พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    หมายถึงว่า พระกริ่งปวเรศองค์นี้เป็นของคุณหนุ่ม หรือของวัดไ.....

    ในทัศนะของพระกริ่งปวเรศก็มีหลายท่านเขียนไว้ ผมก็ได้อ่านมาบ้าง แต่ในทัศนะของพ.อ.(พิเศษ) ม.ร.ว. ล้ำเลิศ หัสดินทร ได้เขียนไว้ในหนังสืออนุสรณ์พระราชทานเพลิงศพของหม่อมลืม หัสดินทร ณ อยุธยา วันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๒๐ ผมได้หนังสือเล่มนี้จากร้านขายหนังสือเก่า

    ท่านเพียงบอกเล่าที่มาที่ไปพระกริ่งปวเรศองค์ที่สมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ประทานให้กับพลตรี หม่อมเจ้าศรีใสเฉลิมศักดิ์ ท่านพ่อของผู้เขียนไว้ประจำพระองค์ จนอายุ ๒๒ ปี ในวันที่สำเร็จการศึกษาเป็นนายทหาร จึงได้รับจากท่านแม่ของผู้เขียน

    จะไม่เป็นที่น่ายินดีได้อย่างไร หากแต่พระกริ่งปวเรศที่หลายคนอยากเป็นเจ้าของ กลับตกอยู่กับผู้มีวาสนาเพียง ๒๗-๓๐ ท่านเท่านั้น สาเหตุเป็นเพราะ ได้จัดสร้างไว้เพียง ๒๗ องค์ ตามพระนามเดิม คือพระองค์เจ้าฤกษ์(ดาวฤกษ์มีกลุ่มดาว ๒๗ กลุ่ม) นี่เป็นทัศนะหนึ่งที่มีหลักฐานว่าสร้างไว้ ๒๗ องค์

    อีกทัศนะคือจำนวนการสร้างมี ๒๘ องค์ ตามจำนวนพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ (บทนมัสการพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ จากหนังสือสวดมนต์ฉบับหลวง ของ สมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสสะเทวะ))

    ดังนั้นรวมความเพื่อป้องกันปัญหาความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน ว่า ๒๗ หรือ ๒๘ องค์ จึงกล่าวว่า จำนวนการสร้าง ต้องไม่เกิน ๓๐ องค์แน่นอนเพื่อถวายเจ้านาย...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2009
  2. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    หากวาระของการสร้างพระเครื่องเป็นไปด้วยความตั้งใจ และปรารถนาดีให้เป็นที่ระลึกในวันสำคัญดีๆเช่นเพื่อเป็นที่ระลึกวันครบรอบวันเกิดของอาจารย์ปู่ประถม ฯลฯ ขอให้มีความชัดเจนในการสร้างว่าเพื่อการอะไร พี่จิ๋วก็คงจะไม่ขัดศรัทธา
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ไม่ใช่ของผม

    แต่เป็นของวัดไ.......ครับ

    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ตามรอยธรรม หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์แห่งอีสาน

    โดย ชมพูนุท นำภา

    ˹ѧ��;������Ԫ�����ѹ : ˹ѧ��;�����س�Ҿ ����ͤس�Ҿ�ͧ������


    มติชนออนไลน์



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    <CENTER>หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องประกายเป็นริ้วสีทอง นอกจากจะไม่ร้อนแรงแล้วยังมีความอบอุ่น เป็นความอบอุ่นทั้งกายและใจ พลันที่ได้ย่างก้าวเข้าไปอยู่ในดินแดนอันเงียบสงบที่ วัดเลียบ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของคณะที่ปรารถนาตามรอยธรรมของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่ในสายกัมมัฏฐาน

    ด้วยปฏิปทาอันน่าศรัทธาเลื่อมใสของพระสายวิปัสสนากัมมัฏฐานหรือพระป่าในแถบภาคอีสานนี้ ทำให้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกับ 4 สมาคมท่องเที่ยวภายในประเทศได้นำเสนอทริปตามรอย "พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์แห่งอีสาน" ขึ้นมา

    ในฐานะพุทธศาสนิกชนที่ดี การดำเนินตามรอยธรรม จึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง

    การตามรอยในครั้งนี้ ททท.ได้เขียนเส้นทางที่ผูกโยงเรื่องราวของหลวงปู่มั่นไว้อย่างครบถ้วน ตั้งแต่เริ่มบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดศรีบุญเรือง บ้านคำบง จังหวัดอุบลราชธานี กระทั่งท่านปลงสังขาร ที่วัดสุทธาวาส จังหวัดสกลนคร

    แม้ว่าการเดินทางไปยังแต่ละวัดนั้นลำดับเหตุ การณ์ในช่วงชีวิตของหลวงปู่มั่นอาจสลับกันไปมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคของการเรียนรู้แต่อย่างใด

    ที่ วัดเลียบ หลวงปู่มั่นเริ่มศึกษาธรรมกับ พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล อาทิ วิปัสสนา นิมิต ภาวนาพุทโธ กายานุสติ อสุภะ ด้านวัดใกล้ๆ กัน คือ วัดบูรพา ก็เป็นที่ที่หลวงปู่มั่นได้ศึกษา วิปัสสนากับพระอาจารย์เสาร์เช่นกัน ถัดจากวัดบูรพาประมาณ 1 กิโลเมตร คณะได้เดินทางไปยัง วัดศรีทอง หรือ วัดศรีอุบลรัตนาราม เป็นวัดที่หลวงปู่มั่นได้บรรพชาเป็นพระภิกษุ

    ภายในวัดศรีทองมีพิพิธภัณฑ์ที่มีของเก่าที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนามากมาย อาทิ พระแก้วบุษราคัม ที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุบลราชธานี ปางมารวิชัย สมัยเชียงแสน แกะสลักจากแก้วบุษราคัมที่งดงามที่สุด

    สำหรับพระอาจารย์เสาร์แล้ว หลวงปู่มั่นแห่งบ้านคำบง คือ ศิษย์เอก ซึ่งก่อนหน้าจะบรรพชาเป็นพระภิกษุ หลวงปู่มั่นได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุ 15 ปี บวชเณรที่วัดศรีทองได้เพียง 2 ปี ท่านก็ต้องลาสิกขา เพราะพ่อได้ขอร้องให้ออกมาช่วยทำงาน

    ตอนนั้นเองที่พระอาจารย์เสาร์ได้พบกับหนุ่มน้อย มั่น หนุ่มน้อยผู้นี้มีลักษณะชอบปลีกตัว ชอบสงบ เทียวออกจากบ้านไปนอนอยู่ในป่ากับหลวงปู่เสาร์เพื่ออุปัฏฐากรับใช้ตามแต่ผู้เป็นอาจารย์จะใช้สอย อยู่ฝึกปฏิบัติสมาธิธรรมกัมมัฏฐาน ล้างบาตร ต้มน้ำ ซักผ้า บางคืนไม่กลับเรือน ที่สำคัญอัธยาศัยของหนุ่มน้อยมั่นก็เอนเอียงมาทางบวช...จนในที่สุด หลวงปู่เสาร์ก็ออกปาก ชวน

    "เจ้าไปบวชกับข้อยซะน้อ"

    "เจ้าสิไปบวชบ่"

    "ไปบวชกับเฮาเนาะ"

    เมื่อถูกชวนบ่อยๆ หนุ่มน้อยก็ตกลง แล้วหลวงปู่เสาร์ก็ไปเอ่ยปากขอหนุ่มน้อยผู้นี้จากโยมผู้เป็นพ่อกับแม่ ซึ่งไม่ได้ขัดข้องใดๆ

