ธรรมหลังกึ่งกลางพุทธกาลเป็นต้นไป เป็นธรรมบัวบาน จะเปิดเผยครั้งแรกในยุคนี้นะ

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 12 พฤษภาคม 2016.

  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    ประเทศไทยเคยรักษาคนดีไว้ได้แค่ไหนละ?
     
  2. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    นั่งอ่านใหม่เพลินใจจริงๆครับสำหรับผมเหมือนกับว่า เราเรียนรู้ธรรมทุกอย่างเพื่อเป็นเราครับ ไม่ใช่เพื่อเป็นเหมือนคนอื่นไม่ใช่เพื่อเป็น พุทธะ หรือมาร หรือจิตจักรวาล ซึ่งความเป็นเรานั้นเกิดขึ้นจากการเรียนรู้ธรรมนั้นๆ เมล็ดพันธ์นั้นต่างก็งอกเงยเป็นตัวเราอยู่ที่เราเติบโตขยายไปเรื่อยๆ ธรรมใดจะโตแค่ไหนอยู่ที่เรา และเราก็ไม่ใช่ธรรมใดๆเลย แต่เราก็ยังเป็นเราครับ
     
  3. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ~ โลกแห่งรัก ~


    ความรักก็เหมือนโลกใบหนึ่ง
    มันไม่ใช่โลกแห่งความจริงและโลกแห่งความเท็จ

    บางครั้ง เราเหมือนอยู่ในความฝันมากกว่าความจริง
    เพราะความรักนำพาเราออกจากโลกแห่งความจริง

    บางครั้ง ความรักเหมือนมายาการที่ไม่อาจถือครองได้
    และยิ่งพยายามถือครอง มันก็ยิ่งจางหายไปเหมือนควัน

    ความรักแท้ไม่อาจเกิดขึ้นได้กับคนที่ไม่มี "โลกใบนั้น"
    ก็ต่อเมื่อเรามีโลกใบนั้นเต็มใบ เต็มดวง เต็มหัวใจเท่านั้น

    ความรักแท้จึงจะส่องสว่างออกมาจากโลกใบนั้นได้
    เพราะใครคนหนึ่งเข้ามาในหัวใจและจุดประกายมันขึ้น

    หากไร้ซึ่ง "โลกเต็มใบ หัวใจเต็มดวง" เราจะรักใครไม่ได้
    เพราะเราจะเต็มไปด้วยกิเลสตัณหาที่อยากเติมเต็มตัวเอง

    สิ่งที่เราไขว่คว้ามาก็เพื่อเติมเต็มความขาดหายของเรา
    และนั่นก็ไม่ใช่ "วิถีแห่งรัก" ที่บริบูรณ์อยู่แล้วโดยไม่ต้องเติม

    ในวิถีแห่งรักนั้น ไม่ใช่ทั้งโลกแห่งความจริงและความเท็จ
    แต่มันเป็นโลกอีกใบหนึ่ง ซึ่งมีทั้งความจริงและความเท็จ

    ~ บางครั้งรักกลับต้องไม่รัก และเพราะไม่รักจึงต้องรัก ~
     
  4. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ~ พระเจ้าไม่ได้สร้างคุณมาผิดที่? ~


    หลายคนคิดว่า "ขยันผิดที่ สิบปีก็ไม่รวย"
    จริงว่าอาจไม่รวยเงิน แต่อาจมั่งคั่งด้านอื่น

    ในโลกนี้ ไม่มีที่ไหนที่ผิด ดังนั้น เราจึงไม่ได้อยู่ผิดที่
    การที่เราไม่ได้รวยเงิน เราอาจรวยอย่างอื่นก็ได้

    พระเจ้าไม่ได้สร้างเรามาผิดที่ ผิดทาง ผิดการกระทำ
    เราใช่ ในสิ่งที่เราเป็น เราทำ เราดำเนินอยู่นั่นแหละ

    โลกนี้ ไม่มีใครผิด ไม่มีใครหลง ทุกทางคือทางที่ใช่
    เพียงแต่ "ความหลากหลายของมนุษย์" ทำให้มีหลายทาง

