พระจะแสดงออกมาป้องกันตามที่เหตุการณ์เกิดขึ้นจริง)แต่ไม่เกินวาสนาบารมีของแต่ละคนครับ

ขอบคุณคุณหนุ่มสิทธิพงศ์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับพระผงยาวาสนา กรุพระแก้ววังหน้าครับ


</TD></TR></TBODY></TABLE>
เมื่อคืนนี้ได้มอบให้น้องท่านหนึ่งที่ได้สอนเรื่องการ Detox สารพิษโดยใช้สมุนไพร น้องท่านนี้เป็นผู้ที่ปฏิบัติมาหลายแนวทาง ปัจจุบันได้มโนมยิทธิเต็มกำลังแล้ว และยังมีใจเป็นกุศลช่วยเหลือผู้ป่วยไข้ด้วยความจริงใจ และตั้งใจ ผมจึงได้มอบพระสมเด็จผงยาวาสนา พิมพ์คะแนนขอบชิดซุ้มไว้ให้บูชา และเพื่องานการรักษาผู้ป่วยในกาลข้างหน้า...

เมื่อรับไว้ในมือ นิ้วโป้งของน้องเค้ามีลักษณะการเกร็งอย่างเห็นได้ชัด น้องเค้าบอกว่า ยังไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน พระอะไรแรงอย่างนี้..

คืนนั้นน้องเค้าได้อารธนาพระพิมพ์วางบนพานบูชาด้วยพวงมาลัยมะลิสด และทำสมาธิตามปกติ แต่ครั้งนี้ได้อธิษฐานจิตเพิ่มว่า ในอนาคตหากลูกจะได้อารธนาองค์พระไปรักษาผู้ป่วย หากพระคะแนนสมเด็จผงยาวาสนามีอิทธิคุณในการรักษาผู้ป่วยจริง ขอให้เกิดลมหมุนจากซ้ายมาขวารอบแกนกระดูกสันหลัง(คือน้องเค้าได้เคยฝึกสมาธิหมุนมาก่อน) ปรากฎว่าเกิดลมหมุนจริงๆ หมุนจนกระทั่งออกจากสมาธิ ลืมตา หน้ายังคงหมุนอยู่เลย

ก็นำมาเล่าสู่กันฟัง...
<LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>




<!-- google_ad_section_end -->

 

ดีขึ้นบ้างแล้วครับ

ผมว่า ร่างกายผมแย่มานาน พอเป็นไข้ก็เลยเป็นเยอะ งานนี้ได้พักผ่อนเยอะครับ

ต้องรักษาสุขภาพกันให้มากๆด้วยครับ
.

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 25 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 22 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER>[ แนะนำเรื่องเด่น ] </CENTER></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, :::เพชร:::+, nongnooo+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

หวัดดีจ๊า
แก๊งสามเกลอ หุหุหุ

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
หนุ่มโวยถูกดูดเงินจากบัญชี 3 ล้าน ธนาคารปฏิเสธไม่ยอมชดใช้

˹�����¶١�ٴ��Թ�ҡ�ѭ�� 3 ��ҹ ��Ҥ�û���ʸ�����������

ที่มา กระปุก





หนุ่มโวยถูกดูดเงินจากบัญชี 3 ล. (ข่าวสด)

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 21 มิ.ย. นายมนต์ชัย อัศวพรชัย อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่.807/77 หมู่บ้านภุมริน ม.8 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นักธุรกิจนำเข้าผลไม้ ตลาดสี่มุมเมือง เข้าร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.อนุสรณ์ กลิ่นขจร ผกก.สภ.คูคต และ ร.ต.ท.ศุภโชค ศรีเทียน พนักงานสอบสวน อ้างว่าธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดสี่มุมเมือง และสำนักงานใหญ่ ปฏิเสธการคืนเงินที่ถูกคนร้ายเบิกเงิน และกดจากบัตรเอทีเอ็มไป จำนวนเกือบ 3 ล้านบาท

นายมนต์ชัย เผยว่า เมื่อต้นเดือนเมษายน ขณะที่นำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงิน ปรากฏว่า ไม่สามารถกดได้ และบัตรถูกอายัด ตนจึงโทรศัพท์ไปยังคอลเซ็นเตอร์ ธนาคารกรุงไทย มีเจ้าหน้าที่แจ้งว่า บัตรดังกล่าวเจ้าของบัญชีอายัดบัตรไว้แล้ว ตนบอกว่า ตนเป็นเจ้าของบัตร และยังไม่เคยโทร.ไปอายัดบัตร วันรุ่งขึ้นตนไปสอบถามข้อมูลที่ 1551 คอล เซ็นเตอร์ ธนาคารกรุงไทย อีกครั้ง ได้รับข้อมูลเทปบันทึกเสียงบุคคลที่สั่งอายัดบัตรเอทีเอ็ม ตนจึงไปยังธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดสี่มุมเมือง เพื่อขอดูบัญชี ซึ่งเป็นบัญชีรอง ปรากฏว่า มีการเคลื่อนไหวทางบัญชีผิดปกติ มีการโอนเงินจากบัญชีรองของตนไปยังอีกบัญชี ที่เปิดใหม่ไว้ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาศูนย์การค้าอยุธยาปาร์ค จ.พระนครศรีอยุธยา

ตนจึงไปตรวจสอบ และขอข้อมูล ทางธนาคารกรุงไทย สาขาศูนย์การค้าอยุธยาปาร์ค ทางพนักงานได้นำหลักฐานมาให้ดูพบว่า มีคนร้ายนำบัตรประชาชน ซึ่งเป็นรูปหน้าของคนร้าย แต่ใช้ชื่อนามสกุล และหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลักของตนมาเปิดบัญชี ตนจึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจขออนุมัติศาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกหมายจับ นายนเรศฤทธิ์ สู่แสงธรรม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/12 ม.4 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. ต่อมา เปลี่ยนชื่อเป็นนายกษิดิ์เดช สู่แสงธรรม

