"ความฝัน เทพสังหรณ์" สัญญานเตือนจากเบื้องบน

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 9 พฤษภาคม 2007.

  1. ปทุมารียา

    ปทุมารียา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2005
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +363
    จากรูปแปกดีนะคะ ตอนแรกจ้องมองก็คล้ายจะตามเข็ม แต่พอดูไปสักระยะ ก็เริ่มเห็นทวนเข็ม แล้วก็หมุนสลับไปมาแบบเร็วบ้างช้าบ้าง แล้วก็คล้ายยืนเกว่างขาซ้ายสลับขวา แล้วต่อมาก็จะ ควบคุมด้วยจิตเราได้ เราสั่งให้มันเป็นตามที่เราคิดได้

    คล้ายว่า รูปมันจะเชื่อมโยงกับความคิดนะคะ ไม่ทราบว่า เป็นกลวิธีในการฝึกพลังจิตหรือเปล่าคะ เพราะเป็นการเพ่ง เพ่งแบบจิตสบายๆ
    ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา สักพักก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลง

    สิ่งที่ได้ประโยชน์จากการเพ่งดูรูปดังกล่าว สำหรับข้าพเจ้ามองเห็นว่า

    "การที่เราจะได้อะไรสักอย่างมาจะต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจ คือ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น"

    "จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมยังประโยชน์ให้เกิดมหาศาล ... จึงคิดว่า เรามาฝึกจิต โดยนั่งสมาธิกันดีกว่า "

    "อนิจจัง คือ ความไม่เที่ยง เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เป็นธรรมดา"

    และสุดท้าย อนัตตา คือ การไม่สามารถบังคับควบคุมได้ ความไม่มีตัวตน เป็นธรรมดา

    แม้ว่า การที่เราเพ่งไปจนมีความชำนาญ แต่เมื่อไรประมาท เหล่านั้น เราก็จะไม่สามารถควบคุมได้ ....

    ท้ายที่สุด ก็เห็นว่า ทุกอย่างไม่พ้นกฏไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา..
    เพ่งไป เพ่งมา ดูไป ดุมา เห็นความเปลี่ยนแปล ควบคุมได้บ้าง ไม่ได้บ้าง วางเฉยได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ทุกข์ค่ะ

    หากไม่อยากทุกข์ และ พ้นจากทุกข์โดยสิ้นเชิง ก็ปฏิบัติ "อริยมรรค มีองค์ 8" กันนะคะ
    ไม่มีอะไรเกินความเพียร เริ่มต้นจาก ศรัทธา จิตที่ตั้งมั่นดีแล้วย่อมยังประโยชน์ให้สำเร็จ


    ~~ เป็นแค่ความคิดเห็นนะคะ เขียนถูกบ้างผิดบ้าง โปรดใช้ปัญญาพิจารณา แต่ยังไง ก็มีจิตที่อยากให้ทุกคนมีความสุข และปัญญาค่ะ ~~
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 มีนาคม 2008
  2. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    ทราบเทคนิคแล้วครับ
     
  3. เทพ

    เทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    275
    ค่าพลัง:
    +3,099
    [​IMG]

    ไม่แน่ใจนะครับว่าใช้สมองส่วนไหน รู้แต่ว่าใช้ภาพ 35 ภาพ ประกอบไปด้วยภาพที่มีการหมุนทั้งซ้้าย และ ภาพที่มีการหมุนทั้งขวา ไม่ใช่ภาพที่หมุนไปทางเดียวกันทั้งหมด

    ทุกคนที่มองจนภาพหมดชุด ควรจะเห็นภาพที่หมุนทั้งซ้ายและขวา น่าจะเป็นเช่นนั้นครับ (ไม่แน่ใจว่าถุกหรือผิด)

    ประเด็นคำตอบ น่าจะไม่ใช่คำว่า หมุนซ้าย หรือ หมุนขวา

    แต่อยู่ที่่แนวคิดของแต่ละท่าน ในการพิจารณา ที่จะเป็นการบ่งบอกว่า เ็ป็นแนวคิดไปในทางใด ซึ่งเชื่อมโยงมาจากสมองซีกใด

    จึงจะเป็นจุดสรุปสุดท้าย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      17.3 KB
      เปิดดู:
      1,078
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2008
  4. เด็กชายพชร

    เด็กชายพชร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +98
    ถ้ามองภาพตามปกติ จะเห็นตามเข็มนาฬิกาคะ
    แต่ถ้าลองเอาตาไปดูตรงข้างจอคอมด้านขวามือแล้วลองเหล่ตามองนิด ๆ นะ
    จะเห็นว่าทวนเข็มนาฬิกาคะ

    ถามว่าจะเกี่ยวข้องกับสมองซีกไหนเหรอคะ
    ตอบ การทำงานของสมองของเรานั้น ใช้ทั้งสองซีกคะ แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้งานซีกไหนมาก-น้อยต่าง กัน ตามสถานการณ์ เหมือนกันดูรูปภาพนี่

    ลองทำดูนะคะ ไม่เสียเวลาหรอกคะ
     
  5. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    [​IMG]

