วิถีอนุตรธรรม..ธรรมะอันสูงส่งเพื่อการปกโปรดทั้งสามภพ(5)

คุณสมบัติของผู้ขอรับวิถีอนุตรธรรม<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
1.มีผู้แนะนำ-รับรอง ท่านทั้งสองจะขุกเค่าต่อหน้าพระแท่นเหมือนเป็นการยืนยันว่าเราเป็นคนดี มีอาชีพสุจริตและรับรองว่าธรรมมะที่ได้รับมีได้หลอกลวงแต่อย่างใดหากเป็นลัทธิอุบาทว์ยินดีให้ฟ้าคนรับรู้และประทานโทษบาปแก่ตน<o></o>
2.ต้องมีเงินทำบุญสร้างกุศลด้วยการพิมพ์หนังสือแจกจำนวนหนึ่งประมาณ200บาทและก็ทานเจมาก่อนรับธรรมะ3วัน(หากท่านผู้ใดสนใจเราอาจไปศึกษาก่อนก็ได้และถามรายละเอียดจากโรงธรรมอีกทีก็ได้ครับเพราะข้พเจ้าองก็แรกๆก็ไม่ค่อยมั่นใจแต่ด้วยพระเมมตาของพระแม่กวนอิมทำให้ผมได้รับธรรมะครับ)<o></o>
3.มีการกล่าวปณิธาน10ข้อ ก็จะท่องตามอาจารย์ผู้ถ่ายทอดธรรม<o></o>
นี้มิใช่คำสาบานดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นหากเรามิได้ปฏิบัติก็มิมีโทษแก่ตัวเราแต่อย่างใดไ งแล้วก็ถือว่ามีบุญได้รับวิถีอนุตรธรรมอย่างไรแล้วก็ไปปรีกษาผู้รู้ตามโรงธรรมหรือผู้ที่บำเพ็ญวิถีอนุตรธรรมก่อนเราก้ได้ครับผม<o></o>
<?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" oreferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><vath o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></vath><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_s1026 style="MARGIN-TOP: 81.65pt; Z-INDEX: -1; MARGIN-LEFT: 153pt; WIDTH: 126pt; POSITION: absolute; HEIGHT: 171pt" type="#_x0000_t75" wrapcoords="0 0 0 21515 21600 21515 21600 0 0 0"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg" o:title="150320093067"></v:imagedata></v:shape>เงินทำบุญสร้างกุศลและทานเจมาก่อนรับธรรมะ3วันมีคือโอวาทจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์น่ะครับไม่ใช่ข้อตกลงของคนเราน่ะครับ<o></o>

 

สัทธรรมปฏิรูปครับ อนุตรธรรม

 

เหนื่อยมั้ยครับ ท่านเจ้าของกระทู้ เอาธรรมมะที่เกิดขึ้นต่อหน้าของท่านมาคุยกันดีกว่ามั้ยครับ ถึงแม้ว่ามันจะมีน้อยเท่าหนวดมด ก็ถือว่ามี

ดีกว่าเอาความคิด คำพูดที่ เหมารวมลงใส่เข่งเดียวกัน อิอิอิ

 

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ธรรมทั้งหลายย่อมเกิดแต่เหตุ

ข้าพเจ้าจะไม่ต่อต้าน แต่ก็จะไม่อนุโมทนากับสิ่งที่ท่านกล่าว

หากท่านใช้ปัญญาพิจารณา ท่านจะทราบว่า เราชาวพุทธ หากศรัทธาในพระพุทธเจ้าแล้ว

จะไม่ขวนขวายในบุญนอกศาสนา ไม่แคลงใจในพุทธเจ้า พระธรรมและอริยพระสงฆ์

พระธรรมของพระพุทธเจ้า เป็นของจริง เพราะพระองค์ตรัสสัจธรรม ท่านศึกษาดีหรือยัง

ผมเชื่อว่ายัง เพราะผุที่ศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง

ท่านไม่สังเกตุเหรอว่า ทำไม มีแต่คนคัดค้าน แต่ละท่านล้วนศึกษาธรรมะมานาน และรู้จริง
บางท่านเคยศึกษาและศรัทธาแบบท่าน

