ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    พรุ่งนี้จะเป็นวันทำบุญประจำเดือนกุมภาพันธ์ของทุนนิธิฯที่มีความพิเศษคือเมื่อทำบุญเสร็จที่โรงพยาบาลสงฆ์จะเดินทางไปกราบทำบุญกับพระที่จังหวัดอยุธยาโดยมีกำหนดการไปกราบหลวงปู่ทิมวัดพระขาว หลวงพ่อลำใยวัดสะแก และวัดอื่นๆอีกตามความเหมาะสมของเส้นทางและเวลา มีหลายท่านไม่ได้ไปด้วยเพราะรถเต็มหรือติดธุระ ผมจึงนำภาพสิ่งของบางส่วนที่จะถวายพระมาให้โมทนากันครับ


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
     
  2. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,096
    วันนี้กระทู้ทุนนิธิฯ ไม่เคลื่อนไหว เพราะเช้าไปทำบุญที่ รพ.สงฆ์ตามแผนงานกิจกรรมประจำเดือน รีบเร่งกันทีเดียว พระ 199 รูป เป๊ะ ทำบุญเสร็จแทบไม่มีเวลาร่ำรากัน เพราะต้องรีบเดินทางไป ธรรมะสัญจรที่ อยุธยา คราวนี้ไปก๊วนใหญ่ เกือบ 40 คน รถตาม 4-5 คัน รถบัสเล็ก 25 ที่นั่งอีก 1 คัน ไปกราบหลวงปู่ทิม วัดพระขาว ทำบุญสังฆทานวัดกษัตริฯ เที่ยววัดหน้าพระเมรุ ทานข้าวเที่ยงที่วัดใหญ่ฯ แล้วไปกราบหลวงพ่อลำใยที่วัดสะแก ได้กราบทั้ง 2 องค์ สุดยอดมากจริงๆ ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์แล้วสำหรับธรรมะสัญจรครั้งแรก ถือว่าเป็นบุญแท้ๆ หรือบุญหลายๆ ยิ่งหลวงพ่อลำใย ตลอดเวลาที่กราบท่าน ถวายพระบรมสารีริกธาตุ ถวายพระพุทธ และถวายสังฆทาน ท่านจะยิ้มตลอด และรับรู้ได้เลยว่าท่าน "ทรงฌาณ" โดยตลอดเช่นกัน สุดท้ายท่านได้มนต์ "พระพรหมสี่หน้า" ที่ผมรีบวิ่งไปบูชาจากตู้วัตถุมงคลในวัด เพื่อมาให้ท่านมนต์ จำนวน 50 องค์ พอส่งให้ท่าน ท่านบอกว่า อ้อ.. พระของหลวงตาดำ มนต์เสร็จผมแจกให้คนละองค์ ให้น้องตาดี ตรวจดูในวัดสะแกนี่ล่ะ ตรวจหลังจากมนต์เสร็จหมาดๆ เลยทีเดียว น้องบอกตรวจแล้วรับรู้ได้เลยว่าจิตท่านไวมากค่ะ ปึบ..ปึบ..ฟิ้ว..หายเลย ตามไม่ทัน (ตอนท่านมนต์เสร็จ ใช้เวลาราว 1 นาทีเท่านั้น แถมตอนส่งพระให้ ท่านรวบมือผม แถมเป่าศรีษะให้อีกที ผมถามท่านว่า พระพรหมสี่หน้านี่ดีทางไหนครับ ท่านบอกว่า ก็หมายถึงพรหมวิหาร (เมตตา) นำ น๊ะสิ แล้วท่านก็ยิ้ม ก่อนลากลับท่านส่งยิ้มมาแล้วพูดว่า ปีนี้อาตมา อายุ 78 แล้ว ทีนี้ผมก็เลยงงว่า เอ..ท่านกำลังบอกอะไรผมรึเปล่า เพราะตอนนั้น ผมอยู่กับท่าน เพียง ลำพังเท่านั้นและผมก็ไม่ได้เอ่ยถามอายุท่าน ก็ถือว่ามาเล่าสู่กันฟังก็แล้วกันแล้วแต่วิจารณญาณ อ้อ..มีอีกประโยคหนึ่งที่ผมถามท่านในฐานะที่ท่านต้องฟอกไต ในขณะนี้ ผมถามท่านว่า หลวงตาครับ บุญอะไรที่ทำแล้วส่งผลเร็วที่สุดและดีที่สุดครับ ท่านมองหน้ายิ้มๆ บอกทันที บุญช่วยสงฆ์อาพาธ เพราะช่วยพระป่วยให้หายหรือทุเลาป่วย อานิสงค์จะเร็วและตรงกว่าบุญส่วนอื่นที่ต้องรอเวลากลับมาเสวยบุญ เราก็เลยสบายใจ ว่าเราทำแล้ว ตรงแล้ว ตามคำกล่าวของท่านนั่นเอง) ส่วนของท่านหลวงปู่ทิมนั้น ท่านเมตตามากจริงๆ ทุกคนในคณะที่ไป กะว่าจะไม่ได้พบท่านแล้ว เพราะพวกที่มาก่อนหน้าเรา นั่งรอกันมาตั้งนานแล้ว แต่พอนั่งรอชั่วอึดใจเดียว ลูกศิษย์ก็เปิดประตูออกมาให้พวกเราเข้าแถวไปกราบท่านได้ ทีนี้ก็เลยโกลาหล คนอื่นๆ ที่มารอกราบตั้งแต่ก่อนหน้าเราเลยผสมเข้ามาด้วยเป็นแถวยาว ของเราโชคดีพอกราบท่านเสร็จ ท่านให้ขยับมาใกล้ๆ พวกที่อยู่ใกล้ เลยได้น้ำมนต์ท่านเยอะหน่อยแถมได้ยินท่านกล่าวทักทาย โมทนาและพรได้ถนัด สุดท้ายก่อนกลับ ท่านให้รับชานหมากท่านคนละ 1 ก้อนน้อย กับมือท่านเอง ทั้งหลายทั้งปวงในทริปนี้ เดี๋ยวดูรูปกันเอาเองเถอะครับ ม่วนแท้ ม่วนบุญจริงๆ

