ประสบการณ์กับหลวงปู่ "ญาท่านสวน"

วันนี้มีโอกาสเข้ามาเล่นห้องนี้ เลยนึกถึงหลวงปู่สวนขึ้นมา ลอง search หาคำว่า ญาท่านสวน แล้วไม่พบก็ขออนุญาตเริ่มเป็นคนแรกเลยก็แล้วกันนะครับ

ประสบการณ์ของผมนั้นไม่ได้หวือหวาอะไรมากมายเหมือนกับที่เคยๆฟังจากท่านอื่นครับ แต่เป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่อยากนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

ขอเกริ่นเริ่มเรื่องก่อนครับว่าเมื่อก่อนผมได้มีโอกาสไปทำงานที่อุบล ตอนนั้นไม่ได้สนใจเรื่องพระเรื่องธรรมะอะไรเลยครับ จนเมื่อคิดจะบวชจึงได้เริ่มศึกษาและเริ่มเข้าทางธรรม ผมได้อธิษฐานขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ผมได้มีครูบาอาจารย์เป็นพระอริยเจ้า หลังจากนั้นผมก็ได้มีโอกาสรู้จักและได้ไปกราบหลวงปู่สวนท่าน 4-5 ครั้ังในช่วงเวลาที่ทำงานที่อุบลครับ หลวงปู่ท่านมรณภาพตอนที่ผมกลับมาอยู่ กท. แล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีโอกาสไปกราบสรีระท่านเลยครับ

หลวงปู่ท่านเป็นพระที่ใจดีมีเมตตามาก หลายคนคงนึกภาพที่ท่านยิ้มออกนะครับ

 

ประสบการณ์ของผมกับหลวงปู่สวนเพิ่งผ่านมาไม่นานนี้ครับ ทั้งๆที่ได้รู้จักท่านมาช่วงหนึ่ง เคารพและศรัทธาท่าน แต่ยังไม่เคยอธิษฐานขออะไรจากท่านครับ

เรื่องแรกประมาณ เดือนกว่าๆที่ผ่านมา
ผมติดต่อเรื่องศึกษาต่อปริญญาเอกที่ต่างประเทศกับ Professor ท่านหนึ่งครับ ซึ่งต้องเขียน proposal และติดต่อกับ อ. ท่าน ใช้เวลาประสานงานค่อนข้างนานหลายเดือน สุดท้ายผมเลยอธิษฐานกับพระกริ่งชนะมาร (พระอุปคุต) ขอหลวงปู่สวนท่านช่วยให้ อ. ตอบกลับมาซะทีว่าหัวเรื่องผ่านหรือไม่ จะได้เดินหน้าต่อได้ ถ้าจำไม่ผิดภายใน 2 วันนั้น อ. ตอบกลับมาบอกว่าเขาไม่ได้ทำเรื่องที่เราส่งไป แต่จะถาม อ. ท่านอื่นๆต่อให้ ผมก็เลยสบายใจ เริ่มเขียน proposal ตัวใหม่ เริ่มสู้ใหม่อีกครั้งครับ

 

เรื่องที่สอง วันที่ 30 ธค ก่อนปีใหม่นี่เองครับ
ช่วงนี้ผมได้คุยกับ คุณหนูนอร์เวย์ (ขออนุญาตพาดพิง) ซึ่งเป็นเพื่อนสมาชิกที่ศรัทธาหลวงปู่สวนเหมือนกัน คุยกันไปคุยกันมาเลยนึกครึ้มไปหาพระหลวงปู่สวนครับ ปรากฏว่าพระส่วนหนึ่งหายไป หาไม่เจอครับ เนื่องจากผมย้ายห้องครับ ของต่างๆเลยเปลี่ยนที่เปลี่ยนทาง หายาก พยายามหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ อีกใจคิดว่าอาจถูกช่างที่เข้าห้องขโมยไปแล้วรึปล่าว พูดถึงก็นึกเสียดาย เพราะพระของหลวงปู่สวนท่านเดี๋ยวนี้หายาก แท้หรือเสริมรึปล่าวก็ไม่รู้ แถมราคาสูงด้วย ก็เศร้าไปพอสมควรครับ พยายามหาหลายครั้งหาไม่เจอ จนคืนวันที่ 29 ตอนนั่งสมาธิก็เลยอธิษฐานขอหลวงปู่สวนให้ท่านช่วยเมตตาให้ผมหาพระของท่านเจอก่อนปีใหม่ครับ ถึงวันที่ 30 ผมก็นึกครึ้มลองหาพระอีกครั้งด้วยใจที่ค่อนข้างหมดหวัง ปรากฏว่าหาเจอครับ ดีใจสุดๆเลย หลวงปู่สวนท่านให้ของขวัญปีใหม่ที่มีค่ากับผมจริงๆครับ

ท่านอื่นๆที่มีประสบการณ์กับหลวงปู่สวน อย่าลืมมาแลกเปลี่ยนให้เพื่อนๆสมาชิกได้อ่านกันนะครับ

 

จะลองหาเวลาว่างๆไปกราบที่วัดบ้างค่ะ

 

"ดิฉันรู้จักหลวงปู่ญาท่านสวนได้อย่างไร"

จุดเริ่มต้นแห่งความประทับใจในองค์หลวงปู่ญาท่านสวนมีอยู่ 2 อย่างค่ะ

จุดเริ่มต้นที่ 1 ได้เห็นหน้าและรอยยิ้มและคำว่า "ญาท่านสวน" จากปกหนังสือพระเกจิฉบับที่ 133
จุดเริ่มต้นที่ 2 ข้อความคำปรารภเกี่ยวกับชีวประวัติของหลวงปู่ ซึ่งได้กล่าวถึงหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ นครราชสีมาดังต่อไปนี้

มีชาวบ้านคณะหนึ่งตั้งใจไปกราบหลวงพ่อคูณเมื่อไปถึงหลวงพ่อคูณถามว่า "พวกเอ็งมาจากไหนกันล่ะ" ชาวบ้านได้ตอบท่านไปว่า "พวกผมมาจาก อ.ตาลสุม อุบลราชธานีครับ" "พวกเอ็งไม่ต้องมาหากูดอกอยู่ที่ตาลสุมก็มีหลวงปู่สวน พี่กูอยู่โน้น เก่งกว่ากูอีก รู้จักไหมหลวงปู่สวน" หลวงพ่อคูณกล่าว

