โรคภัยไข้เจ็บ อันเกิดจากการนั่งสมาธิ / การฝึกจิต / การฝึกพลัง

แฮะๆๆๆๆๆๆ งานนี้ลุยยยยย ขอบคุณโอมมากๆๆๆๆๆๆๆ ค่ะ

 

อ่ะก๊าก ๆ ๆ ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า...ขอหัวเราะให้ดัง ๆ สักครั้งเถอะ ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า..

อย่าหาว่ามังกรเพี้ยนนะครับ ฮ่า..5555555555555 ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

แหม! อาบน้ำแข็งวันที่ 6 ช่างสดชื่นสดใส ซาบซ่าเสียจริง เห่อะ ๆ ๆ

ฝึกหลักสูตรของคุณโอมอย่างเดียวมา 6 วันเต็ม ตอนนี้ร่างกายเปลี่ยนแปลง

นิดหน่อย 55555555555 หัวเราะให้อิ่ม อิอิ เดี๋ยวค่อยโพสต์ต่อ นะนะ

 

- -" ป๋ะป๋าแย่แล่ว

 

เมื่อวานปวดที่หน้าผาก (จักกระ6) และท้ายทอย ปวดเสียวแบบสุด ๆ และหัวใจเหมือน

ถูกไฟดูดแรง ๆ 2 ครั้งติดกัน แต่พอวันนี้ อิอิ โอ้โฮอะไรกันนักหนา 5555555555

ความเย็นพวยพุ่งทะลุออกกระหม่อม ที่ปวดหน้าผาก ปวดท้ายทอย หายเป็นปลิดทิ้ง

ระหว่างนั่งสมาธิปั๊มลมที่ลิ้นปี่ มันเย็นซ่..า เหมือนลิ้นปี่ติดแอร์ พอปั๊มมาก ๆ เข้า

แหม! ความเย็นที่ลิ้นปี่มันทะลุไปอยู่กลางหลัง แล้วฝีเย็บกระดุ๊บกระดิบ ตอบรับทักทาย

ความเย็นมีที่ฝ่าเท้า , ฝีเย็บ , ช่องท้อง , หน้าอก , หัวไหล่ , ตา 2 ข้าง , และหน้าผาก

ตอนนี้ความเย็นกำลังลามไปด้านหลัง ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

นั่งสมาธิดวงตาสว่างสดใส ฝ่ามือเย็นซาบซ่..า หลักสูตรคุณโอมให้ฝึกอย่างน้อย 7 วัน

พรุ่งนี้วันสุดท้าย คงมีเฮ 5555555555555


อยากบอกน้อง ๆ ทุกคนว่า เจอวิชาของจริงที่โดนปกปิด ใครมองข้าม ก๊าก ๆๆๆๆๆๆๆๆ

เสียเวลาไปอีกนาน นะเออ นะเออ หุหุหุ

 

เดี๋ยวป๊ะเขกหัวสักทีดีมั๊ยเนี่ย โป๊ก !

 

อย่าทำปลานะ อย่าทำเบา เขกหัวแรงๆๆเลย 55+

 

ทาทางพ่อมังกรจะมัน อิอิ

แต่ก็สนุกเหมือนกาน อิอิ แต่มานชอบแสบที่จักกระ7

 

เชอะ

 

เมื่อวานมุมปากกระตุกมากตามที่เรียนคุณโอม วันนี้เค้าเปลี่ยนที่ค่ะ มาเกร็งมากๆเลยตรงจุดใต้คาง และบริเวณลำคอ จนขณะนี้ก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่ วันนี้วันที่ 7 แล้วค่ะ แล้วทำไมไม่ปรากฏอาการที่อื่นเลย เป็นแต่บริเวณใบหน้า คอ วันนี้คันยิบๆ ที่หน้า นัยตา ขณะนี้ฝนตกหยิมๆ จะออกไปเดิน แล้วกลับมาอาบน้ำแข็ง เป็นอะไรใหมคะ การอาบเช้าเย็น 2 ครั้งต่อวัน ถ้าไม่อาบติดต่อกัน ใด้ใหมคะ ในกรณีถ้าเกิดเราไม่สะดวก (ไม่อยู่บ้าน ) ขอบคุณจ้า

 

แจ๋วเลย คุณประไพ เดี๋ยวมาตอบ

 

ยิบๆ คัน เป็นตุ่ม หรือผื่น เป็นการขับพิษออกทางผิวหนัง

มีอะไรตกค้างในตัวพี่มาก ใจเย็นๆ กำลังทะยอยขับออกครับ


ตอนนี้ อยู่ในกระบวนการ ขับพิษในระบบจักรห้า และ จักรหก


แต่ถ้าอยากหายเร็ว ก็ทานยาเขียวทุกสี่ชั่วโมง และ เดิน+หายใจแค่ลิ้นปี่เร็วแรง มากๆ


ถ้าพี่เริ่มอาบวันละสองครั้ง วันไหนสุดวิสัยอาบไม่ได้สองครั้ง ก็ขอให้อาบครั้งเดียวก็ยังดี


