เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ชันนะโรงต่อ

    ก็เป็นการรวมภาษาภาคก็แล้วกันน่ะครับ

    ที่ทราบ ชันนะโนงในภาษาหนึ่งเรียกว่าชันนะสูตร เพราะฉนั้น แมงขี้สูด หรือ ขี้สูต น่าจะใกล้เคียงว่าใช่ ผมเรียกตามแม่มาแต่เด็ก อาจะเรียกผิดมาหลายสิบปี แมงชนิดนี้ ทำรังตรงใต้กระได บ้านผม ตรงรอยไม้แตก ตรงเสาโรงงานเก่าของพ่อผม ทำมาหลายสิบปี ไม่ค่อยเห็นทำรังบนต้นไม้ อาจจะมีแต่ผมไม่เคยเห็น แมงไม่ต่อย แต่กัด เจ็บนิดๆเท่านั้น เมื่อถูกรุกราน เราแค่ค่อยหยิบเขาออกน่ะครับ เพราะปกติ เขาเป็นสัตว์ที่สุภาพมาก

    มาเข้าประเด็น ที่มีกลิ่น เพราะน้ำหวานครับ ถ้าอยู่ในแหล่งสวนเลย เช่น ชาวสวนในแถบจันทบุรี จะเลี้ยงตัวชันนะโรงไว้เลยครับ เหมือนทางเหนือ เลี้ยงผึ้งเหตุผลเพื่อการผสมพันธ์ของผลไม้ เจ้าตัวชันนะโรงก็ได้ประโยชน์หากิน สบายไม่มีคนทำร้าย เมื่อตัวอ่อนแก่ตัวแล้ว เขาย้ายรังตามธรรมชาติ รังที่ทิ้งก็ถูกนำมาขาย ชั่งเป็น น.น.บ้าง แจกฟรีบ้าง ผมประมาณว่าชันนะโรงส่วนนี้แหละที่ถูกเอามาทำเบี้ยสมัยนี้มากที่สุด ชันนะโรงจะหอม ไม่ทราบหวานหรือเปล่า เพราะไม่เคยกิน...แหะๆ เนื้อจะออกฉ่ำๆ ใสๆ เหมือนเทียนขี้ผึ้ง แต่ไปในโทนดำ ผมเคยได้รับการแนะนำจากรุ่นน้องในเว็บนี่เอง และเคยซื้อไปถวาย หลวงพ่ออั้บ หลายครั้ง และครั้งแรกท่านดีใจมาก แม้ผมจะบอกว่าไม่ใช่ใต้ดินน่ะครับ ท่านบอกว่าใช้ได้ ท่านพูดเลยว่าชันนะสูตนี้หายาก บางทีไปได้มาจากลาว หรือ พม่า ( คงเป็นพวกทำรังในโพรงไม้ ) ท่านเลยให้เบี้ยผมมาตัวเป็นการตอบแทน จารให้เสร็จ ผมเอาไปถวายหลายครั้งเพราะชอบท่าน ท่านเป็นคนที่มีเมตตาสูงในส่วนลึกของจิตใจ ส่วนเรื่องวิชาของท่านผมไม่ทราบน่ะครับ ให้ไปถามท่านเจ้ากรมออยหรือลูกศิษย์สายตรง ถ้าสนใจของๆท่าน แต่ตอนนี้ท่านไม่สบายมากครับ อย่าไปกวนท่านจะดีที่สุด ถ้าแค่ไปกราบ พระที่มีเมตตาสูง ไม่น่าจะมีปัญหาครับ

    ชันนะโรงจะแตกต่างกันไป ทั้งสี และ กลิ่น ตามทำเลที่เขาอยู่ จากการเห็นมาหลายแบบ ของหลวงพ่อทรง นำถวายโดยคุณชูชีพ เป็นชันนะโรงใต้ดินแท้ รังตายและอยู่ตามภูเขา เป็นของตามตำราแน่นอน ชัวร์ปึ้ก มีสี และกลิ่นเฉพาะตัว ( ดอกไม้บนภูเขาคงไม่เยอะเหมือนในสวน ) และมีการผสมบางอย่างเมื่อเอามาอุดเบี้ย ไม่อย่างนั้น เมื่ออุดแล้ว ชันนะโรงจะยุบตัวไปตามร่องเบี้ยได้ ต้องมาแก้กันอีก ( อันนี้สำหรับเบี้ยเปลือย ) ให้ชันนะโรงแข็ง และไม่ติดมือ ถ้าไม่ผสม ชันนะโรงจะไม่แข็งตัว

    การที่ใช้ชันนะสูต หรือ ชันนะโรง สาเหตุจากโบราณมาคงยังไม่มีกาว หรือ พวกอีป็อกซี่ ถ้ามีน่าจะใช้ได้น่ะครับ เพราะไม่เห็นหลวงพ่อเน้นเรื่องชันนะโรง แต่เน้นที่ปรอท มากกว่า ส่วนที่เป็นทรายหรือ อุดผง ผมไม่ทราบสูตรครับ เลยวิจารณ์ไม่ได้

    นอกจากนั้น ครูบาอาจารย์รุ่นเก่า ยังใช้ชันยาเรือ เทียนสีผึ้ง ( เทียนอาถรรพย์ ปิดปากผี ) เทียนชัยมาอุดแทนก็มี ผมมีตัวอย่าง และพิจารณาดูเป็นเบี้ยรุ่นเก่า แท้แน่นอน แต่ไม่ทราบอาจารย์ แต่น่าจะเป็นสายอ่างทองแน่นอนครับ เผอิญผมยังไม่คิดเปิด กระทู้เบี้ย งั้นเอาแค่นี้พอเรียกน้ำย่อยก็แล้วกันน่ะครับ

