เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

เลยเพลเลยเที่ยง แต่ยังไม่เลยเวลา
การร่วมอนุโมทนาบุญใส่บาตรปจว.

 

เหรียญเงิน 'สิริจันโท' ปี18
"หลวงปู่โต๊ะ"เสก-วัดบรมฯ
==============

วัดบรมนิวาสวราชวรวิหาร เป็นฐานที่มั่นฝ่ายธรรมยุติกลางกรุง ตั้งแต่รัชกาลที่ 4 ซึ่งทรงแต่งตั้งไว้ 2 แห่งคือ...

--วัดบรมนิวาสฯ เป็นธรรมยุติ'อรัญญวาสี'(พระป่า)
--วัดบวรนิเวศฯ เป็นธรรมยุติ'คามวาสี'(พระเมือง)

วัดบรมนิวาสเจริญรุ่งเรืองแล้วซบเซา จนมาฟื้นคืนชีพในยุคสมัยท่านพระครูอุบาลีคุณูปการ(สิริจันโท จันทร์) ซึ่งเป็นสุดยอดเพชรเม็ดงามแห่งพระศาสนาร่วมยุคกับปรมาจารย์กองทัพธรรม พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตเถระ

ความยิ่งใหญ่ในการทุ่มชีวิตทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาของท่าน สิริจันโท จันทร์ แทบจะบันทึกกล่าวขานไว้ไม่สิ้น ลองมาชมเกียรติประวัติยิ่งใหญ่ของท่านคร่าวๆที่พระมหากษัตริย์ 2 พระองค์ มอบแด่ท่านดังนี้-;

--เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงฯ เชียงใหม่
--เจ้าอาวาสวัดบรมนิวาสวรวิหาร
--เจ้าคณะใหญ่เมืองนครจำปาสัก
**(เมื่อครั้งแผ่นดินนี้ยังอยู่ในปกครองของสยาม)
--เจ้าคณะมณฑลอิสาน
--เจ้าคณะมณฑลจันทบุรี
--เจ้าคณะมณฑลราชบุรี
--เจ้าคณะมณฑลกรุงเทพฯ
--เจ้าคณะรองฝ่ายอรัญญวาสี

จะเห็นว่าท่านคือจักรกลสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนพระพุทธศาสนานำความเจริญรุ่งเรืองทุกที่ทุกทางที่ท่านบริหาร ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยจากองค์ประมุขของชาติติดต่อกันทั้งร.5-ร.6

ท่านนำธงชัยพระศาสนาแผ่ไกลในลาว,เมืองจำปาสัก,เชียงตุง ยุคที่ยังปกครองด้วยระบบ"เจ้าฟ้า" ก็ให้ความเคารพนับถือท่านสูงสุด

สร้างวัดเขาพระงาม ลพบุรี มีพระใหญ่ตระหง่านเด่นเสียด ฟ้า พระเจ้าอยู่หัวฯร.6เสด็จเปิดและประทานนามวัดว่า"สิริจันทรนิมิต"

--สร้างโรงเรียนบุรพาสยามเขตร ในวัดจำปาสัก
--สร้างโรงเรียนอุบลวิทยาคม ที่วัดสุปัฏน์ฯ อุบลราชธานี

คุณูปการนับไม่ถ้วนต่อพระศาสนาทำให้ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะสมนามที่...พระอุบาลีคุณูปมาจารย์

*** หากพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เป็นปรมาจารย์กองทัพธรรมฝ่าย"บู๊" บุกเบิกนำกองทัพพระป่าเกรียงไกร

*** ท่านสิริจันโท จันทร์ ย่อมเป็นปรมาจารย์ฝ่าย "บุ๋น" สร้างฐานทัพที่มั่นให้กับกองทัพพระป่าอย่างมั่นคง!

ซึ่งทั้ง 2 รูปนี้มีความสนิทสนมกันมากทั้งทางธรรมและการส่วนตัว ดังจะขอคัดลอกความเกี่ยวพัน ระหว่างท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ-จันทร์ สิริจันโท กับพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซึ่งเรียบเรียงไว้โดย องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แสดงความใกล้ชิดระหว่างบูรพาจารย์ทั้งสอง ดั่งนี้-;