    นี่คือการพบเจอกันแรกระหว่างพระอาจารย์และศิษย์เอก
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    (ซ้ายบน) ภาพประวัติศาสตร์ บรรดาศิษยานุศิษย์ และชาวบ้านได้อาราธนาท่านอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ขึ้นสู่แคร่เพื่อหามเคลื่อนขบวนออกจากวัดป่าหนองผือไปพักอาพาธที่วัดป่ากลางโนนภู่ และไปมรณภาพที่วัดป่าสุทธาวาส (ขวาบน) กุฏิหลวงปู่มั่นเมื่อครั้งมาจำพรรษาที่วัดป่าภูริทัตตถิราวาท (ซ้ายล่าง) บางส่วนในพิพิธภัณฑ์เครื่องอัฐบริขารของหลวงปู่มั่น วัดป่าสุทธาวาส (ขวาล่าง) บริเวณลานวิมุตติธรรม วัดถ้ำจำปากันตสีลาวาส</TD></TR></TBODY></TABLE>


    คณะตามรอยมาได้สามวัด เป็นเวลาที่พระอาทิตย์ส่องแสงลอดไรพุ่มไม้ลงมาตรงกลางศีรษะพอดิบพอดี คณะแวะพักกินข้าว ก่อนจะเดินทางต่อไปอีก 82 กิโลเมตร เพื่อไป วัดศรีบุญเรือง บ้านคำบง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของหลวงปู่มั่นเอง และเป็นวัดที่หลวงปู่มั่นบรรพชาเป็นสามเณร ภายในวัดมีหุ่นขี้ผึ้งพระอาจารย์มั่นให้สักการะอยู่ด้วย หลังจากนั้นคณะเดินทางต่ออีก 12 กิโลเมตร เพื่อไปยัง วัดภูหล่น เพื่อไปชมวัดที่ หลวงปู่มั่นเริ่มฝึกปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานกับหลวงปู่เสาร์ด้วย

    เช้าวันต่อมา คณะเดินทางแต่เช้าตรู่มุ่งหน้าสู่ วัดถ้ำจำปากันตสีลาวาส หรือ ภูผากูด อยู่อำเภอหนองสูง จ.มุกดาหาร เป็นวัดที่หลวงปู่เสาร์ ได้มาตั้งสำนักปฏิบัติธรรม และเมื่อปี พ.ศ.2458 หลวงปู่มั่นได้ติดตามหลวงปู่เสาร์มาที่ถ้ำจำปาแห่งนี้ และได้ร่วมจำพรรษากับหลวงปู่เสาร์ และปฏิบัติอาจริยวัตร (กิจที่ควรปฏิบัติต่ออาจารย์) ถวายหลวงปู่เสาร์เช่นเดียวกับพระที่บวชใหม่ คือ ปฏิบัติตั้งแต่ล้างบาตร ซักจีวร ปูที่นอน ตักน้ำ เป็นต้น จนกระทั่งต่อมาได้มีการแยกย้ายเพื่อออกไปปฏิบัติโดยลำพัง

    ปัจจุบันที่วัดถ้ำจำปากันตสีลาวาสแห่งนี้ เป็นวัดที่ไม่มีพระจำพรรษาแน่นอน จะมีก็แต่พระที่มาจำพรรษาเป็นช่วงๆ คณะเราจอดรถที่ลานกว้างด้านล่าง ก่อนที่เดินขึ้นเขาซึ่งปัจจุบันทำบันไดไว้อย่างสะดวกสบาย เพื่อไปสักการะพระพุทธรูป และรูปปั้นของหลวงปู่เสาร์ บนลานหินซึ่งมีชื่อเรียกว่า ลานวิมุตติธรรม เพราะหลวงปู่เสาร์ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ที่ วัดนี้

    ท่ามกลางขุนเขาไม้ครึ้มเขียวคณะลงนั่งสมาธิที่ลานวิมุตติธรรมเพื่อทำจิตให้สงบนิ่ง ก่อนจะค่อยๆ ทยอยกันไปขึ้นรถเพื่อเดินทางต่อไปยัง วัดป่าวิเวกวัฒนาราม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

    ที่วัดป่าวิเวกวัฒนาราม ปัจจุบันมี หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น เป็นเจ้าอาวาส วันนี้เวลาล่วงมาจนหลวงปู่จามมีอายุได้ 100 ปีแล้ว แต่ผิวพรรณของท่านนั้นขาวผ่องเปล่งประกายน่าเลื่อมใสอย่างยิ่ง คณะของเราโชคดีได้เข้าไปกราบท่านถึงในกุฏิ ท่านนั่งบนเก้าอี้ถือไม้เท้าไว้เคาะหัวให้พรแก่ญาติโยมที่มาทำบุญ

    หลังจากการทำบุญแล้ว คณะเดินทางต่อไปยัง วัดดอยธรรมเจดีย์ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร เป็นวัดที่อาจารย์มั่นได้เคยมาจำพรรษา แล้วไปต่อ วัดนาคนิมิต วัดที่หลวงปู่มั่นเคยเป็นเจ้าอาวาส พร้อมทั้งสักการะกุฏิที่ท่านเคยจำพรรษา ปัจจุบันวัดนาคนิมิตมี หลวงปู่อว้าน เขมโก เป็นเจ้าอาวาส

    เราพบความเงียบสงบตั้งแต่เดินลงจากรถ เงียบจนไม่กล้าส่งเสียงใดๆ ทั้งสิ้น ที่บริเวณใต้ถุนศาลาวัด ขณะที่พระกำลังฉันน้ำปานะกันอย่างเงียบสงบ ไม่มีการสนทนาพาที คณะเดินเข้าไปกราบหลวงปู่อว้าน บอกจุดประสงค์สั้นๆ ถึงการมาเยือนที่วัดแห่งนี้

    วันนั้น หลวงปู่อว้าน เมตตาเทศนาธรรมให้คณะฟังตอนหนึ่งว่า

    "จิตของเราอยู่ที่กาย หรือไปอยู่ที่ไหน เดี๋ยวก็ไปนั่นไปนี่ เขาว่ายังไงก็ตามไป ก็ไม่ห้ามเขานี่...ต้องห้ามเขา ต้องเอาธรรมเข้า ไม่เอากิเลสเข้า ให้สำรวมกาย สำรวมจิตให้ดี ชีวิตที่ประกอบด้วยกิเลสตัณหา เที่ยวหาแต่รสแต่ชาติ สติของท่านต้องตามดู ดูที่จิตเป็นกุศลหรืออกุศล มันเอียงไปทางไหน นี่..ท่านสอนให้รู้ตรงนี้ ถ้ารู้เห็นจิตเป็นอกุศล เป็นบาปเราก็อย่าไปตามจิต... หลวงปู่มั่นท่านไม่ได้แบกตำราเข้าไปในป่า ท่านค้นหาในกายในจิตทั้งหมด พระพุทธเจ้าบอกว่าผู้ปฏิบัติเท่านั้นที่จะรู้เองเห็นเอง"
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    (ซ้ายบน) หลวงปู่อว้าน เขมโก, หลวงปู่จาม มหาปุญโญ (ซ้ายล่าง) ชาวบ้านมาทำบุญที่วัดป่าภูริทัตตถิราวาท (ขวาบน-ล่าง) บริเวณภายในวัดป่าวิสุทธิธรรมร่มครึ้มไปด้วยต้นไม้ใหญ่</TD></TR></TBODY></TABLE>


    คณะเดินทางออกจากวัดด้วยความอิ่มเอิบหัวใจ แล้วเดินทางต่อไปที่ วัดป่าวิสุทธิธรรม เป็นวัดที่หลวงปู่มั่นเคยมาจำพรรษาอีกเช่นกัน จากนั้นคณะเดินทางไปต่อที่ วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร เป็นสถานที่ที่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มรณภาพ ที่วัดนี้มีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเครื่องอัฐบริขารของหลวงปู่มั่นซึ่งจะเห็นว่าเครื่องใช้ประจำวันของท่านคือสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีพเท่านั้น