    สรุปได้ว่ากลิ่นมี สีมี ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2009
  2. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    มารายงานผลสอบครับ หลังจากที่ช่วงสอบแขวนเดี่ยวพระนักธรรม ลพ.ทรง ลุยสอบครับ

    ผลปรากฎว่า วิชาที่ตั้งใจนั้นได้เกรด B+ 1 ตัว , B ธรรมดา สองตัว

    ส่วนวิชาที่เกือบตก เพราะมัวประมาทตอนกลางภาค ได้ลุยแขวนเดี่ยวอ่านเฉพาะวิชานี้ รอดหวุดหวิดครับ ได้ D+ ทั้งๆที่ความจริงเต็มที่น่าจะแค่ D ครับ เพราะก่อนสอบคะแนนผมบ๊วยมาก (วิชา Statistic)

    ผมคิดว่าหลวงพ่อท่านช่วยผมแล้วล่ะครับ ไม่งั้นคงบ๊วยกว่านี้แน่ๆ ได้ B มาตั้ง 3 ตัว หุหุ

    สาธุๆ
     
  3. sridoi

    sridoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2006
    โพสต์:
    5,489
    ค่าพลัง:
    +19,352


    คุณพระช่วย
     
  4. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,280
    ค่าพลัง:
    +15,602
    benay_watmon@hotmail.com (เบ็น 083 -6139417)


    สวัสดีครับ ผมขอเป็นนกกระจอก บอกข่าว และประชาสัมพันธ์ แฮ่ๆ ขออนุญาติท่านเจ้าของกระทู้ด้วยครับ ว่าพี่ๆที่มีประสบการณ์ เกี่ยวกับพระเครื่องแบบต่างๆของหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน ขอให้ท่านนำมาเล่าสู่กันฟังนะครับเพื่อเผยแพร่บารมีท่าน เพราะว่าพี่ๆหลายๆท่านมีประสบการณ์มากมาย ทั้งที่ไม่ยอมบอกและบอกแบบกั๊กๆ แฮ่ๆ ที่ว่าประสบการณืบอกแบบกั๊กนี่เพราะกลัวของจะหายากและกลัวว่าจะแพงไปกว่านี้ละมั้งแฮ่ๆ เลยรู้กันแต่ภายในหรือเฉพาะคนๆไป ไม่ยอมกระจายออก บางท่านที่มาอ่านไหม่เลยไม่ค่อยทราบมากเท่าที่ควรจะเป็น อิอิ (อีกเยอะครับเรื่องประสบการณ์นี่) เอ้ามาช่วยกันกระจายหน่อย [​IMG]
     
  5. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ขอแสดงความยินดีด้วยครับ นึกถึงพระ พระท่านก็นึกถึงครับ

    ตอนดึกๆ ว่างจะเอารูป มีดสวยๆของแฟน ในเว็บท่านหนึ่งมาโชว์ พร้อม ตะกรุดมหาจักรโค้ดชัด ท่านนี้มีมีดจากมือหลวงพ่อ สามเล่ม ( ไม่ธรรมดา ) ติดตัวอยู่
     
  6. ซักวันจะคิดออก

    ซักวันจะคิดออก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,556
    ค่าพลัง:
    +6,330
    พยายามต่อไปครับ ครั้งนี้หลวงพ่อช่วยแล้ว ครั้งหน้าต้องเพิ่มตัวเองเข้าไปด้วย จะได้มากกว่า D

    ปล. Stat ไม่ยากหรอกครับ แต่โคตรยากเลย 555
     
  7. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ตอนผมเรียน stat น่ะ ลุ้น D น่ะครับ
     
  8. cc5922

    cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
     
  9. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    มีด.jpg GetAttachment.jpg มีด หมอ หลวงพ่อทรง.jpg

    มีดด้ามงา ฝักงา หลวงพ่อทรง

    รายละเอียดต้องกลับไปย้อนอ่านดูน่ะครับ มีดด้ามงานี้ ทำมาสองครั้ง มีจำนวนแค่หลักสิบเพราะทำยาก ทำโดยช่างมีด ที่เก่งที่สุดที่พยุหะ ในปัจจุบัน ขึ้นใบมีด และตีมีดด้วยฆ้อนและมือ ไม่ใช่ตัดรูปมีดแล้วเอาหินเจียรเอา แกะลายด้วยการตอกด้วยเครื่องมือที่ละตัว เป็น hand made ทุกเล่ม ทำทีล่ะเล่ม แต่ละเล่ม สลับใส่ฝักกันได้เหมือนช่างรุ่นเก่า ถ้าความยาวใบมีดยาวเท่ากัน ตีมาพร้อมกัน ดูนานๆไม่เบื่อ ละเมียดละมัยเป็นอย่างยิ่ง

    ที่โชว์เป็นของแฟนในเว็บท่านหนึ่ง ที่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อตัวจริง ท่านหนึ่งที่ไม่ได้ออกมาเขียนอะไร จะโชว์เองก็อาย ผมเลยขอรูปมาโชว์ซ่ะ

    ท่านผู้นี้มีมีด สามเล่ม เป็นแบบด้ามไม้ฝักไม้พยุงอีกหนึ่งเล่ม จัดว่ามีของดีที่สุดของหลวงพ่อถึงสามชิ้น และแอบซุ่มอยู่ ด้วยมีของหลวงพ่อหลายชิ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2009
  10. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ตะกรุดมหาจักร.jpg โค้ด ท ไม่มีหัว.jpg
    ตะกรุดมหาจักร

    สุดยอดเครื่องรางของหลวงพ่อทรงอีกชิ้นหนึ่ง คือตะกรุดมหาจักรน่ะครับ ไม่มีอะไรบรรยาย เพราะเล่าไปหลายครั้ง จึงเล่าด้วยภาพ ตะกรุดนี้นอกจากมีสรรพคุณทางคุ้มครองอันตรายแล้ว ยังมีสรรพคุณในทางหนุนดวงชะตาของท่านผู้ที่ครอบครองและบูชาอยู่เป็นประจำ

