ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

สำหรับภัยพิบัติที่จ่อมาใกล้ๆในระยะนี้ นอกเหนือจากภัยพิบัติทางเศรษฐกิจ ที่จะจ่อผลกระทบต่อไทยและชาวโลกก็คือ

ภัยพิบัติจากความร้อนแล้ง ครับ สำหรับท่านที่อยู่ต่างจังหวัดต้องกักเก็บน้ำตั้งแต่ช่วงนี้ได้เลยครับ พอปลายมีนาคมนี้จะยิ่งแล้งมากอย่างเห็นได้ชัด

อุณหภูมิขึ้นถึง 45 องศาแน่นอน หากยังปลูกต้นไม้กันทันก็ขอให้เร่งปลูกให้มากๆเอาไว้ครับ


ที่น่าห่วงก็คือ พอเศรษฐกิจพัง คนกลับไปสู่ภาคเกษตรในภูมิภาค แต่ปรากฏว่า แล้งจนทำนาปลูก ปลูำกพืชไม่ได้ผล

คราวนี้โจรผู้ร้าย การจี้ปล้น การแย่งชิงเพราะความอด ความยากจนก็จะตามมา

ทำอย่างไรที่จะเร่งสร้างน้ำใจในสังคม การให้การเกื้อกูลกันเอาไว้ให้มากครับ

 

ฉาตกภัย
(ภัยจากความหิวโหย เพราะความแห้งแล้ง)​

​

(ผมขออนุญาตนำเรื่องของ "ฉาตกภัย" ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตมา มาเล่าสู่กันฟัง เป็นเรื่องบางตอนในพระไตรปิฎกที่กล่าวถึงอดีตชาติของท่านเมณฑกเศรษฐี ครับ)​

เมณฑกเศรษฐีผู้ใจบุญ
(ขออนุญาตตัดตอนมาให้อ่านกันบางส่วนเพราะเนื้อเรื่องยาวมาก)​

เมณฑกเศรษฐีและครอบครัว​

....ปุโรหิตซึ่งเป็นผู้ชำนาญในการดูฤกษ์ยาม พอคำนวณดูดวงและกล่าวว่า จากนี้ไป ๓ ปี ฉาตกภัย คือภัยที่เกิดจากความแห้งแล้งจะเกิดขึ้น ฝนจะไม่ตกต้องตามฤดูกาล เกษตรกรจะไม่สามารถทำไร่ไถนา หรือทำสวนได้เหมือนเดิม ชาวบ้านจะได้รับความเดือดร้อนกันไปทั่ว พวกสัตว์เลี้ยงจะล้มตายเพราะขาดน้ำ และอาหาร ขอให้ท่านเศรษฐีเตรียมตัวรับภัยแล้งครั้งใหญ่นี้เถิด ถ้าจะโยกย้ายครอบครัวก็ให้ย้ายกันแต่เนิ่นๆ

เศรษฐีฟังคำทำนายแล้ว ก็ไม่ได้ตื่นตระหนกตกใจอะไร อีกทั้งไม่คิดจะโยกย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่อื่น เพราะท่านมีข้าทาสบริวารมาก การโยกย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่อื่นเป็นเรื่องที่ลำบากมาก แต่เพื่อความไม่ประมาท ท่านเศรษฐีได้สั่งให้ข้าทาสบริวารทำนาปลูกข้าวเพื่อกักตุนข้าวเปลือกไว้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังซื้อข้าวเปลือกบรรจุจนเต็มฉางทั้ง ๑,๒๕๐ ฉาง ครั้นเมื่อฉางไม่พอที่จะใส่ข้าวเปลือก ก็ให้บรรจุในภาชนะต่างๆ ด้วย ตั้งแต่ ตุ่ม ไห หม้อ เป็นต้นจนเต็ม แล้วขุดหลุมฝังในดินอีกเป็นจำนวนมาก และยังให้ขยำข้าวเปลือกที่เหลือกับดินเหนียวแล้วฉาบทาฝาผนังไว้

สมัยต่อมา คำทำนายของปุโรหิตก็กลายเป็นจริง เมื่อภัยคือความอดอยากบังเกิดขึ้น และเนื่องจากเศรษฐีมีการเตรียมตัวรับภัยไว้เป็นอย่างดี ในช่วงแรกๆ จึงไม่ลำบากอะไร แต่เมื่อฉาตกภัยได้ขยายเวลาออกไปเป็นเวลานานขึ้น ก็จำต้องบริโภคข้าวเปลือกที่เก็บไว้ เมื่อข้าวเปลือกที่เก็บไว้ในฉาง และในภาชนะต่างๆ หมด จึงเรียกข้าทาสบริวารทั้งหมดให้มาประชุมพร้อมกัน เมื่อข้าทาสบริวารมาพร้อมแล้วจึงกล่าวว่า “ พวกท่านปรารถนาจะไปหลบภัยอันร้ายกาจนี้ที่ไหน ก็ให้ไปได้ ใครจะเข้าป่าหาผลหมากรากไม้กินเป็นอาหาร หรืออพยพไปอยู่ที่เมืองอื่น ก็เชิญไปตามความสมัครใจ เมื่อถึงเวลาข้าวปลาอาหารหาได้ง่ายแล้ว ใครอยากจะกลับมาอยู่กับเราอีก เราก็ยินดีต้อนรับ แต่ถ้าไปแล้วไม่อยากกลับมา จะตั้งรกรากที่นั่นเป็นการถาวร ก็แล้วแต่ความสะดวก เราก็ขอกล่าวคำอำลาพวกท่าน ณ ที่นี้ ขอให้ท่านทั้งหลายจงเดินทางโดยสวัสดิภาพเถิด ”

พวกข้าทาสบริวารฟังแล้ว ก็ซาบซึ้งในน้ำใจของเจ้านาย แม้จะเคารพเทิดทูนเจ้านาย ไม่อยากจากไป แต่เพื่อความอยู่รอด จึงต้องหอบหิ้วสัมภาระ เดินทางไปอยู่ที่อื่นกันหมด คงเหลือแต่ทาสคนรับใช้ใกล้ชิดเพียงคนเดียว ที่รักเจ้านายยิ่งกว่าความตาย ทาสคนนี้ ชื่อปุณณะ และที่เหลืออยู่ร่วมเป็นร่วมตายกับท่านเศรษฐีอีก ๓ ท่าน คือ ภรรยาของเศรษฐี ลูกชาย และลูกสะใภ้

เมื่อความแห้งแล้งระบาดไปทุกหย่อมหญ้า พืชพันธ์ธัญญาหารทุกอย่างล้มตายจนหมด เศรษฐีจึงให้เอาข้าวเปลือกที่ฝังไว้ในหลุมมาหุงต้มกิน พอข้าวเปลือกในหลุมหมด ก็ให้พังดินที่เอาข้าวฉาบไว้ตามฝาผนังมาแช่น้ำ แบ่งกันรับประทาน พอยังอัตภาพให้เป็นไป ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีวี่แววว่าฝนฟ้าจะตกลงมา
ฝ่ายภรรยาของเศรษฐี เมื่อถูกความหิวครอบงำหนักเข้า ก็ไปเที่ยวเก็บเมล็ดข้าวเปลือก และข้าวสารที่ตัวเองทำตกหล่นไว้ตามที่ต่างๆ รวบรวมข้าวสาร ได้ประมาณทะนานหนึ่ง แล้วนำไปฝังไว้ใต้ดิน ข้าวมื้อนี้เป็นมื้อสุดท้าย เมื่อท่านเศรษฐีถามว่า “ นางผู้เจริญ ฉันหิวเหลือเกิน มีข้าวเหลืออยู่บ้างมั๊ย ” ภรรยาตอบว่า “ ยังพอมีข้าวสารอีกทะนานหนึ่ง ตอนนี้ฉันฝังไว้ใต้ดิน ” เศรษฐีจึงบอกให้นางไปขุดมาหุงต้มกิน

ภรรยาเศรษฐีหุงข้าวสวยเสร็จแล้ว ก็แบ่งออกเป็น ๕ ส่วน คดข้าวสวยส่วนหนึ่งวางไว้ข้างหน้าของเศรษฐี อีก ๔ ส่วนก็เป็นของลูกชาย ลูกสะใภ้ ทาสคนสนิท และของตัวเอง ทุกคนรู้ว่านี่เป็นอาหารมื้อสุดท้าย จากนั้นก็ต้องอดอยากหิวตายอย่างแน่นอน จึงไม่เร่งรีบลงมือรับประทาน ในขณะนั้น พระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งประทับอยู่ที่ภูเขาคันธมาทน์ เพิ่งออกจากนิโรธสมาบัติ ตั้งใจจะออกไปบิณฑบาตเพื่อโปรดสัตว์ ท่านรู้ด้วยญาณทัสสนะว่า ฉาตกภัยเกิดขึ้นทั่วชมพูทวีป จะหาคนใส่บาตรพระก็ยากเหลือเกิน ถ้าจะมีก็เห็นแต่ครอบครัวของท่านเศรษฐี ซึ่งก็มีเพียงอาหารมื้อสุดท้ายเท่านั้น ท่านตรวจดูต่อไปอีก เห็นคนทั้ง ๕ ที่กำลังถูกความหิวครอบงำ เข้ามาในข่ายพระญาณ พอตรวจดูให้แน่ชัดก็ทราบว่า ผู้มีบุญทั้ง ๕ ท่านนี้ เป็นผู้มีศรัทธา รักบุญยิ่งกว่าชีวิต รู้จักวิธีการเตรียมเสบียงบุญเพื่อเดินทางไกลข้ามชาติให้กับตนเอง จึงถือบาตรเหาะไปยืนอยู่ที่ประตูเรือนของท่านเศรษฐี

​

ท่านเศรษฐีกำลังประสบความหิวอย่างหนัก เพราะฉาตกภัยเกิดขึ้นติดต่อกันนานหลายปี ภรรยาได้หุงข้าวมื้อสุดท้าย เพื่อยืดชีวิตของคนในครอบครัวออกไป และในขณะที่กำลังจะรับประทานอาหารเช้านั้น พระปัจเจกพุทธเจ้าได้เสด็จมาบิณฑบาตอยู่หน้าบ้าน หลังจากที่ท่านได้เข้าสมาบัติอยู่ ๗ วัน ซึ่งตามธรรมดาของพระปัจเจกพุทธเจ้าที่เข้านิโรธสมาบัตินานถึง ๗ วัน โดยไม่ได้ฉันภัตตาหารเลยนั้น เมื่อออกจากนิโรธสมาบัติก็ต้องมีความหิวกระหายมากเหมือนกับมนุษย์ทั่วไป แต่ท่านสามารถยับยั้งไว้ได้ด้วยอำนาจของมหาสมาบัติ แต่ถ้าไม่ได้ฉันในวันที่ ๗ ก็ต้องดับขันธ์เข้าสู่นิพพาน เพราะขันธ์ ๕ ไม่สามารถทนอยู่ได้อีกต่อไป

ท่านเศรษฐีพอเห็นพระมาโปรดที่บ้าน เกิดมีจิตเลื่อมใส ท่านสอนตัวเองว่า “ ที่เราต้องประสบฉาตกภัยเห็นปานนี้ เพราะเราไม่ได้ให้ทานในกาลก่อน อาหารมื้อนี้รักษาเราไว้ได้เพียงวันเดียวเท่านั้น ส่วนภัตที่เราถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า จะนำประโยชน์เกื้อกูลมาให้แก่เราหลายโกฏิกัป เราอย่าได้เห็นแก่ประโยชน์ตนเฉพาะแต่เพียงในชาตินี้เลย ด้วยจิตเลื่อมใสที่เราจะได้ถวายอาหารมื้อสุดท้ายแก่พระคุณเจ้านี้ ขอให้ภพชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายที่เราต้องอดอยากเถิด ”

เมื่อตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดแล้ว จึงน้อมนำถาดภัตนั้นออกมา เดินเข้าไปหาพระปัจเจกพุทธเจ้า กราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์ นิมนต์ให้เข้าไปในบ้าน เมื่อท่านนั่งบนอาสนะแล้ว จึงค่อยๆ เกลี่ยภัตในจานข้าวลงไปในบาตร เมื่อภัตเหลือครึ่งหนึ่ง พระปัจเจกพุทธเจ้าก็เอามือปิดบาตรไว้ เศรษฐีอยากได้บุญใหญ่ จึงกราบเรียนพระปัจเจกพุทธเจ้าว่า “ ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ภัตตาหารนี้เพียงพอเฉพาะคนๆ เดียวเท่านั้น ขอท่านจงอย่าสงเคราะห์กระผมในโลกนี้เลย กระผมใคร่ที่จะถวายไม่ให้มีส่วนเหลือ ” ว่าและได้ถวายภัตทั้งหมดลงในบาตร

