พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  2. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 6 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER>[ แนะนำเรื่องเด่น ] </CENTER></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>nongnooo, newcomer+, sithiphong+, narin96 </TD></TR></TBODY></TABLE>

    3n 1s hu hu...
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา SETTRADE.COM - Leading Technology for Professional Investors

    <TABLE class=text_main cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=underline><TABLE class=text_main cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=123>20 Jun 2009 08.42</TD><TD align=right width=80>Value</TD><TD align=middle>Change</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=underline align=middle><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="50%"><SELECT class=listbox onchange=doChangeIndex() name=indexPeriod> <OPTION value=intra selected>1 Day</OPTION> <OPTION value=1week>1 Week</OPTION> <OPTION value=1month>1 Month</OPTION> <OPTION value=1quarter>1 Quarter</OPTION> <OPTION value=1year>1 Year</OPTION></SELECT> </TD><TD align=right>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=underline><TABLE class=text_main cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=16>[​IMG]</TD><TD noWrap width=140>SET Index </TD><TD align=right width=55>588.98</TD><TD class=graph-text-green-big align=right>+18.55</TD><TD width=8>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=underline><TABLE class=text_main cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=16>[​IMG]</TD><TD noWrap width=140>SET 50 </TD><TD align=right width=55>423.47</TD><TD class=graph-text-green-big align=right>+15.20</TD><TD width=8>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=underline><TABLE class=text_main cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=16>[​IMG]</TD><TD noWrap width=140>SET 100</TD><TD align=right width=55>902.27</TD><TD class=graph-text-green-big align=right>+31.68</TD><TD width=8>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=underline><TABLE class=text_main cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=16>[​IMG]</TD><TD noWrap width=140>mai</TD><TD align=right width=55>189.72</TD><TD class=graph-text-green-big align=right>+4.10</TD><TD width=8>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=underline><TABLE class=text_main cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=16>[​IMG]</TD><TD noWrap width=140>FTSE SET Large Cap*</TD><TD align=right width=55>708.83</TD><TD class=graph-text-green-big align=right>+26.08</TD><TD width=8>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=underline><TABLE class=text_main cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=16>[​IMG]</TD><TD noWrap width=140>FTSE SET Shariah*</TD><TD align=right width=55>666.94</TD><TD class=graph-text-green-big align=right>+22.75</TD><TD width=8>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE class=text_main cellSpacing=2 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="34%">Value (M) </TD><TD width="29%">16,298.57</TD><TD width="28%">Gainers</TD><TD>297</TD></TR><TR><TD>Volume(*000)</TD><TD>2,880,857</TD><TD>Unchanges</TD><TD>77</TD></TR><TR><TD>Mkt Status </TD><TD>Close</TD><TD>Losers</TD><TD>47</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE class=text_main cellSpacing=2 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left>* Delayed by 15 minutes</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มาThailand Web Directory and Advance Web Statistics at Truehits.net - ����Ե ��������硷�������ͧ�������ٹ�����ʶԵԡ��������������䫵������ͧ���

    <TABLE><TBODY><TR><TD>[​IMG]Thailand Directory Map</TD><TD align=left></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295 border=0><TBODY><TR><TD>TOP 10 WEBSITES</TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD style="BACKGROUND-IMAGE: url(/image/mainpage/bg_top.gif)" height=9>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-IMAGE: url(/image/mainpage/bg_left.gif)" width=9></TD><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width=266 border=0><TBODY><TR><TD width=17></TD><TD>Website</TD><TD>IP/day</TD></TR><TR><TD width=17>1.</TD><TD>www.sanook.com</TD><TD>668,042</TD></TR><TR><TD width=17>2.</TD><TD>www.kapook.com</TD><TD>435,545</TD></TR><TR><TD width=17>3.</TD><TD>www.mthai.com</TD><TD>383,326</TD></TR><TR><TD width=17>4.</TD><TD>teenee.com</TD><TD>260,173</TD></TR><TR><TD width=17>5.</TD><TD>www.exteen.com</TD><TD>255,178</TD></TR><TR><TD width=17>6.</TD><TD>www.dek-d.com</TD><TD>241,872</TD></TR><TR><TD width=17>7.</TD><TD>www.manager.co.th</TD><TD>235,405</TD></TR><TR><TD width=17>8.</TD><TD>www.bloggang.com</TD><TD>213,276</TD></TR><TR><TD width=17>9.</TD><TD>www.gmember.com</TD><TD>160,389</TD></TR><TR><TD width=17>10.</TD><TD>www.meemodel.com</TD><TD>154,008</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=661 border=0><TBODY><TR><TD class=textHeadBlue>หลวงปู่แหวนสอนสู้กามกิเลส </TD></TR><TR><TD height=25>:: INN online .- ʴ�ѹ�շ���բ��� ::</TD></TR><TR><TD><B><TABLE height=300 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=664 border=0><TBODY><TR><TD width=1></TD><TD vAlign=top width=660>
    <!-- [​IMG] -->
    </B>
    <!-- Show Detail -->
    การต่อสู้กามกิเลสเป็นสงครามอันยิ่งใหญ่...คำสอนของ"หลวงปู่แหวน สุจิณโณ"ที่เปิดประตูให้มนุษย์ผู้เวียนว่ายในทะเลของกิเลส

