ห้องพระเครื่อง "ศิลป์พระ๙" พระเครื่องทั่วไทย

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิลป์พระ9, 26 ธันวาคม 2020.

  1. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    617
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    189.พระชลธารมุนี วัดเครืออวัลย์ จ.ชลบุรี ((( บูชา 450 บาท )))

    2622022_220228_23.jpg 2622022_220228_22.jpg
     
  2. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    617
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    190.ชุดปรกหลวงพูล วัดบ้านแพน จ.อยุธยา ((( บูชาชุดละ 950 บาท ))) ปิดรายการ
    ชุดกรรมการ 5 องค์

    2622022_220228_27.jpg 2622022_220228_26.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2022
  3. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    617
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    191.เหรียญหลวงพ่อวิน วัดเขากอบ รุ่นแรก ปี 2513 จ.ตรัง ((( บูชา 650 บาท )))

    เหรียญประสบการณ์เด่น ของจังหวัดตรังอีกเหรียญครับ

    232022_220302_1.jpg 232022_220302_0.jpg
     
  4. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    617
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    192.เหรียญหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส รุ่นเผด็จศึก ปี 2524 ((( บูชา 850 บาท ))) ปิดรายการ

    232022_220302_3.jpg 232022_220302_2.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2022
  5. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    617
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    193.พระลีลาหลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม จ.นครปฐม ปี 2515 ((( บูชา 750 บาท )))

    หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม เกิดเมื่อวันจันทร์ ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 7 ปีเถาะ ตรงกับวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2434 ณ บ้านสามง่าม หมู่ที่ 4 โยมบิดาชื่อ จันทร์ โยมมารดาชื่อ บู่ นามสกุล สามงามน้อย ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดารวม 7 คน เป็นชาย 3 คน เป็นหญิง 4 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 5

    เมื่ออายุได้ 7 ปี ลุงของท่านซึ่งบวชอยู่ที่วัดกาหลง จังหวัดสมุทรสาคร มีชื่อว่า หลวงลุงแดง เป็นพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในขณะนั้นรูปหนึ่ง ได้ไปเยี่ยมญาติที่บ้านสามง่าม ได้พบหลานชายจึงได้ชวนให้ไปอยู่ด้วยกันที่วัดกาหลงเพื่อจะได้ศึกษาเล่าเรียน หนังสือ ธรรมะ และเวทมนต์คาถา เป็นเวลา 3 ปี จนสามารถเขียนอ่านได้เป็นอย่างดี จึงได้กลับมาบ้านเกิด

    หลวงลุงแดงของหลวงพ่อเต๋ ท่านเป็นผู้สนใจในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ท่านเห็นว่าบ้านสามง่าม ควรจะมีวัดวาอารามสำหรับให้พระภิกษุและชาวบ้านประกอบกิจทางพระพุทธศาสนา จึงได้ชักชวนหลานชายไปสร้างวัดขึ้นที่บ้านดอนตูม ห่างจากบ้านสามง่ามประมาณ 3 กิโลเมตร

    เมื่อหลวงพ่อเต๋ มีอายุได้ 15 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ศึกษาพระธรรมวินัยอยู่กับหลวงลุงแดง ร่วมจัดสร้างวัดใหม่ไปพร้อมกัน รวมทั้งได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมเพิ่มเติมจากหลวงลุงแดง ประวัติหลวงลุงแดงท่านเป็นพระเถระที่มีชื่อเสียงโด่งดังและมีความเชี่ยวชาญ พุทธาคมทั้งทางด้านเมตตามหานิยมและอยู่ยงคงกระพันชาตรี มีลูกศิษย์ลูกหาเคารพนับถือมากมาย อีกทั้งหลวงพ่อเต๋ มีศักดิ์เป็นหลานของท่าน จึงได้รับถ่ายทอดวิชามาอย่างครบถ้วนโดยไม่มีการปิดบังอำพราง

    พ.ศ. 2454 ท่านมีอายุได้ 21 ปี จึงได้ทำการบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมี พระครูอุตตรการบดี (หลวงพ่อทา) วัดพะเนียงแตก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมุห์เทศ วัดทุ่งผักกูด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการจอม วัดลำเหย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางธรรมว่า คงทอง (ภายหลังเปลี่ยนเป็น คงสุวัณโณ แต่ชาวบ้านยังคงเรียกติดปากว่า คงทอง

    พระอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อเต๋ คือ หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก เป็นพระเถระผู้ทรงเกียรติคุณชื่อเสียงโด่งดังมากในฐานะพระเกจิอาจารย์ที่มี พุทธาคมเข้มขลังในขณะนั้น หลวงพ่อเต๋ได้ศึกษาเล่าเรียนทั้งทางธรรม สมถกัมมัฏฐาน ตลอดจนรับการสืบทอดด้านพุทธาคมต่าง ๆ

    ต่อมาไม่นาน หลวงลุงแดง มรณภาพลงที่วัดกาหลง สมุทรสาคร ก่อนมรณภาพท่านได้ฝากวัดสามง่ามให้หลวงพ่อเต๋ดูแล