ครั้นถวายอาหารมื้อสุดท้ายด้วยใจที่เลื่อมใสแล้ว จึงตั้งความปรารถนาอย่างแรงกล้าว่า “ ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าอย่าได้ประสบฉาตกภัยเห็นปานนี้ ในที่ๆ ข้าพเจ้าเกิดอีกเลย ตั้งแต่บัดนี้ไป ข้าพเจ้าพึงสามารถเพื่อจะให้ภัตแก่ชาวชมพูทวีปได้ทั้งหมด ข้าพเจ้าไม่พึงงานเลี้ยงชีพด้วยมือของตนเอง ในขณะที่ข้าพเจ้าใช้ให้คนชำระฉาง ๑ , ๒๕๐ ฉาง และชำระร่างกายให้สะอาดแล้ว นั่งอยู่ที่ประตูฉางเหล่านั้น มองดูในเบื้องบนเท่านั้น ธารแห่งข้าวสาลี พึงตกลงมาในฉางทั้งหมดให้เต็ม และผู้นี้จงเป็นภรรยา ผู้นี้จงเป็นบุตร ผู้นี้จงเป็นหญิงสะใภ้ และผู้นี้จงเป็นทาสของข้าพเจ้า ในสถานที่ๆ ข้าพเจ้าเกิดแล้วเถิด ”

ฝ่ายภรรยาของท่านเศรษฐี ก็คิดว่า “ เมื่อสามีของเราไม่ได้รับประทาน เราก็ไม่อาจจะรับประทานได้ ” จึงถวายส่วนของตัวเองแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า แล้วตั้งความปรารถนาว่า “ ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ตั้งแต่บัดนี้ไป ขอดิฉันอย่าพึงประสบกับฉาตกภัยเห็นปานนี้อีกเลย อนึ่ง เมื่อดิฉันวางถาดภัตไว้ข้างหน้า ให้ภัตแก่ชาวชมพูทวีปทั้งหมด ตราบใดที่ดิฉันยังไม่ลุกขึ้น ขอภัตที่ดิฉันตักแล้ว จงเต็มบริบูรณ์ดุจเดิมตราบนั้น เกิดกี่ภพกี่ชาติ ท่านผู้นี้ จงเป็นสามี ผู้นี้จงเป็นบุตร ผู้นี้จงเป็นหญิงสะใภ้ และผู้นี้จงเป็นทาสของดิฉัน ”

ลูกชายเศรษฐี พอเห็นพ่อแม่ทำเป็นต้นแบบอย่างนั้น ก็เกิดกำลังใจอยากทำความดีตาม ซึ่งในใจก็มีความเลื่อมใสในพระปัจเจกพุทธเจ้าอยู่แล้ว จึงถวายส่วนของตนแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า จากนั้นก็ตั้งความปรารถนาเหมือนที่พ่อแม่อธิษฐาน จะแปลกกันอยู่ตรงที่ว่า “ เมื่อข้าพเจ้าถือถุงกหาปณะหนึ่งพัน แม้ให้กหาปณะแก่ชาวชมพูทวีปทั้งสิ้นอยู่ ขอถุงนี้จงเต็มอยู่อย่างเดิม ”

ฝ่ายลูกสะใภ้ของเศรษฐี ก็ได้ถวายส่วนของตนแก่พระปัจเจกพุทธเจ้าเหมือนกัน และตั้งความปรารถนาว่า “ เมื่อดิฉันตั้งกระบุงข้าวเปลือกกระบุงหนึ่งไว้ข้างหน้า แม้ให้ภัตแก่ชาวชมพูทวีปทั้งสิ้น ความหมดสิ้นไปอย่าได้ปรากฏ จนกว่าดิฉันจะเลิกให้ ” แม้ทาสของเศรษฐีก็มีใจใหญ่ ยอมที่จะอดตายเหมือนเช่นกับเจ้านาย แต่จักไม่ยอมให้พระท่านต้องอดฉัน จึงถวายส่วนของตนแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า จากนั้นจึงตั้งความปรารถนาที่จะขออยู่กับเจ้านายไปทุกภพทุกชาติ และอธิษฐานจิตว่า “ เมื่อข้าพเจ้าไถนา ขอให้สามารถไถได้เร็วเป็นพิเศษ คือรอย ๗ รอยประมาณเท่าเรือโกลน ซ้าย - ขวาด้านละ ๓ รอย และตรงกลางอีก ๑ รอย จงบังเกิดขึ้น ”

อันที่จริงแล้ว ด้วยผลบุญแห่งการถวายทานครั้งนั้น หากนายปุณณะปรารถนาตำแหน่งเสนาบดี ก็สามารถจะได้ในวันนั้น แต่เนื่องจากมีความรักในเจ้านายมาก เลยตั้งความปรารถนาว่า “ ขอให้ได้เป็นคนรับใช้ของเศรษฐีไปทุกภพทุกชาติ ” เมื่อทุกคนอธิษฐานเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระปัจเจกพุทธเจ้าจึงกระทำอนุโมทนาในการตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวของทุกๆ คนที่รักบุญยิ่งกว่าชีวิต แล้วท่านจึงเหาะขึ้นไปสู่ท้องฟ้า โดยบันดาลให้ทุกคนได้เห็นท่านเหาะกลับไปภูเขาคันธมาทน์ และจัดแบ่งภัตให้กับพระปัจเจกพุทธเจ้า ๕๐๐ องค์ ด้วยอานุภาพของพระปัจเจกพุทธเจ้า ภัตนั้นก็สามารถแบ่งได้ทั่วถึงแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าหมดทั้ง ๕๐๐ รูป เศรษฐี และทุกคนในครอบครัวได้เห็นเหตุอัศจรรย์เช่นนั้น ยิ่งปีติดีใจ ว่า ตนเอง ได้ถวายทานถูกเนื้อนาบุญแล้ว

เมื่อท่านเศรษฐี และครอบครัวได้ทำบุญถูกอู่แห่งทะเลบุญ ผลบุญอัศจรรย์จึงบังเกิดขึ้น แต่ท่านไม่รู้ว่าบุญจะเกิดให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างไรบ้าง ถึงอย่างไรก็ปีติดีใจที่ได้ถวายทานถูกเนื้อนาบุญ เพราะฉะนั้นเมื่อเที่ยงวันล่วงไปแล้ว ท่านยังไม่ได้รับประทานอาหาร ถูกความหิวเข้าครอบงำหนักเข้า จึงนอนหลับไป ฝ่ายภรรยาเศรษฐีล้างหม้อข้าวแล้วปิดฝาวางไว้ในครัว ยามเย็นพอเศรษฐีตื่นขึ้นมา ก็ถามว่า “ นางผู้เจริญ ฉันหิวเหลือเกิน ข้าวตังก้นหม้อมีเหลืออยู่บ้างไหม ?” ทั้งๆ ที่ภรรยาเศรษฐีล้างหม้อมากับมือ แต่เพื่อความมั่นใจ และสบายใจของท่านเศรษฐีจึงได้ลุกเดินเข้าไปในครัวเปิดฝาหม้อออกดู

ในขณะนั้นเอง ฝาหม้อก็ถูกข้าวสวยมีสีเหมือนดอกมะลิตูมดันออกมาจนล้นปากหม้อ ภรรยาเมื่อเห็นเช่นนั้นและเกิดปีติขนลุกชูชันไปทั้งตัว รีบร้องเรียกสามีให้มาดูผลแห่งการทำทาน เพราะยังไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง พร้อมกับอุทานด้วยความเบิกบานใจว่า “ ขึ้นชื่อว่าบุญทั้งหลายควรกระทำ ชื่อว่าทานควรจะให้ ” จากนั้นนางได้จัดอาหารให้ทุกคนได้รับประทานด้วยความปีติเบิกบานใจ
และที่น่าอัศจรรย์ยิ่งไปกว่านั้น คือจะตักข้าวอย่างไร ข้าวก็ไม่พร่องไปเลย ยังคงเต็มหม้ออยู่เหมือนเดิม ในวันนั้น ยุ้ง ฉางซึ่งว่างเปล่าก็เต็มไปด้วยข้าวเปลือก และพืชพันธุ์ธัญญาหารเหมือนเดิม ฝนฟ้าก็ตกลงมาให้ความชุ่มฉํ่าเย็นแก่คนทั้งเมือง ชาวเมืองเมื่อทราบข่าวก็ได้หลั่งไหลมารับเอาภัต และพันธุ์พืชจากบ้านของท่านเศรษฐี ชาวชมพูทวีปทั้งหมดอาศัยบุญของท่านเศรษฐี จึงดำรงชีพอยู่อย่างมีความสุขจนตลอดชีวิต

ฝ่ายเศรษฐี และครอบครัว เมื่อได้ทำบุญจนตลอดชีวิตแล้ว ได้ไปบังเกิดในเทวโลก ท่องเที่ยวอยู่ในเทวโลก และมนุษยโลกเท่านั้น ในสมัยพุทธกาล ท่านก็ได้บังเกิดในสกุลเศรษฐีในภัททิยนคร ภรรยาบังเกิดในตระกูลเศรษฐีเหมือนกัน เมื่อเจริญวัยแล้วได้แต่งงานกัน เมื่อแยกครอบครัวออกจากบิดามารดาไปสร้างบ้านเรือนอยู่ต่างหาก แพะกายสิทธิ์ ดังที่หลวงพ่อได้เคยนำมากล่าวไว้เมื่อครั้งก่อน ก็ได้ดุนหลังกันผุดขึ้นที่หลังบ้านของท่านเศรษฐี ลูกชาย ลูกสะใภ้ และคนใช้ที่เคยอธิษฐานจิตมาเกิดร่วมกัน ก็ได้มาอยู่ร่วมกันในภพชาตินี้อีก

ต่อมาวันหนึ่ง ท่านเศรษฐีอยากจะทดลองบุญของตน จึงให้ชำระฉาง ๑ , ๒๕๐ ฉาง ส่วนตัวเองเมื่อชำระล้างกายแล้วนั่งที่ประตู แหงนดูเบื้องบนอากาศ ฉางทั้งหมดก็เต็มด้วยข้าวสาลีอย่างน่าอัศจรรย์ เศรษฐีได้บอกให้ทุกคนได้ทดลองบุญของตัวเองดูบ้าง ภรรยาของเศรษฐีจึงเริ่มด้วยการใช้ให้คนตวงข้าวสาร นำไปหุงเพียงหม้อเดียว แล้วถือเดินออกไปนั่งที่ซุ้มประตู เอามือถือทัพพีทองคำแล้วประกาศว่า “ ผู้มีความต้องการภัตจงมารับเอาตามความชอบใจเถิด ” จากนั้นนางก็ตักข้าวให้จนเต็มภาชนะของคนที่ทยอยกันมาขอ เมื่อนางให้อยู่ทั้งวัน ข้าวไม่มีพร่องเลย และด้วยความที่นางจับหม้อด้วยมือซ้าย มือขวาจับทัพพี ถวายภัตจนเต็มบาตรของภิกษุสงฆ์ในสมัยก่อน ทำให้ปทุมลักษณะเกิดเต็มฝ่ามือข้างซ้าย จันทลักษณะเกิดเต็มฝ่ามือข้างขวา แม้แต่ฝ่าเท้าด้านซ้ายของนางก็เกิดปทุมลักษณะ ด้านขวาก็เกิดจันทลักษณะ เพราะเที่ยวเดินถวายน้ำฉันแด่ภิกษุสงฆ์ พวกญาติจึงขนานนามว่า จันทปทุมา

ฝ่ายลูกชายเศรษฐีชำระล้างร่างกายแล้ว ก็ถือเอาถุงกหาปณะพันหนึ่ง ประกาศว่า “ ผู้มีความต้องการกหาปณะ จงพากันมารับไปเถิด ” แล้วได้ยืนแจกจ่ายออกไป กหาปณะพันหนึ่งก็ยังคงอยู่ในถุงเหมือนเดิม ไม่มีท่าทีว่าจะพร่องไปเลย ลูกสะใภ้ของเศรษฐีก็ทดลองบุญของตน ด้วยการถือเอากระบุงข้าวเปลือก นั่งแจกข้าวเปลือกจนเต็มภาชนะของคนที่มารับไป ถึงกระนั้นกระบุงข้าวเปลือกก็ยังคงเต็มอยู่ตามเดิม

ส่วนทางด้านคนรับใช้ของเศรษฐี ได้เทียมโคด้วยแอกทองคำ เชือกก็เป็นทองคำ ถือด้ามปฏักทองคำ สวมปลอกทองคำใส่ที่เขาโค แล้วขับไปสู่ทุ่งนา เมื่อเริ่มไถ รอย ๗ รอยคือ “ ข้างซ้าย ๓ รอย ข้างขวา ๓ รอย ตรงกลาง ๑ รอย ” ได้ชำแรกแผ่นดิน ทำให้สามารถไถนาเสร็จได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว การงานสำเร็จเป็นอัศจรรย์ ชาวชมพูทวีปได้ทราบข่าว ต่างก็หลั่งไหลมารับเอาเงิน ทอง กหาปณะ และเมล็ดพันธุ์พืชจากครอบครัวท่านเศรษฐีอย่างไม่ขาดสาย