    การต่อสู้กามกิเลสเป็นสงครามอันยิ่งใหญ่ กามกิเลสนี้ร้ายนัก มันมาทุกทิศทาง ความพอใจก็คือกิเลส ความไม่พอใจก็คือกามกิเลส กามกิเลสนี้อุปมาเหมือนแม่น้ำ ธารน้ำน้อยใหญ่ไม่มีประมาณ ไหลลงสู่ทะเล ไม่มีที่เต็ม ฉันใดก็ดี กามตัณหาที่ไม่พอดี ภวตัณหา วิภวตัณหา เป็นแหล่งก่อทุกข์ ก่อความเดือดร้อนไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งหมดอยู่ที่ใจ สุขก็อยู่ที่ใจ ทุกข์ก็อยู่ที่ใจ ใจนี่แหละคือตัวเหตุ ทำความพอใจให้อยู่ที่ใจนี่

    กามตัณหา เปรียบเหมือนแม่น้ำไหลไปสู่ทะเล ไม่รู้จักเต็มสักที อันนี้ฉันใด ความอยากของตัณหามันไม่พอ ต้องทำความพอจึงจะดี เราจะต้องทำใจให้ผ่องใส ตั้งอยู่ในศีล ตั้งอยู่ในทาน ตั้งอยู่ในธรรม ตั้งอยู่ในสมาธิก็ดี ทุกอย่างเราทำความพอดี ความพอใจก็นำออกเสีย ความไม่พอใจก็นำออกเสีย เวลานี้เราจะพักจิต ทำกายของเรา ทำใจของเราให้รู้แจ้งในกายในใจของเรานี้ รู้ความเป็นมา วางให้หมด วางอารมณ์ วางอดีตอนาคตทั้งปวงที่ใจนี่แหละ

    (คัดมาจาก หนังสือรวมคำสอนจากพระป่า)
    (จากหนังสือรวมคำสอนพระสุปฏิปันโน เล่ม 1)

    </TD></TR></TBODY></TABLE></B></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มาอธิบายเรื่องของลายเซ็นผม(อีกครั้ง)นะครับ

    ปกติเวลาที่โพส หากเราใส่ข้อความลงในลายเซ็นของเรา เมื่อโพสแล้ว ข้อความที่เราใส่ลงไปที่ลายเซ็นนั้น จะปรากฎขึ้นมาโดยอัตโนมัติครับ

    ลายเซ็นผม
    คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
    ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิตพระเณรบช.ออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทองบมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม
    ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ
    หลวงปู่โลกอุดร ประวัติหลวงปู่ โลกอุดร"พระวังหน้า อกาลิโก" พระวังหน้า กองทุนผู้ป่วยโรคมะเร็ง

    จะแบ่งได้ตามนี้ครับ
    1.คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
    นี่คือลายเซ็นที่ลิงค์ไปกระทู้พระวังหน้าฯ
    [​IMG]PaLungJit.com > พลังจิต > พระเครื่อง - วัตถุมงคล > พระเครื่องทั่วไป [​IMG] พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....
    http://palungjit.org/showthread.php?t=22445

    2.ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิตพระเณร
    นี่คือลายเซ็นที่ลิงค์ไปกระทู้ ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิตพระเณร
    [​IMG]PaLungJit.com > พลังจิต > ศูนย์ ประชาสัมพันธ์ > งานบุญอื่นๆ [​IMG] ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิต พระเณร
    http://palungjit.org/showthread.php?t=21733

    3.บช.ออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.
    ไม่ใช่ลิงค์ครับ


    4.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง
    นี่คือลายเซ็นที่ลิงค์ไปกระทู้ ขอความเมตตาต่อชีวิตพระ-เณร สนส.บ่อเงินบ่อทอง
    [​IMG]บอร์ดอกาลิโก > ธรรมในจิต > 108 โทรโข่ง [​IMG] ขอความเมตตาต่อชีวิตพระ-เณร สนส.บ่อเงินบ่อทอง
    http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=5793

    5.บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม
    ไม่ใช่ลิงค์ครับ

    6.ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
    นี่คือลายเซ็นที่ลิงค์ไปกระทู้ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
    [​IMG]PaLungJit.com > พลังจิต > ศูนย์ ประชาสัมพันธ์ > พระพุทธรูป - วัด โบสถ์ วิหาร - สิ่งก่อสร้าง [​IMG] ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
    http://palungjit.org/showthread.php?t=68899



    7.บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ
    นี่คือลายเซ็นที่ลิงค์ไปกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
    [​IMG]บอร์ดอกาลิโก > ธรรมในจิต > 108 โทรโข่ง [​IMG] ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
    http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=9798

    8.หลวงปู่โลกอุดร
    นี่คือลายเซ็นที่ลิงค์ไปกระทู้ ประวัติหลวงปู่เทพโลกอุดร
    [​IMG]PaLungJit.com > พุทธศาสนา > อภิญญา - กรรมฐาน [​IMG] ประวัติหลวงปู่เทพโลกอุดร
    http://palungjit.org/showthread.php?t=91379

    ประวัติหลวงปู่
    นี่คือลายเซ็นที่ลิงค์ไปกระทู้ หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
    [​IMG]บอร์ดอกาลิโก > ธรรมในจิต > พระสงฆ์สาวก-อริยบุคคล [​IMG] หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=8249

    9.โลกอุดร
    นี่คือลายเซ็นที่ลิงค์ไปกระทู้ หลวงปู่เทพโลกอุดร
    :: ลานธรรมจักร :: &raquo; ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=14333