    พันวฤทธิ์
    23/2/52
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2009
  3. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    มาชมภาพกิจกรรมทำบุญของทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อาจารย์ประถม อาจสาคร ประจำเดือนกุมภาพันธ์ โดยช่วงเช้าได้รวมพลกันที่โรงพยาบาลสงฆ์ทำการถวายสังฆทานอาหารแด่พระสงฆ์อาพาธและบริจาคทำบุญค่าเลือดค่าใช้จ่ายต่างๆให้โรงพยาบาลสงฆ์ ภาพตอนนี้คงต้องรอน้องchaipatมาโพส ส่วนที่ผมจะโพสคงเป็นภาพที่คณะทุนนิธิฯได้เดินทางทำบุญถวายสังฆทานกราบพระที่จังหวัดอยุธยาครับ มาชมภาพและการบรรยายการเดินทางกันเลย
    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER>ภาพบรรยากาศในรถบัส25ที่นั่งที่เต็มจนต้องขับรถส่วนตัวตามกันเป็นขบวนอีกหลายคัน</CENTER>




    <CENTER>[​IMG]</CENTER>ประมาณเก้าโมงเช้ารถบัสและคณะได้เริ่มออกเดินทางไปที่จังหวัดอยุธยา จุดหมายแรกก็วัดพระขาว เพื่อกราบหลวงปู่ทิม พระอริยะสงฆ์แห่งกรุงเก่าที่ทรงรความเมตตา โดยคณะได้ถึงวัดพระขาวประมาณสิบโมงเช้าครับ




    <CENTER>[​IMG]</CENTER>

    ช่วงเช้าที่รอเข้ากราบหลวงปู่ทิม มีเวลาเลยเดินชมวัดเก็บภาพโบสถ์ที่สวยงามที่สร้างจากบารมีหลวงปู่ทิมและผู้มีจิตศรัทธา แทนโบสถ์เดิมที่เก่าทรุดโทรมตามกาลเวลา




    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    โบสถ์นี้ใช่ว่าแต่จะใหญ่โต แต่ยังสร้างด้วยความปราณีต มีความสวยงามตามศิลปทางพุทธศาสนา




    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER></CENTER>
    ภาพเขียนฝาผนังภายในโบสถ์ ที่สวยงามและมีความหมายทางพุทธศาสนา​







    <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    พระประธานองค์นี้ครับ ที่เป็นที่มาของชื่อวัด พระขาว และเป็นชื่อตำบลพระขาว เพราะเป็นพระเก่าแก่ตั้งแต่ปลายกรุงศรีอยุธยา นอกจากสวยและยังขลังไม่ธรรมดาอีกด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 พฤษภาคม 2011
  4. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER></CENTER>
    ประตูโบสถ์แกะลายลงรักปิดทองสวยงามครับ



    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER></CENTER>
    หมู่อาคารทรงไทยที่สวยงามภายในวัดพระขาว หนึ่งในนั้นคือกุฎิที่พักของหลวงปู่ทิม​



