ปิดรับบริจาค มหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ พิธียกตุงแก้วสุริยันจันทราเงิน-ทอง๑๐๘คู่ ณ. พระมหาเจดีย์ชเวดากอง ประเทศพม่า

ผม ธีรชัย เอื้อชลิตนุกูล ได้โอนเงิน จำนวน 500บาท เพื่อถวายทองหุ้มพระมหาเจคีย์
เพื่อเป้นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา เข้าธนาคารกรุงเทพ เรียบร้อยแล้วครับ

 

กราบโมทนาเป็นอย่างยิ่งๆครับ สาธุๆๆ

 

ได้ร่วมทำบุญถวายทองจังโก้ปิดองค์พระธาตุ 100 บาท โอนแล้ววันนี้ เวลา 18.29 น.ครับ

 

กราบโมทนาเป็นอย่างยิ่งๆครับ สาธุๆๆ

 

ขอกราบโมทนากับคุณอุทัยทิพย์ และครอบครัวร่วมถวายทองคำพระเจดีย์ 1000บาท สาธุๆๆอานุโมทามิ

 

ผม ครอบครัว และเพื่อนๆ ได้โอนเงินเข้าไปร่วมบุญเป็นเจ้าภาพร่วม

1. พิธียกถวายตุงแก้วสุริยันจันทราเงิน-ทอง๑๐๘คู่ ณ. พระมหาเจดีย์ชเวดากอง ประเทศพม่าจำนวน 450 บาท
2. ถวายทองจังโก้หุ้มพระมหาเจดีย์ชเวดากอง จำนวน 450 บาท

รวมยอดโอนร่วมบุญ 900 บาท ครับ รายละเอียดตามแนบ

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ

 

ขอกราบโมทนาเป็นอย่างยิ่งๆครับ สาธุๆๆ

 

ตุงสวยสดงดงามมากๆๆครับ วันพรุ่งนี้จะนำมาให้ชมกันครับ งานนี้ช่างเหนื่อยเพราะเป็นงานจุกจิกมากๆโตให้ช่างเสริมอุบะใบโพธิ์เป็นเส้นๆซ้ายขวา ให้เหมือนตุงสวรรค์ในวรรณคดี เวลาโดนลมจะไหวตามตุง เหมือนภาพวาดตุงรับเสด็จองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเวลาเสด็จกลับจากสวรรค์ชั้นดาวดึง สาธุๆๆ

 

ขอกราบโมทนาเป็นอย่างยิ่งๆครับ สาธุๆๆอานุโมทามิ

 

ขอกราบโมทนากับคุณน.ท.ดร.ก้องเกียรติ บูรณศรี , นางกัญญธร บูรณศรี, ดช.ศุภกร บูรณศรี ,นางนิตยา บูรณศรี ,นางเกษมศรี ฟองวัฒนากุล, นายกุลพล ฟองวัฒนากุล, นางซิวเค้ง แซ่เอ็ก, นายเฉลิมเกียรติ บูรณศรี. เป็นอย่างยิ่งๆครับ. สาธุๆๆ

 

กราบโมทนากับคุณฉัตร์ฐิตา-ศศินันท์ โรจนศิรเกียรติ กิ่งกมล ศรีหิรัญและครอบครัว เป้นอย่างยิ่งๆครับ สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าภาพตุงดอกบัว

 

คุณบาสร่วมถวายทอง200บ สาธุ สาธุ สาธุ อานุโมทามิ

 

ผม ได้โอนเงินร่วมบุญเป็นเจ้าภาพร่วม

1. พิธียกถวายตุงแก้วสุริยันจันทราเงิน-ทอง ณ. พระมหาเจดีย์ชเวดากอง ประเทศพม่าจำนวน 100 บาท
2. ถวายทองจังโก้หุ้มพระมหาเจดีย์ชเวดากอง จำนวน 100 บาท

รวมยอดโอนร่วมบุญ 200 บาท ครับ โอน
เมื่อวันที่ 30-09-2016 เวลา 06:48:05 น.

