ตอบคำถามเรื่องเด็กอภิญญาอายุ 13 จากกระทู้เรื่องแรงบุญแรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย sasiriya, 22 พฤษภาคม 2008.

  1. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,239
    โอกาส ครับ
    รับทราบ

    ว.2
    ;aa24
     
  2. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,239

    ศัพท์ ครับท่าน

    ว.2
    ;aa24
     
  3. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,239
    อนุโมทนา ครับ
    เยี่ยมมากครับ กับ จิตที่เป็นกุศล นี้
    rat_wtingrat_wtingrat_wting
    ขอให้คุณน้องประสบความสำเร็จในการสอบเทียบด้วยค่ะ ระลึกถึงเสมอ
     
  4. Jhumlongrak

    Jhumlongrak สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +0
    สัวสดีคะป้าศิคะ ลักษ์ส่งเมลล์ไปหาป้าคงได้อ่านแล้วนะคะ แต่ว่าเดี๋ยวป้าคงตอบกลับมา
    ลักษ์ก็อยากให้ป้าศิเปิดรับฝึกสอนปฏิบัติธรรมนะคะ จะได้ไปรับการสอนจากป้าศิและท่านผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายในเรือนนี้คะ;aa54
    ปล.ป้าศิคะที่บอกว่าจะมีสัญญาณเตือนภัยอย่าลืมมองหาใครทางภาคอิสานมั่งนะคะ เขาจะได้ส่งสัญญาณมาหาลักษ์ด้วยคะ
     
  5. Jenny_Lee

    Jenny_Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    414
    ค่าพลัง:
    +1,357
    ;40
    (||)(||)(||) ขอแสดงความยินดีกับทั้ง 3 ท่านด้วยนะคะ คุณอ้างว้าง คุณเม้ง คุณไพฑูรย์ ที่คุณศศิเลือกให้มาเป็นแขกรับเชิญในเรือนพญานาคแห่งนี้ คุณศศิต้องมองเห็นอะไรดีๆในตัวของทั้ง 3 ท่านแน่ๆเลย ซึ่งดิฉันก็เชื่อว่าพวกเราทุกคนก็เห็นประจักษ์กันอยู่แล้วใช่มั๊ยค๊ะ.....;ปรบมือ;ปรบมือ;aa57 วันนี้ขอตัวแค่นี้ก่อนนะคะ ต้องรีบไปเคลียร์งานเพราะช่วงบ่ายจะต้องพาลูกไปเรียนบัลเล่ต์คะแล้วระหว่างรอลูก ก็จะไปกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุที่วัดปทุมวนารามค่ะ( วัดอยู่ติดกับห้างฯที่ลูกเรียนเลยค่ะ) เชานี้ได้เข้ามาอ่านของทุกท่าน และก็ของคุณศศิด้วย สบายใจแล้วค่ะ.....ไว้เจอกันตอนดึกๆ หรือไม่ก็วันอาทิตย์นะคะ สวัสดีทุกท่านค่ะ.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2009
  6. ddalways

    ddalways เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    858
    ค่าพลัง:
    +188
    คุณ Jenny Lee คะ ....

    พี่ดีดีน่ะ...ไม่ได้ขำกลิ้งนะ...
    แต่...ขำตกเก้าอี้่เลย ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ

    ท่านเม้งนะท่านเม้ง ..ช่างคิดช่างตอบจริงๆ

    ตอบมาที..ทำให้ทั้งเก้าอี้ทั้งพี่หกล้ม..
    แถมหัวเราะแบบ NON STOP ไป 3 ชั่วโมง
    จนใครๆ นึกว่าเราไปกินกัญชาที่ไหนมา 5555

    พี่ดีดีเป็นคน(ต๊องๆ) แบบเนี๊ยะ เวลาใครจี้ถูกเส้นขึ้นมา
    นั่งหัวเราะไม่หยุด หัวเราะจนปวดท้องเลย 5555

    บาปไม๊เนี่ย..คะ คุณเม้ง...
    เอ้อออ...อันนี้ต้องถามคุณศศิถึงจะถูกนะ..ว่า
    คุณเม้งทำแบบนี้ ..เป็นบาปอ๊ะป่าวววว อิ อิ อิ
     
  7. ddalways

    ddalways เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    858
    ค่าพลัง:
    +188
    อนุโมทนาสาธุ!!!
    ในการต้อนรับการเสด็จของท่าน...
    ยินดีด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ...
    ขอท่านทรงโปรดเมตตา
    ประทานพรให้หนูจิ๊บและครอบครัวมีความสุข
    และสมความปรารถนาในทุกสิ่งทุกประการนะคะ

    และขอขอบคุณที่แสดงความยินดีกับป้าดีดีด้วยนะคะ
    (คุณเม้ง ทำ เซอร์ไพรส์ ดีจริงๆ)
    แต่เอ๊ะ..ตัวสีแดง..นั่นอะไรเอ่ย ?!?!?!
    หนูจิ๊บเอ๋ย..หนูจิ๊บ!!!

