พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

สวัสดียามบ่ายร้อนๆครับ

 

1687.ของดีของหายาก สุดยอด ประสบการณ์ มหาเสน่ห์ ที่หนุ่มๆ สาวๆ กล่าวถึง ตะกรุดม้ากล่อมนาง มหาเสน่ห์ เข้มขลัง อุดผงในปี๊ป หลวงปู่ครูบาบุดดา วัดหนองบัวคำ จ.ลำพูน ปิดรายการครับ

​

“หื้อเอาไปใช้เน้อ เอาติดตัวไว้อย่าหื้อหาย ของดี ทำยากแท้”
“ของที่เฮาทำ เฮาเสก เป็นของเป็น บ่อใช่ของตาย ของมันเลือกเจ้าของเองแหละ บ่อใช่เจ้าของมันเลือกของ”

ตะกรุดม้ากล่อมนาง มหาเสน่ห์ เข้มขลัง อุดผงในปี๊ป
หลวงปู่ครูบาบุดดา วัดหนองบัวคำ จ.ลำพูน
ฝังผงในปี๊บ ตำราเฉพาะครูบาบุดดา ตะกรุดม้ากล่อมนาง ไม่เหมือนใคร เรื่องแรง เรื่องเห็นผลไว เห็นผลเร็ว ไม่ต้องพูดกัน ยันต์ม้ากล่อมนางถูกกันกับครูบาฯ แค่ท่านเอามือลูบยันต์ก็ขลังสุดใจแล้ว ก็ท่านเป็น "ครูบาเล่นฤทธิ์" นี่ท่านตั้งใจทำให้จะไม่ขลังเหนือขลังยังไงได้ จารยันต์ม้ากล่อมนางตัวครูลงบนแผ่นตะกั่วตีนอวน ตีนแห พอกผงในปี๊บ ที่เทไม่ออก ช้อนตักไม่ขึ้น (ผงนี้จะตักก็ต้องไปอยู่เหนือลม #ผงปลิวโดนจีวรท่านท่านยังสั่งให้สะบัดออกให้หมด ไม่ให้ติดแม้เพียงเศษฝุ่น เรื่องพุทธคุณจึงไม่ต้องบรรยาย) ตัวตะกรุดอุดผงเม็ด เป็นกลบทล้านนา เขย่าจะมีเสียงดังคล้ายพระกริ่ง เมื่อจะใช้ต้องเขย่า เรียกเทวดา เรียกม้า เรียกนาง ยันต์ม้าคู่นางโดยทั่วไป ผู้ม้ากับนางไว้ แล้วหนุนมหาเสน่ห์ เมตตา นี่ท่านเพิ่มเตวดาให้ด้วย เป็นเคล็ดว่าหากนางที่หมายปองมีบารมีสูงกว่าชาย ม้าเรียกแล้วไม่มา ให้เรียกเตวดาลงมาช่วยกิจการใดที่ไม่สำเร็จเป็นไม่มี แรงกว่าม้าคู่นางที่เคยเห็นเคยใช้
ตำนานมนต์เสนห์เมืองเหนือ ที่เป็นที่สุดต้องยกให้ วิชา "ม้าเสพนาง"ที่ ครูบาอาจารย์รุ่นเก่าสร้างใว้ขลังนัก ครูบาบุดดา ท่านเป็น #ศิษย์ของครูบาวัง วัดบ้านเด่น ต้นตำรับ
รับประกันความแท้ และความแรง จำใจนำออกเผยแพร่เพื่อกิตติคุณ และบารมีหลวงปู่ครูบาบุดดา
พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองเหนือ "หลวงปู่ครูบาบุดดา" หรือ "ตุ๊เจ้าดา" ของชาวบ้านรูปนี้ท่านเก็บตัวเงียบอยู่วัดบ้านนอกในจังหวัดลำพูนวัตรปฏิบัติ ปฏิปทาของท่านน่าสนใจทีเดียว ท่านเป็นสายบุญของ "ครูบาเจ้าศรีวิชัย"
ตำนานมนต์เสนห์เมืองเหนือ ที่เป็นที่สุดต้องยกให้ วิชา "ม้าเสพนาง"ที่ ครูบาอาจารย์รุ่นเก่าสร้างใว้ขลังนัก ครูบาบุดดา ท่านเป็น #ศิษย์ของครูบาวัง วัดบ้านเด่น ต้นตำรับ จึงสืบทอดของได้ขลังเหมือนของครู เพราะท่านเคยทำผ้ายันต์แล้ว ขลังขนาดแรงมากอย่าให้ตกถึงมือหนุ่มคนไหนเลย เป็นได้ควงผู้หญิงสาวสวยทุกรายไป "วิชาม้าคู่นาง" เป็นวิชาใช้สำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ เนื่องจากทางให้ผลทางเสน่ห์รุนแรงมาก ผู้ชายจะไปเที่ยวหาสาว หากได้พกติดตัวไปด้วยต้องได้พบรัก
ใครตามหาเครื่องรางที่แรงด้วย เรื่องคู่รัก...เรื่องจีบสาว...ไม่ควรพลาด ผู้ใช้ควรใช้อย่างมีศีลธรรม นำไปใช้ในทางที่ดี กับผู้ที่ยังไม่มีเจ้าของ เลี้ยงดู และดูแลเขาด้วยความรับผิดชอบจะเป็นการดี เรื่องของต้นตำรับต้องเอาไปลองเอง ให้ลองใช้ก่อนแล้วจะพูดไม่ออกใครที่ชอบเสี่ยงโชค ท่านให้เอาไปใช้ อาจรวยไม่รู้เรื่อง

​

 

1688. ต่อไปจะหายาก ดุจแรงครูประสิทธิ หนุมานเมียมาก อุดผงมนต์พระกาฬ แช่น้ำมันสัก (งานไหว้ครู) ให้บูชา 899 บาท ลูกค้าจองครับ

