who?dhammikaracha

ว่าด้วย "ปฎิสัมภิทาญาน"

"มีบุญจึงได้เรียนได้รู้ได้เห็น กึ่งพุทธกาลแล้ว เตรียมกายเตรียมใจเพื่อเจริญเข้าสู่พระสัทธรรมโดยปฎิสัมภิทาญาน รอคอยพระยาธรรมิกราช"

มาแน่นอน! และท่านก็เป็นผู้มีปฎิสัมภิทาญาน ระดับเสขะปฎิสัมภิทาอันยอดยิ่งอีกด้วย เชื่อว่าย่อมจะมีพระอริยะบุคคลปรากฎถึงระดับอเสขะปฎิสัมภิทานั้นด้วย

อะไรที่บิดเบือนผิดพลาดไปทั้งหลายฯจนเป็นเหตุให้มรรคผลเสื่อมสูญจะต้องถูกแก้ไขให้ถูกต้องตามกาล

"ธรรมชั้นลึกอัน เป็นสูตรลึกซึ้ง มีอรรถลึกซึ้งเป็นโลกุตระโลกุตระประกอบด้วยสุญญตาธรรม ต่อให้เป็นพระเปรียญฯหรือพระไตรปิฏกธร ที่โลกขนานนาม ว่าเป็นประดุจเสมือนพระไตรปิฏกเคลื่อนที่ ก็ยังไม่สามารถอธิบายสถานะขององค์พระสัทธรรม พระธรรมราชาได้หรอกนะ ต้องพยายามให้ได้สภาวะขึ้นมาอีก ไม่รู้จริงเห็นจริง ไม่ได้ไม่รู้ในอัตตาธรรมและมานะธรรมไม่ควรประกาศว่าตนรู้หรือบรรลุธรรมแล้ว ตราบใดที่ไม่รู้จัก ปฎิสัมภิทาญานอันเป็นองค์คุณแห่งการกำเนิดพระไตรปิฏก หากไม่มี"ปฎิสัมภิทา" ก็ย่อมไม่มีพระไตรปิฏก " ย่อมไม่มีพิชัยสงครามของศาสนาพุทธ ย่อมไม่สามารถบันลือสีหนาทได้เลย

https://www.facebook.com/พระไตรปิฏก...ยวิเศษบริสุทธิธรรม-295115010851468/?ref=br_rs


ค่อยๆช่วยกันตามเก็บรายละเอียดเท่าที่จะพึงพอมีและหาได้ตามกาล

 

ท่านได้ความรู้อันใด? เกี่ยวกับกระทู้นี้ "ว่าด้วย"ปฎิสัมภิทา"

http://palungjit.org/threads/สำนักวัดนาป่าพงคึกฤทธิ์และสาวกพลาด-สร้าง-พุทธวจน-ปลอม.552222/

 

ท่านได้ความรู้อันใด? เกี่ยวกับกระทู้นี้ "ว่าด้วย"ปฎิสัมภิทา"

http://palungjit.org/threads/ประกาศ...ัมภิทาญานให้เช็คอินแสดงตนที่กระทู้นี้.553107/

 

ข้อมูล น่าสนใจครับ
หากไม่มี"ปฎิสัมภิทา" ก็ย่อมไม่มีพระไตรปิฏก "

ผมสงสัย คุณจ่ากับเจ้าสำนักนาป่าพง เป็นคู่ปรับกันหรือ?

 

ผมทราบมาว่า มีการเล่นกัน มีการอธิฐานกันมาแล้วก่อน มีกรรมรองรับในการเกิด

แล้วลงมาเกิด พอกรรมมันทำงาน ทำให้มาเจอคู่ปรับกัน

อย่างพระพุทธอิสระกับพระธัมชัยโย

 

"ว่าด้วย"ปฎิสัมภิทา"

พระศรีอาริย์ พระจักรพรรดิ พระยาธรรมมิกราช
ไม่ว่าใครก็ตาม ตราบใดที่ไม่มีปาฎิหาริ์ย ๓ ไม่รู้จักทิพยภาษา (พระมหาปกรณ์)ไม่รู้จัก
[พระไตรปิฏกพระธรรมคัมภีร์ธรรมแม่บท] (ดั้งเดิม) หรือ [ทิพยวิเศษบริสุทธิธรรม] และ *คัมภีร์อักขระพยัญชนะมาร* หรือ *อหังการวิเศษมาร* ผู้นั้นก็เป็นใครใน ฐานะ ๓ นี้ไม่ได้


หากไม่มีปฎิสัมภิทาย่อมไม่สามารถเปิดธรรมที่ถูกบิดเบือนและปกป้องรักษาพระไตรปิฎกนับตั้งแต่หลังสังคายนาครั้งที่ ๓ ได้เลย