    ที่เหลือก็แค่เพียง "จิตใจ" ของเราเท่านั้นที่ยังไม่ใช่
    ดังนั้น หน้าที่ของมนุษย์จึงต้อง "ยกระดับจิตใจตัวเอง"

    ให้สมกับคำกล่าวว่า "มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ ผู้มีใจสูง"
    อย่าให้จิตใจเสื่อมต่ำ ถูกโลกกลืนกินเหมือนสัตว์ตัวหนึ่ง

    จงเชื่อมั่น ในสิ่งที่เป็นอยู่แล้ว เพราะมันคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
    พระเจ้าได้มอบสิ่งที่ดีที่สุดกับคนที่เหมาะสมกับมันที่สุดแล้ว

    พระเจ้าได้ทำหน้าที่ของพระองค์สมบูรณ์ดีที่สุดแล้ว
    ที่เหลือคือ "หน้าที่ของมนุษย์" ที่จะพัฒนาจิตใจตัวเอง

    ~ ซึ่งมันจะเกิดขึ้นได้ด้วยพลังแห่งรักระดับพระเจ้านั่นเอง ~
     
  5. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ถ้าความรักเป็นเหมือนโลก มันก็เป็นไปทั้งความจริงและความเท็จเมื่อคุณเข้าไปอยู่ในนั้น
    บางครั้งเรารู้สึกเหมือนอยู่ในความจริงเพราะความรักก็ทำให้เราฝันได้
    แต่เพราะความรักทำให้เราฝันได้ เราจึงออกมาจากความจริงและความฝัน
    ถ้าคุณยังไม่เคยเติมเต็มความรักด้วยการกระทำ คุณก็ยังจะโหยหาความรักไปเรื่อย ๆ เมื่อไหร่ที่คุณรู้ว่ามันมี คุณก็สามารถใช้มันได้ ทั้งในความเป็นจริงและความฝัน และเมื่อมันเต็ม คุณก็สามารถออกมาจากทั้งความฝันและความเป็นจริง
    **** บางครั้งไม่ต้องรัก และเพราะไม่รักจึงต้องรักและรักให้มากๆ เพื่อที่เขาจะได้รัก เหมือนที่เรารัก
    พยายามจะต่อคำท่านดอกไม้ แต่รู้สึกกระท่อนกระแท่นจังเลยผิดถูกอย่างไรก็ตอบตามความเข้าใจของผมนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2016
  6. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    พระเจ้าย่อมรู้ดีว่าเราควรอยู่ที่ไหนดีที่สุดเพื่อพัฒนาตัวเอง มีแต่เราที่ไม่รู้และโวยวายไปเรื่อยเปื่อย เสียเวลาเสียโอกาสไปมากมาย ยอมรับมันซะก็จบแล้ว
     
  7. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ~ ความรักแท้จะเกิดขึ้นได้เมื่อเราเห็นแก่ตัวเป็น ~


    ความรักแท้จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเราเห็นแก่ตัว
    เราทำเพื่อตัวเราเองจริงๆ จริงใจต่อตัวเอง

    เราไม่ได้ทำเพื่อใครทั้งนั้น ไม่ได้ช่วยใครทั้งนั้น
    เราไม่ได้คิดเผื่อใครเลย เราคิดเพื่อตัวเราเองจริงๆ

    ทว่า การกระทำนั้น กลับเอื้อประโยชน์แก่ผู้อื่น
    ทว่า การกระทำนั้น กลับทำให้ผู้อื่นมีความสุข

    ทว่า ผู้อื่นกลับมองเห็นว่าเราทำเพื่อเขา เพื่อสังคม
    แท้แล้วไม่ใช่เลย เราทำเพื่อตัวเองอย่างแท้จริงต่างหาก

    เพราะเมื่อใดก็ตามที่เราเห็นแก่ตัวไม่เป็น
    เราไม่รู้ว่าตัวเราเองต้องการอะไร มีสุขกับอะไร

    คุณธรรมความดีที่ไม่แท้จริง ก็จะถูกดึงมาครอบทับ
    เพื่อกดข่มตัวตนและความต้องการที่แท้จริงของเรา