    10."พระวังหน้า อกาลิโก"
    นี่คือลายเซ็นที่ลิงค์ไปกระทู้ "พระวังหน้า ที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้....."
    [​IMG]บอร์ดอกาลิโก > ธรรมในจิต > 108 โทรโข่ง [​IMG] "พระวังหน้า ที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้....."
    http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=8477


    11.พระวังหน้า
    นี่คือลายเซ็นที่ลิงค์ไปที่ชมรมพระวังหน้า
    [​IMG]PaLungJit.com > กลุ่มชมรม > พระเครื่อง-วัตถุมงคล [​IMG] พระวังหน้า
    http://palungjit.org/group.php?groupid=6


    12.กองทุนผู้ป่วยโรคมะเร็ง
    นี่คือลายเซ็นที่ลิงค์ไปกระทู้ ขอเชิญร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อตั้งกองทุนเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง
    [​IMG]PaLungJit.com > พุทธศาสนา > พุทธศาสนา สำหรับผู้เริ่มต้น > สนทนาธรรม กับ แม่ชี ณัฐทิพย์ [​IMG] ขอเชิญร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อตั้งกองทุนเพื่อผู้ป่วยโรค
    http://palungjit.org/showthread.php?t=112354

    โมทนาสาธุครับ
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    "มะเร็งลำไส้" โรคฮิตท็อปทรีของโลก
    ข่าวไทยรัฐออนไลน์ - "มะเร็งลำไส้" โรคฮิตท็อปทรีของโลก

    ที่มา ไทยรัฐ

    [​IMG]


    โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก (colorectal cancer) เป็นโรคที่พบได้บ่อยมากขึ้นทุกปี โดยจากสถิติของประเทศไทยล่าสุด พบว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตสูงเป็นอันดับที่สามของผู้ป่วยที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง รองจากโรคมะเร็งปอด และโรคมะเร็งตับ สำหรับในประเทศสหรัฐอเมริกาขณะนี้ โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่แซงขึ้นมาเป็นสาเหตุการตายอันดับที่สองของผู้ป่วยโรคมะเร็งทั้งหมดแล้ว

    โรคมะเร็งชนิดนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับลำไส้ใหญ่ทุกๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นลำไส้ใหญ่ที่อยู่ในช่องท้อง หรือลำไส้ใหญ่ส่วนที่อยู่ในอุ้งเชิงกราน ที่เรียกว่าไส้ตรง อันที่จริงแล้วมะเร็งลำไส้ใหญ่ของทั้งสองส่วน จะมีลักษณะโรคและวิธีการรักษาที่แตกต่างกันบ้าง แต่สาเหตุ การตรวจวินิจฉัยและระยะโรคจะคล้ายคลึงกัน ตำแหน่งที่พบว่าเป็นมะเร็งประมาณครึ่งหนึ่งอยู่ที่บริเวณไส้ตรง อีกหนึ่งในสามอยู่ที่ลำไส้ใหญ่ขดขวาและขดซ้าย ส่วนที่ทวารหนัก พบร้อยละ 1-2ของทั้งหมด
    โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่มักพบในคนอายุ 60 ปีขึ้นไป แต่สามารถพบได้ในทุกอายุ พบได้น้อยในผู้ที่อายุต่ำกว่า 40 ปี ผู้ชายเป็นโรคนี้มากกว่าผู้หญิงเล็กน้อย

    [​IMG]


    สาเหตุ
    1.ปัจจัยทางพันธุกรรม มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่มาก่อน จะมีอัตราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งชนิดนี้สูงขึ้น นอกจากนี้ผู้ที่เป็นโรคติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรังบางชนิด จะมีโอกาสเป็นมะเร็งสูงกว่าปกติ 15-20 เท่า ปัจจุบันพบว่ามียีนที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่หลายชนิด ได้แก่ MSH2, MLH1 และ PMS2

    2.ปัจจัยด้านอาหาร การรับประทานอาหารไขมันสูง หรืออาหารที่ขาดใยอาหารทำให้มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ บางการศึกษาพบว่าการขาดสารอาหารบางชนิดอาจเป็นปัจจัยให้เกิดมะเร็งในลำไส้ใหญ่ได้สูงกว่าผู้ป่วยได้รับสาร
อาหารครบถ้วน ที่สำคัญคือ การรับประทานผักและผลไม้ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ เมื่อเทียบกับการรับประทานกลุ่มอื่น ปัจจุบันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่พบมากขึ้นในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ เนื่องจากสิ่งแวดล้อมที่มีมลภาวะเป็นพิษ และอาหารการกินของผู้บริโภคที่นิยมทานอาหารฟาสต์ฟู้ดมากขึ้น


    [​IMG]


    แม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาวิจัยที่ได้ข้อสรุปชัดเจนว่าอะไรเป็นสาเหตุของมะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่ข้อมูลมากมายบ่งชี้ว่าการควบคุมน้ำหนักและการออกกำลังกายที่พอเหมาะ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ระดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบว่าการดื่มสุราหรือเบียร์อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ รวมทั้งการสูบบุหรี่ก็อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้เช่นกัน

    อาการ
    ถ้ามีก้อนมะเร็งบริเวณลำไส้ใหญ่ด้านขวา ผู้ป่วยจะมาพบแพทย์ด้วยอาการอ่อนเพลีย โลหิตจาง และมีเลือดออกในทางเดินอาหาร หรือคลำได้ก้อนที่ท้อง บางรายอาจมีอาการปวดหน่วงๆ บริเวณท้องด้านขวา มีน้อยรายที่ผู้ป่วยมีอาการอุดตันของลำไส้

