เจโตวิมุตติ และปัญญาวิมุตติ ต้องไปคู่กัน จะเกินกว่ากันมิได้ ท่านเห็นเป็นเช่นไร

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย โป๊ยเซียน, 27 มกราคม 2009.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,700
    ค่าพลัง:
    +51,933
    การกระทำ...ตัด ลด อารมณ์ ต้องทำจริงจัง ทำเป็นประจำ
    จึงจะได้ผลจริง
    ทำให้เป็น ... สัจจะ ไม่เห็นผู้อื่นผิดไม่เห็นว่าตัวเองดีแล้ว วันละหนึ่งชั่วโมง
    มีกำหนดเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน
    สัจจะทำ....เกิดผลดีแน่นอน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  2. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    มีหลายคน ที่ยังทุกข์ใจ เช่นว่า เครียดกับเรื่องงาน เครียดกับเรื่องนั้นเรื่องนี้ พอเจอปัญหาอะไรหน่อย มันก็ทุกข์ใจ วางไม่ได้ นี่เพราะอะไร ทำไมปฏิบัติธรรมมา แล้วสู้นักบริหารที่เขาชำนาญไม่ได้ เขาบริหารงาน เยอะๆได้ ทำไมเราจึงทำไม่ได้ มันเกิดอะไรขึ้นกับใจเรา เวลาจะต้องรับผิดชอบอะไรทำไม มันดูหนักหนา

    ทั้งนี้ ก็เพราะว่า ทุกข์ เหล่านั้น เรายังไม่เท่าทันกับมัน ยังมีกำลังจิตกำลังใจ มากไม่พอที่จะประหาร หรือ ละมันได้ เอาง่ายๆ กับวิถีชีวิตประจำวัน บางคนเลี้ยงลูก กังวลกับเรื่องลูก บางคนกังวลกับเรื่องแฟน นี่ เราละไม่ได้ ทำไมมันจึงละไม่ได้

    ก็เพราะว่า เราไม่ได้ฝึก ไปตามขั้นตามตอน เราจะไปฆ่ามันทันที มันก็เหมือนกับ เอาเด็กถือมีดจะไปฆ่าทหารที่เขากรำศึกมาร้อยแปด ทหารกรำศึกนั้นก็คือกิเลสในใจเรานั้นแหละ เราสะสมมันจนมีกำลังมาแต่ปางไหน แล้วจู่ๆ จะเอาเด็กถือดาบไปฆ่านั้นไม่มีทาง

    เราลองสังเกตุดูว่า วันไหนจิตใจมีสมาธิเบิกบาน เรื่องร้ายๆ เราก็ไม่ค่อยจะสะเทือนใจ แต่ถ้าจิตใจฟุ้งซ่าน ฝนตกมันยังแอบเศร้าได้ นี่แสดงให้เห็นว่าเราต้องแยกให้ออก ระหว่างอารมณ์ และ ปัญหา ปัญหามีอยู่ บางคนไม่มีอารมณ์ คือวางอุเบกขาได้ นั่นเป็นเพราะกำลังกุศลนี้มีมาก

    แล้วเราจะทำอย่างไรฝึกอย่างไร ก็ต้องฝึกจากพื้นฐานคือ ฝึกให้จิต นี้มีสมาธิเป็นประจำ ฝึกละอารมณ์เป็นประจำ แล้วเมื่อจิต สงบดี แล้วค่อยๆ พัฒนามาเป็น การใช้ปัญญา ดูไปถึงเหตุต้นของมันจริงๆ เพื่อประหาร ให้มันสิ้นซากไป

    แต่หากว่า ใคร มาถึงจะไปประหาร มันก็หมดสิทธิ์ มันก็แพ้เรื่อยไป เพราะกำลังที่มีอยู่ยังไม่ดีพอ