    แสดงให้เห็นว่าท่านตัดวัตถุทั้งหลายทั้งปวงออกจากบ่วงกิเลสจนหมดสิ้น

    ภายในวัดป่าสุทธาวาสนี้ มีเจดีย์ หลวงปู่หลุย จันทสาโร ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ให้บรรดาลูกศิษย์ลูกหาเข้าไปกราบสักการะด้วย

    วันสุดท้าย คณะเราเริ่มจาก วัดป่าภูริ ทัตตถิราวาส หรือชื่อเดิม วัดป่าบ้านหนองผือนาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

    ที่วัดนี้หลวงปู่มั่นมาจำพรรษา 5 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2488-2492 มีอายุ 76-80 ปี 53-57 พรรษา เป็นช่วงที่พระอาจารย์มั่นอาพาธด้วยอาการชรา ก่อนจะให้ลูกศิษย์ลูกหาพาไปมรณภาพที่อื่น

    เหตุที่ต้องเดินทางไปมรณภาพที่อื่นนั้น จากประวัติของหลวงปู่มั่น ท่านกล่าวกับพระด้วย กันว่า

    "การตายของผมเป็นเรื่องใหญ่ของสัตว์ และประชาชนทั่วไปมาก ด้วยเหตุนี้ผมจึงเผดียงท่านทั้งหลายให้ทราบว่า ผมไม่อยากตายอยู่ที่นี่ ถ้าตายที่นี่จะเป็นการกระเทือน และทำลายชีวิตสัตว์ไม่น้อยเลย สำหรับผมตายเพียงคนเดียว แต่สัตว์ที่จะพลอยตายไป เพราะผมเป็นเหตุนั้นมีจำนวนมากมาย เพราะคนจะมามาก...

    ...ทั้งนี้ ไม่มีตลาดแลกเปลี่ยนซื้อขายกัน นับแต่ผมบวชมาไม่เคยคิดให้สัตว์ได้รับความเดือดร้อน โดยไม่ต้องพูดถึงการฆ่าเขาเลย มีแต่ความเมตตาสงสารเป็นพื้นฐานของใจตลอดมา ทุกเวลาได้แต่แผ่เมตตาจิตอุทิศส่วนกุศลแก่สัตว์ไม่เลือกหน้า โดยไม่มีประมาณตลอดมา เวลาตายจะกลายเป็นศัตรูคู่เวรแก่สัตว์ให้เขาล้มตายลงจากชีวิตที่แสนรักสงวนของแต่ละตัว เพราะเหตุเพียงผมคนเดียวเท่านั้น ผมทำไม่ลง อย่างไรขอให้นำผมออกไปตายที่สกลนคร"

    จากนั้นลูกศิษย์ลูกหาก็ช่วยกันหามหลวงปู่มั่นที่อาพาธอยู่บนแคร่มีมุ้งครอบไว้ เดินเป็นขบวนแห่กันมาถึง 84 กิโลเมตร โดยมาพักอาพาธไว้ที่วัดป่ากลางโนนภู่ ซึ่งในกุฏิที่พักอาพาธตอนนั้น ในปัจจุบันได้มีการติดภาพขบวนแห่อาจารย์มั่นซึ่งเป็นภาพประวัติศาสตร์อยู่โดยรอบ พร้อมทั้งบริขารยามอาพาธของหลวงปู่มั่นที่แห่มาในครั้งนั้นด้วย ก่อนที่จะไปมรณภาพที่วัดป่าสุทธาวาส

    จากสกลนคร คณะออกเดินทางต่อไปยังจังหวัดอุดรธานี โดยไปวัดโพธิสมภรณ์ เพื่อสักการะพระธรรมเจดีย์หลวงปู่จูม พันธุโล จากนั้นไปวัดป่าโนนนิเวศน์ ที่ อ.เมือง เป็นวัดสุดท้ายของการตามรอยธรรมในครั้งนี้

    นางอรุณศรี ศรีเมฆานนท์ ศาสตรานิติ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เล่าว่า ตอนที่คิดทำเส้นทางศาสนา เราเป็นห่วงเรื่องของการประชาสัมพันธ์ที่ออกไปอาจสร้างกระแสให้ผู้คนแห่มาจนกลายเป็นการรบกวนความสงบของวัดเป็นอันดับแรก เพราะวัดทางภาคอีสานเป็นวัดที่พระท่านมาปฏิบัติ และท่านก็อยู่ของท่านเงียบสงบ วัดป่าจะไม่เหมือนวัดอื่นๆ ที่นอกจากไปไหว้พระแล้ว คนจะไปดูสถาปัตย กรรม จะไปดูศาสนศิลป์ พุทธศิลป์ด้วย

    "แต่เราก็ถามตัวเราเองว่า นี่คือสิ่งที่ดีมากของพุทธศาสนา และภาคอีสาน เราก็ควรจะเผยแพร่ออกไปให้คนรู้ด้วยความระมัดระวัง"

    เสียงผู้อำนวยการ ททท.ภาคอีสานกล่าวต่อ ว่า อย่างไรก็ตาม การเผยแพร่อย่างนี้ พอเอามาเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ก็จะเตือนว่าวัดป่าเป็นที่ต้องสงบมาก ต้องสำรวมกายใจ และคนที่เข้าวัดป่าจริงๆ ต้องเป็นพุทธศาสนิกชนอยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าพูดถึงความสงบเขาจะเข้าใจ จะเห็นว่าพอเข้าไปในวัดแล้ว สภาพของความสงบเงียบจะทำให้เรารู้เองว่าเสียงดังไม่ได้ ถ้าเราเสียงดังก็จะได้ยินแต่เสียงตัวเองเท่านั้น"

    เมื่อถามถึงความคาดหวังในการท่องเที่ยวของเส้นทางสายนี้?

    ผู้อำนวยการอรุณศรี บอกว่าไม่คาดหวังว่าเมื่อโปรโมตการท่องเที่ยวแล้วจะหวังทำยอดขาย

    "แต่สิ่งที่เราปรารถนา คือ คนที่มาแล้วได้ความรู้เรื่องของพระวัดป่า สายธรรมยุต ให้รู้ว่าปฏิปทาพระท่านเป็นอย่างไร นี่เป็นสิ่งสำคัญกว่า และมองว่าตอนนี้คนจำนวนไม่น้อยที่หันมาปฏิบัติ ซึ่งต้องศึกษาเรื่องของอาจารย์มั่น แต่ว่าโอกาสที่จะได้เห็นกุฏิของท่านที่ท่านจำพรรษานั้นไม่มี ถ้ามีก็อาจจะมาได้เพียงวัดเดียวหรือสองวัด ..

