ตอบคำถามเรื่องเด็กอภิญญาอายุ 13 จากกระทู้เรื่องแรงบุญแรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง

พอพูดกันถึงเรื่องนี้ ก็ทำให้คิดย้อนไปสมัยสึนามิเกิดไม่ได้
วันนั้นข่าวทีวีประกาศชื่อคนหาย
หนึ่งในนั้นมีชื่อ "ภัทรา ทิวานนท์ " ดาราสาวรวมอยู่ด้วย
บังเอิญคุณกิ่งกับศิสนิทกันมากเหมือนพี่น้องกันมาช้านาน
วันนั้นก็ตกใจที่ได้ยินชื่อเขาอยู่ในเหตุการณ์
ตอนนั้นน้องยังเล็ก ศิก็บอกน้องว่า
ป้ากิ่งหายตัวไปในสึนามิ ช่วยป้าเขาด้วยนะลูก
น้องรีบวิ่งไปหน้าหิ้งบูชา และพูดว่า
"เสด็จปู่ ป้ากิ่งของหนูจมน้ำหายไปหาไม่เจอ ช่วยป้ากิ่งของหนูด้วยนะคะ"
ศิจำได้แม่นในสิ่งที่เขาพูด
หลังจากเหตุการณ์คลี่คลาย
เจอตัวกันเป็นที่เรียบร้อยในที่สุด
ข่าวที่เธอให้สัมภาษณ์สื่อจะอย่างไรศิไม่ทราบ
แต่สิ่งที่คุณกิ่งพูดกับศิวันที่ศิไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลคือ
เธอเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ก่อนที่จะโดนคลื่นยักษ์ซัดจนบ้านพักจมหายพังไปกับตา รวมทั้งตัวเธอถูกคลื่นยักษ์ซัดดูดจมลงไปอยู่ใต้น้ำ ฝาบ้านพักแตกอัดทับตัวเธอติดอยู่ใต้น้ำ อย่างไม่มีวี่แววจะหลุดออกมาได้
จนวินาทีที่กลั้นหายใจไว้ไม่ได้แล้ว
เธอเล่าว่า คิดว่าไม่รอดแล้ววินาทีนั้น
ระบบการหายใจไม่สามารถทนอยู่ใต้น้ำได้อีกแล้ว
แต่แล้วอยู่ ๆ ก็เหมือนมีท่อนอะไรสักอย่างใหญ่มาก
มากระแทกตัวเธอดันให้ตัวเธอพุ่งขึ้นมาจากใต้น้ำ
ซึ่งเธอก็ไม่แน่ใจว่าคืออะไร เนื่องจากสติเริ่มถดถอยแล้ว
แต่เมื่อขึ้นมาได้ รอดชีวิต
มีชาวต่างชาติสองสามีภรรยาที่รอดมาพร้อมกัน
ต่างระล่ำระลักพูดเป็นภาษาอังกฤษว่า
มีงูยักษ์ตัวมหึมา มาพันรัดตัวเขาใต้น้ำ
แล้วฉุดร่างของเขาทั้งคู่ขึ้นมาให้พุ่งขึ้นมาพ้นน้ำ
เขาพูดแต่คำว่า งูยักษ์ช่วยชีวิตเขา ๆ
นี่คือสิ่งที่คุณกิ่งเล่าให้ศิฟัง
ศิก็ได้แต่ยืนฟัง และแอบยิ้มในใจ
แน่แล้วหนอ มหาเมตตาท่านช่วยคุณกิ่งคนเดียวไม่พอ
ยังช่วยชาวต่างชาติสองสามีภรรยาที่จมน้ำอยู่ใกล้ ๆ กันไว้อีกด้วย
คงยังไม่ถึงคราวดับสิ้น หรือไม่ก็คงสร้างบุญอะไรกันมาไว้
จึงทำให้ท่านเมตตาช่วยให้รอดตายในครั้งนั้นด้วย
หรือไม่ก็ต้องการทำให้คุณกิ่งทราบทางอ้อม
แต่เธอก็ไม่ทราบว่าท่านช่วยเธอไว้
กลายเป็นเรื่องแปลกน่าแปลกใจสำหรับเธอไป

แต่ศิก็ไม่ได้บอกคุณกิ่งนะ ว่าน้องทำอะไรไว้
เพราะเนื่องจากเธอนับถือศาสนาคริสต์
และความเชื่อเรื่องเหล่านี้คงยากเกินไปที่จะเข้าใจ
และศิไม่เคยเล่าเรื่องน้องหรือเรื่องของศิให้เขาฟังมาก่อนด้วย ไม่เคยบอกใคร
อีกทั้งศิคิดเสมอ คนเราทำความดี ไม่จำเป็นต้องให้เขารับรู้หรอก
ความสุขมันอยู่ที่ใจของเรานั่นแหล่ะที่รู้ ก็พอเพียงแล้ว

เหตุการณ์นี้ก็น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้แล้วว่า
" พญานาค ...ใครว่าไม่มีจริง "

เมื่อถึงกาลภัยพิบัติมา ท่านก็เมตตาช่วยคนดีเสมอ
.....สาธุ.....






หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
http://palungjit.org/showthrea...129821&page=31

 

สวัสดีครับ พี่ศิ คุณน้อง และกัลยาณมิตรทุกท่าน


ขอกุศล ผลบุญ ที่ พี่ศิ และคุณน้องได้ทำมาทั้งหมด จงส่งผลหนุนนำ ต่อเนื่อง ให้พี่ศิและคุณน้อง เข้าถึง พระนิพพาน ในเร็วผลัน

พวกเราจะตามไปครับ

ส่วนผมจะตามไปห่างๆครับ (กระโหลกค่อนข้างหนา ปัญญาแจ่มสลัว ครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กิเลสกับผมนี้ เป็นญาติสนิทกันทีเดียวเชียว)

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ ครับ จะนำไปปฏิบัติครับ


บุญรักษาครับ

 

วันนี้ คุณคัดเค้าฝากบุญมาบอกกัลยาณมิตรทุกท่านนะคะ
ว่าขณะนี้ คุณคัดเค้า กำลังไปถือศิล 8 อยู่ที่วัด 3 วัน
ก็ฝากข่าวมาให้ทุกท่านได้ร่วมอนุโมทนาบุญกันให้ถ้วนหน้านะคะ
สาธุค่ะ






หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
http://palungjit.org/showthrea...129821&page=31

 

มีอีเมลล์เข้ามาอยากร่วมกุศลกับน้องในลักษณะนี้มากทีเดียว
ศิขออนุญาติท่านเจ้าของอีเมลล์ที่ส่งเข้ามา
ขอนำข้อความมาลง เพื่อตอบทีเดียวเลยนะคะ
หลายวันก่อนคุณเมย์ ก็อยากร่วมกุศล (อะไรไม่ทราบ555) ทีหนึ่งแล้ว
ศิก็ตอบกลับไปแบบนี้ทุกท่าน วันนี้นำมาลงให้หายแคลงใจ
เพราะน้องเมย์ (ปฏิฯ) น้อยใจบอกว่าพี่ศิใจร้ายใจดำ ไม่ยอมรับสะตางค์ ให้ได้บุญกัน (555 เอ๊า น้องเมย์ อ่านนะจ๊ะ พี่ไม่เลือกที่รักมักที่ชังจ๊า เหมือนกันหมดนะคะ อย่าเพิ่งน้อยใจนะคะ ศิกับน้องรักทุก ๆ ท่านเท่ากันหมดนะคะ )


To: sasiriya6699@hotmail.com
Subject: ขอทำบุญร่วมกุศลเนื่องในวันเกิด 11 พ.ค.
Date: Sun, 3 May 2009 15:27:51 +0700

<style> #yiv1288367364 .ExternalClass .EC_hmmessage P {padding:0px;} #yiv1288367364 .ExternalClass body.EC_hmmessage {font-size:10pt;font-family:Verdana;} </style> กราบเรียน ท่านศศิ (รบกวนเรียกแค่คุณหรือคำเรียกใดก็ได้ก็พอค่ะ คำว่าท่านคงไม่เหมาะนักนะคะ )

เนื่องจาก วันที่ 11 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้
เป็นวันเกิดของดิฉัน และดิฉันมีความศรัทธา"คุณน้อง"
เป็นอย่างมาก ดิฉันมีเจตนาอย่างแรงกล้า ที่จะขอร่วม
กุศลกับผู้ทรงอภิญญา"คุณน้อง"เป็นอย่างยิ่ง เพื่อความ
เป็นสิริมงคลในก้าวต่อไปของชีวิตค่ะ สาธุค่ะ ขอให้คุณพันธ์ทิพ

คิดหวังสิ่งใด ก็ขอให้สำเร็จสมความปรารถนา ชีวิตมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรมนะคะ สุขสันต์วันเกิดค่ะ
ดิฉันขอมอบปัจจัย เป็นเงินร่วมกุศลกับคุณน้อง
เนื่องในโอกาสคล้ายวันเกิด เพื่อประโยชน์สุขต่อบุคคลอื่นๆ
ขอความกรุณาช่วยบอก วิธีการที่ดิฉันจะส่งเงินไปร่วม
บุญกุศลด้วยค่ะ กุศลนั้นพึงเกิดขึ้นแล้ว นับแต่วินาทีแรกที่คุณคิดจะร่วมสร้างกุศลกับน้องด้วยจิตศรัทธาจากเบื้องลึก คงไม่จำเป็นที่ต้องส่งปัจจัยใด ๆ มาแล้วล่ะค่ะ
กุศลนั้นอยู่ที่ไหน เกิดขึ้นที่ใด ที่จิตเราทั้งนั้น โมทนาบุญด้วยนะคะ สาธุค่ะ
ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง เช่นกันค่ะ.....ศศิริยะ

ขอแสดงความเคารพอย่างสูง
พันธ์ทิพ






หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
http://palungjit.org/showthrea...129821&page=31

 

;aa47 ขออนุโมทนากับคุณคัดเค้าด้วยครับ

...เอ้...ไม่แน่ใจว่าใช่วัดที่คิดไว้หรือเปล่าหนอ...-Happy Smile_

 

_heart+love_จริงด้วยค่ะสาธุชนที่รักทุกท่าน
พี่ศิเค้าเคยบอกจินมาแล้ว
แต่ตอนนั้นใจร้ายไม่ยอมบอกว่าน้องเรียนอยู่ชั้นไหน
ตอนนี้รู้กันแล้วค่ะ
(คำนวณกันให้ดีนะคะ)..