    สงสัยมีความสุขและตื่นเต้น...
    จน ลืมตั้ง...สติ... 5555

    อย่าลืมสิคะ..อย่าลืม !!!

    สติมี ...สตางค์มา 5555
    สูตรนี้ของใครเอ่ย อิ อิ อิ

    ของหนูจิ๊บต้องท่่อง..
    สติมี..ลูกชายมา..
    ด้วยอ๊ะป่าวเนี่ย5555
     
  8. ddalways

    ddalways เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    858
    ค่าพลัง:
    +188
    ขอแสดงความยินดีกับหนูลักษณ์ด้วยนะคะ

    คิดถึงเหมือนกันค่ะ

    ป้าดีดีค่ะ
     
  9. titaporn

    titaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +418
    พุทธประวัติ




    [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก learntripitaka.com,

    "ศาสนาพุทธ" เป็นศาสนาประจำชาติไทยของเรา แล้วมีสักกี่คนเอ่ย...ที่ทราบถึงประวัติของ "พระสัมมาสัมพุทธเจ้า" ผู้ทรงเป็น "พระศาสดา" ของ "พระพุทธศาสนา" วันนี้กระปุกจึงนำเรื่องราวพุทธประวัติมาฝากกันค่ะ

    พระพุทธเจ้าทรงมีพระนามเดิมว่า "สิทธัตถะ" หมายถึง ผู้ที่สำเร็จความมุ่งหมายแล้ว หรือผู้ปรารถนาสิ่งใด ย่อมได้สิ่งนั้น ทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะ กษัตริย์ผู้ครองกรุงกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ และ "พระนางสิริมหามายา" พระราชธิดาของกษัตริย์ราชสกุลโกลิยวงศ์แห่งกรุงเทวทหะ แคว้นโกลิยะ

    ในคืนที่พระพุทธเจ้าเสด็จปฏิสนธิในครรภ์พระนางสิริมหามายา พระนางทรงพระสุบินนิมิตว่า มีช้างเผือกมีงาสามคู่ได้เข้ามาสู่พระครรภ์ ณ ที่บรรทม ก่อนที่พระนางจะมีพระประสูติกาล ที่ใต้ต้นสาละ ณ สวนลุมพินีวัน เมื่อวันศุกร์ ขึ้นสิบห้าค่ำ เดือนวิสาขะ ปีจอ 80 ปีก่อนพุทธศักราช (ปัจจุบันสวนลุมพินีวันอยู่ในประเทศเนปาล)

    ทันทีที่ประสูติ เจ้าชายสิทธัตถะทรงดำเนินด้วยพระบาท 7 ก้าว และมีดอกบัวผุดขึ้นมารองรับพระบาท พร้อมเปล่งพระวาจาว่า "เราเป็นเลิศที่สุดในโลก ประเสริฐที่สุดในโลก การเกิดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายของเรา" แต่หลังจากเจ้าชายสิทธัตถะประสูติกาลได้แล้ว 7 วัน พระนางสิริมหามายาก็เสด็จสวรรคาลัย เจ้าชายสิทธัตถะจึงอยู่ในความดูแลของพระนางประชาบดีโคตมี ซึ่งเป็นพระกนิษฐาของพระนางสิริมหามายา

    ทั้งนี้ พราหมณ์ ทั้ง 8 ได้ทำนายว่า เจ้าชายสิทธัตถะมีลักษณะเป็นมหาบุรุษ คือ หากดำรงตนในฆราวาสจะได้เป็นจักรพรรดิ ถ้าออกบวชจะได้เป็นศาสดาเอกของโลก แต่โกณฑัญญะพราหมณ์ผู้อายุน้อยที่สุดในจำนวนนั้น ยืนยันหนักแน่นว่า พระราชกุมารสิทธัตถะจะเสด็จออกบวช และจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแน่นอน


    [​IMG] ชีวิตในวัยเด็ก

    เจ้าชายสิทธัตถะทรงศึกษาเล่าเรียนจนจบศิลปศาสตร์ทั้ง 18 ศาสตร์ ในสำนักครูวิศวามิตร และเนื่องจากพระบิดาไม่ประสงค์ให้เจ้าชายสิทธัตถะเป็นศาสดาเอกของโลก จึงพยายามทำให้เจ้าชายสิทธัตถะพบเห็นแต่ความสุข โดยการสร้างปราสาท 3 ฤดู ให้อยู่ประทับ และจัดเตรียมความพร้อมสำหรับการราชาภิเษกให้เจ้าชายขึ้นครองราชย์

