พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

1652. พระดีนอกวัดของหลวงพ่อกวยครับ พระสมเด็จธรรมรังษี วัดท่าวนธรรมรังษี อ.บางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เนื้อผงน้ำมัน ด้านหลังเป็นยันต์วรรคเเรกของบทไตรสรณคมน์ พุท ธัง สะ ระ นัง คัจ ฉา มิ ลงเเบบยอดเจดีย์ จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2519 ปิดรายการครับ

​

พระสมเด็จธรรมรังษี วัดท่าวนธรรมรังษี อ.บางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เนื้อผงน้ำมัน ด้านหลังเป็นยันต์วรรคเเรกของบทไตรสรณคมน์ พุท ธัง สะ ระ ณัง คัจ ฉา มิ ลงเเบบยอดเจดีย์ จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2519 เนื่องในโอกาสฉลองพระอุโบสถวัดท่าวนธรรมรังษี เกจิที่ปลุกเสกคือชุดเดียวกับที่ปลุกเสกพระเครื่องวัดพระปรางค์
รายนามพระคณาจารย์ที่ร่วมเศก มี
1.หลวงพ่อทอง วัดพระปรางค์
2.หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
3.หลวงพ่อเจ้ย วัดห้วยเจริญสุข
4.หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม เป็นต้น

วัตถุมงคลวัดท่าวนธรรมรังสี (วัดท่าวน) จ.สิงห์บุรี ปี 2519 รุ่นนี้ มีทั้งเป็นเหรียญ พระผงรูปเหมือน พระอาจารย์ธรรมโชติ และพระสมเด็จ เป็นวัตถุมงคลที่หลวงพ่อกวยปลุกเสกนอกวัดที่น่าบูชา

 

สวัสดีตอนเช้าครับ^___^

 

1653. สุดยอดพระเกจิแห่งเมืองระยอง เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อนิด วัดทับมา ปี2509 หลวงปู่ทิมเป็นประธานปลุกเสก ให้บูชา.....pm.....

​

พระครูวิสุทธิญาณ หลวงพ่อนิด วัดทับมา ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง ท่านนับเป็นยอดพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าอีกรูปหนึ่งของจังหวัดระยอง ท่านเกิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2436 วันเสาร์ ปีมะเส็ง ณ. บ้านคลองยาว ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง มีพี่น้องร่วมสายโลหิตด้วยกัน 9 คน ท่านเป็นบุตรคนที่8 บิดา-มารดา ของท่านมีอาชีพ ทำไร่-ทำนา. หลวงพ่อนิด ท่านได้อุปสมบท เมื่อมีอายุ 23 ปี โดยมีพระครูขาว สุวณรังสี (เจ้าคณะแขวงเมือง ระยอง) เป็นพระอุปัชฌาย์ (ถือว่าท่านมีพระอุปัชฌาย์ รูปเดียวกับ หลวงปู่ทิม อิสริโก แห่งวัดละหารไร่) ท่านได้ร่ำเรียนวิชาอาคมจากพระอุปัชฌาย์ของท่านโดยไม่ย่อท้อ ตลอดจนฝึกวิปัสสนา กรรมฐาน และตั้งจิตใจให้มีสมาธิแน่วแน่ ไม่หวั่นไหวต่ออบายมุขจากภายนอกที่มารบกวน. หลังจากท่านพระครูขาวได้มรณะภาพลง ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดสืบทอดแทน และท่านได้พัฒนาวัดจนเต็มกำลังและความสามารถของท่าน พอว่างเว้นจากการพัฒนาวัด ท่านก็จะออกธุดงค์ไปร่ำเรียนวิชาอาคม หาความรู้เพิ่มเติม โดยท่านได้ไปร่ำเรียนวิชากับหลวงพ่อหิน วัดหนองสนม โดยจะร่ำเรียนหนักไปทางแคล้วคลาด และ คงกระพันชาตรี เนื่องจากหลวงพ่อหิน ท่านเก่งทางด้านนี้มากต่อจากนั้นท่านก็ไปเรียนวิชากับหลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบ ยอดเกจิอาจารย์ยุคสงครามอินโดจีน ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในช่วงนั้น จนท่านเก่งกล้า และท่านหลวงปู่อี๋ บอกว่าใช้ได้แล้ว ท่านจึงกลับมาทำหน้าที่เจ้าอาวาสต่อที่วัดทับมา หลวงพ่อนิด ท่านสร้างวัตถุมงคลของท่านที่เป็นรุ่นแรก ในปี 2509 เนื่องในโอกาสงานผูกพัทธสีมา อุโบสถ วัดทับมา โดยท่านสร้างวัตถุมงคลดังนี้
1. รูปหล่อ ลอยองค์ เนื้อทองผสมรมดำ จำนวนการสร้างไม่ทราบแน่นอน คาดว่าไม่เกิน 2,000 องค์
2. เหรียญเสมา ด้านหน้าเป็นรูปครึ่งองค์ ของพระอุปัชฌาย์ของท่านคือ ท่านพระครูขาว เพื่อรำลึกบูชาคุณครูบาอาจารย์ ด้านหลัง เป็นรูปครึ่งองค์ของท่าน ที่ระลึกในงานผูกพัทสีมา วัดทับมา 2509 สร้างด้วยเนื้อทองแดง จำนวนการสร้างไม่น่าเกิน 5,000 เหรียญ

 

1654. พระดีพิธีใหญ่ เหรียญพระปฐมโพธิญาณวัดไผ่ล้อม จ.ระยอง ปี 2514
ให้บูชา 899 บาท

​

เหรียญพระปฐมโพธิญาณ วัดไผ่ล้อม ต.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เนื้อทองแดงผิวไฟ จัดสร้างเมื่อวันเสาร์5 ปีพ.ศ.2513 เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญนิยมในพระชุดวัดไผ่ล้อมครับ จัดสร้างเนื่องในงานฉลองพระอุโบสถวัดไผ่ล้อมที่พึ่งสร้างเสร็จพิธีพุทธาภิเษกอันยิ่งใหญ่

พิธีการมหาพุทธาภิเษก
ได้นิมนต์พระภิกษุภายในวัดมาร่วมสวดบริกรรมพระปริต มีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณพระ 5 รูปสวดพระธรรมจักร 108 ตลอดคืน รวม 15 คืน
เริ่มปลุกเสกเมื่อวันเสาร์แรม 5 ค่ำเดือน 9 อยู่ในพรรษา ตรงกับวันที่ 22 สิงหาคม 2513 จนถึงวันที่ 5 กันยายน 2513 ซึ่งตรงกับวันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 10 ปีจอ รวม 15 คืน เป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างมาก เพราะว่าการทำพิธีครั้งนี้ตรงกับวันเสาร์ 5 ทั้งหมด คือตั้งแต่เริ่มพิมพ์ เริ่มปลุกเสก และวันสุดท้ายที่ปลุกเสกเดี่ยว ก็ตรงกับวันเสาร์อีกเช่นกัน ที่น่าอัศจรรย์อีกอย่างก็คือเมื่อทำพิธีปลุกเสกถึงเวลาตีห้าดับเทียนชัย ได้มีฝนตกซู่ลงมาประมาณ 1 นาที แล้วก็หยุดตกซึ่งจะเป็นอย่างนี้ทุกคืน

วัตถุมงคลที่จัดสร้างในครั้งนั้นได้ทำพิธีปลุกเสกใหญ่อีกครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2513 ตรงกับวันเสาร์ขึ้น5ค่ำเดือน๕(เสาร์5)

โดยนิมนต์ พระคณาจารย์ที่มีอาคมขลังขมังเวท 9 รูป นั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดคืน ดังมีรายนามดังต่อไปนี้
1.หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง ประธานจุดเทียนชัย นั่งปรก
2.หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี
3.หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก จ.ระยอง
4.หลวงพ่อรวย วัดท่าเรือ จ.ระยอง
5.หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า จ.ระยอง
6.หลวงพ่อโต่ง วัดเภตราสุขารมณ์ จ.ระยอง
7.หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก จ.ระยอง
8.หลวงพ่อสละ วัดประดู่ทรงธรรม จ.อยุธยา
9.หลวงพ่อชาย วัดแม่นางปลื้ม จ.อยุธยา

พุทธาภิเษก 6โมงเย็น ถึง4ทุ่ม พระทั้ง8 รูป ก็ได้กลับวัดกันก่อน แต่หลวงปู่ทิมนั่งพักได้ไม่นาน ท่านกลับมานั่งปลุกเสกเดี่ยวอีกจนถึงตี2 ขณะที่ท่านนั่งปรก ไฟฟ้าในวัด ก็ดับๆติดๆ อยู่ตลอด ว่ากันว่า หลวงพ่อทิม ท่านลืมตาปลุกเสก ถ้าหลับตาเมื่อไหร่ ไฟจะดับ และยังมีคนได้ยินเสียงในลังที่ใส่พระ ดัง ขลุกๆขลักๆ เป็นระยะ ขณะนั้น หลงพ่อพูน ได้ถือสายสิญจน์อยู่ ก็รู้สึก เดี๋ยวเย็น เดี๋ยวร้อน สลับกัน


อาราธนาพระเครื่อง วัดไผ่ล้อม อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
ตั้งนะโม (3จบ)
พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธธนานัง
ตินนังอาราธนานัง พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ
สังฆานุภาเวนะ อิทธานุภาเวนะ ภะวันตุเม
นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ พุทธะสังมิ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ

 

1655. พระสมเด็จ หลังยันต์ลึก เนื้อว่านกากยาหลวงปู่ยี หลวงพ่อถาวร วัดปทุมวนาราม ทายาทธรรม พระในทำนายหลวงปู่ยี วัดดงตาก้อนทอง จ.พิษนุโลก
ปิดรายการครับ

​

รุ่นนี้สร้างปี2545
ซึ่งมีด้วยกัน3พิมพ์แต่มวลสารในการสร้างเหมือนกันคือ
1.พิมพ์นางพญา
2.พิมพ์ยันต์ตื้น
3.พิมพ์ยันต์ลึก