เก็บตังค์ไว้ก่อน แล้วมาซื้อที่แถวภาคอีสานก้อด้าย
แต่ว่า...ติดแม่น้ำโขงอย่างจินเนี่ย
จะรอดหรือป่าวหนอ..


วันนี้วันสำคัญมากในพุทธศาสนา

ท่านทำบุญกันหรือยังคะ..

 

เมื่อเร็วๆนี้ได้ฟัง ดร. สนอง วรอุไร ท่านพูดทำนองว่า
ทางที่ดีที่สุดคือ ให้หมั่นสร้างสมบุญบารมี และอธิษฐานจิต
ขอให้ไปเกิดเป็นเทวดาก่อน แล้วค่อยมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง
ในยุคพระศรีอาริย์... เพราะนับจากนี้ไป การเกิดเป็นมนุษย์
ก็ไม่ได้สุขสบายเหมือนเก่าแล้ว

ทุกท่านฟังแล้วเป็นไงคะ

ไม่ได้ต้องการให้ตื่นตระหนกนะคะ
แต่ทุกเสียงจากผู้รู้แจ้งทางธรรม
ก็บอกกล่าวไปในทำนองเดียวกันหมด

ไม่น่าเชื่อว่าเราจะได้สัมผัสกับสิ่งนี้ในช่วงชีวิตของเรา
ที่สำคัญ..อีกไม่ถึง 10 ปี

 

อ่านเรื่องสึนามิ พี่ศศิแล้ว ขนลุกเลยอะ ... ขอนุโมทนากับพี่ศศิกับคุณน้องอีกครั้ง ...

พี่คัดเค้า ไปที่วัดอัมพวันใช่ไหมค่ะ? อนุโมทนาคะ...

 

อยากจะถามพี่ศศิกับคุณน้องว่า...การเตรียมตัวรับมือกับภัยทางธรรมชาติ ต้องทำตามแบบข้างล่างนี้ จริงหรือไม่คะ?


<TABLE class=tborder id=post329976 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_329976 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">ภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

1. เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่
2. พายุถล่ม
3. แผ่นดินแยก และแผ่นดินไหว
4. ภูเขาไฟระเบิด
(จังหวัดทางภาคกลาง 2 ลูก, ภาคเหนือตอนล่าง 3 ลูก, อีกทั้งที่จังหวัดราชบุรี / น่าน / แพร่ / อ.ร้องกวาง )
5. คลื่นยักษ์จากทะเล
6. โรคระบาดที่สุดจะเยียวยา ได้แก่ VIRUSTERIA , อหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่ ผู้ได้รับเชื้อจะเสียชีวิตทันที ภายใน 6 วัน
7. คลื่นเสียงที่รุนแรง ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตจะไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนั้นมาก่อน
8. อดอยากขาดแคลนอาหาร

การเตรียมตัว เตรียมปัจจัยเพื่อตนเองและสมาชิกในครอบครัว

1. เตรียมอาหารและน้ำดื่มไว้ที่บ้านอย่างน้อย 3 - 6 เดือน
2. เครื่องนุ่งห่มเพื่อความอบอุ่นของร่างกาย
ได้แก่เสื้อผ้า กระเป๋าน้ำร้อน ผ้าห่ม ฯลฯ เพราะในช่วงเวลานั้นอากาศจะหนาวเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ
3. เครื่องใช้ที่จำเป็น
4. ที่อยู่อาศัย
5. ยารักษาโรค
6. ด่างทับทิมและคาราไมล์ (จำเป็นมาก)
ห้ามกินอาหารที่ไม่ได้ล้างด้วยด่างทับทิม เพราะจะมีทั้งเชื้อโรคและสารกัมมันตรังสี
ส่วนคาราไมล์ จะมีไว้รักษาโรคทางผิวหนังที่ดูเหมือนจะยากต่อการรักษา แต่เมื่อทาคาราไมล์แล้ว จะหายได้อย่างน่าอัศจรรย์
7. ยานพาหนะ เช่น เรือ เสื้อชูชีพ
8. เครื่องช่วยชีวิต
9. แสงสว่าง เช่นเทียน ตะเกียงพายุ (เวลานั้น ท้องฟ้าจะมืดมิด 7 วัน เท่ากับ 1 ราตรี และจะมืดมิดรวม 7 ราตรี หรือ 49 วัน ไฟฟ้าจะดับทั่วโลก)
10. เตรียมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง

การดูแลตัวเองในช่วงเวลาวิกฤติ

1. ห้ามออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด ใครมาเคาะประตูบ้านก็ห้ามเปิด ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นญาติสนิท หรือคนที่เรารู้จักก็ตาม
2. ห้ามตากฝน เพราะในฝนจะมีพิษ ทั้งเชื้อโรค สารเคมีที่มนุษย์สร้าง
3. ห้ามลุยน้ำหรือแช่น้ำนานๆ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องใช้ด่างทับทิมล้างทุกครั้ง
4. ห้ามเปิดประตูต้อนรับผู้อื่น เพราะช่วงเวลานั้น ประตูมิติของโลกทั้ง 3 ภพจะถูกเปิดเป็นครั้งแรก ผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องผีสาง จิตวิญญาณก็จะได้เห็น คนที่มาเยือน อาจเป็นผีเปรต ผีโขมด ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเราจำแลงมาก็เป็นได้ และห้ามอยากรู้อยากเห็นโดยเด็ดขาด
5. ห้ามกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด
6. ห้ามกินผักที่ยังไม่ได้แช่ด่างทับทิม
7. ฝึกการกินน้อย ถ่ายน้อย
8. ระวังอากาศที่หนาวเย็น
9. ระวังสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษ เช่น งูพิษ จระเข้
10. ห้ามอยู่ตึกสูงเกิน 3 ชั้น เพราะตึกสูงเกิน 3 ชั้น จะพังทลายราบเป็นหน้ากลอง

การเตรียมทางจิตวิญญาณ

1. ชำระกรรมให้เบาบาง ทำได้โดย
1.1 หยุดโลภ โกรธ หลง
1.2 ทำจิตให้สงบ เบิกบาน เพราะวันนั้นจะมีผู้ที่เส้นโลหิตในสมองแตก เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เพราะเสียงที่ดังกึกก้องไปกระตุ้นเส้นเลือดในสมองให้แตก ดังนั้นต้องปล่อยวาง ทำจิตให้เป็นบวก จะช่วยได้มาก
2. มีสำนึกทางจิตวิญญาณ
3. ฝึกการละวาง
4. มีสติรู้ตัวตลอดเวลา
5. ฝึกการทำโมฆกรรม ขออภัยต่อเจ้ากรรมนายเวร หรือผู้ที่เราล่วงละเมิด

การดูแลแก่นแท้ยามมีภัย

1. ได้ยินเสียงใด ให้ละวางเสียงนั้น / รู้เห็นสิ่งใด ให้ละวางสิ่งนั้น
ต้องไม่รับรู้ ไม่รับเห็น ไม่รู้ ไม่ชี้ ไม่ว่าจะได้ยินเสียงคนข้างบ้านร้องเพราะกำลังจะตาย หรือได้ยินเสียงใดที่น่าหวาดกลัว ต้องได้ยินแล้วผ่านเลยไป
ถ้าหากละวางไม่ได้ จะเกิดอาการ “ตายก่อนตาย” (รู้ว่าตนเองจะต้องตายแน่ๆ หรือการตายทั้งเป็น)
2. ยอมรับให้ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องมีสติตลอดเวลา
3. อย่าอยู่นิ่งเฉย เพราะจะทำให้เกิดความกลัวมากขึ้น ควรหากิจกรรมทำ เช่น อ่านหนังสือธรรมะ เพื่อให้จิตเป็นบวก เกิดความอิ่มเอิบ
4. สังเกตธรรมชาติก่อนนาทีวิกฤติจะเกิดขึ้น

ก่อนเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ (ระยะ 2 ) จะมีลางบอกเหตุดังนี้

1. ท้องฟ้ามืดมิดผิดปกติ
2. ใบไม้จะพลิกคว่ำพลิกหงายแลดูหดหู่
3. สัตว์ทั้งหลายจะไม่ออกมาปรากฏกายให้เห็น แต่ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านจะแลเห็นมันวิ่งลุกลี้ลุกลนผิดปกติ หรือบางตัวจะนอนนิ่งมีน้ำตาซึม


( คัดลอกมาจาก หนังสือพระโอวาทแห่งองค์จิตจักรวาล ครั้งที่ 17 เรื่องพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ สื่อการถ่ายทอดพระโอวาทโดย อ.ปริญญา ตันสกุล MBA.,M.S. PARINYA TANSAKUL )
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สวัสดีกัลยาณมิตรเรือนพญานาคราชทุกท่านค่ะ
ก่อนอื่น ขออนุโมทนา สาธุ กับ ธรรมดีๆจากคุณศศิ ที่ได้กรุณามาตลอด

และบุญกุศลที่คุณพันธ์ทิพได้ตั้งใจกระทำในวันคล้ายวันเกิด (ขอให้มีความสุขมากๆ คิดหวังสิ่งใดให้ประสบความสมหวังตลอดไปนะค่ะ)