    ..แต่เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่ผูกโยงให้เลย ให้ดูตั้งแต่ท่านเกิดที่ไหน อย่างไร ไปจนกระทั่งที่ท่านปลงสังขาร แล้วเราทำร่วมกับบริษัทนำเที่ยว ถ้าสะดวกใช้บริการบริษัทนำเที่ยวก็จัดให้ แต่ถ้าอยากมาแบบญาติพี่น้อง ก็เอาเส้นทางเราไปดูแล้วขับรถมาเองได้ เราหวังว่าพอทำอย่างนี้ พุทธศาสนิกชนที่ยังไม่เคยสัมผัสตรงนี้ก็อาจจะกระตุ้นให้อยากเข้ามาสัมผัส หรือคนที่สัมผัสอยู่แล้วก็จะได้มีโอกาสมาเห็นจริงๆ"

    ผู้อำนวยการอรุณศรี แนะนำว่า หากใครคิดจะมาเส้นทางนี้จริงๆ ก็ขอให้มีเวลาจริงๆ อย่าคิดว่ามาแป๊บเดียวแล้วก็กลับไป ควรจะต้องมีเวลาไหว้พระ มีเวลานั่งสงบจิตสงบใจ แล้วจะได้ความชื่นใจกลับไป

    "อย่างที่บอก เราไม่ได้ตีปี๊บว่าต้องเที่ยววัดเหมือนภูมิภาคอื่น เพราะภาคเราเที่ยวแบบนั้นไม่ได้ ที่ทำเส้นทางนี้ขึ้นมาเป็นเรื่องเป็นราวเพื่อให้คนที่สนใจมีโอกาสได้เห็น และอยากจะบอกผู้ที่มาว่าต้องสำรวมกายใจ ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าห่วงเท่าไหร่ เพราะคนไทยรู้และเข้าใจอยู่แล้ว"

    เส้นทางธรรมเส้นทางนี้ประหนึ่งเป็นการย้ำเตือนว่า "ความสุขอื่นใดเหนือกว่าความสงบนั้นไม่มี"

    เป็นเช่นนั้นจริงๆ
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  5. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    เห็นภาพหลวงปู่มั่นแล้วน้ำตาจะไหล ติ้นตันใจยังไงไม่รู้
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมดูรายการช่อง 9

    เห็นคนพิการ ที่ไม่มีแขน ไม่มีขา(มีเพียงต้นขานิดหน่อย)

    มาแสดงความสามารถ เรื่องของดนตรี

    แต่ที่สำคัญ

    เขาลองล้มลง เขาบอกว่า หากเขาล้มลงแล้วไม่มีกำลังใจสู้ที่จะลุกขึ้นมา เขาจะลุกขึ้นมาได้หรือไม่ แล้วถ้าหากว่า ล้มสัก 100 ครั้ง 1,000 ครั้ง จะทำอย่างไร

    เขาพูดได้สักพักแล้วก็ได้ลุกขึ้น โดยใช้ความพยายามในการลุกขึ้น โดยใช้ร่างกายที่เหลือทุกส่วนรวมทั้งศีรษะเขา ในการใช้ความพยายามลุกขึ้นมา

    ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่าน ในการต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ด้วยสติปัญญาของทุกๆท่านครับ
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นำ ภ า พ เ ก่ า ๆ ที่ ห า ดู ไ ด้ ย า ก ม า ก ๆ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD>[​IMG]</TD><TD> </TD><TD width="100%">PaLungJit.com > พุทธศาสนา > อภิญญา - สมาธิ > สายพระป่าธรรมยุติ - หลวงปู่มั่น </TD></TR><TR><TD class=navbar style="FONT-SIZE: 10pt; PADDING-TOP: 1px" colSpan=3>[​IMG] นำ ภ า พ เ ก่ า ๆ ที่ ห า ดู ไ ด้ ย า ก ม า ก ๆ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต </TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://palungjit.org/threads/นำ-ภ-า...-า-ก-ม-า-ก-ๆ-สายหลวงปู่มั่น-ภูริทัตโต.164973/

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=9 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=alt1 width="100%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD>[​IMG]</TD><TD> </TD><TD width="100%">บอร์ดอกาลิโก > ธรรมในจิต > พระสงฆ์สาวก-อริยบุคคล > หลวงปู่มั่น </TD></TR><TR><TD class=navbar style="FONT-SIZE: 10pt; PADDING-TOP: 1px" colSpan=3>[​IMG] นำ ภ า พ เ ก่ า ๆ ที่ ห า ดู ไ ด้ ย า ก ม า ก ๆ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นำ ภ า พ เ ก่ า ๆ ที่ ห า ดู ไ ด้ ย า ก ม า ก ๆ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD>[​IMG]</TD><TD></TD><TD width="100%">PaLungJit.com > พุทธศาสนา > อภิญญา - สมาธิ > สายพระป่าธรรมยุติ - หลวงปู่มั่น </TD></TR><TR><TD class=navbar style="FONT-SIZE: 10pt; PADDING-TOP: 1px" colSpan=3>[​IMG] นำ ภ า พ เ ก่ า ๆ ที่ ห า ดู ไ ด้ ย า ก ม า ก ๆ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต </TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://palungjit.org/threads/%E0%B...95.164973/

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=9 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=alt1 width="100%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD>[​IMG]</TD><TD></TD><TD width="100%">บอร์ดอกาลิโก > ธรรมในจิต > พระสงฆ์สาวก-อริยบุคคล > หลวงปู่มั่น </TD></TR><TR><TD class=navbar style="FONT-SIZE: 10pt; PADDING-TOP: 1px" colSpan=3>[​IMG] นำ ภ า พ เ ก่ า ๆ ที่ ห า ดู ไ ด้ ย า ก ม า ก ๆ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    �� � � � � �� � � ��� � � �� � �� � � � � � � � �����ǧ������� ���Էѵ�� - �����͡�����

    นำ ภ า พ เ ก่ า ๆ ที่ ห า ดู ไ ด้ ย า ก ม า ก ๆ
    นำมาจากกระทู้ในบอร์ดเก่า โพสต์โดย คุณอริยชน

    http://www.dhammajak.net/forums/view...t&sd=a&start=0

    โพสโดย เว็บมาสเตอร์

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ภาพหายาก...หลวงปู่ขาว อนาลโย
    วัดถ้ำกลองเพล ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู


    [​IMG]

    หลวงปู่ขาว อนาลโย เดินจงกรมตอนเช้าบนระเบียงกุฏิ

    [​IMG]

    พระอาจารย์บุญเพ็ง เขมาภิรโต ประคองหลวงปู่ขาว อนาลโย เดินจงกรม

    [​IMG]

    หลวงปู่ขาว อนาลโย ฉันภัตตาหารร่วมกับ
    หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต วัดจันทรสามัคคี อ.เมือง จ.หนองคาย


    [​IMG]

    หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโคธาราม จ.อุดรธานี
    กำลังทักทายหลวงปู่ขาว อนาลโย ที่บริเวณวัดถ้ำกองเพล จ.หนองบัวลำภู


    [​IMG]

    หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม วัดสิริสาลวัน จ.หนองบัวลำภู
    กำลังทักทายกับหลวงปู่ขาว อนาลโย ด้วยความยิ้มแย้ม


    [​IMG]

    หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์
    มาเยี่ยมหลวงปู่ขาว อนาลโย และได้มีโอกาสสนทนาธรรมกันอย่างใกล้ชิด


    [​IMG]

    พระอาจารย์บุญเพ็ง เขมาภิรโต และพระอาจารย์จันทา ถาวโร
    กำลังเฝ้าปรนนิบัติหลวงปู่ขาว อนาลโย


    นำ ภ า พ เ ก่ า ๆ ที่ ห า ดู ไ ด้ ย า ก ม า ก ๆ
    นำมาจากกระทู้ในบอร์ดเก่า โพสต์โดย คุณอริยชน

    http://www.dhammajak.net/forums/view...t&sd=a&start=0

    โพสโดย เว็บมาสเตอร์

    [​IMG]

    หลวงปู่หลุย จันทสาโร วัดถ้ำผาบิ้ง จ.เลย เป็นพระกรรมฐานชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่ง
    ที่ได้มามนัสการหลวงปู่ขาว อนาลโย ที่วัดถ้ำกองเพล จ.หนองบัวลำภู เป็นประจำ


    [​IMG]

    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ จ.เลย
    มามนัสการหลวงปู่ขาว อนาลโย ที่วัดถ้ำกองเพล จ.หนองบัวลำภู


    [​IMG]

    หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร
    มาทำวัตรหลวงปู่ขาว อนาลโย ซึ่งเป็นธรรมเนียมของพระทางฝ่ายกรรมฐาน