    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER></CENTER>
    คุ้งน้ำหลังวัดพระขาว ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ สวยงาม และมีปลาจำนวนมากเป็นเขตอภัยทาน ​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 พฤษภาคม 2011
  5. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER> </CENTER>
    ภาพสังฆทานที่คณะทุนนิธิฯได้เตรียมนำมาถวายหลวงปู่ทิม วัดพระขาว
    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER> </CENTER>
    รวมพลกันอยู่ด้านหน้ากุฎิหลวงปู่ทิม เพื่อรอเข้าพบ ผลปรากฏว่า ทางวัดให้เข้าพบตอนบ่ายเนื่องจากหลวงปู่พักผ่อนอยู่เพราะปีนี้หลวงปู่ก็ย่าง96ปี จึงมีความเห็นว่าควรไปทำบุญที่วัดอื่นๆก่อน แล้วขากลับจึงวนมาถวายอีกครั้งครับ​
     
  6. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    910
    ค่าพลัง:
    +4,284
    [​IMG]


    ภาพนี้ถ่ายตอนที่ท่านกำลังเมตตาแจกขอที่ระลึกให้แก่สาธุชนที่มีความเคารพศรัทธาในองค์หลวงปู่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา จะเห็นว่าใบหน้าท่านเปี่ยมไปด้วยกระแสแห่งความเมตตา ผิวพรรณท่านผ่องใสมาก แม้วัยของท่านจะ 95 ย่าง 96 แล้วก็ตาม ซึ่งเห็นท่านแจกของที่ระลึกให้แก่ผู้ที่มาเคารพสักการะท่านอย่างเนืองแน่นแล้วน่าเหนื่อยแทนท่านจริงๆ ไปกราบและขอบารมีจากท่านซักครั้งเถอะครับได้บุญมหาศาลทีเดียวครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER> </CENTER>
    วัดต่อไปที่คณะได้ไปคือ วัดกษัตราธิราชวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยามีพระที่เป็นเจ้าอาวาสสืบทอดสำคัญหลายองค์ ที่รู้จักกันมากคือ หลวงปู่เทียม
    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER> </CENTER>
    พระประธานภายในอุโบสถ ไม่ใหญ่โตนักแต่สวยงามเข้มขลังตามศิลปสมัยอยุธยา เห็นพี่ใหญ่นั่งกราบอยู่นาน
    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER> </CENTER>
    ทำการถวายสังฆทานแด่พระที่ประจำอยู่ในโบสถ์ หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำบุญตามตู้บริจาคและเดินชมวัดก่อนขึ้นรถเพื่อไปวัดหน้าพระเมรุต่อไป​
     
  8. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER> </CENTER>
    วัดหน้าพระเมรุ เป็นอีกวัดหนึ่งที่ถ้ามาอยุธยาไม่ได้มาที่นี้ก็เรียกได้ว่ามาไม่ถึงอยุธยาได้เช่นกัน เป็นอุโบสถเก่าสมัยอยุธยาที่ไม่โดนเผาทำลายจากพม่าจึงเหลือความสวยงามดั้งเดิมให้ชมกัน
    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER> </CENTER>
    ศิลปนารายณ์ทรงครุฑประทับเหนือพระราหู ที่เป็นของเก่าแสดงให้เห็นถึงความวิจิตรสวยงามมาก
    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER> </CENTER>
    พระพุทธนิมิตรวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญบรมไตรโลกนาถ พระที่ทรงความศักดิ์สิทธิ์แสดงให้เห็นหลายครั้งในประวัติศาสตร์ เช่น แม่ทัพพม่ามาตั้งค่ายที่วัดนี้และทำปืนใหญ่แตกใส่ตนเองจึงต้องยกทัพกลับไปเสียชีวิตระหว่างทาง ตอนกรุงแตกครั้งที่สองไม่โดนพม่าเผาทำลายทั้งๆเป็นพระที่ใหญ่และอยู่ใกล้กับวังหลวง
    <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    หลังจากกราบพระประธานแล้วก็นั่งพักผ่อนกันซักพัก พอดีรุ่นใหญ่กับรุ่นเล็กสุดๆมาเจอกัน ดูจากสีหน้าทุกๆท่านอิ่มบุญกันทั้งนั้น จากวัดหน้าพระเมรุก็ถึงคิวรับประทานอาหารเที่ยงกันที่วัดใหญ่ชัยมงคลครับ
    <CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER>

     
  9. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    โมทนาบุญด้วยนะครับ
    เสียดายไม่ได้ไปสักที
    ผมรอโอกาสได้ไปร่วมบุญที่โรงพยาบาลและที่วัดด้วยนะครับ
     
  10. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER></CENTER>
    หลังจากตื่นเช้าและเดินทางกันมาจนถึงเที่ยงก็ได้เวลารับประทานอาหารที่จัดเตรียมไว้ แต่ละท่านไม่รอช้ารับประทานกันอย่างเต็มที่เติมไม่อั้น หลังจากอิ่มกันแล้วก็เริ่มเดินทางไปที่วัดสะแก เพื่อถวายสังฆทานกันต่อกับหลวงพ่อลำใย ศิษย์ในองค์หลวงปู่ดูที่ธรรมดา