​

หนุมาน “ เมียมาก ” หลวงพ่อแป๋ว (ปัจจุบันมรณภาพแล้ว) เสกหนุมานรุ่นสุดท้าย ต่อไปจะหายาก แรงดัง หนุมานสาย หลวงพ่อกวย
..เสน่หาเมตตาแรงทุกรูขุมขน มีฤทธิ์เรียกคนทุกที่ หาทรัพย์ดีทุกวัน มนต์พระกาฬ เรืองฤทธิ์สวัสดีมีชัย
หนุมานเมียมาก อุดผงมนต์พระกาฬ แช่น้ำมันสัก (งานไหว้ครู)
หลวงปู่ พระครูแป๋ว วัดดาวเรือง อายุ 86 เสือเมืองสิงห์ (ปัจจุบันมรณภาพแล้ว)
พุทธคุณอาคม หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา หลวงพ่อศรีวัดพระปรางค์ หลวงพ่อกวย วัดบ้านแค หลวงพ่อเชน วัดสิงห์
มารวมกันอยู่ที่ หลวงปู่ พระครู แป๋ว องค์นี้ องค์เดียว
หนุมาน “เมียมาก (หนุมาน... ไหว้ครู... รุ่งเรืองศรี)
”เสน่หาเมตตาแรงทุกรูขุมขน มีฤทธิ์เรียกคนทุกที่ หาทรัพย์ดีทุกวัน
มนต์พระกาฬ เรืองฤทธิ์สวัสดีมีชัย
ปลุกอาคม เสกหนุมาน วิเศษ จากมนต์บทสำคัญของครู สาย หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ หลวงพ่อกวย วัดบ้านแค หลวงพ่อเชน วัดสิงห์ ยิ่งกว่านั้น หลวงพ่อกวย ยังสักหนุมานให้ หลวงปู่ พระครูแป๋วด้วยมือท่านเอง
หนุมาน ไหว้ครู #เนื้อดินอาถรรพ์ผสมทรายเสกของหลวงพ่อกวย
ตอนหลวงปู่ปลุกเสก ก่อนงานไหว้ครู หนุมานขึ้น กระโดด โลดเต้น
แทบกระโดดออกศาลา
“หนุมาน” มีกุณฑลขนเพชร คทาเพชรเป็นสันหลัง, ตรีเพชรเป็นกาย,
จักรแก้วเป็นหัว เกิด วันอังคารเดือน ๓ปีขาล
มีเขี้ยวแก้วอยู่กลางเพดานปาก แผลงฤทธิ์สี่หน้าแปดมือ
หาวเป็นดาวเป็นเดือน แม้ถูกอาวุธของศัตรูจนตาย มีลมพัดมาก็จะฟื้น
“ หนุมาน ” เรื่อง เจ้าชู้ เป็นยอดยิ่ง มีเสน่ห์ แพรวพราว
มีเพศตรงข้ามรุมล้อม ทำงานที่ไหนก็ได้เมียเสมอ
ความขลังเรื่องเมตตา เสน่หา เจ้าชู้ หนุมาน มีเต็มเปี่ยม
จึงเกิดหนุมานไหว้ครู หรือ หนุมาน เมียมาก ขึ้น ปั้นด้วยดินอาถรรพ์
ผสมทรายเสก ของ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม เป็นเชื้อ เรียกว่า “
ทรงฤทธีมีพลังอาคมครู ”
หนุมาน เมียมาก คือ หนุมานเมตตาดี เสน่ห์นำ พลังมากมิตร
สะกดจิตคนรักท่านให้ปลุกด้วย
“หะ นุ มา นะ สวา โหม ติด กระชากจิต ดึงหัวใจ เข้ามาในดวงจิตกู สวสวาหะโหม โอม อิ ติ อย่าคลายรัก มิ ”
หนุมาน มีฤทธิ์ หลวงพ่อลงมนต์พระกาฬ เอาไว้ ตั้งตัว ตั้งตน สร้างฐานะลงหลักปักฐาน ให้มี ยศ อำนาจ บริวาร มากขึ้น
หนุมาน ประสานสิบทิศ ใช้ฤทธิ์ หนุมาน เอาไปติดต่อการงาน เจ้านายรักลูกน้องอยู่ในโอวาท
หนุมาน มีฤทธิ์ ด้านโชคลาภ ใช้หา เงิน ทองคล่องตัว ค้าขายดี
ค้าขายคล่อง เงินมาไม่ขาดสาย มีกินมีใช้ตลอดไม่ขาดแคลน
หนุมาน เหาะ ไปหา ไปเอา ดวง ด้านเสี่ยงโชค เล่นการพนัน เสี่ยงดวง หวยล็อตเตอรี่
หนุมาน มีอำนาจราชศักดิ์มากขึ้น จะชนะใจคน เป็นยอดนักการปกครอง
ยอดผู้บังคับบัญชา ยอดผู้บริหาร อำนาจราชศักดิ์ หนุมาน มาเต็ม
หนุมาน ไหว้ครู มีครูปกปักรักษา
“ ไม่อด ไม่อยาก ไม่ยาก ไม่จน ไม่ต่ำกว่าคน ไม่จนกว่าใคร ”
หนุมาน สายครูหลวงพ่อแป๋ว " ขุนกระบี่วานร ฤทธิเกริกไกร
พุทธคุณเด่นทางแคล้วคลาด คงกระพัน และมหาอำนาจ เรื่องเมตตาสูงเยี่ยมยุทธ
สมัยก่อนพวกลิเก ใครมีหนุมาน ไม่ต้องกลัวอด ไปเล่นที่ไหนบรรดาแม่ยก พ่อยก
ถึงกับต้องติดตามกันเกลียว ในด้านคงกระพันไม่ต้องพูดถึง
ทุกคนที่มีเคยประสบเหตุการณ์ต่าง ๆ มาแล้วแม้แต่ระเบิดยังไม่ระคายผิว
เกิดขึ้นมาแล้ว...

 

ของดีมาไวไปไวครับ ^^​

 

​

 

1689.พระปิดตาที่บูชาแทนพระปิดตาหลวงปู่โต๊ะได้เลยครับ ปิดตาจัมโบ้ เนื้อผงเกสร แช่น้ำมนต์ สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร ตะกรุดทองคำ ปี 2538 ให้บูชา 1299 บาท

​

พระปิดตา ญสส.จัมโบ้ เนื้อผงเกสร โรยเส้นเกษา ตะกรุดทองคำ สมเด็จพระสังฆราช วัดบวร ปี 38

พระปิดตาวัดบวรนิเวศวิหาร มีการสร้างด้วยกันหลายครั้ง โดยมีทั้งที่วัดบวรนิเวศวิหารจัดสร้างเอง และวัดอื่นๆจัดสร้างแล้วนำมาให้สมเด็จญาณฯท่านเมตตาอธิษฐานจิต