    ท่านผู้เป็นเจ้าของ ถ่ายรูปโค้ด ท ไม่มีหัวมาให้ดูด้วย ของแท้เป็นแบบนี้น่ะครับ
     
  11. cc5922

    cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
     
  12. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    ผมลุ้น D เหมือนกันครับ

    Stat ผมไม่ธรรมดานะครับ Stat ภาษาอังกฤษ ครับ

    ภาษาไทยยังไม่รู้เรื่องเลยครับ นี่ล่ออังกฤษแต่รอดแล้วด้วยบารมีหลวงพ่อ ^^'
     
  13. BaByUltraMan

    BaByUltraMan เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,919
    ค่าพลัง:
    +4,647
    แฮะๆผมเรียนไปแล้วครับ เทอมที่แล้ว Stat ได้ B มา

    ส่วนเทอมนี้ เกรดออกมาแล้ว 3 วิชา วิชา เศรษฐศาสตร์วิศวกรรม เชื่อหรือเปล่าครับว่า ผมมีคะแนนเก็บอยู่ 7 คะแนนจาก 40 คะแนน เลยตัดสินใจไม่ Drop สู้ Final 60 คะแนนผลปรากฏว่า Final ผมได้ 60 เต็ม ครับ เหอะๆ ได้เกรด C+ มา

    ส่วนอีกสองวิชา ได้ต่ำกว่าที่คาดเพราะ ทำได้ ได้มาแค่ B กับ B แต่ผมขอหลวงพ่อไว้วิชาเศรษฐศาสตร์ครับเลยสงสัยหลวงพ่อเลยช่วยแค่นั้น

    ิอิอิ กราบหลวงพ่อครับผม
     
  14. dekbanmi

    dekbanmi สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    พิธีพระราชทานเพลิงหลวงพ่อ มีวันไหนครับ
    ขอบคุณครับ
     
  15. moo noi

    moo noi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    6,328
    ค่าพลัง:
    +23,902
    http://www.suankhlang.com/ipb//index.php?showtopic=300

    วันที่ 18 เมษายน2552
    - เคลื่อนศพไปยังศาลาการเปรียญ
    - สวดพระอภิธรรม
    - กลางคืนมีลิเก ขวัญใจมาลัยนาค

    วันที่ 19 เมษายน 2552
    - ถวายภัตตาหารเพล และมาติกาบังสุกุล
    - แสดงพระธรรมเทศนา
    - พระราชทางเพลิงศพ
    - กลางคืนมีลิเกคณะ ไชยยา มิตรชัย (ลูกศิษย์หลวงพ่อ)
    by benay
     
  16. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ผมฟังมาว่า คุณไชยา จะแถม คอนเสิร์ตมาให้ด้วย อาจจะชุดเล็ก
     
  17. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    โฮ ท่านใดได้ไปงานพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อ ช่วยเก็บภาพมาฝากกันด้วยนะครับ
     
  18. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    IMG_0769.JPG IMG_0772.JPG IMG_0774.JPG

    ตะโพนกลึงเนื้อทองแดง

    ช่วงนี้ผมยุ่งๆน่ะครับ สุขภาพชักจะอ่อนๆ ล้าๆไป อากาศก็แย่ เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวเย็นๆ สลับร้อนซ่ะส่วนใหญ่ ตีกอล์ฟที หน้าแทบเกรียม ไหม้แดด โหยมาก ...แหะๆ

    แต่มีคนกรุณาโทรมาคุยเรื่อยๆ หน้าเก่าบ้าง เดิมๆ ขาเก่า ขาประจำ และมีหน้าใหม่ มาถามบ้าง โทรมาอวดของบ้างด้วยความภูมิใจ ว่าซื้อและตุนของหลวงพ่อมาเยอะ ตั้งแต่หลวงพ่อยังไม่ดัง โทรมาขอซื้อของบ้าง ขอแบ่งของบ้าง ...แหะๆ

    ผมยังไม่ได้ตั้งร้านน่ะจ้ะ ที่มีเป็นของส่วนตัวครับ ไม่ได้ขายเพราะเสียดาย หวง และเพื่อระลึกถึงหลวงพ่อ ท่านเสกให้ผมเต็มๆหลายครั้ง กรุณาอย่าขอบูชาเลย ลองหาตามเน็ต ตามสนามพระดูน่ะครับ ราคาไปว่ากันเอง กรุณาอย่าถามมาด้วยเพราะผมก็ไม่ได้ตามราคา และถ้าสงสัย ถ่ายรูปมา ผมพอแน่ะนำได้ จะช่วยครับให้ท่านได้ของหลวงพ่อ แท้ๆไว้บูชา เพราะของท่านดีจริงๆ

    จากอาจารย์ของผมมา พระเดชพระคุณหลวงปู่พระครูบุญศรีแล้ว ก็มีหลวงพ่อนี่แหละที่ผม ยิ่งสัมผัส ยิ่งนับถือ ยิ่งใกล้ ยึ่งทึ่ง เรื่องวิชาหลวงพ่อไม่ต้องมาโม้กัน คนที่มีของหลวงพ่อ แท้ๆ มีประสบการณ์ทุกคน เร็ว ช้า มาก น้อย ไปตามบุญบารมีและความเชื่อมั่นของท่าน และแนวหลวงพ่อจะออกเย็นๆ ไม่ร้อนเหมือนของบางอย่างที่ผมเคยมี