ลูกศิษย์ใกล้ชิดท่านหนึ่งได้ถามเรื่องนี้กับหลวงปู่เมื่อตอนดำเนินการเทพระกริ่งรุ่น "สายรกพระพุทธเจ้าปี 39" หลวงปู่ท่านบอกว่าไม่เคยเจอหลวงพ่อคูณเลยสักครั้ง ลูกศิษย์ท่านนั้นจึงพูดกับหลวงปู่ว่าหลวงปู่ติดต่อกันทางโทรจิตใช่ไหมครับ หลวงปู่ท่านไม่ตอบไ้ด้แต่นั่งอมยิ้ม

จุดเริ่มต้นทั้ง 2 อย่างนี้ทำให้ดิฉันต้องการศึกษาและรู้จักหลวงปู่ญาท่านสวนให้มากขึ้น

 

"ประสบการณ์ครั้งแรกของดิฉัน" "พระนางพญาหลังพระแม่ธรณีบีบมวยผมและตะกรุดเสริมดวง"


ดิฉันได้อ่านชีวประวัติของวัตถุมงคลอย่างต่อเนื่องและได้เริ่มเสาะแสวงหาวัตถุมงคลของหลวงปู่มาบูชา ถือเป็นความโชคดีของดิฉันที่ได้รู้จักพี่ชัยวิทย์ (เป็นลูกศิษย์ผู้สร้างวัตถุมงคลถวายหลวงปู่มาตลอดโดยไม่ได้เกี่ยวข้องทางพุทธพานิชย์แม้แต่น้อย)

วัตถุมงคลแต่ละอย่างจะสร้างน้อยมากเพราะการสร้างแต่ละครั้งจะต้องสร้างตามตำราอย่างครบถ้วนประเภทสุกเอาเผากินนั้นไม่ทำแน่ ต้องใช้ทุนในการสร้างสูงมาก ฉะนั้นราคาที่ให้เช่าบูชาจึงจัดว่าสูงพอสมควร

วัตถุมงคลชิ้นแรกที่ดิฉันบูชามาคือพระกริ่งอุปคุต (พระกริ่งชนะมาร) ที่มีประสบการณ์เยอะมากๆแต่ดิฉันก็มีความต้องการ (ความโลภ) ที่จะได้วัตถุมงคลอื่นๆของหลวงปู่อีกมากมายหลายอย่างแต่ในขณะนั้นไม่สามารถเช่าบูชาได้พร้อมกันทุกรายการดิฉันจึงได้เช่าบูชามาบางรายการก่อนแต่มีอยู่รายการหนึ่งที่ดิฉันอยากได้มากๆแต่ไม่เคยพูดให้ใครฟังได้แต่อธิษฐานจิตบอกกล่าวกับหลวงปู่่ว่าขอให้ได้เป็นเจ้าของด้วยเถิดแต่ต้องรอหน่อยเพราะยังไม่สะดวกเรื่องปัจจัย

ผลปรากฎว่าในคืนที่พี่ชัยวิทย์ได้จัดเตรียมวัตถุมงคลเพื่อจะส่งให้ดิฉันในวันรุ่งขึ้น คืนนั้นพี่ชัยวิทย์ฝันเห็นหลวงปู่่ไปหาบอกให้ส่งพระนางพญาหลังพระแม่ธรณีบีบมวยผมและตะกรุดเสริมดวงมาให้ดิฉันด้วย พี่ชัยวิทย์ก็ยังงงๆว่าำทำไมถึงฝันแบบนั้นแต่พี่ชัยวิทย์ก็ทำตามที่หลวงปู่่บอกและได้เขียนจดหมายเล่ารายละเอียดให้ดิฉันฟังและบอกว่าเป็นของขวัญปีใหม่จากหลวงปู่ (ได้รับวัตถุมงคลในช่วงปีใหม่พอดี)

พอดิฉันแกะกล่องดูก็เกิดความปลื้มปิติดีใจอย่างบอกไม่ถูกเพราะนอกจากวัตถุมงคลที่ดิฉันได้ร่วมทำบุญกับหลวงปู่่แล้วยังมีพระที่ดิฉันได้อธิษฐานจิตขอหลวงปู่่เอาไว้ด้วยค่ะ ก็คือพระนางพญาหลังพระแม่ธรณีบีบมวยผม ส่วนตะกรุดเสริมดวงนั้นหลวงปู่่ท่านก็เมตตาดิฉันเป็นอย่างมากเพราะช่วงนั้นดิฉันกำลังมีปัญหา อุปสรรคในชีวิตหลายอย่างทีเดียว

เหตุการณ์ครั้งนั้นดิฉันไม่เคยลืมยังจำได้ดีค่ะ






<!-- / message --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>Last edited by Noo Norway; วันนี้ at 03:52 AM.
<!-- / edit note -->

 

<TABLE class=tborder id=post1866855 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_1866855 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">"ประสบการณ์ครั้งที่ 2 ของดิฉัน"

หลังจากที่ได้อ่านเรื่องราวของหลวงปู่มากขึ้นความเคารพเลื่อมใสศรัทธาในองค์หลวงปู่ก็มากขึ้นทุกวัน ดิฉันได้แต่คิดว่าอยากไปกราบนมัสการหลวงปู่ที่วัดจังเลยแต่ก็ไม่ีมีโอกาสเสียที (เพราะดิฉันอยู่ต่างประเทศ)

อยู่มาวันหนึ่งดิฉันได้ฝันว่าได้ไปกราบนมัสการหลวงปู่ถึงที่วัดเลย หลวงปู่นั่งอยู่กลางกุฏิของท่านเหมือนท่านรอดิฉันอยู่พอดิฉันเข้าไปในกุฏิก็ตรงเข้าไปกราบแนบตักแบบโดนตัวท่านโดยไม่กลัวบาปเลยค่ะ หลวงปู่ท่านก็นั่งยิ้มตามสตายล์ของท่าน (ยิ้มเปิดโลก) แล้วหลวงปู่ก็พูดกับดิฉันว่าของที่หลวงปู่มีอยู่ั้ทั้งหมด หลวงปู่ยกให้หนูหมดเลยนะหนูอยากได้อะไรเอาไปได้เลยนะ

ดิฉันได้ยินอย่างนั้นรู้สึกดีใจมากๆค่ะแต่ในขณะเดียวกันดิฉันไม่มีความโลภอยากได้อะไรเลยในตอนนั้น (ทั้งๆที่ตัวจริงแล้วดิฉันเป็นคนที่กิเลสหนามากค่ะ)

ดิฉันบอกกับหลวงปู่ว่าของทั้งหมดเป็นของสงฆ์หนูไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นค่ะวันนี้ได้มีโอกาสมากราบนมัสการหลวงปู่ถึงที่หนูก็ถือว่าเป็นสิริมงคลที่สุดในชีวิตของหนูแล้วค่ะ