การสร้างพระปิดตาครั้งแรก ของ วัดบวรนิเวศวิหาร
เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๘ ได้มีการจัดสร้างพระเพื่อเป็นที่ระลึกครบ ๖ รอบ ๗๒ พรรษาของสมเด็จญาณฯ โดยมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งเหรียญรูปไข่รุ่นแรก (รมมันปู) , พระสังกัจจายน์จีน (มีเฉพาะเนื้อขาว) พิมพ์ใหญ่ และ พิมพ์หยดน้ำ และพระปิดตา พิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก (มีทั้งเนื้อดำ และ เนื้อขาว)โดยลักษณะพิมพ์ทรงของพระปิดตานั้น ถือเป็นเอกลักษณ์ของสมเด็จญาณฯเอง

การสร้างพระปิดตาครั้งที่ ๒ ของ วัดบวรนิเวศวิหาร ครั้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๘ โดยพระปิดตาที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๓๘ นี้ มีลักษณะพิมพ์ทรงละม้ายคล้ายคลึงกับพระปิดตา รุ่นจัมโบ้ ๒ ของ หลวงปู่โต๊ะ โดยมี ๔ เนื้อคือ เนื้อผงเกสร เนื้อผงใบลาน เนื้อหินครก และเนื้อผงธูป ซึ่งมีทั้งแบบ แช่น้ำมนต์ ไม่แช่น้ำมนต์ และมีทั้งตะกรุดทองคำ และตะกรุดเงิน

การสร้างพระปิดตาครั้งที่ ๓ ของ วัดบวรนิเวศวิหาร
ในวาระครบ ๗ รอบ ๘๔ พรรษา ปี พ.ศ. ๒๕๔๐ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก วัดบวรนิเวศวิหารได้มีการจัดสร้างพระปิดตาขึ้นอีกครั้ง โดยครั้งนี้ ได้กำหนดให้มีการสร้างพระปิดตาที่มีลักษณะพิมพ์ทรงคล้ายกับพระเครื่องของหลวงปู่โต๊ะอีกเช่นเดิม (นัยยะเพื่อเป็นการระลึกถึงพระคุณครูบาอาจารย์นั่นเอง) โดยให้มีลักษณะเหมือน พิมพ์จัมโบ้๑ และ พิมพ์ปลดหนี้ อันโด่งดังของหลวงปู่โต๊ะ มี ๒ เนื้อคือ เนื้อผงเกสร และเนื้อผงใบลาน ซึ่งมีทั้งแบบ แช่น้ำมนต์ ไม่แช่น้ำมนต์ และมีทั้งตะกรุดทองคำ และตะกรุดเงิน โดยมีชื่อรุ่นว่า พระปิดตา ญสส. รุ่นเทิดพระเกียรติ ๘๔ พรรษา

 

.........

 

1690.พระดีที่น่าบูชา หายากมาก พระสมเด็จ ซุ้มโย้ หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว รุ่นสร้างพระเจดีย์ ปี ๒๔๙๖ ให้บูชา 1650 บาท จองแล้วครับ

​

ในช่วงระหว่างปี พ.ศ.๒๔๙๕-๒๔๙๖ หลวงปู่เผือก ท่านได้ดำริที่จะสร้างพระเจดีย์ขึ้นมา ในโอกาสเดียวกันนี้ ท่านจึงได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมา เพื่อแจกจ่ายให้กับญาติโยมและให้กับผู้ที่ได้ทำบุญบริจาคทรัพย์ร่วมสร้าง"พระเจดีย์" และพระบางส่วนได้บรรจุไว้ในเจดีย์ เพื่อสืบทอดพุทธศาสนา การสร้างพระในช่วงแรกๆนั้น ด้านหลังองค์พระจะไม่มียันต์ ต่อมา "ท่านผู้ใหญ่เพิ่ม" ซึ่งเป็นกรรมการวัดในสมัยนั้น จึงได้ตัดไม้โมกเมื่อได้ไม้โมกมาแล้ว ท่านผู้ใหญ่จึงมอบให้กับ "หลวงปู่สุข ท่านเป็นลูกมือของปู่เผือก" ท่านนำไม้โมกมาแกะเป็นตัวยันต์ แล้วนำมาปั๊มด้านหลังองค์พระ "ยันต์มีด้วยกัน 3 แบบ คือ ยันต์ ฤ-ฤา ,ยันต์สาริกา,ยันต์นะ ดังนั้นพระผงรุ่นปี 96 จึงมีทั้ง ปั๊มยันต์ และไม่มียันต์ มวลสารของพระรุ่นปี 96 หลวงปู่เผือก ได้นำผงพุทธคุณจากการสร้าง "พระรุ่นขุดสระ ,รุ่นอินโดจีน และผงที่ท่านทำขึ้นเพิ่ม นำมาผสมเป็นมวลสารในการสร้างพระรุ่นนี้ด้วย นอกจากนี้ยังมี "เนื้อดิน ,และเนื้อว่านสบู่เลือดด้วยครับ พระผงรุ่นสร้างพระเจดีย์ มีด้วยกันหลายพิมพ์ ทั้งหมดกดพิมพ์ภายในวัด โดยพระสงฆ์ และสามเณร เป็นผู้กดพิมพ์ครับ พุทธคุณพระผงของ"หลวงปู่เผือก" เรื่องเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยม และแคล้วคลาดปลอดภัย เป็นเลิศครับ"

 

1691. พระดีพิธีใหญ่ พระสมเด็จพิมพ์เข่าบ่วงเนื้อดิน ปี 2502 ท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ ให้บูชา 799 บาท ติดจองครับ

​

พระสมเด็จพิมพ์เข่าบ่วงเนื้อดิน ปี 2502 ท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ สภาพสวย ดำเนินการจัดสร้างและปลุกเสก ที่วัดอโศการามในปี 2502 มวลสารสร้างจากเนื้อดินเผา มีพิมพ์ปิดตาสองหน้า,พิมพ์เข่าบ่วง พระเกจิสายกรรมฐานที่น่าเคราพนับถือร่วมปลุกเสกหลายรูป อ.ฝั้น อาจาโร หลวงปู่ตื้อ วัดอรัญญวิเวก หลวงปู่ชอบ ฐานสโม หลวงปู่เทศน์ เทสรังสี หลวงปู่อ่อน ญาณศิริ อ.จวน วัดภูทอก หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก ฯลฯ