    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER></CENTER>
    กราบหลวงพ่อลำใย วัดสะแก องค์นี้ละครับ ของจริง ผู้สืบทอดตามแนวหลวงปู่ดู่ จนพี่ใหญ่ถึงกับเอ่ยว่า หลวงปู่ดู่ทำได้หลวงพ่อลำใยก็ทำได้เหมือนกัน




    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER></CENTER>
    พี่ใหญ่เป็นประธานถวายสังฆทานให้แด่หลวงพ่อลำใย แต่ละท่านไม่รอช้าจับต่อๆกันเพื่อเป็นกระแสบุญกันให้ถ้วนทั่ว​



    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER></CENTER>
    หลวงพ่อลำใยพิจารณาสังฆทานทั้งหมดด้วยความตั้งใจ ​



    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER></CENTER>
    ก่อนกลับได้ไปรวมกันถ่ายรูปหน้าพระประธาน และรูปเหมือนหลวงปู่ดู่บริเวณกุฏิเดิมของหลวงปู่ดู่กันอย่างพร้อมเพรียงครับ จากวัดสะแกคณะได้ย้อนกลับไปวัดพระขาวอีกครั้ง​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 พฤษภาคม 2011
  11. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER></CENTER>
    กราบหลวงปู่ทิม วัดพระขาว ภาพแรกที่ทางวัดได้เปิดกุฏิหลวงปู่ให้สาธุชนที่ศรัทธาในองค์หลวงปู่ได้เข้ากราบไหว้ถวายสิ่งของต่างๆ





    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER></CENTER>
    ถึงปีนี้หลวงปู่จะมีอายุมากถึง95ปี แต่ก็ไม่เว้นการเมตตากับสัตว์โลกอย่างพวกเรา คณะทุนนิธิฯโชคดีที่หลวงปู่ให้อยู่รวมๆกันแล้วประพรมน้ำพุทธมนต์รวมทั้งให้พรด้วยเสียงที่เบาๆเพราะธาตุขันธ์ท่านไม่อำนวยได้ใจความว่า ขอให้ทุกๆท่านประสบความเจริญสำเร็จในสิ่งที่หวัง การค้าให้เจริญ สุขภาพดีไม่เจ็บป่วย มีเงินมีทองใช้ไม่ยากจน ​



    ผมถ่ายรูปหลวงปู่มาได้เพียงเท่านี้เพราะผมโดนดันจากคนข้างหลังไปนั่งติดอยู่ที่ชายจีวรหลวงปู่จึงไม่สะดวกในการหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย แต่ก็นับว่าไปโชคดีกับตัวผมเองอย่างยิ่งที่มาวัดพระขาวแล้วไม่เคยได้เจอหลวงปู่ทิมเลย แต่คราวนี้ได้นั่งติดกับท่าน ได้พรอันประเสริฐจากท่าน และ ได้รับการพรมน้ำมนต์จนเปียกหัวเลยครับ

    สำหรับท่านอื่นๆในคณะได้ถ่ายรูปในมุมอื่นๆอีกก็มาโพสต่อจากผมได้ครับ การโพสข้อความอาจผิดหรือตกหล่นไปบ้างและการไปคราวนี้หากผมและคณะได้ล่วงเกินพระรัตนตรัยพ่อแม่ครูอาจารย์ทั้งทางกายกรรม มโนกรรม วจีกรรม กราบขมาไว้ ณ ที่นี้ครับ

    โมทนากับทุกๆท่าน ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 กุมภาพันธ์ 2009
  12. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,096
    [​IMG]

    ชีวิตนี้แม้น้อยนัก แต่ก็เป็นความสำคัญนัก สำคัญยิ่งกว่าชีวิตในอดีตและชีวิตในอนาคต ที่ว่าชีวิตนี้คือชีวิตนี้คือชีวิตในชาติปัจจุบันนี้สำคัญ



    ก็เพราะในชีวิตนี้เราสามารถหนีกรรมไม่ดีที่ทำไว้ในอดีตได้ และสามารถเตรียมสร้างชีวิตในอนาคตให้ดีเลิศเพียงใดก็ได้ หรือตกต่ำเพียงใดก็ได้



    ชีวิตในอดีตล่วงเลยไปแล้ว ทำอะไรอีกไม่ได้ต่อไปแล้ว ชีวิตในอนาคตก็ยังไม่ถึง ยังทำอะไรไม่ได้ เช่นนี้จึงกล่าวได้ว่าชีวิตนี้สำคัญนัก พึงใช้ชีวิตนี้ให้เป็นประโยชน์ ให้สมกับความสำคัญของชีวิตนี้