    เมื่อมีพระชนมายุ 16 พรรษา ทรงอภิเษกสมรสกับพระนางพิมพา หรือยโสธรา พระธิดาของพระเจ้ากรุงเทวทหะซึ่งเป็นพระญาติฝ่ายพระมารดา จนเมื่อมีพระชนมายุ 29 พรรษา พระนางพิมพาได้ให้ประสูติพระราชโอรส มีพระนามว่า "ราหุล" ซึ่งหมายถึง "บ่วง"


    [​IMG] เสด็จออกผนวช


    [​IMG]


    วันหนึ่งเจ้าชายสิทธัตถะทรงเบื่อความจำเจในปราสาท 3 ฤดู จึงชวนสารถีทรงรถม้าประพาสอุทยาน ครั้งนั้นได้ทอดพระเนตรเห็นคนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนักบวช โดยเทวทูต (ทูตสวรรค์) ที่แปลงกายมา พระองค์จึงทรงคิดได้ว่า นี่เป็นธรรมดาของโลก ชีวิตของทุกคนต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงเกิด แก่ เจ็บ ตายได้ จึงทรงเห็นว่าความสุขทางโลกเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้น และวิถีทางที่จะพ้นจากความทุกข์ คือต้องครองเรือนเป็นสมณะ ดังนั้นพระองค์จึงใคร่จะเสด็จออกบรรพชา ในขณะที่มีพระชนม์ 29 พรรษา

    ครานั้นพระองค์ได้เสด็จไปพร้อมกับนายฉันทะ สารถี ซึ่งเตรียมม้าพระที่นั่ง นามว่ากัณฑกะ มุ่งตรงไปยังแม่น้ำอโนมานที ก่อนจะประทับนั่งบนกองทราย ทรงตัดพระเมาลีด้วยพระขรรค์ และเปลี่ยนชุดผ้ากาสาวพัตร์ (ผ้าย้อมด้วยรสฝาดแห่งต้นไม้) และให้นายฉันทะ นำเครื่องทรงกลับพระนคร ก่อนที่พระองค์จะเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ (การเสด็จออกเพื่อคุณอันยิ่งใหญ่) ไปโดยเพียงลำพัง เพื่อมุ่งพระพักตร์ไปยังแคว้นมคธ


    [​IMG] บำเพ็ญทุกรกิริยา

    หลังจากทรงผนวชแล้ว พระองค์มุ่งไปที่แม่น้ำคยา แคว้นมคธ ได้พยายามเสาะแสวงทางพ้นทุกข์ ด้วยการศึกษาค้นคว้าทดลองในสำนักอาฬารดาบส กาลามโครตร และอุทกดาบส รามบุตร แต่เมื่อเรียนจบทั้ง 2 สำนักแล้ว ทรงเห็นว่านี่ยังไม่ใช่ทางพ้นทุกข์

    จากนั้นพระองค์ได้เสด็จไปที่แม่น้ำเนรัญชรา ในตำบลอุรุเวลาเสนานิคม และทรงบำเพ็ญทุกรกิริยา ด้วยการขบฟันด้วยฟัน กลั้นหายใจและอดอาหาร จนร่างกายซูบผอม แต่หลังจากทดลองได้ 6 ปี ทรงเห็นว่านี่ยังไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ จึงทรงเลิกบำเพ็ญทุกรกิริยา และหันมาฉันอาหารตามเดิม ด้วยพระราชดำริตามที่ท้าวสักกเทวราชได้เสด็จลงมาดีดพิณถวาย 3 วาระ คือดีดพิณสายที่ 1 ขึงไว้ตึงเกินไปเมื่อดีดก็จะขาด ดีดพิณวาระที่ 2 ซึ่งขึงไว้หย่อน เสียงจะยืดยาดขาดความไพเราะ และวาระที่ 3 ดีดพิณสายสุดท้ายที่ขึงไว้พอดี จึงมีเสียงกังวานไพเราะ ดังนั้นจึงทรงพิจารณาเห็นว่า ทางสายกลางคือไม่ตึงเกินไป และไม่หย่อนเกินไป นั่นคือทางที่จะนำสู่การพ้นทุกข์

    หลังจากพระองค์เลิกบำเพ็ญทุกรกิริยา ทำให้พระปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ได้แก่ โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยา มหานามะ อัสสชิ ที่มาคอยรับใช้พระองค์ด้วยความคาดหวังว่าเมื่อพระองค์ค้นพบทางพ้นทุกข์ จะได้สอนพวกตนให้บรรลุด้วย เกิดเสื่อมศรัทธาที่พระองค์ล้มเลิกความตั้งใจ จึงเดินทางกลับไปที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ตำบลสารนาถ เมืองพาราณสี


    [​IMG] ตรัสรู้



    [​IMG]

