กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,320
    ค่าพลัง:
    +4,769
    พกพาวัตถุมงคลไว้ก็ดีนะฮะ ป้องกันความเสี่ยงได้อีกชั้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. Buddhisatava

    Buddhisatava สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2019
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +82
    ..
    ที่ติดตัว หมายถึงไปไหนมาไหนจะมีท่านไปด้วยตลอด เก็บไว้ในกระเป๋าสะพายค่ะ คือ 2 องค์นี้
    1.พระสมเด็จฯนางพญา
    2.สมเด็จฯองค์ปฐมอีกด้านเป็นหลวงปู่ฤาษีลิงดำวัดท่าซุงค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,320
    ค่าพลัง:
    +4,769
    พระหางหมากนี่เอง
     
  4. Khun Krit

    Khun Krit สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +93
    ช่วงนี้ เจอปัญหาชีวิตรุมเร้า เหมือนกันครับ มาครบทุกทาง เอาซะสวดมนต์ ทำสมาธิไม่ได้เลย หึหึ
    .

    แต่ใครจะไปยอม(หลอกตัวเอง) ยิ่งเจอมาร แสดงว่ามาถูกทาง 555
    ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับการ วางแผนจะกลับไปเคลียร์ พราย ต่าง ๆ ที่อยู่ในบ้านออกไปไว้ที่อื่นไหม
    เช่ามาตั้งแต่อายุ 14 ตอนนี้ 25 แล้ว ดันปล่อยคนที่บ้านอยู่กับพรายที่เราไม่รู้ ส่วนตัวเราต้องมานอนแถวที่ทำงาน ถึงเวลาเคลียร์วิบากกรรมของเราแล้ว เจออะไรก็จะเดินหน้าต่อ
    .
    ว่าแต่ใครมีวิธีแนะนำบ้างไหมครับ พรายผู้หญิง 3 ตน ผู้ชายอีก 2 ตน ไม่รู้ว่าอยู่กับอะไร พอเดาได้บางส่วน จะพาแกไปไว้ไหนดี ฟังธรรมที่วัด หรือยังไง (พยายามสวดปรับภพภูมิตลอด)
     
  5. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672

    รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย
    โดยเฉพาะเวลาเดินทางไกลๆ
    ปัจจุบันผมก็ขึ้นคอแค่ 3 องค์
    ลป.ทวด รุ่นพระคันฉ่องผ่าตะวันเหนือโลก(รุ่นแรก)
    (รุ่นที่เคยเจอประสบการณ์ด้านลมฟ้าอากาศ...ทันที)
    ...ในขณะที่เช่าบูชาไปไม่ถึง10นาที

    ลป.ดู่รุ่นดวงเหนือดวง(เพิ่งขึ้นคอไม่นาน)
    (ก่อนเลี่ยมเจอเรื่องอัศจรรย์ใจ)
    (จึงต้องตัดสินใจนำไปเลี่ยมทันที)

    ครูบาชุ่ม วัดวังมุย ลำพูน ปี2517 (รุ่น1)


    ปล. ขออนุญาตถาม
    ไม่ทราบว่าคุณ Max แขวนวัตถุมงคลใดบ้าง
    (ถ้าเปิดเผยได้)

    ขอบคุณครับ
     
  6. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672

    ดูจากรูป...ต้องตาจริงๆ

    ดูพระไม่เป็นหรอก
    ...แต่ขนลุกเล็กน้อย
     
  7. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672

    (Khun krit)
    "ว่าแต่ใครมีวิธีแนะนำบ้างไหมครับ พรายผู้หญิง 3 ตน ผู้ชายอีก 2 ตน ไม่รู้ว่าอยู่กับอะไร พอเดาได้บางส่วน จะพาแกไปไว้ไหนดี ฟังธรรมที่วัด หรือยังไง (พยายามสวดปรับภพภูมิตลอด)"

    ถ้าจะลองถามอาจารย์นพ
    ก็ขอให้เขียนระบุประมาณว่า...
    ขอฝากถามอาจารย์นพ......(เรื่องที่จะถาม)

    (ส่วนท่านอจ.นพจะว่างตอบมาหรือไม่
    คงขึ้นอยู่กับเรื่องราวแต่ละกรณี
    และหรือท่านว่างหรือไม่)
     
  8. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672
    เรื่องฤทธิ์ และอภิญญา
    (ครูบาชุ่ม วัดวังมุย ลำพูน)
    อ่านแล้วทึ่ง....
    สมัยก่อนนั้นพระอภิญญาเล่นฤทธิ์กัน
    อย่างสนุกสนานบันเทิงธรรมจริงๆ