    ถ้ามีก้อนมะเร็งบริเวณลำไส้ใหญ่ด้านซ้าย ผู้ป่วยมักมีอาการของลำไส้อุดตันจากก้อนมะเร็งหรือถ่ายอุจจาระผิดปกติ ท้องผูก ปวดท้อง อาเจียน ไม่ผายลม ไม่ถ่ายอุจจาระ หรือมีเลือดปนกับอุจจาระ
    ถ้ามีก้อนมะเร็งบริเวณลำไส้ส่วนตรง จะมีอาการปวดทวารหนัก ถ่ายเป็นเลือดสด มีความรู้สึกถ่ายไม่สุด หรือบางครั้งพบว่ามีก้อนออกทางทวารหนัก ถ้ามีก้อนมะเร็งบริเวณทวารหนัก ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะคลำได้ก้อน อาจมีอาการถ่ายเป็นเลือดสด ถ่ายแล้วปวด หรือพบว่าต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต


    [​IMG]


    ความรุนแรงของมะเร็งลำไส้ใหญ่ขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัยที่สำคัญได้แก่ ระยะของโรค โดยระยะยิ่งมากความรุนแรงของโรคก็มากขึ้น สภาพร่างกายและโรคร่วมอื่นๆ ที่มีผลต่อสุขภาพของผู้ป่วย เช่น โรคเบาหวาน โรคไต เป็นต้น ผู้ป่วยอายุน้อย มักมาพบแพทย์เมื่อโรคลุกลามเพราะไม่ค่อยได้นึกถึงโรคมะเร็ง ส่วนผู้ป่วยสูงอายุมักมีสภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการรักษา ขนาดของก้อนมะเร็ง ยิ่งมีขนาดโตมากความรุนแรงของโรคจะมากกว่าในผู้ป่วยซึ่งขนาดก้อนมะเร็งเล็กกว่า การที่มีมะเร็งลุกลามเข้าอวัยวะข้างเคียง ความรุนแรงของโรคก็จะมากกว่าการไม่มีการลุกลามของโรค

    การวินิจฉัย
    จากการซักถามประวัติอาการและการตรวจร่างกายอย่างะเอียด รวมทั้งการตรวจทางทวารหนัก การถ่ายภาพเอกซเรย์ด้วยการสวนแป้งทางทวารหนัก การส่องกล้องทางทวารหนักและการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจทางด้านพยาธิวิทยา ตรวจหาระยะของโรค เช่น การตรวจช่องท้องด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ การตรวจภาพเอกซเรย์ปอด การตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการเพื่อดูการทำงานของตับ ไต หรือ โรคเบาหวานเป็นต้น
    การตรวจภาพสแกนของกระดูก ถ้าผู้ป่วยมีอาการปวดหลังมาก เพื่อตรวจว่าได้มีโรคแพร่กระจายไปกระดูกหรือไม่ การตรวจอัลตราซาวด์ตับ ถ้าสงสัยว่ามีโรคแพร่กระจายไปที่ตับ

    โดยทั่วไปผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ประมาณร้อยละ 25 อาจได้รับการวินิจฉัยเบื้องตันผิดพลาดเป็นโรคของถุงน้ำดีและแผลในกระเพาะ หรือโรคของลำไส้ใหญ่ชนิดอื่นๆ อาการปวดท้องด้านล่างข้างขวาอาจคล้ายอาการของโรคไส้ติ่งอักเสบ ผู้ป่วยที่มีปัญหาโลหิตจางร่วมกับน้ำหนักลด ต้องนึกถึงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วย สำหรับผู้ที่มีอายุเกิน 40 ปีที่มีอาการเลือดออกทางทวารหนักควรได้รับการตรวจละเอียดทุกราย

    ระยะต่างๆ ของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
    ระยะที่ 1 - โรคมะเร็งยังอยู่ในเยื่อบุลำไส้
    ระยะที่ 2 - มะเร็งทะลุเข้ามาในชั้นกล้ามเนื้อของลำไส้ และ/หรือทะลุถึงเยื่อหุ้มลำไส้ ลุกลามเข้าเนื้อเยื่อหรืออวัยวะข้างเคียง
    ระยะที่ 3 - มะเร็งลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองข้างเคียง
    ระยะที่ 4 - มะเร็งลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ไกลออกไป หรือลุกลามตามกระแสโลหิตไปยังอวัยวะที่อยู่ไกลออกไป เช่น ตับ ปอด หรือกระดูก เป็นต้น

    การรักษา
    การรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักจะได้ผลดีมากน้อยเพียงใดขึ้นกับระยะของโรคขณะเริ่มต้นรักษา ปัจจุบันมีการตรวจคัดกรองเพื่อค้นหาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เช่น การตรวจอุจจาระซึ่งทำได้สะดวก รวดเร็วและสิ้นเปลืองน้อย หรืออาจตรวจลำไส้ละเอียดมากขึ้นด้วยการสวนสารทึบแสง ตลอดจนการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อบ่งชี้ในการเลือกใช้ที่แตกต่างกัน