หลวงพ่อแดง วัดป่าสามัคคีธรรม จ.กาฬสินธ์ (พระสุธรรมคณาจารย์)ท่านเป็นสหายสนิทของหลวงพ่อลี วัดอโศการาม (เหรียญรุ่นแรกของท่านก็จัดสร้างขึ้นที่จังหวัดสมุทรปราการ)
จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นของสมนาคุณกับญาติโยมที่สละทรัพย์สร้างสาธารณะประโยชน์ภายในวัดป่าสามัคคีธรรม จ.กาฬสินธ์ และส่วนหนึ่งนำมาบรรจุกรุที่วัดอโศการาม

รายนามพระเกจิที่มาร่วมอธิตฐานจิต มีดังต่อไปนี้
1.หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก
2.หลวงปู่สิงห์ วัดป่าสาละวัน
3.หลวงปู่ฝั้น วัดอุดมสมพร
4.หลวงปู่เทศน์ เทศรังสี
5.หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
6.หลวงปู่อ่อน ญาณศิริ
7.หลวงพ่อจวน วัดภูทอก
8.หลวงพ่อลี วัดอโศการาม

 

1692. ยอดเถราารย์แห่งลุ่มแม่น้ำแม่กลอง เหรียญพระพุทธห่วงเชื่อม พิมพ์ประจำวันพฤหัสบดี พ.ศ.๒๔๙๔ หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ จ.สมุทรสงคราม ให้บูชา 1699 บาท

​

พระราชมงคลวุฒาจารย์ (ใจ อินฺทสุวณฺโณ) วัดเสด็จ ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
ในบรรดาอมตเถราจารย์ผู้เข้มขลังแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง ที่ปรากฎเกียรติคุณชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จัก และเป็นที่เคารพศรัทธาของบรรดาศิษย์ ที่ปรากฎมากมายหลายรูป ตลอดสองฝั่งแห่งลำน้ำนั้น
หากเอ่ยถึง หลวงปู่ใจ แห่งวัดเสด็จ ยากนักที่จะหาคนไม่รู้จักได้ ด้วยท่านเป็นพระนักพัฒนา ปรากฎผลงานมากมาย ทั้งในส่วนของวัดวาอารามและสถานที่ศึกษาด้านความเข้มขลังของยุคนั้นรูปหนึ่ง เห็นได้จากวัตถุมงคลที่ท่านสร้างและปลุกเสกเอาไว้ ปรากฎประสบการณ์มากมาย เป็นสิ่งที่ยืนยันให้เห็นถึงกฤษดาภินิหารแห่งพระเวทย์อาคมขลังของท่าน
หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ ท่านเป็นหนึ่งในศิษย์เอกของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว กาญจนบุรี ก่อนที่หลวงปู่ยิ้มจะถ่ายทอดวิชาให้ศิษย์คนใด จะต้องสามารถฝึกกสิณจนเพ่งไส้เทียนไขขาดได้ก่อน หลังจากที่หลวงปู่ใจได้รับการฝึกวิชาจากหลวงปู่ยิ้มแล้วได้ย้ายมาอยู่วัดเสด็จ
ท่านเป็นหนึ่งในเกจิชั้นนำของลุ่มน้ำแม่กลองในยุคก่อน พ.ศ.๒๕๐๐ มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย
เช่น
หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ
ฯลฯ

 

​

 

1693. พระปิดตาหลวงปู่โต๊ะ รุ่นเพชรรุ่งโรจน์ ปี2535 พิมพ์ปลดหนี้ ตะกรุดเงินคู่ ให้บูชา 799 บาท

​

พระปิดตาหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี รุ่นนี้ผสมมวลสารหลักคือผงเก่าของหลวงปู่โต๊ะปลุกเสกเหลือเอาไว้ และได้ผสมเถ้าอังคารของหลวงปู่โต๊ะเอาไว้ด้วย ประกอบพิธีพุทธาภิเศกเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2535 โดยพระคณาจารย์ ดังนี้
1.สมเด็จพระญานสังวร สมเด็จพระสังฆราช (ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่โต๊ะ)
2.สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว)
3.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
4.หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
5.หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ
6.หลวงพ่อเล็ก วัดหนองดินแดง
7.หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร
8.หลวงพ่อสิริ วัดตาล
9.หลวงพ่อสอน วัดศาลเจ้า
10.หลวงตาจันทร์ วัดป่าชัยรังษี (ก่อนสึกมาเป็นลิเกหลายปี)
11.หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย
12.หลวงพ่อดี วัดพระรูป
13.หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง
14.พระครูวิโรจน์กิตติคุณ วัดประดู่ฉีมพลี เจ้าอาวาสปัจจุบัน
15.หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวการาม
16.หลวงปู่เมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา ฯลฯ
พระชุดนี้ประกอบด้วย พระปิดตาพิมพ์จัมโบ้ ตะกรุดทองคำคู่ และพระปิดตามหาลาภ ตะกรุดเงินคู่ แม้เวลาผ่านมาร่วม 30 ปี ตะกรุดทองคำยังสุกใสมันวาว เป็นพระมากด้วยประสบการณ์ บางข้อมูลกล่าวไว้ว่า ในขณะพิธีปลุกเสกหลวงพ่ออุตตมะได้นิมิตเห็นหลวงปู่โต๊ะมาร่วมปลุกเสกด้วย พระดี มวลสารดี

 

1694.พระดีพระเก่าในตำนาน 1 ใน 3 เสือกรุงเก่า พระงบน้ำอ้อยเนื้อดินเผา หลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ดใน จ. พระนครศรีอยุธยา ให้บูชา 799 บาท

​

หลวง ปู่ยิ้ม ท่านเริ่มจัดสร้างพระตั้งแต่ปี 2460 และสร้างตลอดมา เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ท่านบรรจุในฐานชุกชี ๘๔,ooo องค์ ตามพระธรรมขันธ์ อีกจำนวนหนึ่งท่านบรรจุตามพระเจดีย์รอบพระอุโบสถ (เวลาท่านลงพระอุโบสถ เช้า-เย็น ท่านจะยืนอธิฐานจิตร ทุกวัน) วัดปฏิบัติของท่านเป็นที่น่าเลื่อมใสของชาวบ้าน และผู้ที่พบเห็น
**หลังจากกท่านหยุดสร้างพระแล้วได้นำพระทั้งหมดทำพิธีปุกเสก ปี ๒๔๗๔ มี หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ดใน หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก เป็นประธานในพิธี พร้อมพระเกจิอาจารย์อีกกว่า ร้อยรูป **
หลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ดในท่านเป็นเกจิอาจารย์ สมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นพระสหายธรรมกับ หลวงพ่อปาน บางนนโค ,หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก,
วัดทั้งสามท่านอยู่ไม่ไกลกัน มากนักทั้งสามท่าน เป็นที่เคารพ และศัทธาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และใกล้เคียง ทั้งสามท่านจึงได้รับฉายาว่า
" สามเสือแห่งกรุงเก่า"
(พระหมอหลวงพ่อปาน เกจิอาจารย์หลวงพ่อจง เมตตาไหลหลงหลวงปู่ยิ้ม)