    ขอนอกเรื่องนิด เรื่องของร้อนนี้ มีจริงๆน่ะครับ ในช่วงที่ผมยังหนุ่มๆ ( แหะๆ ...นานมาแล้ว หน่อยๆ ) ตอนนั้น รับราชการ ประจำอยู่ที่บ่อน้ำมันฝาง ประมาณ พ.ศ. ๒๕๒x กว่าๆ ใกล้ๆกับที่ ท่านส้มฟักอยู่ ก็ไม่ใกล้มาก แต่ อำเภอเดียวกัน เรื่องเครื่องรางของขลังนี้ชอบมานาน ดั้นด้นเสาะหาไปเรื่อยๆ แต่ชอบของแบบ รับกันเห็นๆ จะๆตา ไม่ค่อยชอบของเก่ามากๆเช่น ของกรุ

    สาเหตุเพราะ

    หนึ่ง...แพง

    สอง...ขโมยขุดมาทั้งนั้น และเป็นความเชื่อส่วนตัวน่ะครับ ไม่ได้ให้ท่านเชื่อตาม และ

    สาม...ชอบของฟรีครับ... อิอิ

    พอดีมีรุ่นพี่อยู่คน ท่านยศสูงกว่าเยอะ เป็นผู้ใหญ่กว่ามาก เป็นรุ่นพี่ จุฬาด้วยแต่คนล่ะคณะ เผอิญ รสนิยมคล้ายๆกัน และท่านชอบน้ำเปลี่ยนนิสัยเหมือนๆกัน ตกเย็น กรึ้บกันประจำ ตอนหนุ่มๆ ผมทานเหล้า รัม เบียร์ ไวน์ กระแช่ เหล้าเถื่อน เหล้าขาว เยอะมาก เยอะตั้งแต่ตอนเรียน กินทุกชนิด กินตั้งแต่เมืองไทย จนไปเรียนต่อต่างประเทศ จนกลับมารับราชการ ดื่มมาหลายสิบปี ถ้าเอาขวด เอากระป๋อง มาวางต่อๆกัน น่าจะยาวเป็นกิโลกับเขาเหมือนๆกัน ยิ่งตอนใช้ชีวิตในเครื่องแบบ อยู่ภูธร ไกลปืนเที่ยง แบบอำเภอฝางแล้ว ม ต ล ว ถ้าว่างๆน่ะครับ เพื่อนๆผมรู้ดี เข้าวัดยังไม่สางเมาดีก็มีหลายครั้ง ...แหะๆ

    พี่ผู้นี้เป็นนักกฎหมายที่เก่งกาจ ตีประเด็นทะลุปรุโปร่ง และผมนับถือมากที่สุดคนหนึ่ง ท่านคอยแนะนำชีวิตวัยหนุ่มผมหลายอย่างไม่ให้จมไปในปลัก อบายมากนัก ท่านเป็นคนเมืองสิงห์ พอว่าง ท่านก็ยกพระท่านมาส่องกัน ท่านมีของดีๆ เก่าๆ ใหม่ๆ แรงๆ แพงๆ นิยมๆ หลายชิ้น แต่มีชิ้นหนึ่งสะดุดตามาก และจากชิ้นนั้นมา ผมยังไม่เห็นชิ้นที่สองอีกเลย ถ้าเจอซื้อเข้าแน่นอน

    ของชิ้นนั้นเป็นสิงห์หล่อครับ เนื้อสัมฤทธิ์ ขึ้นเขียวปี๋ทีเดียว แท้ตาเปล่า ไม่ต้องส่องกล้อง คุณพ่อของพี่คนนี้ท่านเป็นกรรมการวัดที่เมืองสิงห์ ผมลืมชื่อวัดเพราะนานจัดมาก มีเจดีย์เก่า จะพังมิพังแหล่ เขาเลย บูรณะ และขุดของเก่าออกเพื่อฝังใหม่ ในนั้นมีของหลายอย่าง แต่อย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ ไหหรือโถใบหนึ่ง มีฝาปิด เก่างั้ก ประเมิณว่ากรุนี้อายุหลายร้อยปี ในไหนั้นมีสิงห์หล่อสัมฤทธิ์ขนาดประมาณ นิ้วหนึ่งอยู่ ขนาดกำลังดี ประมาณห้าร้อยตัว เป็นรูปสิงห์ลอยตัว สัมฤทธิ์ออกเขียวปี๋ แต่มีตัวหนึ่งพิเศษ วางที่ฝาไห ตัวนี้ไม่หล่อลอยตัว แต่เป็นสิงห์ยืนยกขา ในท่าคำราม มีฉากอยู่ในใบเสมา ศิลปะยอดเยี่ยม ช่างชั้นครู ประเมิณว่าเป็นตัวยอด ตัวจ่าฝูงอะไรประเภทนั้น เพราะเจตนาวางบนฝาเพื่อคุมลูกฝูงในไห

    ทางวัดเลยตกลงเอาสิงห์นี้ออกทำบุญ พร้อมทั้งพระในกรุ สิงห์ชุดนี้ เจตนาทำมาเพื่อศึกสงครามหรือแนวบู้ๆแน่อน ตามชื่อสิงห์บุรี ไม่มีใครรู้ว่าเก่าเท่าไหร่ แต่เก่าแน่อนและไม่มีใครสนใจจะสืบประวัติ เพราะไม่รู้จะสืบอย่างไร

    คุณพ่อท่านอาศัยเป็นกรรมการใหญ่ และคงมีเส้น ในฐานะคนเปิดกรุ เลยบูชาตัวจ่าฝูงมา สิงห์ตัวนี้ ก่อนมาถึงที่ผมจะเห็นและสัมผัส มีประวัติโชกโชนมาก แนวร้อนแรง บู้ๆ เรียกว่าจากรุ่นพ่อจนมาถึงรุ่นลูก ผ่านมาหลายงาน รับรองผล เลี่ยมปลาสติกมาเสร็จ เก่างั้ก ห้อยได้ทันที