รวมทั้งบุญกุศลที่คุณคัดเค้าได้ไปถือศิล ๘
และอีกบุญมากมายที่สมาชิกบ้านนี้ได้กระทำดีแล้วทุกท่าน สาธุ

วันนี้ได้อ่านข่าวเกี่ยวกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั่วโลกเช่น
๑ กรณีหวัดใหญ่ที่เป็นภัยเงียบ ซึ่งทางองค์การอนามัยโลกได้คาดว่าผู้ติดเชื้ออาจพุ่งถึง ๒๐๐๐ ล้านคน หากหวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ลามไปทั่วโลก
๒ ชาวบราซิลผวางูพิษ และจระเข้ เนื่องจากน้ำท่วมอเมซอน หนักสุดในรอบ ๒๐ปี
๓ ผู้คนนับหมื่นคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน หลังไฟป่ายังคงเผาผลาญพื้นที่ใกล้ชุมชนเมืองซานตา บาร์บารา ในรัฐแคลิฟอร์เนีย

เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นแต่ละวันคงช่วยให้คนได้ตระหนักว่าภัยทุกอย่างสามารถมาถึงเราได้ทุกวินาที อันจะทำให้เราได้สติและหันมาทำความดี มีเมตตา กรุณา ต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์กันมากขึ้น อย่าได้ใช้ชีวิตที่ประมาท


ขออำนาจพุทธ ธรรม สงฆ์ จงบันดาลบุญที่ข้าพเจ้าได้สร้างสมมาตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ หากบุญนี้จะทำให้เกิดประโยชน์และความสุขแก่ข้าพเจ้าเพียงใด ขอบุญนั้นจงส่งผลให้ถึงแก่กัลยาณมิตรในเรือนนี้ ให้ทุกท่านมีความสุขกายสุขใจ เจริญด้วยทรัพย์สมบัติภายนอกและอริยทรัพย์ภายในทั่วกันนะค่ะ

พร้อมทั้งขอพระบารมีของปู่พญานาคราชทุกพระองค์จงคุ้มครองทุกท่านให้ปลอดภัยด้วยค่ะ


ท้ายนี้ขอนำข้อคิดที่พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี มาแป๊ะให้อ่านกันนะค่ะ


พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ “ว.วชิรเมธี” พระนักคิด นักเขียน นักเทศน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไทย ถึงวันวิสาขบูชา ว่าเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพาน ถ้าเรียนรู้เฉพาะเท่านั้นจะกลายเป็นว่าวันนี้เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าล้วนๆ แต่อาตมาอยากจะแนะนำว่าเราสามารถเปลี่ยนวันของพระพุทธเจ้าให้เป็นวันของเราได้ โดยการถอดรหัสจาก 3 เหตุการณ์คือ

“วันประสูติ” มีคติธรรมว่า เจ้าชายสิทธัตถะ ประสูติแล้วทรงดำเนินไป 7 ก้าว แล้วทรงชี้พระดรรชนีขึ้นบนฟ้าเปล่งวาจาประกาศปณิธานในการดำเนินชีวิตว่าเราจะเป็นยอดคนของโลก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายการเกิดใหม่จะไม่มีอีกแล้ว คติดังกล่าวชาวพุทธนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้คือ การที่พระพุทธเจ้าทรงประสบความสำเร็จในชีวิตได้เพราะทรงตั้งปณิธานในการดำเนินชีวิต ดังนั้น มนุษย์ทุกคนถ้าปรารถนาประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิต ต้องตั้งปณิธานในการดำเนินชีวิต ไม่ใช่ปล่อยให้กิเลสพาไปหรืออยู่ไปตามยถาธรรมให้ชีวิตหมดวันต่อวัน หมดไปกับการหายใจทิ้งไปวันๆ

“เราจะต้องเอาอย่างพระพุทธองค์ บอกตัวเองว่าเราเกิดมาชาตินี้จะทำอะไรบ้าง ฟันธงลงไปชัดๆ ชีวิตทั้งชีวิตในชาตินี้ก็จะชัดเจนไม่พร่ามัว แต่ถ้าเราปล่อยชีวิตไปตามยถากรรมจนแก่จนเฒ่าจนจะเข้าโลง บางทีไปถามว่าคุณทำอะไรบ้าง ปรากฏว่าความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฏ ถ้าเป็นอย่างนี้ก็น่าเสียดายที่ได้โควตาเกิดมาเป็นคน ฉะนั้น เราต้องบอกตัวเองว่าชีวิตต้องดำเนินไปอย่างมีเป้าหมายที่ชัดเจนเหมือนพระพุทธองค์ ถ้าตั้งเป้าหมายแล้วชีวิตเราจะไม่ใช่กอสวะ ชีวิตเราจะเหมือนเรือพอแล่นออกจากท่าก็มุ่งสู่ฝั่งอย่างมีเป้าหมายที่เป็นรูปธรรม”พระมหาวุฒิชัย กล่าว