    การผ่าตัด ถือเป็นการรักษาหลักของมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยตัดเอาลำไส้ส่วนที่เป็นโรคและต่อมน้ำเหลืองออกไป ในบางครั้งถ้าเป็นมะเร็งที่ลุกลามมาก หรือมะเร็งของลำไส้ใหญ่ส่วนปลายที่อยู่ติดกับทวารหนัก การผ่าตัดอาจมีความจำเป็นต้องทำทวารเทียมเอาปลายลำไส้ส่วนที่เหลืออยู่เปิดออกทางหน้าท้องเป็นทางให้อุจจาระออก ปัจจุบันมีการใช้เครื่องมือชนิดลวดเย็บมาช่วยต่อลำไส้ ทำให้สามารถผ่าตัดมะเร็งที่อยู่ต่ำๆ โดยอยู่เหนือรูทวารหนักเพียง 4-5 เซนติเมตร ได้โดยไม่ต้องทำทวารเทียม
    รังสีรักษา เป็นการรักษาร่วมกับการผ่าตัด อาจฉายรังสีก่อนหรือหลังการผ่าตัด โดยแพทย์จะประเมินจากลักษณะการลุกลามของก้อนมะเร็งและโอกาสการแพร่กระจายไปต่อมน้ำเหลือง โดยทั่วไปการฉายรังสีรักษามักใช้ระยะเวลาประมาณ 5-6 สัปดาห์ โดยฉายวันละ 1 ครั้ง ฉายติดต่อกัน 5 วันใน 1 สัปดาห์

    ยาเคมีบำบัด อาจให้ก่อนการผ่าตัด และ/หรือหลังผ่าตัด ร่วมกับรังสีรักษาหรือไม่ก็ได้ การใช้ยาเคมีบำบัดไม่จำเป็นต้องให้ในผู้ป่วยทุกราย โดยแพทย์จะพิจารณาเป็นรายๆ ไป ปัจจุบันพบว่าการใช้ยาเคมีบำบัดจะได้ผลดีขึ้นกับพันธุกรรมของผู้ป่วย โดยสามารถตรวจได้ล่วงหน้าว่าผู้ป่วยรายนั้นจะได้ผลตอบสนองต่อยาเคมีบำบัดหรือไม่

    การรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ในระยะลุกลาม ปัจจุบันใช้ยา cetuximab ซึ่งเป็นสารต้านมะเร็งในรูปแบบชีวบำบัด จัดเป็นแนวทางการรักษาใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า targeted therapy หมายถึงการรักษาตามเป้าหมายอย่างเฉพาะเจาะจง โดยตัวยาออกฤทธิ์ต้านตัวรับสัญญาณเซลล์มะเร็ง EGFR โดยเฉพาะ จะมีผลให้ลดการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง

    นอกจากนี้การติดตามผลการรักษาก็ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยภายหลังรักษาครบตามกระบวนการแล้ว แพทย์จะนัดตรวจผู้ป่วยสม่ำเสมอ โดยในปีแรกอาจนัดตรวจทุก 1-2 เดือน ภายหลังรักษาครบ 2-3 ปีไปแล้วอาจนัดตรวจทุก 2-3 เดือน ภายหลัง 3-5 ปี อาจนัดตรวจทุก 3-6 เดือน และถ้าเกิน 5 ปีไปแล้ว อาจนัดตรวจทุก 6-12 เดือน ในการนัดมาทุกครั้งแพทย์จะซักประวัติและทำการตรวจร่างกาย ส่วนการตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น การตรวจเลือด หรือเอกซเรย์จะทำตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์เป็นรายๆ ไปไม่เหมือนกัน ผู้ป่วยควรมาตรวจตามนัดสม่ำเสมอและควรนำญาติหรือผู้ให้การดูแลมาด้วย เพื่อจะได้ร่วม
    ปรึกษาวางแผนการดูแลผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม

    ที่มา : ศูนย์ข้อมูลสุขภาพกรุงเทพ
    http://www.bangkokhospital.com
    http://www.bangkokhealth.com
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ก็แค่พุงใหญ่จะเป็น "โรค" ได้อย่างไร

    ข่าวไทยรัฐออนไลน์ - ก็แค่พุงใหญ่จะเป็น ‘โรค’ ได้อย่างไร?

    ที่มา ไทยรัฐ

    [​IMG]


    อ้วนลงพุง ไม่ใช่แค่ความอ้วนธรรมดา แต่เป็นภาวะอ้วนที่มีไขมันสะสมบริเวณช่วงเอวหรือช่องท้องปริมาณมากๆ และก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายหลายระบบ ในทางการแพทย์เรียกโรคนี้ว่า Metabolic syndrome ถือเป็นกลุ่มความผิดปกติที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ด้วย ดังนั้นภาวะอ้วนลงพุงจึงนับว่าเป็นโรคที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้

    ไขมันที่พุงอันตรายกว่าไขมันส่วนอื่นของร่างกายอย่างนั้นหรือ?

