โลกคือพระเจ้า...รู้หรือไม่...

ขึ้นชื่อว่า ธรรม แล้วดีหมด ไม่ว่ายกมาในสถานการณ์ไหน
แต่ถ้าไม่ใช่ธรรม เช่นการเอาธรรมบางส่วน มาครอบธรรมทั้งหมด นี่ก็ไม่ใช่ธรรม เพราะธรรมจะต้อง เป็นจริงเสมอ
นั่นแหละ ไม่ควรเอ่ย

ตัวเองก็บอกเองว่า มีการกลั่นแกล้ง ซึ่งสรุปคือ พยายามทำนิสัยแบบสตรีคือ แสดงอาการเป็นนัยยะ เพราะอีกฝ่ายมีความเห็นต่างกับตน โดยไม่เอ่ยชื่อ แสดงอาการอ้อมไปอ้อมมา
นั่นแหละ คือ พวกนางอิจฉาในละครช่องเจ็ดเขาทำกัน

นั้นยังเรียกว่า ผุ้มีธรรมหรือ มุสาวาทาที่กล่าว บิดเบือนจากความจริง นี่จะเรียกว่า เป็นคนปฏิบัติธรรมที่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างได้อีกหรือ

 

ก็ว่าไปเรื่อยๆ เถอะครับ

หากขาดการสดับ ไม่เคยไปฟัง cd ก็ไม่รู้ คิดว่าการกล่าวเป็นการตำหนิ

จริงๆ มันเป็นการชี้สภาวะธรรม สมาธิที่ทำด้วยการจงใจ มันแข็ง มันแน่น
มันก็ผิด ติดเป็นอกุศล อันนี้ ใครๆ ที่เคยฟัง เขาก็เห็นว่า มันมีเหตุมีผล

ก็มีแต่คุณนั้นแหละ ที่เอาแต่คิดว่า เขาตำหนิการทำฌาณ ยกไปนู้น

ส่วนเรื่องตำหนิการทำ ฌาณ มันก็มีอีกจังหวะหนึ่ง หากเราพูดถึงระดับ
ธรรมของอนาคามี กิเลสของอนาคามีก็คือ สังโยชน์รูปฌาณ อรูปฌาณ
การแสดงธรรม ถึงตอนนั้นก็ต้องยกเรื่องการทำฌาณ การเข้าอรูปฌาณ
การสอนธรรม มาตำหนิอานาคามี เพื่อให้ละสังโยชน์ ผมว่า ใครๆ เขา
ก็เคยสดับธรรมตรงนี้ทั้งนั้น

ดังนั้น การจะพูดถึงฌาณ ตอนไหนควรติ ตอนไหนควรเร่ง ตอนไหนบอก
ให้หยุด ตอนไหนให้ทำเพิ่ม เขาก็เข้าใจกันทั้งนั้น

มีแต่คุณนั้นแหละ ที่จับนู้นแคะนี่ออกมาเป็นประเด็นไม่เลิก

 

วันนี้ จะแฉ ความทุเรสด้วยการดักคอกิเลส กันให้เห็นไปข้างหนึ่ง
ผมจะแก้ต่างเป็นประเด็นๆ ใครอย่ามาพูดว่า นายขันธ์ ไม่ปล่อยวาง และ รุนแรง
กับ ตัวกิเลสหนาๆ มันก็ต้องแบบนี้แหละ

คนอื่น แก๊งค์ชงชา จะมาร่วมก็ได้นะ ผมให้อีก 10 คน ที่ว่ารู้ธรรม นั่งรู้ดูเฉย ชงชา จิบชา มาพิสูจน์ธรรม
อย่าหุบปากเงียบ อะไรก็ได้
เพราะว่า การที่ ให้อะไรก็ได้ นั้นแหละ การยอมรับกิเลส ถ้าสายพระอาจารย์มั่นแล้ว มันต้องพังกันไปข้างใดข้างหนึ่ง
ตราบใดที่ยังมีชีวิต ไม่มีหรอกที่จะนั่งรู้ดูเฉย มันต้องสู้กันทุกวัน

 

คุณว่า ผมมีมุสาวาทา ไม่ได้ดู

ขอโทษนะครับ ก่อนที่ผมจะกระทำ มุสาวาท ผมเล็งไปแล้วว่าจะต้องเกิด

ดังนั้น หากดูดีๆ ผมจะเกริ่นเอาไว้แต่ตอนต้นๆ ว่าจะทำอะไรบ้าง เพื่อให้
คุณได้ทราบ และให้คุณได้คะเนผลที่จะเกิด เมื่อแจ้งแล้ว คุณไม่ได้ขัด
ก็เท่ากับอนุญาติ ผมจึงกระทำไปเรื่อยๆ พอคุณลืมวกกลับจะมาชี้กิเลส
ผมก็ยกข้อความเก่าที่เกริ่นไว้แล้วมาพูด คุณกลับมาว่าผมว่าวกวน ผมไม่ได้
วกวน ผมดำเนินตามที่เห็น ที่คาดไว้แล้วว่าจะทำ