    เฉลยครับ จากพี่นักเขียน โนวา อนาลัย
    หากผู้ใดเห็นภาพ animation ผู้หญิงคนนี้หมุนตัวตามเข็มนาฬิกา - แสดงว่ากำลังใช้สมองซึกขวา

    หากผู้ใดเห็นภาพผู้หญิงคนนี้หมุนตัวทวนเข็มนาฬิกา - แสดงว่ากำลังใช้สมองซึกซ้าย

    บางคนจะแลเห็น ผู้หญิงคนนี้หมุนตัวทั้งสองทาง คือตามเข็มนาฬิกาบ้าง ทวนเข็มนาฬิกาบ้าง สลับกันไป - แสดงว่าเราใช้สมองทั้งสองซึกสลับกันไป

    การทดสอบแสดงให้เห็นความแตกต่างของสมองทั้งสองซึก ซึ่งรับผิดชอบการใช้ความคิดในทิศทางที่แตกต่างกัน

    Left Brain --------- Right Brain

    Logical ------------ Random
    Sequential ---------Intuitive
    Rational ----------- Holistic
    Analytical --------- Synthesizing
    Objective --------- Subjective
    Looks at parts ---- Looks at wholes


    คนส่วนมากมีสไตล์การคิด อย่างใดอย่่างหนึ่ง คือ หากไม่ชินกับการคิดด้วยสมองซึกซ้าย ก็มักชินกับการคิดด้วยสมองซึกขวา ระบบการศึกษามักนิยมให้เด็กๆพัฒนาด้วยการใช้สมองซึกซ้ายคิดเป็นเหตุ-เป็นผล คำนวณ เป็นลำดับ ซึ่งทำให้สมองซึกขวาถูกใช้งานน้อยลงไปเรื่อยๆจนแทบจะไม่ได้ใช้เลย

    ผู้ที่พัฒนาสมองซึกซ้าย มักเป็นผู้ที่ใช้ความคิดเป็นเหตุ-เป็นผล ตามลำดับ จดจ่อกับความแม่นยำ การวิเคระห์
    ส่วนผู้ที่พัฒนาสมองซึกขวา มักเป็นผู้ที่ใช้ความรู้สึก จดจ่อกับความสุนทรีย์ และการสร้างสรรค์ หรือการสังเคราะห์

    พี่นักเขียนเริ่มต้นด้วยการจ้องดู animation แล้วพบว่าเห็นผู้หญิงคนนี้หมุนตามเข็มนาฬิกา แต่เมื่อจ้องต่อไปอีกหลายนาที โดยจดจ่อเพียงจุดเดียวคือที่เท้าข้างเดียว ปรากฏว่ามองเห็นผู้หญิงคนนี้หมุนกลับทางเป็นหมุนทวนเข็มนาฬิกา

    เมื่อจ้องต่อไปจนคุ้นเคยกับการจดจ่อ ทีนี้พี่นักเขียนลองจ้องแล้วกะพริบตา จะสามารถแลเห็น animation หมุนกลับทิศได้ตามต้องการทุกครั้ง

    ทดลองดูนะคะ ได้ผลอย่างไรเล่าให้ฟังกันบ้าง

    พี่นักเขียนเห็นว่าการทดลองนี้มีประโยชน์มาก เพราะช่วยทำให้เราสามารถบังคับการเปลี่ยนทิศการใช้สมองทั้งสองซึกได้อย่างรวดเร็ว และจะทำให้เราสามารถเปลี่ยนคลื่นการใช้ประสาทสัมผัสได้อย่างง่ายดาย

    การใช้สมองซึกซ้าย- เป็นภาวะที่เราใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าได้โดยตรง
    การใช้สมองซึกขวา -เป็นภาวะที่เราใช้ประสาทสัมผัสภายในได้โดยตรง

    หากเราสามารถเปลี่ยนทิศการใช้สมองซึกขวาไปซ้าย ซ้ายไปขวาได้คล่องตัวเมื่อใด
    เราจะสามารถเปลี่ยนทิศการใช้ประสาทสัมผัสภายนอก ไปสู่ ประสาทสัมผัสภายในได้เช่นเดียวกัน


    [​IMG]





     
  6. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    [​IMG]

    If you see this lady turning in clockwise you are using your right brain.
    If you see it the other way, you are using left brain.
    Some people do see both ways, but most people see it only one way.
    If you try to see it the other way and if you do see, your almost a genius.
    THIS IS NOT A JOKE. BOTH DIRECTIONS CAN BE SEEN.

