ธรรมหลังกึ่งกลางพุทธกาลเป็นต้นไป เป็นธรรมบัวบาน จะเปิดเผยครั้งแรกในยุคนี้นะ

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 12 พฤษภาคม 2016.

  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ถ้าจะพิจารณารูปนาม ก็ฝึกตามลำดับโสฬสญาณ (ญาณสิบหก)
    ไม่ต้องฝึกธรรมกาย (กายานุสติปัฏฐาน)


    เป็นกรรมฐานคนละอย่างกัน
     
  2. OSR

    OSR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +107
    การพิจารณา รูป-นาม
    คือ ทั้งหมดทั้งสิ้นของ พรหมจรรย์ นะครับ
    มันคือ รุ่งอรุณแห่ง โพธิปักขยธรรม 37
    ถ้าไม่เข้าใจซะแล้วว่า กาย คืออะไร
    ก็คงไปต่ออะไรไม่ได้ครับ
     
  3. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    กรรมฐานมีหลายกอง
    ถ้าปฏิบัติสับสน จะเอาหลายๆ กองมาผสมกัน


    ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อการปฏิบัติ
     
  4. OSR

    OSR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +107
    ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องตอบอะไรแล้ว
    ผมเคลียร์หมดแล้วครับ ..... ขอบคุณครับ
     
  5. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    เข้ามาอ่านครับ

    กระทู้ยาวมาก อ่านไม่หมด...
     
  6. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    สรูปแล้ว ที่พูดถึงนี้ ไม่ใช่อรหันต์ แต่กำลังพูดถึงมนุษย์ปุถุชนคนมีกิเลส

    น่าแปลกดี ผมเข้ามาอ่านข้อความนี้ในช่วงก่อนหนึ่งทุ่ม ก็รู้สึกว่าข้อความนี้เป็นปรกติ ไม่ได้แปลกอะไร

    แต่พอกลับเข้ามาอ่านใหม่หลังช่วงสองทุ่ม กลับพบว่าข้อความนี้มีพลังบางอย่างเพิ่มขึ้น

    ไม่นึกว่าคุณจขกท.จะหันมาเล่นพลังโน้มน้าวจิตใจให้ผู้อ่านเกิดความเชื่อถือเหมือนกัน

    ขอบอกเลยว่า เรื่องที่เข้าใจว่า พระอรหันต์ยังมีกิเลส จับมีดฆ่าคนนั้น เป็นมิจฉาทิฏฐินะครับ
    แต่สุดท้ายแล้ว คุณ จขกท. ก็ยอมรับออกมาเองว่า กำลังพูดถึง ปุถุชน คนมีกิเลส
    ไม่ใช่อรหันต์ ตามที่ผมเน้นตัวหนังสือสีแดงไว้ให้ดูนั่นแหละครับ

    ในพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท มีคำกล่าวว่า "พระโสดาบันไม่ล่วงละเมิดศีลแม้เพราะเหตุแห่งชีวิต"
    ข้อนี้หมายความว่า พระอริยะบุคคลตั้งแต่โสดาบันขึ้นไป แม้ถูกข่มขู่บังคับ
    ให้ทำผิดศีล ก็จะไม่ยอมทำผิดศีลเด็ด หมายความว่ายอมตายดีกว่าผิดศีลนั่่นแหละครับ
    นั่นคือ พระอริยบุคคลที่เป็นโสดาบันเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องไปพูดถึง
    พระอรหันต์อีก ว่าท่านจะจับมีดไปฆ่าคนเพราะความโกรธหรือไม่ เพราะเป็นไปไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2016
  7. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    พระยูไลก็ฆ่ามารได้นะ ฝ่ามือเดียว ตายเลย
     
  8. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    บังเอิญ พระพุทธเจ้าที่ผมนับถือ ไม่ได้ชื่อ ยูไล ซะด้วย
    พระพุทธเจ้าที่ผมนับถือ ท่านนิพพานแล้ว ดับสนิทแล้ว ไม่เหลือความเป็นตัวตนอีกต่อไป ท่านไม่มีเบญจขันธ์ หรืออะไรที่จะมาไล่ฆ่ามารได้หรอก
     
  9. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    คงจะดูหนังมากไปน่ะนะ ดูไซอิ๋ว
     
