เจอของจริงวิ่งหนีป่าราบ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Angel_Of_Dream, 27 กรกฎาคม 2008.

  1. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    (||)
    (||)

    stefa ว่า คำคม
     
  2. lisy

    lisy สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +21

    ว่าจะไปทำงานแล้ว แต่เห็นคุณบุคคลทั่วไปฯเขียนตอบแบบนี้ ทำให้เกิดปุจฉาทันที เหมือนเหตุการณ์บ้านเมืองตอนนี้เลย อยากถามว่าวินัยสำคัญหรือความถูกต้องสำคัญ ถ้าว่ากันตามธรรม ถ้าเราเห็นไม่ตามเพื่อนพ้อง สำคัญด้วยหรือ lisy ทำตามความคิดที่ถูกต้อง ชอบหรือไม่ชอบไม่เกี่ยว
     
  3. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    มีโลกใบหนึ่ง ถูกแบ่งเป็น 2 ซีก ด้านหนึ่งมืด อีกด้านสว่าง คนที่อยู่ด้านมืด
    [FONT=&quot]มองไม่เห็นด้านสว่าง , คนที่อยู่ด้านสว่าง มองไม่เห็นด้านมืด[/FONT]


    มังกรบูรพา

    (||)

    ปัจจุบันนี้ โลกไม่มีมืด ไม่มีสว่าง มานานแล้ว
    น่าจะใช้พื้นฐาน ปัจจุบันเป็นหลัก

    ดี กับ ชั่ว
    คนดีรู้ แยกแยะออก
    คนชั่ว จิตยังมืดมน หรือบ้างก็สว่างแพรมๆๆๆ
     
  4. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    (||)
    (||)

    stefa อยากให้ตั้งหลักบนพื้นฐาน ของความเป็นจริง
    โลกจริง ทุกข์จริง สุขจริง
    ถ้ามัวแต่ โลกสมมุติ สมมุติโลก
    เหมือนที่สันโดษว่า สันโดษเป็นแค่ จิต
    ก็วน ไม่ไปไหนซักที
    เหมือน เจโต เดาสุ่ม ไปเรื่อย
    สนุกนะ แต่ว่า ทำให้ผิดเพี้ยน ก็เลย กลายเป็น สมมุติ

    แบบนี้ เรียกว่า ย้อน ย้อนโลก ย้อน ย้อนธรรม
    ย้อนสมมุติ


    การสมมุติ เหมือนการปลอบตัวตัวเอง การเพ้อฝัน ประมาณนั้น
     
  5. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อย่าไปดูการเมือง การเมืองเป็นเรื่องของอุบายล้วนๆ มันไม่มีเหตผลหรอก

    ยกตัวอย่างเช่น

    การเจรจาสงบศึกของภาคใต้

    ในด้านเหตุผล คือ สิ่งดี นำไปสู่ความสงบ

    แต่ในด้านการเมือง อันนี้ คือการยกฐานะองค์กรให้เขา เมื่อเขามีสภาพ
    นิติบุคคล เมื่อนั้นจะต้องมี คนกลาง มาช่วยเจรจา แบบนี้คือเสียอธิปไตย

    กลเม็ดของการยกสภาพนิติบุคคลขององค์กรมีอีกหลายวิธี อหิงสา แบบ
    ที่ท่านมหาตมะคานทีใช้ ก็เป็นกลวิธีหนึ่ง ( อหิงสา - นี่ผมใช้คำผิดเปล่าไม่ทราบ )

    การเมืองนั้นลึก เดินกัน 10 ชั้น ข้าม Generation มันเกินวิสัยจะติดตาม
    สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในสายการเมืองแท้ๆ คนที่ดูข้ามไปถึง Gerneration
    ที่เขาวางแผนไว้ไม่ได้ เหล่านั้นจะตกเป็นหมากของเกมส์การเมืองทั้งนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2008
  6. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ดีแล้วที่คุณเมตตาผม ช่วยชี้แนะผม

    แต่การที่เราดู ทุกข์สัจจ ให้ละเอียด กับ ดูแบบผิวเผิน อันไหนชี้ธรรม
    ให้คนได้หลากหลายประเภทมากกว่ากัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2008
  7. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253