    ครานั้นพระองค์ทรงประทับนั่งขัดสมาธิ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ณ อุรุเวลาเสนานิคม เมืองพาราณสี หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก และตั้งจิตอธิษฐานด้วยความแน่วแน่ว่าตราบใดที่ยังไม่บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ ก็จะไม่ลุกขึ้นจากสมาธิบัลลังก์ แม้จะมีหมู่มารเข้ามาขัดขวาง แต่ก็พ่ายแพ้พระบารมีของพระองค์กลับไป จนเวลาผ่านไปในที่สุดพระองค์ทรงบรรลุรูปฌาณ คือ ครานั้นพระองค์ทรงประทับนั่งขัดสมาธิ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ณ อุรุเวลาเสนานิคม เมืองพาราณสี หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก และตั้งจิตอธิษฐานด้วยความแน่วแน่ว่าตราบใดที่ยังไม่บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ ก็จะไม่ลุกขึ้นจากสมาธิบัลลังก์ แม้จะมีหมู่มารเข้ามาขัดขวาง แต่ก็พ่ายแพ้พระบารมีของพระองค์กลับไป จนเวลาผ่านไปในที่สุดพระองค์ทรงบรรลุรูปฌาณ คือ

    ยามต้น หรือปฐมยาม ทรงบรรลุปุพเพนิวาสานุสติญาณ คือ สามารถระลึกชาติได้

    ยามสอง ทางบรรลุจุตูปปาตญาณ (ทิพยจักษุญาณ) คือ รู้เรื่องการเกิดการตายของสัตว์ทั้งหลายว่าเป็นไปตามกรรมที่กำหนดไว้

    ยามสาม ทรงบรรลุอาสวักขยญาณ คือ ความรู้ที่ทำให้สิ้นอาสวะ หรือกิเลส ด้วยอริยสัจ 4 ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค และได้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เองเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นศาสดาเอกของโลก ซึ่งวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ ตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 ขณะที่มีพระชนม์ 35 พรรษา


    [​IMG] แสดงปฐมเทศนา

    หลังจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว ทรงพิจารณาธรรมที่พระองค์ตรัสรู้มาเป็นเวลา 7 สัปดาห์ และทรงเห็นว่าพระธรรมนั้นยากต่อบุคคลทั่วไปที่จะเข้าใจและปฏิบัติได้ พระองค์จึงทรงพิจารณาว่า บุคคลในโลกนี้มีหลายจำพวกอย่าง บัว 4 เหล่า ที่มีทั้งผู้ที่สอนได้ง่าย และผู้ที่สอนได้ยาก พระองค์จึงทรงระลึกถึงอาฬารดาบสและอุทกดาบส ผู้เป็นพระอาจารย์ จึงหวังเสด็จไปโปรด แต่ทั้งสองท่านเสียชีวิตแล้ว พระองค์จึงทรงระลึกถึงปัญจวัคคีย์ ทั้ง 5 ที่เคยมาเฝ้ารับใช้ จึงได้เสด็จไปโปรดปัญจวัคคีย์ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน

    ธรรมเทศนากัณฑ์แรกที่พระองค์ทรงแสดงธรรมคือ "ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร" แปลว่าสูตรของการหมุนวงล้อแห่งพระธรรมให้เป็นไป ซึ่งถือเป็นการแสดงพระธรรมเทศนาครั้งแรก ในวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ซึ่งตรงกับวันอาสาฬหบูชา

    ในการนี้พระโกณฑัญญะได้ธรรมจักษุ คือดวงตาเห็นธรรมเป็นคนแรก พระพุทธองค์จึงทรงเปล่งวาจาว่า "อัญญาสิ วตโกณฑัญโญ" แปลว่า โกณฑัญญะได้รู้แล้ว ท่านโกณฑัญญะ จึงได้สมญาว่า อัญญาโกณฑัญญะ และได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์องค์แรกในพระพุทธศาสนา โดยเรียกการบวชที่พระพุทธเจ้าบวชให้ว่า "เอหิภิกขุอุปสัมปทา"

    หลังจากปัญจวัคคีย์อุปสมบททั้งหมดแล้ว พุทธองค์จึงทรงเทศน์อนัตตลักขณสูตร ปัญจวัคคีย์จึงสำเร็จเป็นอรหันต์ในเวลาต่อมา


    [​IMG] การเผยแผ่พระพุทธศาสนา

    ต่อมาพระพุทธเจ้าได้เทศน์พระธรรมเทศนาโปรดแก่ยสกุลบุตร รวมทั้งเพื่อนของยสกุลบุตร จนได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ทั้งหมด รวม 60 รูป