นี่ก็คือผลบุญที่เกิดขึ้นอย่างอัศจรรย์เมื่อ ๒ ,๕๐๐ กว่าปีที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่เหลือเชื่อแต่ก็เป็นความจริง เพราะผลของบุญที่ทำถูกหลักวิชานั้น เป็นอจินไตย เราจะไปคาดคิดคำนวณด้วยสติปัญญาหยาบๆ ของเราไม่ได้เลย ต้องอาศัยปัญญาญาณของผู้มีรู้มีญาณเท่านั้น ถึงจะเห็นบุญที่จะบังเกิดขึ้นในอนาคตได้ ดังนั้น ขอให้ทุกท่านตระหนักในเรื่องของบุญไว้ให้มากๆ อย่าได้เบื่อหน่ายในการทำความดี แม้ต้องเจอภาวะวิกฤติทางด้านเศรษฐกิจ แต่จิตใจต้องมั่นคง ไม่หวั่นไหวในการเพิ่มเติมบุญบารมีให้กับตัวเอง อย่าได้ทอดทิ้งเรื่องการทำบุญทำกุศล ถ้าเราไม่ทิ้งบุญ บุญจะไม่ทอดทิ้งเรา จะตามปกปักรักษาเราตลอดไป แล้วบุญจะช่วยหนุนนำให้เราได้สมหวังในทุกสิ่ง

ที่มา http://webserv.kmitl.ac.th/~tree/mentaga1.htm
<!-- / message --><!-- attachments -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>



</FIELDSET>

 

มีผู้เสียชีวิต 15 คน จากเหตุเพลิงไหม้เพราะจุดดอกไม้ไฟในจีน​

​

ปักกิ่ง 1 ก.พ. - สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 15 คน และบาดเจ็บ 20 คน จากเหตุเพลิงไหม้ เพราะการจุดดอกไม้ไฟในบาร์แห่งหนึ่ง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน

อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองฉางเล่อ ในมณฑลฝูเจี้ยน เมื่อคืนวันเสาร์ เมื่อกลุ่มผู้มาเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดจุดดอกไม้ไฟที่โต๊ะภายในบาร์ดังกล่าว ทำให้ไฟลุกไหม้ติดเพดานและเปลวไฟลุกลามไปทั่วบาร์จนหมด พนักงานดับเพลิงจึงรุดมายังที่เกิดเหตุทันทีและสามารถดับไฟลงได้ภายในเวลา 30 นาที พบผู้เสียชีวิต 15 คน เพราะสำลักควันไฟ และอีก 20 คนได้รับบาดเจ็บ โดยมีอาการสาหัส 3 คน และอีก 17 คน พ้นขีดอันตรายแล้ว.- สำนักข่าวไทย

2009-02-01 09:40:39

น้ำท่วมอินโดนีเซียคร่าชีวิตไปแล้วกว่า 10 คน​

​

อินโดนีเซีย 2 ก.พ. - เกิดน้ำท่วมและคลื่นขนาดใหญ่ในหลายพื้นที่ของ อินโดนีเซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 10 คน

ทางการอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ประชาชนกว่า 10 คน ต้องเสียชีวิต เนื่องจากถูกคลื่นขนาดใหญ่ซัดออกจากชายหาดแห่งหนึ่งบนเกาะชวา ขณะที่ชาวอินโดนีเซียอีก 9 คน เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมและแผ่นดินถล่มบนพื้นที่อื่น ๆ บนเกาะชวาและสุลาเวสี สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเผยแพร่ภาพบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ผู้คนต้องเดินลุยน้ำที่ท่วมขัง บ้านเรือนของผู้คนบนเกาะสุลาเวสีได้รับความเสียหายอย่างมาก หลังฝนตกลงมาอย่างหนัก

ทั้งนี้ แผ่นดินถล่มและน้ำท่วมเป็นเรื่องปกติของอินโดนีเซียในช่วงฤดูฝน นอกจากนี้ การตัดไม้ทำลายป่ายังเป็นปัจจัยที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น เนื่องจากพื้นที่ไม่มีป่าไม้ป้องกันน้ำท่วมฉับพลันและการพังทลายของดิน. -สำนักข่าวไทย

2009-02-02 14:06:13

ตำรวจเสียชีวิต 18 ศพจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในอัฟกานิสถาน​

​

กันดะฮาร์ 2 ก.พ. - เจ้าหน้าที่อัฟกานิสถาน กล่าวว่า คนร้ายแต่งกายในชุดเครื่องแบบตำรวจจุดระเบิดที่หน้าสถานีตำรวจในจังหวัดอุรุซกันของอัฟกานิสถาน วันนี้ ทำให้ตำรวจเสียชีวิตอย่างน้อย 18 นาย และบาดเจ็บอีก 8 นาย

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ตำรวจดังกล่าวอยู่ภายในสถานีที่เมืองติริน คอต เมืองเอกของจังหวัดอุรุซกัน ในช่วงที่มือระเบิดบุกเข้าไปภายใน และจุดระเบิดที่เขาผูกติดตัวมาด้วย เหตุระเบิดในวันนี้นับเป็นเหตุโจมตีตำรวจครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายเดือนที่อัฟกานิสถาน ซึ่งกลุ่มตอลีบานก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายและระเบิดข้างถนน เพื่อโจมตีกองกำลังอัฟกันและกองกำลังต่างชาติ. - สำนักข่าวไทย

2009-02-02 14:20:11

กระสุนปืนใหญ่ตกใส่ รพ.ในศรีลังกา เสียชีวิต 9 คน​

​

โคลัมโบ 2 ก.พ. - กาชาดในศรีลังกา รายงานว่า มีกระสุนปืนใหญ่ตกใส่โรงพยาบาลในพื้นที่สู้รบทางตอนเหนือของศรีลังกา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน และบาดเจ็บอีก 20 คน

ด้านกองทัพศรีลังกาออกมาปฏิเสธรายงานที่ว่า กองทัพได้ยิงกระสุนปืนใหญ่ใส่โรงพยาบาลในเขตมัลไลติวู ซึ่งอยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม แต่กล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของกลุ่มกบฏ ขณะเดียวกัน กลับมีรายงานในเว็บไซต์ที่สนับสนุนกลุ่มกบฏ กล่าวหาว่า การกระทำครั้งนี้เป็นฝีมือของกองทัพ โฆษกคณะกรรมการกาชาดสากล (ไอซีอาร์ซี) กล่าวว่า ไอซีอาร์ซีได้เรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่าย เปิดทางให้แก่ผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บในเขตสู้รบ

กองทัพศรีลังกาล้อมกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬในพื้นที่ป่าทางตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีเป้าหมายเพื่อยุติสงครามที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2526 และเป็นหนึ่งในความขัดแย้งที่ยืดเยื้อยาวนานที่สุดในเอเชีย. - สำนักข่าวไทย

2009-02-02 18:21:32

หิมะตกหนักทั่วอังกฤษทำโรงเรียนปิดหลายร้อยแห่ง ​

​

ลอนดอน 2 ก.พ. - เกิดหิมะตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศอังกฤษ ส่งผลให้การเดินทางประสบปัญหา และโรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอนไปหลายร้อยแห่ง

ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ มีหิมะตกหนักครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 18 ปี ส่งผลให้รถโดยสารประจำทางทุกสายในกรุงลอนดอนต้องหยุดให้บริการ สนามบินฮีทโธรว์ต้องปิดทางขึ้นลงเครื่องบิน การเดินทางบนท้องถนนและรถไฟเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะมีหิมะกองหนาถึง 6 นิ้ว ทางการอังกฤษยังเตือนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ให้สวมเสื้อผ้าให้อบอุ่นก่อนออกเดินทาง ไม่เช่นนั้นความหนาวเย็นของอากาศอาจส่งผลให้ร่างกายเสี่ยงต่อการสูญเสียความร้อนโดยฉับพลัน จนเป็นเหตุให้ไม่สบายได้

สำนักงานอุตุนิยมวิทยา เตือนให้ระวังความผันผวนของสภาพอากาศในอังกฤษ แคว้นเวลส์ และหลายพื้นที่ทางตะวันออกของสกอตแลนด์ คาดว่าจะมีหิมะตกหนักขึ้นไปจนถึงวันพรุ่งนี้. - สำนักข่าวไทย

2009-02-02 17:13:53

นักเคลื่อนไหวเตรียมส่งเงินเกาหลีเหนือข้ามประเทศแม้ทางการเตือนซ้ำ​

​

โซล 2 ก.พ.- นักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้เตรียมส่งเงินเกาหลีเหนือลอยเข้าไปในเกาหลีเหนือ หวังปลุกกระแสต่อต้านรัฐบาลในช่วงวันคล้ายวันเกิดนายคิม จองอิล ผู้นำเกาหลีเหนือแม้ทางการเกาหลีใต้เตือนซ้ำว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย

ก่อนหน้านี้นักเคลื่อนไหวนำเงินดอลลาร์สหรัฐ หรือเงินหยวนของจีนแนบใบปลิวผูกลูกโป่งลอยเข้าไปในเกาหลีเหนือ แต่ครั้งนี้จะเปลี่ยนเป็นเงินเกาหลีเหนือ กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้เตือนซ้ำในวันนี้ว่า พวกเขาอาจถูกจำคุกหรือปรับหากส่งเงินเกาหลีเหนือโดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางการ แต่พวกเขายืนกรานว่าพร้อมถูกลงโทษและจะส่งเงินเกาหลีเหนือแนบใบปลิวลอยข้ามประเทศในช่วงใกล้วันคล้ายวันเกิดของนายคิม จองอิล 16 ก.พ.นี้

นักเคลื่อนไหวนำธนบัตรเกาหลีเหนือฉบับละ 5,000 วอน (ราว 45.50 บาท) มาแสดงให้ผู้สื่อข่าวดูโดยบอกว่าสามารถซื้อข้าวสารในเกาหลีเหนือได้ 1 กิโลกรัม การส่งเงินเหล่านี้จะเป็นการส่งเงินไปให้ครอบครัวของพวกเขาที่ถูกลักพาตัวไปอยู่ในเกาหลีเหนือ.-สำนักข่าวไทย

2009-02-02 14:21:05

สธ.จีนพบผู้ป่วยติดหวัดนกรายที่ 8​

​

จีน 1 ก.พ.-พบผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดนกเป็นรายที่ 8 ในจีนนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

เว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุขจีนระบุว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดนกเอช 5 เอ็น 1 รายล่าสุดนี้เป็นหญิงวัย 23 ปี จากมณฑลหูหนาน ล้มป่วยมาตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม โดยมีประวัติสัมผัสกับสัตว์ปีกที่ล้มตายมาด้วยโรคไข้หวัดนกมาก่อน ขณะนี้ผู้ป่วยรายดังกล่าวยังคงพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลโดยอาการยังทรงตัว ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าสังเกตอาการของบุคคลที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยหญิงรายนี้ด้วย แต่ก็ยังไม่พบว่ามีผู้ใดแสดงอาการป่วย

นับแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนกในจีนระลอกใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 5 คน ตัวเลขขององค์การอนามัยโลกระบุว่านับแต่มีการระบาดของเชื้อไข้หวัดนกเมื่อปี 2546 ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 254 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวจีน 25 คน.-สำนักข่าวไทย

2009-02-01 15:28:31

ผู้นำอิหร่านเรียกร้องให้คว่ำบาตรสินค้าอิสราเอล ​

​

เตหะราน 2 ก.พ.- ประธานาธิบดีมาห์มูด อาห์มาดิเนจัด ของอิหร่าน เรียกร้องให้คว่ำบาตรสินค้าอิสราเอล ทั้งยังเตือนว่าอิสราเอลอาจหวนกลับมาโจมตีชาวปาเลสไตน์ซ้ำอีก

เว็บไซต์ของประธานาธิบดีอิหร่าน รายงานว่า ประธานาธิบดีอาห์มาดิเนจัด ได้พูดเรื่องนี้ระหว่างพบปะหารือกับ นายคาเลด เมชาลล์ หัวหน้ากลุ่มติดอาวุธฮามาสของปาเลสไตน์ ซึ่งแม้กลุ่มฮามาสและอิสราเอลจะได้ประกาศข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 18 เดือนที่แล้ว เป็นการยุติสงครามในกาซาที่ยืดเยื้อมานานถึง 22 วัน จนส่งผลให้มีคนปาเลสไตน์เสียชีวิตไปกว่า 1,330 คน และคนอิสราเอลเสียชีวิตไป 13 คน แต่ประธานาธิบดีอาห์มาดิเนจัด ของอิหร่าน ก็ยังเชื่อว่า ท้ายสุดแล้วอิสราเอลจะหาทางกลับมาโจมตีกาซาอีกครั้ง

ด้านนายเมชาลล์ หัวหน้ากลุ่มฮามาส ยังได้มีโอกาสพบปะกับ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ระหว่างการเยือนอิหร่านเป็นครั้งแรกนับจากสงครามในกาซาปะทุขึ้น ซึ่งอิหร่านก็เป็นประเทศที่มีจุดยืนสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธฮามาส และไม่ยอมรับอิสราเอล. -สำนักข่าวไทย