หลวงปู่่ท่านก็นั่งยิ้มมองหน้าดิฉันสักพักหนึ่งหลวงปู่ก็ได้เมตตาลงกระหม่อม เจิมหน้าผากให้ศีลให้พรอย่างเต็มที่ในขณะนั้นดิฉันมีความปลื้มปิติเป็นอย่างมากและคิดเข้าข้างตัวเองว่าหลวงปู่ท่านได้รับดิฉันเป็นลูกศิษย์แบบเต็มตัวตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมาค่ะ

ถึงแม้จะเป็นแค่เพียงความฝันแต่ดิฉันรู้สึกเหมือนได้ไปมากราบนมัสการหลวงปู่มาจริงๆตื่นขึ้นกลางดึกหลังจากฝันเสร็จก็ยังมีความปลื้มปิติไม่หาย

พี่ชัยวิทย์เคยเล่าให้ฟังว่าเคยถามหลวงปู่ว่าทำไมผมถึงฝันเห็นหลวงปู่บ่อยจังโดยเฉพาะช่วงจะสร้างพระไปถวายท่านหลวงปู่่ท่านเมตตาตอบว่าการที่ฝันเห็นครูบาอาจารย์นั้นถือว่าเป็นสิริมงคลกับชีวิตแล้วและหลวงปู่ท่านจะไปเยี่ยมลูกศิษย์โดยวิธีการเข้าฝันนี่แหละ

เรื่องนี้แสดงให้รู้ว่าถ้าจิตเราถึงหลวงปู่่ท่านก็จะเมตตาโปรดเราทุกคนค่ะ
ใครที่ยังไม่มีโอกาสไปกราบหลวงปู่่ถึงที่วัดก็ไม่ต้องนึกน้อยใจในวาสนาของตัวเองนะคะ ขอเพียงท่านีความเคารพเลื่อมใสศรัทธาในองค์หลวงปู่่แล้วระลึกจิตถึงท่าน ดิฉันเชื่อว่าหลวงปู่่ท่านรับรู้และคงมาโปรดท่านในไม่ช้าแล้วแต่ท่านจะมาโปรดในรูปแบบใดเท่านั้นเองค่ะ
<!-- / message --></TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("1866855")</SCRIPT></TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls --></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เมื่อปีีที่แล้ว 18.05.51 ดิฉันได้ไปร่วมงานทอดผ้าป่าสามัคคีที่วัดนาอุดมและได้มีโอกาสพบลูกศิษย์รุ่นใหญ่ที่ใกล้ชิดหลวงปู่มากที่สุดพร้อมกันทีเดียว 4 คน 1ในนั้นคือพี่ชัยวิทย์ (ผู้นำชีวประวัติของหลวงปู่มาลงหนังสือพระเกจิ)

อีก 1 ท่านคือลูกศิษย์ที่เป็นคนพาพี่ชัยวิทย์ไปกราบและรู้จักหลวงปู่เมื่ประมาณจะ 30ปีที่แล้ว หลวงปู่ท่านมีความเอ็นดูและสนิทสนมกับพี่ท่านนี้มาก บ่อยครั้งที่หลวงปู่คิดถึงพี่ท่านนี้ หลวงปู่จะนั่งรถสองแถวจากหน้าวัดนาอุดมไปบ้านพี่ท่านนี้และนอนค้างที่นั่น1-2คืนแล้วก็กลับวัด

เป็นความโชคดีของดิฉันที่เมื่อวันงานทอดผ้าป่าสามัคคีพี่ท่านนี้ได้ชวนให้ดิฉันไปนอนค้างที่บ้านด้วยและที่พิเศษกว่านั้นก็คือให้ดิฉันไปนอนในห้องที่หลวงปู่เคยพักนอนมาก่อนไม่ต้องบอกก็ทราบกันดีนะคะว่าดิฉันจะดีใจขนาดไหน

แต่เรื่องยังไม่จบแค่ันั้นค่ะเพราะวันรุ่งขึ้นพี่ท่านนี้ได้นำพระเก่าของหลวงปู่มาให้ดิฉันอีกหลายองค์โดยที่ดิฉันไม่ได้เอ่ยปากขอเลยพร้อมทั้งเล่ารายละเอียดในการสร้างพระชุดนี้ให้ฟังด้วยค่ะ

 

"ประสบการณ์ครั้งที่ 3 ของดิฉัน" (ที่ติดค้างไว้เมื่อวันก่อน)

เรื่องมีอยู่ว่าดิฉันต้องการขายบ้านที่นอร์เวย์เพื่อจะไปซื้อหลังใหม่ ดิฉันจึงได้ติดต่อบริษัทขายบ้านให้มาเดินเรื่อง

ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีทางบริษัทขายบ้านได้พาผู้สนใจมาดูบ้าน ฝรั่งคนนั้นชอบบ้านของดิฉันจึงตกลงเซ็นสัญญาซื้อขายกันโดยมีเงื่อนไขว่าต้องรอให้ดิฉันหาบ้านใหม่ได้ก่อนจึงจะย้ายเข้ามาอยู่ได้

แต่เหตการณ์ไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะหลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้เร่งรัดดิฉันให้ย้ายออกโดยไวทั้งๆที่ดิฉันยังหาบ้านใหม่ไม่ได้ หนักๆเข้าเธอทั้งโทรและส่งข้อความมาต่อว่าดิฉันเสียๆหายๆ ตอนแรกดิฉันก็เข้าใจในความรู้สึกของเธอเลยไม่นึกโกรธแต่เธอก็ไม่ยอมหยุดโทรมาด่าและไล่ดิฉันออกจากบ้านของตัวเอง ตอนนั้นดิฉัน โคตรโกรธเลย จึงติดต่อไปทางบริษัทขายบ้านและเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังพร้อมทั้งบอกยกเลิกการซื้อขายครั้งนั้น ทางบริษัทขายบ้านก็รับเรื่องเอาไว้และไม่ว่าอะไร

ต่อมาประมาณเป็นอาทิตย์ดิฉันได้รับใบบิลจ่ายเงินค่านายหน้าขายบ้านเป็นจำนวนแสนกว่าบาทไทยทั้งๆที่ดิฉันขายบ้านไม่สำเร็จ

คราวนี้ดิฉันนั่งไม่ติดแล้วค่ะเงินแสนบาทมันน้อยซะเมื่อไหร่

ดิฉันจึงเข้าห้องพระอธิษฐานจิตกับพระกริ่งโปร่งฟ้า ไถ้รัสสีหรือพระกริ่งร่ำรวยของหลวงปู่ญาท่านสวน เพราะพระกริ่งรุ่นนี้เน้นเรื่องขจัดอุปสรรคให้ทำอะไรก็ำสำเร็จ