    สำหรับผู้ที่สามารถมองเห็นหมุนกลับทิศไปมาได้ เป็นความสามารถพิเศษ
    หรือพวกอัจฉริยะครับคือเปลื่ยนความเชื่อหรือทักษะความคิดได้รวดเร็วมาก
    มองด้วยหางตา หรือเหลือบมองบางจุด..ก็จะเปลื่ยนทิศได้ลองดูนะครับ
    เท่าที่จับได้นะครับ ภาพลวงตานี้เกิดจากการมองเห็นของเราแต่ละคนว่า
    เราคิดว่าเรา เห็นอะไร และทำให้เราจินตนการ หรือ คิดว่าเราเห็น
    ใครจับประเด็นอื่นๆได้มากกว่านี้ช่วยเฉลยด้วย ถ้าเกิดตาลายไม่รับผิดชอบนะคับ อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2008
  7. คีตเสวี

    คีตเสวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +750
    ออกตัวก่อนว่าไม่ใช่คนเก่งนะครับ แต่ผมสามารถเห็นภาพนี้สลับไปมาระหว่างหมุนทวนเข็มและตามเข็มได้ตามต้องการ ความเร็วในการสลับได้ครึ่งรอบแล้วสลับ ครึ่งรองแล้วสลับ ทำให้สลับเร็วกว่านี้ยังไม่ได้
    คือถ้าผู้หญิงคนนี้ยกขาซ้าย เธอจะหมุนทวนเข็มครับ แต่ถ้เธอยกขาขวาแล้วก็เธอจะหมุนตามเข็ม แต่ยังไม่ได้มองดูตอนที่เธอยกขาทั้งสองข้างว่าเธอจะหยุดหมุนหรือหกล้มหรือเปล่า อิ อิ อ้ะ อ้ะ มีคนคิดลึก ไมดีนะครับ อะ อะ
     
  8. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    เรียนคุณมีด

    จริงๆภาพมีหลายเฟรมต่อวินาที่ เช่น มี 6 เฟรมต่อวินาที คือ เฟรมละ 1/6 วินาที ตาเราจับภาพครั้งแรกไปที่เฟรมที่ 1(ที่ 1/6 วินาทีแรก) หรือ เฟรมที่ 3(ที่ 3/6 วินาที) หรือเฟรมที่ 5 (ที่ 5/6 วินาที) เราจะเห็นภาพเคลื่อนไหวแบบหมุนตามเข็มนาฬิกา

    ทีนี้เราลองปรับการมองใหม่ให้เหมือนกับว่าเรามองภาพแรกไปที่เฟรมที่ 2 (2/6 วินาที) หรือ เฟรมที่ 4 (ที่ 4/6 วินาที) หรือเฟรมที่ 6 (ที่ 6/6 วินาที) หรืเฟรมที่เป็นเลขคู่เราก็จะเห็นภาพเคลื่อนไหวเป็นแบบหมุนทวนเข็มนาฬิกา ไม่ใช่เป็นเรื่อสมองซีกซ้ายหรือซีกขวาแต่อย่างใด

    เทคนิคคือละสายตาจากภาพไปมองที่ขอบภาพแล้วกลับมามองที่ภาพใหม่อย่างรวดเร็วภายในเสี้ยววินาทีก็จะได้เห็นการหมุกลับทางได้ไม่ยากเย็นครับ
     
  9. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    เท่าที่ได้ศึกษามานะครับ สมองซีกขวาจะมีพัฒนาการสูงมากในวัยเด็ก จินตนการ ความคิดสร้างสรรค์นอกกรอบล้นเหลือครับ..แต่พอเราเริ่มโตขึ้นมาเริ่มมีตรรกะ มีเหตุ-ผล ตัวตน เข้ามาเกี่ยวข้อง สมองซีกซ้ายจะชำนาญกว่าและเข้ามาทำงานแทน ทำให้การพัฒนาการของสมองซีกขวาแทบหยุดไปตรงนั้น...เช่น ถ้าเกิดความกลัวขึ้นมา คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ความกล้าคิด-กล้าทำก็จะหดหายไป ทำแต่ในสิ่งที่เป็นไปได้เพราะง่ายกว่า เพราะสมองทั้งสองซีกมีความชำนาญไปคนละด้าน เค้าออกแบบมาให้ก้าวหน้าและเชื่อมโยงกันครับ มนุษย์ต่างดาวบางกลุ่มมีสมองก้อนเดียวไม่เหมือนเราด้วยกลไกการทำงานก็ต่างกันออกไปอีกครับ

    กลไกสมองทำงานร่วมกับจิตวิญญาณเสมอ เรื่องนี้หลายท่านคงจะรู้แล้วว่า..
    สมองซีกซ้าย จะวิเคราะห์ตรรกะ เหตุผล ภาษา การคำนวญ หรือสิ่งที่จับต้องได้
    สมองซีกขวา เป็นเรื่องของนามธรรม จินตนาการ สังเคราห์จิตใจ-ความรู้สึก ไม่มองหาตัวตน..