    *********************************************
    (อนุญาตคัดเอาบางตอนมาลง)

    เรื่องฤทธิ์ และอภิญญา
    หนังสือ “ลูกศิษย์บันทึก” ของวัดท่าซุง ซึ่งมีอยู่หลายเล่ม ได้รวบรวมข้อเขียนจากลูกศิษย์ของหลวงพ่อพระราชพรหมยานไว้หลายท่าน เป็นพยานอย่างดีในความอัศจรรย์ข้อหนึ่ง ดังปรากฏอยู่ในบันทึกของ หลวงพ่อบุญรัตน์ กันตจาโร เจ้าอาวาสวัดโขงขาวในฐานะที่ท่านนับถือครูบาเจ้าชุ่มเป็นอาจารย์องค์หนึ่ง ก่อนที่ครูบาเจ้าชุ่มนี่เองจะเป็นผู้แนะนำให้ท่าน มากราบฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    “ในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ หลวงปู่ชุ่ม โพธิโก หลวงปู่คำแสน คุณาลังกาโร กำลังสนทนาธรรมกันที่วัดป่าดอนมุล อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ผู้เขียนกำลังรับฟังธรรม จากพระเดชพระคุณท่านฯทั้งสองอยู่ หลวงปู่ชุ่มก็หันหน้ามาบอกผู้เขียนว่า

    lp-boonyarut-wat-khongkao.jpg
    “ท่านบุญรัตน์ ให้ไปกราบหลวงพ่อใหญ่ วัดท่าซุงหน่อย ท่านเป็นพระทอง หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ท่านเปี่ยมด้วยเมตตาบารมี ใครได้กราบไหว้ก็เป็นบุญกุศลใหญ่นัก”


    หลวงปู่คำแสนซึ่งนั่งอยู่ใกล้ ๆ ก็กล่าวเสริมขึ้นว่า

    “เออดีมาก หลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นผู้ประกอบไปด้วยเมตตาธรรมอันสูงส่ง เหมือนกับครูบาศรีวิชัย หาที่ไหนไม่ได้แล้ว”

    นอกจากนั้นหลวงปู่ชุ่มท่านเมตตาเล่าให้ผู้เขียนฟังอีกว่า

    “พระเดชพระคุณหลวงพ่อวีระ วัดท่าซุงนี่ท่านเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมอันสูงมาก บารมีสูง ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของท่าน ท่านจะไม่มาอีกแล้ว จะเข้าสู่พระนิพพาน เพราะฉะนั้นท่านจึงสั่งสอนให้ลูกหลานและศิษย์ท่านปฏิบัติให้เข้าถึงพระนิพพานกันหมด”

    หลวงปู่ชุ่มบอกกับผู้เขียนว่า

    “ขอให้ท่านจงได้ปฏิบัติติดตามคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเถิด จะได้ถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้”

    ผู้เขียนก็น้อมรับว่า “สาธุ”

    ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า ครูบาเจ้าชุ่มกับ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำเพิ่งพบกันในปี พ.ศ. 2518 แต่ครูบาเจ้าชุ่มท่านกลับสามารถ “รับรอง” ให้ลูกศิษย์ของท่านไปหา “หลวงพ่อใหญ่ วัดท่าซุง” ได้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 (คือตั้งแต่ยังไม่ได้รู้จักกันในทางโลกนั่นเอง) หลวงพ่อบุญรัตน์ยังเคยกล่าวถึงคณาจารย์ของท่านด้วยความเคารพนับถือว่า

    “สมัยก่อนนั้นท่านเล่นฤทธิ์กันอย่างครึกครื้นบันเทิงธรรมจริงๆ อย่างเช่น เมื่อสมัยที่หลวงปู่คำแสนทั้ง 2 องค์ยังอยู่นั้น หลวงพ่อฤๅษีลิงดำท่านจะเป็นกรรมการคอยตรวจสอบ หลวงปู่คำแสนใหญ่ส่งของอะไรลอยไปหาหลวงปู่คำแสนเล็ก หลวงปู่คำแสนเล็กเข้าฌานมาหาหลวงปู่คำแสนใหญ่ และบางครั้งก็นั่งสมาธิไปเรียกหลวงปู่ครูบาชุ่มจากวัดวังมุย บอกว่าหลวงพ่อฤๅษีลิงดำท่านมาอยู่ที่วัดดอนมูลแล้ว สมัยนั้นหลวงปู่คำแสนทั้ง 2 องค์ หลวงปู่ครูบาชุ่ม หลวงปู่ธรรมชัย และหลวงปู่ชัยวงศ์ หลวงพ่อฤๅษี แทบจะไม่ต้องใช้หนังสือหรือจดหมายบอกข่าวกันเลย เพราะสมาธิจิตทุกองค์ติดต่อกันได้หมด...”

    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน ท่านก็เคยเล่าถึงความ “พิเศษ” อันเกี่ยวเนื่องกับพระอริยเจ้าสายเหนือไว้ด้วยตนเองหลายแห่ง เช่น ในหนังสือ “คำแสนนุสรณ์” ที่ท่านจัดพิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ ของ หลวงปุ่คำแสน คุณาลังกาโร

    “เมื่อมีโอกาสพบกันครบคณะคือ หลวงปู่คำแสน หลวงปู่ชุ่ม หลวงปู่ทืม การพบกันคราวนั้นเป็นการพบกันอย่างบังเอิญ ไม่มีใครเจือปนอยู่เลย พบกันแบบนักบวชซุกซน ไปชนกันเข้าโดยที่มิได้ตั้งใจ แต่ละท่านต่างก็ปรารภเหตุและผลในการปฏิบัติรู้สึกดีใจที่ทุกท่านเปิดเผยความจริงอย่างไม่มีอะไรปิดบัง เรื่องนี้พูดให้ฟังไม่ได้