 

1695.สุดยอดพระเกจิ ผู้สร้าง ตำนาน มีดหมอ อักขระกัดกรด พระสมเด็จ หลวงพ่อ แจ่ม วัดวังแดงเหนือ ปี 2510 ให้บูชา 699 บาท

​

หลวงพ่อแจ่มหรือพระครูประภาสธรรมคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดวังแดงเหนือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระเกจิที่เก่งมากๆรูปหนึ่งเป็นพระยุคเดียวกับหลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ ในสมัยก่อน ถ้าพูดถึงมีดหมอปากกาของอยุธยา ก็ต้องยกให้มีดของหลวงพ่อแจ่ม เป็นอันดับหนึ่ง หลวงพ่อแจ่ม ได้รับนิมนต์ปลุกเสกพระงานใหญ่หลายครั้ง เช่น พิธียี่สิบห้าศตวรรษ พิธีวัดประสาท ปี06 พิธีวัดราชบพิธปี13 เป็นต้น หลวงพ่อแจ่ม เกิดเมื่อวันที่28 พฤษภาคม 2446 มรณภาพเมื่ออายุได้ประมาณ 70ปี หลวงพ่อแจ่ม ได้ศึกษาวิชากับหลวงพ่อสา อดีตเจ้าอาวาสวัดวังแดงเหนือ ตั้งแต่อายุได้ 9 ปี ได้เรียนเขียนอ่านภาษาไทยและภาษาบาลีและภาษาขอม เมื่อหลวงพ่อแจ่มอายุได้ 15 ปี หลวงพ่อสาท่านได้ตัดสินใจถ่ายทอดวิชาเวทย์มนต์คาถาไสยเวทย์ให้ ทั้งที่ไม่เคยยอมสอนใครมาก่อนเพราะเกรงจะเอาไปใช้ในทางที่ผิด ไม่กี่ปีหลวงพ่อแจ่มก็เรียนสำเร็จ เมื่ออายุครบบวชก็ได้เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดวังแดงในวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2466 เป็นพระภิกษุแล้วท่านก็เริ่มศึกษาด้านปริยัติธรรมและกระทำกิจของสงฆ์อย่าง เคร่งครัดและยังคอยรับใช้ใกล้ชิดหลวงพ่อสาอยู่อย่างเสมอต้นเสมอปลาย เมื่อหลวงพอสาได้มรณภาพลง หลวงพ่อโป๋ได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ท่านจึงได้ขอเรียนเวทมนต์คาถาจากหลวงพ่อโป๋ แต่หลวงพ่อโป๋ท่านบอกว่าวิชาที่หลวงพ่อแจ่มได้เล่าเรียนมาจากหลวงพ่อสานั้น ท่านก็ไม่มีอะไรจะสอนแล้ว แต่แนะนำว่าถ้าอยากเรียนก็ให้ไปหาอาจารย์เพิ่มที่บ้านพรวน เพราะเป็นผู้ที่รอบรู้ด้านนี้หลายศาสตร์หลายแขนง โดยเฉพาะวิชาทำมีดหมอ ปราบคุณไสย หลวงพ่อแจ่มจึงไปศึกษาวิชาทำมีดหมอจากอาจารย์เพิ่ม ต่อมาเมื่อหลวงพ่อโป๋มรณภาพลงหลวงพ่อแจ่มจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดวังแดงในปีพ.ศ.2483และได้รับ สมณศักดิ์เป็น “พระครูประภาสธรรมคุณ”

 

สวัสดียามเช้าครับ

 

1696. เหรียญสมเด็จพุฒาจารย์โต หลวงปู่นาค วัดระฆัง ปี2499 ให้บูชา 3550 บาท

เหรียญสมเด็จโต วัดระฆัง ปี 2499 หลวงปู่นาคสร้างและปลุกเสกก่อนนำออกแจกจริงในปี 2500​

 

1697.สุดยอดเหรียญดี พิธีใหญ่ สร้างตามฤกษ์มงคล เหรียญหลวงพ่อสมภพ วัดสาลีโข หลังสิงห์ ปี2514 ให้บูชา 1250 บาท คราบแป้งเจิมเดิมๆครับ