    ไม่เถียงหรอก แต่อยากถามว่า เพชรฆาตที่ทำหน้าที่สังหารนักโทษ

    เขาจะระลึกศีลได้ หรือ ระลึกการฆ่าได้มากกว่ากัน

    ในระหว่างที่ปฏิบัติธรรม จะระลึกถึงศีลได้ตลอดไหม หรือ จะมีความ
    ไม่เที่ยง แว๊บไปคิดเรื่องการฆ่า

    ในขณะที่จิตแว็บไปคิดถึงเรื่องการฆ่า ตอนนั้นย่อมไม่มีสติ เพราะไม่
    ได้อบรมไว้ดีพอ

    ก็เพราะอบรมสติไว้ไม่ดีพอ จะทำให้ระลึกถึงศีลได้ตลอดไหม

    ที่ผมหมั่นดู ก็ไม่ใช่เพื่อรู้อะไร ก็ชี้ไปแล้ว ที่ทำก็เพื่อ อบรมจิตให้มีสติ เท่านั้น
     
  8. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    เฮ้อ! ................
     
  9. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ถึง to2504

    เรื่อง tro.....

    [​IMG][​IMG][​IMG]

    ด้วยรักและคิดถึง
     
  10. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    ;8

    คำว่า โลกสมมุติ นะ
    ในสมัยโบราณ การเกิดคำๆนี้ขึ้นมา ก็มีเหตุผล

    เนื่องจากว่า สมัยนั้น การสื่อสาร ยังไม่ทันสมัยเหมือนปัจจุบัน
    คำๆนี้ จึงได้นำมาใช้ เพราะอะไร เพราะว่า
    ซีกโลกอื่นๆ เป็นอย่างไร
    ประเทศนั้น มีอะไรบ้าง
    ภูมิประเทศ ที่นั่น ที่นี่ ลักษณะไหน
    การบันทึกต่างๆ ก็ยังไม่มีพิมพ์ดีด คอมพิวเตอร์

    แบบนี้ คนในยุคเก่า จึงมักจะใช้คำว่า สมมุติ บ่อยๆ
    เพราะว่า ไม่แน่ใจ ไม่แน่ใจ ไม่แน่ใจ