  10. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ธรรมสายสาวกยานจะเป็นแบบนั้นแหละ
    อะไรที่ดูมากไป เขาจะปิดไว้ ยังไม่เปิดเผย
    แต่พอเข้ากึ่งกลางพุทธกาล ก็จะเปิดเผยแล้วครับ


    ถามว่าทำไมเขาไม่เปิดเผยละ?
    ตอบง่ายๆ มันไม่เข้ากับจริตของพวกสาวกยานไงครับ
    พูดไปก็จะกลายเป็นเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันไปเปล่าๆ เลยไม่พูดหน่ะครับ


    อย่างพระมหากัสสปะเอง ท่านก็ทำสังคายนาโดย "พละการณ์"
    ถามว่าทุกอย่าง perfect ไม่มีความผิดพลาดเลยหรือ? ไม่จริงหรอก
    ตอนนั้น "พระมหาปุราณะกับบริวาร 500 รูป ไม่เห็นด้วยก็แยกตัวออกไป"
    เมื่อสงฆ์แยกเป็นสองกลุ่ม แล้วถือพระธรรมหรือพระวินัยต่างกันก็เรียกว่าสังฆเภท
    ท่านรู้ตัวนะว่าได้ทำกรรมใหญ่แล้ว ท่านก็ปวารณาความผิดตัวเอง ก็พร้อมรับกรรมครับ
     
  11. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ปฐมสังคายนาก็คือปฐมสังฆเภทน่ะละฮะ ทั่นผู้ชม!
     
  12. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    มหายานนี้มันเกิดหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานนับพันปีแล้ว
    มีการสร้างพระพุทธเจ้าปางต่างๆ เช่น พระอามิตตาภะพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ปางต่างๆ ขึ้นมาเพื่อแข่งกับเทพของฮินดู ภายหลังจากที่พราหมณ์
    กลายเป็นฮินดูไปแล้ว
    พระพุทธเจ้าปางต่างของมหายาน ไม่ว่าจะเป็น อามิตตาภะ ไวโรจนะ อักโษภยะ
    หรือพระโพธิสัตว์อีกนับหมื่นนับแสนองค์(ยกเว้นพระศรีอาริย์)
    ล้วนแต่เป็นพวกที่ถูกแต่งเติมเสริมขึ้นทั้งนั้น จัดเป็นพวกเงา ที่ไม่เคยมีตัวตนอยู่บนโลก
    พระพุทธเจ้าที่มีตัวตนอยู่จริง ตรัสรู้จริง ก็คือ พระพุทธเจ้าโคดม หรือนามเดิมว่า
    เจ้าชายสิทธัตถะ ที่เป็นผู้ให้กำเนิดพระพุทธศาสนา
    ผมบูชาแต่พระพุทธเจ้าโคดม หรือนามเดิมว่าสิทธัตถะเท่านั้น
    ส่วนใครจะบูชา พระพุทธเจ้าที่เป็นเงา ที่มนุษย์ยังมีกิเลสเขียนแต่งสมมุติขึ้น
    ก็ตามใจ แต่ผมไม่เอาด้วย

    การกล่าวหาท่านพระมหากัสปะ ก็ถือเป็นความอกตัญญู
    ถามว่า พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้วกี่ปี จึงเกิดมหายานขึ้น
    ถ้าสมมุติว่าไม่มีปฐมสังคายนา ป่านนี้พระพุทธศานาคงสูญไปจากโลก
    ไปนานแล้ว
    ดังนั้นคนที่กล่าวว่า ปฐมสังคายนาคือปฐมสังฆเภท จึงเป็นพวกอกตัญญูไม่รู้คุณคน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2016
  13. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    คนๆนี้มันยากจะเยียวยา
    เมื่อสองสามวันก่อน โดนวรณ์นิ ยั่วจนปรี๊ดแตก
    ยังมีหน้าออกมาบอกคนอื่นว่า ไม่ต้องไปทดสอบว่าตัวเองเป็นอรหันต์หรือไม่
    หน้าอย่างคุณ ไม่มีใครเขาหลงคิดว่าเป็นอรหันต์หรอก เพราะคุณสมบัติยังไม่ถึง
    แม้แต่กัลยาณปุถุชน จะมีคุณสมบัติเป็นได้หรือเปล่า ยังน่าสงสัยอยู่เลย
    น่าสงสาร คนทีมาเสียเวลาหลงอ่าน หลงชื่นชมกระทู้แบบนี้
    เพราะเจ้าของกระทู้มันพวกเผยแพร่ความเห็นมิจฉาทิฏฐิชัดๆ
     
