ธรรมหลังกึ่งกลางพุทธกาลเป็นต้นไป เป็นธรรมบัวบาน จะเปิดเผยครั้งแรกในยุคนี้นะ

มันไม่เกี่ยวกับท่านหรอกนะคะท่านดอกไม้...เพราะเราไม่เคยรู้จักกัน

 

มันพังอย่างไรค่ะ ก็ในเมื่อความจริงก็พิสูจน์กันได้อยู่ ทุกคนก็มีหน้าที่ของตนเองไป แล้วมันพังอย่างไร

 

ที่มันพังเพราะคนไม่ยอมรับความจริงต่างหากล่ะค่ะ

หรือไม่พังก็เพราะอคติของคน ทั้งที่จริงระบบมันยังเดินได้อยู่และดีเสียอีกด้วยซ้ำไป

 

แล้วเหตุผลของการพังนั่นคืออะไร ถ้าไม่ใช่การขัดแข้งขัดขากัน

ทำไมเราไม่คิดว่า หน้าที่แต่ละอย่างมันประสานสัมพันธ์กันได้

คนเรายึดติดว่าใคร แต่กลับไม่มองถึงลักษณะมันเป็นอย่างไร

ทุกอย่างย่อมมีความแตกต่าง แต่ความแตกต่างมันย่อมมีความลงตัวได้

แต่ที่มันลงตัวไม่ได้ เพราะกิเลสของคนอย่างเดียวเท่านั้นจริง ๆ ค่ะ

 

ระบบที่มันยังดีอยู่ได้ก็เพราะมีคนดูแลรักษาระบบไงครับ ในธรรมชาติไม่มีคนทำหน้าที่ดูแลมันจะเหลืออะไรละครับ
ความจริงของท่านก็คือ สร้าง รักษา ทำลาย ล้วนไม่มีก็ไม่บังคับความเชื่อใครครับ

 

ก็หลายอย่างมันไม่ธรรมดาไงครับ ลองใช้ชีวิตแบบปรกติธรรมดา มีความสุขแบบธรรมดา ทำหน้าที่ที่ตัวเองควรทำ แบบท่านกระตายนั่นก็ดีสุดๆแล้ว ทุกอย่างมันก็ไหลของมันเองอยู่แล้วครับ

 

ก็สร้าง รักษา และ ทำลาย นั่นแหละค่ะ คือ กฏเกณฑ์ของสากลจักรวาล

ทุกสรรพสิ่งไม่สิ่งนั้นจะเป็นอะไร อยู่ในที่ไหน แม้แต่ตัวเราเอง ทุกคนต่างก็ต้องล้วนตกอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์เหล่านี้ทั้งนั้นค่ะ

แต่การทำลายนั้น ก็คือ การดับไป เมื่อมันเสียสมดุลก็ต้องสร้างใหม่

และการทำลายอีกประการหนึ่ง จากที่มันสมดุลดีแล้ว ก็ทำลายให้มันเสียสมดุลไปอย่างงั้นแหละ

ของท่านเป็นกรณีแบบไหนค่ะ

 

เป็นมนุษย์เข้าใจถึงความเป็นมนุษย์ทำหน้าที่อันประเสริฐของความเป็นมนุษย์ เมื่อเข้าใจถึงหน้าที่ความเป็นธรรมดาแล้วจะมาช่วยงานก็ไม่ว่ากัน มนุษย์ทำได้ดังนี้ความเป็นโพธิจะได้ไม่ต้องเกิด ไม่ต้องเสียสละอันใดอีกต่อไป ทุกฝ่ายก็อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
และเมื่อใดที่ความไม่ธรรมดามีมากเกินไปรักษาไม่ได้แล้ว การทำลายถือเป็นสิทธิ์ขาดบางท่านก็ถูกนำไปเก็บ บางท่านก็หมดโอกาสทั้งปวงครับ หรือถ้าเกินเยียวยาแล้วก็กดปุ่มรีเซตครับเริ่มใหม่หมดทุกอย่าง

 