    ชีวิตนี้น้อยนัก แต่มีความสำคัญนักด้วยเหมือนกัน ถ้าชีวิตนี้ไม่วิ่งหนีกรรมไม่ดีในอดีต ชีวิตนี้ก็จะรับผลกรรมไม่ดี ถ้าวิ่งหนีก็จะพ้นได กรรมไม่ดีจะตามทันหรือไม่ขึ้นอยู่กับชีวิตนี้ ยิ่งกว่านั้นถ้ากรรมตามทันในชีวิตนี้ ก็จะตามต่อไปได้อีกในชีวิตอนาคต กรรมไม่ดีที่ทำไว้ในอดีตมากมาย อาจจะตามไม่ทันตลอดไปก็ได้ ถ้าทำชาตินี้ให้ดีที่สุด




    ชีวิตนี้น้อยนัก

    แต่ชีวิตนี้สำคัญนัก

    เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ

    เป็นทางแยก

    จะไปสูงไปต่ำ

    จะไปดีไปร้าย

    เลือกได้ในชีวิตนี้เท่านั้น

    พึงสำนึกข้อนี้ให้จงดี

    แล้วจงเลือกเถิด




    : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

    ขอขอบคุณ
    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=4422
     
  13. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,096
    ศีลเปรียบเสมือนรั้วล้อมมิให้ความชั่วเข้ามา

    เหมือนเป็นการสร้างรั้วล้อมตัวเอง ศีลยิ่งมากข้อ ก็ยิ่งเหมือนรั้วที่แน่นหนามั่นคงแข็งแรง และยิ่งมีวงแคบ จะทำอะไรจะไปไหนก็ล้วนแต่มีข้อห้ามทั้งนั้น เมื่อรู้สึกดังนี้จึงไม่พอใจที่จะรักษาศีลปรารถนาที่จะทำอะไรจะไปไหนก็ทำตามความพอใจ มีเรื่องเล่าในอรรถกถาธรรมบทว่า ภิกษุรูปหนึ่งรู้สึกว่า วินัยที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้มีเป็นอันมาก ไม่อาจจะรักษาให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ได้ มีความเบื่อหน่ายหมดกำลังใจ

    พระพุทธเจ้าทรงเรียกภิกษุนั้นไปตรัสถามว่า จะรักษาเพียงข้อหนึ่งได้หรือไม่ ภิกษุนั้นก็กราบทูลว่า ถ้าเพียงข้อเดียวก็สามารถ

    พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า
    ถ้าอย่างนั้นก็ให้รักษาจิตของตนเอง เมื่อสามารถรักษาจิตของตนเองได้เพียงข้อเดียว ก็สามารถรักษาศีลข้ออื่นๆ ได้ทั้งหมด

    ภิกษุนั้นได้ปฏิบัติตามพุทธโอวาท ก็สิ้นความอึดอัดรำคาญ สามารถรักษาพระวินัยให้บริสุทธิ์บริบูรณ์

    ศีลคือความปกติกาย ปกติวาจา ปกติใจ

    ศีลแม้จะมีข้อบัญญัติมากหรือน้อยอย่างไร แต่ก็มีลักษณะเดียวกัน คือความปกติ อันหมายถึงปกติกาย ปกติวาจา ปกติใจ แต่เพราะบุคคลมีโลภะ โทสะ โมหะ หรือ โลภ โกรธ หลง จึงทำให้ประพฤติผิดปกติ เหตุฉะนี้ พระพุทธเจ้าจึงสอนให้ตั้งใจงดเว้น จากความประพฤติผิดปกติต่างๆ และได้ทรงบัญญัติข้อที่พึงงดเว้นไว้โดยชัดเจน

    เมื่อได้ตั้งใจงดเว้นตามพระบัญญัติ ก็เชื่อว่ามีศีลตามที่งดเว้นได้

    ดังที่แสดงไว้ในจริยาปิฏก เล่าเรื่องดิรัจฉานบ้าง มนุษย์บ้าง เทพบ้าง ผู้รักษาศีลยิ่งกว่าชีวิต แม้เป็นเรื่องนิทานชาดกอันอาจเห็นว่าเก่าพ้นสมัย แต่คติของเรื่องก็ยังเป็นเครื่องสอนใจได้ ไม่มีเก่า ซ้ำยังเป็นเครื่องเตือนโดยอ้อมว่า แม้เดรัจฉานก็เห็นคุณของศีล ไฉนมนุษย์จึงไม่เห็นคุณของศีลเล่า

    ..สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก..