ท่่านเชื่อไหมค่ะว่าทางบริษัทขายบ้านไม่ติดต่อมาอีกเลยทั้งๆที่ดิฉันก็ไม่จ่ายค่านายหน้าให้ ตอนแรกก็ยังไม่ค่อยแน่ใจแต่นี่ผ่านมาหลายปีแล้วมั่นใจเต็มที่ค่ะว่าทางบริษัทขายบ้านคงไม่ตามมาทวงแน่นอน

ทุกอย่างผ่านพ้นมาได้เพราะบารมีหลวงปู่และความศักดิ์สิทธ์ของพระกริ่งโปร่งฟ้า ไถ้รัสสีค่ะ

รักและเคารพหลวงปู่สุดหัวใจค่ะ
<!-- / message --><!-- edit note -->

 

<TABLE class=tborder id=post1869396 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_1869396 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">"พระกริ่งโปร่งฟ้า ไถ้รัสสี" (พระกริ่งร่ำรวย)

พระกริ่งโปร่งฟ้า ไถ้รัสสีเป็นวัตถุมงคลรุ่นสุดท้ายที่หลวงปู่ปลุกเสก หลวงปู่เป็นประธานเททองพิธีเบิกฟ้ามหาภิเษกเมื่อเวลา 13.39 น.วันที่ 4 พ.ย 2548 ณ.วัดนาุอุดมซึ่งเป็นวันเดียวกันที่หลวงปู่ได้เจิมเสาเอกพระธาตุเจดีย์พิพิธภัณฑ์บูรพคณาจารย์

ด้วยอมตะวาจาสิทธิ์ของหลวงปู่ญาท่านสวนตั้งนามมหามงคลวัตถุมงคล "รุ่นร่ำรวย" จึงบังเกิดพระกริ่งนาม "โปร่งฟ้า ไถ้รัสสี" (พระกริ่งร่ำรวยหรือพระกริ่งเศรษฐีใหญ่)

การสร้างพระกริ่งโปร่งฟ้า ไถ้รัสสีในครั้งนั้นนอกจากการลงแผ่นพระยันต์ 108 และนะปถมัง 14 นะ ตามตำราการสร้างพระกริ่งตามพื้นฐานทั่วไปแล้วยังมีการลงแผ่นพระยันต์ที่เป็นไปในความร่ำรวยอีกมากมายซึ่งเป็นมวรสารหลักในการสร้างพระกริ่งในครั้งนั้นนอกจากนี้ยังมีการลงแผ่นพระยันต์ที่เกี่ยวกับการปลอดอุปสรรค ปัญหาทั้งปวงมีการลงแผ่นพระยันต์ที่เกี่ยวกับทางด้านเสริมดวงชะตาไม่ให้ตกต่ำมีการลงแผ่นพระยันต์รูปลักษณะของเทพและเทวดาทั้งหลายยกตัวอย่างเช่นเทวดาประจำวัน, เดือนและปีและเทพในป่าหิมพานต์ทั้งหลายการลงแผ่นพระยันต์ที่เน้นไปในทางเสริมอำนาจเสริมบารมีและยันต์เป็นใหญ่กว่าคนทั้งปวง

ลักษณะของพระกริ่งโปร่งฟ้า ไถ้รัสสีเป็นพระกริ่งหน้าจีนพระหัตถ์ซ้ายถือไถ้หมายถึงถุงเงินถุงทองหรืคลังสมบัติของมหาเศรษฐีส่วนเศียรบนปลายพระเกศจะเป็นรูทะลุลงไปถึงฐานเรียกว่าโปร่งฟ้าหมายถึงการปลอดปัญหา อุปสรรคทั้งปวง




<!-- / message --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>
<!-- / edit note -->


</TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("1869396")</SCRIPT></TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls --> <!-- / controls --></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post1869402 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_1869402 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">ผ้ายันต์รุ่นร่ำรวยที่สร้างพร้อมกันกับพระกริ่งโปร่งฟ้า ไถ้รัสสีค่ะ ขนาดเท่าผ้าเช็ดหน้าพกใส่ในกระเป๋าสตางค์ได้พอดีค่ะ ผืนนี้ดิฉันก็พกติดกระเป๋าสตางค์ตลอด ไม่เคยอดค่ะไปไหนมีหนุ่มๆเลี้ยงข้าวฟรีแถมขับรถไปรับไปส่งตลอดค่ะ

เพราะบารมีหลวงปู่แท้ๆ


<!-- / message --></TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> <SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("1869402")</SCRIPT> </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls --></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

"ประสบการณ์ครั้งที่ 4 ของดิฉัน"

เรื่องมีอยู่ว่าหลังจากที่กลับจากงานทอดผ้าป่าสามัคคีที่วัดนาอุดมเมื่อปีที่แล้ว ถึงบ้านทุกอย่างก็ปกติดีจนแ่ม่ของดิฉันเข้าห้องพระสวดมนต์นั่งสมาธิตามปกติของท่านแต่วันนั้นพิเศษหน่อยคือหลวงปู่ญาท่านสวนท่านมาบอกแม่ในนิมิตในขณะนั่งสมาธิว่าหลวงปู่ดีใจนะที่ลูกสาวของแม่ไปกราบนมัสการและร่วมทำบุญกับหลวงปู่ถึงที่วัด ลูกสาวของแม่ตั้งใจทำให้หลวงปู่เต็มที่หลวงปู่ก็จะให้ลูกสาวของแม่แบบเต็มที่เหมือนกัน ให้บอกลูกสาวของแม่ด้วยว่าคืนนี้ก่อนนอนให้ตั้งจิตอธิษฐานอยากได้อะไรหลวงปู่จะให้

คืนนั้นดิฉันก็ได้ตั้งจิตอธิษฐานขอชมบารมีอย่างจังๆคือไม่อยากฝันแล้วเพราะฝันเห็นบ่อยแล้วแต่อยากให้ท่านมาให้เห็นด้วยตาเนื้อ(เอาเข้าไป) หรือไม่ในนิมิตขณะนั่งสมาธิก็ยังดี

แต่คืนนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยดิฉันก็ยังงงเหมือนกันว่าทำไมครั้งนี้หลวงปู่ไม่มาโปรดเหมือนทุกครั้งที่ขอแต่ก็พยายาม(อย่างหนัก)ไม่คิดน้อยใจในบุญวาสนาของตัวเองจนวันรุ่งขึ้นก่อนหวยออกเพียงชั่วโมงเดียวอยู่ดีๆดิฉันก็พูดขึ้นมาลอยๆว่า "เฮ้ย! ไม่ใช่วันนี้หวยออกอายุหลวงปู่ 96 นะ" แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดตัวเองเพราะปกติไม่ชอบเล่นหวยอยู่แล้ว(นานๆีทีหรือนานๆถี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน)