2009-02-02 16:12:05

รมต.อิสราเอลแย้งกันเรื่องเปิดสงครามกาซารอบใหม่​

​

เยรูซาเลม 2 ก.พ. - รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล เผยอิสราเอลไม่มีเจตนาจะเปิดฉากปฏิบัติการใหญ่ครั้งใหม่ในเขตฉนวนกาซา แย้งกับรัฐมนตรีต่างประเทศที่ระบุว่า หากจำเป็นจะเปิดฉากรุกครั้งใหม่

นายเอฮุด บารัค รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ให้สัมภาษณ์เว็บไซต์ข่าววายเน็ตว่า อิสราเอลไม่คิดเปิดฉากปฏิบัติการ

 

รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับปฏิทินชาวมายัน
(The world will not end.It will be transformed ) ​

​

เทวตา<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_893733", true); </SCRIPT> สมาชิก​

วันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2012 เป็นวันเกิดใหม่ เป็นการเริ่มต้นของ the World of the Fifth Sun เป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ ​

ตามที่ได้อ่านมาผมเข้าใจว่า หลังจากวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012 เป็น new world ส่วน ตั้งแต่ ค.ศ.1987 ถึง ค.ศ.2012 เป็นโลกยุคเก่า old world ใน old world จะแบ่งเป็น ​

- ช่วงเวลาเริ่มเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ ค.ศ.1987 - 2008/2009
- ช่วงเวลาการเปลี่ยนแปลง (ทำลาย) ค.ศ 2008/2009
- ช่วงเวลาการเปลี่ยนแปลง (ฟื้นฟู) การฟื้นฟูธรรมชาติน่าจะใช้เวลาประมาณสอง-สามปี ค.ศ. 2009-2012 เข้าสู่ new world อย่างเป็นทางการ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012 คล้ายๆเป็นวันสถาปนาชาติทำนองนั้น​

​

kananun<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_894726", true); </SCRIPT> สมาชิก​

เขายังพูดถึงสิ่งที่เขามองจากปัจจุบันจนถึงวัน the Winter Solstice of 2012 (วันที่สั้นที่สุดในฤดูหนาวของปี 2555)
<O
การเกิดฤดูหนาวนิวเคลียร์จนแทบไม่มีกลางวัน มีแต่ความมืดมิดหนาวเหน็บ

The daykeepers ผู้เรียนรู้เกี่ยวกับปฏิทินระบุวันสำคัญของปี One Reed, Ce Acatal ซึ่งเป็นวันที่บรรพบุรุษคนสำคัญที่ได้รับพยากรณ์จะกลับมา มาเหมือนผีเสื้อบิน<O

เหตุการณ์ที่ พระเมสิอาห์ หรือพระศรี หรือท่านผู้อยู่ในตำนานของทุกอารยะธรรมจะ ปรากฏสู่โลกด้วยการเหาะ มาปรากฏ ด้วยความอัศจรรย์

Harmonic Convergence (การรวมกันเป็นหนึ่งอย่างสอดคล้องกัน) คนเป็นล้านได้ใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ สวดมนต์เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงสู่ยุคใหม่ (The world of the 5<SUP>TH </SUP>Sun) ให้เป็นไปอย่างราบรื่น<O

เริ่มมีการสื่อสารกับจิตวิญญานบริสุทธิ์ และมีการทำสมาธิหมู่ หรือการทำอภิจิตในหลายศาสนาและหลายแห่งทั่วโลก อันเป็นการรวมพลังงานอันบริสุทธฺปลุกจิตวิญญานภายในให้ตื่นขึ้น

ขณะที่เราผ่านช่วงเวลาที่เปลี่ยน จะมีการทำลายล้างอย่างกว้างขวาง ความสับสน อลหม่านทางสังคม สงคราม ตลอดจนการเปลี่ยนแปลง กายภาพของโลกทั้งหมดนี้ Mr. Barrios บอกว่าได้ถูกมองเห็นผ่านคณิตศาสตร์ รูปแบบเกลียวที่ดูเข้าใจง่าย จากปฏิทินมายัน

ยุคสมัยแห่งภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้น นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโลก<O ให้เป็นยุคใหม่

The Daykeepers ชาวมายัน มองว่า วันที่ 21 ธันวาคม 2012 เป็นวันเกิดใหม่ เป็นการเริ่มต้นของ the World of the Fifth Sun เป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ เป็นผลมาจาก- เป็นเครื่องหมายว่า- ดวงอาทิตย์เดินทางผ่านเส้น equator ของ Galaxy และโลกจะปรับทิศทางให้เข้ากับศูนย์กลางของ Galaxy

ดวงอาทิตย์ขึ้นของวันที่ 21 ธันวาคม 2012 เป็นครั้งแรกในรอบ 26,000 ปี ดวงอาทิตย์จะขึ้นเชื่อมกับการทับกันของทางช้างเผือกกับระนาบของ Ecliptic พรรณนาว่าบนท้องฟ้าจะปรากฏดาวเคราะห์ และดวงดาวต่างๆมากมาย ปรากฏการณ์ของจักรวาลครั้งนี้ถือว่าเป็น The Sacred Tree, The Tree of Life

ผู้สังเกตการณ์บางท่านกล่าวว่า การที่ดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งเดียวกับ Galaxy ในปี 2012 จะเปิดช่องทางหนึ่งสำหรับพลังงานจักรภพที่จะไหลผ่านโลก ล้างโลกให้สะอาด รวมทั้งล้างสิ่งที่อาศัยอยู่ ยกทั้งหมดสู่ภาวะที่สูงขึ้น ขั้นตอนเหล่านี้ได้เกิดขึ้นแล้ว

สำหรับเรื่องนี้ วิทยาการปัจจุบันเข้าใจการโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ แต่ที่จริงระบบ สุริยจักรวาลของเรามีการโคจรรอบๆกาแลกซี่อีกด้วย ซึ่งวัฏฏะจักรยาวนานเป็นรอบพันๆปีและมี วงโคจรใหญ่ของกาแล๊กซี่ไปรอบมหาจักรวาลอีก การย้ายตำแหน่งนี้ก่อให้เกิดมหายุค เช่นเดียวกับ การหมุนรอบตัวเองของโลกทำให้เกิดวัน การโคจรรอบดวงอาทิตย์ทำให้เกิดปี ส่วนการโคจรของระบบสุริยะนี้ทำให้เกิดมหายุค (คณานันท์)

ถ้าคนบนโลกอยู่ถึงปี 2012 โดยยังมีสภาพปกติ ปราศจากการถูกทำลาย Mr. Barrios กล่าวว่า เราจะเข้าสู่ภาวะใหม่ ที่สูงขึ้น แต่เพื่อไปถึง ณ จุดนั้นได้ เราต้องเปลี่ยนด้วยแรงที่มีพลังมหาศาลเพื่อที่จะป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่พึงปรารถนานั้น

วันที่ระบุในปฏิทิน - เป็นวันที่สั้นที่สุดในฤดูหนาวปี 2012

 

เรียนคุณLazaza ไม่ต้องกังวลหรอกครับถึงเวลาแล้วก็จะรู้เองว่าแต่ละคนมีหน้าที่อะไร ตอนนี้ไม่รู้ก็ไม่แปลกอะไร ฝึกทำสมาธิเจริญภาวนา ฝึกสติให้มากขึ้น เรียนธรรมะให้มากขึ้น ทำบุญกุศลให้มากขึ้น เท่านี้ก็ถือว่าเยี่ยมแล้วครับ จะมีหน้าที่หรือไม่มีหน้าที่ไม่สำคัญมุ่งสู่เส้นทางนิพพานสำคัญที่สุดครับ เตรียมตัวเตรียมใจรับกับความตายหรือยังถ้ายังก็เตรียมเถอะครับ อย่าไปกังวลเรื่องมีหน้าที่หรือไม่มีหน้าที่เลยครับ

 

<TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>หิมะถล่มยุโรปเดือดร้อนถ้วนหน้า </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อ 2 ก.พ.หลายพื้นที่ทั่วยุโรปตะวันตกเผชิญสภาพอากาศหนาวเย็นและหิมะตกหนัก ก่อความเดือดร้อนถ้วนหน้า

โดยที่อังกฤษมีหิมะตกหนักตลอดคืนวันอาทิตย์ล่วงถึงวันจันทร์ ส่งผลกระทบต่อการเดินทางและขนส่งทั่วประเทศรวมทั้งกรุงลอนดอน มีเที่ยวบินหลายเที่ยวเลื่อนเดินทางระบบขนส่งมวลชนเป็นอัมพาตทั้งใต้ดินและบนดิน เพราะสภาพอากาศไม่อำนวยและหวั่นเกิดอุบัติเหตุตามมา
พื้นที่แถบตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษถูกหิมะถล่มหนักสุด บางแห่งหิมะปกคลุมสูง 25 ซม.

รวมทั้งเมืองเคนท์ เซอร์เรย์ และซัสเซ็กซ์ เฉพาะที่เมืองเคนท์ มีการสั่งปิดโรงเรียนด้วยกว่า 50 แห่ง ส่วนกรุงลอนดอนหิมะคลุมสูงราว 10 ซม. หนักสุดในรอบ 18 ปี ด้านบีบีเอซึ่งบริหารสนามบิน 7 แห่งในอังกฤษ เตือนผู้โดยสารตรวจสอบข้อมูลกับสายการบินให้ถ้วนถี่ป้องกันผิดพลาด

ส่วนที่ฝรั่งเศส ซึ่งเผชิญสภาพอากาศเลวร้ายเช่นกัน มีการเลื่อนเดินทางหลายเที่ยวบินในสนามบินออร์ลีและรอยส์ซี-ชาร์ลส์ เดอ โกลในกรุงปารีส

และยังเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนับสิบเหตุการณ์ แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ หิมะตกหนักยังสร้างความยุ่งเหยิงต่อการจราจรในหลายพื้นที่ของสเปนรวมทั้งในกรุงมาดริด ขณะที่อิตาลี เบลเยียม และสวิตเซอร์แลนด์ เผชิญภาพอากาศเลวร้ายและได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เตือนคลื่นความร้อนคร่าเฒ่าออสซี่</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อ 1 ก.พ. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเหตุอากาศวิปริตแปรปรวน

พื้นที่ภาคใต้ของประเทศออสเตรเลีย เผชิญวิกฤตอากาศร้อนจัดที่สุดในรอบ 100 ปี ว่า อุณหภูมิเริ่มทุเลาเบาบางลดต่ำลงมาน้อยกว่า 40 องศาเซลเซียส และยอดผู้เสียชีวิตเพราะอากาศร้อนบ้าเลือดอยู่ที่ 28 ราย

สภาพอากาศในนครเมลเบิร์น กับนครอะดีเลด สองเมืองใหญ่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ ลดความร้อนระอุลงเพราะมีกระแสลมเย็นพัดเข้าสู่พื้นที่

ช่วยให้อุณหภูมิถอยมาอยู่ที่ 30 องศาเซลเซียสเศษ หลังจากช่วงหลายวันที่ผ่านมาพุ่งทะลุเกิน 40 องศา เป็นเหตุให้เกิดไฟป่าทางฝั่งตะวันออกของนครเมลเบิร์น ล่า สุด หน่วยดับเพลิงแถลงว่า ควบคุมเพลิงได้แล้วแม้ความเสียหายจะกินรัศมีนับหมื่นไร่

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ภาวะร้อนจัดในพื้นที่ภาคใต้ทำให้พื้นที่การเกษตรเพาะปลูกผลไม้เสียหายจำนวนมาก

แต่สำหรับเกษตรกรทางภาคเหนือยังไม่ต้องกังวล เพราะคลื่นความร้อนจำกัดวงแผ่อิทธิพลเฉพาะตอนใต้เท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขขอให้ประชาชนดูแลกลุ่มผู้สูงอายุมากเป็นพิเศษ และดื่มน้ำมากกว่าปกติในช่วงนี้ เนื่องจากสัปดาห์ต่อไปอากาศจะกลับมาร้อนอีก
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ภาพการค้นพบอารยธรรมโบราณ มหาปีรมิดใต้มหาสมุทร บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ​

​

​

​

​

​

​

​

​

​

ชมภาพอื่นๆและเนื้อหาเพิ่มเติม http://www.crystalinks.com/pyrunderwater.html

 

เมื่อวาน ลูกตะขาบขึ้นมาจากรังใต้ดิน ร้อยกว่าตัว ไม่ทราบว่ากำลังจะหนีอะไร เพราะบ้านอยู่มา 20กว่าปี ก้ออยู่ด้วยกันมาตลอดนานๆจะขึ้นมาสักทีทีละตัวสองตัว แต่คราวนี้ ขึ้นมาแดงเต็มพื้น ร้อยกว่าตัว

 

สัญญาณเตือนล่วงหน้าของพิบัติภัย แกนโลกพลิกเปลี่ยน(Pole Shift)ทุก ๑๐,๐๐๐ ปี ​

​

​

มีสัญญาณให้สังเกตเห็นล่วงหน้าประมาณ ๒-๓ สัปดาห์ เบื้องต้นผู้คนทั่วไปสังเกตุเห็นความผิดปกติได้ทั้ง ๓ ระนาบ คือท้องฟ้า พื้นแผ่นดิน และทะเล มหาสมุทร ​