ถ้าเป็นผม ผมจะ ยังไม่ทิ้งทางเดิม แต่จะศึกษาทางใหม่ ที่กัลญาณมิตรแนะนำ เมื่อมั่นใจจึงเปลี่ยนทางเดิน

ด้วย เข้าใจว่าธรรมและสิ่งทั้งหลายเป็นอนัตตา ไปบังคับ ควบคุมท่านไม่ได้
ขอความปราถนาที่ดีงามและกุศลที่มีมาก่อนเก่า จงน้อมนำท่านไปส่ทางที่ควร<!-- google_ad_section_end --> เถิด สาธุ

 

1.มีผู้แนะนำ-รับรอง ท่านทั้งสองจะขุกเค่าต่อหน้าพระแท่นเหมือนเป็นการยืนยันว่าเราเป็นคนดี มีอาชีพสุจริตและรับรองว่าธรรมมะที่ได้รับมีได้หลอกลวงแต่อย่างใดหากเป็น ลัทธิอุบาทว์ยินดีให้ฟ้าคนรับรู้และประทานโทษบาปแก่ตน


นั่นแหละครับ ระวังให้ดี โทษมักมาเมื่อตายครับ คนรับรู้มากครับ แต่ก็ยังทำกันอีก ถ้าดีจริงจะมีคนแนะนำรับรองทำไม แสดงว่าต้องการสร้างภาพครับ

 

ท่านเม เอาจริงวุ้ย...

 

ผมเองก็เป็นเพียงบุคคลธรรมดาที่ยังต้องว่ายหาฝั่งนะครับ
แต่การเชื่อสิ่งใดต้องประกอบไปด้วยปัญญา จึงจะพาตัวรอดได้
การบิดเบือน หรือ ทำคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ผิดเพี้ยนไป
โทษหนักนะครับ คนจริง ทำจริง ย่อมเห็นจริง ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
ความจริง กับ ความเชื่อต่างกัน
ความจริง สามารถเป็นความเชื่อได้เสมอ แต่ความเชื่อไม่ใช่ความจริงเสมอไป
อนุโมทนา สาธุ

 

ล่งเรือธรรมนาวา ต่อจากนี้ไม่มีเรือ

5ศาสนา มาผสมผสานประยุกต์ ก็จะเกิดความสันติสุข ไม่เกิดสงคราม

 

ก็เพราะรู้ว่ามีโทษหากทำผิดสิครับ ทำมัยยังมีคนกล้ารับรอง นี่ก็แสดงแล้วว่าสิ่งที่เขาเชื่อนั้นมันถูก และเขาไม่กลัวที่จะผิดบาป เขาเหล่านั้นมั่นใจในวิถีอนุตรธรรมจริง จึงกล้ารับรองผู้คนที่จะเขามาร่วมกันศึกษา ก็ไม่ได้ผิกอะไรนี่ครับ เหมือนเรากบการที่เราเป็นคนรับรองให้คนกู้เงินนั่นแหละครับ ถ้าเราไม่มั่นใจในตัวเขาว่าจะใช้หนี้ เราจะไปค้ำทำหอกอะไร

 

ไม่ต้องไปแปลกใจหรอกครับ คุณ cmhadtong

สมัยพุทธกาลก็มีแบบนี้เหมือนกัน เมื่อคนนับถือพระพุทธศาสนามากๆเข้า มีลาภสักการะ
ผู้ปฏิบัติรู้ได้ เห็นได้ บรรลุธรรมตามลำดับ ตามบุญบารมีของผู้ปฏิบัติ สำเร็จเป็นพระอรหันต์ มีคุณวิเศษ มีฤทธิ์ มีอภิญญา ฯลฯ