พระมหาวุฒิชัย กล่าวอีกว่าวันตรัสรู้ เป็นวันที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้อริยสัจ 4 ประการ สาระสำคัญคือก่อนตรัสรู้พระพุทธองค์เป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่ได้พัฒนาตัวเองจนในที่สุดเข้าถึงสัจจธรรมสูงสุดได้ ดังนั้นเราเป็นมนุษย์เหมือนกัน ก็ต้องบรรลุสัจธรรมให้ได้ เราจึงอย่ามัวแต่ชื่นชมพระพุทธองค์ แต่ต้องบอกตัวเองด้วยว่านอกจากชื่นชมแล้วเราต้องปฏิบัติให้เป็นพุทธะขึ้นมาในตัวด้วย เราทุกคนมีศักยภาพที่จะเป็นพุทธะ คือ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เพราะพระพุทธองค์ทรงทำให้ดูแล้วว่ามนุษย์เช่นพระองค์ทรงทำได้ แล้วทำไมเราจะทำเช่นนั้นบ้างไม่ได้

ส่วนเหตุการณ์เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน พระพุทธองค์ทรงตรัสเตือนชาวพุทธว่า เมื่อพระองค์ได้ล่วงลับไปแล้ว พระธรรมวินัยจะเป็นศาสดาของชาวพุทธ หมายความว่า เราจะต้องไม่ยึดติดถือมั่นในตัวบุคคล แต่เราจะต้องอยู่กับธรรมและวินัยให้ได้ ซึ่งก็คือพระพุทธศาสนา ดังนั้น เมื่อเราเห็นพระประพฤติตนเสื่อมเสีย จะไปบอกว่าพระพุทธศาสนาเสื่อมแล้วไม่ใช่ แต่ที่เสื่อมคือคนที่เข้าในศาสนาต่างหากที่เสื่อม แต่พระธรรมวินัยยังอยู่ และก่อนพระพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานทรงฝากปัจฉิมโอวาทสาระสำคัญว่า สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง เกิดขึ้นมาแล้วก็แตกดับไป เพราะฉะนั้นเธอทั้งหลายจงดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท ดังนั้น ต้องอยู่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะไม่มีใครรู้ว่าพรุ่งนี้ความตายจะมาถึง ถ้าเราคิดอยู่เสมอว่าวันนี้คือวันสุดท้ายของชีวิต เราจะคิดเลือกพูดเลือกทำแต่กิจกรรมที่มีสาระประโยชน์ให้มากที่สุด

“เหล่านี้คือคติธรรมที่เราชาวพุทธจะต้องประยุกต์เอามาใช้ในชีวิตประจำวันให้ได้ ย้ำอีกครั้งว่าเหตุการณ์วันประสูติ เราต้องบอกตัวเองว่าพระพุทธองค์ดำรงชีวิตอย่างมีเป้าหมายฉันใด เราก็ต้องดำรงชีวิตอย่างมีเป้าหมายฉันนั้น เหตุการณ์วันตรัสรู้เราต้องน้อมมาสู่ตัวเองว่าพระพุทธองค์บรรลุตรัสรู้สัจธรรมฉันใด เราก็ต้องมีศักยภาพบรรลุสัจธรรมฉันนั้น เพราะความเป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานไม่ได้ถูกผูกขาดไว้กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่เป็นเรื่องที่เราทุกคนเข้าถึงได้ เหตุการณ์ปรินิพพานให้เราเตือนตัวเองว่า ชีวิตนี้ไม่เที่ยง ต้องดำรงตัวเองด้วยความไม่ประมาท ใครทำได้อย่างนี้คือ เปลี่ยนวันของพระพุทธเจ้าให้เป็นวันของเราได้สำเร็จ” พระมหาวุฒิชัย กล่าว

พระมหาวุฒิชัย กล่าวด้วยถึงการเรียนวิชาพุทธศาสนาของไทยด้วยว่า เป็นการเรียนท่องจำเพื่อสอบซึ่งเป็นความผิดพลาดของการสอนพุทธศาสนาในสถาบันการศึกษา แท้จริงแล้วต้องเรียนพุทธศาสนาเพื่อการเปลี่ยนแปลงชีวิต ให้มีคุณภาพขึ้นมาจึงจะเป็นผลสัมฤทธิ์ที่แท้ของการเรียนพุทธศาสนา.- สำนักข่าวไทย

 

<TABLE class=tborder id=post2088360 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">, 08:33 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #3136 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sasiriya<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2088360", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Oct 2006
ข้อความ: 658
<IF condition="">
</IF>Groans: 0
Groaned at 1 Time in 1 Post
ได้ให้อนุโมทนา: 31
ได้รับอนุโมทนา 4,133 ครั้ง ใน 604 โพส
พลังการให้คะแนน: 110