​

ปี พ.ศ.2514 หลวงปู่เผือก พระปรมาจารย์แห่งวัดสาลีโขภิตาราม ได้คำนวณฤกษ์เห็นควรประกอบมหาพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งยวด สืบเนื่องมาแต่ “มหาฤกษ์” ที่ยากจะเกิดขึ้นในแต่ละคราว นั่นคือ "ฤกษ์มหาจักรจตุรงคสันนิบาต”
อันได้แก่ ดาวจันทร์ ดาวพฤหัส ดาวเสาร์ และดาวราหู ต่างเคลื่อนเข้าสถิตอยู่ในองค์เกณท์ราศีอันเป็น “มหาจักร” แห่งตน และจะปรากฎถึง 4 วาระด้วยกันตลอดไตรมาสพรรษาปี 2514 ซึ่งเหตุการณ์นี้ ทุก 200 ปีจะเกิดมีขึ้นครั้งหนึ่ง
วาระมหามงคลที่จะ ถึงนั้น บรรดาผู้รู้ทั้งหลายไม่อาจปล่อยให้หลุดลอยได้ หลวงพ่อสาลีโขจึงกำหนดการจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นเป็นจำนวนมาก เพื่อให้สมเวลาที่รอคอย ทั้งยังปรารถนาให้เป็น “ครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต” ของท่านทีเดียว
การสร้างอิทธิวัตถุของหลวงพ่อสาลีโขนั้นไม่เลยแม้สัก ครั้งเดียวที่จะใช้โลหะเปล่า ท่านเพียรพยายามยิ่งในการจารอักขระเลขยันต์สำคัญครอบคลุมสรรพวิชาทั้งมวลลง ในแผ่นโลหะ เน้นหนักในทุกๆสายวิชาทั้งคงกระพัน มหาอุด ชาตรี กำบังตน มหาลาภ มหานิยม เมตตา แคล้วคลาด กันภัยกันคุณไสย กันภูตผี
วิชาเหล่า นี้ท่านเพียรจารเสกเป่า แต่ละอักขระแต่ละพระยันต์ ท่านจะบรรจงเขียนอย่างสวยงาม ปลุกเสกและลงถม นำไปหลอมเอามาลงใหม่ ซับซ้อนเช่นนี้อย่างน้อยถึง3วาระด้วยกัน กระทั่งคราวหลอมเพื่อรีดปั๊มเหรียญ ช่างถึงกับตะลึงเมื่อแผ่นทองวิ่งวนอยู่ในเบ้าหลอม ไม่ยอมละลาย ได้ตักเก็บไว้เป็นหลักฐานจำนวนหลายสิบแผ่น
แผ่นทองชนวนนับสิบกิโล แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริง และวิริยะอุตสาหะ อันหาได้ยากในพระอาจารย์สมัยปัจจุบัน ไม่ควรแปลกใจเลยที่บังเกิดปาฏิหาริย์แผ่นทองไม่ละลายเพราะ “ปราณ” ที่ท่านเป่าประจุย่อมสถิตแนบแน่นอยู่ในทุกอณูแผ่นทอง จนโลหะธาตุธรรมชาติทั้งมวลถูกแปรสภาพเป็น “ธาตุสำเร็จ” จากการตั้งธาตุ ปรุงธาตุ และหนุนธาตุทั้ง 4 ขึ้นมาจากจิตที่ทรงอภิญญา เฉพาะ “เตโชกสิณ” นั้น ท่านเชี่ยวชาญถึงขีดสุด
***มงคลวัตถุที่สร้างประกอบด้วย พระพุทธรูปสุโขทัย หน้านาง ขนาด 9 และ 5 นิ้ว พระพุทธนาคปรก ขนาด 9, 5 นิ้ว, พระสังกัจจายน์ ขนาด 9 นิ้ว, รูปหล่อหลวงปู่เผือก ขนาด 9 , 5 นิ้ว , พระนาคปรกแขวนคอ, รูปหล่อหลวงปู่เผือกขนาดแขวนคอ, เหรียญหลวงปู่เผือก รุ่น 2 พิมพ์ใหญ่ – เล็ก, เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อสาลีโข รุ่น 2 ชนวนมวลสารทั้งหมดถูกนำมาประกอบพิธีปลุกเสกในวันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2514 เวลา 18.00 น. โดยพระคณาจารย์มากมาย มีหลวงปู่เผือกประทับทรง หลวงพ่อสาลีโขเป็นประธาน เมื่อแล้วเสร็จได้จุณเจิมสรรพวัสดุด้วยกระแจะหอม และสวดหนุนด้วยพระพุทธมนต์พิเศษ คือ บทยานี , บทภาณวาร , บทคาถาพัน และอิติปิโสรัตนมาลา ก่อนจะนำแผ่นโลหะทั้งปวงมาหล่อหลอมเป็นชนวนสัมฤทธิ์เพื่อนำไปสร้างเป็นองค์ พระต่อไป
วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2514 เวลา 10.08 น. เป็นกำหนดจุดเทียนชัยในพิธีเททอง และเริ่มทำพิธีพุทธาภิเษก วันนี้หลวงพ่อสาลีโขถือเป็นวันสำคัญที่สุดของงาน เพราะเป็นการเชิญชนวนสัมฤทธิ์เข้าสู่เบ้าหลอมหล่อรวมกับโลหะมงคลอื่นๆ แล้วเททองลงหุ่นให้สำเร็จเป็นองค์พระ จากนั้นจึงประพรมน้ำพระพุทธมนต์ยังเบ้าหลอม
ครั้นทุบหุ่นดินออกก็ อัญเชิญพระปฏิมาลงชุบน้ำศักดิ์สิทธ์จากสถานที่สำคัญเช่น น้ำสรงพระบรมธาตุ , น้ำเมืองเพชร, น้ำสระแก้ว, น้ำบ้านบางปืน ฯลฯ แล้วอัญเชิญขึ้นประดิษฐานในพานเชิงใบใหญ่เคล้าคละประโปรบด้วยเครื่องหอม กระแจะจันทน์ พร้อมด้วยการเรียกสูตรตั้งนามให้เป็นสิริ ท่ามกลางพิธีมหาพุทธปรมาภิเษก พระมหานาคทั้งสี่เจริญบทมหาจักรพรรดิราช และบทพุทธาภิเษก โดยมีรายนามพระมหาเถระผู้ทรงรัตตัญญู ภาพเข้าร่วมพิธี ดังนี้
1. พระภัทรมุกมุนี (ชิต) วัดเขาเต่า ประจวบคีรีขันธ์
2. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย สุพรรณบุรี
3. หลวงพ่อกุหลาบ วัดใหญ่สว่างอารมณ์ นนทบุรี
4. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี
5. หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ เพชรบุรี
6. พระครูประกาศสมาธิคุณ วัดมหาธาตุ พระนคร
7. หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี
8. หลวงพ่อโอด วัดจันเสน นครสวรรค์
9. หลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต ขอนแก่น
10. หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช พระนครศรีอยุธยา
11. หลวงพ่อมิ วัดสิงห์ ธนบุรี
12. หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จันทบุรี
13. หลวงพ่อปี้ วัดด่านลานหอย สุโขทัย
14. หลวงพ่อวัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท
15. หลวงพ่อทบ วัดชนแดน เพชรบูรณ์
16. หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี
17. พระครูเมธีวรานุวัตร วัดมหาธาตุ พระนคร
18. หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี
19. หลวงพ่อจัน วัดสระเกษ พระนคร
20. หลวงพ่อสั้น วัดท่าอิฐ นนทบุรี
21. หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ พระนครศรีอยุธยา
22. หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม
23. หลวงพ่อจันทร์ วัดโสธรวราราม ฉะเชิงเทรา
24. หลวงปู่เส็ง วัดกัลยาณมิตร ธนบุรี
25. หลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง นนทบุรี
วัน พฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2514 เวลา 16.00 น. พิธีมหามงคลสรงองค์พระให้สำเร็จเป็น “พระเครื่อง” โดยบริสุทธิ์บริบูรณ์ ปราศจากมลทินโทษใดๆ พระคณาจารย์ในงานเจริญบทมงคลจักรวาล , ชัยมงคลคาถา และทิพยมนต์
วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2514 เวลา 09.00 น. ตรงกับวันมหาจักรจตุรงคสันนิบาตวันสุดท้าย เป็นวาระนัดผู้สั่งจองอิทธิวัตถุให้มารับการประสิทธิเมจากมือหลวงพ่อสาลีโข ด้วยตนเองจนถ้วนทั่วทุกตัวคน