    [​IMG]

    หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก)
    มามนัสการหลวงปู่ขาว อนาลโย ที่วัดถ้ำกองเพล จ.หนองบัวลำภู


    [​IMG]

    หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม
    วัดป่าสาลวัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา


    [​IMG]

    จากซ้ายไปขวา
    หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, พระอาจารย์มหาปิ่น ปัญญาพโล,
    พระญาณวิศิษฏ์สมิทธิวีราจารย์ (หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม)



    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
    วัดป่าอุดมสมพร ต.พรรณา อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นำ ภ า พ เ ก่ า ๆ ที่ ห า ดู ไ ด้ ย า ก ม า ก ๆ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD>[​IMG]</TD><TD></TD><TD width="100%">PaLungJit.com > พุทธศาสนา > อภิญญา - สมาธิ > สายพระป่าธรรมยุติ - หลวงปู่มั่น </TD></TR><TR><TD class=navbar style="FONT-SIZE: 10pt; PADDING-TOP: 1px" colSpan=3>[​IMG] นำ ภ า พ เ ก่ า ๆ ที่ ห า ดู ไ ด้ ย า ก ม า ก ๆ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต </TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://palungjit.org/threads/%E0%B...95.164973/

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=9 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=alt1 width="100%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD>[​IMG]</TD><TD></TD><TD width="100%">บอร์ดอกาลิโก > ธรรมในจิต > พระสงฆ์สาวก-อริยบุคคล > หลวงปู่มั่น </TD></TR><TR><TD class=navbar style="FONT-SIZE: 10pt; PADDING-TOP: 1px" colSpan=3>[​IMG] นำ ภ า พ เ ก่ า ๆ ที่ ห า ดู ไ ด้ ย า ก ม า ก ๆ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    �� � � � � �� � � ��� � � �� � �� � � � � � � � �����ǧ������� ���Էѵ�� - �����͡�����

    นำ ภ า พ เ ก่ า ๆ ที่ ห า ดู ไ ด้ ย า ก ม า ก ๆ
    นำมาจากกระทู้ในบอร์ดเก่า โพสต์โดย คุณอริยชน

    http://www.dhammajak.net/forums/view...t&sd=a&start=0

    โพสโดย เว็บมาสเตอร์

    [​IMG]

    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    วัดดอยแม่ปั๋ง ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่


    [​IMG]

    หลวงปู่ชอบ-หลวงปู่เหรียญ-หลวงปู่หลุย-หลวงปู่บัวพา

    [​IMG]

    หลวงปู่ดูลย์ อตุโล-หลวงปู่สาม อกิญจโน-หลวงปู่ศรี มหาวีโร
    ภาพโดยคุณ nonsoul


    [​IMG]


    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน-พระพุทธพจนวราภรณ์ (จันทร์ กุสโล)

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
    วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก)
    ต.นาแสง อ.ศรีวิไล จ.หนองคาย


    [​IMG]

    ไฟปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเมื่อพระอาจารย์จวน บ้วนปาก เมื่อฉันข้าวเสร็จ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ นั่งภาวนาบนหน้าผา
    (น่าอัศจรรย์ใจ !!! จริงๆ)
    <!-- google_ad_section_end -->

    นำ ภ า พ เ ก่ า ๆ ที่ ห า ดู ไ ด้ ย า ก ม า ก ๆ
    นำมาจากกระทู้ในบอร์ดเก่า โพสต์โดย คุณอริยชน

    http://www.dhammajak.net/forums/view...t&sd=a&start=0

    โพสโดย เว็บมาสเตอร์

    [​IMG]

    หลวงปู่สีโห เขมโก
    (ศิษย์ใกล้ชิดของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต)
    พระผู้ทรงอภิญญา รู้ภาษาสัตว์และคนได้ทุกชาติทุกภาษา


    [​IMG]

    หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
    วัดบูรพาราม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์


    [​IMG]

    หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
    วัดป่าสาลวัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา


    [​IMG]

    หลวงพ่อชา สุภัทโท
    วัดหนองป่าพง ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี


    [​IMG]

    หลวงพ่อชา สุภัทโท (นั่ง) ถ่ายภาพกับคณะศิษย์ชาวต่างประเทศ

    [​IMG]

    หลวงพ่อชา สุภัทโท (ถือไม้เท้า) ถ่ายภาพกับคณะศิษย์

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    หลวงปู่มี (เกล้า) ปมุตโต
    วัดถ้ำเกีย บ้านหนองแซง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    หลวงปู่มี (เกล้า) ปมุตโต
    วัดถ้ำเกีย บ้านหนองแซง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    กระทู้ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

    หน้าที่ 1531


    เมื่อหัวค่ำนี้( วันที่ 6 พฤษภาคม 2552) ผมกำลังจะกลับบ้าน เดินมาที่โรงรถที่ทำงาน มีความคิดขึ้นมาแวบนึง

    ผมอยากสร้างพระขึ้นมาสักรุ่นนึง พิมพ์พระสมเด็จ

    โดยผมเองมีแม่พิมพ์ ผมจะสร้างพระผงคลุกรัก โดยด้านหลังองค์พระจะติดล็อกเก็ต ล็อกเก็ตจะเป็นรูปองค์หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า ,คณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณ-อุตร) 5 องค์ ,หลวงปู่แจ้งฌาณ ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และหลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ

    ส่วนผงที่จะใช้สร้างนั้น จะเป็นผงที่ได้จากพระวังหน้าที่แตกหัก(ที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้) ,พระธาตุพระสิวลีเถระเจ้า และยังมีมวลสารอื่นๆอีกมาก

    ส่วนพระพิมพ์นั้น จะสร้างเท่ากับจำนวนการสั่งจองเท่านั้น

    กติกาในการจอง
    1.ต้องอยู่ในคณะพระวังหน้า,กลุ่มลูกศิษย์พระอาจารย์ผมและบุคคลที่ท่านอาจารย์ประถม เห็นสมควรเท่านั้น
    2.ผู้ที่สั่งจองต้องรับข้อแม้จำนวน 5 ข้อดังนี้
    2.1 เป็นผู้ที่ช่วยเหลือและค้ำจุนพระศาสนา ตามกำลังของตนเองอย่างเต็มที่
    2.2 เป็นผู้ที่ช่วยเหลือประเทศชาติ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามกำลังของตนเองอย่างเต็มที่
    2.3 เพื่อระลึกถึงครูบาอาจารย์
    2.4 เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่มีไว้ในการทำความดีตามข้อ 2.1 , 2.2 และ 2.5
    2.5 ช่วยกันปกป้องและเผยแพร่พระวังหน้า ตามกำลังของตนเองอย่างเต็มที่

    ผมจะใช้กติกานี้ในการจอง และผมจะให้มีการเซ็นชื่อในใบจอง โดยข้อความจะมีการตั้งจิต ตั้งสัจจะตามกติกาด้วยนะครับ

    ส่วนขั้นตอนแรก ผมขอทราบจำนวนท่านที่มีความประสงค์ที่จะสั่งจอง และจำนวนที่จองก่อนนะครับ

    ล็อกเก็ต เท่าที่ผมคุยกับพี่ท่านนึง พี่ท่านนี้บอกว่า ทางร้านคิดมา 300 บาท ผมเองคิดว่า พระพิมพ์ 1 องค์ จะให้จอง 500 บาท ในส่วนต่างอีก 200 บาทนั้น จะเป็นอุปกรณ์ต่างๆเช่น รัก หรือ ค่าใช้จ่ายในงานพิธีพุทธาภิเษก แต่หากมีเงินเหลือ ก็จะทำบุญกันต่อไป แต่หากว่า เงินไม่พอ อาจจะขอเก็บเพิ่มเติมในภายหลัง