พวกเดียรถีย์ เห็นพระพุทธศาสนามีคำว่า "อรหันต์" ก็เอาคำว่า "อรหันต์" ไปใช้กับตนเอง เที่ยวบอกเขาว่า "ตนเองเป็นพระอรหันต์" หลอกชาวบ้านไปวันๆ

ไม่แปลกหรอก เรื่องการเอาของเขาไปใช้ "ชุบมือเปิบ" เนี้ยะ มีมาแต่พุทธกาลแล้ว (ลูกหลานเดียรถีย์ เขายังอยู่)

 

เพราะผู้อยู่ในศาสนพุทธทั้งหลายต่างรู้ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า สิ่งใดเกิด สิ่งนั้นตั้งอยู่และดับไปเป็นธรรมดา
และหากเป็นชาวพุทธที่แท้จริง ย่อมเห็นหรือเข้าใจว่า กายและจิต ไมใช่เรา
หากมีทิฐิ(ความเห็น)ไม่ตรง ยังเห็นว่ากายนี้ จิตนี้เป็นเรา หรือเป็นจิตที่ยิ่งใหญ่ กลับไปสู่จิตที่ยิ่งใหญ่เช่นพระเจ้าหรือปรมาตมันต์อยู่
ก็ยังเป็นมิฉาทิฐิอยู่ ก็ยังไม่อาจ หลุดพ้น ไม่ใช่พุทธศาสนา
เพราะนิพพานไม่ใช่อ้อมแขนของพระผู้เป็นเจ้าไม่ใช่อาณาจักรนิรันดร์
ไม่ใช่ดวงวิญญาณใหญ่ที่ถูกเรียกว่า ปรมาตมันต์ ไม่ใช่ดินแดนที่เรียกว่าสุขาวดี
การดำเนินไปสู่พระนิพพานก็หามีหนทางอื่นไม่
นอกจาก สติปัฏฐานสี่ กาย เวทนา จิต ธรรม หรือตามดูตามรู้ขันธ์ทั้งห้า เพื่อรู้ทุกข์อย่างแจ่มแจ้ง ไม่ใช่การศรัทธาหรือเชื่อใจผู้ใด
และเพราะนิพพานเป็นสภาวะธรรม
ข้อนี้เป็นข้อหลักซึ่งนำไปผนวกกับศสนาอื่นไม่ได้ จึงได้แยกออกมา
เพราะเหตุนั้นโปรดอย่ากล่าวอ้างถึงพระพุทธเจ้า

หากจะกล่าวว่าท่านเป็นชาวพุทธ แต่ทางที่ท่านเดินเป็นทางลัด
แสดงว่าท่านไม่เชื่อในพระพุทธเจ้า เพราะพระศาดาตรัสไว้ชัดเจน นอกจากสติปัฏฐานไม่มีทางอื่นเลย

 

ท่านเอย ลองศึกษาให้ดีให้ถ่องแท้ ในพุทธศาสนาทั้งเถรวาท มหายาน แลวัชรยาน ให้ถึงแก่น แล้วท่านจะรู้ว่าการจะข้ามทะเลทุกข์ เขาใช้สมถวิปัสสนามีสติระลึกรู้ในกาย เวทนา จิต ธรรม นำไปสู่ศูนยตา และต้องทำด้วยตัวเองไม่มีใครมาช่วยได้ แล้วหลักการของพวกอุตริทำเมาอวดโอ่คืออะไร นำมาเว้าให้ชัดๆอย่าไปฟัดมามั่วๆ ถ้าหลักการเด่นชัดคนเขาคงไม่ออกมาค้านกันหรอก

 