สร้างจากผงมวลสารดังนี้

-ว่านกากยาหลวงพ่อยีอันเป็นสูตรที่อัศจรรย์ของหลวงปู่ยี ซึ่งช่วยรักษาโรคเมื่อแช่ทำน้ำมนต์ ป้องกันยาสั่งหรือแม้แต่คุณไสยอย่างเช่นน้ำมันพรายได้ เป็นว่านกากยาที่หลวงปู่ยีท่านใช้รักษาคนหายมานักต่อนัก ซึ่งมวลสารนี้หลวงพ่อยีให้ไว้กับศิษย์ท่านสายเหนือโลกคือหลวงพ่อถาวร
รากของต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้จากประเทศอินเดีย
ซึ่งมวลสารชนิดนี้ จะช่วยคุ้มครองคุ้มภัยเหมือนมีฉัตรกางกั้นในอากาศ ที่สำคัญยังสามารถใช้กำในมือเพื่อทำสมาธิได้ด้วย จะช่วยรวบรวมจิตให้เป็นสมาธิเร็วขึ้นมากครับ
-ผงมวลสารอื่นๆอันเป็นมงคลของหลวงพ่อถาวรมาผสมในการจัดสร้างพระรุ่นนี้
**ปกติต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้น ไม่ใช่จะเอาส่วนใดส่วนหนึ่งออกมาได้ง่ายๆ เพราะจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลโดยเฉพาะเลย แต่ด้วยความมีจิตหยั่งรู้ สามารถทราบว่ามีใครบ้างจะได้มีบุญสามารถเอาส่วนใดก็ได้ของต้นโพธิ์ต้นนี้มาให้ท่านได้สร้างพระตามเจตนา แล้วท่านก็ส่งบุคคลนั้นไปอยู่ที่วัดเนรัญชราที่อินเดีย โดยที่ไม่ต้องพูดและสั่งว่าให้เอาอะไรมาให้หลวงพ่อเลย แต่สุดท้ายบุคคลนี้เองก็ได้ส่วนรากแท้ๆของต้นศรีมหาโพธิ์มาถวายหลวงพ่อ โดยที่ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าหลวงพ่อรอเอาส่วนใดก็ได้ของต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นนี้มาทำพระ และวันที่เอารากต้นโพธิ์ต้นนี้มาถวายหลวงพ่อนั่งรอนั่งยิ้มด้วยอารมณ์ดีใจ เพราะหลวงพ่อบอกว่าไม่ใช่ใครก็จะเอามาได้แม้แต่หลวงพ่อเองก็เอามาไม่ได้ ผมเลยถามว่า มีดียังไงครับ หลวงพ่อบอกว่า ต้นโพธิ์ต้นนี้คือต้นที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ทุกอย่างจะร่มเย็น ใครมีพระรุ่นนี้ไว้บูชาจะชุ่มเย็นจะตายก็มีคนมาช่วยมีคนคอยหนุนส่งดูแล และมวลสารกากว่านยาหลวงปู่ยีนั้น ไม่ต้องกล่าวว่าดีแค่ไหน คนไหนบูชาพระรุ่นนี้จะใจเย็นอยู่ไหนก็มีคนคอยค้ำชู
ดังนั้นพระรุ่นนี้ มีทั้งของดีมวลสารดีๆของหลวงปู่ยี มีทั้งรากของต้นโพธิ์นิพพานที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ และมวลสารมงคลของหลวงพ่อถาวรรวมกัน เป็นพระอีกรุ่นหนึ่งที่ควรบูชาและเก็บสะสม วัตถุมงคลที่หลวงพ่อถาวร อธิฐานจิตมีพระผู้ทรงญาณทัศนะแจ่มใส
สัมผัสแล้วกล่าวให้ศิษย์ฟังว่า
พลังพุทธคุณสูงมาก มีญาณบารมีหลวงปู่เทพโลกอุดร และบารมีพระโบราณสายในดงหลายองค์ มาช่วยเสกช่วยประสิทธิ์วิชาให้ของให้ขลังศักดิ์สิทธิ์ทรงอิทธิฤทธิ์ คนเสกเก่งมากเก่งจริง ป้องกันเภทภัยอัยตรายรอบด้าน กันระเบิดนิวเคลียร์ปรมนูได้ เป็นโภคทรัพย์ แคล้วคลาดและกันคุณไสยได้ดียิ่ง ที่สำคัญนำมาใช้ในการฝึกทำสมาธิจะดีมากๆ

 

1656. เหรียญหลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง จ.เพชรบุรี รุ่น 4 ปี 44 อายุครบ 85 ปี ปิดรายการครับ

​

พระครูวินัยวัชรกิจ หรือหลวงพ่ออุ้น พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดตาลกง จ.เพชรบุรี ท่านถือกำเนิดเมื่อวันศุกร์ที่ 9 มี.ค. 2459 นับจนปัจจุบันมีอายุกาลถึง 93 ปี 73 พรรษา ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ดังแห่งเมืองขนมหม้อแกงหวาน เป็นผู้มีเวทวิทยา คมสูงด้วยเป็นศิษย์สืบพุทธาคม ศึกษาข้อวัตรปฏิบัติจาก หลวงปู่ผิว อดีตเจ้าอาวาสวัดตาลกง, หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง, หลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลือง, หลวงพ่อจัน วัดมฤคทายวัน และ หลวงพ่อชัน วัดมาบปลาเค้า

หลวงพ่ออุ้น สำเร็จวิชาสำคัญโบราณมากมาย จากหลายคณาจารย์ เช่น วิชาทำผงพระจันทร์ครึ่งซีก ซึ่งเป็นผงทางเมตตามหานิยม สูตรเดิมของหลวงพ่อแก้ว วัดปากทะเล ที่เชื่อกันว่า แค่เพียงละอองผงปลิวไปตามแรงลม ตกต้องผู้ใดแล้ว จะเกิดรักใคร่เมตตาเราอย่างสุดประมาณ, สำเร็จผงนะปัดตลอด วิชาทำผงพระ และวิชาสักยันต์คงกระพัน จากหลวงปู่ทองสุข วัดโตนดหลวง, วิชาเสกลิงลม ขับคุณไสย ทำตะกรุดจากหลวงพ่อชัน วัดมาบปลาเค้า, สำเร็จวิชาสะกดชาตรี คือการสะกดสัตว์ร้ายให้หยุดการเคลื่อนไหว คล้ายโดนนะจังงัง จากหลวงพ่อจัน วัดมฤคทายวัน และอีกมากมายหลายสิบวิชา ที่ท่านดั้นด้นร่ำเรียนมาตั้งแต่ยังเป็นพระหนุ่ม

จนถึงทุกวันนี้หลวงพ่ออุ้นจึงเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงภูมิรู้อย่างที่สุด ปลุกเสกเครื่องรางของขลังได้ศักดิ์สิทธิ์นัก

 

1657.ดินดีนครปฐม พระสมาธิปรกโพธิ์ใหญ่ จัดสร้างโดยหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม หลังยันต์สามง่าม เอกลักษณ์ของวัดสามง่าม ให้บูชา 1150 บาท

​

ในปี พ.ศ. 2505 หลวงพ่อเต๋ ท่านได้จัดสร้างพระเครื่องเนื้อดินพิธีใหญ่อีกครั้ง เพื่อฉลองอายุครบ 5 รอบ เนื้อดินที่ใช้ยังได้นำดินทวารวดี ที่ชำรุดหักและผงว่าน ดินเจ็ดป่าช้า ดินเจ็ดท่า ดินเจ็ดโป่งผสมลงไปด้วย สังเกตเนื้อองค์พระเมื่อเผาแล้ว เนื้อดินจะนุ่มเมื่อถูกเหงื่อถูกสัมผัส ปรากฏมวลสารและว่านแลดูเก่ามาก พิมพ์ที่จัดสร้าง มีดังนี้
1. พระสมาธิปรกโพธิ์ใหญ่
2. พระรูปเหมือนซุ้มเรือนแก้ว
3. พระปรกโพธิ์เล็ก
4. พระตรีกาย (พระสาม)
5. พระลีลาทุ่งเศรษฐี

พระเครื่องเนื้อดิน 4 พิมพ์แรก ด้านหลังจะมียันต์อักขระนูน เรียกว่า ยันต์สามง่าม เนื่องจากด้านหลังมีรูป ตรี เป็นสัญลักษณ์ของวัดสามง่ามนั่นเอง
การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อเต๋ ท่านสร้างไว้หลายแบบมาตั้งแต่ครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 มีทั้งแบบพระเนื้อดิน เนื้อผง เนื้อว่าน เหรียญรูปเหมือน พระกริ่ง รูปหล่อ เหรียญหล่อ และเครื่องรางของขลัง ตะกรุดหนังเสือ ตะกรุดสามห่วง สีผึ้ง เป็นต้น แต่ละอย่างล้วนมีอภินิหารเป็นที่ประจักษ์และเล่าขานกันมาทุกวันนี้
พระเครื่องของท่านไม่ได้เน้นเรื่องความสวยงาม แต่เน้นเรื่องพุทธคุณ เพราะท่านตั้งใจสร้างให้บูชาติดตัวเพื่อป้องกันภัยต่าง ๆ มีทั้งทางมหาอำนาจ เมตตามหานิยม แคล้วคลาด เนื้อพระส่วนมากเป็นแบบเนื้อดินผสมผงปนว่าน เนื้อดินอาถรรพ์ที่นำมาจัดสร้างวัตถุมงคลได้แก่ ดินโป่ง 7 โป่ง ดิน 7 ป่าช้า ดินขุยปู เป็นต้น ผสมลงไปในพระทุกพิมพ์ ด้านหลังองค์พระจะประทับชื่อ หลวงพ่อเต๋ กดลึกลงไปในเนื้อพระ

 

1658. อำนาจจิตท่านสูงมาก เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อกัสสปมุนี หลังยันต์พุทธเกษตร วัดปิผิวนาราม หลวงพ่อปลุกเสก ไตรมาส ปี18 ปิดรายการครับ

​

​

ยันต์พุทธเกษตร(ยันต์นี้ท่าน ได้มาเมื่อครั้งไปเที่ยววิเวกภาวนาใน จ.ลพบุรี ยันต์พุทธเกษตรได้ปรากฏขึ้นในนิมิตท่าน ท่านบอกว่ายันต์นี้มีอานุภาพครอบจักรวาล ตามแต่ผู้ใช้จะอธิษฐานให้เป็นไปดังปรารถนา)
หลวงพ่อเคยบอกว่า นิโรธสมาบัตินี้มีอานุภาพมากนัก มิใช่แต่กุฏิของท่านเท่านั้น แต่กำลังแห่งนิโรธยังครอบคลุมไปทั่วภูเขา ‘สุนทรีบรรพต’ อันเป็นที่ตั้งวัด อย่าว่าแต่ของในกุฏิท่านเลย แม้กรวดหินหน้าวัดหากจะหยิบขึ้นมาแล้วตั้งจิตระลึกถึงท่านก็ยังมีอานุภาพได้
บันทึกเก่า ระบุว่า เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2524 มีศิษย์ท่านหนึ่งกราบเรียนถามหลวงพ่อกัสสปมุนีว่า ตอนที่หลวงพ่อใช้พลังจิต"ลากรถไฟขึ้นเขาที่อินเดีย"นั้น หลวงพ่อทำอย่างไร.
หลวงพ่อกัสสปมุนีตอบว่า
"ใช้การรวมพลังเข้ามาเป็นหนึ่ง และออกเดินนำหน้าทันที ไม่เหลียวหลัง ไม่ใช่อิทธิวิธี หากเป็นการใช้"อาโลกสิน"(แสงสว่าง,ความว่าง) ดึงรถไฟขึ้นไป..!!?!"
ขนาดหัวรถไฟที่ว่าหนัก หลวงพ่อยังใช้พลัง กระแสจิต ลากขึ้นเหมือนเบาๆ ได้ แล้วเหรียญที่ท่านปลุกเสกถึงไตรมาส อนุภาคจะขนาดไหนกัน