    ผมขอสงวนสิทธิ์ในการรับจองหรือไม่รับจองครับ

    ขอให้แจ้งผมก่อนในวันที่ 15 พฤษภาคม 2552 นี้นะครับ

    พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

    หน้าที่ 1531

    ------------------------------------------

    กติการและข้อตกลง

    ส่วนหนึ่งของใบจอง ซึ่งมีการตั้งจิต ตั้งสัจจะไว้ครับ

    เผื่อพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ จะได้ตัดสินใจได้

    [​IMG]

    พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

    หน้าที่ 1532

    --------------------------------------------------

    พี่ท่านนึง โทร.มาแจ้งผมเรื่องของล็อกเก็ตแล้ว

    พี่ท่านนี้ได้ขออนุญาต หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า ,หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร 5 พระองค์ ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เรื่องของการจัดสร้างล็อกเก็ต การวางรูปองค์หลวงปู่ในล็อกเก็ต

    หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า ,หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร 5 พระองค์ ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ได้มีพระเมตตาต่อคณะพระวังหน้า อนุญาตในการจัดสร้างล็อกเก็ตแล้ว

    ส่วนรายละเอียดอื่นๆ คงไปคุยกันในวันนัดพบกัน ในวันนั้นผมต้องขออนุญาตท่านอาจารย์ประถม และพี่จิ๋วก่อน หากท่านอาจารย์ประถม และพี่จิ๋วอนุญาต ซึ่งการสร้างพระนั้น พี่จิ๋วจะเป็นผู้สร้างให้ครับ

    ดีใจครับที่หลวงปู่ทุกๆพระองค์ท่านเมตตา และชาวคณะพระวังหน้า ต้องทำดีกันให้ยิ่งๆขึ้นไปนะครับ

    โมทนาสาธุครับ

    พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้..... หน้าที่ 1540

    http://www.agalico.com/board/showthr...697#post157697 หน้าที่ 120
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    คุณตั้งจิต โทร.มาบอกผมเมื่อสักพักนี้

    ขอจอง 4 องค์

    รับทราบนะครับ

    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  12. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    <TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 10px">พระกริ่งปวเรศ
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]พระกริ่งปวเรศ วัดบวร สร้างโดยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ฯ จำนวนประมาณ 30 องค์ หลายองค์ที่รู้จักในวงการพระเครื่อง ยกองค์ครู ต้นแบบที่ประดิษฐานอยู่ในตึก ภปร.วัดบวรนิเวศฯออกไปแล้ว องค์อื่นที่ยอมรับนับถือกัน มีน้อยมาก
    ประเด็นที่เป็นปัญหา ก็คือ ชุดความรู้เรื่องพระกริ่งปวเรศ ถึงจะมีผู้รู้เคยเผยแพร่ อยู่บ้าง แต่ก็ยังน้อยเกินไป ใช้เป็นหลักเกณฑ์ยังไม่ได้
    หนังสือที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพอำมาตย์เอก พระยาชลประทานธนารักษ์ ณ เมรุวัดเทพศิรินทราวาส วันที่ 30 มีนาคม 2515 ผู้รู้ที่ใช้ ตามปากกา ศักดิ์ สุริยัน รวบรวมข้อมูลเรื่องพระกริ่งปวเรศ เอาไว้หลายด้าน เป็นชุดความรู้ขนาดใหญ่ กว่า ที่ไม่เคยอ่านผ่านตากันมาก่อน
    ตำนานเรื่องพระกริ่งปวเรศ ของวัดบวรฯ กล่าวว่า “ทราบกันมาว่า สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ฯ ได้ทรงสร้างพระกริ่งและหม้อน้ำมนต์ พระกริ่งนั้น บัดนี้เรียกกันว่า พระกริ่งปวเรศ ทรงสร้างขึ้นเมื่อไร มีจำนวนเท่าไร ไม่พบหลักฐาน
    เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ได้เคยรับสั่งว่า พระกริ่งนั้นสมเด็จฯทรงสร้างขึ้นเอง เพื่อถวายเจ้านาย มีจำนวนน้อย ไม่เกิน 30 องค์
    แต่หลวงชำนาญเลขา (หุ่น) สมุห์บัญชีในกรมของพระองค์ ได้ขอประทานพระอนุญาตนำแบบพิมพ์ ไปสร้าง ได้ไปสร้างขึ้นอีกเท่าไหร่ไม่ทราบ
    หลวงชำนาญเลขา เป็นไวยาวัจกรวัด ในสมัยที่ทรงครองวัด และสืบต่อมา จนถึงสมัยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงครองวัดในเบื้องต้น
    ร.อ.หลวงบรรณยุทธชำนาญ ปรมาจารย์ พระเครื่องยุคเก่า บันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า
    สมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ฯ ได้ตำราทำกริ่งพระประทุม และได้กริ่งพระประทุมมาด้วย จึงคิดสร้างพระกริ่งขึ้นบ้าง ในวัดบวรฯ ใช้แบบเค้าเดียวกับกริ่งพระประทุม เห็นจะกลัวซ้ำกับองค์ครู จึงเพิ่มบัวหลังขึ้นอีกหนึ่งกลีบ ผสมทองสัมฤทธิ์ตามแบบเลยมีบัวเป็น 8 กลีบ
    กริ่งปวเรศเนื้อในสีจำปาอ่อนผิวกลับดำ สร้างเป็นสองคราว คราวแรกอุดก้นด้วยทองแดง คราวสองอุดก้นด้วยทองเหลือง พุทธลักษณะงามมาก มีเครื่องหมายลับกันปลอมไว้ด้วย
    ต่อมาเจ้าคุณเฒ่าวัดมกุฏกษัตริย์ได้สร้างพระกริ่งขึ้นเหมือนกัน ทำพุทธลักษณะอย่างกริ่งปวเรศ เนื้อในสีมันเทศ ผิวกลับดำ มีบัวหลังเหมือนกัน แต่อุดก้นด้วยทองเหลือง ทำสองขนาดมีขนาดใหญ่กับเล็ก มีเครื่องลับทุกองค์ ต่างกับกริ่งปวเรศ ก็เพียงฝีมือหล่อและแต่งเท่านั้น
    ศักดิ์ สุริยัน ใช้ข้อมูลพื้นฐานจากผู้รู้สรุปวัตถุประสงค์ในการสร้างพระกริ่งปวเรศว่า เพื่อประทานพระเจ้าลูกยาเธอ และพระเจ้าลูกเธอในรัชกาลที่ 4 ที่ทรงผนวช โดยพระองค์ท่านทรงเป็นองค์พระอุปัชฌาย์
    และประทานให้ผู้ใกล้ชิด ตลอดจนเจ้าฟ้าแห่งราชวงศ์นโรดมแห่งกัมพูชา
    การสร้างมากกว่าครั้งเดียว สร้างด้วยโลหะผสม 9 ชนิด ในอัตราส่วนที่ถูกตำรับและตายตัวทุกครั้งทำให้เนื้อกลับดำ โลหะปิดฐานด้านล่าง มีทั้งทองเหลืองและทองแดง มีเครื่องหมายรูปเมล็ดงาเหมือนกันทุกองค์ แต่อาจอยู่ต่างที่กัน ล้วนแล้วแต่ อยู่ใกล้บัวหลังทั้งสิ้น
    ลักษณะคล้ายกันทุกองค์ ที่ไม่เหมือนกันนั้นเพราะถูกขัดแต่งไม่เท่ากัน พุทธลักษณะงดงามมาก ตามฝีมือที่ประณีต
    ขนาดหน้าตักกว้าง 1.8 ซม. ความสูงจากจุดพระชงฆ์ไขว้ ถึงยอดพระเมาลี 2.8 ซม. ความสูงจากฐาน 4 ซม. พระพักตร์ถึงยอดพระเศียร สูง 1.3 ซม. พระพักตร์กว้างจรดขอบพระกรรณ .85 ซม.
    ข้อพิจารณาเหล่านี้ ศักดิ์ สุริยัน บอกว่าได้มาจากการพิจารณาอย่างใกล้ชิด จากพระกริ่งปวเรศ องค์วัดบวรฯและอีกสององค์ รวมเป็นสามองค์
    สำหรับภาพพระกริ่งปวเรศ ที่ใช้ประกอบในครั้งนี้ เป็นองค์หน้าใหม่ ของคุณอุดมพร คชหิรัญหรือที่รู้จักกันว่า นาท ภูวนัย มือสะสมพระกริ่งผู้มีประสบการณ์ยาวนานคนหนึ่ง เปรียบเทียบกับองค์ครูวัดบวรฯแล้ว ความน่าสนใจก็คือ ใกล้เคียงมากกว่าองค์ที่เคยเห็นกันมาก่อน แต่องค์นี้ จะเป็นพระกริ่งปวเรศวัดบวรฯแท้แน่นอนหรือไม่ พระเครื่องของสูงมีค่า หายากเช่นนี้ เป็นประเด็นที่สังคมนักนิยมพระกริ่ง จะได้ถกเถียงกันต่อไป จนกว่าจะได้ข้อยุติ.
    บาราย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    ผมเคยเห็นของแท้แค่ 3 องค์เอง ต้องบอกว่ามีการสร้าง 2 ครั้งแยกไม่ออกครับ ในวงการที่ถือครองกันจึงมีหลายคนไม่ใช่มีแค่ 30 องค์