    หลวงพ่อเต๋ เริ่มออกธุดงค์ระหว่าง พ.ศ. 2455 – 2472 เป็นเวลา 17 ปี รวมทั้งศึกษาวิชาอาคมเพิ่มเติม นอกจากที่ได้ศึกษาจาก หลวงลุงแดง และ หลวงพ่อทา หลังจากหลวงพ่อทา มรณภาพแล้ว ท่านได้เดินทางไปขอศึกษาวิชาเพิ่มเติมกับ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง จากนั้นออกธุดงค์ไปในที่ต่าง ๆ และได้ศึกษาวิชาเพิ่มเติมกับพระอาจารย์อื่นทั้งพระสงฆ์และฆราวาส อาทิ หลวงพ่อกอน วัดบ่อตะกั่ว นอกจากนี้ท่านยังเดินทางไปเรียนกับพระอาจารย์ทางจังหวัดพิจิตร ยังมีอีกหลายรูปในขณะที่เดินธุดงค์ รวมทั้งอาจารย์ฆราวาส ท่านเป็นชาวเขมร เคยเป็นอดีตแม่ทัพเขมร หลวงพ่อเต๋ได้พบอาจารย์ท่านนี้ที่เขาตะลุง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นอาจารย์ที่หลวงพ่อเต๋ เคารพนับถือมาก ในสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ท่านจะทำการไหว้ครูเขมรมิได้ขาด


    [​IMG]
    ภายหลังท่านกลับมาพำนักที่วัดสามง่ามได้ 3 ปี ท่านทำการสร้างวัดสามง่ามต่อจากหลวงลุงแดงที่ฝากฝังไว้ให้ท่านสร้างต่อก่อน จะมรณภาพ สมัยก่อน อุปกรณ์การก่อสร้างต่าง ๆ หาได้ยากมาก เรื่องไม้ที่จะนำมาสร้างวัดต้องเข้าไปเอาในป่าลึก กว่าจะได้ไม้มาแต่ละเที่ยวยากลำบาก การออกไปตัดไม้แต่ละเที่ยว ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 - 3 เดือน และการนอนป่าหลวงพ่อเต๋ ก็มักจะใช้การตัดไม้ใหญ่เป็นที่พำนักอาศัย การเดินทางไปตามถิ่นต่าง ๆ ก็เพื่อประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา ท่านจึงไม่กลัวต่อภยันตรายทั้งเสือ ช้าง อันเป็นสัตว์ป่าที่ดุร้าย ตลอดจนสิ่งแวดล้อมภายในป่าที่เต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ตลอดเวลา 15 ปี ในการตัดไม้มาก่อสร้างปฏิสังขรณ์วัดของท่าน บางครั้งถึงกับอดน้ำ นับว่าเป็นความอุตสาหะมานะอันแรงกล้าอย่างประเสริฐสุดหาที่เปรียบมิได้

    [​IMG]

    232022_220302_5.jpg 232022_220302_4.jpg
     
  6. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    617
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    194.เหรียญพระอาจารย์ทองพูล วัดสามัคคีฯ จ.บึงกาฬ รุ่น2 ปี 2519 ((( บูชา 1,650 บาท )))
    เหรียญสภาพสวย

    ประวัติหลวงปู่ทองพูล สิริกาโม หรือพระญาณสิทธาจารย์ (วิ.) เป็นพระกรรมฐานรุ่นแรก แห่งกองทัพธรรม สายอาจารย์มั่น ภูริทัตตะเถระ มีเกจิร่วมรุ่น คือ พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ หลวงปู่คำตัน พระครูอุดมศีลวัฒน์ วัดป่าสถิตย์ธรรมมาราม พระครูปัญญาวรากร วัดป่าวิเวกพัฒนาราม โดยเฉพาะท่านอาจารย์ทองพูล กับท่านอาจารย์จวน ทั้ง 2 องค์ มีความสนิทสนมกันมาก ท่านอาจารย์ทองพูล เดิมชื่อหนูพูล นามสกุล เอนไชย เกิดที่บ้านเดื่อศรีคันไชย อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร บิดาชื่อนายเคน มารดาชื่อนางสุภี เป็นบุตรคนที่ 5 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 7 คนตั้งแต่วัยเด็กท่านอาจารย์ทองพูลมีลักษณะนิสัยสุขุมเยือกเย็น พูดน้อย อ่อนน้อมถ่อมตน อยู่ในโอวาทของพ่อแม่ญาติพี่น้อง มีจิตเมตตา ท่านอาจารย์ได้บรรพชาอุปสมบทครั้งแรก เป็นพระสงฆ์ในฝ่ายมหานิกายที่วัดท่าเดื่อ
    อาจารย์ทองพูลได้พบกับพระอาจารย์สีโห เขมโก ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงปู่มั่น และเป็นพระเถระรุ่นเดียวกับหลวงปู่เทสก์ หลวงปู่ขาว หลวงปู่ฝั้น อาจารย์ทองพูลได้เปลี่ยนนิกายใหม่เป็นฝ่ายธรรมยุต โดยมีพระอาจารย์เจดีย์ (จูม พนฺธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสมุห์สวัสดฺ เป็นพระกรรมวาจาจาร มีฉายาว่า สิริกาโม เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ.2495 นับตั้งแต่การอุปสมบท ท่านอาจาย์ทองพูล ได้ตั้งจิตแน่วแน่ในการปฏิบัติธรรมตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า และถึงขั้นที่เรียกได้ว่ามอบกายถวายชีวิต โดยการออกธุดงค์หาสถานที่วิเวกเพื่อเร่งความเพียร บำเพ็ญภาวนา เพียงพรรษาแรกท่านอาจารย์ได้ถือเนสัชชิธุดงค์ คือการไม่นอน ไม่ยอมให้หลังแตะกับพื้นตลอดพรรษา และอดอาหารควบคู่กันไป ท่านอาจารย์ทองพูลยังป่วยอาพาธเป็นไข้มาลาเรียอย่างหนัก แต่ท่านอาศัยธรรมโอสถขันติธรรมเพ่งเวทนาที่เกิดขึ้นจนไข้มาลาเรียหายไปเอง หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม สิริรวมอายุได้ 83 ปี 1 เดือน 19 วัน.