ให้สังเกตเห็นสิ่งที่ผิดปกติที่มนุษย์ในรุ่นยุคปัจจุบันไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อสนามแม่เหล็กโลกเริ่มเปลี่ยนแปลงผันผวน แรงโน้มถ่วง ลาวา การเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ก็ผันผวนผิดปกติ

ท้องฟ้า

๑. ฟ้าจะคำรามติดต่อกันนานแทบทั้งวัน เพราะการปลดปล่อยประจุไฟฟ้าสถิตย์ในชั้นบรรยากาศที่สะสมมาเนื่องจากสนามแม่เหล็กโลกผันผวนหนัก

๒. กลางวันมืดหลายวัน เพราะมีแสงน้อย มีเมฆสีเทาเข้มปกคลุมบังดวงอาทิตย์เป็นเวลานานติดต่อกันหลายวัน

๓. เมื่อเข้าถึงเวลากลางคืน ๒ ทุ่ม ถึง ๓ ทุ่ม บางวันก็ยังไม่มืด ยังสว่างเหมือนเวลา๔-๕ โมงเย็นปกติ

๔. มองเห็นสิ่งแปลกปลอมบนท้องฟ้า จำพวกวัตถุบินได้ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

พื้นแผ่นดิน

๕. มีสัตว์บางชนิดที่อาศัยใต้ดินลึก ที่มนุษย์ไม่เคยเห็นมาก่อนขึ้นมาให้เห็น รูปร่างหน้าตาสัตว์เหล่านี้ไม่มีในพจนานุกรมสัตว์โลกที่เคยอ่านกัน เพราะไอกำมะถัน ไอร้อนจากก๊าซใต้เปลือกโลกดันตัวขึ้นมา บ้างก็สัตว์บางตัวก็มีชีวิตได้ไม่นาน บ้างก็ขึ้นมาตาย

๖. มีแผ่นดินไหวเป็นระลอกใหญ่ ต่อเนื่องกันทุกมุมโลก

ทะเลมหาสมุทร

๗. มีสัตว์บางชนิดที่อาศัยใต้ทะเลมหาสมุทรในระดับที่ลึกมาก ที่มนุษย์ไม่เคยเห็นมาก่อนขึ้นมาให้เห็น รูปร่างหน้าตาสัตว์เหล่านี้ไม่มีในพจนานุกรมสัตว์โลกที่เคยอ่านกัน เพราะไอกำมะถัน ไอร้อนจากก๊าซใต้เปลือกโลกดันตัวขึ้นมา บ้างก็สัตว์บางตัวก็มีชีวิตได้ไม่นาน บ้างก็ขึ้นมาตาย

๘. มีแผ่นดินไหวใต้ทะเลระดับที่รุนแรงจนมีซึนามิหลายประเทศในเวลาที่ใกล้เคียงกันหลายจุดในโลก

แต่อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เหล่านี้ที่จะเกิดขึ้น อาจจะยังนานอีกหลายปี หรือเป็นระยะเวลาอันใกล้ที่จะถึง ทุกอย่างในโลกล้วนมีความผันแปรไม่มีอะไรเที่ยงแท้ ผู้มีปัญญาควรไม่ประมาทในการใช้ชีวิต ควรศึกษาธรรมะ รักษาศีล ทำทาน มอบความรักเมตตาอารีย์เพื่อนมนุษย์ หมั่นละลดอัตตาตัวตน ดูแลรักษาธรรมชาติให้ดี เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นดังกล่าว มนุษย์ยุคเราอาจได้เห็น และอยู่ในช่วงเวลาที่จะข้ามผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ ด้วยกัน

เหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นอนาคตโดยลำดับ

-สงครามสู้รบกลางเมืองปะทะกันทางอุดมการณ์ทางการเมืองไทย ๒๕๕๑
-สงครามระหว่างประเทศมหาอำนาจแถบเอเชีย ที่ปะทุจากประเทศเล็ก
และ/หรือ อุบัติเหตุความผิดพลาดจากการทดลอง ทางเทคโนโลยีชั้นสูงที่ควบคุมปฏิกิริยาการแตกตัวไม่ได้แถบยุโรป
-แกนโลกพลิกเปลี่ยน Pole Shift

แกนโลกพลิกเปลี่ยน Pole Shift

โลกมนุษย์คล้ายผลส้มกลมๆ ห่อหุ้มด้วยชั้นบรรยากาศ ที่มองไปแล้วขอบฟ้าห่างเท่ากันรอบทิศ เมื่อจังหวะพลิกเปลี่ยนเป็นเวลากลางวันในเอเซีย จะรู้สึกพื้นที่ยืนอยู่เอียงไปราวๆ 10-15 องศา ท้องฟ้าด้านนึงจะกว้าง อีกด้านตรงข้ามจะแคบ จะสังเกตเห็นได้ชัด แล้วพลิกเอียงกลับระดับเดิม

ถัดจากนั้นไม่ถึง 5 นาที แผ่นดินไหวรุนแรง ระดับความรุนแรงสูงสุดนี้ไม่เคยมีมาก่อน ศูนย์กลางของแผ่นดินไหว ไม่ได้อยู่แถบเอเชีย

จังหวะการพลิกเอียงครั้งแรก ทำให้สร้างแรงน้ำในมหาสมุทร ไหลทะลักคืนสู่แผ่นผืนทวีปที่มีระดับความสูงมากกว่าตึก 10 ชั้น แถบพื้นที่ใกล้ทะเลแล้วลดหลั่นไป ตามระยะทางหลายสิบกิโลเมตร แต่เนื่องจากแผ่นดินไหวตามมา จึงทำให้คนตกใจลงมาจากตึกสูง ทำให้เจอกับคลื่นที่ไหลทะลักเข้ามา เขื่อนเก็บน้ำบางแห่งก็แตกมีน้ำทะลักท่วมเข้ามาเสริม

คนที่รอดจะต้องข้ามผ่านความมืดอีกหลายวัน พร้อมกับความหิว ความตื่นตระหนก ความหวาดระแวง ความกลัว ความเสียใจเสียขวัญ ตาเปล่าสามารถเห็นวิญญาณและสัตว์ร้ายโลกวิญญาณได้บางขณะ บางคนต้องเสียสติจากความสูญเสียความพลัดพรากจากคนที่รัก และความตื่นกลัว... คนที่ครองสติได้ดี คอยดูแลและปลอบประโลมทุกข์โศก ให้แก่คนรอบข้าง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพวกที่มีอินทรีย์แก่กล้า ผ่านการเพาะบ่มประสบการณ์ธรรมะมามากแล้ว

เกือบสัปดาห์ผ่านไป ชีวิตใหม่จึงเริ่มต้นพร้อมแสงสว่าง อากาศบรรยากาศใหม่พร้อมการเปลี่ยนแปลง เชิงชีวภาพของร่างกายคนและสัตว์ ให้อายุยืนยาวกว่ายุคก่อนหน้า ลมหายใจใหม่ ความหวังใหม่ บางเกาะทวีปเล็กที่ผุดขึ้นมาจากแผ่นน้ำใกล้ๆ กลางอ่าวไทย....

เนื้อหาดังกล่าวมาจากผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์ในอดีต ที่มีการเปลี่ยนผ่านในรอบอดีตมาครั้งสองครั้ง เป็นความรู้เพื่อบรรเทาความสูญเสีย และให้พลังในการล่วงรู้เพื่อข้ามผ่านเหตุการณ์อนาคตอย่างมีสติ แต่ปัจจุบันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นมีเพียงในกายและจิต ของผู้อ่านเท่านั้น จึงควรฝึกฝนสังเกตตัวนี้ไปก่อน

​

ภาพจารึกภัยพิบัติของชนพื้นเมืองชาวมายา และเรื่องราวต่างๆศึกษาหาได้จากตำนานของบรรพชนคนโบราณบันทึกไว้ใน เรือโนอาร์(ไบเบิ้ล), ตำนานการหนีน้ำของกิลกาเมซ(เมโส-โปเตเมีย), พระมนู(อินเดีย), ตำนานบันทึกของทวีปมู-รีมูเลีย ซึ่งเป็นช่วงยุคเวลาใกล้เคียงกันคือ ๑๐,๐๐๐-๑๓,๐๐๐ ปีล่วงมาแล้ว

บทความของคุณ svt จากเว็บธรรมศาลา

ที่มา http://www.dhammachak.net/board/viewtopic.php?t=475

 

ซากเมืองโบราณที่กำลังขุดเพื่อบูรณะ ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเมืองโบราณ เกาะคอเขา พังงา
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเกาะคอเขา มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น เมืองโบราณ ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ที่เป็นแหล่งศึกษาวิจัยทางโบราณคดี ซึ่งมีจุดที่กำลังขุดค้นบูรณะจำนวน 6 จุด และที่ผ่านมามีการขุดค้นพบลูกปัด เครื่องทองและอื่นๆจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังมีชายหาดออกทะเลที่มีความยาวประมาณ 17 กิโลเมตร เกาะผ้าเป็นเกาะที่มีปะการังสวยงามอยู่ใกล้ชายหาด มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน และอื่นๆอีกด้วย

นอกจากนั้นชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า ยังจุดที่เรือกลไฟจมไม่ห่างจากฝั่งมากนัก ซึ่งมีปลาฉลามขนาดยักษ์ติดอยู่ในซากเรือจำนวน 2 ตัว โดยนักท่องเที่ยวเคยถ่ายรูปได้ ส่วนแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆบนเกาะคอเขายังมีอีกจำนวนมาก ซึ่งล้วนแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติทั้งสิ้น

เกาะคอเขา เป็นชุมชนเก่าสมัย......ปี ซึ่งโดน... ถล่มก่อนหน้านี้มาแล้ว มีการพบ ซากกำแพงเมืองโบราณ ทั้งที่ยังตั้งใว้บนพื้นดิน และ ที่จมในทะเล
และที่น่าเศร้าใจ คือ คลื่นยักษ์ ใด้เคลื่อนตัว มาอีกครั้งเมือ ธันวา 2547

คุระบุรี ,ตะกั่วป่า จ.พังงา - เป็นชุมชนเก่าแก่มากมายซ้อนกัน หลายยุคสมัย ตามที่ หลายท่านใด้พบเห็น ทั้งวิทยาศาสตร์ และ...


กองหิน ที่เรียวตัวกันอย่างมีระเบียบ จัดวาง ใด้อย่างไร ในหน้าหาด บ้านคึกคัก ตะกั่วป่า ที่ชาวบ้านเรียกว่า ซอยหินสบ้า.... หรือว่า นี่คือ ชิ้นส่วน อย่างหนึ่ง ของสถานโบราณคดีใต้ท้อง มหาสมุทรแปซิฟิก ที่กำลัง รอการพิสูจน์ และ กำละจะโผล่ ขึ้นมาเอง ตามหลักธรรมชาติ..

ที่จมอยู่จะโผล่ขึ้นมา .....ที่โผล่ให้เห็น จะจมลงไปแทนที่....
ท่านอย่าคิดว่า....แอสแลนติส จะอยู่ที่ไหน...พื้นใต้พิภพ ใด้เคลื่อนตัว เรื่อยๆ จนอาจจะทำให้ ดินแดน ที่ เคยอยู่ติดกัน เคลื่อนตัว ออกห่าง....

บนเนินเขาลูกหนึ่งใน คุระบุรี ทีการขุดค้นลูกปัด ภาพแรกจะเห็นหลุมลึก กว้าง มีดวงธรรมติดมาด้วย มีสถูป เก่า ที่ถูกรื้อทำลาย และมี คนข้างบ้านจัดตั้งมา 2 แถว ผมเอง นาคา พร้อมน้องชาย ร่วมกัน หาก้อนอิฐที่ ยังคงเหลือ ประกอบตั้ง ใด้เป็น 3 แถวๆ พร้อมกับตำนาน เขาพระหมี ที่มีคนเจอ ฤาษี ผ้าขาว บำเพ็ญ ...และ ช้างน้ำ

เมื่อหลายปีก่อน ผมใด้ชมสารคดี ออกรายการ TV.พบชิ้นส่วนเรื่อ โน-อาว์ บนเชิงเขาหิมาลัย....

อะไร คือ คำตอบ...