  14. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ฝากถึงคุณ Neoworld ตามที่เคยบอกว่า ถ้ากระทู้ไหนที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ ก็ให้ผมส่งเสียงกระแอมกระไอบอกให้ทราบด้วย ตอนนี้ก็ส่งสัญญาณแล้วนะครับ
    ส่วนคุณ Neoworld จะทำตามที่เคยพูดไว้หรือไม่ ผมกำลังรอดูอยู่ครับ...
     
  15. OSR

    OSR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +107
    กลัวคนเข้าใจผิดว่า ผมเคลิ้มออกทะเลไปกับ จขกท
    ไม่ไช่นะครับ ผมไม่เห็นด้วย แบบ ขาวเป็นดำ หน้ามือเป็นหลังตีน
    ขออภัยที่ใช้คำไม่ค่อยสุภาพ เคลียร์แล้ว ในความหมายของผม
    คือ จขกท. เอาแต่เล่านิทาน ผมเลยหมดความสนใจ ครับ
    ผมชักเห็นด้วยกับ คุณวรณ์นิ แล้วล่ะซิ ... อิอิ
     
  16. OSR

    OSR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +107
    ผมเป็นคนประเภท ถ้าไม่มั่นใจอะไร ก็จะเงียบไว้ก่อน
    แต่เล่นมั่วนิ่มแบบนี้ ไม่ไหวครับ น่าเกลียด + น่ากลัว ครับ
    น่าเกลียด เพราะ จับแพะชนควาย เอ้ย จับแพะชนแกะตัวเบอเร่อ
    น่ากลัว เพราะ จขกท.มีคนติดตามดูกันเยอะ แสดงความเห็นแบบนี้
    ผมกลัวแทน กลัว กระทู้ของท่าน จะถูกสังคายนาไปด้วยน่ะสิ อิอิ...
     
  17. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ถ้าหาก Frozen flower ใช้คำศัพท์ว่า" แตกแยก"
    แทน " สังฆเภท"
    ข้อความที่ได้จะเป็น " การปฐมสังคายนาคือความแตกของ
    หมู่สงฆ์ครั้งแรก "
    จะมีใครตื่นตระหนกอยู่อีกบ้างครับ
    ลุงแมวมีความรู้แค่นี้ จึงพูดไกลกว่านี้ไม่ได้ครับ
     
  18. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    อรหันต์ทำผิดไม่ได้หรือไง?
     
  19. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    กรรมฐานในพุทธศาสนาคืออะไร?


    กรรมฐานไม่ใช่พระอภิธรรม ไม่ใช่สัจธรรมนะ อย่าเข้าใจผิด เป็นแค่อุบายคลายความเคยชิน ติดยึดของจิต กล่าวคือ คนเราเคยทำอะไรมายาวนานแล้วติดชิน แก้ได้ยาก เขาก็ใช้กรรมฐานเป็นอุบายให้จิตมันคลายออกจากความเคยชิน ความยึดมั่นแค่นั้น ไม่ใช่จะให้ไปยึดเป็นจริงเป็นจังอะไร เช่น พระสาวกรูปหนึ่งมีราคะจริตติดชินมานาน พระสมณโคดมจึงให้ไปเพ่งดอกบัวทอง แล้วทำอุบายให้ดอกบัวนั้น "เหี่ยวลง" ขณะกำลังมีสมาธิ จึงเห็นอนิจจัง เห็นไตรลักษณ์ แล้วจึงบรรลุธรรมได้ กรรมฐานนั้นเหมือนนิ้วที่ชี้ดวงจันทร์จะไปยึดถือว่านี่คือดวงจันทร์ไม่ได้ แต่อาศัยเป็นอุบายในการไปถึงสัจธรรมนั้นได้