ยินดีด้วยครับ พยายามต่อไปครับ กำลังไปได้ดีครับ

 

วันนี้ กินยาเขียววันที่2ครับ

เริ่มคันนิดๆหน่อยๆครับ ตอนกินช่วงบ่าย มีน้ำมูกไหลหน่อยๆ

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


ขนาดยังไม่ได้อาบน้ำแข็ง น้ำมูกไหลแล้ว


แสดงว่า.... การขับพิษ การเตรียมร่างกายด้วยยาเขียว เป็นไปด้วยดี

กำลังขับพิษทางผิวหนัง และ ระบบจักรหกครับ


ให้ฝึกหายใจ แค่ลิ้นปี่ ไปด้วยเลยครับ


หายใจคล้ายปกตินั่นแหละ แต่ จุดวกกลับแค่ลิ้นปี่

ให้ลมเข้าเต็มปอด จึงค่อย ระบายลมออกนะครับ

ให้แรงๆเข้าไว้ ในบางครั้ง เพื่อกระตุ้นการชำระล้างที่จมูก



ฝึกเดินทางราบ งับปาก ฟันบนล่างขบกันเบาๆ ลิ้นแตะเพดาน

แขนแกว่งธรรมชาติ ตามองสูงแค่ยอดไม้ เอาระยะสักหนึ่งกิโลขึ้นไปก่อน

 

มีบางท่านโทรมา ขนาดอาบเกินเจ็ดวัน เริ่มวันละสองรอบแล้ว

เสียงของเจ้าตัวที่อยู่ในหัว ก็บอกว่า " ไม่ออกๆๆ"


" ไม่ดี ๆๆๆๆ ".... เพื่อจะให้เลิกอาบน้ำแข้ง
( เพราะ เค้าดื้อนะ ระดับเจ้ากรรมนายเวร อาฆาตแรง )

ก็ให้ทำต่อไป แล้วเพิ่มการสวดมนต์ภาวนา ทำบุญแผ่กุศลให้เค้าด้วยนะครับ

 

พี่โอมค่ะ แล้วที่แบบว่าอาบน้ำแข็งแล้วคันหัวแงะ แหะๆ เกี่ยวกันไหมค่ะเนี่ย >.<

 

แค่คันหัวเองหรอปลา พี่ ทั้งคันทั้งแสบหัวเลยเนี่ย ฮือๆๆ

พี่โอมกินยาเขียวแล้วทำไมมานชอบง่วงอะ อิอิ

 

วันนี้ผมอาบวันที่สามแล้วครับ คัดจมูกตลอดวันเลยเหมือนจะเป็นหวัด
ตัวร้อน หัวอื้อๆ น่าหงุดหงิดมากครับ สภาพอื่นๆปกติ
ตื่นตอนเช้าลุกแทบไม่ไหวครับ
หนักสุดคือคัดจมูกนี่ล่ะ รู้สึกตัวขึ้นกลางคืนหายใจไม่ออกต้องหายใจทางปากอ่ะครับ
ตอนอาบน้ำนี่มันเย็นซู่ซ่าดีจริงๆขอบอก ถึงไหนถึงกันอยู่แล้วครับ

 

ขอบคุณครับคุณโอม

แต่ขอสอบถามหน่อยครับว่า อาบน้ำแข็งนี่ ยังไงหรอครับ

ถ้ามีเขียนไว้แล้ว จะลองกลับไปหาดูครับ

แบบว่า คงต้องแอบๆลองทำน่ะครับ ประเดี๋ยวผู้ปกครอง(คุณแม่)

จะหามผมไปโรงบาลเสียก่อน

ตอนนี้ ยาเขียวก็เหลือแค่ ซองกับ อีกครึ่งซอง แบบนี้จะต้องเริ่มใหม่มั้ยครับ

เพราะดูแล้วคงจะไม่ครบตามที่คุณโอมเขียนเอาไส้น่ะครับ แย่จังเลย แหะๆ

อ้อขอเพิ่มเติมรายละเอียดที่เกิดขึ้นตอนกินยาเขียวนะครับ เพิ่งจะนึกขึ้นได้

ตอนกินเข้าไปซักพัก มักจะปวดหัว แถวขมับ หน้าผาก และแถวๆท้ายทอย และคอ

แล้วจะหายไปหลังจากประมาณ5นาทีได้กระมังครับ

ปล. อยากจะลองจริงๆ แต่ตอนนี้ต้องคิดวิธีพูดกับแม่ให้เข้าใจก่อนจะดีกว่าแฮะ

 