    232022_220302_7.jpg 232022_220302_6.jpg
     
  7. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    617
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    195.พระรูปเหมือนหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง จ.เพชรบุรี ((( บูชา 850 บาท )))
    เนื้อครั่งตะกรุดก้านธูป

    รูปเหมือนเนื้อครั่ง ฝังก้านธูป หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี เป็นพระเครื่องรุ่นแรกที่หลวงพ่อพระอาจารย์ไพโรจน์เป็นผู้สร้าง โดยในพรรษาแรกพระอาจารย์ไพโรจน์ ได้ศึกษาการทำพระเครื่องกับหลวงพ่อแผ่ว พระอุปัชฌาย์ของท่านซึ่งเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง และหลวงพ่อแผ่วเป็นเจ้าอาวาสองค์ต่อมารวมถึงเรียนกับพระอาจารย์ห่วย(ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดห้วยทรายใต้) ท่านเล่าว่าหลวงพ่อแผ่วให้ครั่งเก่าโบราณของหลวงพ่อทองสุขมาบาตรหนึ่ง ท่านเลยเอามาทำพระ หลวงพ่อทองสุขเป็นรูปหล่อครั่งโบราณ ในปี พศ.2536 โดยนำถวายหลวงพ่อแผ่วพระอุปัชฌาย์ของท่าน ซี่งให้ประชาชนทั่วไปได้บูชาพกพาติดตัวป้องกันอันตราย โดยให้ระลึกถึงหลวงพ่อทองสุข โดยรายได้ทั้งหมดทั้งสิ้นนำเข้าบำรุ่งวัดโตนดหลวงทั้งหมด

    232022_220302_11.jpg 232022_220302_10.jpg
     
  8. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    617
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    196.เหรียญหลวงปู่เผือก วัดโมลี ปี 2495 จ.นนทบุรี ((( บูชา 4,850 บาท ))) "จอง">>>พี่j999
    เหรียญเก่าหายากมีประสบการณ์สูง เป็นเหรียญยอดนิยมที่อยู่ในรายการงานประกวดพระสายนนทบุรีมาโดยตลอด

    ประวัติหลวงปู่เผือก‬ วัดโมลี(พระราชปรีชามุนี) หลวงปู่เดิมชื่อเผือก ทั้งนี้บิดามารดาของท่านเห็นว่าเป็นคนผิวขาวเหมือนเผือก จึงตั้งชื่อท่านว่าเผือก บิดาท่านชื่อว่า บุญโยม มารดาชื่อ จ้อน(นามสกุลเดิม บัวปรี)หลวงพ่อชาตะเมื่อวันพุธ เดือน6ขึ้น3ค่ำ ปีมะแม พ.ศ.2426 ณ.ที่บ้านหาดชะอม ตำบล.ยางสูง อำเภอ.ขาณุวรลักษณบุรี จังหวัดกำแพงเพชร มีพี่น้องร่วมกัน5คน หลวงพ่อใช้นามสกุล จุลพันธ์ 1.หลวงพ่อพระราชปรีชามุนี(เผือก) 2.นายจาด บัวปรีย์ 3.นายเหว่า บัวปรีย์ 4.นายวอน บัวปรีย์ 5.นางอิง หลำตี เมื่อวัยเยาว์ได้รับการอบรมหนังสือไทย ในสำนักวัดอุดมศรัทธาราม ซึ้งเป็นวัดที่อยู่ใก้ลบ้านท่าน โดยครูเป็นพระในวัดเป็นผู้สั้งสอนทั้งศีลธรรมและอักขระ พออ่านออกเขียนได้ พออายุครบบวช จึงได้อุปสมบทที่วัดโบสถ์ ตำบลบางแก้ว อำเภอ.บรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีพระอธิการแหยม วัดบ้านแคน จังหวัดนครสวรรค์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูธรรมบาล(ป๊อก)วัดสว่างอารมณ์ จังหวัดกำแพงเพชรเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูถิรธรรม(เคลือบ)วัดอุดมศรัทธาราม จังหวัดกำแพงเพชร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทเรียบร้อยแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดอุดมศรัทธาราม1พรรษา เพื่อปฎิบัติอุปัชฌาย์ อาจาริยวัตรและศึกษาพระปริยัติธรรม ครั้น พ.ศ.2447 ได้ย้ายไปอยู่วัดวังหินท้ายน้ำ พิจิตร เพื่อศึกษาวิปัสนาธุระ พ.ศ.2447 ได้ย้ายไปอยู่วัดตะโก บางคลาน จ.พิจิตร เพื่อเรียนคันถธุระ พ.ศ.2451 ได้กลับวัดอุดมศรัทธาราม ภูมิลำเนาเดิม พ.ศ.2452 ได้ย้ายไปอยู่วัดระฆังโฆษิตาราม บางกอกน้อย ธนบุรี เพื่อเรียนพระปริยัติธรรม 2458 ได้ย้ายมาอยู่วัดโมลี บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี จนกระทั้งสิ้นชีพ ‪#‎ชีวิตของหลวงพ่อ‬ พ.ศ 2452 ได้มูลกจจายนะ1คัมภีร์ (ไม่ได้สอบไล่) พ.ศ.2462 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะหมวด บางใหญ่ แขวงบางบัวทอง นนทบุรี พ.ศ2464 ได้เป็นพระครู เจ้าคณะแขวงบางบัวทอง นนทบุรี ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับสัญญาบัตรเป็นพระครูนนทปรีชา เจ้าคณะแขวงบางบัวทองและบางใหญ่ นนทบุรี พ.ศ2471 ได้จัดตั้งโรงเรียนธรรมบาลี สำนักวัดโมลี และเป็นผู้อุปการะบำรุงด้วย พ.ศ2473. เป็นกรรมการตรวจประโยคนักธรรมตรี. สนามหลวง พ.ศ2475 เป็นกรรมการศึกษาประจำอำเภอบางใหญ่ พ.ศ2479 เป็นผู้อำนวยการศึกษาอบรมปริยัติธรรม ประจำแขวงบางบัวทองและบางใหญ่ 8มิ.ย.พศ.2490 ได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็นพระราชคณะมีนามว่า พระราชปรีชามุนี(ชั้นสามัญ) 5.ธ.ค.พ.ศ.2504 พระราชปรีชานนทมุนี(ชั้นราช)

    วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์เลื่องลือในด้านความเหนียว คงกระพัน มหาอุด คนเมืองนนท์เคารพนับถือท่านเป็นอย่างมาก

    232022_220302_9.jpg 232022_220302_8.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2022
  9. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    617
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    197.เหรียญพระพุทธชินราช วัดบางบัวทอง จ.นนทบุรี ปี 2498 ((( บูชา 950 บาท ))) "จอง">>>พี่j999
    เหรียญเก่าพิธีใหญ่ สถาพสวย

    เหรียญของ วัดบางบัวทอง รายการนี้สภาพถือว่าสวยเมื่อกับระยะเวลาการสร้างเมื่อปี 2498 ผู้สร้างคือ พระครู ศาสนกิจโสภณ คนเดียวกับที่สร้างเหรียญตายของอธิการสิน วัดบางบัวทอง เหรียญหลักอีกเหรียญของนนท์ ในปีที่สร้างพระพุทธชินราชได้รวบรวมเกจินนท์ชื่อดังในยุคนั้นปลุกเสกมากมาย อาทิ หลวงพ่อช่วง วัดบางแพรกใต้ หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง หลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง เป็นต้น

    232022_220302_15.jpg 232022_220302_14.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2022
  10. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    617
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    198.เหรียญเนื้อตะกั่วเถื่อนพิมพ์สี่เหลี่ยมหลวงปู่นิล อิสสริโก ((( บูชา 650 บาท ))) ปิดรายการ

    232022_220302_13.jpg 232022_220302_12.jpg
     
  11. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    617
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    ปิดรายการ

    198.เหรียญเนื้อตะกั่วเถื่อนพิมพ์สี่เหลี่ยมหลวงปู่นิล อิสสริโก
     
  12. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,971
    ค่าพลัง:
    +5,386
    ขอจองครับ
     
  13. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,971
    ค่าพลัง:
    +5,386
    ขอจองครับ
     
  14. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    617
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    รับทราบการจองทั้ง 2 รายการ ครับ ขอบคุณครับพี่ที่อุดหนุนตลอดมาครับ
     
  15. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    617
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    199.รูปหล่อครูบาสร้อย วัดมงคลคีรีเขต รุ่นแรก เนื้อเงิน ปี 2533 จ.ตาก ((( บูชา 6,500 บาท ))) "จอง">>>พี่j999

    รายการหายาก รายการแนะนำ รูปหล่อรุ่นนี้ นับเป็นรุ่นแรกมีตอกโค๊ตระฆัง เนื้อเงินหาได้ยาก มีหมุนเวียนน้อยมาก เหรียญของท่านรุ่นแรก ราคาหลายๆหมื่นบาทเป็นเหรียญยอดนิยมของจังหวัดตาก

    Untitled-1.jpg

    ครูบาสร้อยครูบาสร้อย ขันติสาโร หรือ พระครูนิมมานการโสภณ วัดมงคลคีรีเขตร์ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีวิทยาคมรูปหนึ่งภาคเหนือ

    เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 28 ก.ย. 2472 ตรงกับวันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 10 ปีมะเส็ง พื้นที่เขตตำบลละหานทราย อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เมื่อ อายุได้ 7 ขวบ โยมมารดาของท่านได้ถึงแก่กรรม ท่านได้มาอยู่ในความดูแลของคุณยาย ซึ่งคุณยายของท่านชอบเข้าวัดฟังธรรมตามวิถีชีวิตชนบท และมักพาท่านไปด้วยเสมอ ทำ ให้ท่านได้ใกล้ชิดกับวัดมาตลอด เมื่อเรียนจบชั้นประถม 4 เด็กชายสร้อยจึงได้ขออนุญาตคุณยายบรรพชาที่วัดชุมพร มีหลวงพ่อมั่น เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากนั้น ได้ถวายตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อมั่น ฝึกบริกรรมด้วยการนับลูกประคำเป็นการฝึกสมาธิ เรียนวิทยาคมต่างๆ ควบคู่ไปกับการปฏิบัติสมาธิด้วย อยู่กับหลวงพ่อมั่น จวบจนอายุ 22 ปี จึงได้อุปสมบท มี หลวงพ่อมั่น เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่อสุต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา ขันติสาโร หลังจากบวช หลวงพ่อสุขได้กล่าวชวนไป อยู่ด้วย ซึ่งส่วนตัวมีความเลื่อมใสศรัทธาและประสงค์ขอเรียนวิทยาคมจากหลวงพ่อสุข ในช่วงต้นหลวงพ่อสุขได้เน้นหนักในเรื่องการปฏิบัติกัมมัฏฐาน ในพรรษาถัดมา หลวงพ่อมั่น ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านได้มรณภาพลง ท่านจึงได้กลับไปจัดงานถวายหลวงพ่อมั่น เสร็จสิ้นแล้วจึงกลับมายังวัดหลวงพ่อสุขดังเดิมหลวงพ่อสุข ได้เริ่มสอนวิชาต่างๆ แก่ท่าน วิชาที่สำคัญ คือ การตรวจดูบุญวาสนา เพื่อช่วยในการรักษาโรคภัยต่างๆ พ.ศ.2497 ครูบาสร้อยได้ขอลาหลวงปู่สุขเข้าสู่กรุงเทพมหานคร โดยจุดหมายคือ วัดมหาธาตุฯ ด้วยขณะนั้นขึ้นชื่อในเรื่องการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ท่านได้อยู่ศึกษาเป็นเวลา 7 เดือน จึงลาพระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทธิ) ผู้สอนท่านกลับคืนยังบุรีรัมย์ เมื่อญาติโยมได้รู้ข่าวการกลับมาของท่าน จึงได้ต้อนรับและนิมนต์ให้ท่านอยู่ที่วัดกลางนา แต่หลังจากออกพรรษา ท่านได้ตัดสินใจออกธุดงค์ ถือรุกขมูลลัดเลาะไปตามจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ ต่อไปยังอุบลราชธานี จนยาวไปถึงนครพนม ข้ามไปยังฝั่งลาวแล้วข้ามกลับมายังมุกดาหาร ต่อเรื่อยไปจนเข้าสู่เทือกเขาภูพาน เขตสกลนคร เรื่อยไปจนเข้าหล่มสักเข้าพิษณุโลก ซึ่งช่วงนี้ท่านหลงป่าอยู่ จนทะลุออกมายังอุตรดิตถ์ จากการหลงป่าครั้งนี้ ท่านจึงเปลี่ยนมาเดินโดยใช้เส้นทางรถไฟช่วย ล่วงได้ 7 วัน ท่านก็ถึงดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ได้มีโอกาสพบ 'หลวงปู่แหวน สุจิณโณ' พระสายปฏิบัติชื่อดัง และได้ขอศึกษาข้อธรรมต่างๆ หลวงปู่แหวนท่าน เน้นไปทางอสุภกัมมัฏ ฐาน ซึ่งช่วงนี้ท่านได้พบกับข้อธรรมที่ลึกซึ้งมาก ขึ้น จากนั้นท่านได้กราบลาหลวงปู่แหวน ออกธุดงค์ถือรุกขมูลไปจนถึงแม่สะเรียง พักที่วัดศรีบุญเรือง ท่าน ตั้งใจจะไปที่แม่ฮ่องสอน แต่ด้วยติดกาลพรรษา จึงได้อยู่จำพรรษาที่วัดศรีบุญเรือง จนล่วงกาลพรรษา ท่านจะออกเดินทางต่อ พอดีได้ทราบจากญาติโยมว่าที ท่าสองยางมีวัดร้างอยู่ ท่านได้ไปดูสถานที่แห่งนั้น พบว่าเงียบสงบเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม จึงได้ตกลงใจสร้างวัดมงคลคีรีเขตร์ ครูบาสร้อยได้พัฒนาวัดมงคลคีรีเขตร์ จนเจริญรุ่งเรืองเป็นที่รู้จักของญาติโยมและคณะศรัทธา จนท่านได้รับการขนานนามว่า เทพเจ้าแห่งท่าสองยาง วัตถุมงคลของครูบาสร้อยมีจัดสร้างขึ้นหลายรุ่น เหรียญครูบาสร้อยรุ่นแรก เป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านแคล้วคลาดปลอดภัย นอกจากนี้ ชาวบ้านในแถบพื้นที่ใกล้เคียง ที่เคยเดินทางไปกราบนมัสการท่าน จะรู้ดีว่าท่านเป็นพระภิกษุที่มากด้วยเมตตา นอกจากให้เข้าพบโดยง่ายแล้ว ยังชอบแจกวัตถุมงคล กระบอก ยาอันศักดิ์สิทธิ์ ภายในมีของดีบรรจุอยู่คือ สีผึ้ง ชานหมาก เกศา ว่าน พระสีวลีองค์จิ๋ว ชาวกะเหรี่ยง พม่า และชนเผ่าต่างๆ นับถือและชื่นชอบกันมาก กระบอกยา ศักดิ์สิทธิ์ เป็นวัตถุมงคลอีกชนิดหนึ่ง ที่สร้างชื่อเสียงให้กับครูบาสร้อยเป็นอย่างมาก ท่านจะนำหลอดยานี้แจกให้กับลูกศิษย์อยู่เสมอ มีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม

    332022_220303_4.jpg 332022_220303_1.jpg
    332022_220303_3.jpg 332022_220303_2.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2022
  16. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    617
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    เรื่องเล่าฟังเพื่อความบันเทิง สนุกสนาน

    วันนี้ผมมาเล่าเรื่องการบูชาวัตถุมงคลชิ้นหนึ่งที่ผมติดคอมาตั้งแต่ก่อนเข้ามาสะสมพระเครื่อง ย้อนไปสักช่วง ป.5-ป.6 ราว 20 ปีเห็นจะได้ สมัยนั้นมีความชอบพระเครื่องแล้วแต่ด้วยความเป็นเด็กไม่มีสตางค์เช่าพระ ประกอบกับไม่มีความรู้ จึงยังไม่มีพระเครื่องติดตัว จำได้ว่าช่วงปิดเทอม ผมได้ไปช่วยแม่ขายของ เป็นเพิงติดกับร้านข้าวแกงมุงจาก แม่ผมขายพรบ.รถ ส่วนผมขายปากกาให้คนที่มาสอบใบขับขี่ ใช้สอบข้อเขียน พอว่างๆผมจะไปช่วยป้าร้านข้าวแกงเสริฟข้าวบ้างเพราะอยู่ติดกันรู้จักกันเป็นอย่างดี วันดีวันหนึ่งก็มีพระสงฆ์ รูปหนึ่งอายุประมาณไม่เกิน 45 พรรษา เดินมาหยุดพักร้อนใต้ต้นหูกวางใกล้ร้านผม ป้าขายข้าวแกงเห็นจึงทำน้ำโอเลี้ยงเพื่อถวายพระรูปนั้น พอดีกับผมเดินเตร็ดเตร่ช่วยเสริฟข้าวอยู่พอดี ป้าจึงไหว้วานให้ผมนำน้ำไปถวายพระที่พักร้อนอยู่ ผมถวายเสร็จก็ถอยตัวออกมา สักครู่ท่านฉันเสร็จก็เรียกผมเข้าไป บอกเธอนำน้ำมาถวายเดี๋ยวจะให้ของดีนะ พร้อมถามชื่อผม ผมก็บอกชื่อจริง นามสกุลจริงท่านไป ท่านก็พนมมือบริกรรมอยู่สักครู่พร้อมยื่นวัตถุมงคลให้ผมใส่ไว้ในมือ และ บอกว่าลูกอมนี้เป็นลูกอมของหลวงพ่อชิน วัดท่าขาม มีอะไรให้นึกถึงท่าน (เวลานั้นเข้าใจว่าไม่ใช่ของท่านสร้างเอง) พร้อมชี้มือไปทาง อ.ท่ายาง ตามแนวถนนเพชรเกษม ณ เวลานั้นผมไม่ทราบว่าหลวงพ่อชิน วัดท่าขาม มีประวัติความเป็นมาอย่างไร มีจริงหรือไม่ รู้แต่ว่าวันนั้นทั้งวันผมท่อง "หลวงพ่อชิน วัดท่าขาม"ทั้งวัน กลัวจะลืมคำที่พระองค์นั้นท่านบอกมา ลูกอมเม็ดนี้เป็นลูกอมเนื้อว่านผสมผงขนาดเล็กเท่าลูกกลอน ตอนรับมาเลี่ยมอยู่ในกรอบพลาสติก 2 ชั้น ด้านหน้าพลาสติกใสด้านหลังเป็นพลาสติกสีชมพูขุ่นแบบโบราณ ผมก็ห้อยกับสร้อยสเตนเลทมานาน จนผมเข้าไปในสนามพระเครื่องที่วัดพลับจ.เพชรบุรี จึงถามเซียนพระว่า หลวงพ่อชิน วัดท่าขาม ในเพชรบุรีมีไหม เขาก็บอกว่ามีสิ ดังด้วยนะ ชื่อวัดแบบทางการคือวัดเกษมสุทธาราม อยู่อำเภอท่ายาง ผมก็ห้อยติดตัวเรื่อยมาจนมีเหตุต้องไปเรียนหนังสือที่ใต้ ในจังหวัดพัทลุง ก็ห้อยลูกอมเม็ดนี้ติดตัวไปด้วยตลอด