    อบรมจิตใจให้แข็งแกร่ง ทำจิตของตนให้ผ่องใสเป็นประจำ และ ต่อสู้กับอกุศลที่มันคอยจะผุดขึ้น ด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา อบรมกันไปเรื่อยๆ
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,700
    ค่าพลัง:
    +51,933
    สติ...คือ สิ่งที่เราตัด
    เมื่ออยู่ในชั่วโมงของสัจจะทำ... ใจเราเริ่มเห็นเขาผิด เริ่มเห็นเขาไม่ดี เขาน่าเบื่อ ใช้ไม่ได้
    ก็จะมีสัจจะมาเตือน...ว่าไม่เห็นเขาผิด เตือนว่าอย่าเห็นว่าตัวเองดีแล้วนะ
    แล้วเราก็เริ่มคิดใหม่ ทบทวนใหม่
    ไม่กล่าวไม่กระทำในสิ่งที่ไม่ดี ที่มันเคยทำตามนิสัยเก่าๆของเรา
    ในชั่วโมงของสัจจะ การกระทำใหม่ ก็จะเกิดขึ้น
    เป็นการกระทำ ที่ไม่ได้มาจากนิสัยของเรา
    แต่เป็นการกระทำที่เกิดจากสัจจะทำ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,700
    ค่าพลัง:
    +51,933
    ใจ...มันคอยจะวิ่งไปทั่วอาณาจักร
    จึงต้องมัดใจ ด้วยสัจจะ
    ปฏิบัติให้เป็น สัจจะทำ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  5. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    จิตที่ถูกฝึกอบรมมาดีแล้ว ด้วยศีล สมาธิ จะเกิดปัญญารู้แจ้งเห็นจริงในสัจธรรม และคลายความกำหนัด ไม่ยึดมั่นถือมั่น ปล่อยวางทุกอย่างได้
    ส่วนหนึ่งที่จะเกิดปัญญาได้ ต้องเกิดจากศีลที่ถูกฝึกอบรมมาดีก่อน ผ่านการพิจารณาธรรมมาก่อน ยิ่งพิจารณาธรรมได้ละเอียดลึกซึ้ง จิตก็จะละเอียดและผ่องใสตามไป เมื่อนั้น จะแจ้งในนิพพาน และจะแยกแยะได้ ว่ากุศล หรืออกูศล
    เมื่อมีศีล มีสมาธิ ก็เจริญวิปัสสนา เพื่อให้เกิดปัญญา รู้แจ้งเห็นจริงในอริยสัจ 4 โดยมีสติปัฎฐาน 4 เป็นที่ตั้ง ทุนเดิมหากมีอยู่แล้วคือสมาธิ ก็เพียงกำจัดกิเลศที่เกิดขึ้น คืออกุศลจิต ส่วนหนึ่ง ที่จะบอกได้ว่า กุศลจิตเกิดขึ้นกับใจ นั่นคือ สัมมาทิฎฐิ เพราะสัมมาทิฎฐิ จะเกิดขึ้นกับผู้ที่มีกุศลจิต และนั่นเป็นตัวชี้วัดกิเลศได้เป็นอย่างดี ที่ท่านขันธ์พูดไม่มีผิดเพี้ยนค่ะ ขอสนับสนุน
    ;aa13
     
  6. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    เมื่อจิตละเอียดนะ เพราะถูกอบรมมาดี ถามว่าจะโมหะมั้ย ไม่ เพราะฐานของเรามั่นคงไปด้วยศีล สมาธิจึงจะเกิด ความตั้งมั่นจึงจะเกิดนะ เมื่อนั้นจะแจ้งในธรรมเอง ซึ่งธรรมที่แจ้งนั้นเป็นธรรมที่ง่าย แต่ละเอียดและลึกซึ้งกินใจมาก ๆ ทำให้เราคลายความยึดมั่นถือมั่นได้ ด้วยความเข้าใจนั้นเอง วางมันลงได้ ถามว่า เวลาปกติทำงานไป หากมีคนอารมณ์เสียมาด่าใส่ หรือใคร มาบ่นอะไร แล้วถามว่า เรารู้สึกอย่างไร รับรู้ได้ถึงอารมณ์ของเขา แต่เราไม่เอาแค่นั้นเอง เรียกว่าไม่เอามาใส่ใจ จิตใจเราก็ผ่องใส เพราะเราไม่ทุกข์งัย ทุกคนต้องการพ้นทุกข์มิใช่หรือ นี่แหล่ะ คือการไม่เอามาใส่ใจ ทำให้ตัวเองทุกข์ใจนี่แหล่ะ ลดการกระทบกระทั่ง และลดการสร้างอกุศลจิต จากตัวเอง และผู้อื่นด้วย
     
  7. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    ไม่แบกให้หนัก ไม่เอามาใส่ใจงัย ง่าย ๆ
     