หลวงพ่อกัสสปมุนี วัดปิปผลิวนาราม เหรียญรูปเหมือนไตรมาส รุ่นแรก เนื้อทองแดง 2518 ระยอง พ.ต.อ.ประวิทย์ อินทุลักษณ์ เป็นผู้ขออนุญาตสร้างเหรียญขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกแก่ผู้ร่วมงานสร้างพระอุโบสถบนยอดเขาในวาระนั้น *เนื่องจากท่านผู้พันเคยถูกหลวงพ่อเตือนในวันหนึ่งของต้นเดือนกันยายน พ.ศ.2516 ว่า"ให้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นจำนวนหนึ่งและฝึกฝนไว้ เพราะบ้านเมืองจะมีเหตุร้ายแรงในเร็ววันนี้" *เมือ่ถึงวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ.2516 กลุ่มนักศึกษาก็พากันประท้วงและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 ท่านผู้พันจึงได้นำกำลังที่ตระเตรียมไว้โดยการบอกล่วงหน้าของหลวงพ่อเข้าปฏิบัติภารกิจ และตัวผู้พันเองพร้อมทั้งผู้ใต้บังคับบัญชาก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้เลย จากเรื่องนี้ทำให้ท่านผู้พันมีความเลื่อมใสในหลวงพ่อเป็นอย่างมาก จึงขออนุญาตทำเหรียญรุ่นแรกขึ้น และหลวงพ่อก็อนุญาตอย่างเป็นทางการ *ท่านประวิทย์ได้นำปลอกกระสุนปืนเนื้อทองเหลืองไปให้หลวงพ่ออธิษฐานจิตจำนวนถึง 10,000 ปลอกเศษ หลวงพ่อทำการเสกอยู่นานเป็นอาทิตย์ก่อนจะมอบให้นำไปหลอมเป็นชนวนทำเหรียญ *ท่านประวิทย์เล่าว่าปกติโรงหล่อจะไม่รับหลอมปลอกกระสุนปืน เพราะเกรงว่าจะมีดินปืนตกค้างอยู่ในกระสุนและเป็นเหตุให้เบ้าหลอมระเบิด แต่มารดาเจ้าของโรงหล่อได้ตั้งจิตอธิษฐานถึงหลวงพ่อกัสสปมุนี ขอบารมีท่านให้งานลุล่วงโดยปลอดภัย ปรากฏว่าไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงใด ๆ เลย *เมื่อได้ชนวนทองเหลืองมาแล้วก็นำไปปั๊มเป็นเหรียญทว่าเนื้อชนวนที่จำกัดจึงทำเหรียญทองเหลืองได้เพียง 1,000 เหรียญเศษ ท่านผู้พันเลยสั่งให้ช่างปั๊มเหรียญทองแดงขึ้นอีก 10,000 เหรียญ และทำการตอกโค้ดกันปลอมไว้ทุกองค์ *ผู้การประวิทย์นำเหรียญไปถวายหลวงพ่อที่วัดในปลายเดือนพฤษภาคม 2518 ท่านก็เริ่มอธิษฐานจิตปลุกเสกทุกวันไปจวบจนเข้าพรรษาตลอด 3 เดือน
เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อกัสสปมุณี วัดปิปผลิวนาราม อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เป็นเหรียญรูปโล่ ตราตำรวจ ด้านหลังตอกโค๊ด กลางบน ในพื้นที่มีประสบการณ์มาก และ ตามหนังสือพระเก่าลองหาอ่านดูครับ ท่านเป็นพระสายปฏิบัติที่มีอภิญญาสูงมากครับลองศึกษาประวัติท่านดูครับ " วัดปิปผลิวนาราม ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เป็นวัดที่หลวงพ่อกัสสปมุนี ได้ก่อตั้งขึ้น อาตมาได้มาปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2519 โดยคำแนะนำของศาสตราจารย์ระพี สาคริก ซึ่งท่านได้มาสร้างหอพระไว้ที่วัดฯ โดยปกติ หลวงพ่อกัสสปมุนี จะเข้านิโรธสมาบัติปีละครั้ง ช่วงออกพรรษา โดยจะเข้านิโรธสมาบัติเป็นเวลา 7 วัน ในวันที่ออกนิโรธสมาบัติ จะมีประชาชนมารอใส่บาตรตั้งแต่ตี 5 อาตมามาปฏิบัติกับหลวงพ่อช่วงนั้น ท่านจะให้นั่งภาวนา ครั้งละ 2 ชั่วโมง โดยหลวงพ่อคอยนำสมาธิให้ตลอด 2 ชั่วโมง ในช่วงนั้น หลวงพ่อจะเน้นให้มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม เจริญสติและสมาธิให้ขนานกัน(แบบไม่แนบชิดกัน) ไปพร้อมๆกัน โดยท่านอธิบายว่า โลกียฌานนั้นสติและสมาธิจะขนานกันไปแบบแนบชิดกัน ส่วนโลกุตตรฌานนั้น สติและสมาธิจะขนานกันไปแบบถอยห่างจากกัน การที่สติขนานกับสมาธิแบบถอยห่างจากกัน สติจะเห็นความเป็นไปอาการต่างๆขององค์ฌานและสามารถพิจารณา ในองค์ฌานได้ กล่าวคือ พอถึงฌาน 4 ท่านพิจารณาปฏิจจสมุปบาทต่อเลย ทั้งโดยอนุโลมและปฏิโลม กำลังของฌาน 4 ของท่าน คือ ไปไหนมาไหนด้วยกายหยาบ เวลาท่านไปป่าหิมพานต์หรือสามเหลี่ยมเบอร์มูด้า ท่านก็เล่าให้ฟังว่า ท่านไปด้วยกายหยาบ ส่วนปฐมฌานนั้น ก็มีกำลังมหาศาล เหมือนพายุที่สามารถดับไฟป่าได้ ท่านเคยเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า หากท่านใดปฏิบัติได้ถึงปฐมฌาน สามารถเกาะชายจีวรหลวงพ่อเหาะไปทั้งกายหยาบได้เลย" " หลวงพ่อกัสสป มรณภาพวันที่ 11 สังหาคม 2531 ด้วยสิริมายุ 78 ปีเศษ ปัจจุบัน สรีระของหลวงพ่อได้ตั้งไว้ที่วัดให้ลูกศิษย์ได้กราบไหว้เคารพบูชา โดยท่านกล่าวว่า เมื่อถึงเวลาอันควร สรีระของท่านจะลุกไหม้ขึ้นเองด้วยอำนาจเตโชธาตุ

 

1659. พระพุทธชินราชใบเสมา เนื้อผงผสมว่าน(นิยม) พิธีจักรพรรดิ์มหาพุทธาภิเษก ปี ๒๕๑๕ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก ปี ๒๕๑๕ หรือ พิธีจักรพรรดิ์มหาพุทธาภิเษก ปิดรายการครับ