    เชื่อว่าหากว่าเรา ฝึกฝนการใช้สมองซีกขวานำซ้าย ได้จะเกิดผลดีอย่างมาก..เช่น..คือจะไม่มองหาว่าใครเป็นคนทำ? แต่จะมองไปที่คุณสมบัติหรือเหตุการณ์นั้นๆก่อน สังเคราะห์เอาเนื้อหาแก่นแท้มาพิจารณาก่อน หรือคิดค้นบางสิ่งบางอย่างที่มนุษย์มักไม่เข้าใจ พวกมิติที่ซับซ้อนหรือผลึกความรู้ อะไรทำนองนี้ครับ

    จิตวิญญาณที่ไม่มีกายสังขารไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ในมิติโลก จำเป็นต้องกลับมาเกิดในมิติของมนุษย์หรือบนโลกเพื่อการหลุดพ้นอย่างแท้จริง เราสามารถกดปุ่มเปิดสะพานให้เชื่อมกันเพื่อการใช้สมองซีกขวากันได้ทุกคนครับ เมื่อสมองซีกขวานำซ้ายได้แล้ว ในที่สุดก็มาใช้ สมองส่วนกลางทั้งระบบ ทำงานแบบ 100% ที่เรีกกว่าเป็นคนเหนือคนหรือคนเหนือโลกกันให้ได้ต่อไปครับ... เรื่องนี้ยาวไปหน่อย...แต่ก็เกี่ยวข้องกับเราหมดน่ะครับ ที่นี้ก็ไปเรียนรู้ฝึกฝันกันต่อตามชื่อกระทู้นะครับ ขอบคุณทุกท่านที่แสดงความเห็นครับ:-

    :boo:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2008
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สงสัยสมองซีกซ้ายของผม คงไม่ค่อยได้ใช้งาน คือจะมองอย่างไรมันก็หมุนตามเข็มนาฬิกาตลอดเวลา แสดงว่ากำลังใช้สมองซีกขวาทำงาน เอ...มีใครเป็นอย่างผมบ้างหรือเปล่า.....เพราะตั้งแต่อ่านมามีแต่คนเก่งๆ ที่ใช้สมองได้ทั้งสองซีกทำงาน
     
  11. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ดีแล้วครับ ครั้งแรกๆก็เป็นแบบพี่เกษมครับ..หมุนตามเข็มตลอด (ซีกขวาทำงานตลอด)
    พอลองมองด้วยหางตา..จะกลับได้จริงๆครับ
    พอรู้ตรงนั้นแล้ว ต่อไปสักพักจะเห็นกลับทิศไปมาได้ครับ
     
  12. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลข้างบนค่ะ เมื่อคืนฝันไปหลายแห่งพร้อมกัน พอรู้ว่า ฉากไหนคือภาวะจิตตนเอง ฉากไหนที่ได้รับข้อมูล เมื่อคืนฝันถึงทั้งอ. สุธาทิพย์ และ ลูกสาว เขาบอกว่า 9 แล้วมีเลขรหัสอื่นอีก เขาบอกให้จองที่เอาไว้ จอง 10 ที่ ได้ 1 สักพักมีชื่อภาษาอังกฤษขึ้น DUSSANEE K ตัวเบ้อเร่อลอยมา เห็นหน้าคนอีกแล้ว เราลืมตาตื่นทันที พอหลับตา เห็นไฟ แว้บ ๆ ลืมตาอีก พอปิดเปลือกตาเหมือนเดิม เออหนอ คงมีคนส่งข้อมูลมาให้เราฝึกฝัน ตอนนี้จินตวดีกำลังฝึกขยายสติสัมปชัญญะ ในจินตภาพ ความฝัน กำลังศึกษาระดับของสติสัมปชัญญะ ตามแนวทางของ โนวาอนาลัย คิดว่าข้อมูลที่ได้อาจไม่สำคัญอะไร เพียงแต่อาจารย์ท่านคงมาเพิ่มความมั่นใจให้เท่านั้น ขออนุโมทนาในสายทางธรรมของท่านทั้งหลายค่ะ
     
  13. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ^-^ เมื่อคืนก็ฝันแบบเดิมอีก แต่เป็นหน้าคนอื่น แต่จำได้ไม่ชัด มายิ้มให้ ความรู้สึกยังบอกเป็นกลุ่มอาจารย์สุธาทิพย์นั่นแหละ มีงานที่ต้องไป ไปไหนไม่รู้ จำได้แต่ตัวเลข กลุ่มอาจารย์สุธาทิพย์ คือ 9 มีคนมาบอกว่าให้จองที่ จองไว้ 10 ที่ จะได้ 1 มีตัวหนังสือ DUSSANEE K ขึ้นมา จินตวดีเล่าให้ฟังแต่คิดว่าคงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับภัยพิบัติหรอกค่ะ ตอนนี้กำลังศึกษาวิธีขยายสติสัมปชัญญะในฝัน การเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของระดับสติสัมปชัญญะ ตามแนวทางของ โนวาอนาลัย คิดว่าอาจารย์คงเพิ่มความเชื่อมั่นให้เราเกี่ยวกับประสบการณ์ทาง่จิตวิญญาณ หรือไม่ก็มีอะไรสักอย่างส่งคลื่นโทร่จิตแน่ ๆ หุ หุ เพราะ หลังจากเห็นชื่อ ลืมตาทันที พอหลับตาลง เป็นแสงสว่างแว้บ ๆ ลืมตาขึ้นมาอีก พอหลับลง เห็นแสงเหมือนเดิม ลักษณะเหมือนคลื่นพลังงาน
     