    พระพุทธเจ้าทรงมีพระราชประสงค์จะให้มนุษย์โลกพ้นทุกข์ พ้นกิเลส จึงตรัสเรียกสาวกทั้ง 60 รูป มาประชุมกัน และตรัสให้พระสาวก 60 รูป จาริกแยกย้ายกันเดินทางไปประกาศศาสนา 60 แห่ง โดยลำพัง ในเส้นทางที่ไม่ซ้ำกัน เพื่อให้สามารถเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้ในหลายพื้นที่อย่างครอบคลุม ส่วนพระองค์เองได้เสด็จไปแสดงธรรม ณ ตำบลอุรุเวลา เสนานิคม

    หลังจากสาวกได้เดินทางไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในพื้นที่ต่างๆ ทำให้มีผู้เลื่อมใสพระพทุธศาสนาเป็นจำนวนมาก พระองค์จึงทรงอนุญาตให้สาวกสามารถดำเนินการบวชได้ โดยใช้วิธีการ "ติสรณคมนูปสัมปทา" คือ การปฏิญาณตนเป็นผู้ถึงพระรัตนตรัย พระพุทธศาสนาจึงหยั่งรากฝังลึกและแพร่หลายในดินแดนแห่งนั้นเป็นต้นมา


    [​IMG]เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน



    [​IMG]


    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จโปรดสัตว์และแสดงพระธรรมเทศนา ตลอดระยะเวลา 45 พรรษา ทรงสดับว่า อีก 3 เดือนข้างหน้าจะปรินิพพาน จึงได้ทรงปลงอายุสังขาร ขณะนั้นพระองค์ได้ประทับจำพรรษา ณ เวฬุคาม ใกล้เมืองเวลาสี แคว้นวัชชี โดยก่อนเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน 1 วัน พระองค์ได้เสวยสุกรมัททวะที่นายจุนทะทำถวาย แต่เกิดอาพาธลง ทำให้พระอานนท์โกรธ แต่พระองค์ตรัสว่า "บิณฑบาตที่มีอานิสงส์ที่สุด มี 2 ประการ คือ เมื่อตถาคต (พุทธองค์) เสวยบิณฑบาตแล้วตรัสรู้ และปรินิพพาน" และมีพระดำรัสว่า "โย โว อานนท ธมม จ วินโย มยา เทสิโต ปญญตโต โส โว มมจจเยน สตถา" อันแปลว่า "ดูก่อนอานนท์ ธรรมและวินัยอันที่เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่เธอทั้งหลาย ธรรมวินัยนั้น จักเป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย เมื่อเราล่วงลับไปแล้ว"

    พระพุทธเจ้าทรงประชวรหนัก แต่ทรงอดกลั้นมุ่งหน้าไปยังเมืองกุสินารา ประทับ ณ ป่าสาละ เพื่อเสด็จดับขันธุ์ปรินิพพาน โดยก่อนที่จะเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานนั้น พระองค์ได้อุปสมบทแก่พระสุภัททะปริพาชก ซึ่งถือได้ว่า "พระสุภภัททะ" คือสาวกองค์สุดท้ายที่พระพุทธองค์ทรงบวชให้ ในท่ามกลางคณะสงฆ์ทั้งที่เป็นพระอรหันต์ และปุถุชนจากแคว้นต่างๆ รวมทั้งเทวดา ที่มารวมตัวกันในวันนี้

    ในครานั้นพระองค์ทรงมีปัจฉิมโอวาทว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราขอบอกเธอทั้งหลาย สังขารทั้งปวงมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา พวกเธอจึงทำประโยชน์ตนเอง และประโยชน์ของผู้อื่นให้สมบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด" (อปปมาเทน สมปาเทต)

    จากนั้นได้เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ใต้ต้นสาละ ณ สาลวโนทยาน ของเหล่ามัลลกษัตริย์ เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 รวมพระชนม์ 80 พรรษา และวันนี้ถือเป็นการเริ่มต้นของพุทธศักราช
     
  10. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    ผมเห็นด้วยคร้าบ...พี่ดีดี
    ยกสองมือเลยคร้าบ
    สาธุ...
     
  11. ddalways

    ddalways เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    858
    ค่าพลัง:
    +188
    อย่าซีเรียส อย่าซีเรียส นะพี่น้องงง!!!!

    ก็คุณศศิบอกแล้วไง..ว่า ให้ก้าวช้าๆๆ
    ให้มีสติ..ตั้งหลักดีดี เวลามีภัยมา..
    จะได้วิ่งหนีทันแบบมีหลัก ไม่หกล้มไง

    เพื่อนบ้านเค้าวิ่งไปหาอนาคต..
    แต่พวกเราดีค่ะ คืออยู่กับปัจจุบัน!!
    และทำปัจจุบันให้ดีที่สุด..ดีกว่าเนอะ!