    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=4436
     
  14. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,096
    การเจริญภาวนานั้น เป็นการสร้างบุญบารมีที่สูงที่สุด และยิ่งใหญ่ที่สุดในพระพุทธศาสนา จัดว่าเป็นแก่นแท้และสูงกว่าฝ่ายศีลมากนัก

    การเจริญภาวนานั้น มี ๒ อย่าง คือ
    (๑) สมถภาวนา (การทำสมาธิ)
    (๒) วิปัสสนาภาวนา (การเจริญปัญญา)


    พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า "ผู้ใดแม้จะทำสมาธิจนจิตเป็นฌานได้นานถึง ๑๐๐ ปี และไม่เสื่อม ก็ยังได้บุญน้อยกว่าผู้ที่มองเห็นความเป็นจริงที่ว่า สรรพสิ่งทั้งหลายอันเนื่องมาจากการปรุงแต่ง ล้วนแล้วแต่เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แม้จะเห็นเพียงชั่วขณะจิตเดียวก็ตาม"


    ดังนี้ จะเห็นได้ว่า วิปัสสนาภาวนา (การเจริญปัญญา) นั้น เป็นสุดยอดของการสร้างบุญบารมีโดยแท้จริง และการกระทำก็ไม่เหนื่อยยากลำบาก ไม่ต้องแบกหาม ไม่ต้องลงทุนหรือเสียทรัพย์แต่อย่างใด แต่ก็ได้กำไรมากที่สุด

    เมื่อเปรียบการให้ทานเหมือนกับกรวด และทราย ก็เปรียบวิปัสสนาได้กับเพชรน้ำเอก ซึ่งทานย่อมไม่มีทางที่จะเทียบศีล ศีลก็ไม่มีทางที่จะเทียบกับสมาธิ และสมาธิก็ไม่มีทางที่จะเทียบกับวิปัสสนา

    แต่ตราบใดที่เราท่านทั้งหลายยังไม่ถึงฝั่งพระนิพพาน ก็ต้องเก็บเล็กผสมน้อย โดยทำทุก ๆ ทางเพื่อความไม่ประมาท โดยทำทั้งทาน ศีล และภาวนา สุดแต่โอกาสจะอำนวยให้ จะถือว่าการเจริญวิปัสสนาภาวนานั้นลงทุนน้อยที่สุด แต่ได้กำไรมากที่สุด ก็เลยทำแต่วิปัสสนาอย่างเดียว โดยไม่ยอมลงทุนทำบุญให้ทานใด ๆ ไว้เลย

    เมื่อเกิดชาติหน้า เพราะเหตุที่ยังไม่ถึงฝั่งพระนิพพาน ก็เลยมีแต่ปัญญาอย่างเดียวไม่มีจะกินจะใช้ ก็เห็นจะเจริญวิปัสสนาให้ถึงฝั่งพระนิพพานไปไม่ได้เหมือนกัน

    อนึ่ง พระพุทธองค์ได้ตรัสเอาไว้ว่า "ผู้ใดมีปัญญาพิจารณาจนจิตเห็นความจริงว่า ร่างกายนี้เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน คน สัตว์ แม้จะนานเพียงชั่วช้างยกหูขึ้นกระดิก ก็ยังดีเสียกว่าผู้ที่มีอายุยืนนานถึง ๑๐๐ ปี แต่ไม่มีปัญญาเห็นความเป็นจริงดังกล่าว"

    กล่าวคือ แม้ว่าอายุของผู้นั้นจะยืนยาวมานานเพียงใด ก็ย่อมโมฆะเสียเปล่าไปชาติหนึ่ง จัดว่าเป็น "โมฆบุรุษ" คือ บุรุษที่สูญเปล่า

    : การภาวนา
    : โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก



    ขอขอบคุณ
    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=5515
     
  15. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,096
    [​IMG]

    เรื่องของคุณยายอายุเจ็ดสิบ ชื่อคุณยายสง่า สังข์ทอง
    พิการ เดินไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็น เป็นคนอยุธยา
    ได้มาอยู่อาศัยกับลูกคนแล้วคนเล่าในจำนวนสี่คน
    ที่เมื่อก่อนแม่เลี้ยงดูฟูมฟักมากับมือจนเติบใหญ่ทั้งสี่คน

    แต่บัดนี้ แม่หาประโยชน์มิได้แล้ว
    รังแต่จะเป็นภาระ ลูกชาย ลูกสาวนั้นก็พยายามหาทางผลักไส
    ให้แม่หนีไป ยายแกก็ไม่รู้จะไปไหนไป
    สุดท้ายมาขออาศัยลูกชาย ชื่อสุเทพ
    ก็เจอลูกสะใภ้ด่าว่าเข้าให้อีก
    กินข้าวแต่ละมื้อกับน้ำพริก
    แม่ก็ต้องกินข้าวเคล้าน้ำตา
    ในที่สุด ทั้งลูกชาย และลูกสะใภ้ก็เรียกรถแท็กซี่มาอุ้มแม่ไปทิ้งที่ซอยอ่อนนุช 46
    เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2545 พร้อมกับหมาหนึ่งตัวที่คุณยายแกเหลืออยู่......