    15851.jpg

    ปรากฎการณ์ครั้งที่ 1 ที่แปลกใจ คือผมได้ถอดลูกอมออกจากคอจนเหมือนจะลืมใส่ใจ ปกติผมจะวางไว้หัวเตียง โดยที่หัวเตียงจะมีกระปุกดินเผาไว้ใส่ของจิปาถะ 1 ใบ ใส่ดินสอ ปากกา เศษเหรียญ มารู้ตัวอีกทีหนึ่งนึกขึ้นมาได้ว่าลูกอมเอาไว้ตรงไหนหว่า ผมหาในกระปุกที่ใส่ของหัวเตียง ซอกเตียง ที่นอน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง อยู่ 3 วัน (หลังกลับจาก รร.) หาเท่าไหร่ก็ไม่พบ ไม่รู้จะทำอย่างไร หาจนท้อเหนื่อยใจ จึงแอบไปเอาธูปที่หิ้งพระ ระลึกถึงหลวงพ่อชิน วัดท่าขามหากของชิ้นนี้เป็นของผมจริงเป็นของประจำกายผมจริง ขอให้เจอด้วยเถอะะะะะ ปักธูปเสร็จเดินเข้าห้อง เอากระปุ๊กใบเดิมที่เคยหาทีแรกแล้วไม่เจอที่วางไว้บนหัวเตียง เทของภายในออกมา ลูกอมเม็ดนี้ก็ไหลออกมาอย่างช้าๆ ผมก็ตกใจนี่บังเอิญหรืออะไร เพราะ 3 วันนี้ผมหามาเฉพาะกระปุกใบนี้ผมทั้งเททั้งค้นแทบจะทุบทิ้งด้วยซ้ำ หายันใต้เตียงใต้ที่นอนไม่พบ จึงต้องจุดธูปบอก จู่ๆจึงเจอแบบทันควันทันทีทันใด ในครั้งนี้ผมเก็บความสงสัยไว้ไม่ปักใจเชื่อกลัวว่าเราหาพลาดไปหรือเปล่าจึงหาไม่เจอ จบเหตุการณ์ครั้งแรกไปแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

    ปรากฎการณ์ครั้งที่ 2 ผมย้ายไปอยู่กับปู่กับย่าที่อีกอำเภอหนึ่ง เรื่องเกิดประมาณ ม.3 ลูกอมเม็ดนี้ผมห้อยจนกรอบเริ่มร้าวผมกลัวน้ำเข้าจึงถอดวางไว้หัวเตียง เผลอๆลืมๆไปหลายวันมานึกขึ้นได้ลูกอมหลวงพ่อชิน หายไปไหนนะ หาทั่วห้องอยู่พักหนึ่งประมาณ 1 ชม. คราวนี้ไม่รอ 3 วัน จุดธูปบอกเลยว่า ขอให้เจอด้วยเถอะะะะะะ ก้มกราบที่พื้นไม้ ด้วยความว่าเป็นบ้านเก่าสมัยรุ่นย่าสาวๆ ไม้มีความเก่ามีความผุ ตรงที่ผมกราบเป็นเสื่อน้ำมันปูทับพื้นไม้ จังหวะที่กราบไม้แผ่นที่มือผมไปโดน มันกระโดก ไม่เรียบไปกับพื้น ชั่วความคิดเสี้ยววิผมเปิดเสื่อน้ำมันและแงะดูไม้กระดานดู เหมือนมีอะไรขัดอยู่ เพราะแผ่นกระโดกกว่าแผ่านอื่นไม่เรียบ มือผมเร็วกว่าความคิดก็ได้แงะเผยอดู และนั่นแหละครับ ลูกอมเม็ดนี้ก็อยู่ใต้ไม้แผ่นนั้น อย่างน่าอัศจรรย์ ถึงวันเสาร์ ผมจึงนั่งรถสองแถวเข้าตัวเมือง แอบหนีเรียนพิเศษไปให้ช่างเลี่ยมพระเลี่ยมให้ใหม่แล้วขึ้นคอไม่ให้ขาด

    ปรากฎการณ์ครั้งที่ 3 ผมย้ายมาอยู่บ้านย่าที่ท่านซื้อไว้ในเมืองเพราะ กิจกรรมในตอนนั้นผมเรียนชั้น ม.4 มีมากมาย ไหนจะเรียนพิเศษตอนเย็น ไหนจะกิจกรรมอื่นๆ ครั้งนี้เกิดเหตุการณ์ลูกอมหายอีกครั้ง เรื่องเกิดมีอยู่ว่า ผมขับรถมอเตอร์ไซท์กลับจากโรงเรียนตอนเย็น จอดรถทำท่าจะเปิดประตูรั้วและเข็นรถเข้าบ้าน ไม่รู้อะไรแว๊บมาในหัวให้จับลูกอมที่ผมห้อยไว้บริเวณท้ายทอย ปรากฎว่าหายว่างเปล่า นึกในใจเดี๋ยวเข้าบ้านไม่หาละจุดธูปบอกก่อนเลย กำลังจะเข็นรถเข้าบ้าน เข็นอย่างไรก็เข็นไม่ไป พอดีพื้นตรงทางเข้าประตูรั้วโรยหินเกล็ดไว้ ตอนแรกคิดว่ามีหินก้อนใหญ่ขัดจึงตั้งขาตั้งรถ แล้วถอยรถออกมานิดนึง สรุปเป็นลูกอมเม็ดนี้ สภาพกรอบเขรอะไปด้วยดินขัดล้อหน้าอยู่พอดิบพอดีและที่รถเข็นไม่ไปเพราะมีลูกอมขัดล้อรถเอาไว้ สรุปคราวนี้เจอแบบทันที ไม่ต้องจุดธูป

    เรื่องนี้เกิดกับผมมาเนิ่นนาน พอดีเลี่ยมลูกอมเม็ดนี้ขึ้นคอใหม่ทำให้นึกถึงเรื่องเก่าๆ จึงตัดสินใจมาเล่าเรื่องราวสนุกๆ ให้พี่ๆได้รับฟังครับ เรื่องอาจจะดูเหลือเชื่อ ขอให้พี่ๆรับฟังเพื่อความบันเทิงสนุกสนานมากกว่าเป็นจริงเป็นจังนะครับ