    โดยทั่วไปไม่ว่าจะเป็นไขมันตรงส่วนใด หากมีมากเกินไปก็ถือว่าไม่ดีทั้งนั้น แต่ไขมันที่สะสมในช่องท้องหรือบริเวณพุงจะสลายตัวเป็นกรดไขมันอิสระ ส่งผลให้ในกระแสเลือดมีกรดไขมันอิสระเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดผลเสียต่อระบบต่างๆ ภายในร่างกาย โดยกรดไขมันชนิดนี้จะไปยับยั้งกระบวนการเผาผลาญของกลูโคสที่กล้ามเนื้อ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ความดันโลหิตสูง และอาจส่งผลให้หลอดเลือดแดงแข็งตีบและอุดตันได้

    พบว่าในคนอ้วนลงพุงจะมีระดับฮอร์โมน Adiponectin ในกระแสเลือดลดลง ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่พบในเซลล์ไขมันเท่านั้น ระดับ Adiponectin ในเลือดที่ต่ำจะสัมพันธ์กับภาวะดื้อต่ออินซูลิน และเป็นตัวทำนายการเกิดโรคเบาหวานและโรคหัวใจและหลอดเลือดได้อีกด้วย

    นอกจากนี้ เชื่อว่าความอ้วนและภาวะดื้อต่ออินซูลิน ยังเป็นสาเหตุสำคัญของการสะสมไขมันในเนื้อตับ เพราะกรดไขมันอิสระที่ออกมาจากไขมันบริเวณพุงจะเข้าสู่ตับโดยตรงได้มากกว่าไขมันบริเวณสะโพก ซึ่งกรดไขมันที่สะสมภายในตับหากเกิดในช่วงที่ร่างกายมีอนุมูลอิสระมากจนเกินที่สารต้านอนุมูลอิสระสามารถรับมือไหว จะส่งผลให้เกิดการอักเสบของตับตามมาอีกด้วย ดังนั้นคนที่อ้วนลงพุงจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน และโรคตับมากกว่าคนที่มีไขมันสะสมที่สะโพก

    [​IMG]

    คุณ! พุงโตเกินไปหรือไม่?

    รอบเอวเป็นตัวบ่งชี้ภาวะอ้วนที่ง่ายและชัดเจนโดยไม่ต้องใช้การคำนวณ สำหรับคนเอเชียในปัจจุบันการวินิจฉัยว่าใครจัดอยู่ในกลุ่มโรคอ้วนลงพุงบ้าง จะใช้เกณฑ์ดังนี้

    เส้นรอบเอวของผู้ชายตั้งแต่ 36 นิ้วขึ้นไป และสำหรับผู้หญิงตั้งแต่ 32 นิ้วขึ้นไป
    มีระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดมากกว่า 150 มก./ดล.
    มีระดับ HDL คอเลสเตอรอล น้อยกว่า 40 มก./ดล.ในผู้ชาย หรือน้อยกว่า 50 มก./ดล.ในผู้หญิง
    ความดันโลหิตมากกว่า 130/85 มม.ปรอท หรือรับประทานยาลดความดันโลหิตอยู่
    ระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหารมากกว่า 100 มก./ดล.

    พบว่าผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงเพียง 3 ข้อจากเกณฑ์ข้างต้น จะมีอัตราการเกิดโรคหัวใจเพิ่มขึ้น 2 เท่า และผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง 4 ข้อจะมีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มเป็น 3 เท่า และเกิดโรคเบาหวานเพิ่มถึง 24 เท่า

    นอกจากนี้ยังพบว่ามีปัจจัยเสี่ยงสำคัญอื่นๆ อีกที่ส่งผลให้เกิด Metabolic syndrome อาทิ ยิ่งอายุมากก็มีโอกาสเป็นสูงขึ้น พบว่าคนผิวดำจะมีโอกาสพบโรคมากกว่า คนอ้วนมีความเสี่ยงมากกว่าคนผอม ผู้ที่มีประวัติในครอบครัวเป็นโรคเบาหวานจะมีโอกาสเป็นโรคนี้สูง นอกจากนั้นยังมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคอื่นๆ ได้ง่าย เช่น ความดันโลหิต เป็นต้น

    ลดพุง...ลดโรค
    การรักษา Metabolic syndrome หรือโรคอ้วนลงพุงนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตเป็นอันดับแรก เช่น การลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย ควบคุมอาหารที่รับประทาน บริโภคผักและผลไม้ให้มากขึ้น ลดการดื่มสุรา ตรวจสุขภาพเป็นประจำ เมื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว ยังไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาล ไขมัน หรือความดันโลหิตได้ อาจจำเป็นต้องมีการใช้ยาในการควบคุมร่วมด้วย เป้าหมายในการใช้ยาก็เพื่อลดระดับไขมัน Triglyceride เพิ่มระดับไขมัน HDL(ทำหน้าที่เก็บกวาดคอเลสเตอรอลจากหลอดเลือดไปขจัดที่ตับ นับว่าเป็นไขมันชนิดดี) และลดระดับไขมัน LDL(ทำหน้าที่นำคอเลสเตอรอลออกจากตับไปสะสมตามผนังหลอดเลือด ถือว่าเป็นไขมันชนิดไม่ดี) ซึ่งเหล่านี้เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงโรคเบาหวาน

    พูดง่ายๆ ก็คือ ยิ่งพุงโตมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสะสมโรคมากขึ้นนั่นเอง รู้อย่างนี้แล้ว หันมาออกกำลังกายวันละนิด ค่อยๆ ปรับพฤติกรรมทีละน้อย ทำบ่อยๆ จนกลายเป็นนิสัย นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคดังกล่าวแล้ว ยังเป็นเหมือนเกราะป้องกันโรคภัยต่างๆ ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นอีกด้วย...