​

พิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก ณ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ จ.พิษณุโลก ๒๐ มกราคม ๒๕๑๕ เมื่อวันที่ ๒๐ ม.ค.๒๕๑๕ พุทธสมาคมพิษณุโลก
ได้จัดพิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" ขึ้น ณ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
จ.พิษณุโลก เพื่อนำวัตถุมงคลที่จัดสร้างขึ้นเข้าพิธีปลุกเสก วัตถุมงคลในรุ่นนี้มี พระพุทธชินราชจำลอง พระชัยวัฒน์
พระกริ่งนเรศวรวังจันทน์ พระพิมพ์ และเหรียญมหาจักรพรรดิ์ ฯลฯ พิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก เป็นพิธีที่ใหญ่มาก
ยากแก่การดำเนินการหาเจ้าพิธี ตลอดจนตำรับพระคาถา และพระภิกษุเจริญพระคาถาได้ ตามประวัติ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
พิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" นี้ ครั้งแรกได้กระทำพิธีในสมัยรัชกาลที่ ๑ และได้มีการกระทำพิธีนี้อีก เมื่อวันที่ ๒๐ ม.ค.๒๕๑๕
ในสมัยรัชกาลที่ ๙ หลังนั้นก็ไม่ปรากฏว่ามีการกระทำพิธีฯ นี้อีกเลย ในพิธีนี้ พระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิราชาวาส กทม.
และ อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ซึ่งเป็นเจ้าพิธีได้กำหนด และควบคุมดำเนินการประกอบพิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" ครบถ้วน
ตามแบบฉบับของโบราณพิธีทุกประการ คณะกรรมการพิธีฯ สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นประธานจุดเทียนชัย ศาสตราจารย์
สัญญา ธรรมศักดิ์ นายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในพิธีจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย พระครูศรีพรหมโสภิต
(หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี เป็นประธานบริกรรมปลุกเสก
กรรมการฝ่ายเจ้าพิธี
พระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิราชาวาส อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร อาจารย์มาโนช มาโสภาศ
กรรมการอุปถัมป์ฝ่ายสงฆ์ พระสุวรรณวิสุทธิคุณ เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก พระพิษณุบูราจารย์ เจ้าอาวาส วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ จ.พิษณุโลก ฯลฯ
กรรมการอุปถัมภ์ฝ่ายฆราวาส นายพ่วง สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ท.สำราญ แพทยกุล แม่ทัพภาคที่ ๓ สมาคมนักเรียนเก่าพิษณุโลกพิทยาคม ฯลฯ
กรรมการดำเนินงาน คณะกรรมการพุทธสมาคม จ.พิษณุโลก
กรรมการที่ปรึกษา นายประชุม กาญจนวัน์ นายสุฉันท์ โพธิสุวรรณ ฯลฯ
๙ เม.ย.๒๕๑๔ คณะกรรมการพุทธสมาคมจังหวัดพิษณุโลก ได้ตกลงให้ นายช่างสวน จามรมาน ธนบุรี เป็นผู้ออกแบบพระพุทธลักษณะ
พระกริ่ง และดำเนินการสร้าง โดยให้ทำตามแบบโบราณพิธีทุกประการ และอยู่ในความควบคุมของคณะกรรมการพุทธสมาคม จ.พิษณุโลก ตลอดเวลา ทุกขั้นตอน
๑๕ เม.ย.๒๕๑๔ คณะกรรมการฯ นำแผ่นเงิน แผ่นทอง เข้านมัสการขอบารมีพระคุณเจ้าผู้ทรงวิทยาคุณ ทั่วประเทศ รวม ๑๐๙ ท่าน ลงอักขระ คาถายันต์
และอธิษฐานจิตปลุกเสกแผ่นทองเงิน จนครบ ๗ เสาร์ ๗ อังคาร ๒๐ ก.ค.๒๕๑๔ คณะกรรมการฯ ได้นำแผ่นทองเงิน ที่พระคณาจารย์ ๑๐๙ รูป ลงและปลุกเสกแล้ว
ขึ้นกราบทูลสมเด็จพระสังฆราช ทรงเจิม และประทานพร แล้วนำแผ่นทองเงินไปถวาย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดราชบพิธ, สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ,
สมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพนฯ, พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ วัดจักรวรรดิฯ, พระธรรมวิสุทธิ์วงศาจารย์ วัดสุทัศนฯ, พระธรรมวิสุทธาจารย์ วัดพิชัยญาติฯ, พระเทพเมธี วัดทองนพคุณ,
พระเทพโสภณ วัดชนะสงคราม เจิมอีกครั้ง และให้พรแห่งความสำเร็จในการสร้าง
ประกาศสังเวยเทวดา
๘.๑๙ น. ๑ ส.ค.๒๕๑๔ บวงสรวงดวงพระวิญญาณ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช นายกพุทธสมาคมฯ เป็นประธาน นายโปฏก
โหรหลวง กล่าวบวงสรวง ๑๐.๑๙ น. นายกพุทธสมาคมฯ จุดธูปเทียนบูชาครู โดย อาจารย์เทพย์ สาริกบุตรเป็นเจ้าพิธีฯ
๑๒.๐๐ น. เจ้าคุณพระพิษณุบุราจารย์ เจ้าอาวาส วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จุดเทียนชัย พระคณาจารย์ ๙ รูป
นั่งบริกรรมปลุกเสกแผ่นทองคำ แผ่นเงิน แผ่นทองแดง ซึ่งได้ลงอักขระคาถา เลขยันต์ พร้อมทั้งโลหะ ๙ อย่าง
ที่จะหล่อพระกริ่งนเรศวรวังจันทน์ คือ ทองคำเงิน ทองแดง ชิน เจ้าน้ำเงินเหล็กละลายตัว ตะกั่วน้ำนม ปรอท สังกะสี
ซึ่งได้คำนวณน้ำหนักให้เป็นส่วนผสมเนื้อนวโลหะ
พระคณาจารย์ ๙ รูป ที่นั่งปรกบริกรรมปลุกเสก คือพระเทพโสภณ (นิยม) วัดชนะสงคราม, พระพ่อกรับ วัดโกรกกราก
สมุทรสาคร, หลวงพ่อละมูล วัดเสด็จ ปทุมธานี, หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี, หลวงพ่อลำยอง วัดสนุทรประดิษฐ์ บางระกำ พิษณุโลก,
หลวงพ่อม้วน วัดตลาดชุม วังทอง พิษณุโลก, หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี, หลวงพ่อธงชัย วัดพุทธมงคลนิมิต นครสวรรค์ และ หลวงพ่อเกตุ วัดศรีเมือง จ.สุโขทัย
๑๘.๓๒ น. พิธีเททอง หล่อพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ "นเรศวรวังจันทน์"
ระหว่างพิธีเททองพระคณาจารย์ ๘ รูป ใน ๙ รูป นั่งล้อมโรงพิธีฯ หันหน้าไปทิศทั้ง ๘
อนึ่ง ก้อนเส้ารองรับเบ้าและดินสุมหุ่น ใช้ดินกลางเมืองอันเป็นมงคลแข็ง ๕ แห่ง คือ เมืองพิชัย จ.อุตรดิตถ, เมืองชัยบาดาล จ.ลพบุรี, เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท,
เมืองหริภุญชัย จ.ลำพูน, เมืองท่าชัย จ.สุโขทัย น้ำพระพุทธมนต์ ใช้น้ำจากทะเลแก้ว เมืองโอฆะบุรี, ทะเลชุบศร เมืองละโว้
ถ่านและฟืนเชื้อเพลิงหลอมโลหะใช้ถ่านไม้ราชพฤกษ์ ๙ กระสอบ ฟืนไม้ราชพฤกษ์ ๙ ลบ.ม.
ตั้งแต่วันที่ ๒ ส.ค.๒๕๑๔ ช่างสวน จามรมาน ได้ตกแต่งพระกริ่งนเรศวรวังจันทน์ อยู่ในโรงงานภายในบริเวณบ้านพักของนายกพุทธสมาคมฯ
เพื่อเป็นการควบคุมมิให้ช่างมีโอกาสสร้างพระเสริมนอกพิธีหรืออื่น ๆ อันเป็นการไม่สมควร
เมื่อพระกริ่งนเรศวรวังจันทน์ ตกแต่งจนคบหมดแล้ว รวมทั้งพระบูชาและวัตถุมงคลทุกอย่างสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว คณะกรรมการฯ
ได้นำวัตถุมงคลทั้งหมดประกอบพิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก ณ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ ๒๐ ม.ค.๒๕๑๕
โดยมีพระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจกรวรรดิฯ และ อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร เป็นเจ้าพิธี มีพระคณาจารย์นั่งปรกปลุกเสก ดังนี้
รายนามพระคณาจารย์บริกรรมปลุกเสก
1 หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม
2 หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี
3 หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก ระยอง
4 หลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง บุรีรัมย์
5 หลวงพ่อสด วัดหางน้ำ ชัยนาท
6 หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี
7 หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี
8 หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี
9 หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว สุพรรณบุรี
10 หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี
11 หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม
12หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
13 หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง
14 หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค นครสวรรค์
15 หลวงพ่อโอด วัดจันเสน นครสวรรค์
16 หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม ชัยนาท
17 หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม สิงห์บุรี
18 หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
19 หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช อยุธยา
20 หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี
21 หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยา ธนบุรี
22 หลวงพ่อมิ่ง วัดกก ธนบุรี
23 หลวงพ่อทิม วัดละหารไร่ ระยอง
24 หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์
25 พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา พัทลุง
26 หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน พัทลุง
27 หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ชุมพร
28 หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขตต์ ขอนแก่น
29 พระอาจารย์ถนอม วัดนางพญา
30 หลวงพ่อทอง วัดท่ามะปรางค์
31 หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ จ.นนทบุรี
32 หลวงพ่อบุญ วัดวังมะนาว
33 หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่นอพะอง
34 หลวงพ่อกรับ วัดโกรกกราก
35 หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ
36 หลวงพ่อชื่น วัดคุ้งท่าเสา
37 พระครูสนิทวิยการ วัดท่าโขลง
38 หลวงพ่อดำ วัดบำรุงธรรม
39 หลวงพ่อฝัน วัดราษฎร์เจริญ
40 พระครูพุทธฉายาภิบาล วัดพระพุทธบาท
และพระเกจิในจังหวัดพิษณุโลก และจากจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ รวม 109 รูป

 

1660. พระเนื้อดินพิมพ์ พระพุทชินสีห์ (นางพญา) พิธีมหาจักรพรรดิ์ ปี 2515 ให้บูชา 699 บาท