1)..."ระยะที่พระอาจารย์มั่น จำพรรษาอยู่วัดปทุมวัน ก็ได้พยายามศึกษาอบรมอุบายปัญญาเพิ่มเติมกับท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ(จันทร์ สิริจันโท) ที่วัดบรมนิวาส มิได้ขาด...เวลามีโอกาสก็เข้าไปกราบนมัสการและเล่าธรรมถวาย เรียนถามปัญหาข้องใจเกี่ยวกับอุบายปัญญากับท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ ท่านก็ได้รับอธิบายวิธีพิจารณาปัญญาเพิ่มเติมให้จนเป็นที่พอใจแล้ว กราบลาท่านไปเที่ยววิเวกทางถ้ำสาริกา เขาใหญ่ จ.นครนายก ฯลฯ

2)...ท่านเจ้าคุณอุบาลีฯเลื่อมใสและชมเชยท่านพระอาจารย์มั่นมาก บางครั้งเวลามีเรื่องราวต่างๆที่ท่านไม่แน่ใจว่าควรพิจารณาและตัดสินใจอย่างไรจึงจะถูกต้องเหมาะสม ท่านให้พระนิมนต์พระอาจารย์มั่นไปร่วมปรึกษามอบเรื่องราวให้ท่านไปพิจารณาช่วยก็ยังมี ฯ

ครั้งหนึ่งท่านเจ้าคุณอุบาลีฯไปเชียงใหม่ ท่านได้อาราธนาพระอาจารย์มั่น เป็นองค์แสดงธรรมให้ประชาชนฟัง ปรากฏท่านแสดงธรรมไพเราะเพราะพริ้งจับใจท่านผู้ฟังมากมาย ท่านเจ้าคุณอุบาลีฯกล่าวชมเชยธรรมเทศนาของท่านท่ามกลางบริษัทว่า...

"ท่านมั่นแสดงธรรมไพเราะมาก หาผู้เสมอเหมือนได้ยาก และแสดงธรรมเป็นมุตโตทัย คือแดนแห่งความหลุดพ้น ที่ผู้ฟังไม่มีที่น่าสงสัย"
=======ฯลฯ=======

ท่านสิริจันโท จันทร์ เกิดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2399 ที่ อุบลราชธานี เป็นบุตรคนหัวปีของ 'หลวงสุโภรสุประการ'และคุณแม่ 'นางสุโภรสุประการ'(แก้ว สุภสร)

มรณภาพ 19 กรกฏาคม 2475 สิริอายุ 76 พรรษา 55
---------------

นำประวัติเศษหนึ่งส่วนล้านท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ จันทร์ สิริจันโท เพื่อให้ทราบว่า เป็นยอดคนแห่งพระพุทธศาสนาที่มิอาจลืมเลือนได้ทั้งอดีตตลอดปัจจุบันยันอนาคต

เหรียญ"สิริจันโท" ที่วัดบรมนิวาส สร้างในปี 18 ชื่อรุ่น "ชาตรี-ทวีโชค-นิรันตราย" นี้ จึงเลือกเฟ้นสุดยอดแห่งบูรพาจารย์ของยุคเข้าร่วมพิธีปลุกเสกเพียง 16 รูป นำมารวมกันทั้งพระป่า-พระเมือง ไม่ถือเขาถือเรา เพื่อรังสรรค์สิ่งดีที่สุดให้เป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา

สมเด็จพระญาณสังวรฯ เป็นประธานจุดเทียนชัยในวันที่ 18 มิ.ย. โดยมี 16 บรมครูเรียงรายผนึกพลังโลกุตระสู่วัตถุมงคลชุดนี้เพื่อนำรายได้พัฒนา วัดหนองหลวง ท่าวุ้ง ลพบุรี

--หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
--หลวงพ่อทบ วัดชนแดน
--หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง
--หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
--หลวงปู่คำแสน วัดดอนมูล
--หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม
--หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
--พระอจ.วัน อุตตโม วัดถ้ำฯ
--พระอจ.จวน วัดภูทอก
--พระอจ.แว่น วัดป่าสุทธาวาส
--หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ
--หลวงพ่อบุญมี วัดเขาสมอคอน
--หลวงพ่อบุญมา วัดป่าสิริสาลวัน
--พระอจ.ผ่อง วัดจักรวรรดิ
--พระเทพบัณฑิต วัดศรีเมือง(หนองคาย)
--พระพิศาลฯ วัดสุทธิมงคล(สกลนคร)
**(ท่านมาแทน'หลวงปู่ฝั้น')**

เหรียญเงินสร้างไว้เพียงร้อยกว่าเหรียญ นอกนั้นเป็น นวะ จำนวนหลักร้อยเช่นกัน และทองแดงผิวไฟกับรมดำ