    หลวงชำนาญเลขา (หุ่น) สมุห์บัญชีในกรมของพระองค์ ไปสร้างมีค่อนข้างเยอะอิทธิคุณครบทุกด้านส่วนรุ่นที่สร้างครั้งแรกเด่นทำน้ำมนต์อย่างเดียว
     
  14. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    หากลองไล่เรียงการถือครองย้อนศรขึ้นไป ถามว่า พระกริ่งองค์นี้ท่านได้แต่ใดมา ก็จะทราบที่มาที่ไป หากสร้างเพียง ๓๐ องค์ ไม่น่าจะสืบยาก เพราะหากมีการมอบเป็นมรดกตกทอดมาให้รุ่นคนรุ่นต่อๆมา ยังไงก็ไม่น่าจะเกินกว่า ๔ ชั่วคน ปัญหาอย่ที่ว่า ของอยู่ที่ใคร คนนั้นก็จะบอกว่า ของตัวเองนั้นเป็นของจริงที่ตกทอดกันมา แบบนี้กล่าวอ้างกันได้ พอถามว่า ได้แต่ใดมา คำตอบกลับคลุมเครือ...

    ปัญหาต่อมาคือ ในเมื่อพระองค์ท่านสร้างถวายเจ้านาย เหตุใดพระกริ่งปวเรศองค์จริงจึงตกมาอยู่กับสามัญชนทั่วไป จะเป็นทำนองเดียวกับสมเด็จจิตรลดาที่พระองค์ท่านพระราชทานให้แก่นายทหาร(เน้นนายทหาร)จำนวนไม่เกิน ๓,๐๐๐ องค์ แต่เหตุใด บางครั้งไปเห็นตามริมทางข้างถนน พร้อมทั้งกล่อง แต่เมื่อถามถึงหนังสือพระราชทานประกอบองค์พระ กลับบอกว่าอยู่ที่บ้าน ในเมื่อพร้อมขาย ก็ควรให้มาครบๆ จริงไม๊เพื่อนๆ แบบนี้ให้สันนิษฐานว่าเก๊เอาไว้ก่อน หากอยากได้เพราะเชื่อประสบการณ์ตนเอง จะต่อรอง ก็ควรกดราคาให้ต่ำติดดิน จะได้ไม่มาเสียใจในภายหลัง ในกรณีของคุณนาท นี้ลองไล่เรียงสิครับว่า คุณนาทได้มายังไง หากคุณนาทบอกว่ามาจากนาย ก. ก็ต้องไล่ไปให้พบต้นตอ...

    ในเชื้อพระวงศ์ ผมคิดว่า ก็ยังเป็นมรดกอยู่ เพียงแต่ว่า ไม่ใช่เรื่องที่สามัญชนจะไปรับทราบ เพราะท่านไม่ปรารถนาจะป่าวประกาศบอกให้คนทั่วไปทราบว่า มี ทำนองคนมีดีกลับเงียบเป็นใบ้ คนไม่มี(ของจริง)กลับป่าวประกาศว่ามี มันแหม่งๆนาท่าน...

    แต่ในประเด็นนี้ หากจะตกอยู่กับสามัญชนอย่างกรณีที่วัดไ..... อันนี้ผมเห็นว่ามีความเป็นไปได้สูง เพราะสาเหตุใดนี่ อันนี้ขอเก็บไว้ไม่บอกใคร เป็นเรื่องที่ไม่สมควรบอกจริงๆ รู้กันเฉพาะในวง และบุคคลที่เคยไปมาแล้วจริงๆเท่านั้นเองครับ...
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ไว้ผมจะนำพระกริ่งปวเรศ มาลงให้ชมกันนะครับ
    ไปนั่งชมมาวันนี้ ผมไปธุระที่วัดไ..............มาครับ

    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    สำหรับเจ้าของวัดไ....... ผมไม่กล้าบอกเจ้าของเดิมครับ

    อันตรายทั้งเจ้าของวัดไ..... และผมครับ

    .

    .
     
  16. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    เนื่องจากทางวัดหัวเมือง จ.น่าน พระประธานยังไม่มีพระอัครสาวกซ้ายขวา พระโมคคัลลานะเถรเจ้า-พระสารีบุตรเถรเจ้า พี่ๆน้องๆเพื่อนๆท่านใดต้องการรับเป็นเจ้าภาพสามารถแจ้งความจำนงกับผมได้นะครับ
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    คืนนี้ครับ

    Man.United Vs Arsanal

    ส่งแรงใจไปเชียร์ผีแดงกัน สำหรับแฟนผีแดงครับ

    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ผี"เฮ! เจ๊า "ปืน" 0-0 ครองแชมป์ลีกสมัย 18 สำเร็จ
    Sport - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 พฤษภาคม 2552 20:55 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ป้องกันแชมป์พรีเมียร์ชิป อังกฤษและคว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 18 มาครองได้สำเร็จ หลังเปิดสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เสมอกับ "ปืนโต" อาร์เซนอล 0-0 พร้อมมี 87 คะแนนทิ้งขาดจาก ลิเวอร์พูล ทีมอันดับสองอย่างขาดลอยแน่นอน ในการแข่งนัดรองสุดท้าย เมื่อวันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา

    ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 อาร์เซนอล

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"โรนัลโด" กระชากบอลหนีคู่แข่ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการอีกเพียงแต้มเดียวสำหรับการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ชิป อังกฤษ โดยเกมนี้ไม่สามารถใช้งาน ริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังตัวเก่งเนื่องจากยังเจ็บน่องทำให้ส่ง จอนนี อีแวนส์ ลงมาจับคู่กับ เนมานยา วิดิช ส่วนเกมรุกพร้อมเต็มร้อยมีทั้ง เวย์น รูนีย์, คาร์ลอส เตเบซ และ คริสเตียโน โรนัลโด ส่วน อาร์เซนอล ไม่มีลุ้นอะไรแล้วเล่นแบบสบายๆ เกมนี้ส่ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี เป็นหัวหอกตัวเดียวและมี อังเดร อาร์ชาวิน และ ซามีร์ นาสรี คอยหนุน