 

*** ฝันไปบอกเรื่องโลกจะเปลี่ยนแปลง ***
​

​

​

ฝันบอก ผู้หญิงมีอายุคนหนึ่ง ที่คุ้นเคยทำบุญกับท่านผู้หญิง
คนในวังเรื่อง การเปลี่ยนแปลงของโลก
จากขั้วโลกเหนือ จะมุ่งเป็นเส้นตรงสู่ขั้วโลกใต้
โดยจะผ่านกลางประเทศไทย
แต่ก่อนถึงประเทศไทย จะเบี่ยงออกไปแถวๆอินเดีย
เกิดจุดแดงใหญ่ที่อินเดีย
แล้วจึงหักมุมกลับมาที่ใต้ประเทศไทย
แล้วเบี่ยงเข้าเส้นตรงแนวเดิมสู่ขั้วโลกใต้
บอกผู้หญิงคนนี้ว่า ไม่ได้รู้จากชาญ ญาณอะไร
รู้จากฝันที่เกิดจาก สัจจะทำ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "
​

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
​

ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=79471&page=126
<!-- / message -->

 

ท่านเศรษฐีกำลังประสบความหิวอย่างหนัก เพราะฉาตกภัยเกิดขึ้นติดต่อกันนานหลายปี ภรรยาได้หุงข้าวมื้อสุดท้าย เพื่อยืดชีวิตของคนในครอบครัวออกไป และในขณะที่กำลังจะรับประทานอาหารเช้านั้น พระปัจเจกพุทธเจ้าได้เสด็จมาบิณฑบาตอยู่หน้าบ้าน หลังจากที่ท่านได้เข้าสมาบัติอยู่ ๗ วัน ซึ่งตามธรรมดาของพระปัจเจกพุทธเจ้าที่เข้านิโรธสมาบัตินานถึง ๗ วัน โดยไม่ได้ฉันภัตตาหารเลยนั้น เมื่อออกจากนิโรธสมาบัติก็ต้องมีความหิวกระหายมากเหมือนกับมนุษย์ทั่วไป แต่ท่านสามารถยับยั้งไว้ได้ด้วยอำนาจของมหาสมาบัติ แต่ถ้าไม่ได้ฉันในวันที่ ๗ ก็ต้องดับขันธ์เข้าสู่นิพพาน เพราะขันธ์ ๕ ไม่สามารถทนอยู่ได้อีกต่อไป

ท่านเศรษฐีพอเห็นพระมาโปรดที่บ้าน เกิดมีจิตเลื่อมใส ท่านสอนตัวเองว่า “ ที่เราต้องประสบฉาตกภัยเห็นปานนี้ เพราะเราไม่ได้ให้ทานในกาลก่อน อาหารมื้อนี้รักษาเราไว้ได้เพียงวันเดียวเท่านั้น ส่วนภัตที่เราถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า จะนำประโยชน์เกื้อกูลมาให้แก่เราหลายโกฏิกัป เราอย่าได้เห็นแก่ประโยชน์ตนเฉพาะแต่เพียงในชาตินี้เลย ด้วยจิตเลื่อมใสที่เราจะได้ถวายอาหารมื้อสุดท้ายแก่พระคุณเจ้านี้ ขอให้ภพชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายที่เราต้องอดอยากเถิด ”

เมื่อตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดแล้ว จึงน้อมนำถาดภัตนั้นออกมา เดินเข้าไปหาพระปัจเจกพุทธเจ้า กราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์ นิมนต์ให้เข้าไปในบ้าน เมื่อท่านนั่งบนอาสนะแล้ว จึงค่อยๆ เกลี่ยภัตในจานข้าวลงไปในบาตร เมื่อภัตเหลือครึ่งหนึ่ง พระปัจเจกพุทธเจ้าก็เอามือปิดบาตรไว้ เศรษฐีอยากได้บุญใหญ่ จึงกราบเรียนพระปัจเจกพุทธเจ้าว่า “ ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ภัตตาหารนี้เพียงพอเฉพาะคนๆ เดียวเท่านั้น ขอท่านจงอย่าสงเคราะห์กระผมในโลกนี้เลย กระผมใคร่ที่จะถวายไม่ให้มีส่วนเหลือ ” ว่าและได้ถวายภัตทั้งหมดลงในบาตร

ครั้นถวายอาหารมื้อสุดท้ายด้วยใจที่เลื่อมใสแล้ว จึงตั้งความปรารถนาอย่างแรงกล้าว่า “ ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าอย่าได้ประสบฉาตกภัยเห็นปานนี้ ในที่ๆ ข้าพเจ้าเกิดอีกเลย ตั้งแต่บัดนี้ไป ข้าพเจ้าพึงสามารถเพื่อจะให้ภัตแก่ชาวชมพูทวีปได้ทั้งหมด ข้าพเจ้าไม่พึงงานเลี้ยงชีพด้วยมือของตนเอง ในขณะที่ข้าพเจ้าใช้ให้คนชำระฉาง ๑ , ๒๕๐ ฉาง และชำระร่างกายให้สะอาดแล้ว นั่งอยู่ที่ประตูฉางเหล่านั้น มองดูในเบื้องบนเท่านั้น ธารแห่งข้าวสาลี พึงตกลงมาในฉางทั้งหมดให้เต็ม และผู้นี้จงเป็นภรรยา ผู้นี้จงเป็นบุตร ผู้นี้จงเป็นหญิงสะใภ้ และผู้นี้จงเป็นทาสของข้าพเจ้า ในสถานที่ๆ ข้าพเจ้าเกิดแล้วเถิด ”

ฝ่ายภรรยาของท่านเศรษฐี ก็คิดว่า “ เมื่อสามีของเราไม่ได้รับประทาน เราก็ไม่อาจจะรับประทานได้ ” จึงถวายส่วนของตัวเองแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า แล้วตั้งความปรารถนาว่า “ ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ตั้งแต่บัดนี้ไป ขอดิฉันอย่าพึงประสบกับฉาตกภัยเห็นปานนี้อีกเลย อนึ่ง เมื่อดิฉันวางถาดภัตไว้ข้างหน้า ให้ภัตแก่ชาวชมพูทวีปทั้งหมด ตราบใดที่ดิฉันยังไม่ลุกขึ้น ขอภัตที่ดิฉันตักแล้ว จงเต็มบริบูรณ์ดุจเดิมตราบนั้น เกิดกี่ภพกี่ชาติ ท่านผู้นี้ จงเป็นสามี ผู้นี้จงเป็นบุตร ผู้นี้จงเป็นหญิงสะใภ้ และผู้นี้จงเป็นทาสของดิฉัน ”

ลูกชายเศรษฐี พอเห็นพ่อแม่ทำเป็นต้นแบบอย่างนั้น ก็เกิดกำลังใจอยากทำความดีตาม ซึ่งในใจก็มีความเลื่อมใสในพระปัจเจกพุทธเจ้าอยู่แล้ว จึงถวายส่วนของตนแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า จากนั้นก็ตั้งความปรารถนาเหมือนที่พ่อแม่อธิษฐาน จะแปลกกันอยู่ตรงที่ว่า “ เมื่อข้าพเจ้าถือถุงกหาปณะหนึ่งพัน แม้ให้กหาปณะแก่ชาวชมพูทวีปทั้งสิ้นอยู่ ขอถุงนี้จงเต็มอยู่อย่างเดิม ”

ฝ่ายลูกสะใภ้ของเศรษฐี ก็ได้ถวายส่วนของตนแก่พระปัจเจกพุทธเจ้าเหมือนกัน และตั้งความปรารถนาว่า “ เมื่อดิฉันตั้งกระบุงข้าวเปลือกกระบุงหนึ่งไว้ข้างหน้า แม้ให้ภัตแก่ชาวชมพูทวีปทั้งสิ้น ความหมดสิ้นไปอย่าได้ปรากฏ จนกว่าดิฉันจะเลิกให้ ” แม้ทาสของเศรษฐีก็มีใจใหญ่ ยอมที่จะอดตายเหมือนเช่นกับเจ้านาย แต่จักไม่ยอมให้พระท่านต้องอดฉัน จึงถวายส่วนของตนแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า จากนั้นจึงตั้งความปรารถนาที่จะขออยู่กับเจ้านายไปทุกภพทุกชาติ และอธิษฐานจิตว่า “ เมื่อข้าพเจ้าไถนา ขอให้สามารถไถได้เร็วเป็นพิเศษ คือรอย ๗ รอยประมาณเท่าเรือโกลน ซ้าย - ขวาด้านละ ๓ รอย และตรงกลางอีก ๑ รอย จงบังเกิดขึ้น ”

ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ กับสาระธรรมดีๆ ที่นำมาให้อ่าน คิด ปฏิบัติ ตามกัน นะคะ

 

*** รวมเป็นหนึ่งเดียวในโลก ****

ความจริง...มีเพียงหนึ่งเดียว
แต่ ความเชื่อ ความเห็น....มีได้นับไม่ถ้วน

สัจจะ...คือ ความจริง
สัจจะทำ....คือ การทำความจริงให้เกิดกับตนเอง
สัจจะทำ...คือ ความตั้งใจทำคำพูดที่กล่าวออกไปแล้ว ให้เกิดขึ้นจริง

ความดี...ทำได้ยาก เพราะต้องฝืนนิสัยตัวเอง
การทำความดีได้จริง...คือ การไม่ทำด้วยนิสัยตัวเอง
การทำความดีได้จริง....จึงต้องทำด้วยความชัดเจน จริงจัง อย่างถึงที่สุด
ความดีทำได้จริง...เมื่อทำด้วยสัจจะ
คือ ทำได้จริง....ทั้งต่อหน้า และลับหลังผู้อื่น
แม้ว่าจะเบื่อ จะต้องฝืนตัวเองแค่ไหน... ก็ยังทำได้

แต่ ถ้าไม่ทำ....ด้วยสัจจะ
ความตั้งใจนั้น การกระทำนั้น...จะเป็นเพียง การตามใจตัวเอง
ตามใจตัวเอง....คือ อยากทำก็ทำ นึกได้ก็ทำ เบื่อก็หยุดทำ เหนื่อยเมื่อยล้าก็หยุดทำ พอสบายแล้วค่อยทำใหม่

ผลเสียของการตามใจ...คือ การกระทำไม่เที่ยง
เพราะ การกระทำ ปาก และ ใจ....ไม่ตรงกันตามที่กล่าวไว้
ผลจากการกระทำไม่เที่ยง....จึงเกิดเป็น ตัวกระทำไม่เที่ยง ติดตัวไป
ผลตอบแทนที่ย้อนกลับมา...จึงไม่เที่ยง

เพราะฉนั้น...
การรวบรวมมนุษย์...ให้ปฏิบัติได้เป็นหนึ่งเดียว
คือ....สัจจะทำ
คือ การปฏิบัติตนด้วยสัจจะ ที่กำหนดความชัดเจนให้กับตัวเอง
ว่าทำสิ่งใด แค่ไหน มีกำหนดเวลาเท่าไหร่

เมื่อ มนุษย์ทั้งโลกปฏิบัติตนด้วย สัจจะ
การกระทำเที่ยงของมนุษย์...จึงเกิดขึ้นจริง
ตัวกระทำเที่ยงของทุกคน....จึงเกิดขึ้น
ผลตอบแทนของตัวกระทำเที่ยง...จึงส่งผลดีต่อ ผู้ที่ทำได้ อย่างแน่นอน

นี่คือ หนทางเดียวที่จะรวมมนุษย์เป็นหนึ่งเดียวกัน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "
วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552

 

คำเขียนคมดี

 

*** พิจารณา ****

พระพุทธเจ้า พระโคดม
ตรัสรู้ด้วย....สัจจะทำ
เพราะ... สัจจะคือความจริง
กระทำด้วยความจริง....จึงพบความจริง

ก่อนพบ ....สัจจะทำ
พระองค์ได้ผ่าน ทดลองด้วย...ความเห็นต่างๆมากมาย
แต่ไม่ได้ช่วยให้ ....นิสัยลดลงได้
สุดท้าย ...จึงสิ้นสุดด้วย สัจจะทำ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** สัจจะพยากรณ์ ****

ผู้คนทั่วโลก ก็ต้องเดินมาทำเหมือนกัน
มาทำ ในสิ่งที่ตนยังทำไม่ได้
มาทำ ในสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ
True do...Sujja

- " หนุมาน ผู้นำสาร "
วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552

 

เรื่องเมณฑกเศรษฐี อภิมหาเศรษฐีผู้มีแพะทองคำเต็มบ้าน​

​

ข้อความเบื้องต้น

พระศาสดา เมื่อทรงอาศัยภัททิยนครประทับอยู่ในชาติยาวัน<SUP>๑-</SUP> ทรงปรารภ<WBR>เมณฑก<WBR>เศรษฐี ตรัส<WBR>พระ<WBR>ธรรม<WBR>เทศนา<WBR>นี้<WBR>ว่า "สุทสฺสํ วชฺชมญฺเญสํ" เป็นต้น.
____________________________
<SUP>๑-</SUP> ป่าไม้มะลิ.

พระศาสดาเสด็จไปภัททิยนคร

ได้ยินว่า พระศาสดา เมื่อเสด็จเที่ยวจาริกไปในอังคุตตราปถชนบททั้งหลาย ทรงเห็นอุปนิสัยโสดาปัตติผลของคนเหล่านี้ คือเมณฑกเศรษฐี ๑, ภรรยาของเศรษฐีนั้น ชื่อว่านางจันทปทุมา ๑, บุตรชื่อธนัญชัยเศรษฐี ๑, หญิงสะใภ้ชื่อนางสุมนเทวี ๑<SUP>#-</SUP>, หลานสาวชื่อวิสาขา ๑, ทาสชื่อปุณณะ ๑ จึงเสด็จไปสู่ภัททิยนคร ประทับอยู่ในชาติยาวัน. เมณฑกเศรษฐีได้สดับการเสด็จมาของพระศาสดาแล้ว.
____________________________
<SUP>#-</SUP> ที่อื่นๆ ว่า สุมนาเทวี.