 

1698.ศิษย์ในองค์หลวงปู่ภู วัดอินทร สายสมเด็จโต พรหมรังสี สมเด็จพิมพ์แซยิด(นิยม) หลวงปู่เลี่ยม วัดศรีเรืองบุญ จ.นนทบุรี ให้บูชา 2250 บาท

​

สมเด็จพิมพ์แซยิด(นิยม) จัดเป็นพิมพ์นิยมและเล่นหามาตรฐานอีกพิมพ์หนึ่งของหลวงปู่เลี่ยม สร้างน้อยหายากครับ เนื้อผง(ผสมผงเก่าหลวงปู่ภู วัดอินทร์) หลวงปู่เลี่ยม วัดศรีเรืองบุญ นนทบุรี ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม และได้รับผงเก่าที่ได้รับจากหลวงปู่ภูผสมลงในมวลสารพระของท่านด้วย พระเครื่องที่หลวงปู่เลี่ยมสร้างอยู่ในช่วงเวลา 2470กว่า ถึง 2480กว่าๆ ใช้แทนพระของหลวงปู่ภู วัดอินทร์ฯได้เลย

ประวัติของหลวงปู่เลี่ยมแห่งวัดศรีเรืองบุญนั้นหาอ่านค่อนข้างยากครับเพราะท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าจึงไม่ค่อยมีบันทึกอะไรไว้มากแต่จากการรวบรวมข้อมูลจากหนังสือเก่าๆหลายเล่มรวมทั้งหนังสือประวัติวัดในจ.นนทบุรีทำให้เราทราบว่าหลวงปู่เลี่ยมนั้นท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดอยู่ในช่วงปี2457-2480และท่านได้มรณภาพเมื่อปี24884สิริอายุได้82ปี พื้นแพท่านนั้นเป็นคนทางภาคตะวันออกเมื่อบวชแล้วก็ได้ออกเดินธุดงค์เป็นเวลาหลายสิบปีจนเมื่อได้เดินทางมาแถวจ.นนทบุรีได้มาปักกลดอยู่ข้างวัดศรีเรืองบุญ ท่านเป็นพระที่มีความสำรวมและมีศิลบริสุทธิ์จึงเป็นที่ศรัทธาแก่ชาวบ้านประกอบกับที่ท่านมีความเชี่ยวชาญทางด้านแพทย์แผนโบราณจึงได้สงเคราะห็ชาวบ้านเอาไว้หลายคนและช่วงนั้นที่วัดศรีเรืองบุญเองก็ไม่มีเจ้าอาวาสประกอบกับวัดก็เสื่อมโทรมไม่ค่อยมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาชาวบ้านจึงพร้อมใจกันอาราธนาท่านให้อยู่เป็นเจ้าอาวาสสืบต่อซึ่งตอนนั้นท่านอายุราวๆ55ปีแล้วเริ่มเข้าสู่วัยชราและวัดศรีบุญเรืองเองก็เป็นวัดเล็กๆที่รายล้อมไปด้วยสวนมีความสงบเหมาะแก่การบำเพ็ญเพียรท่านจึงรับเป็นเจ้าอาวาสในที่สุด เพราะท่านนั้นเชี่ยวชาญในเรื่องแพทย์แผนโบราณและมีพระเวทย์วิทยาคมที่แก่กล้าน้ำมนต์ที่ใช้รักษาโรคของท่านนั้นเด็ดขาดนักโดยเฉพาะโรคพิษสุนัขบ้าที่แม้แต่คนที่เพ้อคลั่งจนเห่าหอนแล้วเมื่อมาถึงมือท่านและท่านทำน้ำมนต์รดให้แล้วนั้นเป็นอันหายขาดไม่ต้องเป็นผีที่ถูกฝังลงหลุมแต่อย่างใดผู้คนจึงศรัทธาในตัวท่านนักเมื่อท่านคิดจะบูรณะและปฎิสังขรณ์และสร้างเสนาสนะขึ้นมาใหม่ก็มีคนมาช่วยเหลือจนแล้วเสร็จจนท่านเกรงใจเพราะท่านไม่มีสิ่งใดตอบแทนท่านจึงตั้งใจสร้างพระเครื่องเนื้อผงแจกขึ้นมาโดยท่านได้ลบผงวิเศษที่เด่นทางเมตตาขึ้นมาผสมกับปูนเปลือกหอยนำไปบดในรางบดยาผสมด้วยกล้วยน้ำว้ากดพิมพ์ขึ้นมาเป็นองค์พระที่มีพิมพ์มากถึง20กว่าพิมพ์โดยลูกศิษย์ที่มีความสามารถในเชิงช่างได้แกะพิมพ์ล้อสมเด็จหลวงปู่ภูวัดอินทร์ขึ้นมานอกจากนั้นก็ยังล้อพิมพ์วัดเฉลิมพระเกียรติ์และหลวงพ่อคร้ามวัดพระเงินด้วยแต่ก็มีบางพิมพ์ที่แกะขึ้นมาเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองก็มี ตอนที่ท่านลบผงและสร้างพระท่านจะปิดกุฎิเพื่อไม่ให้ผงปลิวลอยไปโดนผู้ใด พระที่ท่านทำแจกนั้นท่านทำขึ้นมาเรื่อยๆตั้งแต่ ปี 2470 และปลุกเสกเรื่อยมาตลอด10ปีพระนั้นแจกน้อยกว่าสร้างจึงมีพระเหลือตกค้างอยู่มากและพระเครื่องของท่านนั้นก็เก็บอยู่ในปีบอย่างดีไม่ได้บรรจุกรุแต่อย่างใดพระจึงค่อนข้างสะอาดและไม่มีคราบกรุองค์ที่ผ่านการใช้มานิดหน่อยเนื้อจะดูจัดจ้านสมกับพระยุคเก่าที่ปัจจุบันนี้พระของท่านมีอายุร่วม 80 ปีแล้ว ถ้าถามถึงความเก่าก็ไม่แพ้ของหลวงปู่ภู ความจัดของเนื้อก็ไม่แพ้สำนักไหน ความสวยงามและความตั้งใจทำก็ดีแถมเจตนาสร้างก็บริสุทธิ์