ผลปรากฎว่าหวยออก 96 จริงๆพอหวยออกปุ๊บดิฉันก็ตาสว่างฉลาดขึ้นทันทีไม่ช่เพราะว่าหลวงปู่ให้หวยนะคะแต่เพราะว่าหลวงปู่ได้โปรดดิฉันอย่างที่ได้ตั้งจิตอธิษฐานไ้ว้คือขอแบบจังๆท่านก็โปรดแบบจังๆเหมือนกัน

คือว่าพอหวยออกปุ๊บดิฉันก็นึกถึงรูปหล่อบูชาขนาดหน้าตัก 5 นิ้วที่บูชาอยู่ที่บ้านที่ฐานเขียนไว้่ว่า "พระครูอาทรพัฒนคุณ" "ญาท่นสวน ฉันทโร" "๙๖" และำทำให้นึกถึงปฏิปทาของหลวงปู่ที่ไม่ชอบโอ้อวดแสดงตนว่าเก่งแต่ท่านให้เราเห็นด้วยตัวเอง เข้าตำราของจริงนิ่งเป็นใบ้ ทุกคนเห็นด้วยกับดิฉันมั๊ยค่ะ

รูปหล่อรุ่นนี้คือ "รุ่นร่ำรวย" สร้างปี 2548 เป็นรุ่นสุดท้ายที่หลวงปู่ปลุกเสก ทุกวันนี้หาไม่ได้แล้วค่ะถึงมีเงินเช่าก็ไม่มีคนปล่อยค่ะ

 

ผมอ่านประวัติแล้วอยากมีไว้บูชาบ้างติดต่อที่ไหนพอมีแบ่งให้บูชาได้ครับ
น้องใหม่ครับ

 

ขอบคุณ คุณหนู มากนะครับที่มาแบ่งปันประสบการณ์กับหลวงปู่
รูปหลวงปู่สวนด้านบนใหญ่สะใจดีจริงๆเลย ขอ save ไว้บูชาหน่อยนะครับ

อยากได้พระบูชาหลวงปู่บ้างจังเลยครับ

 

ผมเป็นคนหนึ่งที่ศรัทธา ญาท่านสวนหรือ หลวงปู่สวน แต่ก่อนผมไม่เคยห้อยพระเครื่องของใครเลยครับ เพราะไม่ได้ศรัทธาใครเป็นพิเศษ ก่อนที่ผมจะห้อยพระเครื่องหลวงปู่สวน ผมได้เริ่มทำธุรกิจ เกี่ยวกับขายของผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นงานที่ใครคิดว่ามันเป็นไม่ได้ที่จะทำเงินได้และจะได้เงิน แต่ผมเชื่อและศรัทธาว่าัมันต้องทำได้ ผมเริ่มทำธุรกิจนี้ตอนเดือนกุมภาพันธ์ ปีทีแล้ว 2551 แต่ก็ไม่ดีเท่าใหร่ ได้มาเดือนละประมาณ 5000 บาท - 15000 บาท พอเดือนตุลาคม ผมได้มีโอกาสได้คุยกับลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงปู่แนะนำให้ผม หาพระหลวงปู่สวนมาบูชาดู เพราะท่านเมตตา ทางด้านค้าขายมาก เพราะลุงรู้ว่าผมขายของเลยแนะนำให้หามาบูชาดู ผมก็ไม่รู้่จักหลวงปู่สวน ว่าเป็นใคร เลยไปหามาบูชากลับเซียนที่รู้จัก คือ พี่เก่งอุบล ผมเดินไปถามพี่เก่งว่า มีพระหลวงปู่สวนไหม รุ่นไหนก็ได้ พี่เก่งเลย ให้ผมบูชา เหรียญรุ่นสอง ที่ด้านหน้าเป็นพระประธาน สร้าง พ.ศ.2523 1 เหรียญ ราคา 350 บาท สภาพ สวยมาก ในสายตาผมนะ ผมไม่ต่อเลยครับ เพราะถูกมาก เจ้าอื่นที่มี 500 บาท อัพ พอผมได้บูชา ผมก็กลับมาทำธุระกิจขายของผ่านอินเตอร์เน็ต รอบสอง เพราะหยุดไป ประมาณ 2 เดือนเพราะไม่มีเงินทุน ผมเริ่มกลับมาทำวันที่ 12 ตุลาคม มันก็เกิดเรื่องมหัศจรรย์กับ ผม เพราะผมขายของได้ทุกวัน ผมทำตั้งแต่วันที่ 12 - 31 ตุลาคมผมได้เงินค่าคอมมิชชั่นมาทั้งหมด 1086 ดอลล่า อะเมริกาครับ คิดเป็นเงินไทยก็ 37000 บาท ดีใจมากครับไม่คิดว่าจะได้เยอะขนาดนี้ พอเดือน พฤศจิกายน ผมขายของทางอินเตอร์เน็ต ได้แบบ ต้องเรียกว่าถล่มทลาย เลยครับ เพราะผมได้ค่าคอม คิดเป็นเงินไทยนะครับ สองแสนบาทครับ อันนี้ใครจะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่นะครับ ไม่ว่ากัน อาจจะหาว่าผมโม้ก็แล้วแต่ แต่มันเกิดขึ้นจริงกับผมครับ พอเดือนธันว่าคม ผมก็ได้ค่าคอมอีก แสนแปดหมื่นบาท เท่ากับว่า สามเดือนที่ผมห้อยพระหลวงปู่สวน ผมได้เงินจากการขายของในอินเตอร์เน็ต เกือบ สี่แสนบาท ผมได้เงิน สองแสนบาทแล้ว และผมก็ให้แม่ผมแล้วครับ 60000 บาท ทดแทนบุญคุณที่พ่อกับแม่ให้ผม เยอะแล้วครับจำไม่ไหว ผมเลยให้ท่านเป็นการทดแทนครับ
เดือน มกราคม ผมได้เช่าพระ อุปคุปต์ ของหลวงปู่สวน จากพี่เก่ง อีกองค์ไปให้น้องผมที่ยโสธร มันศรัทธา จากเห็นผมได้เงินเยอะ เลยอยากได้ผมเลยเช่าไปให้มัน พอมันได้ไปนะครับ มันเกิดเหตุการณ์ประหลาดครับ มีออเดอร์วัสดุก่อสร้าง งานก่อสร้าง เข้ามาให้มันส่ง ให้ทำ ตอนนี้ยอดเกินล้านบาทแล้วนะครับ เพิ่งคุยกับมันเืมื่อกี้ 23.00 น. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2552 แต่ทำตลอดปีนะครับ โครงการหลักล้านบาท เมียน้องผมห้อยเหรียญรุ่นสองครับ ผมหาไปให้อีกครับ มันอาจจะเหมือนการโกหก หรือ โม้ นะครับ สำหรับบางคน แต่สำหรับผม คิดว่าเกิดจากผมศรัทธาหลวงปู่สวน และ มีความพยายามกับการงานที่ทำครับ และผมชอบทำบุญครับ ก็น่าจะส่งให้ธุรกิจผม ดีก็ได้ครับ ถ้าไม่เชื่อลองไปถาม พี่เก่งดูนะครับ ว่า มีคนเช่าพระหลวงปู่สวนจากพี่เก่ง เดือนเดียวเกือบแสนบาทไหม เดือนนี้ผมได้เงินจากการทำงานในอินเตอร์เน็ต ผมว่าจะไปกราบหลวงปู่สวนที่วัดอีกครับ ผมไปกราบมาแล้ว สองครั้งครับ ตอนหลวงปู่ยังอยู่ ผมบอกจริง ๆ ว่่าไม่รู้จักครับ แต่ตอนนี้ ผมแจกพระหลวงปู่สวนให้คนรู้จัก ไป หลายสิบองค์แล้วครับ เช่ามาหลักร้อย แต่แจกฟรี ครับ อยากให้ คนที่รู้จักได้มีสิ่งดี ๆ ติดตัว แต่ไม่รู้ว่าเขาจะ เอาไปขึ้นคอบูชาหรือเปล่านะครับ อันนั้นก็แล้วแต่เขา แต่ผมก็ได้ทำหน้าที่ เผยแพร่ ความเมตตา ของหลวงปู่ ที่เกิดกับผมให้กับคนอื่นที่ศรัทธา หรือ ยังสงสัยอยู่ว่าจริงไหม ก็เอาไปพิจารณาเอาเอง นะครับ แต่อยากบอกว่า พราะหลวงปู่สวน ตอนนี้หายากมากครับ เหรียญรุ่นสอง แต่ก่อน หาไม่ยาก ตอนนี้ผมให้เซียนหาให้ สัก 10 เหรียญผ่านมาสองเดือนได้ มา 3 เหรียญเองครับ อันอื่นก็แพงมากแล้วครับตอนนี้ ผมเดินสนามทุกวันครับ ถ้าเจอผมที่สนามพระที่อุบลเข้ามาถามได้นะครับว่าจริงไหม ผมจะตอบคำถามที่สงสัย เลยครับ
ศรัทธาความเมตตาของหลวงปู่
ศิษย์ญาท่านสวน