จะอาศัยเพียงความเป็นพระอเสขะที่พิจารณาตามที่จิตวิมุตติก็เป็นการยากเย็นยิ่ง ที่จะพรรณนาให้หมดสิ้นตามนัยทั้งหลายได้

เราเชื่อว่า ท่านผู้ อเสขะปฎิสัมภิทา ท่านจะต้องทราบวาระจิตตามภูมิเสขะปฎิสัมภิทาอย่างเราผู้น้อยอยู่

ท่านสถิต ณ ที่แห่งหนใด ขอจงเมตตากรุณาต่อเหล่าเวไนยสัตว์นั้นด้วยเทอญฯ

บัดนี้ ความโกลาหลในพุทธศาสนา เกิดขึ้น ณ ดินแดนสุวรรณภูมิแห่งนี้แล้ว เป็นอันมาก
ขอกราบนิมนต์นมัสการท่าน ทรงเสด็จมาโปรดและจรรโลงรักษาพระไตรปิฏกอันบรรจุพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระธรรมราชา แห่งพระพุทธศาสตร์อันประดิษฐานตามกาลเหตุและปัจจัยด้วยเถิด

ท่าน เสขะปฎิสัมภิทา จนถึงท่าน อเสขะปฎิสัมภิทา ผู้มีบุญบารมีเต็มเปี่ยม ขอจงเมตตามากระทำกิจภาระหน้าที่ของท่านด้วยเถิด

สาธุ สาธุ สาธุ

 

เจ้าสำนักนั้น นอกจากเขาจะเป็นผู้ทำลาย "ปฎิสัมภิทา" และยังเป็นผู้ต้องพยากรณ์ ในการทำลาย อภยปริตร ตามห้วงพุทธันดรนี้ เรามีหน้าที่รักษา อภยปริตร นั่นคือสัญญานใหญ่ เพื่อต่อสู้กับสัทธรรมปฎิรูปภัยภายใน ทั้งนี้ก็เพื่อเตรียมรับมือกับ อสัทธรรม อันมีอหังการวิเศษมาร เป็นต้น

เรื่องที่ร้ายแรงที่สุด คือการกำเนิดโมฆะบุรุษ ที่สร้างสัทธรรมปฎิรูป

เหตุการณ์ในอดีตที่ทรงแสดงพระยมกปาฎิหาริย์ในคราอดีตนั้น ไม่ใช่ง่ายๆ และไม่ใช่แค่เรื่องราวอันเล็กๆน้อยๆแค่การท้าทายเอาชนะเพียงฤทธานุภาพเพียงเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับ การแสดงฐานะของ" พระสัทธรรม " พระธรรมราชา อีกด้วย

หาก" ปฎิสัมภิทา " ไม่ปรากฎ ภัยใหญ่จะเกิดขึ้น โดย อสัทธรรม อหังการวิเศษมาร (อริวิเศษ)

สาธุ สาธุ สาธุ

 

เรารู้ว่า ยังมีผู้อื่นที่ยิ่งกว่าเรา เลิศกว่าเรา ใน ปฎิสัมภิทา คือ แสดงตนออกมาอีก

เรารอการปรากฎ รออยู่

เป็นผู้มี ปาฎิหาริย์ ๓ อย่างแน่นอน !

หวังว่า อสัทธรรม หรือ อหังการวิเศษมาร จะไม่ชิงลงมือก่อน

 

ผมได้ข้อมูลมา ไม่รู้จริงใหม?
พระยาธรรม มีหลายคน ใครสมัครเป็นพระยาธรรม ก็เป็นได้ถ้ามีความสามารถ
แต่ไม่มีใครมีปฏิสัมภิทาญาณ

ธรรมมิกราชโพธิญาณ บุคคลท่านนี้ พระสัมมาสัมโพธิญาณพระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้
ทำให้ศาสนาของพระศาสดาครบห้าพันปี
ท่านนี้ไม่ปรากฏตัว ไม่ทราบอยู่ที่ไหน เป็นใคร เหมือนท่านปิดบังตัวเอง

บุคคลมีปฏิสัมภิทา มาเกิดแล้วยังเป็นเด็กอยู่ เป็นพันคน เด็กพวกนี้จะบวช
เป็นหมู่สงม์ แล้วจะบรรลุธรรมแล้วมีสัมภิทาญาณในจิตตนทั้งพันองค์
จะมาชำระพระไตรปิฎกเพราะมีปฏิสัมภิทาญาณกัน
(บุคคลกลุ่มนี้เคยเป็นภิกษุในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าเตรียมไว้
เพื่อปรับปรุงศาสนายุคหลัง)

เขียนแลกเปลี่ยข้อมูลกัน พิจารณากันเอาเอง เป็นเพียงข้อมูล ไม่เปิดเผยที่มา

 

ท่านเหล่านั้นมีบุพกิจ
โดยต้องบุพกรรมตามกรรมวาระ

นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไร?