 

กราบโมทนาเป็นอย่างยิ่งๆครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

กราบโมทนากับ ผศ.สุกัญญา รุ่งทองใบสุรีย์ ร่วมถวายทองจังโก้1000บาท สาธุๆๆอานุโมทามิ

 

กราบโมทนากับคุณเจียบและครอบครัว ร่วมถวายทองจังโก้2000บาท สาธุๆๆอานุโมทามิ

 

ยอดรวมทองจังโก้ได้10500บาท กราบโมทนากับญาติธรรมทุกๆท่าน สาธุๆๆอานุโมทามิ วันที่5นี้ก็จะเดินทางแล้วครับ สาธุๆๆ

 

สาธุฯ

 

สวัสดีญาติธรรมทุกๆท่าน เมื่อวานพึ่งเดินทางกลับมาถึงไทยตอนบ่ายๆ

วันนี้จะมาเล่าประสบการที่ได้เดินทางไปประเทศพม่าเป็นครั้งแรกเพื่อถวายตุงสุริยัน-จันทรา

ที่พระบรมธาตุเจดีย์ชเวดากอง

โตรู้สึกว่าการมาแสวงบุญครั้งนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเลย

ตั้งแต่ก่อนเดินทางตอนยื่นหนังสือเดินทาง ก็เกิดเรื่องช็อก เพราะว่าทางสายการบินไม่อนุญาตให้เดินทาง

เหตุเพราะหนังสือเดินทางใกล้หมดอายุ เหลืออีกไม่ถึง6เดือน จำเป็นต้องไปทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่(ตอนนั้นแทบเป็นลม) โตจึงจำเป็นต้องทิ้งตั๋วขาออก เพื่อไปแจ้งวัฒนะ เพื่อทำหนังสือเดินทางแร่งด่วน โดยซื้อตั๋วใหม่เลื่อนไปตอนเย็นของวันนั้น


พอถึงประเทศพม่าไปรับสัมภาระเห็นที่กล่องเขียนว่า”check”หัวใจหล่นไปที่ตาตุ่ม ใจไม่ดีละ เวลาจะออกมาจาก ต.ม โดนเรียกตรวจสัมภาระจริงๆ ทางเจ้าหน้าที่เปิดกล่องตุงออกดู

แล้วถามว่า....ไอ้นี่ราคาเท่าไหล่ และนำมาทำอะไร? ตอนนั้นในใจ(โกรธ)มาก เพราะเหนื่อยมาทั้งวันแล้วยังจะต้องมาประสบเหตุแบบนี้อีก ตอนนั้นรวบรวมสติไม่ให้แตก แล้วตอบไปว่า...

เอามาถวายพระมหาเจดีย์ชเวดากอง เจ้าหน้าที่ถามย้ำอีกว่า...ราคาเท่าไหล่ต่อชิ้น? พอถามแบบนี้สติเริ่มแตก วิญญาณปีศาจเริ่มเข้าเพราะฟิวขาดแล้ว เลยสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่กลับไปบ้าง โตถามไปว่า....”พระเจดีย์ของประเทศคุณราคาเท่าไหล่?” เจ้าหน้าที่นิ่ง โตถามย้ำอีกๆ แล้วบอกไปว่า...”

ตัวคุณเองยังตีราคาพระเจดีย์ของคุณไม่ได้เลย แล้วฉันจะตีราคาวัตถุทานที่มาจากความศรัทธาจากประชาชนชาวไทยที่เค้ามีต่อพระมหาเจดีย์ชเวดากองได้อย่างไร”
พูดจบเจ้าหน้าที่รีบเอาสก๊อดเทปมาแปะที่ปากกล่องเหมือนเดิมแล้วพูดว่า ...ขอโทษ

แต่เพราะกล่องใบใหญ่มากและหนักมาก เลยเรียกให้เจ้าหน้าที่ท่านนั้นแบกกล่องมาให้บนพื้น เค้าก็เมตตาทำตามแต่โดยดี ก็เป็นอันจบกันไป เนื่อยยยเหนื่อย หลังจากที่ออกมาแล้วก็เดินทางไปที่เจดีย์ชเวดากองเพื่อนำตุงทั้งหมดไปเก็บและไปพบเจ้าหน้าที่ระดับสูง เพื่อทำความรู้จัก ทุกๆท่านเมตตายิ้มแย้มแจ่มใส และพาไปกราบไหว้รอบๆพระมหาเจดีย์ ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นมาก และเริงร่าได้เหมือนเดิม กว่าจะกลับเข้าพักโรงแรมเกือบๆเที่ยงคืน หัวถึงหมอนสรบเลย
พอถึงวันถวายตุงตื่นแต้นมากๆ ก่อนเวลาเดินทางไปที่ชเวดากอง เป็นเวลาที่ญาติธรรมเริ่มเดินทางมากันแล้ว แต่อยู่คนละโรงแรม พร้อมเดินทางไปมหาเจดีย์ชเวดากองเพื่อร่วมพิธีถวายตุง พอถึงเวลา4โมงกว่าๆ ทุกๆท่านมากันพร้อมหน้า ต่างตื่นแต้นปิติยินดี ทั้งๆที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน ทุกๆคนยิ้มแย้มแจ่มใสทักทายกัน พอจัดโต๊ะเสร็จก็เชิญผู้อาวุโสทั้งหลายเป็นตัวแท่นทุกๆท่านไปจุดธูปจุดเทียน แล้วจึงเปิดเสียง(บวงสรวง)ท่านเจ้าคุณพระราชพรหมยาน และร่วมสวดมนต์กล่าวคำถวายตุงโดยพร้อมเพียงกัน
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ระดับสูงเป็นตัวแทนมหาเจดีย์ออกมารับตุง