ไม่ใช่ คุณเปรียบเทียบผิด การเปรียบเทียบเช่นนี้เหมือน คนที่คุณรับรองทำผิด แล้วศาสนาคุณไม่ผิด
แต่ความเป็นจริง คุณนะแหละที่หลงเชื่อแบบผิดๆ ในบริษัทที่หลอกลวงแล้ว มาหาสายงาน ดาวน์ลาย ของคุณ ยืนยันว่าดาวน์ลาย สายงานของคุณดี มีเครดิตต่อบริษัทแถมยัง แล้วมั่นใจในความหลงของตัวเอง รับประกันว่าบริษัทนี้ดี ทั้งที่บริษัทนี้จะล่มมิล่มแหล่แล้ว ห่วยมาก หมุนเงินไปมา กะลังจะเจ๊งพยายามหา เงินทุน หรือเครดิตจากบริษัทอื่นมาแล้วไปเอาสินค้าของบริษัทอื่นมารวมๆกัน แต่บริษัทอื่นไม่ให้ ก็ไปแอบเอาของเค้ามานิดมาหน่อย แล้วบอกว่าเป็นของตัวเอง ต่างหาก

คนที่รู้จริงๆ เค้าดูออก แต่ คนบางคนงี่เง่า (แปลว่าโง่มาก ตามพจนานนุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน ไม่ใช่ศัพท์แสลง) หรืออ่อนแอทางจิตใจ มากเกินไปจึงยอมรับ


ทางไต้หวันเรียกลัทธินี้ว่า ลัทธิ อี้กวนเต้า หรืออนุตรธรรมในชื่อไทย หรือชื่อที่พูออื้ออึงว่า ลัทธิถือศีลกินไข่เป็ด ลัทธิกินไข่

เพราะจะกินเจก็ไม่ใช่เจแท้ กลับเอาไข่ไก่ที่ ไม่มีเชื้อมากินด้วยอ้างว่าเป็นเจ ทั้งที่ แต่
โบราณ การกินเจคือการละเว้นเนื้อสัตว์ทุกชนิด ไม่เว้นแม้แต่หอยนางรมหรือไข่



นะจ๊ะ นะจ๊ะ

 

แปลว่าคุณรู้จริงงั้นหรือ บรรลุแล้วหรือ จึงตัดสินว่าสิ่งที่ผมเชื่อ นั้นผิด งั้นสิ่งที่ถูกคืออะไรหละ เอาที่ตัวเองรู้นะ ไม่ใช่ท่องจมมาจากหนังสือ

 

เอาอีกแล้ว พวกบ้าบอ พื้นฐานเค้าเรียนกันก็มาจากตำรา เป็นบรรทัดฐานทั้งนั้น
ทางโบราณคดี เค้ายังถือเอกสารจารึก หรือหลักศิลาจารึก ที่ถอดความออกแล้วและ มีอายุมากกว่า หรือ สอดเข้ากับเงื่อนของประวัติศาสตร์ มาเป็นตัวบรรทัดฐาน หรือเอกสารที่จารึกโดยสำนักพระราชวัง หรือ ค่อนข้างเป็นทางการมาเป็นแบบแผนที่แน่นอนเพื่อดูความเป็นไปได้ของตัวเอกสารที่นำมาสอบทานภายหลัง

แค่เอกสารหนังสือสำนักคุณเป็นการแต่งขึ้นมาเองอย่างไม่มีความรู็้้้้้้้จริงที่แน่นอน เพราะไม่เข้ากับหลักศาสนาใดที่ถูกต้องเลย อ้างเอาเหตุผลแถๆเถือกๆไปเท่านั้น เช่นพวกธรรมกาลยุคต่างๆ
สังเกตไหมว่าธรรมกาลยุคต่างๆเวลาไม่เท่ากัน แล้วเร่งในธรรมกาลยุคขาวมาถึงแล้วโดยมีพระศรีอาริย์ มาโปรดแล้ว ซึ่งไม่เข้ากับคัมภีร์ทางพุทธศาสนาใดเลย(ที่เป็นเจ้าของเรื่องหรือข้อมูลของพระศรีอาริย์ )ในเรื่องธรรมกาลยุคขาว