    ข้อมูลโดย ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลเวชธานี
    www.vejthani.com
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD>‘ตู้เย็น’...ใช้ยังไงไม่ให้โลกร้อน


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    รายงานโดย :เรื่อง อินทรชัย พาณิชกุล

    ��ʵ� ������ - �ſ������ - ������繒...����ѧ���������š��͹

    ที่มา โพสต์ทูเดย์

    การใช้ไฟฟ้าสิ้นเปลือง ก็เป็นสาเหตุหนึ่งในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อนได้ เพราะไฟฟ้าที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้เป็นพลังงานที่เกิดจากการเผาผลาญพวกถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติต่างๆ


    ซึ่งส่วนใหญ่ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ อีกทั้งกระบวนการเหล่านี้ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกและมลพิษทางอากาศ ดังนั้นการประหยัดไฟก็สามารถที่จะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้แล้ว รวมทั้งยังจะช่วยในเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจได้อีกด้วย

    [​IMG]

    เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ มากมายภายในบ้านของเรา จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้จักวิธีใช้สอยอย่างถูกต้อง เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและประหยัดพลังงานมากที่สุด
    วันนี้เราจะมาพูดถึง “ตู้เย็น” เครื่องใช้ไฟฟ้ายอดฮิตประจำบ้านที่ถูกเปิดใช้บ่อยที่สุดเป็นอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าเช้าจรดเย็น ดึกดื่นขนาดไหน เมื่อเราเกิดอาการหิวกระหาย ใจก็ต้องนึกถึงตู้เย็นเป็นสิ่งแรก แต่ใครจะรู้บ้างว่าไอ้เจ้าตู้เย็นนี่แหละที่เป็นเครื่องใช้ที่กินไฟฟ้ามากๆ เลยทีเดียว เพราะว่าต้องเสียบปลั๊กไว้ตลอดเวลา โดยเฉพาะตู้เย็นเก่าๆ ก็จะกินไฟมากกว่า แถมสารทำความเย็นในตู้เย็นนั้นก็ยังทำให้เกิดภาวะโลกร้อนอีกด้วย
    ดังนั้น เรามาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะดูว่าตู้เย็นแบบไหนที่เหมาะกับบ้านเรา และเราควรใช้งานตู้เย็นแบบไหนถึงจะเป็นผลดีต่อโลกมากที่สุด
    การตั้งตู้เย็น
    ห้ามตั้งตู้เย็นใกล้แหล่งความร้อน การตั้งตู้เย็นใกล้เตาไฟ หรือถูกแสงแดดส่องถึง จะทำให้ตู้เย็นต้องทำงานอย่างหนัก เราควรตั้งตู้เย็นให้ห่างจากฝาผนังซักประมาณ 15 เซนติเมตร ถ้าเราตั้งใกล้ผนังมากเกินไป จะทำให้ตู้เย็นระบายความร้อนออกได้ยาก ลองเอามือไปแตะๆ ผนังบ้านดู ถ้าตั้งใกล้ๆ มันจะร้อน
    ระวังเรื่องปลั๊กไฟ
    อย่าเสียบปลั๊กตู้เย็นร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ปลั๊กของตู้เย็นควรแยกออกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ และควรมีอุปกรณ์ตัดตอนป้องกันวงจรไว้ด้วย ระมัดระวังอย่าให้สายไฟชำรุด อันเนื่องมาจากตัวตู้ทับสายไฟ หรือสายไฟถูกปาด ถ้าสายไฟเกิดชำรุด ต้องแจ้งให้ช่างเปลี่ยนโดยด่วน
    แช่ของเท่าที่จำเป็น
    ยิ่งเราแช่ของในตู้เย็นมากเท่าไหร่ ตู้เย็นก็จะทำงานหนักมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นอะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเอาไปแช่ ของที่แช่ไว้นานๆ แล้วก็เอาออกมากินซะ ตู้เย็นจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก

    [​IMG]