เมื่อนำสังขารปฎิบัติธรรม ยังกิจทั้งหลายฯก็กลายเป็นธรรม

ไม่เป็นตัวของตนเอง

ตัวตนของตนเองนั้นไม่มีแล้ว

พึ่งได้แค่สังขารและพึ่งพาพระธรรมนำทาง

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ตัวตนของเรานี้เกิดมาจากความหลง จะนำไปสู่แดนบริสุทธิ์ได้ไหม

 

แดนบริสุทธิ์อยู่เหนือสมมติ เหนือกาลเวลา เหนือผู้เข้าถึงครับ

 

ทุกๆคนเกิดมามีกิเลสติดมาด้วยกันทุกคน

 

แต่ศีลสมาธิปัญญาความหลุดพ้นอยู่ที่การเรียนรู้จักกิเลสในขณะของปัจจุบันครับ

 

การรู้จักอุปนิสัยของกิเลสเป็นเช่นไรแล้วจะหนาว เหนเขาจิงๆขณะปัจจุบันคือปัญญาเหนความหลุดพ้นครับ

 

จิต เจตสิก รูป นิพพาน ย่อเป็น จิ เจ รุ นิ
ทุกข์ สหมุทัย มรรค นิโรธ ย่อเป็น ทุ สะ มะ นิ
สุข สหมุทัย มรรค นิโรธ ย่อเป็น สุ สะ มะ นิ

 

อิอิผลของธรรมมีเปล่า

 

ผลของธรรม

ถ้าธรรมที่ท่านพูดมา คือธรรมทั้งหลาย ถ้ามองในสายตาของคนที่ไม่รู้ทันตัวเอง ผลของธรรมก็คือ ธรรมทั้งหลายไม่สามารถทำให้คนที่มีความยึดมั่นถือมั่นเกิดความทุกข์ได้ เพราะธรรม ก็คือธรรมดา ธรรมดาก็คือ สภาวะอาการทั้งหลาย ที่เป็นอยู่อย่างนั้นอยู่แล้วกล่าวคือ สรรพสิ่ง หรือ สภาวะทั้งหลาย ที่มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป โดยมีเหตุปัจจัยมากระทำ

ที่ตอบอย่างนี้ เพราะผู้ไม่รู้ธรรม จะคิดว่าธรรมเป็นเรื่องของพระธรรมคำสอนครับ จึงมองข้ามธรรมดาในชีวิตประจำวัน และธรรมดาของสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ข้างไป ก็เลยไม่คิดว่าธรรมจะมีผลกับตัวเอง

ถ้ามองในสายตาของผู้รู้ธรรมบ้าง ก็คงจะขอตอบว่า ธรรมทั้งหลาย จะไม่มีผลอะไรกับเรา ตราบเท่าที่ เราเข้าใจธรรมมะ และเราไม่เอาใจเราไปยึดไปเหนี่ยวไปรั้งมันครับ ถ้าเอาใจเราไปยึดติดกับอะไรบางอย่างเมื่อไร ก็เตรียมตัวเป็นทุกข์ได้เลย ไม่ช้าก็เร็ว ไม่เร็วมาก ๆ ก็ช้ามาก ๆ *.*

ความรู้หลักธรรมคำสอนแม้เพียงน้อยนิดก็อาจจะทำให้เราพบหนทางสว่างได้นะครับ หากเราหมกมุ่นกับมันมากพอ อย่างผมนี่กว่าจะตกผลึกได้นี่ก็คิดอะไรในสมองอยู่เยอะแยะเลยล่ะครับ นานเป็นปีปีทีีเดียว ยิ่งตรงที่ทำสีแดงไว้นี่ ถ้าจะให้อธิบายแบบขยายความให้เข้าใจได้บ้างนี่ผมว่าผมตองขยายเป็นหน้ากระดาษทีเดียว

 

อ้อ ธรรมมะ คือ ธรรมทั้งหลาย ส่วน พระธรรม คือ คำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่นำพาให้คนเกิดปัญญา สามารถนำพาให้ตัวเองหลุดพ้นจากความทุกข์และ หลุดพ้นจากวัฏสงสารนะได้ครับ อันนี้ผมได้ยินมาจากตาผ้าขาววัดสามแยก ว่า เขาแยกกันแบบนี้

 

ผมได้ข้อมูลมา ไปเปิดเจอ

ลองฟังดูครับ เห็นพูดถึงธรรมราชโพธิญาณ อ อัฉจรา เตโชวิปัสนา