</TD><TD class=alt1 id=td_post_2088360 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->พอพูดกันถึงเรื่องนี้ ก็ทำให้คิดย้อนไปสมัยสึนามิเกิดไม่ได้
วันนั้นข่าวทีวีประกาศชื่อคนหาย
หนึ่งในนั้นมีชื่อ "ภัทรา ทิวานนท์ " ดาราสาวรวมอยู่ด้วย
บังเอิญคุณกิ่งกับศิสนิทกันมากเหมือนพี่น้องกันมาช้านาน
วันนั้นก็ตกใจที่ได้ยินชื่อเขาอยู่ในเหตุการณ์
ตอนนั้นน้องยังเล็ก ศิก็บอกน้องว่า
ป้ากิ่งหายตัวไปในสึนามิ ช่วยป้าเขาด้วยนะลูก
น้องรีบวิ่งไปหน้าหิ้งบูชา และพูดว่า
"เสด็จปู่ ป้ากิ่งของหนูจมน้ำหายไปหาไม่เจอ ช่วยป้ากิ่งของหนูด้วยนะคะ"
ศิจำได้แม่นในสิ่งที่เขาพูด
หลังจากเหตุการณ์คลี่คลาย
เจอตัวกันเป็นที่เรียบร้อยในที่สุด
ข่าวที่เธอให้สัมภาษณ์สื่อจะอย่างไรศิไม่ทราบ
แต่สิ่งที่คุณกิ่งพูดกับศิวันที่ศิไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลคือ
เธอเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ก่อนที่จะโดนคลื่นยักษ์ซัดจนบ้านพักจมหายพังไปกับตา รวมทั้งตัวเธอถูกคลื่นยักษ์ซัดดูดจมลงไปอยู่ใต้น้ำ ฝาบ้านพักแตกอัดทับตัวเธอติดอยู่ใต้น้ำ อย่างไม่มีวี่แววจะหลุดออกมาได้
จนวินาทีที่กลั้นหายใจไว้ไม่ได้แล้ว
เธอเล่าว่า คิดว่าไม่รอดแล้ววินาทีนั้น
ระบบการหายใจไม่สามารถทนอยู่ใต้น้ำได้อีกแล้ว
แต่แล้วอยู่ ๆ ก็เหมือนมีท่อนอะไรสักอย่างใหญ่มาก
มากระแทกตัวเธอดันให้ตัวเธอพุ่งขึ้นมาจากใต้น้ำ
ซึ่งเธอก็ไม่แน่ใจว่าคืออะไร เนื่องจากสติเริ่มถดถอยแล้ว
แต่เมื่อขึ้นมาได้ รอดชีวิต
มีชาวต่างชาติสองสามีภรรยาที่รอดมาพร้อมกัน
ต่างระล่ำระลักพูดเป็นภาษาอังกฤษว่า
มีงูยักษ์ตัวมหึมา มาพันรัดตัวเขาใต้น้ำ
แล้วฉุดร่างของเขาทั้งคู่ขึ้นมาให้พุ่งขึ้นมาพ้นน้ำ
เขาพูดแต่คำว่า งูยักษ์ช่วยชีวิตเขา ๆ
นี่คือสิ่งที่คุณกิ่งเล่าให้ศิฟัง
ศิก็ได้แต่ยืนฟัง และแอบยิ้มในใจ
แน่แล้วหนอ มหาเมตตาท่านช่วยคุณกิ่งคนเดียวไม่พอ
ยังช่วยชาวต่างชาติสองสามีภรรยาที่จมน้ำอยู่ใกล้ ๆ กันไว้อีกด้วย
คงยังไม่ถึงคราวดับสิ้น หรือไม่ก็คงสร้างบุญอะไรกันมาไว้
จึงทำให้ท่านเมตตาช่วยให้รอดตายในครั้งนั้นด้วย
หรือไม่ก็ต้องการทำให้คุณกิ่งทราบทางอ้อม
แต่เธอก็ไม่ทราบว่าท่านช่วยเธอไว้
กลายเป็นเรื่องแปลกน่าแปลกใจสำหรับเธอไป

แต่ศิก็ไม่ได้บอกคุณกิ่งนะ ว่าน้องทำอะไรไว้
เพราะเนื่องจากเธอนับถือศาสนาคริสต์
และความเชื่อเรื่องเหล่านี้คงยากเกินไปที่จะเข้าใจ
และศิไม่เคยเล่าเรื่องน้องหรือเรื่องของศิให้เขาฟังมาก่อนด้วย ไม่เคยบอกใคร
อีกทั้งศิคิดเสมอ คนเราทำความดี ไม่จำเป็นต้องให้เขารับรู้หรอก
ความสุขมันอยู่ที่ใจของเรานั่นแหล่ะที่รู้ ก็พอเพียงแล้ว

เหตุการณ์นี้ก็น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้แล้วว่า
" พญานาค ...ใครว่าไม่มีจริง "

เมื่อถึงกาลภัยพิบัติมา ท่านก็เมตตาช่วยคนดีเสมอ
.....สาธุ.....
ขออนุโมทนากับพี่ศศิริยะ
ด้วยครับ