    จะได้มีเวลาตั้งและเตือนสติ..บ่มเพาะปัญญา
    ให้มั่นคง มั่นคงและก็มั่นคงนะคะ

    ขอใ้ห้ทุกท่านโชคดี รวมทั้งพี่ดีดีด้วยยยย

    ขอบคุณ คุณศศิและคุณน้อง มา ณ ที่นี้ค่ะ

    ;aa44;aa44;aa44

     
  12. ddalways

    ddalways เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    858
    ค่าพลัง:
    +188

    ;aa44;aa44;aa44
     
  13. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sasiriya [​IMG]
    เจริญ เจริญนะ คุณเม้ง (ตัวสีแดง 5555)

    แหม..พี่ก็กระเซ้าเย้าหยอกเล่นตามประสา
    มีน้องนุ่ง นรัก ขนาดนี้ไม่แหย่เล่นแล้วจะไปแหย่ใคร จริงไม๊555

    (อะไรเหรอเจ้าคะ อ๊ะ อ๊ะ..).....ddalways

    ************************

    ขออนุญาติแอบตอบคุณ ดีดี สองดี
    ฟังแบบเงียบไว้ ๆ นะคะ อย่าเอ็ดไป
    คือคุณเม้งเนี่ย ถือได้ว่าเป็นน้องนุ่งที่น่ารักน่าชังน่าเอ็นดู
    เวลามีความชอบ เม้งขอรับค๊าบ
    เวลาผิดพลาดพี่ศิรับไปแต่เพียงผู้เดียวค๊าบ ตามที่เขาเขียน

    ศิเลยไม่รู้จะให้คำจำกัดความ เรียกและชื่นชมน้องนุ่งคนนี้ว่ากระไร
    สุดท้ายเลยคิดได้ ควรยกให้เป็นน้องนุ่งที่น่า นรัก
    ซึ่งความจริงแล้วคำนี้ก็เป็นคำสมาสสนธิมาจากคำว่า
    นรก+น่ารัก = นรัก
    (อ่านว่า นะ - รัก )
    จะเห็นว่า นรัก พอเราปิดไม้หันอากาศ ก็จะเหลือคำว่า นรก
    พอเราเปลี่ยนมาปิดตัว น. ก็จะเหลือคำว่า รัก หรือย่อมาจากน่ารักนั่นเองเจ้าค่ะ
    คุณดี ๆ ยกกำลังแปด พอจะเข้าใจเรื่องคำสมาส สนธิ ของศศิริยะบ้างหรือยังเจ้าคะ (ฮ่า ๆๆๆๆๆๆ)
    เป็นไงคะ เหมาะสมและชอบยิ่งไหมคะ คุณดีดีเสมอ อิอิ
    จุ๊ จุ๊ อย่าเอ็ดไปค่ะ เดี๋ยวคนอื่นเก่งภาษาไทยกันหมด
    ไม่มีใครให้คุณดีดีมีงานทำภาควิชาภาษาไทย 55555555

    (อะ อะ แอบบอก เดี๋ยวศิมีทุนปัจจัยเมื่อไร จะเปิด นรักธรรมสถาน ให้คุณเม้งเป็นเจ้าอาละวาด ประธานใหญ่ เหมาะไหมคะ คุณดีดี คิก คิก)








    หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
    http://palungjit.org/showthrea...129821&page=31






     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2009
  14. ddalways

    ddalways เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    858
    ค่าพลัง:
    +188
    คุณเม้งคะ...

    ด้วยความห่วงใย...
    อย่่าไปรับตำแหน่งนี้เด็ดขาดนะ
    เดี๋ยวจะหาว่า พี่ดีดีไม่เตือน
    !?!?!?

    ถ้าคุณศิตั้งจริงๆ พี่น้องงงงก็ต้องให้เกียรติเธอ
    เป็นประธานเจ้าอาละวาดไปคนเดียวดีกว่าเนอะ
    พี่น้องงงง...
    เนอะ เฮอะ เฮอะ เฮอะ
     
  15. kunmeng

    kunmeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    2,383
    ค่าพลัง:
    +395
    ฮ่า ฮ่า ฮ่า
    อาวกานข้าวปายยยยยยยยยทั้ง2คน(พูดยานๆยาวๆหน่อย)
    แต่ในความคิดผมนะค๊าบ
    นรัก น่าจะมาจากคำว่า
    น่ารัก+นักรัก

    มากกว่าค๊าบ
    อ้อ แล้วความหมายของคำว่านักรักนี่อะค๊าบ
    คือ ผู้ที่มีความรักมากมายมหาศาลให้กับผู้คนทั่วๆไปค๊าบ
    และเป็นผู้ที่ให้โดยมิได้หวังสิ่งใดตอบแทนใดๆ
    นอกความความรักที่ทุกๆท่านจะให้กลับมาก็เลย น่ารักไปด้วยไงค๊าบ