  14. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    สงสัยคุณ Jintawadee กับผมนี่จะเป็น "จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์กัน" หรือไงไม่รู้นะ
    เพราะสิ่งที่ผมเล่าเอาไว้ส่วนใหญ่คุณก็จะฝันอะไรเกี่ยวข้องคล้ายๆกัน และสิ่งที่คุณเล่ามานี้ ผมรู้สึกสนุกขึ้นทุกวันๆ

    ก็เพราะว่าผมก็ฝันเกี่ยวข้องกับอะไรที่คุณว่ามานั้นเหมือนๆกัน ชักบ่อยๆครั้งแล้วด้วยสิ

    แต่ของผมไม่ค่อยชัดเจน แบบว่าไม่ใช่ฝันไม่ชัดนะ แต่มันแบบว่า ไม่รู้จะเอาประเด็นไหนมาเล่า
    เพราะมันแปลกๆ ตัวเองก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เห็น และสิ่งที่ได้ยินในความฝันนั้นเลย ผมก็เลยจะลองตั้งสมมุติฐานเอาเองว่า
    ฝันแรกๆที่เป็นรหัสใหม่ หรือเรื่องใหม่ ประเด็นใหม่ๆที่ใครก็ตามที่เป็นผู้ส่งข้อมูลมานี้ต้องการทดสอบผม
    ผมจะไม่ค่อยเข้าใจ เพียงแต่จะสักแต่ฝันเห็นไปรอบหนึ่งก่อน แล้วฝันรอบต่อๆไปก็จะค่อยๆคลี่คลายออกมา
    ทำให้พอจะประติดประต่ออะไรต่อมิอะไรได้บ้าง อะไรแบบนั้น ย้ำว่า..อันนี้แค่สมมุติฐานของผมนะครับ

    คือว่า..ผมเองก็ฝันเรื่องเลข 9 เลข 10 นี่เหมือนกัน เมื่อ 2 คืนก่อน คือ..คืนหนึ่งๆฝันหลายเรื่องหนะครับ
    และก็บังเอิญว่าฝันแต่ละเรื่อง ก็ค่อนข้างจะจำได้ซะด้วย ก็เลยมีเรื่องเล่าในกระทู้นี้ไม่เว้นแต่ละวัน ทีเดียว เชียว..

    ผมฝันไปว่า "มีเสียงบรรยาย" (เสียงบรรยายอีกแล้ว..เป็นแบบนี้จริงๆนะ ไม่ได้โกหก) พร้อมกับมีภาพประกอบฉายให้ดู ทำนองว่า..
    บุคคลที่มีความเป็นมา หรืออาจจะพูดภาษาของผมก็คือมีเผ่าพันธุ์เกี่ยวข้องกันอยู่ ก็จะมีสัมผัสอะไรต่อกันได้
    คือพอเห็นหน้ากันแล้วก็จะอยากพูดคุย รู้จักกัน เหมือนมีความผูกพันธ์อะไรกันอยู่ ทำนองนั้น
    "แต่บางที ก็ได้แค่จ้องตากัน จนไม่อยากละสายตาจากกันด้วยซ้ำไป" คำพูดที่บรรยายในฝันผม เป็นทำนองนี้จริงๆนะครับ
    สักพักผมก็รู้สึกว่า มันมีชนวน หรือเชื้ออะไรบางอย่าง ที่จะทำให้บุคคลเหล่านี้ "พบ" หรือเรียกว่าอะไรดีหละ "ตื่น" หรือเปล่า??จึงจะเหมาะ
    ผมก็เลยเริ่มออกเดินเพื่อไปหา "เชื้อ" อันนั้น ในฝันก็กะว่าสนุกหละงานนี้ จะไปเอาเชื้ออันนี้จากดอกไม้ชนิดหนึ่ง
    มา"โปรย" หรือมาแพร่ใส่พวกนี้ซะเลย พวกนี้จะได้ถูกปลุกขึ้นมาจากอะไรบางอย่าง ซึ่งผลที่ผมคาดไว้ในฝัน
    จะประมาณว่า "จะมีการล่า" หรือมีการ "Active" ทำอะไรซักอย่างหนึ่งอย่างโกลาหลทีเดียว แต่ยังไม่ได้ไปเอามาหรอก
    และในภาพตอนนี้จะเห็นงูตัวใหญ่ๆเยอะแยะไปหมดเลย เริ่มออกมาจากที่ลับบ้างที่แจ้งบ้าง
    ในฝันผมรู้สึกกลัวงูเหล่านี้ และรู้สึกว่าพวกผมจะต้องต่อสู้หรือ"ล่า"งูเหล่านี้อะไรทำนองนั้น