    ผมเคยหาคำตอบพระเครื่องที่ห้อยบูชาติดคอนั้น ต่างกับการสะสมพระเครืื่องอย่างไร
    จากความคิดของผมพระเครื่องที่ห้อยคอที่ผมเลือกห้อยนั้นเป็นพระเครื่องที่ผมห้อยแล้วมีกระแสสัมผัสถึงกันได้ อารมณ์เหมือนต่อสายติด กดสวิตท์ไฟแล้วสว่าง ไม่จำเป็นต้องแพง ไม่จำเป็นต้องนิยม ไม่ต้องเท่ห์ครับ ส่วนพระที่เราสะสมเป็นเรื่องความชอบ และ อาจจะมีค่านิยมมาเกี่ยวข้องด้วย ความเป็นมาตรฐานสากล เป็นความสบายใจในการสะสม การสะสมกับห้อยบูชาสำหรับผมจึงมีนัยยะที่ต่างกันพอสมควรค และ ผมก็เดินไปคู่กันทั้งห้อยบูชาและสะสมครับ

    796277.jpg 796278.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2022
  17. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    617
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    ปิดรายการ

    174.เหรียญหลวงพ่อกี๋ วัดแพรกหา ประมาณปั 0กว่า จ.สมุทรปราการ ((( บูชา 750 บาท )))
     
  18. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    617
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    200.เหรียญหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม ปี ๒๕๑๗ ((( บูชา 1,250 บาท )))

    เหรียญหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม ปี ๒๕๑๗ เนื้อทองแดงรมดำ ปลุกเสกพิธีใหญ่รวมสายวัดบางกะพ้อม คณะศิษย์สร้างรุ่นพิเศษบูชาพระคุณของหลวงพ่อ อดีตพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมอันดับต้นๆ แห่งเมืองสมุทรสงคราม เหรียญนี้เป็นการสร้างภายหลังจากที่ท่านได้มรณภาพไปแล้ว พิธีปลุกเสก ยิ่งใหญ่จากพระเกจิอาจารย์หลายๆ รูปที่เป็นศิษย์สืบทอดพุทธาคมมาจากท่าน อาทิเช่น ล.พ.เนื่อง วัดจุฬามณี,ล.พ.ปึก วัดสวนหลวง,หลวงพ่อแก้ว วัดช่องลม ฯลฯ

    332022_220303_11.jpg 332022_220303_12.jpg
     
  19. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    617
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    201.แผ่นปั๊ม หลวงพ่อพุฒ วัดมณีฯ จ.อุทัยธานี ((( บูชา 650 บาท ))) ปิดรายการ

    332022_220303_7.jpg 332022_220303_8.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2022
  20. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    617
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    202.พระเนื้อผงพุทธคุณข้าวก้นบาตร พิมพ์อาร์ม ปี๒๕๑๗ หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ((( บูชา 1,500 บาท )))

    หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย อ.เมือง จ.ชุมพร พระเกจิสายสมถวิปัสสนาที่ชาวจังหวัดชุมพรและชาวกรุงเทพฯ ให้ความเคารพอย่างยิ่ง คนกรุงเทพฯ มักเรียกท่านว่า “หลวงปู่สงฆ์” ท่านนับเป็นพระอริยสงฆ์ผู้ทรงบริสุทธิคุณ เปี่ยมด้วยเมตตาบารมี ทั้งมี ‘วาจาสิทธิ์’ และสร้างอภินิหารมากมายเป็นที่ปรากฏ วัตถุมงคลของท่านจึงล้วนเป็นที่ต้องการและแสวงหาอย่างมากของบรรดาศิษยานุศิษย์และนักสะสมมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนับวันจะหายากยิ่งและสนนราคาเล่นหาก็สูงขึ้นเรื่อยๆ

    หลวงพ่อสงฆ์ เป็นชาวชุมพรโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันอังคาร เดือน 6 ปีขาล ปี พ.ศ.2433 ที่บ้านวินัยเหนือ อ.สวี จ.ชุมพร โยมบิดา-มารดาชื่อ นายแดง-นางนุ้ย ประกอบอาชีพทำนา ท่านใฝ่ใจศึกษาหาความรู้และรักการอ่านเขียนมาตั้งแต่เยาว์วัย พออายุได้ 18 ปี บิดามารดาจึงได้บวชให้เป็นสามเณรที่วัดสวี ศึกษาด้านพระธรรมวินัย พระปริยัติธรรม และอักษรขอม จนอายุครบบวชจึงได้อุปสมบทที่วัดวิสัยเหนือ โดยมี หลวงพ่อชื่น วัดแหลมปอ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา"จันทสโร"
    จำพรรษาอยู่ที่วัดวิสัยเหนือได้ระยะหนึ่ง จึงเดินทางมาจำพรรษาที่วัดควน ต.วิสัยเหนือ เพื่อศึกษาด้านกรรมฐานและวิทยาคมต่างๆ อีก 1 พรรษา จากนั้นออกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ จนมาถึงภูเก็ต ได้พบกับ พระอาจารย์รอด วัดโต๊ะแซ หรือ ตอแซ พระเกจิชื่อดังผู้ทรงฌานสมาบัติสูงรูปหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ซึ่งผู้คนให้ความเคารพนับถือมาก ท่านจึงฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาคมต่างๆ จนหมดสิ้นเป็นเวลา 2 พรรษา จากนั้นกราบลาอาจารย์ออกธุดงค์อีก 7 ปี

    332022_220303_5.jpg 332022_220303_6.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...