ถึงตอนนี้แล้ว ก็ยังไม่เข้าใจ ทั้งๆที่แจ้งไปแล้ว ย้ำแล้ว ว่าจะทำอะไร

คุณก็ยังมัวแต่จะมาชี้กิเลสผมอยู่นั่น บอกไปแล้วว่าไม่เกิดประโยชน์ก็เอาแต่
จะทำ อ้างว่าไม่ได้สอน แต่มาแนะนำ อ้างว่าไม่ได้แนะนำ แต่มาออกความเห็น
อ้างว่าไม่ใช่ความเห็น แต่ออกมาด่าจริงๆ อ้างว่าไม่ได้ออกมาด่าจริงๆ แต่สมเพช
ไม่ได้ออกมาสมเพช แต่มายกให้เป็นหญิง ไม่ได้ออกว่าว่าให้เป็นหญิงเพราะจริงๆ
ไม่ได้เป็น ตกลง คนที่พูดจาวนไปมาหนะ ผม หรือ คุณ

 

นายนิวรณ์ ผมตำหนิคุณ ไปยกซีดี มาเป็นโล่ห์ทำไม

จะใครตำหนิ มันก็คนนั้นแหละ คุณอย่าวิ่งไปที่อื่น คุณวิ่งไปที่ใจคุณสิ เอาเมื่อสดๆ ร้อนๆ นี่ว่า คุณตำหนิหรือเปล่า

คุณ อย่าไปเรื่องอื่น เฉไปโน่นอนาคามีทำไม เอาตรงนี้ เรื่องพุทธพจน์นี่ เรื่องที่คุณเอาธรรมบางส่วนมาครอบธรรม พุทธพจน์นี่ว่าจริงหรือไม่

 

คุณก็เอาแต่แสดงกริยาส่อให้เห็นเรื่องการขาดการสดับ

พระท่านก็สอนให้สู้ทุกวัน สู้กันแบบแลกกายถวายชีวิต สอนให้ทำสมาธิในรูป
แบบที่เหมาะแก่บุคคล ผมไม่เห็นพระท่านจะสอนอะไรผิดไปจากพระท่านอื่น
สอนเลย

ก็มีแต่คุณนั้นแหละ ที่ยึดเอาคำว่า ดูจิต เป็นอย่างไรในสายตาตน แล้วก็
เหมาว่า เขาสอน ดูจิต ในแบบที่ตนสร้างภาพเอาไว้เอง ไปว่าพวกเขา

หากฟัง cd เสียหน่อย ก็จะพบว่า เขาก็สอนธรรมะเหมือนพระดีๆทั้งหลาย

แต่ทำไม คุณขันธ์ ถึงตำหนิอยู่หละ

เพราะขาดการสดับ เพราะมุ่งหวังอะไรบางอย่าง

เอาเถอะ ผมว่า ผมทำแบบ คุณ haha แนะนำไว้จะดีกว่า
ส่วนคุณจะไล่ตามตำหนิพวกชงชา หรือ วิธีสอนของหลวงพ่อต่อไป
ก็ตามใจครับ

 

คนที่ตอบอยู่เดี๋ยวนี้ก็ไม่นิ่งเหมือนกัน

 

เห้อ ขออีกนิดละกัน

ถามว่า จะมาสอนผมใช่ไหม พี่ตอบว่าเปล่า มาตอนนี้ บอกว่า ผมตำหนิคุณ

ถามว่า จะมายก cd เป็นโลห์ทำไม ก็บอกไปแล้วว่า นั้นส่วนหน้าที่

ถามว่า ผมเลิกฟังคุณทำไม ก็คุณกล่าวหาครูบาอาจารย์ผมนี่ครับ

 

โอ้ มุสาวาทามาก ผมขอเชิญ ทุกท่านที่ เรียนรู้จากนายเอกวีร์ ก่อนหน้า มาเป็นพยานหน่อยว่า
เขาได้เอ่ยคำว่า สุ้กิเลส เป็นประจำออกมาก่อนหน้านี้ ว่าต้องสุ้แบบแลกกายถวายชีวิต

มาเป็นพยานหน่อยว่า นายเอกวีร์ไม่ได้ น้อมนำ ให้พวกท่านดูเฉยๆ แต่อย่างเดียว
มาเป็นพยานหน่อยว่า เมื่อที่ผมกล่าวให้สู้กับกิเลส แล้วนายเอกวีร์กล่าวว่าเป็นธรรมง่ายๆ ใครๆ ก็ทำกัน

คนใด ที่รู้เห็นกับ โจร หรือ ปิดปากเงียบ ถือว่า ไม่กล้าสู้ความจริง

 

ผมไม่รู้จะเข้าข้างใครนะ
ขอเป็นผู้ดู ไม่ลงมาเล่นด้วยดีกว่า

โต๊ะหมู่บูชาผมก็มีทั้งรูปหลวงปู่มั่น รูปหลวงตามหาบัว หลวงปู่ดูลย์ หลวงพ่อปราโมทย์