</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

;aa49 ทุกท่านหนูจิ๊บแอบไดยินมาว่า พี่กุ๊กแอบเสียใจ....อย่าน้อยใจนะตะเอง...อยากลองกินปลาส้มไหมค่ะ งั้นขอให้ส่งที่อยู่มาหานะค่ะ หนูจิ๊บขอบอกว่าไม่ลำบากหรอกค่ะ;aa21จะจัดส่งไปให้.....โกเม้งค่ะปลาโกเม้งอาจจะช้าหน่อยนะค่ะ.....เพราะช่วงนี้งานเข้า...หนูจิ๊บกับสามี เดินทางไกลต่างจังหวัด......:z8และหนูจิ๊บก็ไปสมัครสอบบรรจุด้วยก็เลยกลายเป็นช่วงยุ่งเหยิงดีค่ะ เดือนนี้ทั้งเดือน เดินทางตลอดเลยค่ะ เหนื่อยมากๆ แต่หนูจิ๊บขอสัญยานะค่ะว่าจะรีบส่ง;aa24ปลาให้ทุกท่านได้กินกันทุกคนนะค่ะ.....B_with_Uช่วงนี้อากาศร้อนมากๆ ดูแลสูขภาพนะค่ะ:z12 พี่ศิ พี่ป้าแน็ต ป้าคัดเค้า โกเม้ง โกชาติ พี่จิน พีเจี๊ยบ พี่เมย์ พี่กุ๊ก พี่ปอนด์ คุณดีดี :z1 รักทุกท่านค่ะ เดียวพรุงนี้หนูกับสามีไปพิษโลกค่ะ เรื่องงานของสามี เค้าชอบหนีบหนูไปด้วย เอาไว้ช่วยดูทางค่ะ มีกันสองคนไม่เหงาดี......saikaew52@msn.com...นะค่ะ

 

อนุโมทนาสาธุจ๊ะหนูจิ๊บ
ไม่ต้องรีบร้อนก็ได้ค๊าบ ทำการงานให้เสร็จเรียบร้อยก่อน สะดวกเมื่อไหร่ก็ค่อยส่งมาก็ได้ ขอบคุณอีกครั้งค๊าบ

 

_/\_สวัสดีค่ะ พี่ศิ

ก็น้องเมย์งกงัยค่ะ อยากได้บุญเยอะ ๆ อ่ะ

กุศลนั้นพึงเกิดขึ้นแล้ว นับแต่วินาทีแรกที่คุณคิดจะร่วมสร้างกุศลกับน้องด้วยจิตศรัทธาจากเบื้องลึก คงไม่จำเป็นที่ต้องส่งปัจจัยใด ๆ มาแล้วล่ะค่ะ

เมย์ก็ได้คำตอบแบบนี้แหละค่ะคุณพันธ์ทิพ หลัง ๆ เมย์เลยใช้วิธีคิดจินตนาการเอา
ไม่เสียอัฐเลย แถมได้บุญแบบไม่มีต้นทุนเป็นที่เพลิดเพลินเจริญใจไป(ฮา...)
โมทนาสาธุกับคุณพันธ์ทิพด้วยค่ะ
แล้วก็โมทนากับคุณพี่ศิและคุณน้องในความเมตตา ที่หลั่งรินมาสู่พวกเราค่ะ
ด้วยรักและเคารพอย่างสูง
เมย์(ปฏิฯ)

 

หวัดดีจ้า หนูจิ๊บ
พี่เมย์ขออวยพรให้หนูสอบบรรจุได้สมดังปราถนานะจ๊ะ สู้ สู้ ^_^

 

มีหนีบกันไปไหนด้วยกัน มีความสุขดีค่ะ อิจฉาตาร้อนแระ

 

ขอบคุณค่ะ พี่เม้ง
ปอนด์กลับมาแล้วค่ะ มีทั้งเรื่องยินดี และ เรื่องเศร้ามาเล่าให้ฟัง
แต่รอเดียวนะค่ะ ขอไปทำธุระส่วนตัวก่อนค่ะ
กลับบมาก็แวะมาบอกที่นี่ก่อน
เดียวกลับมาค่ะ

 

มนุษย์เกิดมาชาติหนึ่ง เกิดมาทำได้2อย่าง คือทำดีกับทำเลว
มนุษย์ปล่อยเวลาผ่านไปโดยไม่ได้ทำอะไรเลย
จึงเรียกว่าเกิดมาขาดทุน=เสียชาติเกิด

 

thaxx​

สวัสดีค่ะ คุณศิ​

ขอขอบพระคุณ ที่กรุณาแจ้งเตือนล่วงหน้า
ขอเหล่ามวลมนุษย์ทั้งหลาย
จงเร่งกันทำความดีเถิด
โปรดละเว้นจากความชั่ว
แล้วท่านจะรอดพ้นจากภัยพิบัติทั้งปวง​

:VO
​