นำหนึ่งในร้อย เหรียญเงิน'สิริจันโท' ซึ่งไม่เคยพบเห็นในท้องตลาด ไม่ผ่านการใช้ให้ร่วมบุญ บูชาพระกรุณาคุณแห่งสุดยอดของพระภิกษุสงฆ์ผู้ยิ่งใหญ่ในพระพุทธศาสนา

=======4,500=======

เหรียญเงิน'สิริจันโท'ปรอทเงินงามวะวับจับตา ยอดคณาจารย์รวมพลังเพื่อสร้างวัด บำรุงพระพุทธศาสนา เฉกเช่น องค์สิริจันโท จันทร์ ผู้ทุ่มเทเพื่อการพระศาสนาอย่างยิ่งใหญ่ทั้ง"ปิดทองหลังพระ" ยากจักหาผู้ใดเสมอเหมือน

เหรียญ"ชาตรี" กับยันต์ข้าวหลามตัด ยอดยันต์ประจำตัว หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง ซึ่งวัตถุมงคลของวัดบรมนิวาสในยุคนี้ ทั้งเนื้อผง-เหรียญ หรืออื่นๆ จะใช้ยันต์นี้เป็นประจำในช่วงที่หลวงปู่สิมยังดำรงขันธ์ ยืนยันว่า หลวงปู่ร่วมสร้าง-ร่วมเสก ทุกครั้งทุกรุ่น และหลวงปู่โต๊ะ ก็ให้ความช่วยเหลือ ร่วมงานทุกคราวเช่นกัน !

 

ขอรับ ครับพี่

 

เหรียญเงินหนึ่งในร้อย ยังไม่เคยเห็นเหรียญที่สอง ซึ่งเจ้าของแต่ละท่านคงเก็บไม่ให้กระเซ็นออกมา จัดมอบให้กับน้องโยธา เป็นเหรียญที่ยากตีมูลค่าเนื่องจากไม่เคยเจอในตลาดประมูล แต่พระชุดนี้ 3 เหรียญ เนื้อทองแดง วัดบรมนิวาสฯพบเจอหลงอยู่ในหอเก็บรักษาวัตถุมงคลของวัดเมื่อปี 3 กว่า ได้นำออกให้บูชาเพื่อนำรายได้บูรณะวัด มี 3 เหรียญทองแดงครบชุดคือ "ชาตรี-ทวีโชค-นิรันตราย" บูชาชุดละ 3,000 บาท ผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว

เหรียญเงินล้ำค่า อายุสร้างหย่อนครึ่งศตวรรษนิดเดียว คณาจารย์สุดยอดของประเทศเสก ให้บูชาราคานี้ จึงนับว่าถูกเสียยิ่งกว่าพระใหม่ๆหลายสำนัก

โมทนาน้องโยธา วันจันทร์จัดส่งท่านเดินทางครับ

 

หลวงพ่อ"พระสุก" วัดราชผาฯ
โค้ต ส.-'หลวงปู่โต๊ะ' เสก ปี21
===============

พระใส-พระเสริม-พระสุก....3 พระพุทธรูปศิลปเชียงแสนแบบล้านช้างหรือล้านนาเวียงจันทร์ เราทราบกันดีว่า...

"พระใส" เป็นขวัญใจ 2 ฝั่งโขงอยู่'วัดโพธิ์ชัย-หนองคาย'

"พระเสริม" อยู่กลางกรุง วัดปทุมวนาราม นี่เอง!

สำหรับ "พระสุก" หรือ "พระสุข" ตัวแทนแห่งความผาสุกและสุกสดใสตามพุทธลักษณะ ซึ่งมีพระโอษฐ์สุกเป็นสีนาก มีเส้นลวดลายสายเงินประดับชายจีวรและสังฆาฏิ จึงทำให้ขนานนามท่านตามความสุกใส

ท่านสถิต ณ วัดราชผาติการาม โดยสมเด็จพระปิ่นเกล้า พระอนุชารัชกาลที่ 4 ทรงนำมาประดิษฐานไว้ ขนาดหน้าตัก 69 ซม. สูง 165 ซม. เนื้อองค์พระทองสัมฤทธิ์ 3 กษัตริย์

ปี17-18 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินพร้อมสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ อัญเชิญพระบรมอัฐิรัชกาลที่ 4 กับ ที่ 5บรรจุไว้หลังพระอุโบสถ และบรรจุพระเครื่องไว้ใต้ฐานพระประธาน รวมทั้งวัดต่างๆอีก 9 วัด