    ต่อมาท่านก็ทำสนุกให้ดู โดยหลวงปู่ชุ่มเริ่มต้นก่อน โดยท่านกล่าวหาว่าหลวงปู่คำแสนว่า ‘มีดีแต่ชอบคุดดี’

    เมื่อโต้เถียงกันอยู่ครู่หนึ่งหลวงปู่คำแสนก็สรุปสั้นๆ ว่า ‘เราโตแล้ว อย่าเล่นอย่างเด็กเลย’

    ท่านหนึ่งในที่นั้นก็พูดว่า ‘คนที่ไร้ความสามารถเท่านั้นที่เขาจะพูดอย่างนี้ คนที่มีความสามารถไม่มีใครเขาพูดอย่างนี้ เพราะเวลานี้มีด้วยกัน ๔ คน’

    หลวงปู่คำแสนท่านยิ้ม ไม่ยอมพูดอะไรทั้งหมด ท่านหาเรื่องคุยเรื่องอื่น

    เมื่อคุยกันไปสัก 2 นาที ปรากฏว่าหลวงปู่คำแสนหายไปจากที่คุย กายหายแต่เสียงยังปรากฏ คุยกันตามปกติแต่มองไม่เห็นตัว ต่อมาปรากฏว่าหลวงปู่ชุ่มก็กายหายแต่เสียงมี สำหรับหลวงปู่ทืมก็กลายเป็นหนุ่มขาวสวยกว่าปกติมาก ผู้เขียนงงเต็มที ในที่สุดเวลาผ่านไปสัก 5 นาที ก็มีสภาพปกติ

    ถามท่านว่า ‘หลวงปู่ทั้งสามเล่นกลแบบไหนครับ’

    ท่านก็ตอบว่า ‘เล่นแบบเด็กอมมือ’

    ท่านถามว่า ‘คุณทำไมไม่เล่น’ ผู้เขียนก็กราบเรียนท่านตามความจริงว่า ‘เล่นไม่เป็น ไม่เคยฝึกวิชากล’ แล้วต่างคนต่างก็หัวเราะ

    หลวงปู่ชุ่มท่านต่อว่า ‘หลวงน้องเอาเปรียบหลวงพี่ คนอย่างนี้บาปหนัก’

    จึงกราบเรียนท่านว่า ‘บาปมันหนักมันก็วิ่งตามผมไม่ทัน ผมสามารถหนีมันพ้น เท่านี้ผมสบายใจแล้ว’ ท่านทั้งสามก็หัวเราะพร้อมกัน…”



    ขอบคุณที่มา.....
    (dharma-gateway.com)
     
  9. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,189
    ค่าพลัง:
    +10,066
    ความจริงปรากฏแล้วครับท่าน9 ขอบคุณมากๆ
     
  10. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,320
    ค่าพลัง:
    +4,769
    ตามอารมณ์ครับ 1

    เซทที่1
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,320
    ค่าพลัง:
    +4,769
    เซทที่2
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,320
    ค่าพลัง:
    +4,769
    เซทนี้ อารธนาบ่อยที่สุดเพราะมียันต์ตะกรุดเม อยู่ด้วย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672
    อนุโมทนา
    แม้บางองค์จะไม่ทราบชื่อ
    แต่ต้องตาต้องใจเหมือนต้องมนต์

    คุณMax....ชุดที่3
    มีลพ.ปาน ,ตะกรูดเมหลวงพี่อนันต์
    ส่วนขวามือองค์ที่3...ใช่ลป.ดู่ผสมธาตุขันธ์หรือป่าว ?
     
  14. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672
    (ต่อ)
    หลวงปู่ ครูบาเจ้าชุ่ม โพธิโก
    พระอริยเจ้าแห่งหริภุญชัย
    วัดชัยมงคล (วังมุย) ต.ประตูป่า อ.เมือง จ.ลำพูน

    จากหนังสือ วังมุย แห่งหริภุญชัย
    จัดทำโดย สมาชิกฯ อินทราพงษ์
    (ครูบาชุ่ม วัดวังมุย ลำพูน)

    (ขออนุญาตคัดเอาบางตอนมาเผยแพร่)



    ***************************************

    พระรูปเหมือนครูบาเจ้าศรีวิชัย ปั้นขณะท่านยังมีชีวิตอยู่

    kb-choom-001.jpg
    ตอนนั้นครูบาเจ้าชุ่มได้ให้ช่างมีฝีมือคนหนึ่ง คือ “หนานทอง” ซึ่งเป็นศิษย์ของท่านเอง มาปั้นรูปเหมือนครูบาเจ้าศรีวิชัยขนาดเท่าองค์จริงในท่านั่งสมาธิ หนานทองได้ใช้เวลาทำงานอยู่หลายวัน ด้วยความที่ครูบาศรีวิชัยอาพาธอยู่ หนานทองจึงต้องเทียวเดินเข้า-ออกจากห้องที่ท่านครูบาเจ้าพักอยู่ วันหนึ่งหลายครั้ง โดยเข้ามาดูหน้าท่าน แล้วก็เดินกลับไปปั้นรูป หากติดขัด ไม่แน่ใจบริเวณส่วนไหน ก็เดินมาดูหน้าองค์ท่านอีก ทำแบบนี้อยู่หลายครั้ง จนในที่สุดก็ปั้นเสร็จ จึงได้ตกแต่งทาสีเรียบร้อยสมบูรณ์