    ผมเห็นแล้วเข้าตามาก พยายามจะไถพี่แก ที่จริงแกไม่หวงเพราะไม่ชอบของร้อน แต่เพราะเป็นของเก่าของพ่อเลยจะเก็บไว้นึกถึงพ่อ แต่พอผมตื้อมากๆ พี่ท่านเลยบอกเอาไปลองใช้ก่อน แต่เตือนไว้ว่า จะมีเรื่อง เพราะมีประวัติเป็นแบบนี้ มาหลายคน หลายครั้งจนเป็นที่แน่ใจ ว่าแน่นอน

    แต่ผมไม่สนใจ ที่ว่าแบบนั้นเพราะผมคิดเอาเองว่าเป็นคนสติดีพอสมควร ไม่ชอบมีเรื่อง เรื่องที่มี จะเป็นคนอื่นมีทั้งสิ้นตั้งแต่รุ่นๆ ผมนี่เองที่จะเป็นคนห้าม คนพยายามยุติเรื่อง เป็นคนพาไปโรงพยาบาล พาไปส่งบ้าน หรือ ไปประกันตัวที่โรงพัก เรื่องแบบนี้บางทีลูกน้องผมมีประจำ มาปลุกผมที่บ้านให้ไปประกันตัวให้ จนบางทีเซ็งๆ ผมจะเป็นแบบกินเหล้าเฮฮา คาราโอเกะมากกว่า ...แหะๆ

    พี่ท่านเลยให้ผมมาลองใส่ดูก่อน ถ้าชอบค่อยมาว่ากัน ผมเลยเอามาห้อยในสร้อย รวมกับพระท่านพ่อลี (ผมได้มากับมือท่าน ) หลวงพ่อฤาษี ( ได้มากับมือเหมือนกัน ) ตอนนั้นยังไม่ได้หลวงพ่อวัดปากน้ำ พระพวกนี้ที่ผมติดตัว ( ทั้งปลัดหลวงพ่ออี๋ของพ่อ พ่อผมเป้นลูกศิษย์หลวงพ่ออี๋ โตที่วัด กินข้าวเหลือในบาตรท่านมา และ ตะกรุดโทนหลวงพ่อเดิม ของเก่าของยาย ยายผมคนคอนหวัน ) ผมมีประสบการณ์มาอย่างมั่นใจมาก หลายครั้ง ถ้าสนใจจะเล่าให้ฟัง

    เหตุการณ์อีกไม่นาน ผมจะเล่าแบบรวบลัด หลังจากนั้นไม่กี่วัน เขาจัดงานดนตรี กินเหล้า เฮฮากัน ตามแนวชีวิตบ้านนอกแบบภูธร มีรำวง มีดิ้นบนฟลอร์ในสโมสร เป็นงานใหญ่มาก เพราะจุดที่ผมทำงานเป็นรอยต่อของหลายหมู่บ้าน คนเพียบ ผมน่ะไม่พลาดอยู่แล้ว ทั้งเมาทั้งดิ้น ทั้งรำวง เฮฮาไปตามคนหนุ่ม ไม่คิดมาก สนุกไปวันๆ

    มันมามีเรื่องที่ตอนเต้นรำ ผมจำไม่ได้ว่า ผมไปโค้งลูกน้องผมเอง ( เสมียนที่ บ.ก. ) เด็กสาวๆหน้าตาดี โสด มาเต้น หรือลูกน้องคนนี้มันมาชวนผมไปเต้นเอง ผมเมาๆจำไม่ได้ ...แหะๆ มีความเป็นไปได้ว่าผู้หญิงมาชวนไปดิ้น เพราะตอนนั้นผมยังโสด เป็นหมวดหนุ่ม ที่จริงก็ไม่ได้หล่อเหลาอะไรหรอกครับ แต่โสดและมียศซ่ะมากกว่า เขาคงเห็นมีอนาคตและถ้าไม่เมาผมจะบ้าทำงานมากจนคนรู้ดี เพราะผมพอได้สองขั้นประจำ เจ้านายท่านเมตตา

    ผมก็เลยออกไปเต้นกับเขา ไม่ได้มีอะไรมากจริงๆ อาจจะมีถูกเนื้อต้องตัวบ้างเพราะคนมันแน่นฟลอร์ แต่เพราะ ยังไงผมก็เป็นสัญญาบัตร ไม่รุงรังแน่นอน มีฟอร์มและไม่มีนิสัยชีกอใคร อันนี้เป็นความสัตย์จริง

    แต่เรื่องมันมาหาครับ...พอเต้นเสร็จต่างก็แยกวงไป กินเหล้าต่อ โต้ะใครโต้ะมัน และลืมไปแล้วด้วย เผอิญผู้หญิงคนนี้ เธอมีแฟนครับ เป็นข้าราชการคนล่ะหน่วยและ ตอนนั้นเขาเป็นพลเรีอน เขาคงจะขวางตาเป็นอย่างยิ่ง และคงจะหมั่นใส้ผมแบบเต็มๆ

    เขาเลยเดิมมาที่โต้ะผม แล้วบอกว่าคุณเต้นรำกับแฟนผม

    ผมมองเขาตอนแรกงงๆ ก็ถามว่า ยังไงล่ะ ไม่นึกว่าจะมีเรื่องและ นึกว่าแค่คนเมาคุยกัน ( ยังเมาไม่มากน่ะครับ แค่เริ่มๆ ยุคนั้นคอแข็ง )

    เขาบอกชัดเลย ผมไม่พอใจ คุณมาเต้นรำกับแฟนผม

    ผมอึ้ง... ไม่รู้จริงๆ ที่โต้ะผมก็มีเพื่อน พี่และลูกน้องหลานคน คนก็ฮือลุกขึ้น ผมนึกในใจว่างานเข้าอีกแล้ว