ปี 2521 วัดราชผาฯจัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อนำรายได้บูรณะเสนาสนะหลายแห่งที่ทรุดโทรม สร้างเหรียญ 4 เหลี่ยมเนื้อโลหะผสมไว้ 2 แบบคือ เหรียญพระสุกข้างเจดีย์คู่ กับพระสุกใต้ฉัตร หลังพระปิดตา ยันต์ใบพัดอันงดงาม

วัดหลวง พิธีหลวงยิ่งใหญ่ สมเด็จพระญาณสังวรฯเป็นประธานจุดเทียนชัย หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ร่วมพุทธาภิเษกแน่นอน

นี่คือ เหรียญพระสุก หรือ "สุข" ที่บูชาแล้วมีเต่ความสุข สมพระนาม "ใส-เสริม-สุก" ครบถ้วนมงคล มีเหรียญเดียวตอกโค้ต "ส" สวยงาม เนื้อโลหะผสมเกือบเป็นเนื้อนวะ เชิญร่วมบุญ นำความสุขสดใสเข้าเคหา...

=======1,000=======

หลวงพ่อสุก(สุข)ใต้ฉัตรสวยงาม ตอกโค้ต"ส"ล่างสุดขวามือเรา ไม่เคยผ่านการใช้ ท่านใดมี "พระใส-พระเสริม"อยู่แล้ว นำไปเข้าครบ "3ทหารเสือ"ได้เลย

ด้านหลังพระปิดตา ยันต์อลังการบน-ล่าง-ซ้าย-ขวา ครบทิศพร้อมหงส์คู่ประจำวาร เป็นเหรียญออกแบบได้งดงามมากที่สุดเหรียญหนึ่ง

สี่เหลี่ยมใหญ่
สมเป็นองค์
พระประธาน

 

เหรียญ 4 รอบในหลวง
หลวงปู่โต๊ะ เสกร่วมกับ
สาย"พระป่า"-วัดพระแก้ว
==============

ไม่ต้องสาธยายความยิ่งใหญ่ของเหรียญพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลมหาราช ของเราในปี 18 ซึ่งจัดพิธีชัยมังคลาภิเษก ณ อุโบสถวัดพระแก้ว พร้อมคณาจารย์ทั้งฝ่าย"อรัญญวาสี-พระป่า" กับ สาย"คามวาสี-พระเมือง" รวม 49 รูป วันที่ 1 เมษายน 2520

***ระดับพระสมเด็จ***
--สมเด็จพระญาณสังวรฯ ประธาน
--สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดจักรวรรดิฯ

**สาย"คามวาสี"
------------------

--หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
--หลวงปู่เสงี่ยม วัดสุทัศน์
--ลป.เจียม วัดโสธร แปดริ้ว
--ลป.พุฒ วัดมณีสถิตฯ อุทัยธานี
--ลพ.สิริ วัดชนะสงคราม กทม.
--หลวงปู่ชิต วัดพระปฐมเจดีย์
--หลวงพ่อแก้ว วัดสุทธิฯ
--ลพ.เปลื้อง วัดสุวรรณภูมิ สุพรรณฯ
--ลพ.ชิต วัดเขาเต่า ประจวบฯ
--ลพ.แพ วัดพิกุลทอง
--ลพ.เนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม
--ลป.พรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า
--ครูบาอินทจักร วัดบ่อน้ำหลวง
--ลพ.กี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี
--ลพ.อุตตมะ วัดวังวิเวการาม
--ลป.เส็ง วัดน้อยนางหงส์ กทม.
--ลพ.บาง วัดหนองพลับ สระบุรี
--ลพ.เชื่อม วัดไชโยฯ อ่างทอง
--ลพ.เริ่ม วัดจุกกะเฌอ ชลบุรี
--ลพ.สนิท วัดศีลขันธ์ อ่างทอง
--หลวงปู่ใหญ่ วัดสะแก อยุธยา
--ลพ.ผิว วัดสง่างาม ปราจีณ
--ลพ.เที่ยง วัดม่วงชุม กาญจน์ฯ
--ลพ.ทอง วัดบ่อนอก ประจวบฯ
--ลป.อ่อน วัดเพียมาตร ศรีสะเกษ
--ลพ.จ้วน วัดเขาลูกช้าง เพชรบุรี
--ลพ.จ้อย วัดดอนสัก สุราษฏร์ฯ
--ลพ.ศีล วัดกิ่งแก้ว สมุทรปราการ
--ลป.บุญ วัดวังมะนาว ราชบุรี
--ลพ.เชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ชัยนาท