เหตุที่ได้นามว่าเมณฑกเศรษฐี

ถามว่า "ก็เพราะเหตุไร เศรษฐีนั่นจึงชื่อว่า เมณฑกเศรษฐี ?" ​

ได้ยินว่า แพะทองคำทั้งหลายประมาณเท่าช้าง ม้าและโคอุสภะชำแรกแผ่นดิน เอาหลังดุนหลังกันผุดขึ้นในที่ประมาณ ๘ กรีส ที่ข้างหลังเรือนของเศรษฐีนั้น. บุญกรรมใส่กลุ่มด้าย ๕ สีไว้ในปากของแพะเหล่านั้น. เมื่อมีความต้องการด้วยเภสัชมีเนยใส น้ำมัน น้ำผึ้ง และน้ำอ้อยเป็นต้น หรือด้วยวัตถุมีผ้าเครื่องปกปิด เงินและทองเป็นต้น ชนทั้งหลายย่อมนำกลุ่มด้ายออกจากปากของแพะเหล่านั้น. เนยใส น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ผ้าเครื่องปกปิด เงินและทอง ย่อมไหลออกจากปากแพะแม้ตัวหนึ่ง ก็เป็นของเพียงพอแก่ชาวชมพูทวีป. จำเดิมแต่นั้นมา เศรษฐีนั้นจึงปรากฏว่า เมณฑกเศรษฐี. ​

บุรพกรรมของเมณฑกเศรษฐีนั้นเป็นอย่างไร?
(เป็นคนละชาติกัน กับที่เคยเกิดเป็นเศรษฐีที่ประสบกับฉาตกภัย)​

ในสมัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระนามว่าวิปัสสี เสด็จอุบัติขึ้นในภพชาตินั้น ได้มีมหาเศรษฐีคนหนึ่งชื่ออวโรชะ ปรารภจะสร้างพระคันธกุฎีถวายแด่พระบรมศาสดา​

หลานชายชื่อว่าอวโรชะเหมือนกัน เกิดกุศลจิต อยากขอบริจาคเงินร่วมบุญกับคุณลุง แต่คุณลุงอยากได้บุญคนเดียว เพราะเห็นว่าตัวเองมีเงินทองมากมาย ไม่จำเป็นต้อง อาศัยเงินของหลาน และอยากให้การถวายกุฏิครั้งนี้เป็นชื่อของตัวเองเท่านั้น จึงปฏิเสธความปรารถนาดีจากหลานชาย ​

ฝ่ายหลานชายนั้นก็เป็นผู้มีความเลื่อมใสในพระรัตนตรัยไม่แพ้ลุง จึงคิดว่า เมื่อคุณลุงสร้างคันธกุฎีในที่ตรงนี้แล้ว เราควรสร้างศาลารายซึ่งก็ คือวิหารคดนั่นเอง หลานชายได้สร้างล้อมรอบ พระคันธกุฏีอีกทีหนึ่ง โดยให้คนใช้ข้าทาสบริวารขนไม้มาจากป่า ให้ทำเสาพิเศษกว่าเสาไม้ธรรมดา คือ เสาต้นหนึ่งบุด้วยทองคำ ต้นหนึ่งบุด้วยเงิน ต้นหนึ่งบุด้วยแก้วมณี ให้ทำขื่อ บานประตูบาน หน้าต่าง กลอน เครื่องมุง และอิฐทั้งหมด บุด้วยรัตนชาติชนิดต่าง ๆ ให้ทำวิหารคดสำเร็จด้วยรัตนะ ๗ ประการ ​

ลักษณะมหาวิหารคดในอดีต บริเวณชั้นบนของวิหารคดได้ให้สร้างจอมยอด ๓ ยอด ที่สำเร็จด้วยทองคำสีสุก ทั้งแท่งแก้วผลึก และแก้วประพาฬ จากนั้นหลานชายให้ สร้างมณฑปประดับด้วยแก้ว ตรงกลางวิหารคดให้ตั้งธรรมาสน์ไว้ เพื่อสำหรับเป็นที่แสดงธรรมของพระธรรมกถึก ธรรมาสน์นั้นสำเร็จด้วยทองคำสีสุก เป็นทองแท่งสุกปลั่ง สว่างไสวกว่าทุกที่ในบริเวณวิหารคดแห่งนั้น แม้แคร่ ๔ อันก็เป็นพื้นทองคำทั้งหมด จากนั้นให้แกะสลักแพะทองคำ ๔ ตัว ตั้งไว้ใต้เท้าทั้ง ๔ ของอาสนะ ​

นอกจากนี้ยังให้แกะสลักแพะทองคำอีก ๒ ตัว ตั้งไว้ใต้ตั่งสำหรับรองเท้า แกะสลักแพะทองคำ ๖ ตัว ตั้งแวดล้อมมณฑป ให้ถักธรรมาสน์ด้วยเชือกเส้นเล็ก สำเร็จด้วยด้ายก่อน แล้วจึงให้เอาทองคำถักทอเป็นเชือกเส้นเล็กๆ แทนเส้นด้าย ด้านบนให้เอามุกดามาร้อยเป็นเชือก ตรงพนักพิงของธรรมาสน์ให้ทำด้วยไม้จันทน์ หอม ครั้นสร้างวิหารคดสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้กราบนิมนต์พระสงฆ์ ๖,๘๐๐,๐๐๐ รูป มีพระบรมศาสดานั่งเป็นประธาน ณ บริเวณวิหารคด แล้วน้อมถวายภัตตาหาร จากนั้นได้กล่าวถวายวิหารคดด้วยจิตที่เลื่อมใสในมหาทาน ท่านทำ การถวายสังฆทานไม่ใช่เพียง ๗ วัน แต่ใช้เวลาถวายติดต่อกันนานถึง ๔ เดือน และก็มีผู้ใจบุญมาร่วมบุญกับท่านมากมาย ด้วยบุญนั้น ทำให้ท่านได้สวรรค์สมบัติ และมนุษย์สมบัติเรื่อยมา ไม่เคยพลัดไปเกิดในอบายภูมิเลย ​

แพะกายสิทธิ์ เคียงคู่ผู้มีบุญอวโรชะ ผู้เป็นหลาน พอมาเกิดในภพชาตินี้ ได้เป็นมหาเศรษฐีแห่งกรุงราชคฤห์ เมื่อแต่งงานมีครอบครัวและย้ายไปปลูกบ้านหลังใหม่ แพะทองคำ ประมาณเท่าช้าง ม้า และโคอุสภะได้ชำแรกแผ่นดิน เอาหลังดุนกันผุดขึ้นมาในพื้นที่ประมาณ ๘ กรีส หรือเส้นผ่าศูนย์กลาง ๕๐๐ เมตร อยู่ด้านหลัง บ้านของท่านเศรษฐีเอง แพะเหล่านี้เกิดขึ้นมาด้วยกำลังบุญ ของท่านเศรษฐี เป็นแพะกายสิทธิ์ที่สามารถนำความสมปรารถนามาให้กับเจ้าของ และผู้ที่มาขอสมบัติต่าง ๆ ได้ ในปากแพะจะมีกลุ่มด้ายอยู่ ๕ สีด้วยกัน ​

เมื่อใครต้องการสิ่งของชนิดไหน ให้ดึงด้ายสีนั้น พอดึงด้ายเส้นนั้นออกมา สิ่งที่ตัวเองปรารถนาจะออกมาด้วย กลุ่มด้าย ๕ สีที่ถักทอเป็นกลุ่มๆ คือ เส้นด้าย สีเขียว สีเหลืองทอง สีแดง สีขาวเงิน และสีส้ม แต่ละสีถักเป็นเชือกเป็นกลุ่มๆ อยู่ในปากแพะ ไม่ได้ห้อยออกมาข้างนอกระเกะระกะเลยแม้เพียงนิดเดียว พอตั้งจิตอธิษฐานปรารถนาในสิ่งใด แพะจะอ้าปากให้ สมมุติว่าอยากได้ของกิน ต้องดึงด้ายสีเขียว ของกินจะออกมาทันที อาหารแต่ละชนิดจะออกมาเป็นห่อ และมีภาชนะใส่อย่างดีอีกด้วย ​

หากประสงค์อยากได้ทองคำเป็นแท่ง ๆ ต้องดึง เส้นด้ายสีเหลืองทอง พร้อมกับตั้งจิตอธิษฐานอยากได้ทองคำไปประกอบสัมมาอาชีพ ทองคำเป็นแท่งๆ จะไหลออกมาจากปากของแพะทันที เส้นด้ายสีแดงเป็นจำพวกเสื้อผ้าอาภรณ์ และเครื่องประดับ อยากได้ชุดไหนอย่างไรได้ทั้งนั้น สีขาวเงินจะเป็นเงินแท่ง เป็นกหาปณะ สามารถเอาไปจับจ่ายใช้สอยได้ทันที สีส้มเป็นจำพวกยารักษาโรค รวมทั้งเนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ​

แพะทองคำทำให้ชาวเมืองทั้งเมืองนั้นอยู่เป็นสุขได้ทั่วหน้า เพราะอานุภาพบุญของท่านเศรษฐี แพะเพียงตัวเดียวสามารถเลี้ยงคนได้ทั้งเมือง เลี้ยงคนได้ทั้งชมพูทวีป ใครอยากได้อะไรไปอธิษฐาน เอาตามกำลังบุญของตัว ไม่ต้องเข้าคิวรอให้เสียเวลา เพราะแพะกายสิทธิ์ของท่านเศรษฐีมีเป็นฝูง ๆ และมีขนาดต่าง ๆ กัน ทำให้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เศรษฐีจึงมีนามว่า เมณฑกเศรษฐี เพราะมีแพะกายสิทธิ์ ทองคำ ​

ผู้มีบุญมีปัญญาจะสอนตัวเองได้ คือ สอนตัวเองว่า ทำอย่างไรจึงจะมีโอกาสได้ทำบุญ จะแสวงหาบุญ เพราะรู้ว่าบุญจะส่งผลเป็นความสุข และความสำเร็จไปทุกภพทุกชาติ และไม่มัวเสวยสุขเพียงภพชาติเดียวเท่านั้น เมื่อรู้ว่าจะได้บุญใหญ่ด้วยวิธีการใด ก็ทุ่มเทใจทำอย่างเต็มที่ โดยไม่มีความรู้สึกเสียดายทรัพย์เลย ยิ่งมีทรัพย์และมีศรัทธามากเท่าไร ยิ่งทุ่มเทใจมากเท่านั้น เมื่อผลบุญบังเกิดขึ้น ก็ส่งผลเป็นอัศจรรย์ทันใจกันเลยทีเดียว ​

การทำบุญปรารภหมู่สงฆ์ผู้เป็นทักขิไณยบุคคล อันเลิศนั้น เป็นการทำที่ถูกหลักวิชชา โดยเฉพาะบุญพิเศษจากการสร้างมหารัตนวิหารคด ที่จะรองรับพุทธบุตรหลายแสนรูปจากทั่วโลกนั้น ผู้มีบุญนักสร้างบารมีในอดีตได้ทำเป็นต้นแบบให้ไว้แล้ว​

ที่มา http://www.kalyanamitra.org/daily/d...com_content&task=view&id=4105&Itemid=99999999​

<!-- / message --><!-- attachments -->

 

นายกฯ จีนถูกปารองเท้าขณะบรรยายที่ ม.เคมบริดจ์​

​

อังกฤษ 3 ก.พ.-นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า ของจีน ถูกผู้ประท้วงรายหนึ่งปารองเท้าใส่ระหว่างกล่าวบรรยายที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์

เหตุการณ์น่าตื่นเต้นนี้เกิดขึ้นระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเวิน กำลังกล่าวบรรยายเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ผู้ฟังจำนวนมากที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ จู่ ๆ ผู้ประท้วงรายหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังของห้อง ได้ลุกขึ้นตะโกนเรียกนายกรัฐมนตรีเวิน ว่าเป็นพวกเผด็จการ ก่อนขว้างรองเท้าเข้าใส่นายกรัฐมนตรีของจีนทันที โชคดีที่รองเท้าตกบนเวทีห่างจากโพเดียมที่นายกรัฐมนตรีเวิน กล่าวบรรยายไปราว 1-2 เมตร จากนั้นผู้ขว้างรองเท้าได้ถูกนำตัวออกจากห้องประชุมทันที โดยมีรายงานว่า เขาถูกจับกุมและแจ้งข้อหาสร้างความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเวิน ซึ่งไม่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่ารังเกียจ

เมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน ผู้สื่อข่าวชาวอิรักได้ปารองเท้าเข้าใส่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐ ระหว่างแถลงข่าวที่กรุงแบกแดด จนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก.-สำนักข่าวไทย