แม้แต่วัฒนธรรมประเพณี การไหว้ของจีน ที่หาว่า ยุคแดงไหว้แบบมือเดียว นั่นก็ผิด สาเหตุแห่งการไหว้มือเดียวคือพระหุยค้อ ที่แขนซ้ายท่านขาด แล้วลูกศิษย์เส้าหลินต่อมาไม่กล้าไหว้สองมือกลัว เทียบหรือล้อเลียนอาจารย์ แต่เป็นประเพณีเฉพาะพื้นที่ ปกติเค้าก็ไหว้แบบปทุม คือพนมมือดังดอกบัวที่อุปมาดังหัวใจน้อมไหว้น้อมกายเคารพผู้ที่อยู่ตรงหน้าต่างหากเล่า

ศิลาจารึกเรื่องของกงฉัง นั่น แต่งขึ้น ไม่มีศิลาจาริกที่ว่านั่น เลยแม้แต่น้อย ที่อุปโลกว่ามีก็คือการสร้างเมื่อสมัยหลังเหมือนของเก๊

กวนอู เดิมเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามธรรมดาังักฮุย ที่ภายหลังในสมัยแมนจู เป็นต่างชาติ ที่ยึดครองจีน กลัวคนจีนยึดมั่นในเทพเจ้างักฮุยมาก จนเป็นกบฏ แมนจู(รู้็ๆกันอยู่ว่าคือราชวงศ์ชิง หรือ เหล่าบรรดาอ้ายซินเจี๋ยหลอ ทั้งหลาย)เลยทำการ อุปโลกแต่งตั้งกวนอูมาเป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ และสงคราม แทน จากนั้นก็เริ่มเป็นเทพแห่วความยุติธรรม และปัจจุบันดันกลายเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภหรือการเสี่ยงโชค จนได้(ซิน่า)
สาเหตุที่แต่งตั้งกวนอูเพราะว่า สมัยสามก๊ก ก๊กของเล่าปี่ได้ขอความช่วยเหลือจากกองทัพต่างชาติ เพื่อมายึดจีนและตั้งตนเป็นฮ่องเต้ต่างหาก ซึ่งต่างกับงักฮุย ซึ่ง เคารพในเชื้อชาติตนเองไม่ยอมก้มหัวให้ต่างชาติแน่

แต่ลัทธิท่านกลับเอากวนอูไปเป็นจอมเทพวินัยธรก่อนแล้วภายหลังประมาณ9 -10ปี มั้ง แต่งตั้งกวนอูเป็นเง็กเซียนซะเลย
ซึ่งที่จริงแล้ว เจ้าแห่งการแต่งตั้งเทพของลัทธิเต๋า สำนักต่างๆ ไม่เคยแต่งตั้งให้กวนอูเป็นเง็กเซียนเลย

เพราะการบำเพ็ญเป็นเง็กเซียนนั้น ต้องบำเพ็ญ ความดีอย่างหนัก (ตรงนี้จำไม่ได้ว่าอะไรบ้าง) แต่กวนอูมีศักดิ์แค่ขุนพล และไม่ได้บำเพ็ญความดีถึงขั้นนั้น ย่อมเป็นไม่ได้
และเง็กเซียนปัจจุบัน ยังไม่ออกจากตำแหน่ง การยกกวนอูมาถืออย่างยิ่งว่าเป็นการกบฎต่อสวรรค์ชัดๆ 5555

เรื่องพระแม่องค์ธรรม อะไรนั่น พระพุทธเจ้า ในมหายาน หินยาน ลัทธิปราชย์ ลัทธิเต๋า ศาสนาคริสต์ อิสลาม ไม่เคยพูดเลยว่ามีพระแม่องค์ธรรมที่มีคุณสมบัติตามที่ลัทธิคุณอ้างมาเลย ตรงนี้ คอนเฟริ์ม