    จากนั้น ครูบาเจ้าชุ่มได้ให้ยกพระรูปเหมือนนั้นมาตั้งไว้ตรงปลายเท้าครูบาเจ้าศรีวิชัยในขณะที่ท่านยังหลับอยู่ รอจนท่านตื่นขึ้น ครูบาเจ้าชุ่ม กับครูบาธรรมชัยได้ช่วยกันประคองท่านให้ลุกขึ้นนั่ง พอท่านได้เห็นพระรูปเหมือนขนาดเท่าจริงของตน ก็ตื้นตันจนหลั่งน้ำตาออกมา ท่านได้ใช้มือลูบคลำรูปเหมือนของตน จากนั้นได้ละมือจากรูปเหมือน มาถอดประคำที่ท่านคล้องคออยู่ เพื่อนำประคำไปคล้องที่คอของรูปเหมือนแทน และยังได้มอบไม้เท้าพร้อมทั้งพัดหางนกยูงให้อีก 1 คู่ จากนั้นท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยได้กล่าวขึ้นว่า

    “รูปเหมือนนี้จะเป็นตัวแทนเราต่อไปในภายภาคหน้า”

    และได้สั่งเสียให้เก็บรักษาไว้ ถือปฏิบัติแทนตัวท่าน ต่อมาอีกไม่นาน ครูบาเจ้าศรีวิชัยก็ได้มรณภาพลง เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2481 ณ วัดบ้านปาง ขณะอายุได้ 60 ปี 8 เดือน 10 วัน

    ในภายหลัง ครูบาเจ้าชุ่ม โพธิโก ได้อัญเชิญพระรูปเหมือนครูบาเจ้าศรีวิชัย จากวัดจามเทวี มาประดิษฐานยังวัดชัยมงคล (วังมุย) จึงนับเป็นพระรูปเหมือนเพียงองค์เดียวที่ได้ปั้นขึ้นในสมัยที่ครูบาเจ้าศรีวิชัย-ตนบุญแห่งล้านนายังมีชีวิตอยู่ ซึ่งพระรูปเหมือนครูบาเจ้าศรีวิชัยนี้ขึ้นชื่อลือเลื่องในความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ชาวบ้านวังมุยและประชาชนทั่วไปได้ยึดเป็นที่พึ่งที่ระลึกมาจนปัจจุบัน


    ขอบคุณที่มา.....
    (dharma-gateway.com)



     
  15. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672
    (ต่อ)

    บุญญาภินิหาร

    kb-choom-033.jpg
    ครูบาชุ่มมีเมตตาธรรมประจำใจ ไม่ค่อยขัดต่อผู้ใดที่มาขอร้องให้ท่านช่วยเหลือ ถ้าไม่เกินขอบเขตแห่งพระธรรมวินัย โดยเฉพาะผู้ที่เจ็บป่วยด้วยคุณไสยแล้ว เชือกและน้ำมนต์ของท่านขลังยิ่งนัก

    มีอยู่ครั้งหนึ่งครูบาชุ่มได้ธุดงค์ไปถึงอำเภอฮอด เข้าพักแรมในป่าช้าบ้านบ่ง ชาวบ้านเหล่านั้นมีด้วยกันหลายเผ่าหลายภาษา เช่น ลั๊วะ, ยาง (กระเหรี่ยง) ได้เอาเนื้อสด ๆ มาถวายโดยบอกว่า เป็นส่วนของวัดหนึ่งหุ้นที่ล่าสัตว์มาได้ ครูบาชุ่มไม่ยอมรับและบอกว่า หากจะนำมาถวายพระหรือสามเณร ควรจัดทำให้สุกเป็นอาหารมา จึงจะรับได้

    และขอบิณฑบาตว่า อย่าได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเขาเลย พอตกค่ำ ครูบาชุ่มได้ทำวัตร สวดมนต์ นั่งสมาธิ แผ่เมตตาจิตให้สรรพสัตว์ทั้งปวง จนใกล้สว่างจึงออกไปบิณฑบาต พวกชาวบ้านมาใส่บาตร แต่ได้ขอร้องครูบาชุ่มไม่ให้สวดมนต์อีกต่อไป โดยกล่าวหาว่าเป็นเพราะท่านสวดมนต์ พวกตนจึงเข้าป่าล่าสัตว์ไม่ได้สัตว์มาหลายวันแล้ว


    ไม้เท้าของครูบาศรีวิชัย

    คราวหนึ่ง ครูบาชุ่มจาริกหลีกเร้นไปแสวงหาที่วิเวกเจริญพระกรรมฐาน และนั่งภาวนาอยู่ที่กระท่อมในบริเวณป่าช้า พอเริ่มมืดลง มีคนเมาสุราคนหนึ่ง เห็นท่านนั่งอยู่ในกระท่อมเพียงผู้เดียวในระยะไกล จึงได้เดินตรงเข้ามาหาด้วยเจตนาที่ไม่ดี ครูบาชุ่มท่านรู้ ท่านจึงหยิบไม้เท้าของครูบาศรีวิชัยขึ้นมาบริกรรมคาถา พร้อมกับขีดเป็นวงรอบตัว เมื่อชายผู้นั้นเดินเข้ามาใกล้กระท่อม ก็ต้องพบกับความแปลกใจ เพราะมองไม่เห็นใครอยู่ในกระท่อมเลย