    เบื้องลึกเราก็แค่คนธรรมดาที่อ่อนแอคนหนึ่งเท่านั้น
    แต่เราอาศัยคุณธรรมความดี ครอบขันธ์ไว้แค่นั้นเอง

    ~ เช่นนี้ "รักแท้" จะเกิดขึ้นแก่เราได้อย่างไร? ~
     
  8. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ความรักที่แท้จริงเกิดขึ้นจากความเห็นแก่ตัวที่บริสุทธิ์ไม่มีสิ่งใดเจือปนเป็นความปราถนาจากในส่วนลึกของจิตใจที่ปะทุออกมาเหมือนการกำเนิดของจักรวาล พลังงานนั้นแทบจะเชื่อมต่อกับทุกมิติทะลุทะลวง จนเชื่อมต่อกับผู้ที่สามารถทำให้ความปราถนาทุกอย่างของเราเป็นจริงได้เป็นความรู้สึกที่ผู้ได้รับรู้ไม่สามารถปฏิเสธความปราถนาเราได้ ยิ่งความปราถนานั้นยิ่งใหญ่เพียงไหนยิ่งใช้พลังใจมหาศาล ความรักแบบนี้จึงเหมือนเรื่องบังเอิญเหมือนความฝัน แต่มันก็คือความจริงที่สามารถให้ทุกคนเข้าไปฝันได้
    ความรักคือปาฏิหารย์รูปแบบหนึ่งที่เกิดจากมนุษย์ธรรมดามากๆคนนึงครับ
    อันนี้ก็เป็นรูปแบบความรักแบบบิ้กแบงที่ถูกกระตุ้นจนถึงสุดของที่สุดเท่าที่สภาวะจะรับไหว
    ก็ยังมีอีกหลายรูปแบบแต่ก็เกิดจากการรักตัวเองเป็นฐานครับผม
     
  9. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    กล่าวได้ว่ามีชีวิตอยู่เพื่อเติมเต็มความปราถนาของตัวเอง เมื่อความปราถนานั้นถูกเติมเต็ม มันก็จะอิ่ม พออิ่มก็จะเริ่มแบ่งปันเพราะว่าพอแล้วจนกว่าจะมีความปราถนาใดถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครับ ตอนนี้เก็บเกี่ยวอะไรได้ก็เก็บไปครับ
     
  10. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    ความรักจะเกิดขึ้นได้ถ้ามนุษย์ยัมีความเมตตา
     
  11. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    อ่าในมุมมองของผมมองว่า ความรักจะสมบูรณ์ได้ต้องมีทั้งเมตตา และกิเลสทุกตัวครับ เช่น เพราะรักจึงเมตตา เพราะรักจึงเสียสละ เพราะรักจึงมีโทสะ เพราะรักจึงสามารถทำได้ทุกอย่าง จะให้เป็นเทพ มาร หรือเลวยังไงก็ได้ ถึงกับทำลายได้ทุกสิ่ง เพราะเมื่อไหร่ที่เราเข้าใจเราสามารถมอบความรักให้อย่างเต็มที่โดยไม่ติดอะไรเลย ท่านลองดูซิครับท่านเคยรักอะไรอย่างแท้จริงท่านจะเข้าใจเอง หรือแค่เคยรักบ้างก็จะเข้าใจบ้าง
    แค่ในมุมมองของผมนะครับ
     
  12. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    หากเราไม่ซื่อสัตย์กับกิเลสตัวเอง ศรัทธาที่แท้จริงก็จะไม่มี