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=199 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=199>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"กิ๊กส์" กระโดดหนีการเสียบของ "อาร์ชาวิน"</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เริ่มครึ่งแรก อาร์เซนอล มีโอกาสทำประตูออกนำก่อนในนาที 14 จากจังหวะที่ อาร์ชาวิน ได้บรรจงวางบอลจากมุมเขตโทษเข้ากลาอง กองหลังเจ้าถิ่นประกบไม่ดี ฟาน เพอร์ซี ยืนโหม่งโล่งๆ แต่กลับหลุดเสาออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ อีก 4 นาทีต่อมา "ผีแดง" ตอบโต้กลับบ้าง เมื่อ คาร์ริก ได้วางบอลยาวเข้าเขตโทษเช่นกัน รูนีย์ วิ่งสอดกองหลังมาโหม่ง แต่สะบัดหัวไม่ดีบอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว

    รูปเกมของทั้งสองฝ่ายต่างผลัดกันรุกและรับ มาถึงนาที 24 โรนัลโด ลากบอลลุยขึ้นมา ก่อนถูกทำฟาวล์ล้มลงตรงมุมเขตโทษด้านขวา กรรมการเป่าเป็นลูกฟรีคิก กิ๊กส์ รับหน้าที่สังหารจัดการปั่นด้วยซ้าย บอลเลี้ยวโค้งข้ามคานออกหลังไป

    ช่วงที่ผ่านมีจังหวะลุ้นทำประตูกันไม่มาก แต่เกมมาสนุกในช่วง 5 นาทีสุดท้าย "กันเนอร์ส" ต่อบอลกันขึ้นมาทางริมเส้นด้านขวา ก่อนที่ นาสรี จะวางบอลยาวเข้ากลาง ฟาน เพอร์ซี ลอยตัวโหม่งตรงเส้นเขตโทษ บอลไร้น้ำหนักถูก ฟาน เดอร์ ซาร์ รับสบาย ก่อนที่เจ้าถิ่นสวนกลับมา รูนีย์ กระชากมาถึงหน้าเขตโทษคู่แข่ง ถ่ายบอลต่อให้ กิ๊กส์ หลุดเข้าไปยิงในกรอบ แต่บอลพันแข้งพันขาซัดเหินข้ามคานไป

    ก่อนหมดเวลานาทีเดียว ทีมเยือนเป็นฝ่ายบุกต่อเนื่อง อาร์ชาวิน ได้กระชากเข้าไปเปิดตรงสุดเส้นหลัง บอลย้อนกลับมาเข้าทาง นาสรี ซัดเรียดหน้ากรอบเขตโทษ แต่โชคไม่ดีแฉลบ ฟาน เพอร์ซี จนทิศทางเปลี่ยนไปจนถูกกองหลังสกัดออกมาได้ จากนั้นช่วงทดเจ็บดาวยิงชาวรัสเซียไปทำแฮนด์บอลหน้าเขตโทษตนเองทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นฟรีคิก แต่ โรนัลโด ซัดหลุดเสาออกไปอีก สุดท้ายไม่มีฝ่ายใดทำประตูได้จบ 45 นาทีแรกเสมอกัน 0-0

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=201 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=201>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"รูนีย์" ดวลกับ "ซานญา"</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เริ่มครึ่งหลัง รูปเกมยังเหมือนเดิมที่ทั้งสองฝ่ายผลัดกันทำเกมบุกและรับ โดย อาร์เซนอล พยายามทำเกมด้วยการต่อบอลกันขึ้นมา ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด รอตัดบอลเพื่อสวนกลับเป็นส่วนใหญ่ เกมมาถึงนาที 58 ทีมเยือนต่อบอลกันสวยบริเวณเขตโทษคู่แข่ง ซง เติมเกมขึ้นมาเปิดจากด้านขวา ฟาเบรกาส ลื่นในเขตโทษ แต่บอลยังเลยไปถึง อาร์ชาวิน ไหลต่อให้ กิบบ์ส หลุดเข้าไปยิง แต่หลุดเสาออกไป

    นาทีต่อมา "ผีแดง" ทำเกมเร็วขึ้นมาทางริมเส้นด้านขวาจน เฟลทเชอร์ หลุดมาเปิดเรียดเข้ากลาง เตเบซ เบียดชนะ ตูเร จนเกือบพลิกตัวมาเก็บบอลได้ในเขตโทษ แต่ถูก ฟาเบียนสกี ออกมาใช้เท้าสกัดออกไปได้ บอลไหลมาเข้าทาง โรนัลโด ตามมาอัดซ้ำเต็มๆ แต่เหินออกหลังไปไกล

    มีจังหวะกังขาเกิดขึ้นในนาที 71 เมื่อเจ้าถิ่นเกือบน่าทำประตูออกนำ จากจังหวะ รูนีย์ ทำเกมขึ้นถึงหน้าเขตโทษคู่แข่ง ก่อนจ่ายทะลุช่องให้ โรนัลโด หลุดเดี่ยวไปเปิดถวายพานให้ ปาร์ก จี ซอง ที่เพิ่งถูกเปลี่ยนลงมายิงเข้าไปง่ายๆ แต่ผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้าเสียก่อนทั้งที่ภาพช้าไม่มีการล้ำหน้าแต่อย่างใด

    แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสลุ้นอีกในนาที 78 เมื่อ โรนัลโด ทำเกมขึ้นมาจนถูก ซง ทำฟาวล์ล้มลงได้ลูกฟรีคิกริมเขตโทษด้านซ้าย ปีกชาวโปรตุกีสลุกขึ้นมายิงเอง แต่บอลติดไซด์ก้อยเลี้ยวโค้งออกหลังไป อีก 5 นาทีต่อมา "ปืนโต" เกือบทำแฟนบอลเจ้าถิ่นช็อกเมื่อ ซง ได้บอลตรงหน้าเขตโทษ ก่อนลากลุยขึ้นมา กองหลังสกัดบอลมาเข้าทาง ฟาเบรกาส ได้วางเท้ายิงเต็มแรง บอลพุ่งแรงหมดสิทธิ์ ฟาน เดอร์ ซาร์ ป้องกันทัน แต่บอลพุ่งชนเสาออกหลังไป

    เกมเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ฟาน เพอร์ซี ได้บอลในเขตโทษ ใช้ตัวบังกองหลังเจ้าบ้าน ก่อนพลิกกับมายิงด้วยซ้าย แต่ถูกนายทวารชาวดัตช์ป้องกันไว้ได้ หลังจากนั้นเจ้าถิ่นประคองตัวจนทีมเยือนไม่สามารถทะลวงแผงรับเข้าไปทำประตูได้ทำให้สุดท้ายจบ 90 นาทีทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0 ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มี 87 คะแนนทิ้ง ลิเวอร์พูล ขาดแน่นอนป้องกันแชมป์พรีเมียร์ชิป อังกฤษ และคว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 18 ได้สำเร็จ

    รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
    แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอนนี อีแวนส์, เนมานยา วิดิช, ปาทริซ เอฟรา, จอห์น โอเชีย, ไมเคิล คาร์ริก, ไรอัน กิ๊กส์, ดาร์เรน เฟลทเชอร์, เวย์น รูนีย์, คาร์ลอส เตเบซ, คริสเตียโน โรนัลโด
    อาร์เซนอล : ลูคัส ฟาเบียนสกี, อเล็กซ์ ซง, โคโล ตูเร, เคียแรน กิบบส์, บาการี ซานญา, เดนิลสัน, อบู ดิยาบี, อังเดร อาร์ชาวิน, ซามีร์ นาสรี, โรบิน ฟาน เพอร์ซี
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    เหลืออีกแค่แชมป์เดียว ปีนี้ก็สุดยอดเลยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...