    ผมเลยถามว่า แล้วคุณจะเอาอย่างไร

    เขาบอกชัดเจนเลยว่า จะเอาอย่างไรก็ได้

    ผมชักจะของขึ้นเหมือนกัน ( ปกติไม่น่ะครับ ) เลยบอกว่างั้นลงไปข้างล่างที่ ลานจอดรถ

    ตกลงเราเดินลงมาข้างล่าง ว่างและคนเงียบหน่อย มีคนเดินตามมาหลายคนทั้ง เพื่อนๆ รุ่นพี่ของผม ลูกน้องและพวกเขา และเด็กผู้หญิงที่เป็นแฟนเขา ( ลูกน้องผมเอง )

    พอมาข้างล่าง ประจันหน้าแล้ว ผมก็อยากไกล่เกลี่ย เลยถามเขาอีกทีว่าจะเอาอย่างไร

    ท่าทางเขาตอนนั้น ยียวนกวน .... เป็นอย่างยิ่ง ตอบมาแบบเดิมว่า เอาอย่างไรก็ได้

    ผมก็ชักจะของขึ้น ตัวร้อนไปหมด ผมเลยบอกเขาว่างั้นชักออกมา ตอนนั้นผมลูกบ้าชักขึ้นแล้ว

    ที่บอกว่าชักน่ะ...ปืนครับ ที่เมืองฝาง ยุคนั้น พ.ศ.นั้น พกปืนทุกคนครับ พกลูกแตกก็มี ไม่พูดมากล่ะ ผมก็มีกระบอกหนึ่ง สมิธ เอ็ม ๖๐ เพื่อป้องกันตัวพกไปทุกที่ พกซองแขวนชายโครง หรือพกเอวตุง จนฉี่เหลือง พกเป็นปีๆ ยิงแต่ถังสองร้อยลิตร กับยิงเป้า ไม่เคยยิงคนครับ...แหะๆ

    เขาชะงักไปนิด แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว เขาบอกว่า อย่าเอาถึงตายเลย

    ผมเลยปลดปืนผมออกมาก่อน เพื่อเปิดทาง มีแผนในใจตอนนั้น ส่งไปให้รุ่นพี่ที่มายืนอยู่ข้างๆ แต่ตามองเขาไม่วาง ( อันนี้รุ่นพี่สอนมา )

    เขาก็ปลดปืนส่งไปให้แฟนเขา

    พอปืนพ้นมือเขา ส่งไปให้เด็กผู้หญิงตัวต้นเหตุคนนั้น ผมรอจังหวะอยู่พอดี และเขายังไม่คิดและทันตั้งตัว ผมชกขวาเข้าที่คางเข้าเต็มที่ ทิ้งทั้งไหล่ ต่อยแบบเต็มกำปั้นน่ะครับ ยุคนั้นผมหนุ่ม และทำงานของหนักอยู่ แท่นเจาะน้ำมันน่ะครับ แข็งแรงพอสมควร และวิ่งขึ้นเขาหลัง บอ กอ ไปกลับได้ สองรอบ แบบวิ่งประจำ เพราะว่าก่ะจะขอนายไปฝึกโดดร่ม ( อันนี้รุ่นพี่สอนมาเหมือนกัน สมัยเรียนจุฬา ผมมีประธานเชียร์จอมบู้อยู่คน แกจะเป็นตัวต่อยกับ คณะอื่น ตัวแกเล่นบาร์คู่ ท่าบาร์ทะเลที่ทหารเรือเขาเล่น ท่าโหนแขนเหวี่ยงขาวันล่ะสองร้อยครั้ง แขนแข็งปั๋ง ต่อยจังๆใครโดนหมัดเดียวหลับ แกบอกเลยว่า ถ้าคิดว่าจะมีเรื่องแน่ให้ต่อยก่อนทันทีเพราะจะได้เปรียบ ...แหะ ๆ จริงของแก แต่ไม่อยากให้น้องๆจำไว้น่ะครับ )

    หมัดนี้ได้ผลเกือบร้อย% เขาคนนั้นทรุดฮวบหลายหลังตึงไป เหตุการณ์มันไวน่ะครับ ผมก็นึกว่าเรื่องคงใกล้จบ

    แต่เหตุการณ์ไม่เป็นอย่างนั้นน่ะครับ พอผมต่อยแฟนผู้ชายเขาล้มลง ไอ้น้องผู้หญิงตัวต้นเหตุ คนนั้นคงตกใจและโมโหแทนแฟนเขา แกยืนอยู่ข้างๆ แฟนแก เพราะพึ่งมารับปืนไป มือถือปืนอยู่ ไม่ทันคิดว่าผมจะต่อยก่อน พอแฟนแกทรุด ลงไป แกโดดเข้ามาขวางแล้วเอา ปืนในมือฟาดหัวผมเต็มแรง ปืนนั้น เป็นปืนลูกโม่ เข้าใจว่า .๓๘ ลำกล้องยาว เหล็กทั้งดุ้นน่ะครับ

    ผมโดนปืนตี เข้าที่ศรีษะอย่างจังแบบไม่ทันปิดป้อง ถ้าเป็นตอนปกติ คงทรุดเหมือนกัน และหัวคงแตก แบบเธอคงเอาคืน อะไรประเภทนั้น

    แต่ไม่ทรุดครับ หัวไม่แตก รู้สึกแต่เสียวแปล็บ เห็นดาวขึ้น วิ้บๆ ในขณะเดียวกัน ถ้าคนเล่นของจะรู้สึกได้ ตัวของผม มีความรู้สึกพองขึ้นมา ทั้งแขนและขา หน้าจะหนาเห่อขึ้น แขนและขาเบาขึ้นและรู้สึกมีกำลังมาก และโทสะขึ้นปริ้ดขึ้นมาทันที ด้วยสัญชาติญาน ผมเงื้อหมัดขึ้นจะต่อยกลับ เพราะหนึ่งมันมืดๆ เห็นไม่ชัด แต่พอเห็นว่าเป็นผู้หญิงเลยชงักมือไว้ ถ้าเป็นผู้ชาย ผมคงต่อยสวนแน่นอน