    ลูกศิษย์ทั่วไปต่างเชื่อว่าท่านเป็นพระที่ทรงอภิญญา สามารถแสดงฤทธิ์ได้ แต่ครูบาชุ่มท่านไม่เคยอวดตัว ยังคงทำตนเหมือนพระธรรมดาๆ ทั่วไปรูปหนึ่ง เสมือนช้างเผือกที่หลีกเร้นอยู่ในป่าลึก



    ขอบคุณที่มา.....
    (dharma-gateway.com)




     
  16. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,320
    ค่าพลัง:
    +4,769
    ใช่ครับ
     
  17. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672
    tips & Tricks (วรรคทอง)
    หน้า180 ลำดับที่# 3606/3608

    ช่วงนั่นเจ๊แอมไม่สบายจึงคุยปรึกษาอาจารย์นพว่า...
    "ช่วงที่รู้สึกป่วย
    เวลาหลับตาจะเห็นคลื่นเส้นสีเขียวเหมือนในหนัง the metrix"

    [nopphakan, post:]
    (#3606)
    แต่ของBodhis ดูแล้วมันไม่ใช่อาการป่วย
    มันเป็นลักษณะของการปรับธาตุร่างกาย
    โดยรวม ทางพลังงานเค้าเรียกว่า
    การรวมปรับพลังงานฝ่ายกำลังสูง
    กำลังต่ำให้เค้ากันได้

    ซึ่งมันส่งผลในเรื่องการอุทิศส่วนกุศล
    ให้ฝ่ายกำลังได้ดีขึ้น
    และการเข้าถึงข้างบนก็จะเร็วขึ้น

    ปล ช่วงนี้ ถ้าเกิดว่า รู้สึกตัวตึงๆ
    เหมือนมีลมหมุนรอบหน่อง รอบแขน
    รู้สึกแถวศีรษะบ้าง
    พอ เอาน้ำไปกรวดอุทิศส่วนกุศลซักลิตรครึ่ง
    ร่างกายจะโล่งโปร่งได้เร็ว
    และถ้าระลึกถึงครูบาร์อาจารย์ พระพุทธฯ
    ตรงหน้าอกก็จะรู้สึกเบาสบายได้เร็ว
    อิอิ พิสูจน์ได้ด้วยตนเอง


    (#3608)
    เส้นสีเขียว เค้าเรียกเส้นสายพลังงาน

    เป็นเส้นที่เกี่ยวข้องกับการรักษา
    ปรับธาตุโดยตรง(ยังมีสีทองที่มีคุณสมบัติปรับธาตุ นอกจากป้องกัน และอฐิษฐาน
    และพลังงานอื่นๆ)
    ถ้าเราไม่เคยฝึกสมาธิ ฝึกสร้างกำลังจิตมา
    ก็จะส่งผลต่อร่างกายบ้างเรื่องปกติ
    เด่วมันจะหายเองถ้าปรับธาตุเสร็จ
    เหมือนการยกเครื่องร่างกายใหม่นั่นหละ

    ปกติมาแนวนอนเป็นคล้ายตาข่าย
    ช่องสี่เหลี่ยมมันคือระยะทาง
    ถ้าเราจับแล้วดึงมาชนกัน
    มันก็คือการย่นย่อเวลานั่นหละ
    กรณีที่จะนำมาใช้งาน สามารถที่จะจับ
    และดึงมาผูกเข้ากับแนวกระดูกสันหลังได้
    เพื่อเป็นการเพิ่มการรับรู้ด้านพลังงาน
    หรือรับรู้คลื่นเปรียบ
    เหมือนเราสร้างเสาอากาสไว้รับคลื่นที่มี
    จำนวนเส้นทองแดงหลายเส้นมัดรวมกัน
    มันก็จะนำไฟฟ้าได้ดี

    ในระดับเกจิที่เก่งๆ แนวกระดูกสันหลังท่าน
    คุณสมบัติการรับคลื่น เทียบได้กับทองแดงนั่นหละ
    เรื่องพวกนี้มันเกิดได้ปกติ
    จากการฝึกสมาธิ แต่ว่าทั่วไป
    มันเหมือนมีจำนวนเส้นทองแดงน้อย
    มันไม่เหมือนการไปดึงจาก
    ภายนอกเข้ามาผูก

    ดังนั้นบางคนที่เคยถูกผูก เรียกว่าปกติ
    ไม่เคยรับรู้อะไร จะพบว่า กลับรับรู้
    ทางนามธรรมได้อย่างประหลาด
    ทั้งๆที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
    และรับรู้เห็นในระดับที่ดีด้วย

    แต่กรณีที่เส้นสายส่งผลอยู่
    จะเป็นเส้นตรงวิ่งขึ้นไปข้างบน
    ความจริงเส้นแบบนี้
    สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า