    ต่างกับปัจจุบันไม๊ ต่างกันมาก
    ฉะนั้น เราไม่ควรย้อนยุคมาก อ้างอิงกันพอสมควร
     
  11. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    เป็นหนอนตำราแต่มิถามผู้ปฏิบัติจริงๆเช่นพระป่า ก็มักจะสับสน
    บางคนหรือหลายคนก็เข้าใจว่า ถ้าตนเองสามารถ ละโลภโกรธหลงได้ ก็ใช่แล้ว คือ นิพพานแล้ว หรือ เป็นอริยะแล้ว ทำนองนี้ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดไปเป็นอย่างมาก
    เหมือนเราบอกเราเลิกเหล้าเลิกบุหรี่ได้แล้ว แต่ไม่จริง เพราะบางทีหลายคนกลายเป็นเสือหวลก็มากมี
    การละรักโลภโกรธหลงในทางสายปฏิบัตินั้น หมายถึง"การละได้จริงๆ100%"
    เป็นการละทางจิต ซึ่งเป็นอัติโนมัติ ละได้บางส่วนก็เป็นโสดาบัน ละได้อีกก็ได้ขั้นสูงไปอีก จนละหมดหรือเหลือบางเบามากๆก็เป็นอรหันต์ทำนองนี้ และไม่มีทางหวลคืนได้เลย เป็นอัติโนมัติทางจิต ซึ่งไม่ใช่ทางสัญญาความรู้ความจำใดๆทั้งสิ้น
    ฆาราวาสหลายคนสนใจในการทำสมาธิ แล้วถึกทักว่าตนเองสำเร็จอย่างโน้นอย่างนี้ มีฤทธิ์อย่างโน้นอย่างนี้ ซึ่งไม่จริงหรืออาจจริงได้ในบางส่วน
    แต่ที่จะให้ได้อริยะคือนิพพานนั้น ทั้งหมดถือเป็นกิเลศลวงทั้งสิ้น อาจมีหลุดไปได้บ้างก็น้อยแสนน้อยจนแทบจะนับไม่ได้เลย
    ผู้ที่สามารถละกิเลศได้จริงส่วนใหญ่ต้องเป็นพระหรือผ้าขาว แทบจะเท่านั้น
    สมมุติสงฆ์บางครั้งว่า ละได้แล้ว แต่ความจริงไม่ใช่ เพราะไม่ได้ปฏิบัติ
    การปฏืบัติโดยเครื่องมือธุดงค์วัตร13ขันธวัตร14และกรรมฐาน40นั้น
    ผู้ที่สำเร็จได้ อาจต้องสลบแล้วสลบอีก เรียกว่าทำความเพียรจนก้นด้านไปเลยแบบนั้น
    แต่ถ้าไม่ใช้เครื่องมือที่ว่า ไปทางสายฤาษีเป็นต้น ก็อาจได้ฤทธิ์อภิญญาได้แต่ไม่สำเร็จ ต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่อีกร่ำไป
    พระปฏิบัติเช่นพระป่า ท่านเพียรพยายามในอิทธิบาท4ตลอดเวลา แทบจะไม่มีเวลาพักในธรรม
    ขนาดหลวงพ่อชาสายมหานิกายไม่ใช่ธรรมยุทธ เจ้าที่เจ้าทางมาขอปฏิบัติธรรมอยู่ได้ไม่เกินเดือน
    ต้องกราบลาหลวงพ่อชาว่าปฏิบัติไม่ไหว เหนื่อย
    นี่ขนาดเจ้าแห่งผียังลาโลง
    แล้วฆาราวาสที่นั่งปฏิบัติประหร่อมประแหล่มนั้น จะไหวเหรอ ฮา
     
  12. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    (||)(||)

    แบบนี้แหละ คือ โลกปัจจุบัน ไม่ใช่ โลกสมมุติ
    ถ้ามัวแต่ โลกสมมุติ พูดไปก็วน

    ตอนนี้นะ กระทู้นี้ stefa ว่า เหมือนเพิ่งจะเริ่มเดินนะ
    ย่ำอยู่กับที่ เหมือนกระทู้ก่อน มาหลายหน้า
    แล้วก็ การเมือง หรือไม่ อย่างไร
    อันนี้แล้วแต่ ประสบการณ์ ของแต่ละคน
     
  13. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    มาฟังธรรม ขัดเกลาจิตใจ กันไหมครับ http://chat.palungjit.org/ ^-^
     
  14. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    อ้าว อ่านมาตั้ง 12 หน้า ยังไม่รู้คำตอบหรือ
    ผมกระโดดข้ามมาอ่านหน้า 12 หน้าเดียว ก็ตอบได้เลย อิอิ
    แซวเล่นนะ อย่างอนล่ะ
    กระทู้นี้อ่านสนุกดีเหมือนกัน ขำมากมาย
     
  15. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ย้อนไปอ่านหน้า 11
    นี่ท่านพายุกันดาร ยังแยกขันธ์กับจิตไม่ออกหรอกหรือ
    ธาตุขันธ์ก็ต้องดำรงไปตามสมมติ
    จิตที่พ้นแล้ว นั่นแหล่ะ ความเป็นอรหันต์
    แล้วอรหันต์คิดหรือไม่คิดล่ะ
    พระอรหันต์นะ ไม่ใช่เป็นโรคเอ๋อ ที่จะให้ไม่คิด
    ท่านก็คิดของท่านไป ตามประสา แต่ไม่มีความทุกข์ในความคิด เพราะล้วนเป็นสมมติ แต่ยังมีสมมติ ส่วนจิตเป็นวิมุตติ...หุๆๆ
     
  16. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    เป็นหนอนตำราแต่มิถามผู้ปฏิบัติจริงๆเช่นพระป่า ก็มักจะสับสน
    บางคนหรือหลายคนก็เข้าใจว่า ถ้าตนเองสามารถ ละโลภโกรธหลงได้ ก็ใช่แล้ว คือ นิพพานแล้ว หรือ เป็นอริยะแล้ว ทำนองนี้ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดไปเป็นอย่างมาก
    เหมือนเราบอกเราเลิกเหล้าเลิกบุหรี่ได้แล้ว แต่ไม่จริง เพราะบางทีหลายคนกลายเป็นเสือหวลก็มากมี
    การละรักโลภโกรธหลงในทางสายปฏิบัตินั้น หมายถึง"การละได้จริงๆ100%"