​

พิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก ณ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ จ.พิษณุโลก ๒๐ มกราคม ๒๕๑๕ เมื่อวันที่ ๒๐ ม.ค.๒๕๑๕ พุทธสมาคมพิษณุโลก
ได้จัดพิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" ขึ้น ณ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
จ.พิษณุโลก เพื่อนำวัตถุมงคลที่จัดสร้างขึ้นเข้าพิธีปลุกเสก วัตถุมงคลในรุ่นนี้มี พระพุทธชินราชจำลอง พระชัยวัฒน์
พระกริ่งนเรศวรวังจันทน์ พระพิมพ์ และเหรียญมหาจักรพรรดิ์ ฯลฯ พิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก เป็นพิธีที่ใหญ่มาก
ยากแก่การดำเนินการหาเจ้าพิธี ตลอดจนตำรับพระคาถา และพระภิกษุเจริญพระคาถาได้ ตามประวัติ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
พิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" นี้ ครั้งแรกได้กระทำพิธีในสมัยรัชกาลที่ ๑ และได้มีการกระทำพิธีนี้อีก เมื่อวันที่ ๒๐ ม.ค.๒๕๑๕
ในสมัยรัชกาลที่ ๙ หลังนั้นก็ไม่ปรากฏว่ามีการกระทำพิธีฯ นี้อีกเลย ในพิธีนี้ พระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิราชาวาส กทม.
และ อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ซึ่งเป็นเจ้าพิธีได้กำหนด และควบคุมดำเนินการประกอบพิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" ครบถ้วน
ตามแบบฉบับของโบราณพิธีทุกประการ คณะกรรมการพิธีฯ สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นประธานจุดเทียนชัย ศาสตราจารย์
สัญญา ธรรมศักดิ์ นายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในพิธีจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย พระครูศรีพรหมโสภิต
(หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี เป็นประธานบริกรรมปลุกเสก
กรรมการฝ่ายเจ้าพิธี
พระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิราชาวาส อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร อาจารย์มาโนช มาโสภาศ
กรรมการอุปถัมป์ฝ่ายสงฆ์ พระสุวรรณวิสุทธิคุณ เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก พระพิษณุบูราจารย์ เจ้าอาวาส วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ จ.พิษณุโลก ฯลฯ
กรรมการอุปถัมภ์ฝ่ายฆราวาส นายพ่วง สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ท.สำราญ แพทยกุล แม่ทัพภาคที่ ๓ สมาคมนักเรียนเก่าพิษณุโลกพิทยาคม ฯลฯ
กรรมการดำเนินงาน คณะกรรมการพุทธสมาคม จ.พิษณุโลก
กรรมการที่ปรึกษา นายประชุม กาญจนวัน์ นายสุฉันท์ โพธิสุวรรณ ฯลฯ
๙ เม.ย.๒๕๑๔ คณะกรรมการพุทธสมาคมจังหวัดพิษณุโลก ได้ตกลงให้ นายช่างสวน จามรมาน ธนบุรี เป็นผู้ออกแบบพระพุทธลักษณะ
พระกริ่ง และดำเนินการสร้าง โดยให้ทำตามแบบโบราณพิธีทุกประการ และอยู่ในความควบคุมของคณะกรรมการพุทธสมาคม จ.พิษณุโลก ตลอดเวลา ทุกขั้นตอน
๑๕ เม.ย.๒๕๑๔ คณะกรรมการฯ นำแผ่นเงิน แผ่นทอง เข้านมัสการขอบารมีพระคุณเจ้าผู้ทรงวิทยาคุณ ทั่วประเทศ รวม ๑๐๙ ท่าน ลงอักขระ คาถายันต์
และอธิษฐานจิตปลุกเสกแผ่นทองเงิน จนครบ ๗ เสาร์ ๗ อังคาร ๒๐ ก.ค.๒๕๑๔ คณะกรรมการฯ ได้นำแผ่นทองเงิน ที่พระคณาจารย์ ๑๐๙ รูป ลงและปลุกเสกแล้ว
ขึ้นกราบทูลสมเด็จพระสังฆราช ทรงเจิม และประทานพร แล้วนำแผ่นทองเงินไปถวาย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดราชบพิธ, สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ,
สมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพนฯ, พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ วัดจักรวรรดิฯ, พระธรรมวิสุทธิ์วงศาจารย์ วัดสุทัศนฯ, พระธรรมวิสุทธาจารย์ วัดพิชัยญาติฯ, พระเทพเมธี วัดทองนพคุณ,
พระเทพโสภณ วัดชนะสงคราม เจิมอีกครั้ง และให้พรแห่งความสำเร็จในการสร้าง
ประกาศสังเวยเทวดา
๘.๑๙ น. ๑ ส.ค.๒๕๑๔ บวงสรวงดวงพระวิญญาณ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช นายกพุทธสมาคมฯ เป็นประธาน นายโปฏก
โหรหลวง กล่าวบวงสรวง ๑๐.๑๙ น. นายกพุทธสมาคมฯ จุดธูปเทียนบูชาครู โดย อาจารย์เทพย์ สาริกบุตรเป็นเจ้าพิธีฯ
๑๒.๐๐ น. เจ้าคุณพระพิษณุบุราจารย์ เจ้าอาวาส วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จุดเทียนชัย พระคณาจารย์ ๙ รูป
นั่งบริกรรมปลุกเสกแผ่นทองคำ แผ่นเงิน แผ่นทองแดง ซึ่งได้ลงอักขระคาถา เลขยันต์ พร้อมทั้งโลหะ ๙ อย่าง
ที่จะหล่อพระกริ่งนเรศวรวังจันทน์ คือ ทองคำเงิน ทองแดง ชิน เจ้าน้ำเงินเหล็กละลายตัว ตะกั่วน้ำนม ปรอท สังกะสี
ซึ่งได้คำนวณน้ำหนักให้เป็นส่วนผสมเนื้อนวโลหะ
พระคณาจารย์ ๙ รูป ที่นั่งปรกบริกรรมปลุกเสก คือพระเทพโสภณ (นิยม) วัดชนะสงคราม, พระพ่อกรับ วัดโกรกกราก
สมุทรสาคร, หลวงพ่อละมูล วัดเสด็จ ปทุมธานี, หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี, หลวงพ่อลำยอง วัดสนุทรประดิษฐ์ บางระกำ พิษณุโลก,
หลวงพ่อม้วน วัดตลาดชุม วังทอง พิษณุโลก, หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี, หลวงพ่อธงชัย วัดพุทธมงคลนิมิต นครสวรรค์ และ หลวงพ่อเกตุ วัดศรีเมือง จ.สุโขทัย
๑๘.๓๒ น. พิธีเททอง หล่อพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ "นเรศวรวังจันทน์"
ระหว่างพิธีเททองพระคณาจารย์ ๘ รูป ใน ๙ รูป นั่งล้อมโรงพิธีฯ หันหน้าไปทิศทั้ง ๘
อนึ่ง ก้อนเส้ารองรับเบ้าและดินสุมหุ่น ใช้ดินกลางเมืองอันเป็นมงคลแข็ง ๕ แห่ง คือ เมืองพิชัย จ.อุตรดิตถ, เมืองชัยบาดาล จ.ลพบุรี, เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท,
เมืองหริภุญชัย จ.ลำพูน, เมืองท่าชัย จ.สุโขทัย น้ำพระพุทธมนต์ ใช้น้ำจากทะเลแก้ว เมืองโอฆะบุรี, ทะเลชุบศร เมืองละโว้
ถ่านและฟืนเชื้อเพลิงหลอมโลหะใช้ถ่านไม้ราชพฤกษ์ ๙ กระสอบ ฟืนไม้ราชพฤกษ์ ๙ ลบ.ม.
ตั้งแต่วันที่ ๒ ส.ค.๒๕๑๔ ช่างสวน จามรมาน ได้ตกแต่งพระกริ่งนเรศวรวังจันทน์ อยู่ในโรงงานภายในบริเวณบ้านพักของนายกพุทธสมาคมฯ
เพื่อเป็นการควบคุมมิให้ช่างมีโอกาสสร้างพระเสริมนอกพิธีหรืออื่น ๆ อันเป็นการไม่สมควร
เมื่อพระกริ่งนเรศวรวังจันทน์ ตกแต่งจนคบหมดแล้ว รวมทั้งพระบูชาและวัตถุมงคลทุกอย่างสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว คณะกรรมการฯ
ได้นำวัตถุมงคลทั้งหมดประกอบพิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก ณ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ ๒๐ ม.ค.๒๕๑๕
โดยมีพระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจกรวรรดิฯ และ อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร เป็นเจ้าพิธี มีพระคณาจารย์นั่งปรกปลุกเสก ดังนี้
รายนามพระคณาจารย์บริกรรมปลุกเสก
1 หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม
2 หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี
3 หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก ระยอง
4 หลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง บุรีรัมย์
5 หลวงพ่อสด วัดหางน้ำ ชัยนาท
6 หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี
7 หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี
8 หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี
9 หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว สุพรรณบุรี
10 หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี
11 หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม
12หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
13 หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง
14 หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค นครสวรรค์
15 หลวงพ่อโอด วัดจันเสน นครสวรรค์
16 หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม ชัยนาท
17 หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม สิงห์บุรี
18 หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
19 หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช อยุธยา
20 หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี
21 หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยา ธนบุรี
22 หลวงพ่อมิ่ง วัดกก ธนบุรี
23 หลวงพ่อทิม วัดละหารไร่ ระยอง
24 หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์
25 พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา พัทลุง
26 หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน พัทลุง
27 หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ชุมพร
28 หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขตต์ ขอนแก่น
29 พระอาจารย์ถนอม วัดนางพญา
30 หลวงพ่อทอง วัดท่ามะปรางค์
31 หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ จ.นนทบุรี
32 หลวงพ่อบุญ วัดวังมะนาว
33 หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่นอพะอง
34 หลวงพ่อกรับ วัดโกรกกราก
35 หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ
36 หลวงพ่อชื่น วัดคุ้งท่าเสา
37 พระครูสนิทวิยการ วัดท่าโขลง
38 หลวงพ่อดำ วัดบำรุงธรรม
39 หลวงพ่อฝัน วัดราษฎร์เจริญ
40 พระครูพุทธฉายาภิบาล วัดพระพุทธบาท
และพระเกจิในจังหวัดพิษณุโลก และจากจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ รวม 109 รูป

 

​

 

​

 

ขอทราบราคาด้วยครับ

 

แจ้งราคาเรียบร้อยครับ ขอบคุณครับ

 

1661. เหรียญพระสยามเทวาธิราช วัดป่ามะไฟ ปี 2518 กะไหล่ทอง ให้บูชา 1850 บาท

​

​

พระสยามเทวาธิราช สร้างปี พ.ศ. ๒๕๑๘ วัดป่ามะไฟ ตำบลโคกไม้ลาย อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี

ตามคำบอกเล่าของพระครูอุทัยธรรมธารี (เส็ง สุขิโต) อดีตรองเจ้าคณะอำเภอเมืองปราจีนบุรี เจ้าอาวาสวัดป่ามะไฟ เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ได้เกิดนิมิตรกับหลวงพ่อหลายครั้งในนิมิตมีพราหมณ์ชราผู้ชายนุ่งขาวห่มขาว แล้วบอกว่าถ้าต้องการให้วัดป่ามะไฟมีความเจริญรุ่งเรืองให้จัดสร้างพระสยามเทวาธิราชขึ้นมา จนเป็นเหตุให้หลวงพ่อเกิดความคิดที่จะสร้างพระสยามเทวาธิราชขึ้นจนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๒ ท่านจึงได้ปรึกษาหารือกับ คุณสมัย พ่วงตามพงษ์ ผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ สาขาเจริญภาค , คุณวรันดับ ฉัตรกุล ณ อยุธยา(บุญนาค) , คุณเจริญ พรหมศร , คุณภาวาส บุญนาค พร้อมด้วยข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน เมื่อมีมติเห็นชอบแล้วจึงได้จัดทำหนังสือขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต จัดสร้างพระสยามเทวาธิราช วัดป่ามะไฟขึ้น แต่ในครั้งที่ ๑ และ ๒ ผ่านไปก็ยังไม่ได้รับหนังสือพระราชทานพระบรมราชานุญาต แต่อย่างใด จนกระทั่งครั้งที่ ๓ จึงได้มีหนังสือพระราชทานพระบรมราชานุญาต ทางวัดจึงได้ดำเนินการจัดสร้างและจัดพิธีพุทธาภิเษก (พระคณาจาร์ยนั่งปรกในพิธี) ในวันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ.๒๕๑๘ เวลา ๑๓.๓๐ น.

วัตถุมงคลที่จัดสร้างในครั้งนั้น
๑. เหรียญพระสยามเทวาธิราช (ขนาดใหญ่)
เนื้อทองคำ , เนื้อเงิน , เนื้อนวโลหะ , เนื้อกะหลั่ยทอง ,เนื้อกะหลั่ยเงิน , เนื้อทองแดง
๒. เหรียญพระสยามเทวาธิราช (ขนาดเล็ก)
เนื้อทองคำ , เนื้อเงิน , เนื้อกะหลั่ยทอง ,เนื้อกะหลั่ยเงิน , เนื้อทองแดง

๓. พระกริ่งพระสยามเทวาธิราช (ขนาดใหญ่-ขนาดกลาง)
เนื้อเงิน , เนื้อนวโลหะ , เนื้อกะหลั่ยทอง
๔. พระชัยวัฒน์พระสยามเทวาธิราช
เนื้อเงิน , เนื้อนวโลหะ , เนื้อกะหลั่ยทอง
๕. เข็มกลัดลงยาสีแดง , สีน้ำเงิน , สีฟ้า
เข็มกลัดติดเนคไทน์
๖. รูปแบบจำลองยืน (พระบูชา)
ขนาดใหญ่ ๔๙ ซม.
ขนาดกลาง ๓๙ ซม.
ขนาดเล็ก ๒๙ ซม.
๗. พระศรีสักยะมุนี อริยเมตตรัย (พระบูชา)