 

อนุโมทนา สาธุ ค่ะ (ตั้งใจโมให้ ไม่ได้ลืมตัว นะเจ้าคะ)

 

ถ้าเช่นั้นคงต้องนั่งเฉยๆไม่ต้องทำอะไรเลยถึงเรียกใจสงบเช่นนั้นหรือ

 

อย่ามาเห้อ เอาให้ตรงประเด็น นายเอกวีร์ คุณเถียงกับขจร ขจรเขาก็พูดธรรมของเขา คุณเคยพูดหรือเปล่าว่า จะมาสอนคุณหรือไม่
เพราะฉะนั้น ให้ลืมเรื่องการสอนไปเลย ถึงแม้ว่า ผมจะพูดสอน หรือไม่สอน มันก็ไม่เกี่ยวกับข้อเท็จจริง ที่คุณจะต้องมาถก ในเมื่อ การถกครั้งนี้ เพราะว่า การกระทำของคุณมันไม่ถูกต้อง เราคุยกันประเด็นนั้น ไม่ใช่ สอนหรือไม่สอน

ประเด็นต่อมา คุณบอกว่า คุณยก CD มาเป็นโล่ห์ ให้คุณแล้วคุณบอกว่า มันเป็นหน้าที่คุณ นี่คุณกล่าวถูกหรือ CD เป็นแพะรับบาป เพราะว่า ผมตำหนิคุณว่า คุณยก CD มาเหนือพุทธพจน์ ไม่ใช่ผมตำหนิซีดี และ ผมกล่าวว่า ธรรมในซีดีนั้นไม่ครอบ เป็นเพียงธรรมเฉพาะ เมื่อคุณยก CD มา คุณไม่ควรยกมาครอบธรรมที่ ดีอยุ่แล้ว นั่นคือประเด็น
CD และ พระปราโมทย์ เป็นแพะ ในงานนี้ นายเอกวีร์ ทำทุเรสมาก แล้วคุณจะเศร้าใจ นายเอกวีร์ ที่คุณลุแก่ความหลงของตน

 

การนิ่งเฉย ไม่ทำตามกิเลส ก็ถือเป็นการปฏิบัติภาวนาแบบหนึ่ง
เราไม่เลือกวิธี ที่ต้องเข้าฟาดฟันฟัดกิเลส แต่เราเลือกเรียนรู้กิเลส เพื่อจะได้พ้นจากกิเลส

จะเลือก ทุกขาปฏิปทา หรือ สุขาปฏิปทา ก็อยู่ที่จริตที่เหมาะสมกับตน

 

มาเล่านิทานยามบ่าย....ในถนนสายหนึ่ง...มีรถสามคัน อยู่หน้า อยู่กลาง อยู่หลัง รถสาม

คันนี้ย่อมตามกันไปเป็นสายเดียว ย่อมถึงที่หมาย แต่ข้างทางมีคนที่มาถึงก่อน นันคือ คน

ขายข้าวหลามครับ คนขายข้าวหลามจะมายืนถึงก่อนที่รถจะมา แต่คนขายข้าวหลามคือคน

ขายข้าวหลาม ไม่มีทางถึงที่หมาย เพราะก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเส้นทางที่เค้าจะไปกัน รถสาม

คันนี้เค้าไปไหน ถามทางดูอาจจะรู้แต่คนข้าวหลามก็ไม่ได้ไปด้วย สุดท้ายคนขายข้าวหลาม

จะอยู่แค่ริมทาง วันดีคืนดีก็ยืนเถียงกันเพราะขายตัดราคากันเอง(ของกูซิถูก...กูซิูถูกกว่า)...

รถคันไหนจะจอดซื้อก็ดูร้านให้ดีนะครับ ระวังเจออึ่งอ่างในข้าวหลาม ทางที่ดียึดทางถนน

หลวง(พ่อ)แล้วขับตามคันหน้าไปเถอะ เดี๋ยวถึงแล้วค่อยจอดหาอะไรกินกันนะครับ....จบนิทาน

ยามบ่าย

 

คุณขวัญ การนิ่งเฉย ไม่ทำอะไร เขาเรียกว่า โง่
ก็นอน ภาวนา หลับภาวนา ไปสิ นั่นแหละ ไม่ต้องทำอะไร
เลือกที่จะเรียนรู้กิเลส จะได้พ้นกิเลส ก็คงจะได้แต่กิเลสสุมหัวแหละ ขวัญ มันถึงบรื้ออยู่อย่างนี้ไง

 

อืม...ขอเบอร์หน่อยสิ

 

ค่ะ รับทราบ ว่าการวางเฉยต่อกิเลส คือ โง่ และบรื้อ ค่ะ

 

นี่ พวกที่ว่า ไม่เข้าข้างใคร คุณไม่ต้องเข้าข้าง คุณมองตามความจริงสิ

ตามความจริง รู้จักไหม ระลึกกันหน่อย

แยกให้ออกหน่อยว่า ข้อเท็จจริง กับความกลัว