เขียน ๑๕.๑๙

ลองคำแนะนำจากคนไม่รู้จริงไม๊ล่ะ เราใช้เองได้ผลนะ เนอะ

๑. ช่างหัวมัน อันนี้ง่ายสุด แต่กว่าจะใช้ได้ ก็ต้องฝึกฝนแยะนะ

๒. แยกตัวรู้ กะสิ่งที่ถูกรู้ อันนี้ใช้ตอนที่เกิดความรู้สึกไม่ดี ไม่สงบ กระทบใจ
ถ้าทำได้และใช้เป็น ก็จะแยกเวทนาของเราออกจากสถานการณ์ได้
แยกตัวเรา ออกจากผัสสะ ที่เป็นเหตุแห่งเวทนา มีผลให้เกิดตัณหา
เกิดความอยากความชอบ หรือความไม่ชอบ ก็เกิดแถวเนี้ยแหละ
เมื่อแยกมันออกจากกันได้ มันก็ไม่สปาร์ค ปฏิจจะไม่ครบวงจรน่ะ

๓. ใช้อานาปา กระบวนท่าที่สาม คือเวทนานุปัสนากรรมฐาน
ถ้าฝึกได้ถึงหมวดนี้ ก็จะสามารถควบคุมความรู้สึกได้โดยสมบูรณ์
ถ้าเก่งแล้วนะ จะสามารถทำตัวให้เป็นคนตายด้านได้ แบบไร้อารมณ์
แต่ก็ต้องผ่านหมวดหนึ่งและสองก่อน ไม่ยากมั้ง เราฝึกสองปีกว่าเองอ่ะ


เราควบคุมโลกไม่ได้ แต่เราควบคุมโลกได้นะ ด้วยเซ็น
งงมะ ถ้างง ก็ต้องไปหาเซ็นมาอ่าน จะได้งงมากขึ้น
มากขึ้น มากขึ้น จนเบื่อ ไม่อยากงง จนเลิกงง

ท่านจิตแย้ม ดูเหมือนจะเก่งทฤษฎี ไม่รู้ภาคปฏิบัติเป็นไงนะ เนอะ
แต่ถ้ามารำพึงรำพันแบบหมดท่าเช่นนี้ ก็เดาเอา ว่าอานาปายังอ่อน
วิถีแห่งธรรม ถ้าอานาปาอ่อนล่ะก็จบกัน ไปไม่ได้ถึงไหนหรอกมั้ง นะ
หรืออาจอยู่ในช่วงอ่อนแอ เลยหลุดเพ้อเจ้อ เก็บอาการไม่อยู่ออกมาน่ะ
เสียฟอร์มที่เคยโม้ใหญ่โม้โตไว้มากมายเลยอ่ะ เชี่ยวระดับจักรวาล แล้วไง

ขอมอบอาวุธหนักของเราให้ซักชุดละกันนะ
ไปหาโหลดอานาปาของท่านพุทธทาส
ชุดที่มีสิบม้วนนะ แล้วฟังมันเข้าไป
ให้มันเข้าไป ให้ถึงจิต จนฝังใจ
ไม่ยากหรอก แค่ฟังด้วยสติ
แล้วจิตใต้สำนึกจะจัดให้


แล้วท่านจะไม่ต้องเจออย่างนี้เรื่อยไป
จักรู้จักจบสิ้นได้ ด้วยเวทนานุปัสนา


กระต่ายป่า แห่งเกาะนาฬิเกร์ / เหล่าเต้บในสวน
.

 

มันอาจเป็นคำเตือน
แต่เพราะใจเราไม่ยอมรับฟังใคร
เลยมองว่าคนอื่นมีอคติต่อเรา ก็ได้นะครับ

 

ขอบคุณค่ะ เพียงต้องการบอกคนบางคน หรือ บางกลุ่มไม่รู้บอกอย่างไร ทุกอย่างเดินไปได้ด้วยใดี ใจนั้นต้องปราศจากอคติ จากที่ท่านกล่าวจะลองดูค่ะ เราควบคุมโลกให้เป็นไปอย่างที่ใจเราต้องการไม่ได้ เราควบคุมความคิดคนอื่นไม่ได้ แต่เราควบคุมตัวเราเองได้ ขอบคุณมากๆ ค่ะ