    เมื่อถึงจุดนั้น พวกเขาเลยดึงผู้หญิงออกไป คงกลัวว่าผมจะทำร้าย หรือ เธอคนนั้นอาจจะใช้ปืนยิงผมก็ได้ ด้วยความฉุกละหุก

    ผมกำลังมึนและของขึ้นเป็นอย่างยิ่ง พอมีคนมาดึงตัวผู้หญิงไป ผู้ชายก็โงเงขึ้นมา คงจะเข้ามาช่วยแฟนเขา เนื่องว่าเห็นผมเงื้อหมัดอยู่ แต่เขาคงยังเมาหมัดอยู่มาก เพราะผมต่อยก่อนได้เต็มหมัด ความได้เปรียบจึงเป็นของผม เราก็ชกกัน ฟัดกันไปกองกับพื้น ได้ยินเสียงเเว่วของนายผมว่า ( ซึ่งพอท่านรู้เรื่อง ท่านคงรีบตามลงมา จะห้ามทัพ ) ปล่อยให้เขาชกกันตัวๆ ห้ามรุม ( นายผมเป็นวิศวะเหมืองแร่ จุฬารุ่นเก่า ประเภทใจถึง ประวัติลุยของท่านยาวเหมือนกัน ตอนนี้ท่านเสียชีวิตไปแล้ว )

    พอความได้เปรียบเป็นของผม เพราะเขาคงยังเมาหมัดอยู่ ( ไม่ได้เก่งอะไรหรอกครับ แค่เอาก่อน และมีของดี คือสิงห์ตัวนั้น ถ้าชกกันบนเวทีผมคงเสร็จเขา...แหะๆ ) และของผมขึ้นเต็มที่ ตัวจะพองและเห่อไปหมด จับอะไรมันเบาหวิวไปหมด แทบจะเหาะได้ ผมเลยพลิกมาอยู่ข้างบนได้ พอขึ้นบนได้ ผมเอาซ้ายค้ำคอเขา ดันหัวเขากดติดกับพื้น และ ทิ้งขวาไปจังๆที่ใบหน้าเขาหลายหมัด น่าจะไม่ต่ำกว่า สี่ห้า หมัด แบบระบายความโกรธที่โดนตีหัว จนเขาหยุดไป ตอนนี้แหละ ที่มีคนมีดึงแขนผมทั้งสองข้างให้ลุกแยกออก เพราะท่าทางคู่ต่อสู้ผม เขาพลาดพลั้งแล้ว

    แต่มาถึงจุดนั้นผมไม่หยุดแล้ว และมาเข้าใจดีว่าของขึ้นเป็นอย่างไร ผมสบัดคนที่เข้ามาจับผม ตอนนั้นไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ก่ะจะต่อยแหลก จนมาได้สติที่เจ้านายผม ( ผู้การ เข้าจับผมด้วยและ เรียกชื่อผม ...บอกว่าพอแล้ว พอ ) พอได้สติผมเลยหยุด มองซ้าย มองขวาเห็นเหตุการณ์ ยุติแล้ว ( ที่จริงมีผมคนเดียวนี่แหละ ที่บ้าไปเอง ) ผมเลยยกมือไหว้ เจ้านายผม บอกขอโทษครับ ผมไม่เห็นท่าน จากนั้น ก็มีคนมาดึงผม แยกกันไป

    เล่าแบบรวบรัดไปเลย พอผมตื่นเช้า ปวดตัวไปหมด เสื้อผ้าขาด นาฬิกา ข้อมือ ไซโก้ ออโตเมติก เรือนที่รักมาก รุ่น Sea Lion หายไป เป็นเรือนที่คุณแม่ผมซื้อให้ในราคาห้าร้อยบาท (ผมไม่มีวันลืมของที่แม่ผมให้ด้วยความรัก ) ตอนนั้นเพราะ สอบเข้าจุฬาได้ แม่ท่านเลยซื้อให้ใส่เป็นรางวัล ( ราคาทองบาทล่ะประมาณสี่ร้อย ตอนนั้น ) ผมใช้มาหลายปี ไปมารอบโลก ผมรีบกลับไปหาในที่เกิดเหตุก็หายไปแล้ว

    เนื้อตัวปวดไปหมด มือแขนมีแผล ช้ำๆไปหมด ถลอกๆ แต่ไม่แตก แต่ระบม คงจะต่อยถูกพื้น ลูกรัง แทนที่จะเป็นคนน่ะแหละเพราะมันมืดพอสมควร และมวยวัดซ่ะมากกว่า

    ผมได้สติมานั่งคิด ตอนนั้นอย่างน้อยเราเป็น ลูกพระ สามารถรวบรวมสติ นั่งคิดพิจารณาได้ เราไม่เคยเป็นอย่างนี้นี่หว่า แบบว่าเหล้ามันจะกินเราแล้ว ตอนนั้นเราแค่ยกมือไหว้ขอโทษเขา เหตุการณ์คงจบ

    แล้วเราก็ไม่เคยของขึ้น อะไรคือเหตุ มีอย่างเดียวคือสิงห์ตัวนั้น ดีที่สร้อยเงินยังอยู่ ผมรีบแจ้นเอาสิงห์ไปคืน พี่แก พอเจอหน้า แกทราบเรื่องดีอยู่แล้ว แกยังว่า กูเตือนมึงแล้ว เอาไปใช้น่ะมีเรื่องมาหา เจอมาหลายคนแล้ว