***สาย'อรัญญวาสี***
-------------------

--ลป.ชา วัดหนองป่าพง อุบลฯ
--ลป.ดุลย์ วัดบูรพาราม สุรินทร์
--ลป.สิม วัดถ้ำผาปล่อง
--ลพ.พุธ วัดป่าสาลวัน
--ลป.สาม อภิญจโน สุรินทร์
--ท่านพ่อเฟื่อง วัดธรรมสถิต ระยอง
--ลป.ศรีจันทร์ วัดเลยหลง เลย
--ลพ.สมชาย วัดเขาสุกิม
--ลป.ท่อน วัดศรีอภัยวัน เลย
--ลป.บุญมา ฐิตเปโม หนองบัวลำภู
--ลป.แว่น ธนปาโล วัดสุทธาวาส
--ลพ.บุญ ชินวโว สกลนคร
--ลป.ฝั่น ปาเรสโก วัดถ้ำเอราวัณ เลย
--พระอจ.วัน อุตตโม สกล
--ลป.ศรี มหาสีโร วัดป่ากุง
--พระอจ.หนู สุจิตโต วัดดอยแม่ปั๋ง
--ลป.สิงห์ วัดเทพพิทักษ์ ราชสีมา

เหรียญที่มีความครบครันในตนทั้งความศักดิ์สิทธิ์ มหิทธิเดช ประวัติศาสตร์แห่งความภูมิใจในชาติที่มีองค์พระประมุขทรง"ทศพิธราชธรรม"ที่สุด รูปพระองค์ท่านหลายอย่าง ไม่ต้องเสกก็ศักดิ์สิทธิ์ นี่รวมยอดคณาจารย์ทุกสายเข้ามาร่วมประจุพลังเข้าไปด้วย ก็ยิ่งเหนือการบรรยาย

มีเหรียญเดียว ทองแดงรมดำ ผิวเหลือบรุ้งยังอยู่ เชิญร่วมบุญ...

=======1,400=======

เหรียญจริงงามกว่าภาพถ่าย รมดำแห้งสนิทสมอายุสร้างเกือบห้าสิบปี

ตรา ภปร ที่จะเป็นประวัติศาสตร์สำคัญ สำหรับนักสะสมเพราะไม่มีของใหม่สร้างได้อีกแล้วยิ่งยาวนานยิ่งล้ำค่า

ขนาดที่คุ้นตา
แต่ก็เทียบให้
ชมสบายตา

 

ได้ทำบุญกันพอเย็นใจในวันแสนร้อนอบอ้าว แต่ก็ยังไม่ถึงกับร้อนรุ่มโดนแผดเผาด้วยไฟนรกของสงครามเหมือนชาวยูเครนในยามนี้ ได้แต่เอาใจช่วยให้เปลวไฟนรกดับลงเร็ววัน อันหมายถึงความสงบสุขของทุกภูมิภาคด้วย อย่ารอจนถึงขั้น "แบ่งฝ่าย-ช่วยรบ" จริงจัง เมื่อนั้น...ฉิ..หาย ทั้งโลกแน่

หลบร้อนเข้าป่าสักยกสองยกน่าจะดีที่สุด แต่เรื่องราวก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน รอการเคาะ แคะไคัแก้ตัวผิดสักพักใหญ่ตามปกติครับ

 

รับค่ะ

 