 

"ประสบการณ์ครั้งที่ 5 ของดิฉัน"

หลังจากที่ดิฉันเองได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับหลวงปู่หลายครั้งมากจึงยิ่งรักและเคารพเลื่อมใสในตัวหลวงปู่มากขึ้น เมื่อได้คุยกับใครเรื่องหลวงปู่ ดิฉันก็จะบรรยายถึงความเก่งความดีและความเมตตาของหลวงปู่อย่างไม่เกรงใจใคร ไม่ห้ามเป็นไม่หยุดบรรยาย และจากหลายครั้งที่ดิฉันได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับหลวงปู่ให้หลายท่านที่ไม่รู้จักหลวงปู่มาก่อนฟัง ทำให้ท่านเหล่านั้นเกิดความเคารพเลื่อมใสในตัวหลวงปู่อย่างบอกไม่ถูก

แล้ววันหนึ่งดิฉันได้ฝันว่าหลวงปู่ท่านมาหาเดินอมยิ้มมาแต่ไกล พอมาถึงหลวงปู่ท่านก็พูดกับดิฉันว่า "หลวงปู่ไม่ได้เก่งไม่ได้วิเศษอย่างที่หนูเอาไปพูดหรอกนะ" ดิฉันจึงตอบหลวงปู่ไปว่า "ไม่รู้หรอกค่ะว่าหลวงปู่จะว่ายังงัยแต่สำหรับหนูแล้วหลวงปู่เก่งสุดยอดที่สุดค่ะ" หลวงปู่ท่านไม่พูดอะไรตอบได้แต่ยืนอมยิ้มซักพักแล้วท่านก็เดินจากไป

สรุปว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เราพูดเราทำหลวงปู่ท่านรับรู้หมดไม่สามารถปกปิดท่านได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีก็ตาม และหลวงปู่ท่านยังคงรักษาจริยวัตรที่งดงามของท่านไว้เสมอคือการไม่โอ้อวด

มีเรื่องประสบการณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องนี้ด้วยค่ะ คอยติดตามอ่านต่อไปนะคะ
<!-- / message -->

 

"ประสบการณ์ครั้งที่ 6 ของดิฉัน"

มีอยู่ครั้งหนึ่งดิฉันได้ไปติดต่อกับทางธนาคารเพื่อกู้ยืมเป็นวงเงินสูงพอสมควร ไม่คิดว่าจะได้เพราะเป็นวงเงินที่สูงเกินกว่าสภาวะรายได้และหลักทรัพย์ของดิฉัน แต่คิดในใจว่าได้ก็ดีแต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ลองสอบถามดูไม่ได้เสียหายอะไร

ก่อนออกจากบ้านดิฉันก็ได้อธิษฐานจิตบอกกลา่วกับหลวงปู่ที่จะใช้สีผึ้งนารายณ์กลืนจิตของหลวงปู่ หลังจากอธิษฐานจิตเสร็จแล้วก็ได้นำสีผึ้งนารายณ์กลืนจิตมาทาปากและไปที่ธนาคารทันที

ได้แจ้งความประสงค์ให้ทางธนาคารทราบ เป็นเรื่องแปลกมากที่ทางธนาคารตอบอนุมัติให้กู้ยืมทันทีโดยไม่สอบถามรายละเอียดใดๆทั้สิ้น

ดิฉันนึกกราบขอบคุณหลวงปู่ในใจที่ทุกอย่างสำเร็จได้โดยง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก และที่มากกว่านั้นก็คือผู้จัดการธนาคารที่ดิฉันไปติดต่อด้วยเขาเริ่มแสดงท่าทางสนใจดิฉันมากกว่าความเป็นลูกค้าของธนาคารค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้น

ดีนะเนี่ยที่ดิฉันไม่เคยทาสีผึ้งนารายณ์กลืนจิตไปจีบหนุ่มๆไม่งั้นตามมาเป็นขบวนสับรางไม่ทันแน่ๆค่ะ อิอิ



<!-- / message --><!-- edit note -->

 