พิธีมหามงคลภิเษก
วันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๘ เวลา ๑๓.๓๐ น.
สมเด็จพระสังฆราชจุดเทียนชัย
พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์มงคลภิเษก
พระคณาจารย์นั่งปรก
วันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๘ เวลา ๑๑.๔๕ น. เททองหล่อพระประธาน
เมื่อปี ๒๕๑๘ ทางวัดป่ามะไฟได้ทำพิธีเททองหล่อพระประธาน และได้จัดสร้างเหรียญนี้ขึ้นโดยมีพระเกจิอาจารย์มาร่วมปลุกเสกดังนี้
๑. สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศ กรุงเทพฯ
๒. พระสังวรวิมลเถร (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
๓. หลวงพ่อผาง จิตฺคตโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต ขอนแก่น
๔. พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
๕. พระครูสันติวรญาณ (หลวงพ่อสิม พุทฺธาจาโร) สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่
๖. พระครูชลธารธรรมพิทักษ์ (หลวงพ่อหงษ์) วัดชลสงคราม สุราษฏร์ธานี
๗. พระครูสุตาธิการี (หลวงพ่อทองอยู่) วัดใหม่หนองพะอง สมุทรสาคร
๘. พระครูเกษมธรรมานันท์ (หลวงพ่อแช่ม) วัดดอนยายหอม นครปฐม
๙. พระครูปัญญาทุราทร วัดเขาชายธงถ้ำวิมุตติสุข นครสวรรค์
๑๐. พระกัสสปมุนี อ.บ้านค่าย ระยอง
๑๑. พระอาจาร์ยสาม อกิญฺจโน วัดป่าไตรวิเวก สุรินทร์
๑๒. หลวงพ่อบุญเย็น ฐานธมฺโม สำนักพระเจ้าพรหมมหาราช เชียงราย
๑๓. ท่านเจ้าคุณชิน วงศาจารย์ วัดป่าสาละวัน นครราชสีมา
๑๔. หลวงปู่เมตตาหลวง วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม นครราชสีมา
๑๕. หลวงพ่อเย็น วัดแจงนอก นครราชสีมา
๑๖. หลวงพ่อชม วัดเขานันทา ปราจีนบุรี
๑๗. หลวงพ่อถิร วัดป่าเรไร สุพรรณบุรี
๑๘. หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ลพบุรี
๑๙. หลวงพ่อสุด วัดกาหลง สมุทรสาคร
๒๐. หลวงปู่แว่น วัดสันติสังฆาราม สกลนคร
๒๑. หลวงปู่พล วัดหนองคณฑี สระบุรี
๒๒. หลวงพ่อสุพจน์ วัดดอนตัน เชียงราย
๒๓. หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีธรรมเจริญสุข สิงห์บุรี
๒๔. หลวงพ่อเย็น วัดกลางชูศรีธรรมเจริญสุข สิงห์บุรี
๒๕. หลวงปู่สำลี ปภาโส วัดซับบอน สระบุรี
๒๖. หลวงพ่อดำ วัดเสาธงทอง ลพบุรี
๒๗. หลวงปู่ครูบาชัยวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ลำพูน
๒๘. หลวงพ่อคำดี วัดป่าสุทธาวาส นครพนม
๒๙. พระราชธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อเงิน) วัดดอนยายหอม นครปฐม
๓๐. พระครูสังวรกิตติคุณ (หลวงพ่อเอีย) วัดบ้านด่าน ปราจีนบุรี
๓๑. พระอาจารย์วัน อุตฺตโม วัดอภัยดำรงธรรม กิ่งอำเภอส่องดาว สกลนคร
๓๒. พระอาจาร์ยฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร สกลนคร ฯลฯ

 

.........

 

1662.พระดีพิธีใหญ่ มวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมาย พระรอดเชียงดาว รุ่น 1 บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ให้บูชา 550 บาท

​

พระรอดเชียงดาว รุ่น 1 บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
พระรอดเชียงดาว สร้างตามคำสั่งหลวงปู่เทพโลกอุดร รุ่น 1 บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
อ.ศักดาได้รับคำสั่งจากหลวงปู่เทพโลกอุดร ให้ไปพบพระครูบาอินทร ปัญญาวัฒโน ที่วัดสันป่ายางหลวง อ.เมือง จ.ลำพูน เมื่อเมษายน 2534 โดยบอกว่าครูบาอินทรนั้น อดีตชาติท่านเป็นผู้สร้าง "พระรอดมหาวัน" ลำพูน
ปัจจุบันครูบาอินทร อายุ 30 กว่าปี ท่านได้นำพระรอดที่ท่านได้สร้างในปัจจุบันชาติให้ดู ข้างหลังมีอักษร อ.อ่าง ซึ่งเป็นชื่อย่อของท่าน ท่านบอกว่าท่านสร้างได้เพียง 60,000 องค์ แต่เวลานี้แจกเกือบหมดแล้ว มีผู้นำไปใช้อยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด พวกนักเลงตีไก่เอาไปแช่น้ำทำน้ำมนต์อาบน้ำให้ไก่ เวลาไก่ชนกันไม่มีแตกเลย พวกเกณฑ์ทหารเอาไปอม ภาวนาพุทธังรอด ธัมมังรอด สังฆังรอด จับใบดำใบแดง ไม่มีใครถูกทหารแม้แต่คนเดียว
พระครูบาอินทรบอกให้อ.ศักดา ทำต่อ ให้สร้างพระรอดเชียงดาวเป็นจำนวน 84,000 องค์ ให้ครบ 84,000 พระธรรมขันธ์ จะได้แจกจ่ายให้แก่บรรดาลูกศิษย์ป้องกันตัว และครูบาอินทรได้มอบแม่พิมพ์และสอนวิธีการสร้าง "พระรอด" ให้กับอ.ศักดา สกุลพนารักษ์ และมอบผงดินที่ยังเหลืออยู่ให้ด้วย
ด้านหลังพระรอดเชียงดาว เป็นอักษร ศ.ศาลา และมีเลข 1 กำกับรุ่น
พระรอดเชียงดาวทุกรุ่น บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
เงาสีน้ำตาลขนาดใหญ่เฝ้าดูการผสมผงพระรอดเชียงดาว พร้อมทั้งให้คำแนะนำวิธีการผสมผงอยู่ตลอดเวลา อันเป็นนิมิตหมายว่า เทพ พรหม เบื้องบนท่านรับรู้และวิญญาณของทหารกล้าบรรพบุรุษของเรา ที่ได้อุทิศเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อพิทักษ์แผ่นดินไทย ได้มาร่วมอนุโมทนาในการสร้าง "พระรอดเชียงดาว"
ส่วนผสมสำคัญในการสร้างพระรอดเชียงดาว
1.ผงอิทธิเจ ตามถ้ำศักดิ์สิทธิ์
2.ดินจากสถานที่ประสูตร ตรัสรู้ ปรินิพพาน
3.ดินจากคันธกุฎี ของพระอรหันต์ทั้ง 8 พระองค์ สมัยพุทธกาล เช่น ของพระสีวลี พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร พระอานนท์ ฯลฯ
4.น้ำศักดิ์สิทธิ์จากแม่น้ำคงคา จากสระสรงน้ำตามอารามต่างๆ ณ.สถานที่ซึ่งพระพุทธเจ้าเคยประทับจำพรรษา
5.ใบโพธิจากต้นศรีมหาโพธิ์ วัดพุทธเคยา ฯลฯ
6.ดินผงจากกระถางธูป ที่บูชาหลวงปู่เทพโลกอุดร
7.ผงหินพระฤาษี หรือหินหมากพร้าว
8.พระธาตุพระสีวลี นำมาบรรจุใน "พระรอดเชียงดาว รุ่นพิเศษบรรจุพระธาตุพระสีวลี"
9.เพชรหน้าทั่ง อานุภาพน้องเหล็กไหล นำมาบรรจุใน "พระรอดเชียงดาว รุ่นพิเศษบรรจุเพชรหน้าทั่ง"
พระรอดเชียงดาวได้สร้างและทำพิธีพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2537
เหตุมหัศจรรย์ในวันที่ทำพิธีพุทธาภิเษก "พระรอดเชียงดาว"
1.ได้นิมนต์พระอริยสงฆ์ จากจังหวัดสุพรรณบุรี มาจำนวน 9 รูป แต่ท่านมาได้ 8 รูป ขณะที่กำลังตัดสินใจจะไปนิมนต์พระมาเพิ่มอีก 1 รูป ให้ครบ 9 รูป ก็มีพระภิกษุรูปหนึ่ง ไม่ทราบมาจากที่ใด เดินเข้ามาในห้องพิธี แล้วเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก
2.ในวันนั้น เมื่อพระกลับไปหมดแล้ว อ.ศักดาถามว่าใครนิมนต์พระรูปนั้นมา ปรากฎว่าไม่มีใครทราบเลย ขณะที่กำลังงงอยู่นั้น หลวงปู่เทพโลกอุดรได้ผ่านญาณอ.ศักดา แล้วทำพิธีปลุกเสก "พระรอดเชียงดาว" ท่ามกลางคณะผู้ร่วมพิธีนับร้อยคน
3.เมื่อหลวงปู่เทพโลกอุดรผ่านญาณนั้น มีพลังบางอย่างเกิดแสงสว่างไสวไปทั่วห้องพิธี เมื่อถ่ายรูปออกมากปรากฎ แสงสีเหลือง แดง ขาว สว่างไสว เป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง หลวงปู่เทพโลกอุดรท่านมาทำพิธีปลุกเสก "พระรอดเชียงดาว" เกือบครึ่งชั่วโมงจึงกลับไป

 

สวัสดียามเช้าครับ^^

 

1663. พระเกจิอาจารย์เมืองเพชรบุรี ผู้สืบทอดวิชาสายหลวงพ่อทองศุข อินฺทโชโตโดยตรง แห่งสำนัก"วัดโตนดหลวง จ.เพชรบุรี" อันโด่งดัง เหรียญรุ่น2 ดีเลิศประเสริฐศรี หลวงพ่อย้อน วัดโตนดหลวง จ.เพชรบุรี เนื้อทองแดงหลังพอกครั่งตำรับวัดโตนดหลวง ให้บูชา 699 บาท