    ผมบอกแกว่า ผมเชื่อพี่แล้ว เอาของพี่คืนไปเถอะครับ...แหะๆ เข็ดจริงๆ

    เหตุการณ์นี่เป็นอุทาหรณ์น่ะครับ เป็นเรื่องไม่ดีจริงๆ แต่ถ้าผมจะมีประสบการณ์ ผมก็มีแบบเจอมาจริงๆ แล้วเอามาเล่า ไม่ใช่ฟังเขาเล่ามา แล้วมาโม้ให้พวกท่านฟัง และอาการของขึ้นนี้ ผมเคยเจอมาตอนรุ่นๆ ตอนไปเจออาจารย์มอญชื่อ อาจารย์วรกันต์ ศรีสมบัติ ที่พระประแดง

    ตอนนั้น เราอาพัดเหล้า คาดปูนกัน เอาใบมีดโกนยินเล็ตกรีดแขนดูไม่เข้าครับ มันลื่นลื่นๆ ดังแกร็กๆ แต่เหนียวเฉพาะหน้าอาจารย์ พอถึงบ้านลองดูได้เลือด นอกจากนั้นยังปลุกพระกัน ของขึ้นเหมือนกัน ยังจำได้ดีว่า ของที่ขึ้นแรง เต้นแบบบ้านจะพังคือ เหรียญสี่เหลี่ยมของหลวงพ่อ พวงวัดหนองกระโดน เหรียญหลักของนครสววรค์เหรียญหนึ่ง

    นอกเรื่องมานาน แต่ของร้อนและของขึ้นนี่มีจริงครับ ยืนยัน ๑๐๐% มีแน่นอน

    แต่ของพระเดชพระคุณ หลวงพ่อทรงไม่เป็นอย่างนั้นน่ะครับ ตรงกันข้ามกับร้อน เย็นสบายๆ เสน่ห์ เมตตา ทำมาค้าขึ้น ขอได้ มีติดตัว ติดใจเย็นใจ หลวงพ่อทรงท่านไม่ค่อยสอนธรรมมะครับ (เหมือนหลวงปู่พระครูบุญศรี ) ตื้อให้เทศก็เอาหน่อยหนึ่งพูดให้ฟังก็ทีเดียวแล้วให้ไปทำเอง ไม่ทำก็ไม่เตือน ไม่ว่า ไม่สอนอีก เฉยลูกเดียว แต่ถ้าให้ช่วยท่านจะช่วยทันที ลีลาท่านมาแนว พระโพธิสัตว์ แนวพระปัจเจกพุทธเจ้าครับ ( ผมไม่ได้ว่าท่านเป็นน่ะครับ ผมมีกิเลสเต็มทุกอย่างไม่สามารถเห็นพระอริยะบุคลได้ ผมแค่ว่าท่านทำตัวแนวนั้น จากที่ศึกษามา ) คือช่วยคนแต่ไม่ค่อยเทศ ไม่ค่อยสอน และไม่ใช่แนว จะเข้าสงบ เข้านิพพาน แต่อยากจะช่วยคนและชอบช่วยคน แม้ท่านจะไม่มีสังขารแล้ว แต่ท่านก็ยังช่วยคนอยู่ จริงๆ ขอให้บอกท่านเท่านั้น

    มาที่ตะโพน ตะโพนนี้ดังเงียบจริงๆ น่าแปลกใจ คนหากันควั้ก ในพื้นที่ ราคาลูกล่ะ สองพันห้าถึงสามพันบาท ไม่มีลด จะเอาหรือไม่เอา ต้องกัดฟันซื้อ และไม่ค่อยมีของน่ะครับ ผมไม่คิดว่าจะติดตลาดขนาดนี้ ถ้ารู้จะทำตุนไว้สักพันใบ รวยไปเลย...แหะๆ

    IMG_0770.JPG IMG_0773.JPG

    รูปที่เห็นเป็นรุ่นแรก ชุดแรก ผมไม่แนะมาก กลัวคนทำปลอม เพราะจะปลอมได้ เพราะทำด้วยมือ ไม่มีแม่พิมพ์ แต่ให้สังเกตุเนื้อทองแดง ของนอก และห่วง การเชื่อมห่วง และที่สำคัญคือ โค้ด ท ไม่มีหัว และ ท หยดน้ำครับ ตัวพระเอกคือ ท ไม่มีหัว ถ้าเจอลักษณะแบบนี้ โค้ดแบบนี้ ไม่พลาดแน่นอนครับ ต้องจำโค้ดให้ได้ครับ

    IMG_0775.JPG IMG_0778.JPG

    ลักษณะห่วง และการเชื่อมห่วง มีทั้งห่วงเล็ก ห่วงใหญ่ ห่วงสแตนเลส ห่วงเงินและห่วงทองแดง ชุดแรกที่ผมทำถวาย ผมไม่ใส่ห่วง เพราะยุ่งยากกะให้คนไปเลี่ยมเอาเอง แต่หลวงพ่อท่านทักหลายที บอก ไม่มีห่วง ไม่มีห่วง

    ผมเลยต้องมีห่วง ใส่ห่วงเข้าไป ...ไม่ทราบท่านเข้าใจความหมายไหมครับ...แหะๆ คิดเอาเองน่ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2009
  19. BaByUltraMan

    BaByUltraMan เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,919
    ค่าพลัง:
    +4,647

    แฮะๆ อ่านมาซะยาวเลย สมัยหนุ่มๆ พี่ P นี้ก็บู้นะเนี่ย อิอิ
     
  20. sridoi

    sridoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2006
    โพสต์:
    5,489
    ค่าพลัง:
    +19,352
    อ่านแล้วของขึ้นตามเลยครับ 555
     

แชร์หน้านี้

Loading...