    คนที่ช่วยเอาไว้ ก่อนจะนำส่งที่สถานสงเคราะห์
    เล่าว่าคุณยายแกไม่กล้ากลับไปอยู่กับลูก
    เพราะกลัวจะถูกด่าว่ารังแก เอาแต่ร้องไห้
    และบอกว่า ถ้าลูกสำนึกได้แกก็ให้อภัยเสมอ โธ่เอ๋ย.........

    ผมไม่ทราบว่าท่านได้อ่านข่าวเรื่องราวอย่างนี้
    จะคิดอย่างไรกัน เทคโนโลยีก้าวหน้าไป
    คนไทยช่างทันสมัย ไม่นึกถึงพระคุณผู้ที่ให้กำเนิดแม้แต่น้อย
    ใจโหดร้ายพอที่จะโยนแม่ทิ้งกลางถนนพร้อมกับหมาหนึ่งตัวได้อย่างไม่อายฟ้าอายดิน

    คนไทยครับ.....เราเป็นอะไรกันไปแล้วหรือ??

    อีกความเห็นหนึ่ง คนเราทุกวันนี้ ก็แปลก
    มองเห็นเพื่อนๆ ที่ทำงาน หลายคน มุ่งมั่นที่จะมีคู่ครองกันมาก
    ไม่เคยเห็นใครที่จะมุ่งมั่นเพื่อพ่อ แม่บ้างเลย
    ทุกคน อยากทำงาน เก็บเงิน ซื้อรถ เพื่อจะได้ขับไปทำงานอย่างสบาย
    อยากซื้อบ้าน เพราะต้องการแยกตัวออกจาก พ่อ แม่
    อยากแต่งงาน เพื่อเหตุผลแห่งการสืบพันธุ์อันเป็นธรรมชาติแห่งสัตว์โลก
    ทำงานหนัก เพื่อความฟุ่มเฟือย ของตนเอง
    ไม่ว่างานหนักแค่ไหนทนได้..แต่ไม่เคยทำงานบ้านเพราะอ้างว่าเหนื่อยมากพอแล้ว
    ทุกสิ่งในเนื้องานจำได้หมด...แต่ไม่เคยจำได้ว่าพ่อแม่ชอบกินอะไร

    เจ้านาย อยากได้อะไรทำให้ได้หมด...แต่ไม่เคยทำอะไรให้พ่อแม่
    คุณพาคู่รักไปท่องเที่ยว หาอาหารอร่อยๆ กินได้ทุกที่...
    แต่ไม่เคยแม้แต่ซื้อกับข้าวกลับบ้าน ทุกคนลืม มองข้าม คนที่รักเรามากที่สุด

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    คัดลอกมาจาก...E-Mail ที่เพื่อนส่งมาให้ค่ะ
     
  16. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    หลังจากชมภาพหลวงปู่ทิมและบรรยากาศวัดพระขาวมาพอสมควรขอนำภาพ ลูกอมชานหมาก และ รูป ที่หลวงปู่แจกให้ฟรีๆกับผู้ที่มากราบทำบุญกับท่านในวันนั้น สัมผัสแรกต้องร้องว่าโอ้โห้ของฟรีๆนี่แหละขลังนัก เมตตา โชคลาภ แคล้วคลาด มีครบ เลี่ยมขึ้นคอได้อย่างมั่นใจเลยครับ ท่านใดยังไม่ได้ไปทำบุญกับท่านรีบๆหน่อย เพราะท่านชรามากแล้ว
    <CENTER> </CENTER><CENTER><CENTER><CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER><CENTER>[​IMG]</CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER></CENTER><CENTER><CENTER> </CENTER></CENTER>
     
  17. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER> </CENTER>
    พระปางจักรพรรดิ์ด้านหลังเป็นหลวงปู่ทวดที่เห็นนี้เป็นของหลวงพ่อลำใย มีพี่ที่ใจดีและใจบุญนำมาให้แจกกันในคณะทุนนิธิฯจำนวนหลายองค์ ได้รับการอธิษฐานจิตเพิ่มจากหลวงพ่อลำใยกันแบบเต็มที่ ท่านใดได้ไปก็นับว่าโชคดี

    ทริปนี้ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งเที่ยว ได้ทั้งของวิเศษที่ไม่ต้องซื้อหาแจกฟรีๆกันทั้งนั้นครับ

     
  18. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    ณ วัดพระขาว

    ขอเพิ่มเติมครับ

    [​IMG]