​

วัตถุประสงค์ : เพื่อสมทบทุนร่วมจัดสร้างรูปหล่อองค์ใหญ่ หลวงพ่อทองศุข อนฺทโชโต ขนาดหน้าตัก 9.9 เมตร
#กล่าวถึง หลวงพ่อทองศุข พระเกจิอาจารย์เมืองเพชรบุรี ผู้โดงดังอันดับต้นๆของสยามประเทศ ในสมัยก่อนนั้นคงจะ ลืมเสียมิได้เลย นั่นก็คือหลวงพ่อทองศุข อินฺทโชโต แห่งวัดโตนดหลวง ต.บางเก่า อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ผู้ซึ้งมีความศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นที่ยอมรับ ของลูกศิษย์สายเมืองเพชรกัน ทุกๆท่านไม่ว่าจะเป็นตำรายา คาถาอาคม วัตถุมงคล เหรียญ ตระกรุดต่างๆ ซึ้ง ณ ปัจจุบันนี้ พระรุ่นดังกล่าวนั้น ได้มีราคาสูงเลยหลายๆแสนถึงหลักล้านบาท ไปเสียแล้ว แต่พระเกจิ สายตรง แห่่งสำนักวัดโตนดหลวงนั้น ปัจจุบัน นั้นคงหายาก เพราะโดยมากแล้ว พระเกจิ ที่มีอิทธิปาฏิหารย์ต่างๆ นั้นหายากเต็มที
หลวงพ่อย้อน ธมฺมวํโส เป็นอีกพระเกจิอาจารย์ รูปหนึ่ง ซึ้งเป็นที่ยอมรับอันดับต้นๆของเกจิสายเมืองเพชร เลยว่าเป็นศิษย์เอก ของหลวงพ่อทองศุข อินฺทโชโต อันเป็นพระเกจิ เนื้อนาบุญสายตรงของวัดโตนดหลวงจริงๆ
(ประวัติของหลวงพ่อย้อน) หรือ ท่านพระครูพิพัฒน์นพกิจ ธมฺมวํโส เดิม ชื่อย้อน นามสกุล ยิ้มแย้ม เกิดที่หมู่ 2 ต. บางเก่า อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2478 ปี กุน ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 3 โยม พ่อชื่อ หรั่ง โยมแม่ชื่อ เพลิน สกุล ยิ้มแย้ม มีอาชีพ เกษตรกรรม และประมง
หลวงพ่อย้อน ท่านเป็นลูกศิษย์ วัดโตนดหลวง
ตั้งแต่ สมัย เด็กๆ อายุ 7 ขวบ โยมพ่อโยมแม่ ก็ฝากตัวให้อยู่กับ หลวงพ่อทองศุข ตั้งแต่เด็ก ในสมัยนั้นเด็กชายหนุ่ม ต้องมาอยุ่เป็นเด้กวัดกันเสียหมด หลวงพ่อย้อน ท่านมีหน้าที่คอยรับสำรับ กับข้าวต่างๆ จัดแจง นำถวายประเคนให้หลวงพ่อทองศุข ทุกวัน และต้องคอย รับรับอาหารที่หลวงพ่อทองศุข ฉันท์เสร็จทุกครั่งหลวงพ่อย้อนท่านเล่าว่า หลวงพ่อทองศุข ก่อนจะฉัน ท่านจะเสกข้าว ไว้เสมอ หลวงพ่อย้อนท่านจึงได้ ทานข้าวเสก จากหลวงพ่อทองศุข ตลอดมาจนอายุ ครบเรียนหนังสือได้ 8 ขวบ หลวงพ่อย้อนท่านก็ ได้ร่ำเรียนไทยจากโรงเรียนวัดโตนดหลวง ตกเย็น ตามหน้าที่ของเด็กวัดต้อง ทำวัตรสวนมนต์ ต่อจากพระสงฆ์ และ ต้องคอยรับใช้หลวงพ่อทองศุข มาโดยตลอดซึ้งในสมัยนั้น วัดโตนดหลวง จะเหมือน กับ โรงหมอ ในสมัยนั้น คือจะมีคนเจ็บคนไข้มาขอ ให้หลวงพ่อทองศุข รักษากันเป็นอันมาก ไม่ว่าจะเป็นผีเข้าเอาไม่ออก โดนคุณไสยคุณคนทำมา ก็ต้องมาทำการรักษา กันที่วัดโตนดหลวง ทั้งนั้น เรียกได้ว่า โรงพยาบาล ย่อมๆ กันเลย ในสมัยนั้น
หลวงพ่อทองศุข ท่านรัก หลวงพ่อย้อนเหมือนลูกชายแท้ๆ ท่านจึงประสิทธิ์ ประสาทวิชามาให้กับหลวงพ่อย้อน มาเป็นอันมาก ไม่ว่า จะเป็นอักขระขอม เลขยันต์การลงสูตรต่างๆ การลบผง การเรียกรูป การรักษาคน และ วิชาเสกขี้ครั่ง นะปัดตลอดต่างๆ ซึ้งหลวงพ่อทองศุขได้ร่ำเรียนมาจากไหน ก็จะถ่ายทอดให้เด็กชายย้อน ตั้งแต่เด็ก จนมีคนเรียกหลวงพ่อย้อนว่าหมอย้อน มาแต่เด็กๆ กันเลยทีเดียว หลวงพ่อย้อน ท่านได้เรียน วิชาต่างๆ ร่วมกับ ศิษย์ผู้พี่ของวัดโตนดหลวง ทุกๆวันหยุด ซึ้งเด็กๆรุ่นราวคราว เดียวกัน มิได้เรียน เพราะไม่สนใจแต่หลวงพ่อย้อนท่านสนใจ เป็นอันมาก เนื่องจาก ได้เห็นอิทธิปาฏิหารย์ จากการ ที่หลวงพ่อทองศุข ได้ทำการรักษา ปรกปลุกเสก วัตถุมงคล จนกระโดด จนบินได้ ท่านจึงสนใจเรียนจนสำเร็จจากหลวงพ่อทองศุข ในด้านการ เสกของ และ อักขระเลขยันต์
นอกจากจะเรียนด้านของเลขยันต์ แล้ว หลวงพ่อย้อนท่าน ก็ได้ร่ำเรียนวิชากระบี่ กระบอง และ การเชิดหนังตะลุง ซึ้ง วิชากระบี่ กระบองนั้น หลวงพ่อทองศุข ท่านได้ร่ำเรียนมาจากสำนักวัดบางกระพ้อม หลายๆท่านคงไม่ทราบว่า หลวงพ่อทองศุขท่านเป็นศิษย์สำนักเดียวกับ หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม แต่หลวงพ่อคง ท่านเป็นศิษย์ผู้พี่ หลวงพ่อทองศุข จึงได้ให้ความนับถือ ศิษย์ผู้พี่เป็นอันมาก วิชากระบี่กระบอง นั้น หลวงพ่อย้อน ท่านได้เล่าว่า ครั้นหนึ่ง เคย ซ้อม ดาบไม้ กับ หลวงพ่อทองศุขหลวงพ่อท่านฟาดดาบมา ป้องไม่ทัน ฟันเข้าหางคิ้วแตกทันที แต่หลวงพ่อทองศุขท่านก็รักษา ศิษย์รัก โดยการเป่าแค่ทีเดียว แผลก็หายสนิททันตา เป็นอัศจรรย์ยิ่งนัก...
จนมาอายุได้ ครบ 14 ปี หลวงพ่อย้อนก็ได้ ออกไปช่วยโยมพ่อแม่ ทำงาน ออกหาปลาทำประมง เรื่อยมาเก็บเงิน ทองได้หลายหมื่น ในสมัยนั้น ถ้าเทียบกับสมัยนี้ ก็เรียกได้ว่าหลังล้านทีเดียว หลวงพ่อย้อนท่านบอกว่า ใครจับไม่ได้ ท่านจับได้แต่คนเดียว เพราะท่านใช้คาถาพระสังข์เรียกปลา ที่ได้ร่ำเรียนมาจาก หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง การทำงานสัมมาอาชีพเป็นไปได้ด้วยดี จนอายุ ครบบวช หลวงพ่อทองศุขท่านได้เล็งเห็นในญาณวิถีของท่านว่า หลวงพ่อย้อนนี่ล่ะ จะเป็นผู้ครองวัดโตนดหลวงรูปต่อไป จึงให้โยมพี่ชายของหลวงพ่อย้อน ตามให้มาบวช ด้วยความว่า ยังสนุกกับการทำงานจึง ต่อรองไปว่า
" ถ้าคุณพ่ออยากให้ผมบวช ก็ให้บวชผมตอนตี 3 ซิ ผมถึงจะบวช " ปรากฏว่าหลวงพ่อทองศุข ตอบตกลง เป็นอันว่า หลวงพ่อย้อน ต้องได้อุปสมบท เป็นพระภิกษุย้อน ในคืนวันที่ 11 ตอนตี 3 เช้าวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2499 เสร็จตอนรุ่งเช้า โดยมีหลวงพ่อทองศุข เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อฉิน วัดชะอำ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อ ทองหล่อ วัดหนองศาลา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ณ พระอุโบสถ์มหาอุด วัดโตนดหลวง ได้รับฉายาว่า ธมฺมวํโส ภิขุ
หลวงพ่อย้อน ด้วยว่าท่านเป็นคนดื้อ และ มีนิสัยกล้าพูด กล้าทำ เป็นอันมาก บวชไม่เท่าไหร่ ท่านก็คิดอยากจะสึก ออกไปทำงานช่วยโยมพ่อโยมแม่ หลวงพ่อทองศุข ท่านจึงเรียกหลวงพ่อย้อนให้ มาเรียนกรรมฐาน อันเป็นวิชาเดินญาณสุดยอดของวัดโตนดหลวง ซึ่ง สามารถเพ่งให้คนเป็นบ้าหายบ้าได้ ให้และวิชาปลุกเสกพระต่างๆ ซึ้งหลวงพ่อย้อนท่านก็ร่ำเรียนไม่นานเท่าไหร่ ก็สำเร็จ โดยง่าย ซึ้งเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ จนหลวงพ่อทองศุข ออกปากชมหลังจากหลวงพ่อทองศุข ท่านได้ละสังขารไปนั้น หลวงพ่อย้อนท่านก็ได้ออกธุดงค์ เป็นเวลากว่า 30 ปี มีอิทธิปาฏิหารย์มากมาย ชาวพม่ารามัญ ต่างๆก็ได้รับรู้ถึง ความศักดิ์ของหลวงพ่อด้วยวิชาจากครูบาอาจารย์สายวัดโตนดหลวง นั้น นับว่าเป็นของจริงอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง อย่างหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง หลวงพ่อจันทร์ วัดมฤคทายวัณ หลวงพ่อแผ่ว วัดโตนดหลวง ท่านทั้งหลายนี้ ล้วนเเต่เป็นศิษย์สาย สำนักวัดโตนดหลวงทั้งสิ้น โดยเฉพาะหลวงพ่อยิด นี่ท่านสามารถเสกปลัดขิกบินแข่งกับเครื่องบิน มาแล้วด้วยซ้ำไป
หลวงพ่อย้อน ท่านกลับมาปกครองวัดโตนดหลวง ในปี 2539 ต่อจากหลวงพ่อแผ่ว ศิษย์ผู้พี่ ได้มรณะภาพ ไป อ.ชวาล เสมาพิทักษ์ (อดีตครูใหญ่โรงเรียนวัดโตนดหลวง) เป็นคนช่วยงานด้านเอกสารในสมัยหลวงพ่อทองศุข และ เป็นครูที่สอนหลวงพ่อย้อนในสมัยตอนหลวงพ่อเด็กๆ และเป็นไวยาวัจกร วัดโตนดหลวงในสมัยนั้น จึงได้กราบ อาราธนาหลวงพ่อย้อนมาครองดูแล สำนักวัดโตนดหลวงสืบมาจนท่านมรณะภาพ