นายมนต์ชัยยังกล่าวอีกว่า หลังจากต้องคอยหาข้อมูลให้ทางธนาคารแล้ว ยังได้ติดต่อสอบถามผลตรวจสอบจากทางธนาคารกรุงไทย สนง.ใหญ่ เป็นเวลาเกือบ 3 เดือน กลับได้รับการปฏิเสธที่จะคืนเงินที่สูญหายไปเกือบ 3 ล้านบาท จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกันนี้จะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการฟ้องร้องทางธนาคารต่อไป

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานที่ผู้เสียหายนำมาแจ้งความ และจะตรวจสอบหลักฐาน และดำเนินการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ของธนาคารมาสอบสวนต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ข่าวสด

</TD></TR></TBODY></TABLE>

------------------------------------------------------------

ต้องระมัดระวังและตรวจสอบเกี่ยวกับบัญชีของตนเอง , บัตรประชาชนหรือสำเนาบัตรประชาชน ของตนเอง อย่างสม่ำเสมอ

อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจธนาคาร เอ้ย คน จะจนใจเอง

การเปิดบัญชี เราควรที่จะขอสำเนาเอกสารการเปิดบัญชีกับธนาคาร ไม่อย่างนั้น เมื่อเกิดเหตุ ธนาคารจะบอกว่า มีการแจ้งไว้ในใบคำขอแล้ว แต่มีผู้ที่เปิดบัญชีกี่รายที่ได้นั่งอ่านรายละเอียดและจำรายละเอียดได้

 

บ่ายวันนี้ เพิ่งกลับจากหลักสูตรล้างพิษ 3 วันครึ่ง ผมเลยจัดเมนูอาหารค่ำคืนนี้ด้วยอาหารแบบอ่อน warm ให้กระเพาะ ลำไส้ ให้ทำงานอีกครั้ง แต่ก่อนจะทานผมต้มยาจีนบำรุงไตทานก่อนอาหารค่ำ ๒ ชม. ให้ไตได้ดูดซึมสารอาหารให้หมดก่อน จึงจะเริ่มทานมื้อเย็น..

เมนูคืนนี้ผมว่าจะทำไข่ตุ๋นเห็ดโคนสด แบบนุ่ม อันนี้เคล็ดลับคือต้องกรองเอาไข่ขาว และเพิ่มน้ำ stock ผักหน่อยนะครับ ส่วนรากเห็ดโคนนี้ผมนำมาซอยๆๆๆ แล้วนำมาแช่ซี่อิ๊วขาว และพริกไทยให้รากเห็ดนี้ดูดอมเครื่องปรุงทั้งหมดเข้าไป เมื่อผสมคลุกเคล้ากับไข่ตุ๋น ที่ไม่ปรุงอะไรเลย คนทานจะสงสัยกันว่าทำไมมันอร่อยอย่างนี้ ทำยังไงก็ไม่เหมือนต้นแบบนะ 55555 แต่กลับเข้าใจไปว่า ความอร่อยอยู่ที่กุ้งแห้ง(ไม่ใส่สี)ที่แชช้ำจนนุ่ม..ก็เข้าใจกันไป มันเด่นคนละอย่าง...

เมนูที่ ๒ นี่ผมตั้งใจเอาใจคุณแม่บ้านที่ไม่ได้กลับมาทำกับข้าวกับปลาหลายวัน มื้อนี้เลยเอาใจด้วยกุ้งแชบ๊วยนึ่งนมสด(เธอซื้อนมสดมา แต่ผมแอบนำมาใช้) ช่วงนี้กุ้งทะเลราคาถูก และสดมาก ก็หมั่นทานกันหน่อย ไทยช่วยไทยนะท่าน...

เมนูที่ ๓ ผมขอน้ำซุปซี่ซวงไฉ่ อันนี้สมัยเด็กๆ คุณแม่จะชอบทำให้ทานช่วงฟื้นไข้ใหม่ๆ แต่เปลี่ยนจากหมูสับ มาเป็น เห็ดหอมสดหั่นฝอย ไม่เอาราก เพราะเอารากเห็ดไปทำไข่ตุ๋นแล้ว...

ข้าวสวยวันนี้ใช้ข้าวหอมมะลิ ๑๐๐% ผสมกับเมล็ดธัญญพืชเช่น งาดำ งาขาว ข้าวโพด ถั่วแดง ถั่วเขียว ลูกเดือย...

เดี๋ยวเสร็จแล้วผมจะนำภาพ ๓ เมนูนี้มาให้ชมกันครับ...

 

ไปทำก่อน เดี๋ยวมานะ...อิ..อิ..อิ...

 

55555เขียนชวนให้ หิวซ้ำเลยนะครับทั้งๆที่ทานลูกชี้นหมูกับเจ้าโดมา 11ไม้ 55ลูกครับ อีกเรื่องวันก่อนที่ได้พบกันระหว่างคุยกันผมสัมผัสได้ถึงไอร้อนจากลมหายใจที่แท้ก็ บำรุงมาดีนี่เองครับ หุ หุ

 

รอชมนะครับ

แต่ผมอิ่มแล้วครับ ก็เลยไม่กลัวหิว หุหุหุ

 

อนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

หายไวๆครับพี่หนุ่ม(เหลือน้อย)

 

ขอบใจมากครับน้องกวง