โดยมีพี่ๆและท่านอาวุโสทั้งหลายเป็นตัวแทนมอบตุงให้พระมหาเจดีย์ไว้ใช้ในพิธีสำคัญๆที่จะมาถึง งานบุญครั้งนี้ผ่านพ้นไปด้วยดี และสมความปารถนาทุกๆประการ ทุกๆท่านที่มาร่วมบุญต่างชื่นชมยินดีว่าตุงนั้นสวนงามมาก โดดเด่นไม่เหมือนที่ไหน โตรู้สึกปราบปลื่มปิติและสุขใจเป็นอย่างยิ่งๆที่ พวกเราทุกๆคนสามารถทำได้สำร็จเป็นเจ้าแรกที่ได้นำตุงมาถวายที่ชเวดากอง สมดังหวังแล้วอย่างที่ได้ตั้งใจเอาไว้ทุกๆประการณ์ หลายๆท่านถามโตว่าทำได้ยังไงและทำไมถึงกล้าแบบนี้ โตบอกไปว่า...

”เรามาด้วยความเคารพในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระรัตนตรัย ถ้าเรามีศรัทธา เราทำได้ทุกอย่าง....”


สาธุ อนุโมทามิ[/SIZE]

 

พอวันที่2 ก็ได้ไปถวายตุงที่พระมหาเจดีย์โบตาทาวน์ หรือวัดเทพทันใจเทพกระซิบ ไปถึงไปติดต่อเจ้าหน้าที่เป็นหนุ่มหน้าเหมือนคุณป๋อ ณัฐวุฒิ ไปถึงบอกว่าจะเอาตุงมาถวายพระเจดีย์ ทางโบตาทาวน์บอกคุณต้องซื้อตั๋ว12000ks เลยบอกน้องเค้าไปว่าใจเย็นๆ แล้วให้พาไปหาผู้อำนวยการ พอผู้ใหญ่ทราบเรื่องแกทำเป็นถามโน้นถามนี่ ลำคาญ เลยบอกแกไปว่าคู่และ(4000บาทไทย) "บางทีทำหวานๆไม่ได้ต้องตามสถานการณ์ ตามน้ำ" แล้วสำทับไปว่า นำไปติดที่เสาหน้าวิหารถ้าไม่สวยก็ดึงออกทิ้งไป ที่พูดไปอย่างนั้นเพราะมั่นใจว่าตุงเราสวยพอที่จะสะกดเค้าได้ พอจะเดินออกจากห้องผู้อำนวยการ โตถามว่า"ฉันต้องเสียค่าเข้าไปถวายตุงไหม? แกว่าไม่ต้อง"(นี่คือพุทธานุภาพ) พอกำลังจะเดินเข้าไปมีพนักงานที่หน้าประตูเดินมาขอถ่ายรูปตุงและมาชื่นชมตุงกันเป็นจำนวนมาก เค้าถามเป็นภาษาอังกฤษว่าทำจากอะไรทำไมถึงสวยขนาดนี้ เราเดินเข้าไปในตัวพระเจดีย์ ในใจนึกว่าคงจะได้แขวนไว้ที่เสาใดเสานึงในนี้ แต่กลับไม่ใช่ น้องที่หน้าเหมือนป๋อนำทางไปทางพระพุทธรูปทองคำศักสิทธ์ ที่อังกฤษนำกลับมาคืนพม่า ตอนนั้นขนลุกหลังเย็นวาปๆตรอดเวลา เจ้าหน้าที่ด้านในบอกว่า..."ตุงของคุณสวยเกินไปที่จะแขวนไว้ที่เสา ควรจะอยู่บนองค์พระ" ตอนนั้นพูดอะไรไม่ออกตัวชา แล้วเจ้าหน้าที่ช่วยกันปีนขึ้นไปคล้องตุงทั้งคู่ที่องค์พระ ทุกๆท่านทราบไหมทำไมการถึงกลับตาลปัตรเช่นนี้? คำตอบคือ...(ศรัทธา)ตัวเดียวจริงๆ ถ้าเรามีศรัทธาต่อพระรัตนตรัย เราจะชนะทุกๆประการณ์