2009-02-03 05:17:24

พ.อ.กัดดาฟี ได้รับเลือกเป็นประธานสหภาพแอฟริกัน​

​

ลิเบีย 3 ก.พ.-พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ได้รับคัดเลือกให้เป็นประธานสหภาพแอฟริกัน ซึ่งมีประเทศสมาชิกในทวีปแอฟริกา 53 ชาติ

พ.อ.กัดดาฟี ได้รับการคัดเลือกจากตัวแทนชาติสมาชิกสหภาพแอฟริกา หรือเอยู ให้เป็นประธานหมุนเวียนของสหภาพแอฟริกันเป็นเวลา 1 ปี ในการประชุมที่กรุงแอดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย โดยพ.อ.กัดดาฟี รับตำแหน่งต่อจากประธานาธิบดีจากายา กิกเวเต ผู้นำแทนซาเนีย

อย่างไรก็ดี สื่อต่างประเทศรายงานว่า แม้ผู้แทนสมาชิกสหภาพแอฟริกันส่วนใหญ่จะเห็นว่า พ.อ.กัดดาฟี มีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งประธานสภาพแอฟริกัน แต่ยังคงมีผู้แทนบางส่วนที่เห็นว่า พ.อ.กัดดาฟี อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ถูกต้อง

ทั้งนี้ ผู้นำลิเบียเคยแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับเอกภาพของภูมิภาคแอฟริกา เช่น เสนอให้ภูมิภาคแอฟริกันมีกองทัพเดียว ใช้เงินสกุลเดียวร่วมกัน และใช้หนังสือเดินทางฉบับเดียวในการเดินทางภายในภูมิภาค.-สำนักข่าวไทย

2009-02-03 03:17:46

เกาหลีเหนือเตรียมทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล ​

​

โซล 3 ก.พ.- สำนักข่าวยอนฮัพรายงานอ้างข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ว่า เกาหลีเหนืออาจเตรียมทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป ในช่วงที่สถานการณ์บริเวณคาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดมากขึ้น

แหล่งข่าวแจ้งต่อสำนักข่าวยอนฮัพว่า เมื่อไม่นานมานี้ สำนักข่าวกรองของสหรัฐและเกาหลีใต้ ได้ตรวจพบรถไฟขบวนหนึ่งในเกาหลีเหนือ ขนวัตถุทรงกระบอกยาว ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นขีปนาวุธแตโปดอง -2 ที่สื่อเกาหลีใต้เคยระบุก่อนหน้านี้ว่า มีพิสัยการยิงไกลถึง 6,700 กิโลเมตร สามารถยิงไปได้ไกลถึงชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐ โดยการเตรียมทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปดังกล่าวอาจแล้วเสร็จภายใน 1 ถึง 2 เดือนนี้ แต่ทางกระทรวงกลาโหมและสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลีใต้ยังไม่ออกมายืนยันว่า ข่าวนี้เป็นความจริงหรือไม่

นักวิเคราะห์หลายคนเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่า เกาหลีเหนืออาจสร้างสถานการณ์บางอย่าง เช่น การทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกล เพื่อหยั่งเชิงรัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ ส่วนความสัมพันธ์ของสองเกาหลีก็กลับมาตึงเครียดอีกครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกาหลีเหนือถึงกับประกาศ จะยกเลิกข้อตกลงที่ให้สองเกาหลีไม่รุกรานกัน และยังเตือนว่ามีแนวโน้มจะเกิดความขัดแย้งทางทหารกับเกาหลีใต้. -สำนักข่าวไทย

2009-02-03 09:40:06

เกาหลีเหนือกร้าวไม่ยอมเลิกโครงการนิวเคลียร์ฝ่ายเดียว​

​

เกาหลีเหนือ 3 ก.พ.-เกาหลีเหนือประกาศกร้าวจะไม่ยอมยกเลิกโครงการนิวเคลียร์เพียงฝ่ายเดียว และขอให้มีการตรวจสอบเกาหลีใต้ ว่าซุกซ่อนอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐเอาไว้หรือไม่

สถานีโทรทัศน์เคอาร์ที รายงานอ้างแถลงการณ์กระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือ ที่ระบุว่า เกาหลีเหนือจะไม่ยอมยกเลิกโครงการนิวเคลียร์แต่เพียงฝ่ายเดียว หากรัฐบาลเกาหลีใต้ของประธานาธิบดีลี มยอง บัก ซึ่งเป็นคนทรยศ ไม่ยอมให้มีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบว่า ได้ซุกซ่อนอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐเอาไว้หรือไม่

ขณะที่โฆษกกองทัพเกาหลีเหนือระบุว่า เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ยังอยู่ระหว่างการทำสงคราม และคาบสมุทรเกาหลีจะไม่มีวันปลอดนิวเคลียร์ จนกว่าจะมีการรื้อถอนอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐในเกาหลีใต้ เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว เกาหลีเหนือประกาศยกเลิกข้อตกลงทางทหาร รวมถึงข้อตกลงทางพรมแดนต่าง ๆ กับเกาหลีใต้ทั้งหมด เพื่อตอบโต้นโยบายที่แข็งกร้าวของประธานาธิบดีลี
ทั้งนี้ เกาหลีใต้และสหรัฐยืนยันมาโดยตลอดว่า ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐซุกซ่อนอยู่ในเกาหลีใต้ตามที่เกาหลีเหนืออ้าง.-สำนักข่าวไทย

2009-02-03 03:18:27

สหรัฐ-เกาหลีใต้ประกาศจะยุตินิวเคลียร์เกาหลีเหนือให้ได้​

​

วอชิงตัน 3 ก.พ. - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ หารือกับประธานาธิบดีลี มยอง บัก ของเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ และผู้นำทั้งสองให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกันในการยุติโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

นายโรเบิร์ต กิบส์ โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐ แถลงว่า ผู้นำทั้งสองหารือกันเรื่องเกาหลีเหนือและตกลงจะประสานความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการเป็นพันธมิตรและการเจรจา 6 ฝ่ายเพื่อพิสูจน์ว่าโครงการอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือได้ยุติลงแล้ว นอกจากนี้ประธานาธิบดีทั้งสองยังได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันในประเด็นต่าง ๆ ทั่วโลกด้วย โดยได้หารือในประเด็นวิกฤติการเงินโลกในปัจจุบันเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับระบบเศรษฐกิจโลก ส่งเสริมการเติบโต และสร้างสภาพคล่องในตลาดสินเชื่อต่อไป.-สำนักข่าวไทย

2009-02-03 11:55:47

เม็กซิโกกำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนน้ำ จากภาวะฝนแล้ง​

​

เม็กซิโก 3 ก.พ. - รัฐบาลเม็กซิโก ประกาศจะหยุดจ่ายน้ำประปาเป็นเวลา 3 วัน ส่งผลให้ประชาชนในกรุงเม็กซิโก ซิตี้ เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำ

ทั้งนี้ เนื่องจากน้ำในแหล่งน้ำและเขื่อนต่าง ๆ ลดระดับลงต่ำสุดในรอบ 16 ปี อันเป็นผลจากปริมาณน้ำฝนที่ลดลงในปีที่ผ่านมา ทำให้การกักเก็บน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคมีไม่เพียงพอ อย่างไรก็ดี รัฐบาลเม็กซิโก จะจ่ายน้ำประปาให้กับประชาชนในช่วงเวลากลางคืน และจะหยุดจ่ายน้ำประปาอย่างนี้ในทุก ๆ เดือน ไปจนถึงเดือนมิถุนายนซึ่งเป็นเดือนเริ่มต้นของฤดูฝน.-สำนักข่าวไทย

2009-02-03 09:30:40

ฮิลลารี ให้การต้อนรับรัฐมนตรีอังกฤษและเยอรมนีเป็นงานแรก​

​

วอชิงตัน 3 ก.พ.-นายเดวิด มิลิแบนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ จะเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศคนแรกที่ได้พบหารือกับนางฮิลลารี คลินตัน ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐคนใหม่ และนายฟรังค์ วัลเตอร์ ชไตน์มัยเออร์ จะร่วมหารือต่อจากนายมิลิแบนด์ ในอีก 2 ชั่วโมงถัดมา

นายโรเบิร์ต วู้ด โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ แถลงว่า การแยกหารือกันดังกล่าว จะมีประเด็นสำคัญหลายเรื่อง เช่น อิหร่าน และอัฟกานิสถาน โดยคาดว่าประเด็นอิหร่านจะเป็นปัญหาสำคัญที่สุด ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศเยอรมนี กล่าวว่า การหารือระดับรัฐมนตรีต่างประเทศมีหลายประเด็น ได้แก่ สถานการณ์ในอัฟกานิสถาน ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ วิกฤติการเงินโลก และการประชุมสุดยอดองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ที่กำลังจะมาถึงในเดือนเมษายนนี้.-สำนักข่าวไทย

2009-02-03 13:41:45

สหประชาชาติระบุมีการปลูกฝิ่นในสามเหลี่ยมทองคำเพิ่มขึ้น​

​

สหประชาชาติ 3 ก.พ. - สำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมของสหประชาชาติ เปิดเผยว่า บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ รอยต่อระหว่างพม่า ลาว และ ไทย มีการปลูกฝิ่นเพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.3 ในปีที่ผ่านมา

ขณะที่บริเวณนี้มีการผลิตฝิ่น 424 ตัน หรือร้อยละ 5 ของการผลิตฝิ่นทั้งหมดของโลกในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามปริมาณฝิ่นในพื้นที่ดังกล่าวได้ลดลงอย่างมาก หลังจากเมื่อปี 2541 มีปริมาณฝิ่นถึงร้อยละ 33 และในปี 2533 มีปริมาณฝิ่นถึงกว่าร้อยละ 50 ของปริมาณฝิ่นทั้งหมด ส่งผลให้ราคาฝิ่นสูงขึ้น
ขณะที่สหประชาชาติ เรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องพยายามหาทางช่วยเหลือผู้คนยากจนบริเวณสามเหลี่ยมทองคำให้เลิกปลูกฝิ่น. - สำนักข่าวไทย

2009-02-03 09:31:12

กูเกิลเผยโฉมแผนที่สำรวจพื้นผิวใต้มหาสมุทรในรูปแบบ 3 มิติ​

​

ซานฟรานซิสโก 3 กพ.- กูเกิลขยายเครือข่ายซอทฟ์แวร์แผนที่โลก จากกูเกิลเอิร์ธ ไปยังกูเกิลโอเชียน ซึ่งเป็นแผนที่สำรวจลักษณะพื้นผิวใต้มหาสมุทรในรูปแบบ 3 มิติ ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกราวกับว่า กำลังดำดิ่งลงไปใต้มหาสมุทรจริง ๆ

กูเกิลเปิดตัวแผนที่ดังกล่าวภายในงาน ซึ่งจัดขึ้นที่นครซานฟรานซิสโก ของสหรัฐ โดยมีอดีตรองนายกรัฐมนตรี อัล กอร์ ให้เกียรติมาร่วมงาน แผนที่สำรวจพื้นผิวใต้มหาสมุทรชุดนี้ รวบรวมข้อมูลจากนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และนักสำรวจมหาสมุทรชั้นนำของโลก กูเกิลหวังว่า อาจช่วยให้ผู้ใช้งานสืบค้นลักษณะภูมิประเทศบนโลกได้อย่างครอบคลุมขึ้น

อดีตรองนายกรัฐมนตรีอัล กอร์ ชื่นชมเทคโนโลยีใหม่ของกูเกิลว่า จะก่อให้เกิดประสบการณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจ เพราะนอกจากจะสามารถสืบค้นรายละเอียดต่าง ๆ ที่ปรากฏบนพื้นผิวโลกได้แล้ว ตอนนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถดำดิ่งลงไปสำรวจใต้มหาสมุทรได้ด้วย ซึ่งครอบคลุมพื้นที่มากเกือบ 3 ใน 4 ของโลก ใต้แหล่งน้ำยังเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตมากเกือบร้อยละ 80 ของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลก แต่สิ่งมีชีวิตใต้น้ำเหล่านี้ถูกสำรวจพบไม่ถึงร้อยละ 5 เท่านั้น

ดังนั้น เพื่อให้เข้าใจถึงสภาพชีวิตใต้มหาสมุทรได้ดียิ่งขึ้น กูเกิลโอเชียน จึงระบุข้อมูลให้ผู้ใช้งานได้รับทราบเกี่ยวกับจุดที่น่าสนใจต่าง ๆ ใต้มหาสมุทร เช่น ภูเขาไฟใต้ทะเล ทั้งยังจัดทำเป็นวิดีโอแสดงชีวิตของสัตว์ทะเล ซากเรือ และคลิปวิดีโอแสดงจุดดำน้ำยอดนิยมและพื้นที่ที่เหมาะแก่การเล่นกระดานโต้คลื่น. -สำนักข่าวไทย

2009-02-03 10:57:22

ที่มา http://news.mcot.net/international/