    ฉากต่อมาก็ปรากฎผมและคนอื่นๆ ที่เป็นพวกที่มีเชื้อสาย หรืออะไรที่เกี่ยวข้องกันอยู่ยืนล้อมวงกันในที่ๆหนึ่ง
    เสียงบรรยายก็บอกว่า "ให้ยืนล้อมวงกันเป็นเลข 9 ไม่ใช่เลข 10 นะ" ตรงนี้ก็แปลกนะ
    ในฝันเสียงบอกว่าเลข 9 แต่พวกผมยืนกันเป็นวงกลมอยู่นั่นแหละความหมายของเขา และไอ้คำว่าเลข 10 ของเขา
    ก็คือการที่มีใครสักคนหรือหลายคนยืนแล้วหัวโผล่สูงกว่าเพื่อน ไม่เสมอกัน อันนี้ใช้ไม่ได้ ว่างั้นนะ
    และที่แปลกที่ว่าไม่เข้าใจ และไม่รู้ว่าจะเล่ายังไงนี่ก็คือ ตอนที่พวกผมยืนกันอยู่เป็นวงกลมนี่
    พวกผมกลายเป็นอะไรที่ไม่ใช่มนุษย์แล้วนะ เป็นตัวอะไรที่คล้ายๆ"ลิ้น"ของคนเรานี่แหละ ยาวๆ หยุ่นๆ ไม่มีแขน-ขา ตั้งในแนวดิ่งกับพื้น สูงท่วมหัวเลยทีเดียว หันหัวคือปลายลิ้นขึ้นบน

    ก็เลยงงงง...หรือว่าเราเพี้ยนๆไปในฝันซะแล้ว หรือว่าเราเป็นสัตว์ประหลาดมาเกิดหรือไงก็ไม่รู้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2008
  15. คีตเสวี

    คีตเสวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +750
    ผมลองเข้ามามองดูใหม่ปรากฏว่าสามารถเปลี่ยนทิศทางการหมุนได้ภายใน 90 องศาหรือหนึ่งในสี่รอบเท่านั้นครับ
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    [​IMG]

    อืม....น่าแปลกจริงๆ ลองเปลี่ยนจุดโฟกัสจากรูปภาพ ไปไว้ที่อื่นแต่ยังให้ภาพอยู่ในข้างๆ ของดวงตา ผู้หญิงในรูปกลับหมุนทวนเข็มนาฬิกาได้จริงๆ เมื่อกลับมามองจ้องตรงๆ กลับเห็นหมุนตามเข็มนาฬิกาเหมือนเดิมครับ

    ตอนนี้รู้วิธีแล้วบังคับให้หมุนได้ทั้งสองด้าน จากการมองตรงๆ แล้วครับ การทำงานของของสมองทั้งสองซีกของคนเรา ช่างน่าแปลกจริง ตอนแรกยังคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้เลย แต่เมื่อรู้วิธีแล้วก็ทำได้จริงๆ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2008
  17. ยาล้างตา

    ยาล้างตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2007
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +3,539
    ลองกระพริบตาถี่ แล้วเปลี่ยนมุมมอง ตรงกลาง ผมเห็นการเปลี่ยนการหมุนได้ทั้ง2ทางครับ
     
  18. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เช้าวันที่ 28 มีนาคม 2551 ; เวลา 04:10 น.เป็นเวลาที่เริ่มโพสต์ข้อความนี้

    เช้านี้ผมตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนนิดๆ และก็งงไม่น้อย(อีกแล้ว) เลยทีเดียว กับความฝันเมื่อสักครู่นี้
    ทั้งไม่ค่อยเข้าใจความหมาย และก็ไม่แน่ใจว่าจะจำเนื้อหาได้หมดหรือเปล่า มือนี่ก็พิมพ์ไปงั้นๆแหละครับ
    ก็คิดว่าถ้า "เขา" ต้องการให้เผยแพร่เดี๋ยวเขาก็จะช่วยผมทบทวนความจำมาเองนั่นแหละครับ (พี่สุดใจเคยบอกอะไรประมาณนี้หนะครับ)

    ที่บอกว่า "ถ้าเขาต้องการให้เผยแพร่" ก็เพราะว่า หลังจากฝันแล้ว รู้สึกตัวแล้ว ผมก็นอนคิดว่าเอ..เมื่อตะกี๊เราฝันเรื่องอะไร
    จะเล่าให้คนอื่นฟังต่อดีไหม๊ เท่านั้นแหละครับ ขณะครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่นั้น ก็มีทั้งภาพและเสียงปรากฎขึ้น
    พระเจ้าจอร์จ มันคือฝันเรื่องตะกี๊นี่เอง แต่เริ่มฉายใหม่ตั้งแต่ต้นเลย ฉากแรกเลย แต่ฉายแป๊บเดียว และจบลงตรงเสียงบรรยายที่ว่า
    "อ้าว..ฟังคนแก่ แล้วจดนะจ๊ะ" แล้วผมก็ตื่นทันที แล้วก็มานั่งพิมพ์เรื่องความฝันนี่แหละครับ