ในด้านวัตถุมงคล หลวงพ่อย้อน ธมฺมวํโส ได้มีดำริ จัดสร้างวัตถุมงคล รุ่น " ดีเลิศ ประเสริฐศรี" คำว่า ดีเลิศ เป็นนามสกุลเก่า ของหลวงพ่อทองศุข ผู้ที่เป็นพ่อบุญธรรม และ อาจารย์ของหลวงพ่อ ส่วนคำว่าประเสริฐศรีนั้น หลวงพ่อท่านบอกว่า พระรุ่นนี้ท่านจะปลุกเสกให้วิเศษประเสริฐเป็นศรี ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด จึงเป็นที่มาของชื่อรุ่น รายได้ต่างๆจากวัตถุมงคลรุ่นนี้ หลวงพ่อย้อนจะนำไป จัดตั้งกองทุน เพื่อจัดสร้างรูปหล่อหลวงพ่อทองศุข องค์ใหญ่ หน้าตัก 9.9 เมตร หล่อด้วยเนื้อโลหะผสม เพื่อให้ ศิษยานุศิษย์ ได้กราบได้สักการะบูชา สืบไป
วัตถุมงคล รุ่น " ดีเลิศ ประเสริฐศรี "
ประกอบด้วย
1. เหรียญรูปเหมือน หลวงพ่อย้อน ธมฺมวํโส รุ่น 2
2. รูปหล่อหลวงพ่อทองศุขพิมพ์ฐานสูงย้อนยุค
3. พระกริ่งชินบัญชรโภคทรัพย์ อันเป็นพระกริ่งรุ่นแรกของวัดโตนดหลวง ซึ้งตามประวัติไม่เคยมีการจัดสร้างพระกริ่งมาก่อน
วัตถุมงคลดังกล่าว ได้มีการปลุกเสกชนวนมวลสารไปแล้ว ณ อุโบสถมหาอุด หลังเก่า ของวัดโตนดหลวง ในวันที่ 5 พค. 2555 อันเป็นวันเสาร์ 5 มาแล้ว 1 วาระ โดยหลวงพ่อท่าน เสกชนวนมวลสารทุกวัน วันละ 5 ชั่วโมง ตลอดระยะเวลา 1 เดือนเต็มตามตำราของวัดโตนดหลวง และประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก และ เททองหล่อพระกริ่งชินบัญชรโภคทรัพย์ รูปหล่อหลวงพ่อทองศุขพิมพ์ฐานสูงย้อนยุค อีก 1วาระ อันเป็นการจบพิธี ในวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 15.19 น.และปรกปลุกเสก ณ เวลา 17.19 น. อันเป็นฤกษ์ราชาฤกษ์...
***เหรียญรุ่น 2 หลวงพ่อย้อน วัดโตนดหลวง***
...เหรียญรุ่นแรกออกมาแล้วช่วงต้นปี2555 หลวงพ่อบอกว่ายังไม่ค่อยสวย...
...หลวงพ่อเลยดำริให้ทำเหรียญรุ่น 2 ออกมา หลวงพ่อดูแล้วชอบมาก บอกว่าเหมือนมากสวยถูกใจมาก...
...ฉันจะปลุกเสกให้ดีเลิศประเสริฐศรีเลย ...ให้ดีและดัง... ให้เหมือนเหรียญรุ่น 2 ของหลวงพ่อทองศุขเลย ...พ่อของฉัน ครูบาอาจารย์ของฉันเลย...
***จึงเป็นที่มาของชื่อ รุ่นดีเลิศประเสริฐศรี***

 

1664. พระอภิญญากลางกรุง ที่หลวงพ่อกล่าวไว้ในเสียงธรรม พระสมเด็จพุทธเมตตารัศมีของขวัญพิมพ์เล็ก ปี2530 หลวงปู่วิเวียร วัดดวงแข 699 บาท

​

ด้านหน้าเป็นองค์พระพุทธ เหนือพระเศียรมีเส้นฉัพพรรณรังษี (รัศมีธรรมเล็ก-ใหญ่) ประทับนั่งบนฐานบัวหงาย-คว่ำ
ด้านหลังประทับยันต์พุทธเมตตา

ความหมายของเส้นรัศมี 8เส้นเล็ก=พามานาอุกะสะนะทุ คือพระคาถาหัวใจพาหุงชนะมาร
9เส้นใหญ่=อะสังวิสุโลปุสะพุภะ คิอพระคาถานวหรคุณ(อิติปิโส)

องค์พระพุทธ=อิกะวิติ พระคาถาหัวใจพระพุทธเจ้า

ความหมายของฐานบัว 7กลีบบน=สังวิธาปุกะยะปะ คือพระคาถาหัวใจพระธรรม7คัมภีร์
7กลีบล่าง=สะธะวิปิปะสะอุ คือพระคาถาหัวใจสัตตะโพขฌงค์

เป็นเนื้อผงลบวิเศษ๕ประการผสม ผงเศกผงตำ+เกษรมงคล+เกศาหลวงปู่+ดินกากยายักษ์

การปลุกเศก มีพิธีเศกเดี่ยว 6 รูป รูปละ 2 ชั่วโมง ที่โบสถ์วัดดวงแข
หลวงพ่อเริ่ม
หลวงพ่อแพ
หลวงพ่อเปิ่น
หลวงพ่อมี
หลวงพ่อวัดไทรน้อย
หลวงปู่วิเวียร
หลวงพ่อที่มาบอกว่าจัดพิธีแบบนี้ ศักดิ์สิทธิ์ดีมาก นั่งเศกได้เต็มที่

หลังจากนั้น ลป.วิเวียร ปลุกเสกเดี่ยว 1 พรรษา อัดพลังให้อีก ๙ คืน!!!
-พิธีพุทธาภิเษก6พระเถราจารย์
หลวงพ่อแพเข้าโบสถ์มา ถามหลวงปู่วิเวียร ว่า
จุดเทียนชัยแบบนี้หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกเฌอจุดใช่ไหม(จุดเทียน8ทิศวนขวา) แล้วใครจะเป็นผู้ดับเทียนชัย
หลวงปู่ตอบว่าหลวงพ่อเริ่มจุด และผมเป็นผู้ดับเทียนชัยเอง(ดับเทียน8ทิศยาก)

หลวงพ่อแพถึงได้ยกย่องหลวงปู่วิเวียรมาก ใครไปหาหลวงพ่อแพๆจะบอกว่าให้ มากราบหลวงปู่วิเวียรให้ได้นะ

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)

พระอาจารย์กล่าวถึงแผ่นยันต์เกราะเพชร "การพุทธาภิเษกงวดนี้ต้องบอกว่า จริง ๆ แล้วเป็นการซักซ้อมภายในอย่างหนึ่ง ที่พระท่านสงเคราะห์ให้ ด้วยความที่ท่านสงเคราะห์ให้ตั้งแต่ช่วงที่ "เขา" มากวน แล้วท่านก็มาอยู่จนกระทั่งรับกฐินเลย ถ้าเป็นเวลาข้างบนก็พักเดียว แต่เวลาข้างล่างของเราก็คือ ๒ วันกว่าเกือบ ๓ วันเต็ม
ถ้าใครไปงานกฐินจะรู้สึกว่าบรรยากาศหน่วง ๆ เหมือนกับงานเป่ายันต์เกราะเพชร ก็คือใช่เลย #ครูบาอาจารย์ท่านมาสงเคราะห์กันมากมีอยู่ท่านหนึ่งที่อาตมาลืมกันไปแล้วท่านก็ยังมาคือหลวงปู่วิเวียร วัดดวงแข เคยได้ยินชื่อไหม ?
หลวงปู่วิเวียร วัดดวงแข มรณภาพไปไม่นาน ท่านเป็นพระธรรมยุต เป็นสหธรรมิกรุ่นน้องของหลวงปู่มหาอำพัน แต่ท่านไม่ได้มาสายสุกขวิปัสสโกเหมือนกับหลวงปู่มหาอำพัน ท่านมาแรงกว่านั้น คราวนี้สมัยที่หลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่ จะว่าไปจริง ๆ แล้วท่านดังมากนะ แต่พวกเราอาจจะไม่รู้จัก เพราะว่าท่านเป็นพระธรรมยุต เวลาท่านสร้างวัตถุมงคล เตาหลอมจะมีสังกะสีล้อมแล้วเป่าไฟจนสังกะสีแดงโร่เลย ท่านก็เจิมเตาหลอมทั้งอย่างนั้นแหละ ชาวบ้านเห็นคาตาทุกครั้ง
ถามหลวงปู่ว่าทำไมถึงต้องเจิม ? “ก็ทำตามหลักวิชาที่ศึกษามา ถ้าไม่ทำอย่างนี้ไม่ต้องมาให้ข้าทำ” ท่านถนัดที่สุดคือกสิณน้ำ พระที่ท่านสร้างออกมานี่เมตตามหานิยมสุด ๆ ขนาดรุ่นหนึ่งท่านต้องเก็บบรรจุกรุหมดเลย เพราะว่าลูกศิษย์ดันทะลึ่งไปได้ผู้หญิงแล้วก็ไม่ยอมเลี้ยงเขา"
รุ่นอาตมานี่ทันรุ่นสองของท่าน ท่านบอกว่ารุ่นหนึ่งข้ายังไม่เก่ง หลวงปู่พูดอย่างนี้แปลว่าอะไร ? รุ่นหนึ่งข้ายังไม่เก่ง ก็คือหัดทำ ความจริงท่านอยู่อย่างสมถะ กุฏิที่วัดดวงแขจะพังแหล่ไม่พังแหล่ เป็นอาคารเก่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๓-๔ ลูกศิษย์ก็เลยขออนุญาตหลวงปู่ทำกุฏิใหม่ แต่พวกเขาประเภทเบี้ยน้อยหอยน้อย จึงขออนุญาตสร้างวัตถุมงคล หลวงปู่ท่านไม่อนุญาตให้สร้าง ก็ตื๊อจนกระทั่งท่านสร้าง ท่านก็บอกว่าถ้าสร้างต้องทำตามข้า ก็เลยต้องตามใจท่าน
พระทุกรุ่นของหลวงปู่ท่านเรียกว่า พระพุทธเมตตาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพระปิดตา ไม่ว่าจะเป็นพระลอยองค์ ไม่ว่าจะเป็นพระกลีบบัว ฯลฯ ท่านเรียกพระพุทธเมตตาหมด ก็คือได้รับความเมตตาสงเคราะห์จากพระพุทธเจ้า อาตมาเองก็ตุนเอาไว้เยอะเหมือนกัน เพราะว่าช่วงนั้นเดินจากวัดเทพศิรินทร์ฯ มาหน่อยหนึ่ง ผ่านทางหัวลำโพงก็เป็นวัดดวงแข เสร็จแล้วก็ไปฉันเพลที่บ้านเพื่อนหลังวัดดวงแข แล้วก็กลับวัดเทพศิรินทร์ฯ"
ต้องบอกว่าหลวงปู่วิเวียรเป็นพระดีที่หมกตัวอยู่กลางกรุง แล้วท่านไม่ค่อยแสดงออก แต่ว่าวัตถุมงคลของท่านทุกรุ่นนี่เชื่อขนมกินได้เลย ถ้าใครใช้ในเรื่องเมตตาค้าขายนี่ได้เต็มที่ อาตมาเองก็ตุนไว้อย่างละหลายองค์ เพราะว่าสมัยนั้นท่านก็ไม่ได้จำหน่าย ส่วนใหญ่ขอฟรีด้วย อาศัยเส้นหลวงปู่มหาอำพัน
จริง ๆ ท่านก็แจกลูกศิษย์ฟรี แต่ส่วนใหญ่ลูกศิษย์ก็ถวายเงินท่าน ส่วนอาตมาเห็นว่าท่านเป็นพระธรรมยุตไม่จับเงิน ก็ใช้วิธีไถฟรี ๆ ...(หัวเราะ)...
หลวงปู่ท่านเมตตามาเยี่ยม ถ้าหากว่าดูบุคลิกแล้วหลวงปู่วิเวียรจะคล้าย ๆ กับหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง พระของท่านทุกรุ่นจะเรียกพระพุทธเมตตาเหมือนกันหมด"