    เวลาเค้าจับพลังงานภายนอก
    เช่น ธาตุทอง หรือธาตุต่างๆ
    แล้วส่งไปทางออนไลน์
    เค้าก็ใช้หลักการนี้หละ
    ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้ทางด้านไหน
    เช่นใช้เชื่อมกับต้นกะแส
    (เรียกง่ายๆปลุกเสก) ใช่เพิ่มกำลังในวัตถุ
    ใช้เพื่อปรับธาตุ ใช้เพื่อปัองกัน ประมานนี้

    ปกติ แกนพลังงานมนุษย์จะวิ่งขึ้นบน
    มีส่วนพลังงาน กับกะแสครู
    ปกติสองเส้นนี้จะไปด้วยกัน
    วิ่งตั้งฉากกับโลก ตามแนวแกนแม่เหล็ก
    และแรงดึงดูด เป็นปกติ

    ถ้าเมื่อไร ที่มันใกล้ล้มมาขนานพื้นโลก
    แสดงว่า พลังงานที่มาจากธาตุ(ที่รวมเป็นกาย)
    มันใกล้กลับสู่ธรรมชาติ
    เรียกง่ายๆ ว่าใกล้สิ้นอายุไข

    ถ้าเจอคนที่แกนพลังงานใกล้ล้ม
    แล้วจับมาเรียงตั้งใหม่ได้ทัน
    บุคคลนั้นก็จะอยู่ต่อได้อีกต่อไปนั่นเอง
    แต่ไม่ใช่สำหรับทุกคน
    เป็นบางคน บางกรณีๆไป

    ผู้เป็นใหญ่เมืองสำหรับคนบาป
    ท่านให้อุบายนี้มา

    การผูกเส้นสายพลังงานทำได้ง่าย
    สำหรับบางคน แต่ยังไม่เหมาะกับคน
    ที่ยึดติดทางด้านนามธรรม
    หรือชอบแต่เรื่องพิเศษๆ
    แบบไม่สนใจเรื่องสมาธิ เรื่องสติ
    เรื่องปัญญา. ^_^

    จบแระ โม้ยามบ่าย

    [nopphakan, post:]
     
  18. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672
    11 พ.ย.นี้....19.00 รอพิสูจน์
    จริง-เท็จ หรือกินเผือกกินแห้ว
    ...บ่เป็นหยั่งดอก

    ...แต่ไหงๆทำไมพญานาคมาข้องเกี่ยวด้วย
    ???????

    (โปรดใช้วิจารณญาณในการชม)
    (หรือจะใช้ญาณสมาธิร่วมด้วยช่วยกันส่อง)


    ***********************************

    ทึ่ง! คนสื่อมนุษย์ต่างดาว ชี้ลำแสงคล้ายงูเลื้อยที่สหรัฐคือเทพ นัดบุกโลก พ.ย.นี้ (คลิป)
    Home NEWS UPDATE ทึ่ง! คนสื่อมนุษย์ต่างดาว ชี้ลำแสงคล้ายงูเลื้อยที่สหรัฐคือเทพ นัดบุกโลก พ.ย.นี้ (คลิป)
    FF6600.png-150x150.png pnsamtv
    15 ก.ย. 2019

    SHARESHARE[​IMG]SHARE


    %E0%B8%9B%E0%B8%81-11UFO-1024x538.jpg

    “เดลี่ สตาร์” เว็บไซต์ข่าวชื่อดังของอังกฤษ รายงานข่าว รัฐบาลสหรัฐอเมริกา กำลังสืบสวนข่าวการพบวัตถุประหลาดที่มีรูปร่างคล้าย “งูเลื้อย” ที่ปรากฏเหนือท้องฟ้า ในหลายเมืองทั่วประเทศ

    เดลี่ สตาร์ ระบุว่า ตลอดหลายเดือนมานี้มีรายงานการพบเห็นวัตถุประหลาดบนท้องฟ้า ที่มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ไวโอมิง และนิวยอร์ก ซึ่งวัตถุประหลาดบินได้มีลักษณะคล้ายกับงูที่กำลังเลื้อย หรือคล้ายกับมวนซิการ์ลอยอยู่ในอากาศ

    1-7-1024x538.jpg


    นิก คาร์นาเซ อดีตนาวิกโยธิน (หน่วยซีล) ของสหรัฐฯ ที่เคยประจำการในอัฟกานิสถาน เปิดเผยว่า วัตถุประหลาดที่มีผู้พบเห็นบนท้องฟ้าอย่างต่อเนื่องในสหรัฐฯ ตลอดหลายเดือนมานี้ ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับโครงการลับสุดยอดทางทหารของรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้งนี้ หลายคนเชื่อว่า มันน่าจะเป็นยานที่มาจากนอกโลกจริง ๆ ขณะที่ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์บางส่วนต่างเชื่อว่าเป็นแค่ “ว่าว” เท่านั้น

    2-4-1024x538.jpg


    ล่าสุด วันที่ 14 ก.ย. 62 รายงานข่าวจาก ดิ เอ็กซ์เพรสส์ ของอังกฤษ รายงานว่า วัตถุประหลาดซึ่งมีสีส้ม ปรากฏตัวอยู่บนท้องฟ้าเหนือเมืองโอเดสซ่า ริมชายฝั่งทะเลดำ นานกว่า 10 นาที เมื่อช่วงค่ำวันพุธที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่า นอกจากชาวยูเครนในพื้นที่แล้ว ประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน ่น มอลโดว่า ก็สามารถมองเห็นวัตถุประหลาดสีส้มบนท้องฟ้าเช่นกัน