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    นั่นแหละ ดีแล้ว เป็นกุศลที่ประเสริฐ ถูกต้องแล้ว
    แต่ สิ่งที่ อย่าลืมก็คือ อย่าหยุด และพอใจในคุณธรรมเท่านี้
    ค่อยๆ อบรม ศึกษาไปเรื่อยๆ ที่เคยเพียรละกิเลสก็ทำไป อบรมปัญญา ก็ทำไป ทำงานทางโลกก็ใช้ จิตที่อบรมมาดีนั้นทำไป ค่อยๆ ศึกษาไปเรื่อยๆ มันจะพัฒนาได้ถูกต้องเอง

    แล้ว ตัวนี้แหละ เราจะค่อยๆ ประหัตประหาร กิเลสไปได้เอง ตามกำลัง สุดท้ายแล้วจะไปใช้่ ปัญญา ประหาร คือ หาเหตุที่ปฏิจสมุบาท ทวนกระแส ไปถึงอวิชชาได้เพราะจิตที่มีกำลังและ มีปัญญา พร้อม
     
  9. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    พี่ผึ้งแนวทางดี แต่ให้ระวังมานะ
    ที่บอกว่า
    "ไม่แบกให้หนัก ไม่เอามาใส่ใจงัย ง่าย ๆ "
    ขอถามว่า มันง่ายอย่างที่พูดจริงหรือ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  10. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    เห็นชอบกับ อ ขันธ์
    รู้สึกว่าคุณทีโอมีตาธรรมเปิดบ้างแล้ว อนุโมทนาครับ...
     
  11. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    อืม ถ้าบอกว่ามานะมั้ย พี่เฉย ๆ นะคะคุณวิมุตติ ที่บอกว่า ไม่แบกให้หนัก อาจเป็นคำพูดที่ดูแรง แต่ความเป็นจริงนั้น พี่เฉย ๆ ค่ะ มากระทบรู้สึก และเราเฉย ๆ มันเป็นอย่างนี้จริง ๆ ทุกวันนี้ที่พี่ทำก็เจริญวิปัสสนาไป เป็นปกติ และมีกำลังสมาธิอยู่แล้วเป็นทุนเดิม สิ่งที่พี่ทำไม่ทำให้คนอื่น และตัวเองเป็นทุกข์ก็พอแล้วค่ะ
    ;aa13
     
  12. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    ขอบคุณค่ะที่เตือน แต่มันง่าย หนา เพราะว่า จิตเราละเอียด และบริสุทธิ์ เราย่อมเข้าใจผู้อื่นค่ะ เพราะเค้ายังมี รัก โลภ โกรธ หลง อยู่ เป็นธรรมดา เพียงแต่เราไม่ทำให้เค้าทุกข์ใจเพิ่มก็พอแล้วค่า

    ;aa13
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2009
  13. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    รู้แล้วไม่ ละมันก็ได้แต่รู้ ไว้เถียงกัน นี้เราว่ากิเลสตัวเองนะ

    รู้แล้วต้องละที่จิต และจิตต้องเห็นโทษ เหมือนนักโทษโดนประหารชีวิต เค้ารู้ว่าสิ่งที่เที่ยงแท้ คือตนต้องตายแน่นอน

    จิตก็จะละสมมติทั้งหมด เป็นอัตโนมัติวิธี ศีลจึงจะเป็นศีลบริสุทธิ์การภาวนามันจึงจะก้าวหน้า ไม่อยู่กับที่
     
  14. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    โชคดีเราไม่มีคิด
     
  15. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ป่าวมาเดินเล่นเฉยๆ ...........จิตเรา ไม่สนใจชาวบ้านหรอก

    เรามีจักรวาลเป็นของตัวเอง นิพพานของเราไม่เกี่ยวกับใคร

    จิตไม่ดี หรือ ดี เราก็รักหมด เราไม่เคย ไม่รักจิตตัวเอง

    สวรรค์ นรกของเรา คือ สนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ เอาไว้สร้างอารมณ์

    คุณ เทพ ก็ ฉลาดมาก ส่วน คุณ พญามาร โซลี่รักมากๆ ตลกดี


    เราไม่ได้ว่างเหมือน พวกท่าน เรารักจิตตนเองทุกดวง
     
  16. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    อยากจะว่าง อยากจะหายไปก็ทำไปดิ มายุ่งอะไรกับโซลี่ อย่าเสร่อ ไปไป๊
     