    และอีกเรื่องก็คือ
    ที่พี่ศิมอบความไว้วางใจ(ให้ไปยืนอยู่หัวเรือเป็นแจ๊คไททานิครับลมหนาวก่อน)
    ขอบคุณมากๆค๊าบที่ให้ภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่มหาศาลให้
    พร้อมด้วยกัลญาณมิตรที่นรักอีก2ท่าน
    ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หาพวกมาเป็นนรักด้วยซะเลย)

    แล้วก็คำแนะนำต่างๆที่แนะนำทุกๆท่านไปนั้น
    บางทีก็มาจากความรู้ที่มีอยู่
    บางทีก็เอามาหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ผมกำลังทำและปฏิบัติอยู่
    และถ้าผิดพลาดประการใดก็ขอยกให้พี่ศิก็ถุกต้องแล้ว
    เพราะถ้าแนะนำผิดพลาดไปแต่ก็คงนิดหน่อย(เข้าข้างตัวเอง)
    ก็ต้องให้พี่ศินั่นแหละรับผิดชอบเข้ามาแก้ไขให้ถุกต้อง
    มาให้คำแนะนำที่ชัดเจนเหมือนทุกๆครั้งที่ผ่านมาค๊าบ
    โมทนาสาธุกับทุกๆท่านด้วยค๊าบ
     
  16. kunmeng

    kunmeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    2,383
    ค่าพลัง:
    +395
    อ้างอิง:
    <table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sasiriya [​IMG]
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sasiriya [​IMG]
    เจริญ เจริญนะ คุณเม้ง (ตัวสีแดง 5555)

    แหม..พี่ก็กระเซ้าเย้าหยอกเล่นตามประสา
    มีน้องนุ่ง นรัก ขนาดนี้ไม่แหย่เล่นแล้วจะไปแหย่ใคร จริงไม๊555

    (อะไรเหรอเจ้าคะ อ๊ะ อ๊ะ..).....ddalways

    ************************

    ขออนุญาติแอบตอบคุณ ดีดี สองดี
    ฟังแบบเงียบไว้ ๆ นะคะ อย่าเอ็ดไป
    คือคุณเม้งเนี่ย ถือได้ว่าเป็นน้องนุ่งที่น่ารักน่าชังน่าเอ็นดู
    เวลามีความชอบ เม้งขอรับค๊าบ
    เวลาผิดพลาดพี่ศิรับไปแต่เพียงผู้เดียวค๊าบ ตามที่เขาเขียน

    ศิเลยไม่รู้จะให้คำจำกัดความ เรียกและชื่นชมน้องนุ่งคนนี้ว่ากระไร
    สุดท้ายเลยคิดได้ ควรยกให้เป็นน้องนุ่งที่น่า นรัก
    ซึ่งความจริงแล้วคำนี้ก็เป็นคำสมาสสนธิมาจากคำว่า
    นรก+น่ารัก = นรัก
    (อ่านว่า นะ - รัก )
    จะเห็นว่า นรัก พอเราปิดไม้หันอากาศ ก็จะเหลือคำว่า นรก
    พอเราเปลี่ยนมาปิดตัว น. ก็จะเหลือคำว่า รัก หรือย่อมาจากน่ารักนั่นเองเจ้าค่ะ

    ตกลงคุณศศิจะให้คุณเม้งเค้าปิดตัวไหนละคะ


    คุณดี ๆ ยกกำลังแปด พอจะเข้าใจเรื่องคำสมาส สนธิ ของศศิริยะบ้างหรือยังเจ้าคะ (ฮ่า ๆๆๆๆๆๆ)

    ก็ยังมะเข้าจายอ่ะ อาจารย์มหาลัย ไหนสอนเหรอคะ
    คำสมาส สนธิคำนี้อ่ะ หุ หุ หุ


    เป็นไงคะ เหมาะสมและชอบยิ่งไหมคะ คุณดีดีเสมอ อิอิ

    ม่ายชอบอ่ะ ม่ายชอบ !! เพราะพอปิดตัวไม้หันอากาศแล้ว
    มันน่ากลัวววว อ่ะค่ะ


    จุ๊ จุ๊ อย่าเอ็ดไปค่ะ เดี๋ยวคนอื่นเก่งภาษาไทยกันหมด
    ไม่มีใครให้คุณดีดีมีงานทำภาควิชาภาษาไทย 55555555

    เออ..จริงด้วยยย อิ อิ อิ

    (อะ อะ แอบบอก เดี๋ยวศิมีทุนปัจจัยเมื่อไร จะเปิด นรักธรรมสถาน ให้คุณเม้งเป็นเจ้าอาละวาด ประธานใหญ่ เหมาะไหมคะ คุณดีดี คิก คิก)

    เจ้าประคู้น..อนุโมทนาสาธุ ..อย่าเปิดเลยเจ้าค่ะ
    แค่ชื่อก็สยดสยองแล้ว แถมมีประธานใญ่มาใน
    ตำแหน่งเจ้าอาละวาด ..กลัวค่ะ
    กลัวจริงๆ กลัวยิ่งกว่าพายุมาอีก ..


    หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
    http://palungjit.org/showthrea...129821&page=31




    </td> </tr> </tbody></table>
    คุณเม้งคะ...

    ด้วยความห่วงใย...
    อย่่าไปรับตำแหน่งนี้เด็ดขาดนะ
    เดี๋ยวจะหาว่า พี่ดีดีไม่เตือน
    !?!?!?

    ถ้าคุณศิตั้งจริงๆ พี่น้องงงงก็ต้องให้เกียรติเธอ
    เป็นประธานเจ้าอาละวาดไปคนเดียวดีกว่าเนอะ
    พี่น้องงงง...
    เนอะ เฮอะ เฮอะ เฮอะ

    ฮ่า ฮ่า ฮ่า
    ขอบคุณพี่ดีดีมากๆค๊าบ
    แต่เอ๊ะมีอะไรตัวนึงพลาดอยู่นะค๊าบ

     
  17. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751

    วันนี้ฝนตก...ไหลลงที่หน้าต่าง
    เธอคิดถึงฉันบ้าง...ไหมหนอเธอ...

    อุ๊ยร้องผิดเพลง
    มาจริง ๆ เลย มิสเตอร์แจ๊ค
    แหม ๆ ไหลไปตามน้ำฝนได้เรื่อย ๆ เชียวหนา
    ช่าง นรัก สำหรับพี่ศิจริงจริ๊งงงง น้องแจ๊ค คนนี้
    ชมนะคะเนี่ย ชมค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

    อะ อะ ตำแหน่งความน่า นรักนี่ พี่ศิไม่ให้ใครง่าย ๆ นะ
    อย่าไปแบ่งให้สองท่านนั้น ไม่เอา ๆ
    ปล่อยให้เขาน่ารักไปสองคนเถอะนะ เชื่อพี่เหอะน้องแจ๊ค 55555




    หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
    http://palungjit.org/showthrea...129821&page=31
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2009
  18. Jhumlongrak

    Jhumlongrak สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +0
    สวัสดีตอนบ่าย ๆ คะ ลักษ์เห็นพี่ ท่านหนึ่งที่นำประวัติพระพุทธเจ้ามาเล่าสู่กันฟัง
    ลักษ์ก็เลยถือโอกาสเอารูปต้นสาละ ที่พระพุทธเจ้าประสูติที่ต้นนี้มาให้ดูคะว่าเป็นต้นเช่นไร
    แต่ว่าต้นที่ท่านเกิดจริงอยู่ที่เนปาลนะคะ ต้นนี้ที่ลักษ์นำมาโพสเป็นต้นพันธ์เดียวหลวงพ่อภูจ้อก้อนำมาปลูกเมื่อสมัยท่านยังอยู่คะ

    คนที่อยู่ในรูปคือลักษ์เองคะ ผู้ชายเสื้อฟ้าก็สามีคะ ส่วนอีกท่านที่อยู่ข้างหัวลักษ์ก็ หุ้นส่วนผู้จัดการที่ทำงานคะพอดีเราไปเที่ยวกันที่มุกดาหารก็เลยได้ภาพกับมา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF2308.JPG
      DSCF2308.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.2 MB
      เปิดดู:
      46
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2009
  19. ปฏิสัมภิทัปปัตโต

    ปฏิสัมภิทัปปัตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    375
    ค่าพลัง:
    +1,326
    อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะพี่ดี
    แค่ความตั้งใจก็ได้บุญโขแล้วนะคะเนี่ย

    เน็ตมีปัญหามาสองวันแล้วค่ะ อาศัยช่วงชุลมุนเข้ามาอ่านได้แว๊ป ๆ
    แต่ไม่สามารถตอบหรือทักทายใครได้เลย ลืมกันหรือยังค๊าพี่น้อง
    อย่าเพิ่งลืมกันนะคะ
    คิดถึงทุกคนค่ะ
     
  20. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    ค่นไต้..เริ่มไหวหวั่นกับพระเอกไททานิคของเราซะแร้ว
    ฮ่าๆๆๆๆๆ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร
    อีกสองหน่วย กรุงเทพ อีสาน ยังปลอดภัยแข้มแข็งอยู่จ๊า 55555
    ยังมีเวลา ย้ายขั้ว ๆ ต้องไวเหมือนเล่นการเมืองนะจ๊ะงานนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า






    หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
    http://palungjit.org/showthrea...129821&page=31
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2009

แชร์หน้านี้

Loading...