วิธีทานยาเขียวค่ะของพี่โอม ไปขุดมาจากหน้า2


วิธีของกระผม ก็แนว EXTREME ตามสไตล์ แต่ ถ้าจะให้อธิบายก็ใช้หลักธรรมชาติ

นี่แหละ เอากระบวนการและยารักษาขนานนี้ไปใช้นะครับ



1/ ทานยาเขียว ครึ่ง ซอง ตอนตื่นนอน และ ครึ่งซอง ก่อนนอน
( ท้องว่าง ทานกับน้ำดื่มอุณหภูมิปกติ ) เป็นวันแรก


2 /ทานยาเขียว หนึ่ง ซอง ตอนตื่นนอน , หนึ่งซอง ระหว่างวัน และ หนึ่งซองก่อนเข้านอน ระหว่างวันนั้น ก่อนหรือหลังอาหารสองชั่วโมงเป็นอย่างน้อย
( ท้องว่าง ทานกับน้ำดื่มอุณหภูมิปกติ ) เป็นวันที่สอง


3 /วันที่สาม ตอนเช้ายาเขียวหนึ่งซอง ระหว่างวันหนึ่งซอง

ตอนหัวค่ำ หลังอาหารอย่างน้อยสองชั่วโมง หรือ ก่อนนอน หลังจากอาบน้ำ ทำความสะอาดตามปกติแล้ว
ให้อาบน้ำแช่น้ำแข็งแบบเย็นเจี๊ยบบ จำนวนหนึ่งสังฆทานขนาดกลาง หรือ ใหญ่ ประมาณ 10 ขัน

โดย รดทีละขัน ราดตั้งแต่หัวลงมา

เสร็จแล้ว เช็ดตัวให้แห้ง , หายใจสั้นแค่ลิ้นปี่ ให้เต็มปอด คือเห็นลมตั้งแต่จมูกมาถึงคอ อก ลิ้นปี่ เต็มปอดแล้วหายใจออก สักสิบ ยี่สิบครั้งขึ้นไป เพื่อ
กระตุ้นเลือดลมให้ปรับตามธรรมชาติ , ทานยาเขียวหนึ่งซอง ภายในสิบนาที นับตั้งแต่
เช็ดตัวจนแห้ง เพื่อให้ร่างกายปรับตัว ปรับธาตุได้ทัน จะไม่เป็นหวัด



4 /วันที่ 4 ก็ยาเขียวหนึ่งซองตอนตื่น ระหว่างวันหนึ่งซอง ก่อนนอนอาบน้ำแข็งและยาเขียวหนึ่งซองภายใน 15 นาที หลังเช็ดตัวแห้ง



ตั้งแต่วันที่3 ทำไปทุกวันแบบนี้ จนถึง 3 วัน ไม่เกิน 7 วัน
อาการของโรคปัดสะตึก น่าจะหาย ตามคอร์สจริงๆ เพื่อเซ็ทระบบพลังงานของร่างกายซะใหม่

ต้องครบ 7 วัน ที่อาบน้ำแข็งติดต่อกัน ( ไม่ว่าอาบวันละ กี่ครั้ง ) ถ้าเว้นไปหนึ่งวัน ต้องเริ่มใหม่

วิธีนี้ ยังรักษาโรคทางการเดินลมปราณ ต่างๆ ให้หายได้หลายโรคด้วย




ปล. ไม่ต้องกลัวนะครับ กล้าๆหน่อย .....มีหลักสูตร EXTREME อีกหลายอย่าง ซึ่งผมก็ใช้ประจำอยู่แล้ว สุดๆด้วย

นอกตำรา แต่ เป็นเหตุผลธรรมชาติทั้งนั้น....



--------------------------------------
หรือ จะทานทุกสี่ชั่วโมงก็ได้ค่ะยาเขียว แต่ต้องทานอย่างน้อย 3-4มื้อ

เพราะยาเขียวจะทานทานได้4ชั่วโมงต่อ1ซองค่ะ ใครทาน2ซองร่างกายก็ดูดใช้แค่1ซองนะเอย

เครดิต: ก็พี่โอมแหละค่ะ อิอิ

 

พี่โอมค่ะ ปลาพึ่งมาสังเกตุร่างกาย ตอนราดขันที่7มาก็ยังปวดๆอยู่หน่อยแต่น้อยกว่าสองวันก่อนเกือบ50% แต่ที่ผิดสังเกตุคือ จากการปวดตรงหน้าผากกลายเป็นปวดตรงระหว่างคิ้วกับตาบนสะงั้นค่ะ ย้ายที่มาเมื่อไหร่ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