    3-4-1024x538.jpg

    คลิปวิดีโอที่มีผู้บันทึกภาพวัตถุประหลาดสีส้มบนท้องฟ้าเหนือเมืองโอเดสซ่าในครั้งนี้ ได้ถูกนำไปแชร์ต่อกันในโลกออนไลน์ และมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ดี มีการตั้งข้อสังเกตว่า วัตถุประหลาดที่โผล่บนท้องฟ้าอาจเป็นเครื่องบินต่อต้านแรงโน้มถ่วงแบบ ทีอาร์-3 บี ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดยกองทัพรัสเซีย และถูกส่งเข้ามาสอดแนมในยูเครนหรือไม่

    รายงานข่าวจาก เดลี่ สตาร์
    https://www.dailystar.co.uk/news/weird-news/government-is-silently-monitoring-snake-20026203

    รายงานข่าวจาก ดิ เอ็กซ์เพรสส์ ของอังกฤษ
    https://www.express.co.uk/news/weird/1173708/ufo-sighting-alien-glowing-object-ukraine-tr3b-russia-apollo-20-conspiracy

    ขอบคุณภาพ Pen News / beamsinvestigations1 / mavi 777

    %B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%9E%E0%B8%A5-1024x538.jpg
    นายนวพล สุวรรณวิไล ผู้อ้างติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้
    ด้าน นายนวพล สุวรรณวิไล ผู้อ้างติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้ เปิดเผยว่า จากคลิปที่เห็น เป็นเรื่องจริงที่เทพเทวดาต่างดาว มาแสดงฤทธิ์ นำวัตถุบางอย่างเลื้อยเหมือนงู ถ้าเป็นวัตถุบางสิ่งบางอย่างที่ประเทศสหรัฐอเมริกาทดลอง ยังไม่สามารถไปลอยบนฟ้าเหมือนงูได้ แต่สิ่งที่เห็น เทพต่างดาวต้องการสื่อเรื่องราว เพราะตนเองเกิดปีมะโรง ปีงูใหญ่ ตนเองเป็นเทพสังกะเทวราช หรือพญานาคภาคอวตาร ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ โดยงูในคลิปก็คือพญานาค พญางู คือเรื่องราวทั้งหมดที่เทพต่างดาวจะสื่อ ย้ำว่าตนเองไม่ได้เสียสติหรือพูดเพ้อเจ้อ

    %B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%9B-1024x538.jpg
    นายนวพล ขณะดูคลิปวัตถุลอยบนท้องฟ้า
    หลังจากนี้ อนาคตข้างหน้า ประเทศไทยจะมีชื่อเสียงโด่งดัง เพราะอเมริกาค้นหามนุษย์ต่างดาว แต่ไม่สามารถสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้ มีเพียงตนเองคนเดียวที่สามารถติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้ ตนจะพิสูจน์ให้ทุกคนได้รับชมเร็ววันนี้ โดยจะทำการเปิดประตูมิติ เรียกจานบิน เรียกมนุษย์ต่างดาว วันที่ 11 พ.ย. 62 ขอเรียนเชิญกลุ่มเขากะลา และกลุ่มพลังจิต บ้านสวนปิรามิด กลุ่ม UFO เมืองไทย และทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาว เชิญมาที่ อ.จตุรัส จ.ชัยภูมิ เพื่อเป็นสักขีพยาน ร่วมเปิดประตูมิติด้วยกัน ตั้งแต่ เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป


    https://www.amarintv.com/news-update/news-22869/430721/


    ขอบคุณที่มา...
    Amarin ทีวี
     
  19. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672
    **ร่วมส่งพลังใจให้พี่น้องชาวญี่ปุ่น**


    **************************************

    ญี่ปุ่นสุดสะพรึง ซุปเปอร์ไต้ฝุ่น ฮากิบิส แรงเท่าเฮอริเคนระดับ 5 จ่อถล่ม
    ข่าวต่างประเทศ
    ซีเอ็นเอ็น และเว็บไซต์ เจแปนไทม์ส รายงานว่า ชาวญี่ปุ่นสุดระทึก เตรียมเผชิญหน้ากับซุปเปอร์ไต้ฝุ่นกำลังแรง ‘ฮากิบิส’ (Hagibis) หรือ ‘ไต้ฝุ่นหมายเลข 19’ มีความรุนแรงเท่าพายุเฮอริเคนระดับ 5 ซึ่งก่อตัวทางตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก และกำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้าทางทิศเหนือ-ตะวันตกเฉียงเหนือ หลังจากพัดผ่านเกาะกวม ของสหรัฐในแปซิฟิก เมื่อ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา

    สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นซึ่งจับตาดูซุปเปอร์ไต้ฝุ่นฮากิบิสอย่างใกล้ชิด คาดว่าพายุลูกนี้ซึ่งเคลื่อนผ่านหมู่เกาะโองาซาวาระ จะมุ่งหน้ามายังภูมิภาคคันโต ทางตะวันออกของเกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประกอบด้วย 8 จังหวัด รวมทั้งกรุงโตเกียว เมืองหลวง ในคืนวันเสาร์ที่ 12 ต.ค. หรือเช้าวันอาทิตย์ที่ 13 ต.ค.