    เราอยากได้ อยากมี อยากเป็น ฯลฯ อะไรจริงๆ? เคยถามตัวเองไหมครับ? เคยสำรวจตัวเองไหมครับ? ว่าสิ่งที่เราต้องการอยู่นี้ มันเป็นสิ่งที่เราต้องการจริงๆ หรือเปล่า? เช่น เราต้องการมีอาชีพนั้นจริงๆ หรือเปล่า? หรือเราแค่อยากได้เงินจากการมีอาชีพ เราเลยคิดไปว่าเราอยากเป็นอาชีพนั้นจริงๆ ถ้าอาชีพนั้นไม่มีเงินให้เราเลย เราจะอยากเป็นอยู่ไหม? หรือการที่เราอยากมีเงิน อยากรวย เราอยากได้เงินจริงๆ หรือเปล่า? หรือเราอยากได้อย่างอื่น แต่เงินซื้อมาให้เราได้ เราเลยคิดว่าเราอยากได้เงิน เราอยากรวย? จริงๆ ถ้าเราได้มันมาได้โดยไม่ต้องใช้เงินเลยละ ถ้าเราชี้นิ้วเอามาได้เลย ถามว่าเราจะอยากรวยอยู่ไหม? ถ้าเราสามารถเอาทุกอย่างได้โดยไม่ต้องใช้เงินซื้อ? บางทีเราอาจจะไม่อยากได้เงินด้วยซ้ำไป ที่พูดมานี้ อยากให้เราสำรวจพฤติกรรมตัวเองว่าเรามีพฤติกรรมแบบ conditional behavior มากน้อยแค่ไหน? (หมาน้ำลายไหลเพราะได้ยินเสียงกระดิ่ง เพราะคิดว่าอาหารจะมา)

    คนเราหากยัง "ซื่้อสัตย์ต่อตัวเอง" ไม่ได้ มันก็จะซื่อตรงต่อใครไม่ได้ และเมื่อซื่อตรงต่อใครไม่ได้ ศรัทธาที่แท้จริงก็จะไม่มีครับ เราเคยซื่อสัตย์ต่อความรู้สึก ความอยาก ความต้องการของตัวเองจริงแท้ได้ไหม หรือว่าเรากำลังหลอกตัวเองอยู่ เช่น ถ้ามีคนมายกย่องเราว่าเป็นผู้มีธรรม มาบูชาเราเหมือนครู ให้มาลิมาลัย ฯลฯ เราเลยมีความสุขจริงหรือ? หรือไม่ใช่หรอก เราไม่ได้อยากเป็นตัวตนนั้นๆ เสียหน่อย เราแค่ถูกหัวโขน ตัวตนนั้นครอบขันธ์ให้เราเป็น เราไม่ได้มีความสุขกับมันจริงๆ หรอก เราไม่ได้ว่างเปล่าด้วย เพราะเรามีตัวตนนั้นๆ ครอบอยู่ ตัวตนนั้นๆ ทำให้เราได้ ทำให้เรามี ทำให้เราเป็น อย่างนั้นอย่างนี้ เราก็คิดไปว่า "มันคือความสุขของเรา" ทว่า มันคือความสุข ความต้องการของเราจริงๆ หรือเปล่า? เหมือนเราทำงานเพื่อลูก เราต้องการทำอย่างนั้นจริงๆ น่ะหรือ? หรือจริงๆ เราไม่ได้อยากทำหรอก แต่มันจำเป็นต้องทำ หากเราซื่อสัตย์ต่อความต้องการของเราจริงๆ เราจะรู้ว่าเราอยากได้อะไรจริงๆ มันคือ กิเลสบริสุทธิ์ ที่นำทางเราไปสู่ความซื่อสัตย์ต่อตัวเราเอง ไม่หลอกตัวเอง และจะทำให้เรามี "ศรัทธา" ซืื่อสัตย์ตรงต่อธรรมได้แท้จริง จาก Inner ของเราจริงๆ ไม่ใช่การครอบงำ

    แลหาใช่ "ศรัทธาเทียมเท็จ" ที่นำพาเราให้หลงงมงายกันอยู่ทุกวันนี้
     
  13. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ~ เส้นขนานของความรักและความชอบ ~


    เมื่อใดที่เรายอมรับสิ่งที่เราไม่ชอบได้
    เมื่อนั้นแหละ เราได้รักเขาเข้าแล้ว

    เพราะความรักไม่ใช่ความชอบ
    และความชอบก็ไม่อาจเป็นความรัก

    เราไม่สามารถสร้างความรักจากความชอบได้
    เพราะความรักจะเกิดบนการยอมรับสิ่งที่เราไม่ชอบ