"ประสบการณ์ครั้งที 7 ของดิฉัน"

เนื่องจากดิฉันได้ร่วมทำบุญในการพิมพ์หนังสือของหลวงปู่ครั้งที่ 2 นี้ด้วย คณะศิษย์รุ่นพี่ที่เป็นผู้นำในการจัดพิมพ์ครั้งนี้ได้ถามดิฉันว่าอยากได้หนังสือกี่เล่มจะส่งไปให้ ดิฉันจึงขอรับ 5 เล่ม (ก่อนไปบูชาจากวัดเพิ่มเติมอีก 10 เล่ม)

ดิฉันได้รบกวนศิษย์รุ่นพี่ท่านนั้นให้จัดส่งไปให้น้องสมาชิกเว็บ 2 ท่าน ส่วนอีก 3 เล่มให้ส่งไปที่บ้านแม่ของดิฉัน

น้องสมาชิกเว็บ 2 ท่านนั้นก็ได้รับหนังสือในเวลาที่สมควร แต่แปลกตรงที่ของดิฉันกลับไม่ได้ทั้งๆที่ส่งพร้อมกัน ระยะทางจากกรุงเทพถึงระยองก็ไม่น่าเกิน 3 วัน แต่จนครบ 1 อาทิตย์ก็ยังไม่ได้ แต่ดิฉันก็คิดว่าอาจจะติดค้างก็ได้ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงปีใหม่พอดี ก็เลยรออีกจนครบ 2 อาทิตย์ก็ยังไม่ได้

คราวนี้ดิฉันไม่รอแล้ว ได้อธิษฐานจิตกับหลวงปู่ที่นอรเวย์ว่า "หนังสือของหลวงปู่นี้เป็นของของหนูแต่ตอนนี้ไม่รู้อยู่ไหน ขอให้หลวงปู่โปรดเมตตาตามหนังสือกลับคืนมาให้หนูด้วยเถิด"

เชื่อไหมค่ะว่าหลังจากนั้นไม่กี่วันดิฉันได้ติดต่อไปทางบ้าน น้องสาวบอกว่าวันนี้ได้หนังสือของหลวงปู่แล้วนะ ดิฉันดีใจมากๆที่หลวงปู่ท่านได้เมตตาดิฉันอีกเหมือนทุกครั้ง

ดิฉันจึงสอบถามความเป็นมาว่าได้มายังงัย น้องเล่าให้ฟังว่าเมื่อวานหลานสาวได้เดินผ่านบ้านที่อยู่ปากซอย เขาไ้ด้เรียกบอกให้ไปเอาหนังสือด้วย บุรุษไปรษณีย์เอามาส่งไว้ที่บ้านหลายวันแล้ว สาเหตุเพราะบ้านแม่ของดิฉันอยู่กลางซอย บุรุษไปรษณีย์ขี้เกียจขับรถเข้ามาส่งถึงที่จึงฝากไว้ที่บ้านปากซอย

แต่เรื่องที่แปลกคือวันๆหนึ่งคนในบ้านของดิฉันเดินผ่านบ้านหน้าปากซอยวันละไม่รู้กี่รอบทำไมไม่บอกตั้งนานแล้ว แต่พอดิฉันได้อธิษฐานจิตกับหลวงปู่ขอให้หลวงปู่โปรดเมตตาตามหนังสือกลับคืนมาให้ด้วย ก็ได้กลับคืนมาโดยเร็ว

สำหรับท่านบางคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญแต่สำหรับดิฉันแล้วมั่นใจเต็มที่ค่ะว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้หลวงปู่ได้เมตตามาโปรดลูกศิษย์ของท่านที่กำลังเดือดร้อนค่ะ

ความเมตตาของพระอริยสงฆ์ไม่มีเขตจำกัดค่ะ

พระอริยสงฆ์และอริยบุคคลมี 4 ระัดับ

ระัดับต่ำสุดคือ พระโสดาบัน
ระดับสูงขึ้นอีกคือ พระสกิทาคามี
ระดับสูงขึ้นอีกคือ พระอนาคามี
ระดับสูงสุดคือ พระอรหันต์

การทำบุญกับพระอริยสงฆ์และอริยบุคคลนั้นย่อมได้บุญมากกว่าการทำบุญกับปุถุชนคนธรรมดาทั่วไป แต่การทำบุญกับพระอริยสงฆ์และอริยบุคคลนั้นก็ไ้ด้้อานิสงส์ผลบุญไม่เท่ากันเหมือนกัน

คิดเอาเองนะคะว่าทำบุญกับพระอรหันต์นั้นจะได้อานิสงส์ผลบุลมากน้อยเพียงใด
ดิฉันเองเป็นเพียงสะพานบุญนำบุญมาบอกท่านแต่พวกท่านต้องไขว่คว้าบุญกันเองนะคะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ
<!-- / message --><!-- edit note -->

 

"ประสบการณ์ครั้งที่ 8 ของดิฉัน" "หลวงปู่เคยมาโปรดให้ได้รู้ได้เห็นเหตุการณ์ในอนาคต"

ตอนแรกดิฉันได้ log out ออกไปแล้วเพราะจะไปทำธุระอย่างอื่นแต่อยู่ดีๆดิฉันก็หูตาสว่างนึกถึงเรื่องความฝันที่เกี่ยวกับหลวงปู่ครั้งหนึ่งขึ้นมาจึงต้องมาพิมพ์เล่าสู่กันฟังในทันที

เมื่อปีที่แล้วได้ฝันว่าทราบข่าวว่าหลวงปู่ได้มาที่แห่งหนึ่งซึ่งดิฉันก็อยู่แถวนั้นพอดี เมื่อดิฉันทราบข่าวก็ดีใจและรีบไปกราบนมัสการหลวงปู่ และตั้งใจจะทำบุญถวายปัจจัยแด่หลวงปู่เหมือนทุกครั้งที่มีวาระโอกาส

ดิฉันรีบหาซองขาวมาใส่ปัจจัยส่วนตัวและกำลังจะถวายใส่มือหลวงปู่ แต่คราวนี้มาแปลกตรงที่ดิฉันฉุกคิดขึ้นมาอย่างกระทันหันว่าถ้าตัวเราเองถวายปัจจัยส่วนตัวของเราคนเดียวแล้วคนอื่นเขาก็จะไม่มีโอกาสได้ถวายเหมือนเราเพราะบางคนก็ไม่รู้จักหลวงปู่และอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่าหลวงปู่มาอยู่ที่นี่