    ซีเอ็นเอ็น แจ้งว่า ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นฮากิบิส ถือเป็นพายุไต้ฝุ่นที่มีช่วงเวลานานที่สุดกว่าซุปเปอร์ไต้ฝุ่นลูกอื่นๆ ที่เคยเกิดขึ้นในปีนี้ เพราะทวีกำลังเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่นเป็นเวลานานกว่า 60 ชั่วโมง
    เจแปนไทม์ส ยังรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นฮากิบิส ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยาจากทั่วโลกมีความสนใจในพายุลูกนี้ เนื่องจากเป็นพายุที่ทวีความรุนแรงอย่างรวดเร็ว เพราะตามรายงานของสำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นแจ้งว่า ความกดอากาศบริเวณศูนย์กลางพายุ จาก 77 เป็น 915 เฮกโตปาลกาล ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง จนถึง 18.00 น. ของวันจันทร์ที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา

    นายโรเบิร์ต สปีตา นักอุตุนิยมวิทยา ผู้เชี่ยวชาญด้านไต้ฝุ่น ซึ่งทำงานที่กองทัพเรือในรัฐฟลอริดา สหรัฐ กล่าวว่า พายุไต้ฝุ่นฮากิบิส ได้ทวีความรุนแรงเร็วมากจากพายุโซนร้อนมาเป็นไต้ฝุ่นรุนแรงในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เสมือนเป็น ‘พายุระเบิด’


    ขอบคุณที่มา...
    นสพ.ไทยรัฐ ออนไลน์

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2019
  20. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,806
    ค่าพลัง:
    +4,672
    พายุไต้ฝุ่น"ฮากิบิส"ขึ้นฝั่งญี่ปุ่นแล้ว
    หมวดข่าว:ต่างประเทศ

    วันที่ 12 ต.ค. 62 เวลา 19:01:04 น.

    จำนวนผู้ชม : 38,600

    news99744_855.jpg
    relate254868.jpg relate254869.jpg relate254870.jpg 2+ relate254871.jpg
    นี่คือสภาพของน้ำในแม่น้ำที่ไหลอย่างเชี่ยวกราก หลังกรุงโตเกียวต้องเผชิญฝนตกอย่างหนัก จนระดับน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่พายุไต้ฝุ่นฮากิบิส (Hagibis) กำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้ามายังญี่ปุ่น ด้วยความเร็วลม 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถึงแม้จะยังไม่ขึ้นฝั่งโดยตรง แต่ก็ทำให้น้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้ภูเขาและแม่น้ำต่างๆ ทางตะวันออกของเกาะฮอนชู ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พายุไต้ฝุ่นฮากิบิสจะขึ้นฝั่งโดยตรง
    relate254869.jpg

    -มีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นฮากิบิส ขึ้นฝั่งญี่ปุ่นไปแล้วเมื่อประมาณ 18 นาฬิกา ตามเวลาท้องถิ่น บริเวณคาบสมุทรอิซุ (Izu) ในจังหวัดชิสุโอกะ (Shizuoka) ทางตะวันออกของเกาะฮอนชู ก่อนจะเคลื่อนตัวมายังกรุงโตเกียวในเวลา 21 นาฬิกาที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 คน เป็นชายวัย 49 ปี และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 5 คน นอกจากนี้ก็ยังมีชาวญี่ปุ่นอีกอย่างน้อย 3 ล้านคนในกรุงโตเกียวได้รับคำแนะนำให้อพยพเพื่อความปลอดภัย ท่ามกลางบ้านเรือนกว่า 2 แสน 9 หมื่นหลังคาเรือนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ โดยเป็นที่คาดการณ์ว่า จะทำให้มีปริมาณฝนสะสมไม่ต่ำกว่า 500 มิลลิเมตร จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่นฮากิบิสที่พัดถล่ม ขณะที่รถไฟและเที่ยวบินต่างๆ ระงับการให้บริการชั่วคราวเกือบทั้งหมด

    relate254870.jpg

    -ด้านสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงโตเกียว ประกาศเตือนคนไทยในพื้นที่จังหวัดกุมมะ, ไซตามะ, คานางาวะ, ยามานาชิ, นากาโนะ, ชิสึโอกะ รวมถึงกรุงโตเกียว โดยเฉพาะที่อยู่ใกล้แม่น้ำและภูเขาให้อพยพโดยด่วน จากประกาศเตือนฝนตกหนักระดับรุนแรงที่สุดจากกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ส่วนคยไทยในพื้นที่อื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบ ขอให้หลีกเลี่ยงการออกนอกเคหสถานและติดตามสถานการณ์ผ่านช่องทางต่างๆ อย่างใกล้ชิด รวมถึงเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นที่มีบริการภาษาไทยแล้วเช่นกัน

    relate254873.jpg


    ขอขอบคุณที่มา...
    ข่าวช่อง3
     

แชร์หน้านี้

Loading...