    หลายครั้งเราเลือกสิ่งหรือคนที่เราชอบ
    แต่สิ่งหรือคนที่เราชอบกลับไม่ทำให้เรารัก

    ความชอบเป็นเรื่องรสนิยมส่วนตัวของเรา
    แต่ความรักเป็นเรื่องที่เหนือรสนิยมของเรา

    บางครั้ง เรารักคนที่เราไม่ชอบ ที่มีสิ่งที่เราไม่ชอบ
    ความรักเปิดใจของเราให้ยอมรับสิ่งที่เราไม่ชอบนั้น

    ความรักทำให้อาณาเขตที่คับแคบในใจของเราทลายลง
    และเปิดใจของเราให้กว้างขึ้นเพื่อยอมรับสิ่งที่เราไม่ชอบ

    แล้วความเกลียดชังในใจของเราก็ถูกความรักทำลาย
    และนี่ก็คือ "หน้าที่และพลังอำนาจ" แห่งความรัก

    ~ เมืื่อนั้นอาณาจักรในหัวใจของเราก็แผ่ขยายยิ่งขึ้นเพราะความรัก ~
     
  14. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ธรรมะคือยาฝิ่น แต่ชีวิตคือความจริง!


    ชีวิตจริงๆ ของเรานี่แหละ คือ สัจธรรมความจริง คือ ธรรมะ มีสติกับชีวิตจริงก็พอ ไม่ต้องไปหาธรรมะอะไรที่ไหนหรอก เลอะเทอะ การไปหาธรรมะ ในวัดวา ในตำรา ในครูบาอาจารย์ ฯลฯ อะไร

    มันก็คือ ... "การหนีความจริง" ในอีกรูปแบบหนึ่ง

    คือ หนีความจริงโดยไปเอาธรรมะมาครอบงำตัวเอง เหมือนคนทุกข์แล้วไปเสพฝิ่นให้ลืมทุกข์ ลืมความจริง บางคนที่บ้านทะเลาะกันจะบ้านแตกละ จะหย่ากันละ แล้วมาเข้าวัด ปฏิบัติธรรม ทำเป็นพูดเรื่องธรรมะห่าเหวอะไร เรื่องนอกตัวทั้งนั้น เรีื่องจริงๆ ของมันคือ ผัวมันจะทิ้งมันแล้ว เมียมันจะไม่เอามันแล้ว มันไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง กับชีวิตจริงๆ ของมัน มันก็เสแสร้ง หลอกตัวเอง บิดเบือนตัวเอง ให้มาปฏิบัติธรรม แล้วบอกว่านั่นคือสัจธรรม นี่คือ สัจธรรมห่าเหวอัลไลของมัน ไร้สาระ ทางจิตวิทยาเขาเรียกกันว่า "พฤติกรรมเบี่ยงเบน" คือ มีทุกข์อยู่ ไม่กล้าเผชิญหน้ากับมันตรงๆ ก็เบี่ยงเบนไปพูดเรื่องธรรมะกลบเกลื่อนอะไรกันแบบนั้น มันจะเป็นธรรมะ สัจธรรมอะไรได้ยังไงกัน มันมีแต่การหลอกตัวเอง เบี่ยงเบนตัวเอง นี่แหละ เขาถึงบอกว่า "ธรรมะคือยาฝิ่น" โดยเฉพาะอีพวกครูบาอาจารย์สอนธรรมนี่นะตัวดีเลย ที่บ้านมันไม่สอนลูกมันหรอก มันสอนลูกมันไม่ได้ มันก็เก็บกด แล้วมาระบายกิเลสตัณหาความอยากสอนลูกเอากับคนอื่น มาลงที่คนอื่น โดยเฉพาะอีพวกชอบสอนเรื่องความกตัญญูนี่แหละ ประสาทแดกเยอะ จะเป็นโรคจิตกันหมดละ เพราะอะไร? เพราะมันมีปัญหาครอบครัว สอนลูกมันไม่ได้ มันก็อัดอั้น เก็บกดมาสอนเรื่องความกตัญูญูห่าเหวอะไรของมันให้คนอื่นเขาฟัง ขอโทษนะ ความกตัญญูเนี่ยมันเป็นคุณธรรมพื้นฐานทั่วไป มันไม่ใช่สัจธรรมหรืออภิธรรมในศาสนาอะไรเลย คุณเอ้ย!