    ฉากแรกที่ว่าก็คือ มีผู้สูงอายุกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่ง เชิญผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นผู้ปกครองของนักเรียนที่ไหนไม่รู้มามากมาย
    เพื่อมาประชุม หรือมาดูการแสดง หรือการสาธิตอะไรซักอย่างนี่แหละครับ ที่สำคัญ "เชิญมากลางดึกนี่สิ"
    เสียงคนที่มาก็บ่นๆพึมพำๆกันว่า "หลอกให้มากลางดึกแน่ๆเลย" สักพักผู้ที่เป็นเจ้าภาพเชิญมาก็พูดกับฝูงชนว่า
    "อ้าว..ฟัง ฟังคนแก่แล้วจดด้วยนะจ๊ะ" เบื้องหน้าของคนทั้งหมดนั้น เป็นคล้ายเวทีมีของวางอยู่เหมือนมีอะไรจะสาธิต
    หรือเหมือนมีอะไรจะบรรยาย มีตุ่มใส่น้ำที่มีฝาปิด ตั้งซ้อนกันอยู่ เป็นชั้นๆบนชั้นวาง ซึ่งตั้งชิดติดกับหน้าผา

    ขอแทรกฉากนี้ก่อนนะครับ ในฝันฉากนี้ มันต่อเนื่องมาจากฉากก่อนหน้านี้ ที่ผมฝันไปว่าญาติผมคนหนึ่ง เขาคิดค้น "ปะทัด" หรือ"ลูกไฟ" ที่มีอานุภาพมากๆ มากกว่าที่ใครๆเคยคิดได้ มาโชว์ผม
    ผมก็ถามว่าเขาทำได้อย่างไร เขาก็พาผมออกมากระซิบด้านนอก ทำนองว่า "ฟังให้ดีนะ สิ่งที่จะได้ฟังต่อไปนี้ จะไม่เคยได้ยินมาก่อน" แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก มีแต่ความรู้สึกของผมที่ปรากฎขึ้นว่า
    เขาได้พบสิ่งที่น่ากลัวเข้าแล้ว (พิมพ์ไปก็ขนลุกไปนะเนี่ย) เพราะเขาได้ใช้ร่างกาย หรืออวัยวะของมนุษย์ในการคิดค้นมันขึ้นมา
    และเมื่อจะใช้งาน เขาก็จะมีระดับความร้อนหรือระดับพลังงานที่เหมาะสมใส่ให้มันไป ซึ่งพลังงานหรือความร้อนที่ว่านี้
    สูงกว่าระดับที่"คนทำปะทัดรายอื่นๆ"หรือ"เราเอง"เคยใช้หรือรู้จักกันอยู่ เขาพาผมดั้นด้นไปดูที่ๆเขาค้นพบมัน
    มันเหมือนพาผมวิ่งหลบๆซ่อนๆเข้าไปลึกในป่าช้า มีคนสะกดรอยตามมาอีกต่างหาก เขาพาผมหลบ คนพวกนั้นก็ยังเจออีกจนได้
    มีคนๆหนึ่งที่ตามมา เขาตัดสินใจพาเด็กเขากลับแถมบ่นว่า "ถ้าแค่จะหนีมาเล่นการพนัน ทำไมต้องมาถึงขนาดนี้ด้วย"
    แต่ความรู้สึกผมบอกว่าไม่ใช่หนีมาเล่นการพนันหรอก เพราะสถานที่ๆไปนี่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความตาย ความรู้สึกในฝันผมมันเหมือนมีคน 2 ฝ่ายนะ ฝ่ายหนึ่งจะพาผมไปดู อีกฝ่ายตามขวาง
    และมันก็มีเนื้อหาอะไรเกี่ยวกับเทพ เทวดา สวรรค์ทุกๆชั้น แทรกอยู่ช่วงนี้แหละ ไม่ปะติดปะต่อเป็นเรื่องเดียวกัน เลยอธิบายไม่ถูก
    จนผมวิ่งกันขึ้นมาบนเขา มีหินคล้ายๆกำแพงหินที่เกาะอีสเตอร์ตั้งอยู่ พอดีพระอาทิตย์กำลังขึ้น เขาก็บอกว่า "ให้หลบอยู่หลังพระอาทิตย์"
    ทุกคนก็ทำตาม ตอนนี้มีหลายคนแล้วนะ พวกที่อยู่บนเขาก็จะได้รับการบอกเล่าถึงเรื่องที่เขาจะบอก ส่วนพวกที่แอบตามมา
    ก็จะอยู่ตีนเขาไม่ขึ้นมาด้วย แต่ก็มีถามว่าพวกเราเห็นอะไรกันบ้าง คนข้างบนก็ส่งภาพที่เห็นไปให้ดูแบบ 3 มิติกลางอากาศเลย
    มีคำพูดหนึ่งที่ทำให้ผมต้องเล่ามาถึงตรงนี้ แม้ว่ามันจะเป็นรายละเอียดยิบย่อยมากไปก็ตาม ไม่งั้นมันจะไม่เชื่อมต่อกัน
    คือคนที่เขาค้นพบ เขาพูดกับผมว่า "ฉันค้นพบได้ ก็ต้องขอบคุณสมการ X = พายน์ R กำลังสองของแกนั่นแหละ"
    นอกจากนี้ความรู้สึกของผมยังรู้สึกไปอีกว่า เจ้าพายน์นี่ มันไม่ใช่แค่"พายน์" ที่เรารู้จักหรอกนะ มันคืออะไรที่ชั่วร้ายมากๆ
    มันมีอานุภาพมากกว่าที่เรารู้จักมัน มันมีที่มาและเบื้องหลัง เบื้องลึกมากกว่าที่เรารู้จักมันมากนัก แถม "พายน์ยกกำลัง 3 = ทรงกลม" ด้วยนะ (ในฝันนะ)
    จากนั้นพวกผมก็มายืนอยู่ที่ๆมีตุ่มในฉากที่สองต่อจากนี้ไป