(ต่อ)...อาถรรพ์"เหล็กไหล"-ประจันหน้า'เจ้าถ้ำ'!!!
==============
@@บทส่งท้าย@@
~~~~~~~~~~~~

สัตว์ร้ายไม่กลัว ผีชั่วไม่เกรง ละเลงสู้ศึกมาทั่วทิศ มาหงายเก๋งไม่เป็นท่ายิ่งกว่าปลาตายน้ำตื้นจากคนไม่รู้จัก ไม่เคยคุยเสวนากระทั่งทักทาย

สภาพคล้ายเรากระดิกนิ้วลั่นไกปืนใส่สัตว์ป่า เหยื่อที่ไม่เคยกระทำผิดต่อกัน แต่เราก็ฆ่ามันเพื่อเป็นอาหารประทังชีวิต ผิดกับจิตใจอำมหิตคนบางคนที่กระทำเหมือนเหนี่ยวไกปืนใส่คนบริสุทธิ์ เพียงเพราะมันคิดว่าจะโดนแย่งของรักของชอบ ทั้งที่มันก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงรักชอบตอบกลับหรือไม่ ?

ชะรอยนี่เป็นลิขิตนรก แตกต่างจากลิขิตสวรรค์...การโดนมนุษย์ทัณฑ์เที่ยวนี้ ราวกับได้ท่องนรก ขุมที่เกือบลึกสุด !!!

เมื่อหัวหน้าที่พึ่งสุดท้ายเดินทาง เปรียบปานกับ แมวไม่อยู่ หนูร่าเริง มิหนำซ้ำเจ้าหนูผีตัวนี้ดันอาฆาตมาดร้าย คิดว่าผมเป็นแมวขโมยมาแย่งนางในดวงใจ

มันทำอีท่าไหนก็ไม่รู้ วันต่อมาผมถูกนำตัวไปสอบสวนด้วยระบบ...

"ซ้อมก่อน ถามทีหลัง"!

ในห้องสอบสวนเล็กที่ผมถูกนำตัวเข้ามาหนแรก มีเก้าอี้ไม้ให้นั่งตัวเดียวมือถูกมัดเชือกไขว้หลังหมดสิทธิ์ดิ้นรน ผู้คุม 3 คน คนหนึ่งเป็นล่ามพูดไทยได้บ้างพอฟังรู้เรื่อง อีกสองคนทำท่าโหดเป็นคนซักไซ้ไล่เรียง เจ้าตัวตะคอกเสียงดุดัน ทำหน้าเหี้ยมยิ่งกว่าดาวร้ายหนังไทย มี "ดิ้ว" หรือไม้กระบองที่ไว้ฟาดปราบจลาจลตีกำราบฝูงชน มันเริ่มต้นเอาดิ้วเคาะบ่า ต้นแขน เคาะลำตัว หน้าขาผมเป็นจังหวะ คงกะน้ำหนักมือกับตำแหน่งที่จะหวดให้จั๋งหนับ

มันพูดบางอย่าง ล่ามสั่งผมยืนขึ้นเอามือตบเสื้อตบกระเป๋า เจ้าอีกคนดึงกางเกงผมลง ตรวจค้นในกระเป๋าละเอียด ไม่เว้นตามตะเข็บซึ่งมักเป็นที่ซุกซ่อนของสำคัญ

มันควักเงินที่ผมติดกระเป๋ามา 20 - 30 บาทออกมาดู หันไปหาเจ้าตัวถือดิ้วยื่นส่งให้ ไอ้มือดิ้วยิ้มชอบใจ ริบเงินไทยไม่กี่บาทใส่กระเป๋าตัวเองหน้าตาเฉย โชคดีที่หัวหน้าเตือนเรื่องนี้ก่อน ไม่งั้นมันยึดองค์ปู่เรียบร้อย ค้นกันจนพอใจ ล่ามก็ดึงกางเกงผมขึ้นเหมือนเดิม ยังมีมนุษย์ธรรมติ่งปลายก้อย ไม่สอบสวนผมในสารรูปชีเปลือย

ล่ามถาม...เอาปืนมาทำ 'ไร ?...ผมตอบตามความจริงว่า เดินทางในป่าไว้ปัองกันตัวจากสัตว์ร้ายเท่านั้น

"ปึ้ก..! ปึ้ก..! ปั้ก..!"

ดิ้วในมือไอ้หน้าเหี้ยม ฟาดลงมาที่หน้าขา ตามด้วยกลางหลังผมจนตัวงอ เจ็บจนน้ำตาเล็ด มันไม่พอใจคำตอบที่ล่ามแปล...

"โกหก...ปืนแค่นี้ยิงสัตว์ใหญ่ไม่ได้ เอามาก่อเหตุร้ายใช่ไหม ?"...ล่ามตะคอกใส่หน้า ผมหูอื้อตัวงอ ฟังมันรู้เรื่องบ้างไม่รู้บ้าง ต้องตอบไปอย่างเดิมว่า ไม่โกหก