เดี๋ยวนี้ลัทธิคุณถูกแปรสภาพแบ่งนิกายเป็นลัทธิแม่เกษรสุทธิประภาแล้ว ที่อ้างพระองค์ปฐมบรมบิดาใหญ่กว่าพระแม่องค์ธรรม ลัทธินี้เอาหลักแปลกๆของลัทธคุณมา ผนวกกับความเชื่อ ความรู็และความศรัทธาของสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำใส่เข้าไป สุดๆจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆ
แต่ของเ้ค้าไม่รับธรรมนะ ของเค้ารับแสงทิพย์อริยทรัพย์ ยังกะ โยเร

สังเกตไหมว่าลัทธิคุณมักมีแต่ คน(ที่สักแต่ว่า)พุทธ ทั้งหินยาน มหายาน เท่านั้น ไม่ค่อยมีพวกคริิสต์หรืออิสลาม เท่าไร

เพราะไม่สามารถโต้เถียงหรือแย้งไบเบิลหรือัลกุรอานได้ เพราะถึงเถียงเค้าไป ก็ข้างๆคูๆ เค้าดูออก
ส่วนพระไตรปิฏกนี่เหมือนกันเพียงแต่ คนไทย มันเห่อ อะไรมากูเชื่อก่อน หินสเกล่ามากูก็เชื่อ หินทิเบต เฮ จตุคาม มา บูม ลัทธิอนุตรธรรม ก็ตามเค้าไปอีก จะว่าไปลัทธิของตาทอมครูส ไม่รู็เชื่อตามไปกี่รายแล้ว ของโอโช นอกคอก นี่ก็เหมือนกัน

ปล. อีตา เป็นคำออกกึ่งสุภาพกึ่งหยาบๆ ที่ใช้เรียกผู็้้้้้้้้ชาย ในสมัยเมื่อ 2400 กว่า หลวงพ่อฤาษียังเคยใช้ เช่น อีตานั่น เป็นต้น ไม่ได้ออกแนวแต๋วแม้แต่อย่างใด ที่ออกแนวแต๋วเพราะ สมัย2500เป็นต้นมา เริ่มมีกลุ่มสองเพศนำไปใช้ จน รู็สึกแปลกๆ เช่นเดียวกับคำว่า ดั๊น ที่เดิมมาจากคำว่าดิฉัน แล้วดัดจริตพูด ดั๊น (มักใช้แทนตัวบุคคลเพศหญิงที่อยู่ในแวดวงไฮโซ ปัจจุบันกะลังลงมาสู่รากหญ้า แต่มักเอาไว้ดัดจริต ล้อเลียนบุคคลแวดวงไฮโซมากกว่า )

 

กระทู้นี้เข้มข้นดีจัง

 

<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
<?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype id=_x0000_t75 path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" filled="f" stroked="f" oreferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><vath o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></vath><o:lock v:ext="edit" aspectratio="t"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_s1026 style="MARGIN-TOP: 17.75pt; Z-INDEX: -1; MARGIN-LEFT: 81pt; WIDTH: 279pt; POSITION: absolute; HEIGHT: 216.95pt" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg" o:title="เเ"></v:imagedata></v:shape>ขอบคุณครับผมกับการตอบกระทูคึรับขอบคุณที่ทำให้เรารู้อะไรมากขึ้น พุทธะเสด็จมารก็มาเช่นกัน

 

ครับ มารแปลว่าผู้ฆ่าความดี การที่โต้แย้งกันในที่นี้หากมีเหตุผลที่ถูกต้องตามหลักธรรมจริงๆและไม่ได้ยกเมฆมา เหล่านี้หละคือพุทธะ ผูมีจิตพธิสัตว์ มหายาน ยังมีพระโพธิสัตว์บางท่านแสดงร่างให้เห็นแบบน่ากลัวเพื่อขู่ เหล่ามารผู้ทำพระธรรมให้วิปริต หรือ มารที่ทำร้ายผู้ปฏิบัติธรรม

 

ชอบสำนวนท่านเมจริงๆ อ่านแล้วต้องยิ้มเลย เหอๆ rat_wting

 

ขอบคุณคร้าบบบ 555