    มาต่อฉากที่สองกันะครับ..ต่อที่มีตุ่มนะ ตุ่มเป็นตุ่มดินขนาดพอประมาณ มีฝาปิดแบบฝาผอบอะไรแบบนั้น
    และก็ผมยืนอยู่บนตุ่ม เขาถามว่า ผมจะทำอย่างไร เพราะมันจะมีสัตว์ชนิดต่างๆวิ่งตามราวมาที่ตุ่ม และมาที่ผม
    ผมจะหลบสัตว์พวกนี้อย่างไร โดยห้ามลงไปหลบในตุ่ม เพราะตุ่มใส่น้ำไว้เต็มแล้ว อันนี้เขาบอกว่างั้นนะ
    พอผมเห็นสัตว์วิ่งมา ผมก็ขึ้นไปเหยียบอยู่บนตุ่ม พอมันวิ่งมาบนตุ่มใบนั้นอีก ผมก็ขึ้นไปเหยียบบนตุ่มใบที่อยู่ชั้นสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
    อ้อ..รู้สึกว่ายิ่งชั้นสูงขึ้นไปเท่าไหร่ จำนวนของตุ่มมันก็จะลดลงเรื่อยๆ คล้ายๆว่าเขาตั้งตุ่มเรียงไว้แบบสามเหลี่ยมหนะครับ
    พอผมหนีไปเรื่อยๆถึงชั้นใกล้ๆจะถึงยอดแล้ว เขาก็หัวเราะกันและพูดว่า "ไอ้เนาว์ มันจะเสร็จที่ชั้นนี้แหละ" เนาว์นี่ชื่อเล่นผมนะครับ
    สุดท้ายก็เป็นดังเขาว่า เขาก็เลยมาเฉลยว่า นู่น ให้หนีขึ้นไปบนยอดเขาที่อยู่เหนือชั้นวางตุมขึ้นไปโน่น จะมาหนีอะไรบนตุ่มทีละชั้นๆ
    ในใจผมก็"เออ..อันนี้ไม่ทันได้นึกเลย" และความรู้สึกก็บอกว่า "ตุ่มเป็นชั้นๆ" คือสวรรค์ชั้นต่างๆนั่นแหละ

    พิมพ์เสร็จ..ก็ยังงงงงอีก ว่าพิมพ์อะไรไปวะเนี่ยตู..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2008
  19. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    สงสัยงานนี้ก็คงอดไปแล้วหละครับ เพราะเมื่อเช้านี้คุยกับเจ้านายเรื่องขอกลับเมืองไทย
    เจ้านายไม่อนุญาตครับ ก็เลยต้องส่งกระแสจิตไปช่วยอย่างเดียวครับ

    ขออนุโมทนากับทุกๆท่านที่จะไปร่วมงานนี้ด้วยนะครับ

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  20. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    หลายวันก่อนฝันว่า ไปงานเลี้ยง งานฉลองที่โรงเรียน ออกเดินทางตอน 5.40 ตอนเย็น ท้องฟ้ามืดแล้ว แต่เห็นดวงอาทิตย์ดวงเล็กมาก ระหว่างเดินทางเห็นคนอื่นๆใส่สูทดำกันหมด ผู้หญืงก้ใส่ชุดราตรีสีดำ แต่ตัวเองลืมใส่ไปด้วย เลยถามเพื่อนว่างานเริ่มกี่ทุ่ม เพื่อนบอกว่า งานเริ่ม 3 ทุ่มเลิก 5ทุ่มครึ่ง แต่ในฝันเห็นเป็นเลข 9 กับ เลข23 หันไปถามเพื่อนว่าจะกลับไปเอาสูทดีไหม เพื่อนว่าไปเองเถอะบ้านไกล อยู่นอกเขตบริการว่ะ หันไปมองข้างๆมีเก๋ ชลดา เมฆราตรีนั่งอยู่ด้วย (ในฝันสวยมาก)

    วกมาที่ดวงอาทิตย์ตอน 5 โมงเย็นเห็นมันตกทางทิศตะวันออกแปลกมากๆ
    เคยฝันว่าดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก ท้องฟ้าสว่างดีแต่พอมองไปด้านทิศเหนือกับทิศตะวันออกท้องฟ้ายังมืดอยู่เห็นดาวเต็มไปหมด

    อีกฝันหนึ่ง ในฝันตื่นมาตอนตี 2 ตี3 เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นสว่างแบบหลัวๆ พอตี 4 ตี5 ดวงอาทิตย์ตกลับฝ้าไปอีกรอบ ฝันแบบนี้หลายครั้งแล้ว ฝันชัดมากตอนแรกคิดว่าตื่นมาจริงๆซะอีก
     

แชร์หน้านี้

Loading...