    NARKA
    (||)(||)

    โห ปรบมือให้
    เขียนแบบนี้ มีคนยกคำว่า ปรามาส มาว่าบ่อยๆนะ

    แต่ stefa หนับหนุน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2008
  17. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 18 คน ( เป็นสมาชิก 12 คน และ บุคคลทั่วไป 6 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>ฐาณัฏฐ์, แพน้อย+, วิมุตติ+, jinny95+, k.kwan+, NARKA, nong_music, stefa+, to2504, คีตเสวี+, พายุทะเลทราย </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ALOHA.
     
  18. แพน้อย

    แพน้อย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +25
    โอ้โห.. แพส่งดอกไม้ให้สเตฟาทุกวัน
    บางวันมีกลอนส่งไปให้
    ไม่เคยคุยกับแพ ไม่เคยตอบกลับแพเลย
    แต่ที่ห้องแพเห็นมีชื่อสเตฟาค้างชื่อไว้ทุกวัน
    แสดงว่าแวะเข้ามาอ่านที่ห้องแพทุกวัน
    ดีใจนะคะ ที่สเตฟาเริ่มสนทนากับแพแล้ว
    แม้คำจะเต็มไปด้วยอารมณ์ในคำ
    แต่นั่นก็คือตัวตนของสเตฟา
     
  19. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    [​IMG]

    เลี้ยงเหล้า ลูกหมา แบบนี้ เมื่อไหร่ จะฟื้น ซักที
    คนมีกิเลส ตัณหา รุมสุม เข้ามาอ่าน
    อยากเหล้า บุหรี่
    ลนลาน น้ำลายไหลริน
     
  20. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    คุณนาคาเป็นแฟนพันธ์แท้พระป่า นับว่าสายเดียวกัน น่าจะคุยกันได้
    การปฏิบัติในรูปแบบที่ต้องเอาชีวิตเข้าแลก ก็สำเร็จได้จริงอยู่ ตามที่ครูบาอาจารย์สำเร็จกันแล้วมากมาย
    ขอท่านนาคาโปรดพิจารณาว่า การปฏิบัติสายสติปัฏฐานสี่ มีหลักในการปฏิบัติว่าอย่างไร
    ต้องเข้าป่า นั่งจนก้นด้าน สลบแล้วสลบอีก ถือธุดงค์วัตร 13 อย่างนั้น เท่านั้นหรือ
    แล้วในสมัยพุทธกาลที่มีคนฟังธรรมแล้วบรรลุเลย
    พระสารีบุตรฟังประโยคเดียว บรรลุโสดาบันเลย
    แล้วพระสาวกอื่นๆ อีกมากมาย ไม่เห็นต้องปฏิบัติแบบ เอาเป็นเอาตายเลยหนิ
    ทางสายเซนก็เช่นเดียวกัน เน้นแบบ ปิ๊งแว๊บ
    การปฏิบัติแท้จริงแล้ว เราปฏิบัติที่ไหนกันหรือ ที่กาย หรือที่จิต มีรูปแบบ หรือไร้รูปแบบ ปฏิบัติเพื่อยึด หรือเพื่อวาง?
    ที่ต้องถือวัตรปฏิบัติแบบเคร่งๆ เพื่ออะไร เพื่อให้เห็นทุกข์ในรูปนามขันธ์ห้ามิใช่หรือ
    แล้วถ้าเราอาศัยผัสสะต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้เห็นทุกข์ในรูปนามได้ล่ะ
    ผลก็ไม่ต่างกันเลยมิใช่หรือ
    พอดีรีบกลับ ผมก็กล่าวเพียงเท่านั้น ท่านนาคาเป็นผู้ใหญ่ มีความรู้กว้างขวาง ผมว่าท่านพี่นาคาน่าจะเข้าใจนะครับ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...