    เลิกๆๆ เลิกเสพธรรมะเป็นยาฝิ่นกันได้แล้ว อยู่กับชีวิตจริงกันได้แล้ว!
     
  15. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    อ่าท่านดอกไม้เอาแบบนี้เลยเหรอครับ แบบนี้ความฝันของเขาก็แตกกระจายหายหมดซิครับ เพราะมีความฝันเขาถึงพยายามเดินมาถึงจุดๆหนึ่งได้เลยนะครับ ให้มาเจอกับความจริงไวเกินไปเดี๋ยวก็หมดแรงพอดี
     
  16. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    เพราะธรรมมะก็เป็นเรื่องธรรมดาๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากมายก็อยู่ที่คนมองเท่านั้นเอง
     
  17. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ขออนุญาติสอบถามความคิดเห็นท่านดอกไม้นะครับ สำหรับท่านมองว่านิพพานเป็นความจริงหรือความฝันครับ ถ้าเป็นธรรมที่ไม่สมควรตอบก็ผ่านไปเลยนะครับ
     
  18. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    นิพพาน ...

    เป็นธรรมพื้่นฐาน ที่จบ ที่สุดของสายสาวกยาน, ปัจเจกยาน
    ก่อนที่จะก้าวข้ามมาสู่ "โพธิยาน" จะต้องผ่านนิพพานมาก่อนครับ

    ถ้าไม่ผ่านนิพพาน ทุกอย่างก็แค่สมมุติเท่านั้นเอง
     
  19. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    .
    เขียน ๑๙.๕๐

    เห็นเค้าถาม เราถามบ้างดีกว่า แบบว่า
    "เห็นช้างขี้ ก็ให้ขี้ตามช้าง"อ่ะ
    จากบางส่วนของกลอนมนตรา
    เคยผ่านตาจากเวบนี้แหละ

    ...เมื่อผ่านพ้น พุทธะ พระพุทธ์ได้
    โยนทิ้งไป ใดพุทธ์ หยุดคิดถึง
    อรหัน ซ้ายขวา อย่าคำนึง
    เลิกคิดถึง พุทธ์ใด ไร้ราคา

    ...มนต์สรรเพ ธรรมมา และนาลัง
    เจ้าเคยฟัง จำได้ ใช่ไม๊หนา
    เลิกใส่ใจ ในธรรม อันล้ำค่า
    โยนวาจา แห่งพุทธ์ ให้หลุดลอย

    ...เมื่อเวลา ไหลเลื่อน ให้เดือนล่อง
    เมื่อเจ้าจ้อง มองใจ ให้วางเฉย
    เมื่อได้ยิน ลืมสิ้น ให้หมดเลย
    เมื่อนั้นเอย จิตว่าง ให้วางใจ

    ...ไม่ต้องคิด ฟุ้งซ่าน ร่านร้อนตน
    ไม่ดิ้นรน ร้อนเร่า เฝ้าใฝ่ฝัน
    ไม่ฟุ้งเฟ้อ เพ้อหา อะไรกัน
    ไม่เมามัน เหมือนหนึ่งบ้า เป็นน่าอาย

    ...ไม่เมาเหล้า แล้วเจ้า อย่าเมารัก
    เจ้าจงหัก ห้ามจิต คิดไถล
    ทุ่มฝึกเข้า เช้าสาย ทุกหายใจ
    แค่ฝึกไป ให้ประจำ ทุกค่ำคืน


    ท่านดอกไม้ในช่องฟรีส
    มีความเห็นใดบ้าง
    แจงหน่อยนะ


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
  20. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    มีเจตนาเต็มไปหมด

    เจตนาทิ้ง
    เจตนาวาง
    เจตนาหยุด

    ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...