  17. เมตตาวิหารี

    เมตตาวิหารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    671
    ค่าพลัง:
    +437
    " เมื่อจิตเศร้าหมอง ทุคติเป็นอันหวังได้ "

    ขออโหสิกรรม

    เมตตาวิหารี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2009
  18. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ที่เห็นโง่ดักดานทุกวันนี้ก็เพราะ ไม่ได้ใช้ จิตผู้รู้สอน

    คุณจิตผู้รู้เขาก็พาร่างไปเรียนเอง

    เพราะ คุณปัญญาจะเกิดได้ต้องใช้กายในการเรียนรู้

    เเต่โซลี่ไม่ได้คิด โซลี่ไม่ใช่มนุษย์มานาน

    เพียงเเต่ไม่ได้บอกพวกท่านพวกท่านก็ คิดว่าเรา เป็นเด็กเมื่อวานซืน

    เเต่เราจะบอกให้นะ เราอ่ะ เป็น เจ้าของชีวิตเราเอง

    เราอยากทำอะไรก็ย่อมได้ เพราะว่าตัวเรา ไม่ได้ถูกบังคับ

    จิตเรา จึงมีศักยภาพต่างจากมนุษย์

    ทำทุกอย่างเพราะเราไม่คิด เราอยากทำเราก็ทำ เราอยากไปเราก็ไป

    จิตเรา รู้ว่า อะไรอยู่ที่ไหน เพราะ เราไม่มีคิด เหมือนพวกท่าน

    เราอ่านเราก็ไม่จำ เราอ่านเราก็ไม่คิด เราอ่านเราก็ไม่ได้ทำตาม

    เราทำเพียงเเค่ตอนนั้นเราอยากทำยังงี้

    เเต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเราไม่ชอบ เสือกเรื่องชาวบ้าน
     
  19. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    เเล้วศัพท์ เวอร์ๆ เราก็ไม่อ่านหรอก เพราะ ถ้าจิตเราไม่เข้าใจ เขาก็ ผ่านไปเลย

    เขาไม่มีเวลามานั่งแปลภาษา ซ้อนภาษา เราไม่ว่างมานั่งคิดตรึกตรองเเบบพวกท่าน

    เราก็ไม่ได้คิดว่าเท่ห์ด้วย เพราะภาษาที่พวกท่านใช้ มันมาตั้งเเต่ 2 พันกว่าปีมาเเล้ว

    คนปัจจุบันที่ไหนจะเข้าใจ เเค่นี้ ยังไม่เข้าใจกันอีก?
     
  20. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ธรรมเหล่าใด อันพระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัส (พูด) ไว้ดีแล้ว ข้าพเจ้าขอนอบน้อม เคารพในธรรมเหล่านั้น

    การฝึกจิตก้อเหมือน " การปีนขึ้นต้นไม้ " ต้นไม้ที่เราจะปีน เราเป็นผู้ปีนพิจารณาแล้วว่า รากฐานต้นนี้แข็งแรง เราคงปีนได้ถึงยอดต้นไม้ได้เป็นแน่แท้ คนปีนต้นไม้ก้อปีนขึ้นด้วยความระมัดระวัง ต้องเหยียบให้ดี ต้องจับให้ดี เพราะจิตพลั้งเผลอ อาจหลุดมือตกจากต้นไม้ ก้อเป็นได้ แต่ถ้าปีนถึงยอดไม้ ก้อย่อมมองเห็น สิ่งต่าง ๆ ด้วยความกระจ่าง หมดข้อสงสัยในต้นไม้ที่ตนได้ปีนขึ้นมา แล้วก้ออาจจะตะโกนส่งเสียงบอกให้คนที่ กำลังจะปีนขึ้นมาทีหลัง ให้ระวัง และ เกาะให้แน่น เดี๊ยวตก อย่างนี้เป็นต้น และท้ายที่สุด ทุกคนก้อต้องต่าง ปีนขึ้นจากลำต้นด้านล่าง ขึ้นไปหาข้างบนทั้งนั้น " จะ ราก จะลำต้น จะกิ่งก้าน จะยอดต้น ก้อล้วนเป็น ต้นไม้ มิใช่หรือ.......


    ตัวอย่าง.....
     

แชร์หน้านี้

Loading...