    เมื่อตอนไปถึงวัดพระขาวครั้งแรกครับเจอป้ายนี้ก่อนเลยครับ​

    [​IMG]

    พระประจำวันบริเวณหน้าห้องของหลวงปู่ทิมครับ​

    [​IMG]

    แม้ว่าจะเห็นป้ายว่าหลวงปู่จำวัดอยู่แต่ทางคณะบุญของทุนนิธิฯ ก็ยังมีรอยยิ้มครับ ไม่หวั่นไหวเพราะเชื่อมั่นว่าจะได้พบหลวงปู่อย่างแน่นอนครับ

    [​IMG]

    ส่วนอีกด้านหนึ่งก็ช่วยกันขยันขันแข็งเพื่อจัดเตรียมสังฆทานถวายหลวงปู่ทิม​

    สุดท้ายทางคณะก็ได้พบและได้กราบไหว้หลวงปุ่ทิมกันทุกคนครับและได้รับ
    ชานหมากจากมือของหลวงปู่ทิมกันทุกคนครับ
    ส่วนเด็ก ๆ ก็จะได้ของพิเศษเพิ่มเติมครับ (ได้ขนมเซียงไฮ้/ปักกิ่ง) อันนี้ไม่แน่ใจว่าคุณพ่อคุณแม่จะเก็บไว้แทนลูก ๆ หรือเปล่าครับ..;aa13​

    ส่วนเรื่องคุณวิเศษชานหมากหลวงปู่ทิม ผมขอยืมเรื่องที่มีคน post ไว้มาเสริมนะครับ
    "ชานหมากนี้เลี่ยมติดตัวไว้นะลูกนะ มีอะไรให้นึกถึงหลวงปู่ "
    ลูกอมชานหมากที่เป็นลูกกลม กลม เล็กๆน่ารัก น่ารักแต่มีคุณวิเศษยิ่งนักนี้เกิดจากเนื้อหมากและน้ำหมากของหลวงปู่ ผสมกับ น้ำผึ้ง และกล้วยน้ำว้าสุก บดผสมปั้นเป็นก้อนกลม จากนั้นหลวงปู่ท่านก็จะอธิษฐานจิต เสกกำกับให้ไว้เพื่อแจกกับลูกศิษย์

    ทำไมลูกอมเล็กๆ ถึงมีคุณวิเศษยิ่งนัก ...............ปรกติแล้วอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวเนื่องกับพระบริสุทธิสงฆ์มักมีคุณวิเศษอยู่แล้ว ยิ่งออกจากปากของหลวงปู่ทิม วัดพระขาวยิ่งไม่ต้องกังขาครับ

    อันนี้ขอเสริมครับ เมื่อตอนขากลับได้พูดคุยกับพี่ใหญ่ ได้ให้คำตอบว่าที่ชานหมากนี้มีความวิเศษก็เนื่องจากพระท่านทรงฌานอยู่ตลอดเวลาดังนั้นของที่ท่านเคี้ยวแล้วคายออกมาก็เลยมีคุณวิเศษด้วย

    แต่ที่หลวงปู่ท่านตั้งใจให้ใช้คือ เมื่อก้างปลาติดคอ ให้ตั้งใจแล้วอธิษฐานถึงหลวงปู่แล้วก็ใช้ลูกอมชานหมากลูบที่คอ

    (ตอนที่หลวงปู่มอบให้คุณ โสระ เห็นหลวงปู่ท่านเอาชานหมากมาลูบที่คอท่านก่อนมอบให้ แต่ผมอยู่ไกลก็เลยไม่ได้ยินแต่คาดว่าท่านคงบอกอุปเท่ห์ในการใช่ชานหมากให้ครับ)

    **รูปแทน**
    [​IMG]
    ขอขอบคุณ
    ที่มาของรูป
    http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/602/13602/images/chanmark1.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2009
  19. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    ขออนุโมทนาบุญกับคณะที่ไปทำบุญทุกท่านนะคะ เพิ่งไปครั้งแรกก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น สนุกมากและได้บุญเต็มอิ่มค่ะ พอดียังไม่มีเวลาpostรูปนะคะ พรุ่งนี้จะpostให้ แต่รู้สึกว่ามีรูปหลวงปู่ทิมพรมน้ำมนต์ให้ใครเอ่ยอยู่นะคะ รู้ตัวหาของมาแลกซะดีๆ อิอิ
     
  20. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    910
    ค่าพลัง:
    +4,284
    พระขรัวอีโต้ วัดราชบูรณะ


    <TABLE class=a4 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width="6%"><TABLE class=a4 cellSpacing=0 cellPadding=2 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=670 bgColor=#000000>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle width=670>พระขรัวอีโต้ วัดราชบูรณะ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top width="94%">พระขรัวอีโต้ วัดราชบูรณะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...