    อย่าแช่ของที่ยังร้อนๆ อยู่
    เราไม่ควรเอาของที่ยังร้อนอยู่เข้าไปแช่ในตู้เย็นทันที เพราะว่าจะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักมาก ควรตั้งทิ้งไว้ข้างนอกก่อนให้มันหายร้อน แล้วก็ค่อยนำไปใส่ในตู้เย็น
    ไม่วางของบนตู้เย็น
    การวางของร้อนบนตู้เย็น หรือใช้ผ้าคลุมตัวตู้เย็น จะทำให้การระบายความร้อนของตู้เย็นไม่ดี สิ้นเปลืองไฟมากขึ้น แล้วยังทำให้มีฝุ่นเกาะเยอะด้วย มอเตอร์จึงต้องทำงานหนักโดยใช่เหตุ และการระบายความร้อนจะไม่ดีเช่นกัน
    ละลายน้ำแข็งเป็นประจำ
    น้ำแข็งที่เกาะอยู่ในช่องแช่แข็งนั้น บางคนอาจจะนึกว่ามันดี แต่จริงๆ แล้วมันทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นเราควรกดปุ่มละลายน้ำแข็งอยู่เป็นประจำ ไม่ให้มันเกาะหนาอยู่อย่างนั้น
    เลือกตู้เย็นที่มีขนาดเหมาะสม
    ไม่ควรเลือกตู้เย็นที่มีขนาดใหญ่เกินไป เพราะว่ามันจะกินไฟมากกว่าโดยไม่จำเป็น ควรจะเลือกขนาดให้เหมาะกับการใช้งานของเรา เป็นการใช้พลังงานโดยคุ้มค่า ช่วยลดภาวะโลกร้อน
    ตู้เย็นเก่าๆ ควรเปลี่ยน
    เพราะว่าตู้เย็นเก่าๆ เกิน 10 ปีนั้นกินไฟมากกว่า แถมยังใช้สาร CFCs ซึ่งทำลายชั้นโอโซน และทำให้เกิดภาวะโลกร้อนอีกต่างหาก ตู้เย็นใหม่ๆ จะถูกพัฒนาและทำให้กินไฟน้อยกว่า ซึ่งในระยะยาวจะคุ้มกว่าแน่นอน
    ทำความสะอาดตู้เย็นเดือนละครั้ง
    ควรทำความสะอาดตู้เย็นอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง โดยใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำสบู่บิดพอหมาดๆ แล้วเช็ดตัวตู้ และที่วางของบนหลังตู้ ใช้ผ้าชุบน้ำพอหมาดๆ เช็ดให้หมดคราบสบู่ ก่อนจะใช้ผ้าแห้งเช็ดตัวตู้ให้แห้งอีกครั้ง
    ทีนี้เราก็ได้รู้แล้วว่า เวลาเลือกซื้อตู้เย็นควรจะดูอะไรบ้าง แค่เลือกซื้อตู้เย็นก็สามารถช่วยลดภาวะโลกร้อนได้แล้ว ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ
    ทำความรู้จักกับสารทำความเย็น
    ต่อกันที่เรื่องสารทำความเย็นกัน สำหรับใครกำลังจะซื้อตู้เย็นใหม่หรือกำลังคิดจะซื้อก็น่าจะอ่านไว้ เวลาไปเลือกจะได้เลือกถูกว่าแบบไหนช่วยลดภาวะโลกร้อนมากที่สุด
    ตู้เย็นสมัยก่อนๆ นั้นใช้สารซีเอฟซี CFCs (Chloroflurocarbons) ในการทำความเย็น คิดว่าหลายคนคงเคยได้ยินตู้เย็นที่ใช้สารทำความเย็นอันนี้ไม่ควรใช้ เพราะว่ามันทำลายโอโซน และทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
    ส่วนตู้เย็นที่ใช้สารเอชเอฟซี HFCs (Hydrofluorocarbons) ในการทำความเย็นก็จะดีหน่อย ไม่ทำลายชั้นโอโซน แต่สร้างก๊าซเรือนกระจกเทียบเท่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 1,200 เท่าเลยทีเดียว ตู้เย็นที่ใช้สารเอชซี HCs (Hydrocarbons) อันนี้ไม่ทำลายชั้นโอโซน สร้างก๊าซเรือนกระจกเทียบเท่าคาร์บอนไดออกไซด์ 3-4 เท่าตัวเท่านั้น เพราะฉะนั้นเวลาเลือกซื้อตู้เย็นก็ควรดูอันที่ใช้สารเอชซีในการทำความเย็น และที่สำคัญก็ต้องเป็นเบอร์ 5 ด้วย เพื่อที่จะได้ประหยัดไฟ
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD align=middle height=10>
    คปภ.สั่งล้อมคอก ตัวแทนขายประกัน ตื๊อลูกค้าทางมือถือ ขู่ถอนใบอนุญาต
    </TD></TR><TR><TD align=middle height=10>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD>
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  19. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    22 มิถุนายน ::: วันคล้ายวันมรณภาพสมเด็จโต :::

    ถึงชาวรักษ์พระวังหน้าทุกท่าน เป็นที่ทราบกันดีว่าวันนี้เมื่อ 137 ปีก่อน (22 มิถุนายน 2415 เวลาประมาณ 24.00 น.เศษ) สมเด็จโตท่านมรณภาพ และวันนี้ตรงกับวันพระใหญ่ด้วย ผมได้ไปทำบุญเพื่อเป็นสังฆานุสติถึงท่านและคณะผู้สร้างพระวังหน้า ณ วัดชุมพลคีรีเขต แม่สอด ขอได้โปรดอนุโมทนาสาธุการร่วมกันครับผม :)
     
  20. prawangna

    prawangna Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +33
    ระบบใหม่ ก่อนสมาชิกทุกคนจะโพสได้ ต้อง กฏกติกา 1 ครั้ง
    WebSnow

    จะเห็นว่ามี กฏกติกาเขียวๆอยู่ตรง bar
    เพื่อให้ทุกคนได้เห็นและยอมรับเงื่อนไขในการใช้บริการ

    ก่อนที่สมาชิกทุกคนจะโพสตอบกระทู้และตั้งกระทู้ใหม่ ส่ง pm จะต้องกด ยอดรับเงื่อนไข ของเว็บพลังจิต ก่อน 1 ครั้ง จึงจะเขียนได้

    1. กดเพียงครั้งเดียวต่อ สมาชิก1คน
    2. คนไหนที่โดนแบน จะต้องกดใหม่อีกครั้ง
    3. หรือทางเว็บพลังจิต เปลี่ยนหรือเพิ่มกฏใหม่ ทางเราจะกด reset
    เพื่อให้สมาชิกกดยอมรับกฏกติกาอีกครั้ง

    http://palungjit.org/threads/ระบบใหม่-ก่อนสมาชิกทุกคนจะโพสได้-ต้อง-กฏกติกา-1-ครั้ง.193437/

    *///////////////////////////////*

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.JPG
      1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      80.1 KB
      เปิดดู:
      41
    • 2.JPG
      2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      152.4 KB
      เปิดดู:
      43
    • 3.JPG
      3.JPG
      ขนาดไฟล์:
      124.7 KB
      เปิดดู:
      38

แชร์หน้านี้

Loading...