    กรรมฐานมีหลายแบบหลายกองเพราะคนเรามีจริตวิสัยความเคยชิน ทำมาต่างกัน เมื่อจะออกอุบายให้จิตของเขาคลายออกจากความเคยชิน หลงยึดถือนั้น จึงแตกต่างกันไป ทำให้มีกรรมฐานหลายกอง แต่เราจะไปยึดเป็นสัจธรรมไม่ได้ เช่น อุบายที่ให้มองทุกอย่างเป็น "ความว่างเปล่า" ในอภิธรรม ไม่ได้บอกว่าทุกอย่างเป็นความว่างเปล่านะ เขาเรียกความว่างเปล่าว่า "อากาสธาตุ" ซึ่งธาตุนั้นมีหลายชนิด เช่น ธาตุดิน (ปฐวีธาตุ), ธาตุน้ำ (อาโปธาตุ), ธาตุลม (วาโยธาตุ), ธาตุไฟ (เตโชธาตุ), ธาตุวิญญาณ (วิญญาณธา่ตุ), ธาตุจิต (มโนธาตุ), ธาตุความว่าง (อากาสธาตุ) ฯลฯ เห็นไหม เมื่อพิจารณาธาตุแล้ว เราจะเห็นสรรพสิ่งประกอบด้วยธาตุหลายชนิดมาประชุมกัน หนึ่งในธาตุเหล่านั้นคือ "ธาตุความว่าง" (อากาสธาตุ) แต่ไม่ใช่หมายถึงทุกอย่างเป็นความว่าง ความว่างเป็นหนึ่งในธาตุหลายชนิดที่เข้ามาประชุมกันเป็น "รูป" เป็นสรรพสิ่งเท่านั้นเอง แต่ในปรัชญาปารมิตาสูตรนั้น เขาใช้ "ความว่างเปล่า" เป็นอุบายคลายความยึดติด ความเคยชินของจิต ที่ยึดติด "รูป" เท่านั้น เลยบอกว่า "รูปคือความว่าง ความว่างก็คือรูป" นี่คืออุบาย อย่าไปยึดเป็นสัจธรรม และยิ่งไม่ตรงกับพระอภิธรรม ที่แสดงธาตุต่างๆ หลายชนิด ไม่ได้มีแต่ความว่างเปล่า หรืออากาสธาตุตามปรัชญาปารมิตสูตรเลย

    หากเราไปยึดเอากรรมฐานเป็นพระอภิธรรม จะเกิด "สัญญาวิปลาส" ได้ หากเราไปยึดกรรมฐานเป็นสัจธรรม ก็จะเกิด "ทิฏฐิวิปลาส" เช่นกัน เพราะกรรมฐานไม่ใช่อภิธรรม ไม่ใช่สัจธรรม เป็นแค่อุบายคลายความยึดมั่น ติดชินของจิตเท่านั้นเอง เช่น อุบายให้เพ่งน้ำ เพื่อให้จิตสงบเย็น นี่เป็นแค่อุบายเฉยๆ จะไปยึดถือจริงจังไม่ได้ และแต่ละกรรมฐานก็มีอุบายไม่เหมือนกัน "เอามาปนกันไม่ได้" หลายคนชอบไป "ผสมมั่ว ยำเละ" เช่น เอาอะไรมากมายเลอะเทอะ เข้าไปใส่ไว้ใน "กายานุสติปัฏฐาน" บางคนเอาอศุภพกรรมฐานใส่เข้าไปด้วย ก็เลยเลอะเทอะไปใหญ่ อีกประการ กรรมฐานของพุทธศาสนา ไม่ใช่ "สมาธิแบบพราหมณ์" ของพุทธเป็นแค่อุบายทำให้เกิดสติปัญญา ก็จบแล้ว ของพราหมณ์เป็นสมาธิแบบหวังผล ได้ผลเป็นฌาน, ญาณจริง อย่างพระสมณโคดมตอนเรียนกับอาจารย์ที่สอนรูปฌาน อรูปฌาน ก็สำเร็จผล ได้ฌานครบเลย ไม่ใช่อุบายหลอกล่อเฉยๆ นะ

    กรรมฐานพุทธต่างจากพราหมณ์ ศาสดาจึงต้องแยกเป็นศาสนาใหม่
     
  20. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    กระแอมแบบนี้พลังไม่พอครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...