เมื่อดิฉันคิดได้อย่างนั้นดิฉันจึงชะงักมือไว้และบอกกับหลวงปู่ว่า "หนูจะไปตามคนอื่นอีกหลายๆคนให้มาร่วมทำบุญกับหลวงปู่ค่ะ ให้หลวงปู่รอหนูด้วยอย่าพึ่งไปไหนนะคะ เดี๋ยวหนูจะรีบมาค่ะ"

จากนั้นดิฉันก็วิ่งนำซองขาวติดมือไปด้วยเพื่อไปหาคนโน้นคนนี้ที่ดิฉันไม่รู้จักสักคนให้ร่วมทำบุญถวายปัจจัยแด่หลวงปู่กับดิฉัน บางคนพอได้ยินที่ดิฉันบอกก็ออกอาการดีใจอย่างเห็นได้ชัดเหมือนกับเคยได้ยินชื่อหลวงปู่แต่ไม่เคยเจอตัวจริงจึงอยากไปกราบหลวงปู่ใกล้ๆ แต่ก็มีอีหลายคนที่ไม่รู้จักหลวงปู่และไม่เคยเจอตัวจริงท่าน แต่เมื่อฟังคำบรรยายจากปากดิฉันว่าหลวงปู่ท่านทั้งดีทั้งเ่ก่งสุดๆ ทำให้คนเหล่านั้นนึกอยากร่วมทำบุญถวายปัจจัยแด่หลวงปู่เหมือนกัน บางคนก็ถวายมากบางคนก็ถวายน้อย แต่ทุกคนที่ดิฉันไปบอกได้ร่วมทำบุญทุกคนและได้ติดตามดิฉันไปหาหลวงปู่ด้วย

เมื่อไปถึงหลวงปู่ท่านก็ยังนั่งรออยู่ ทุกคนเมื่อเห็นหลวงปู่ก็รีบแย่งกันเข้าไปใกล้ๆหลวงปู่เพื่อขอรับศีลรับพร หลวงปู่ท่านก็เมตตาโปรดทุกคนด้วยรอยยิ้มที่น่ารักตามสตายล์ของท่าน

ในขณะนั้นดิฉันเข้าไม่ถึงหลวงปู่เพราะยืนอยู่หลังสุดเลยปล่อยโอกาสให้คนอื่นได้ใกล้ชิดหลวงปู่นานๆ (แต่ในใจก็คิดว่าไม่เป็นไรเพราะคนเหล่านั้นไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอและทำบุญกับหลวงปู่เหมือนเราให้เขาทำให้ชื่นใจ ส่วนตัวเราเองมีโอกาสบ่อยครั้งจะทำเมื่อไหร่ก็ได้)

สุดท้ายทุกคนได้ร่วมทำบุญกับหลวงปู่และอิ่มเอิบในการทำบุญครั้งนั้นอย่างเห็นได้ชัดทำให้ดิฉันปลื้มปิติที่ได้เป็นคนบอกบุญ

หลังจากที่ฝันแล้วดิฉันก็คิดอยู่หลายครั้งว่าดิฉันจะไปบอกบุญใครได้มากเหมือนในความฝัน เพราะตัวดิฉันเองไม่ใช่คนกว้างขวางและคนไทยที่อยู่ที่นอรเวย์ก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องการทำบุญเ่ท่าไหร่ ยังงงเหมือนกันว่าจะออกมาในลักษณะไหน

จนถึงวันนี้เมื่อสักครู่ที่ผ่านมาจิตก็บอกว่าสิ่งที่เราทำอยู่นี้คือเหตุการณ์ีที่หลวงปู่เคยมาโปรดให้ได้รู้ได้เห็นแล้วในความฝัน

ดิฉันก็มานั่งคิดทบทวนเหตุการณ์ีที่เกิดขึ้นก็ยิ่งมั่นใจว่าเป็นเช่นนั้นว่าท่านมาบอกล่วงหน้าแล้วเพียงแต่รอเวลาอันสมควรที่จะลงมือทำเท่านั้นเอง

ดิฉันเชื่อว่าอะไรก็แล้วแต่ถ้ายังไม่ถึงเวลาก็จะทำไม่ได้ ไม่สำเร็จแต่ถ้าเวลาอันสมควรมาถึงทุกอย่างก็จะเปิดทางทำได้สำเร็จโดยง่าย

อย่างเรื่องของดิฉันเมื่อตอนยังไม่ถึงเวลาก็มีแต่อุปสรรคทำให้ไม่สามารถทำอย่างที่ตั้งใจไว้ได้คือแต่ก่อนดิฉันไม่สามารถพิมพ์ภาษาไทยได้ทั้งๆที่มีแป้นภาษาไทยและพี่ที่จะช่วยเรื่องตั้งกระทู้และช่วยจัดส่งของร่วมทำบุญก็ไม่มีเวลาว่างซะที

แต่เมื่อเวลาอันสมควรมาถึงทุกอย่างก็โปร่งใสไร้อุปสรรค คือ 3 วันก่อนที่ดิฉันจะตั้งกระทู้ได้มีเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งส่งแป้นภาษาไทยพร้อมวิธีใช้มาให้ทาง pm โดยที่ดิฉันไม่ได้เอ่ยปากขอเลย และประจวบกับพี่ที่จะช่วยเรื่องตั้งกระทู้และช่วยจัดส่งของร่วมทำบุญก็ได้ติดต่อบอกมาว่าว่างแล้วช่วยได้เต็มที่

2 วันก่อนที่ดิฉันจะตั้งกระทู้ดิฉันคิดถึงหลวงปู่ทั้งวันแม้กระทั่งเข้านอนแล้วก็นอนไม่หลับจนดึกจึงต้องลุกขึ้นมาหาข้อมูลและรูปภาพที่จะนำมาใช้ในกระทู้และวันที่ดิฉันตั้งกระทู้ก็เป็นวันดีวันสำคัญของพระพุทธศาสนาคือวันที่ 9 กุมภาัพันธ์ ซึ่งเป็นวันมาฆบูชา และไม่รู้ว่าดิฉันถูกโฉลกกับเลข 9 หรือเปล่าเพราะวันนี้วันที่ 19 กุมภาัพันธ์ก็เป็นวันที่ดิฉันไขปริศนาธรรมที่หลวงปู่ให้ไว้ในความฝันตั้งแต่ปีที่แล้วได้สำเร็จ

ตอนนี้ฉลาดขึ้นเยอะค่ะ โง่อยู่ตั้งนาน
<!-- / message --><!-- edit note -->

 

<TABLE class=tborder id=post1900156 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_1900156 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">เอารูปมาโชว์เรียกน้ำย่อยใครบางคน อิอิ


<!-- / message --></TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> <SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("1900156")</SCRIPT> </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls --></TD></TR></TBODY></TABLE>