ไอ้หน้าเหี้ยมมือดิ้วคำราม จิกผมกลางกบาลกระชากผมจนตัวงอเข้ามาหา เอาเข่ากระทุ้งลิ้นปี่เหมือนนักมวยไทย มันอัดเต็มแรงจนผมร้องอ้อก..! ราวไก่โดนเชือด น้ำดีขมพุ่งพรวดขึ้นมาที่ลำคอ ปล่อยอ้วกรดเสื้อมันที่กระโดดหลบไม่ทัน

ยิ่งทำมันโกรธหูอื้อตาลาย คราวนี้ทั้งหมัดศอกเข่าประเคนใส่ผมไม่ยั้ง แต่มันไม่ทำที่ใบหน้าให้เกิดบาดแผล เหมือนกับรู้ว่าสิ่งที่มันทำนี้กระทำโดยพลการ มันหยุดหอบหายใจ ร่างผมร่วงจากเก้าอี้ตัวงอก่องอขิงกับพื้น มันยังแถมยัดตีนเข้าหน้าท้องผมอีกที

เสียงล่ามพูดกับมันเป็นภาษาบ้านเดียวกัน สติผมล่องลอยไร้การควบคุม อารมณ์สัตว์ป่าบาดเจ็บ ฮือโหมท่วมหัวใจ !!!

ผมโกรธและเจ็บทั้งตัวทั้งใจที่สุดในชีวิต คิดอย่างเดียว กูต้องแลกชีวิตยอมตายกับมึงตรงนี้ พวกสัตว์นรกไร้เหตุผล นอกจากดิ้วมันไม่มีอาวุธอื่น คงคิดว่าผมคนเดียว หมูในอวย ลูกไก่ในกำมือ บีบก็ตายคลายก็รอด

ผมแสร้งนอนเจ็บปวดแทบขาดใจรอเวลาให้มันเผลอ ลุกขึ้นยืนเที่ยวนี้จะให้มันรู้จักมวยไทยของจริง

"ลุกได้ไหม"?...เสียงล่ามแปร่ง ๆ ข้างหู ผมทำนิ่งผสมเจ็บจริง แต่ประโยคต่อมาทำเอาสะดุ้ง...

"ทนหน่อย อย่าสู้นะ เดี๋ยวดีเอง"

มันว่าแล้วหันไปพูดกับไอ้เหี้ยม ผมไม่เข้าใจ แต่นาทีถัดมาล่ามก็ประคองผมลุกขึ้นจังหวะที่ล่ามหันหลังให้เจ้าสองคน สายตาสบกับผม มันขยิบตาให้

อา...ในนรกยังมีแสงสว่าง ที่แท้ล่ามเป็นคนของหัวหน้ามอญ ถูกสั่งให้คอยดูแลผม แต่เจ้าตัวซัอมอาจมีบั้งใหญ่กว่า ทำให้ล่ามไม่กล้าขวาง ได้แต่ปรามเล็กน้อยว่า ระวังเกิดแผล หรืออย่าพลั้งมือซ้อมผมตาย !

ล่ามจับผมนั่งเก้าอี้อีกครั้ง ความคิดต่อสู้ขัดขืนหายไปจากในหัว ถึงเอาชนะมันได้ตรงนี้ ก็หนีไม่พ้น ถ้าหนีพ้นก็ทำให้หัวหน้ามอญกับครอบครัวโดนข้อหาหนัก ผมอาจทำพวกเขาลำบากปางตายยกครัว

นึกถึงลูกสาวกับแม่ แถมหลานชายที่จะตัองถูกลงทัณฑ์หนักหรือติดคุก ถ้าผมหนีไปโดยทำร้ายเจ้าหน้าที่ ผมกัดฟันยอมรับนรกทัณฑ์จากไอ้หน้าเหี้ยมไม่หือไม่อือ

ความคิดนี้เป็นคุณตอบแทนกลับคืนมา ทำให้ผมกับหัวหน้าได้รู้ความจริงภายหลังว่า เหตุบ้าบอคอแตกหนนี้เกิดจากอะไร ? เพราะใคร ? โดยหลานชายตัวน้อยเป็นคนเล่า

ไอ้หน้าเหี้ยมซ้อมผมจนเหนื่อย มันปล่อยคู่หูสืบสวนผมต่อ เจ้าคนที่คอยจับบ่าดึงตัวผมให้ไอ้หน้าเหี้ยมตี ไม่โหดมากเท่า มันแค่ตบหน้าผม 2 - 3 ที ด้วยการสะบัดมือตบให้หน้าหัน เจ็บพอแสบ ๆ คัน ๆ

ผมยืนกรานกับล่ามด้วยคำตอบเดิม ล่ามก็หันไปแปลให้ ไอ้หน้าเหี้ยมคำรามโมโหไม่พอใจ สุดท้ายมันถีบเก้าอี้ที่ผมนั่งล้มโครม สั่งให้ล่ามกับลูกน้อง หิ้วร่างผมร่องแร่งกลับไปที่คุมขัง

"ใจเย็น ๆ เดี๋ยวเอาข้าวมาให้กิน"