 

พระดีที่แนะนำ ยุคแรกๆของท่าน สมเด็จฯนั่งพาน หลวงปู่แก้ว วัดละหารไร่ จ.ระยอง

​

หลวงปู่แก้ว เกสาโร ท่านสำเร็จผงวิเศษที่มีพุทธคุณรอบด้านอยู่ 2 ชนิด คือ

1.ผงจินดามณี หลวงปู่แก้วท่านสำเร็จตั้งแต่สมัยฆราวาส โดยท่านสามารถลบผงวิเศษได้เอง พุทธคุณของผงจินดามณีมีรอบด้านแล้วแต่จะอธิษฐาน แต่เด่นในเรื่องของ เมตตา และโชคลาภ ดังจะเห็นได้จากสมัยหลวงปู่แก้ว เป็นฆราวาส ท่านมีเมียหลายคน ไม่มีใครทราบว่าท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาการสร้างผงจินดามณี จากท่านใด

2.ผงอาถรรพณ์วิเศษ หลวงปู่แก้วท่านได้รับการถ่ายทอดจากหลวงปู่เคียง วัดไผ่ล้อม โดยต้องทำพิธีพลีดิน พร้อมกับผงอังคารกลางดวงใจ ของคนตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร 9 ศพ เมื่อได้ผงดินและเถ้าอังคารกลางดวงใจแล้วท่านต้องนำมาผสมกับว่าน 108 พร้อมกับทำพิธีปลุกเสกจนสำเร็จ อธิษฐานได้ดังใจนึก ผงชนิดนี้ทำยากมาก ถ้าไม่มีวิชาแกร่งกล้าพอ คนทำจะถูกกระทำแทน ผงอาถรรพณ์นี้เมื่อหลวงปู่แก้วทำสำเร็จแล้ว ท่านจะเก็บไว้อย่างดี ผงอาถรรพณ์วิเศษนี้ เด่นทางด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรีครับ

พระพิมพ์สี่เหลี่ยมนั่งพานนี้หลวงปู่แก้วสร้างโดยใช้มวลสารหลัก จากผงจินดามณี และผงอาถรรพ์วิเศษ พุทธคุณรอบด้านแล้วแต่จะอธิษฐาน แต่เด่นในเรื่องของ เมตตา มหาเสน่ห์ แคลัวคลาดคงกระพัน เป็นอีกพิมพ์นึงของหลวงปู่แก้วที่หายากมาก

 

1699. พระท่ากระดาน วัดต้นลำใยปี 36 สร้างจากตะกั่วนม ตะกั่วนี้ขุดค้นพบในกรุถ้ำลั่นทม อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ให้บูชา 599 บาท

​

พระท่ากระดาน วัดต้นลำใยปี 36 สร้างจากตะกั่วนม ตะกั่วนี้ขุดค้นพบในกรุถ้ำลั่นทม อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ลักษณะคล้าย ฝาหม้อ หรือนมสาว เป็นตะกั่วพันปีที่ใช้ในการสร้างพระท่ากระดานกรุเก่า กรุศรีสวัสดิ์ และนำมาสร้างพระท่ากระดานของหลวงพ่อนารถ วัดศรีโลหะฯ พระเกจิชื่อดัง แห่งกาญจนบุรีในเวลา ต่อมา ตะกั่วนมเก่ามีอายุมากเป็นพันปี เป็นตะกั่วที่มีพุทธคุณสูง เพราะผ่านการทำพิธีปลุกเสกแล้ว เชื่อกันว่า ผู้สร้างพระท่ากระดานกรุเก่าศรีสวัสดิ์ (ฤาษีตาไฟ)เป็นผู้ทำพิธีปลุกเสกไว้แล้ว ปี ๒๕๓๖ วัดต้นลำใยได้นำตะกั่วเก่ามาจัดสร้างด้วยกัน ๓ พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็ก ใช้วิธีการกดลงแม่พิมพ์ทั้งก้อน ไม่ได้หลอมใหม่ จึงคงความเก่าตามธรรมชาติไว้ได้สวยงามมาก จำนวนการสร้างพระท่ากระดานของวัดต้นลำไยรุ่นนี้ พระครูกาญจนกิตติสาร เจ้าอาวาสและเจ้าคณะตำบลบ้านใหม่ เล่าให้ฟังว่า สร้างไว้จำนวนพอประมาณ ไม่มากนัก เพราะต้องใช้ตะกั่วเก่าล้วนๆ มากดพิมพ์ จึงมีจำนานจำกัด เมื่อสร้างพระท่ากระดานชุดนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางวัดก็ได้ทำลายบล็อกแม่พิมพ์เลยเพื่อไม่ให้มีการใช้บล็อกเดิมมากดพิมพ์พระขึ้นมาใหม่ ทำให้รู้ว่าวัดต้นลำไยมีพระท่ากระดานรุ่นนี้เพียงรุ่นเดียว พระรุ่นนี้ได้นำเข้าพิธีพุทธาพิเษก ในโบสถ์เก่าแบบ"มหาอุต"ของวัดต้นลำใย ซึ่งสร้างมาตั้ง แต่ปลายกรุงศรีอยุธยา อายุราว ๔๐๐ ปี ทำพิธีใหญ่เป็นเวลา ๙ วัน ๙ คืน พระเกจิร่วมในการพุทธาพิเษก ประกอบด้วย หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ หลวงพ่ออุตตะมะ วัดวังก์วิเวการาม หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม หลวงพ่อหลิว วัดไร่แตงทอง พระธรรมคุณาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี หลวงพ่อฮวด วัดดอนโพธิ์ทอง, หลวงพ่อลำไย วัดทุ่งลาดหญ้า, หลวงพ่อเล็ก วัดเขาดิน กาญจนบุรี, หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม นครปฐม, หลวงพ่อทองสุก วัดท่าตะคร้อ เป็นต้น พระท่ากระดานชุดนี้เมื่อสมัยที่ทางวัดได้สร้างและปลุกเสกเสร็จใหม่ๆ นั้น ทางวัดได้ออกจำหน่ายให้เช่าบูชาเพื่อสมทบทุนในการสร้างพระอุโบสถและเสนาสนะ ในบางส่วน ที่เหลือทางวัดได้เก็บไว้และบรรจุไว้ในเจดีย์ ภายในวัดไว้จำนวนหนึ่ง