คนมีนานาชนิดหลากหลายสารพันความคิดความต้องการ นั้นคงไม่เรียกว่าโลก ก็ต้องเรียนรู้เรื่องคนอีกมาก อธิษฐานจากความจริงใจทีเรามีต่อทุกคน ขอให้เราได้พบคนจริงใจต่อเรามั้ง ชาติทีผ่านมาหรือชาติไหน ๆ เราอาจเคยทำใครไว้ก็ได้มั้งค่ะ ไม่รู้กรรมหรือว่าเป็นโลกธรรม ขอบคุณค่ะ

 

คนมีปัญญาย่อมมีเหตุและผลค่ะ

คำเตือนนั้นต้องมีเหตุผล

แต่ถ้าเตือนเตือนแบบไหน

เตือนโดยอคติให้มีเหตุผลดีอย่างไร

มันก็ไม่ตรงค่ะ

 

พูดกันตรงๆ นะคะ สิ่งที่ jityim นำข้อมูลที่ได้รู้ทั้งหมดมาโพสลงในเว็บพลังจิต ผิดตรงไหนหรือค่ะ

 

ต่างคน ก็คิดว่าตัวเองถูกกันทั้งนั้นหละ

 

อ้างอิงท่าน frozen flower

ไม่เป็นไรครับ

เพียงแต่สิ่งที่ผมเห็นคือ ไม่มีใครไม่อยากทำงาน
มีแต่ "คนห่วย" มาแย่ง มาปล้นคนอื่น แย่งผลงานเขาไป
แล้วก็ทำห่วยแตกเสียเอง ใครว่าใครเตือนก็ไม่รู้จักฟัง ดื้อไปวันๆ

คนที่ไม่ทำงาน ไม่มีหรอกครับ

**********
อ้างอิง frozen flower

มันอาจเป็นคำเตือน
แต่เพราะใจเราไม่ยอมรับฟังใคร
เลยมองว่าคนอื่นมีอคติต่อเรา ก็ได้นะครับ

***********

ท่าน frozen flower ค่ะ

สองโพสที่ยกมาข้างต้นใช่เกี่ยวกับ jityim ไหม

แล้วคำว่า "คนห่วย มาแย่ง มาปล้นคนอื่น แย่งผลงานเขาไป
แล้วก็ทำห่วยแตกเสียเอง ใครว่าใครเตือนก็ไม่รู้จักฟัง"

ถ้าใช่...หมายความอย่างไร? แล้วเป็นกรณีไหนค่ะ?

 

ไม่ต้องมีปัญญามากก็ได้ครับ โง่มั่งก็ดี ชีวีสุขสันต์
ใจ=แก้ว
น้องยิ้ม เบียร์ซักแก้วมั้ยครับ ไม่ค่ะไม่ดื่มแอลกอฮอล์
น้องยิ้ม ไวน์ซักจิบไหมครับ ไม่ค่ะ เดี๋ยวหน้าแดง
น้องยิ้ม ยาพิษมั้ย ไม่ค่ะ
น้องยิ้ม น้ำกรดมั้ย ม้ายยยค่า
น้องยิ้ม เปีบซี่เย็นๆซ่าๆซักแก้วไหม อุ้ยดีจังเลยค่ะ อยากได้อะไรซ่าๆเย็นๆพอดี
แก้วนี้เป็นของเธอ เธอเลือกหรือไม่เลือกก็ได้ เอ้าดื่มมมม
ความสุขก็เป็นของเธอ เธอเลือกได้

 

อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าเกี่ยวกับใครไหม ทำหน้าที่ส่งผ่านข้อมูลเฉยๆ คับ

 

แล้วส่งเพื่ออะไรค่ะ แน่ใจหรือค่ะ

 

ท่านเคยเห็นสภาวะธรรมสูงสุดระดับจักรวาลกี่ครั้งค่ะ

 

ท่านไม่ได้มีอคติเพราะรักผู้หญิงคนหนึ่งแล้วคิดว่าดิฉันไปแย่งเขาทำหน้าที่นี้่ใช่ไหมค่ะ ท่านดอกไม้เย็นบัวหิมะ