ล่ามกระซิบในจังหวะที่อีกคนเดินออกไปก่อน ผมพยักหน้ารับอย่างซังกะตาย เอาอะไรมาให้ตอนนี้ก็เขมือบไม่ลง เพราะท้องเจ็บระบมจุกเสียด อยากทิ้งตัวนอนงอก่อกับพื้นท่าเดียว

วันต่อมาเหตุการณ์ก็เหมือนฉายหนังซ้ำม้วนเดิม ไอ้ซาดิสท์หม่อง ซัอมผมจนเหนื่อยไม่ได้ความคืบหน้า ท่าทางมันฉุนเฉียวอยากทำอะไรที่รุนแรงกว่านี้ ถ้าไม่ติดที่ล่ามคอยปราม

ไอ้ผีบ้าตัวนี้ มีสิทธิ์ลากผมไปยิงทิ้งง่าย ๆ กับอารมณ์ที่แปรปรวนขึ้น ๆ ลง ๆของมัน ทำให้ผมมองไม่ออกว่า ล่ามจะคอยช่วยผมลับ ๆ อยู่ในที ไปได้อีกสักกี่น้ำ?

ผมอาจช้ำในตาย ม้ามแตก ตับแตกตาย กระเพาะเยี่ยวแตกเสียก่อน ถ้ามันเผลอลุแก่โทสะ ประเคนมือตีนซ้อมผมไม่ยั้งมือยิ่งกว่านี้ !

โชคในคราวเคราะห์ ที่การฝึกหนักจากค่าย งานหนักในเหมือง การผจญภัยในป่าตะนาวศรี ระดับทรหดมหาโหดหลายหน หล่อหลอมผมแข็งแกร่งเกินมนุษย์มนา สามารถทนมือทนตีนไอ้จอมโหด ในสภาพที่คนทั่วไปต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปแล้ว

แต่ล่ามดันมีวิธีช่วยผมรอดพ้นเงื้อมมือไอ้จอมโหด ด้วยการเสนอเอาผมยัด "คุกขี้ไก่" !!!

-----------------------
***เรื่องเล่า-นักขุดกรุฯ ทุกตอนมีลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ ห้ามนำเผยแพร่ ก็อปปี้ ลอกเลียน ดัดแปลง ทำซ้ำทุกกรณีโดยไม่ได้รับอนุญาต มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมายสูงสุด ***

 

คุณพรฯแวะมาเยือนพร้อมคว้าเหรียญล้ำค่าเป็นสิริมงคล ขอโมทนาบุญครับ จัดส่งให้วันจันทร์ หากมีการเปลี่ยนแปลงที่้อยู่ ก็อย่าลืมแจ้งด้วย

 

เลี่ยมเสร็จเรียบร้อย - สวยงาม
และได้ลองเอากล้องส่องพระถ่ายผ่านมือถือ
เนื้อมีมวลหลายอย่าง มีเส้นเกศากระจายทั่วเลย
สุดยอดจริงๆ

 

โอนเรียบร้อยครับ

 

วันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๔ ปีฉลู
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ อนาคะเตกาเล

 

โอนเรียบร้อยค่ะ ที่เหลือร่วมบุญอื่น เปลี่ยนที่อยู่ใหม่ ได้แจ้งคุณน้ำฝนแล้ว ขอบพระคุณค่ะคุณอา

 

สวัสดีคุณอาวันวิและแฟนคลับทุกท่าน

 

แหวกคลื่นร้อนอบอ้าวเข้ากระทู้ โมทนารับปัจจัยบุญเย็นฉ่ำใจจากน้องโยธา พรุ่งนี้มอบเหรียญเงินไข่ใหญ่ ขลังเข้มทรงพลังเดินทางครับ

 

ตามด้วยบุญ+ทานบารมีจากน้องพรฯ ขอโมทนาให้พรอันดี ทุกประการกับ เหรียญยิ่งใหญ่ในหลวง ร.9 ของเรา อำนวยพรให้ล้นเหลือ เกินกว่า 9 อย่าง พรุ่งนี้มอบท่านเดินทางครับ

 

ร้อนยังไง บุญยามเช้าก็เย็นชื่นใจเสมอ โต๊ะตัวน้อยนี้จัดเป็นพิเศษ รอใส่บาตร-กรวดน้ำเป็นชุดๆ ครบเครื่องเรื่องทางบุญ ได้อนุโมทนาร่วมแล้ว...หายร้อน!

 

ทักน้องปรายฯแหวกลมร้อน
มายามร้อนเปรี้ยงเที่ยงเศษ
รอจนบ่ายหน่อยจึงตอบกลับ